บาปกรรมของคนเป็นกิ๊ก เป็นกิ๊กกันไม่มีใครรู้ใครเห็นบาปด้วยหรอ?????????

คำว่ากิ๊ก เป็นคำใหม่ที่ยังไม่มีความหมายในพจนานุกรมฉบับบัณฑิตต่างๆนะครับ

เป็นคำกระแสที่วัยรุ่น และวัยที่ชอบทำตัวมาตอแยกับวัยรุ่นทั้งหลายชอบพูดกัน

คำว่ากิ๊กหรือชู้นี้ ถ้าใครได้ทำเข้า มีโทษภัยมากมายครับ ทั้งโทษในปัจจุบัน อาจถูกฆ่า โทษในอนาคตที่ต้องตกนรก..

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังงานมากทำอะไรได้สะดวกเพราะร่างกายยังแข็งแรงดี ปากไว ใจร้อน และก็ทำตัวเป็นเด็กแนว แต่ถ้าอายุขึ้นหน้าด้วยเลขสี่ขึ้นไปเมื่อไหร่ นั่งก็บ่น ยืนก็บ่น บ่นเพราะสังขารมันจะพาตายแล้ว สังขารเริ่มไม่ไหว ...

บ่นมามากปาล์มเองพึ่ง21กว่าๆแหละครับ แต่มันจะตายก่อนคุณยายให้ได้ คุณยายปาล์มท่านจะเจ็ดสิบแล้ว ยังแข็งแรงอยู่เลย เบาหวานไม่เป็น ความดันไม่เป็น เคยเข้าโรงบาลแค่ครั้งเดียว บ่นลูกบ่นหลานได้สนุกเลย ล้อเล่นครับ วันนี้ขายหน้ายาย เพราะยายนี่แหละผมถึงได้อยู่ป่วนโลกถึงทุกวันนี้...

มาเข้าเรื่องกันครับ สาธยายขายคนไปมากต่อมาก ทุกวันนี้ สังคมมันเป็นอะไรไม่รู้ แพร่อะไรๆ ได้เร็วมาก ...

เพราะเทคโนโลยีต่างๆที่สะดวกมากๆ แค่นั่งหน้าคอมก็สามารถด่าคนได้ถึงสหรัฐอเมริกา โลกข่าวสารมันแพร่เร็ว มีเอ็มวีของดาราจะออกใหม่วันที่20 แต่วันที่10เราได้ซีดีมาครอบครอง ซะแล้ว ดังนั้นความคิดความอ่านต่างๆ จึงแพร่ได้เร็วมากๆ ส่วนใหญ่ที่แพร่เร็วก็เรื่องคาวๆของคนอื่นแหละครับ เรื่องคาวๆของดารา เรื่องคาวๆของคนดัง

หรือไม่ก็กระแสชั่วๆ อย่างกระแสของคำว่ากิ๊ก บางท่านอาจจะเถียงว่ามันชั่วยังไงหว่า ??????.....

...ก็แค่เป็นกิ๊ก แอบเป็นชู้คนอื่น ลูกเมียของเขาเรารักกัน ลูกผัวเขาเราเสนอเมื่อเขามาเจอ ก็เลยสนองปรองดองเป็นชู้กัน ฟันกันแหลกสติแตกไม่ยั้งคิด ใจวิปริตจิตปั่นป่วน ฯลฯ..

..ไม่มีใครรู้ ก็ไม่น่าผิดสิ.. ในเรื่องของตัณหาและกิเลสมนุษย์หนะมันไม่ผิดหรอกครับ เพราะเรา พูดเข้าข้างตัวเอง เพื่อให้ได้ทำชั่ว

แต่ในเรื่องของกฏแห่งกรรม มันไม่ได้เอากับเรานะครับ ทำชั่วก็ได้ชั่วปลูกถั่วจะเป็นงารึ..ก็ไม่ได้มันคนละพันธุ์กัน...

คนที่ยังไม่ได้รับฉันทามติจากผู้ปกครองทั้งปวงแล้ว(ลูกของเขาหลานของเขาเป็นต้น ...) หรือคนที่มีคู่ครองแล้ว คู่ครองเขายังหวงยังไม่หย่ากันหรือยังไม่ตายจากกันหวงแหนอยู่ เราไปมีเซ็กส์ด้วย บาปนะครับ มองในแง่ผู้หญิงก่อนนะครับ หญิงที่มีคู่หมั้นแล้ว หญิงที่มีประเพณีรักษาอยู่ ...

ประเพณีรักษาเป็นอย่างไร คือ แบบว่าหญิงที่ถือศีลแปดขึ้นไป หรือว่า ประเพณีรักษาโดยเป็น ญาติษาโลหิตกัน พี่ชายน้องสาวกัน พ่อแม่กับลูกกัน และก็หญิงที่มีผู้ปกครองอยู่ทั้งปวง เขาต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน...

ถ้าเราไปมีไรกันก่อนจะได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย บาปนะครับ ถือว่าผิดศีลข้อกาเมสุมิฉาจาร ทั้งในแง่ของพวกมีไรกันก่อนแต่ง แต่ว่าพ่อแม่ไม่รู้ด้วย บาปนะครับ

และพวกที่แต่งงานแล้วแต่สาระแนแร่ร่านไปผลาญลูกเมีย ลูกผัวของคนอื่น

ในที่นี้ขอตีกรอบผู้ปกครองพ่อแม่ต้องมีคุณธรรมด้วยนะครับ ไม่ใช่ พ่อแม่ไปขายลูก ให้พวกเสี่ยๆ สั่วๆ มันเสพกามแล้วเด็กทรมานใจ หรือไปคลุมถุงชน ในที่นี้ตีกรอบว่าผู้ปกครองต้องมีคุณธรรม ไม่ใช่จะมาเถียงปาล์มได้ว่า..อ้าว ถ้าพ่อแม่จับลูกไปแต่งกับคนที่ไม่ชอบหละ..... นี่ปาล์มโฟกัสตรงในพ่อแม่ที่มีคุณธรรมก่อนครับ...

แต่ถ้าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรู้และไม่ว่า หรืออนุญาตแล้วไม่เป็นไรครับ ดังนั้เขาจึงได้มีการแต่งงานงัยครับเพื่อเป็นการประกาศให้คนทั้งหลายรู้ว่า ผัวเมียกูนะ มึงอย่ามายุ่ง บาปนะ ทำนองนี้ครับ

แต่กระแสทุกวันนี้ บาปกินใจ ทันสมัยแต่กะโหลกหนา มีปัญญาแต่โกงกินคนอื่น
หยิบยื่นแต่ความชั่วร้ายให้สังคม ระดมแต่อบายมุขสู่ตลาด....ฯลฯ


เพราะกระแสมันพาเป็นครับ พากันชั่ว สังคมส่วนใหญ่เห็นดีงาม นักศึกษาอยู่กันตามหอพัก พ่อแม่ส่งมาเรียนหนังสือ แต่มันดันมาเรียนหนังโป๊กัน

ทั้งวัยเรียนก็ดี วัยรุ่นก็ดี นิยมมีกิ๊ก .....

และยิ่งพวกวัยชะแร แก่ชราบางจำพวก แก่แล้วไม่เจียมสังขาร ชอบมามั่ว มาเป็นกิ๊กกัน ทำให้สังคมมันเหลวแหลก เพราะผู้ใหญ่ก็เป็น คนโตก็เป็น แล้วจะให้เด็กที่มันเกิดใหม่ มากู้ชาติกู้สถานการณ์กามๆทั้งหลายที่เราๆในสังคมร่วมกันก่อโดยไม่รับผิดชอบอย่างงั้นหรือ...???????

กระผมขอยกตัวอย่างนะครับ วิบากกรรมของการเป็นกิ๊ก มาให้ดูเราๆจะได้กลัวและก็ไม่ไปทำกัน



ขอยกตัวอย่างไกล้ๆนะครับ พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ตอนพระองค์ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ บารมียังอ่อน ยังพ่ายแพ้ ต่อกิเลส และความต้องการของใจตนเองอยู่

ท่านได้ ไปละเมิด ศีลข้อสาม กาเมสุมิฉาจารเข้า ท่านต้องได้รับโทษมากมายเลยครับ ผลกรรมทำให้พระองค์ท่านเวียนว่ายในภูมิอันต่ำช้านานมากๆ ทุกทรมาน สุดๆ

ถามว่านานมั้ยครับ สมมุติให้เรา ไปยืนตากแดดตอนกลางวันแค่10 นาทีก็จะไม่ไหวแล้ว นี่พอท่านตายไปตกนรก นานแสนนาน ท่านต้องตกนรกถึง 14มหากัป หลังจากขึ้นนรกได้แล้ว เศษกรรมยังเหลือนะครับ ตามให้ผลอยู่ติดๆ ไม่ผิดเพี้ยน อปราปรเวทนียกรรม ไม่หยุดไปง่ายๆ หลังจากขึ้นจากนรกได้แล้ว

ต้องไปเกิดเป็นลา 500 ชาติ เกิดเป็นวัวอีก500ชาติ แล้วจึงถือกำเนิดเป็นคนพิการ ตาบอดหูหนวกแต่กำเนิด อีกอย่างละ500ชาติ ต่อมาก็ต้องเกิดเป็นกระเทยอีก500ชาติ แล้วจึงได้มาถือกำเนิดเป็นสตีแท้ๆ ไม่ใช่ทอมนะครับ 500ชาติ

จึงพ้นเศษกรรมทั้งหมด ดูครับว่ามันทรมานขนาดไหน แค่การเสพกามไม่กี่เท่าไหร่ แต่ต้องไปทนทุกข์ เพราะกรรมชั่วที่ตัวเองทำ มันคุ้มกันใหม

ชาติที่ครบ500ของการเกิดเป็นหญิงนั้นท่านเกิด ในราชตระกูล ชื่อเจ้าฟ้าหญิงสุมิตตาราชกุมารี เป็นน้องสาวต่างมารดาของพระพุทธเจ้าที่ทรงพระนามว่าสมเด็จพระมิ่งมงกุฏปุราณทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในการเกิดพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นคือสารกัป กัปนั้นมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว เจ้าหญิงท่านศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากทำดีมากมายเลย ...


พระพุทธองค์พระองค์นั้น มีพุทธฎีกาว่า...

.. ดูกรภิกษุ กาลข้างหน้าในอนาคตนับแต่กาลนี้ไปอีก 16 อสงไขยเศษหนึ่งแสนมหากัปจักมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าสมเด็จพระทีปังกรซึ่งเป็นนามเสมอกับด้วยเรานี้ จักเสด็จมาอุบัติในโลก
ในกาลนั้นแล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น จักได้กล่าวพยากรณ์ซึ่งพระภคินีของเรา พระน้องนางจักได้รับลัทธยาเทศในสำนักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น..


เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นช่างทอง รูปงามมากๆ ถ้ามาเกิดในสมัยนี้ดาราบางคนคงไม่ได้เกิดในวงการ


ท่านมีรูปงามมากๆ เป็นช่างทำทอง ได้มีคนมาว่าจ้างให้ไปทำทองให้กับนางสาวกาญจนวดี กาญจนวดีเป็นลูกสาวของเศรษฐีใหญ่คงจะรวยอย่างมากนะครับ สมัยนี้ก็คงจะสุดยอด แต่ไม่รู้ว่าครอบครัวของกาญจนวดีรวยมาด้วยการโกงมั้ย...

กาญจนวดีนั้นเค้ามีคนมาหมั้นไว้แล้วจะแต่งงานแล้ว เขาจึงมาว่าจ้างช่างทองทำทองให้ คนทั้งหลายเห็นว่าช่างทองรูปงามมาก เวลามาทำทองให้กาญจนวดีจึงให้ใช้ม่านบังตากั้นไว้ไม่ให้เห็นกัน ให้ยื่นเพียงมือเพียงเท้าให้เห็นออกมา แต่ก็ทำได้เพราะช่างทองเก่งและชำนาญมากๆ แต่ว่าธรรมดาของสาวๆย่อมอยากรู้อยากเห็น

นางจึงแอบมองผ่านช่องไม้ พอแรกพบสบตาก็หลงรักหลงชอบเข้าเต็มๆ จากนั้นจึงได้มีแผน นัดเจอกัน แต่แล้วก็แคล้วคลาดไม่ได้กันถึงสามครั้งสามหน นัดเจอกันแต่มีเหตุให้ไม่ได้เสียกัน..

ทั้งสองฝ่ายแหละทั้งช่างทองและกาญจนวดี ชอบพอกัน มากๆๆๆ

แต่พอถึงเวลาแต่งงานเขาก็แต่งงานให้ กาญจนวดีกลายเป็นภรรยาของคนอื่นแล้ว แต่ว่าคงยังไม่ได้เสียกัน...

สุดท้ายช่างทองอดรนทนไม่ได้ใช้อุบายให้พระมหาอุปราชช่วยโดยเอาของติดสินบนพระมหาอุปราช ช่างทองปลอมตัวเข้าไปหากาญจนวดีในปราสาท ปลอมตัวเป็นน้องสาวของพระมหาอุปราช

กาญจนวดีคงยังไม่ได้เข้าเรือนหอยังไม่ได้มีไรกันกับสามี พวกพระมหาอุปราชมาขัด มาทำทีเป็นจะเสด็จไปที่อื่นมีธุระ เลยมาฝาก น้องสาวไว้กับกาญจนวดี เพราะว่าปราสาทเรือนหอเค้าสร้างใหม่ เหมาะสมดีกับเชื้อสายกษัตริย์ให้เลื่อนการอยู่ร่วมกับสามีของกาญจนวดีไว้ก่อน รอจนกว่าพระมหาอุปราชจะมารับน้องสาวกลับ จึงจะให้นางกลับไปอยู่ร่วมกับสามีได้..

ใครก็กลัวสิพระมหาอุปราชใช้อำนาจมาบังคับนี่ ใครจะไม่กลัววะ ไม่ยอมเดี๋ยวโดนตัดหัว อุบายนี้ กาญจนวดีและช่างทองจึงได้เสียกันสิครานี้ ครบถ้วนเวลาสามเดือน เสพสุขกันเพียงสองคนสิ

ไม่มีใครผู้ใดรู้เลย รู้กันเพียงลับๆ ห้ามคนใช้ห้ามใครไปยุ่งทั้งสิ้น จนไปครบสามเดือนพระมหาอุปราชจึงมารับช่างทองที่ปลอมตัวกลับ

ช่างทำทองทำนางท้องหรือเปล่าอันนี้ชาดกไม่ได้กล่าวไว้ กล่าวไว้แต่ว่า ได้เสพกามกันโดยผิดกาเมสุมิฉาจารเป็นเวลานานสามเดือน ผลกรรมจึงปรากฏดังว่า ผลกรรมนี้ทำให้พระโพธิสัตว์เสียเวลาสร้างบารมี ถึง14มหากัป เพราะตกนรก และเวียนว่ายในภูมิอันต่ำยาวนานมากๆ ....

นี่คือตัวอย่าง การผิดศีลกาเมสุมิฉาจารนะครับ ระวังนะครับ...หญิงที่มีคู่หมั้นแล้ว หญิงที่ประเพณีคุ้มครองอยู่ หญิงที่อยู่ในการปกครองของใคร หญิงนั้นต้องได้รับฉันทามติจากผู้ปกครองก่อน...
<!-- / message --><!-- sig -->


พระท่านไม่ได้มาบัญญัติศีล บัญญัติธรรมเพื่อให้คนตกนรกเวลาทำผิดนะครับ แต่ท่านสอนเราแนะเราว่าทำแบบนั้น มันตกนรก มันบาป มันไม่ดี ของแบบนี้มันเป็นไปโดยวัฏจักรของมันครับ มันเป็นธรรมชาติของมันเอง แต่ท่านรู้ ท่านเลยสอนเราท่านเวทนาเรา ท่านหนะหลุดพ้นแล้ว แต่เราทั้งหลายโง่เง่า ท่านเมตตาเรา ..




...เอาเป็นว่าพิจารณาดูดีๆครับการทำอะไรก็ตาม ช่วงนี้ปาล์มอาจจะไม่ได้ตอบกระทู้นะครับ เพราะว่าตายไปแล้ว ไม่ค่อยสบาย แต่ถ้าไม่ตายจะพยายามช่วยครับ อ่านแล้วคิดเอานะครับ พอทำตามได้ก็ทำ ปาล์มเป็นแค่คนนำทาง เดินตามหรือไม่ขึ้นกับตัวคุณเอง....

เอาเป็นว่าการมีอะไร อะไร กันทั้งหลายแหล่ เรื่องอย่างว่า มีอะไรกันสองคนอะครับ ถ้าเรายังไม่ได้รับ ฉันทามติจากพ่อแม่ คือยังไม่ได้รับความอนุญาติ จากพ่อแม่ ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายนั้น บาปนะครับ บาปชัวร์ๆไม่มั่วนิ่ม

สตรี ที่มีประเพณีปกครองคุ้มครองอยู่ก็ดี อย่างเช่นคู่หมั้นของคนอื่น เราไปละเมิดเข้า ถือว่า ผิดศีลข้อกาเมสุมิฉาจาร

สตรีที่ถือศีลแปดขึ้นไปเราไปละเมิดอย่างนี้ก็ผิด

เอาเป็นว่าถึงเราจะเต็มใจกันทั้งสองฝ่ายก็ดี แต่ว่ามันผิดครับ ต้องได้รับโทษภายหลังอย่างหนักเลยครับ

ผมว่าเราไม่ยุ่งไม่ทำเรื่องที่มันจะมาทำให้เราวุ่นใจวุ่นกายต่อไปอย่างยาวนานดีกว่าครับ ถึงมันจะสุขใจในตอนนี้ หรือสุขเราพอใจ แต่มันสุขไม่แท้ ไม่ใช่สุขที่นำพาต่อการละกิเลส แต่เป็นสุขที่ฉาบด้วยกิเลสและความหลงผิด จึงต้องใช้ผลของบาปกรรม อย่างยาวนาน...<!-- / message --><!-- sig -->


เราเลือกเอาครับ จะทำไรดีระหว่างดีกับชั่ว เราก็รู้ๆกันอยู่


.....................ขอฝาก/โมทนา


หมายเหตุ .......

กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
บุคคลต้องห้ามสำหรับฝ่ายชาย คือ
(๑) ภรรยาคนอื่น
(๒) ผู้หญิงที่ยังอยู่ในความอุปการะของผู้อื่น (ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นอยู่)
(๓) ผู้หญิงที่จารีตต้องห้าม (แม่ ย่า ยาย พี่สาว น้องสาว ลูกสาว ชี หญิงผู้เยาว์)

บุคคลที่ต้องห้ามสำหรับฝ่ายหญิง คือ
(๑) สามีคนอื่น
(๒) ชายจารีตต้องห้าม (พ่อ ปู่ ตา พี่ชาย น้องชาย ลูกชาย พระภิกษุ สามเณร ชายผู้เยาว์)

ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ใช่เฉพาะ ห้ามแต่ร่วมสังวาสเท่านั้น แม้แต่การเคล้าคลึง การพูดเกี้ยวพาราสี หรือการแสดงอาการ ปฏิพัทธ์แม้แต่ด้วยสายตาเนตรสบเนตร เป็นต้น ก็ชื่อว่า การละเมิดศีลข้อนี้แล้ว เมื่อไม่ล่วงละเมิดศีลข้อนี้แล้วเป็นผู้สำสวมในกามยินดีแต่ในภรรยาของตนเท่านั้น (สทารสันโดษ) จงรักภักดีแต่ในสามีของตน (ปติวัตร) ถ้ายังไม่ได้แต่งงานก็ต้องมีกามสังวร ตั้งตนอยู่ในขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม มีวัฒนธรรมอันดีชนิดที่ว่า "เข้าตามตรอกออกตามประตู"




<!-- / message --><!-- sig -->

 

...

 

คุณใช้ภาษาเขียนได้ดีมากๆ น่าจะเขียนหนังสือขายนะคะ อนุโมทนาค่ะ ไม่สบาย หายเร็วๆนะ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
คุณ ปาล์มครับ ถ้าสมมุติว่ามีเด็กชาย อายุ 9 ขวบ ได้เสียกับเด็กหญิง 10 ขวบ เด็กชายจะบาปหรือป่าวครับ มีคนพาให้ไปได้เสียกัน โดยไม่รู้ว่ามันผิด จะบาปหรือป่าวครับ

 

/ไม่ทราบว่าใครพาไปกันครับ ถ้าผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย ไม่น่าจะผิด แต่ว่าคงไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่ดีๆท่านใด พาลูกหลานตัวเองไปทำชิบหายแบบนั้นหรอกครับ ถามว่าเด็กผู้ชายบาปมั้ย ??????

 

...

 

...

 

...