"บันทึกธรรม"

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย yee.prasong, 18 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
    png_20220101_130040_0000.png
     
  2. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
    อา._12_09_2021_22_54_48.png
     
  3. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
    บันทึกธรรม


    "ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น"

    ขอเล่าประสบการณ์ทางธรรมะนี้

    เพื่อเป็นข้อคิด ข้อปฏิบัติ ข้อเตือนใจ
    ....ให้แก่ผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย
    เพื่อพาตนเองพ้นจากทุกข์
    และธรรมที่จะปรากฏต่อจากนี้ทั้งหมด
    เป็นเครื่องขนเหล่าสัตว์ให้พ้นจากกองทุกข์
    ....ด้วยปัญญาตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    ทรงชี้ทางออกจากทุกข์ไว้

    ผมเองเป็นเพียงผู้ที่เวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร
    เป็นผู้วนเวียนในกองทุกข์
    มาอย่างนี้ไม่รู้ว่ากี่ชาติ กี่อสงไขยแล้ว

    ...วันนี้
    ผมได้พบธรรมอันประเสริฐแล้ว
    ....และไม่รอช้าจะใช้กายใจนี้พิสูจน์ความจริง
    ....ว่าสัทธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น
    จะทำให้ผมพ้นทุกข์ได้จริงหรือไม่?




    ผมจึงขอเล่าผ่านบันทึกนี้
     
  4. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  5. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
    Chapter I ...........คนธรรมดา
    .....
    ....
    ...
    ..
    .


    “เกิดมาทำไม”



    ผมเป็นคนหนึ่ง
    ที่เกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง
    ความสุข ความทุกข์ในชีวิต
    ...ก็คงไม่ต่างจากคนทั่วไปมากนัก

    สมัยเด็กๆจำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึง
    นั่งเล่นกับเพื่อน อยู่ดีๆ รู้สึกงงๆ
    แล้วรำพึงกับตัวเองว่า
    ..........“เราเกิดมาทำไม”

    มือก็ลูบแขนตัวเอง
    .....ว่าทำไมตัวเราเป็นอย่างนี้
    รู้สึกว่าตัวเรา...ก็ไม่ใช่ตัวเรา
    เป็นความคิดชั่วแว๊บหนึ่งที่ผุดขึ้นในจิต

    หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ
    แล้วเหตุการณ์นั้นก็เลือนลางไป
    ผมผ่านชีวิตวัยเด็กมาโดย
    ไม่ต่างจากเด็กคนอื่นนัก
    ....ผมก็รู้จักการไหว้พระ
    การทำบุญ จากคนในครอบครัว

    แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้เข้าวัด
    .....ทำบุญซะเท่าไหร่

    พ่อแม่ผมมักสอนให้ไหว้พระขอพร
    ....ให้เรียนเก่งๆ

    ตอนนั้นผมก็เชื่อว่า
    “พระท่านจะบันดาลให้ผมเรียนเก่งๆได้จริง”
    ผมอยากได้อะไร
    ....ก็มักไหว้ขอพรจากสิ่งศักสิทธิ์
    ในตอนเด็กผมรู้แต่เพียงว่า....
    พระพุทธรูปที่อยู่ตรงหน้า
    เป็น"พระพุทธเจ้า"

    แต่ไม่เคยมีคนบอกผมเลยว่า
    พระพุทธเจ้า คือใคร
    มีความสำคัญอย่างไร
    พระองค์สอนอะไร

    แต่ผมก็อาศัยพระพุทธรูปนั้น
    ....เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
    ในฐานะสิ่งศักสิทธิ์ผู้วิเศษ
    ....ที่ดลบันดาลได้ทุกสิ่งถ้าผมเป็นเด็กดี

    วัยเด็กนั้นผมเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดคุย
    และเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
    สิ่งนี้ได้มาจากการปลูกฝังจากพ่อแม่
    เขาสอนในเรื่องนี้เสมอๆ

    และในวัยเด็กจำได้ว่า
    อารมณ์ที่จะโกรธคนนั้นคนนี้
    แทบจะไม่มี
    อาจจะเป็นเพราะการถูกปลูกฝัง
    ในเรื่องของ “การถ่อมตัว” ก็เป็นได้



    .......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2022
  6. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  7. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “ทำงานแล้วตัวตนยิ่งใหญ่”



    ผ่านเวลาไป
    ก็เป็นช่วงผมเริ่มทำงาน
    พอทำงานก็เริ่มมีเงิน
    ....เริ่มซื้อสิ่งของต่างๆให้ตัวเอง

    เริ่มจากรถมอเตอร์ไซค์คันแรก
    พอซื้อมาก็รู้สึกว่าตัวตนเริ่มใหญ่ขึ้น
    มันเกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นในใจทันที
    เรามีมอเตอร์ไซค์
    แต่คนนั้นไม่มีเหมือนเรา

    ....เอ๊ะใจ ความอ่อนน้อมในวัยเด็กหายไปไหน?

    ผมทำงานครั้งแรกในโรงงานแห่งหนึ่ง
    เป็นพนักงานฝ่ายผลิต
    ...จากนั้น
    ก็ย้ายงานมาทำเกี่ยวกับที่ตัวผมเองเรียนมา
    ผมได้ทำงานในออฟฟิศ
    หน้าที่ออกแบบเครื่องจักร
    ได้เงินเยอะขึ้น งานสบายขึ้น
    และอย่างเดิมคือ
    พอเงินเยอะก็ซื้อของทุกอย่าง
    ที่ตัวเองอยากได้
    ... เพื่อสนองตัณหาความอยากของตัวเอง
    ความสุขเล็กๆ ที่ผมได้จากการซื้อของ
    ก็อาจจะมีความสุข ได้ซักวันสองวัน
    หรือบางครั้งแค่ชั่วโมง หรือไม่กี่นาที

    การที่ผมได้ทำงานดี
    มันยิ่งสร้างตัวตนแบบเหนียวแน่นขึ้นในใจ
    ขณะผมเดินผ่านพนักงานฝ่ายผลิต
    ใจมักกระหยิ่มว่า “เราดีกว่า”
    แม้ไม่ได้ออกมาทางกระทำ
    ....แต่ใจผมรู้สึกอย่างนั้น
    ความทะยานอยาก คือ อยากดี อยากเด่น
    ดูเหมือนมันจะยิ่งเพิ่มขึ้น
    เห็นคนอื่นเค้ามีรถเก๋ง
    ....ใจมันอยากได้ อยากมีเหมือนเค้า
    และในที่สุดก็เอามาจนได้
    พอยิ่งมีรถตัวตนผมมันยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก
    อย่างรู้สึกได้

    คราวนี้กลับมองเห็น
    คนขับมอเตอร์ไซค์ ขี่จักรยาน
    เป็นอีกระดับจากเรา
    ....ทั้งๆที่เมื่อก่อน
    ผมก็ขับมอเตอร์ไซค์แบบนั้นแท้ๆ

    จิตมันสร้างตัวตน
    จากสิ่งสมมุติทั้งหลายเหล่านี้
    ไปยึดมาเป็นของเรา
    และคิดว่าเป็นจริงเป็นจังว่า "มีเรา"
    "มีของเรา" "เราดี" "เราเด่นเหนือคนอื่น"

    ผมใช้ชีวิตแบบคนส่วนใหญ่สมัยนี้
    วิ่งไล่ล่าความสุข
    ....ที่ฝากไว้กับสิ่งของภายนอกตัว
    และแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น


    ตอนนั้นผมหลงคิดไปว่า
    ได้คำตอบที่เคยสงสัยตอนเด็กแล้ว
    “ว่าเราเกิดมาทำไม”



    ..............................
     
  8. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  9. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “อยากเหนือกว่าผู้อื่น”



    ผมใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ
    โดยที่ยังหาความหมายที่แท้จริงยังไม่เจอ
    แล้ววันนึง
    .....วิถีชีวิตผมก็เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง

    เมื่อพี่ที่ทำงานผมคนหนึ่ง
    เข้ามาพูดถึงเรื่องธรรมะ เรื่องการภาวนา
    ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยได้ยิน
    จากที่ไหนมาก่อนเลย
    .....พร้อมกับยื่น ซีดีธรรมะให้ผมหนึ่งแผ่น
    ซึ่งซีดีธรรมะนั้นผู้บรรยายคือ
    "ดร.สนอง วรอุไร"
    ผมรับมาด้วยอาการยินดีทั่วไป
    ไม่ต่างจากได้ โลชั่น แชมพู ที่เค้าแจกฟรี
    หน้าห้างสรรพสินค้าเลย

    ซึ่งพี่คนนี้คือกัลยาณมิตรของผมคนแรก
    และเค้าพูดกับผมว่า “ธรรมะนี่ดีนะ
    ลองไปฟัง อย่าเพิ่งเชื่อพี่ ”
    ผมรับมาเสร็จก็วางบนโต๊ะทำงาน
    ....แล้วกลับให้ความสำคัญไปที่งานที่ทำต่อ

    หลังเลิกงาน
    ผมก็ไม่ลืมที่จะหยิบซีดีธรรมะกลับไปด้วย
    และลองใส่มันเข้าไปในวิทยุในรถ

    เนื่องจากที่ทำงานผมอยู่ไกลจากบ้าน
    ก็ได้ฟังธรรมะไปร่วมๆชั่วโมง
    ฟังแล้ว
    ก็เกิดความรู้สึกว่า “มหัศจรรย์จัง”
    ไม่เคยได้ยินอะไรอย่างนี้มาก่อน
    ในสิ่งที่ผมได้ยิน
    ดร.สนอง พูดนั้นมันตอบปัญหา
    ที่ผมเคยสงสัยตอนเด็กๆได้
    ในเรื่องปาฏิหารย์เหนือธรรมชาติ
    เรื่องสวรรค์ เรื่องเทวดา นางฟ้า
    และเรื่องรู้ใจทายใจคนอื่นได้
    หลายอย่างถูกตอบจากบุคคลๆหนึ่ง
    ที่ผมนั่งฟังอยู่ร่วมๆชั่วโมง

    แล้วผมก็เกิดความรู้สึกในใจว่า
    อยากเห็นสวรรค์ นรก
    ....อยากรู้ใจคนอื่น
    อยากเป็นเหมือน ดร.สนอง ท่านบ้าง

    มันเกิดเป็นความรู้สึก...
    ผมอยากจะเหนือกว่าคนทั่วไป
    ทั้งๆทีธรรมะในซีดีแผ่นนั้น
    จะมีส่วนที่เป็นเนื้อหาธรรมะเรื่องความไม่เที่ยง
    เรื่องสัจจะความจริง ฯลฯ
    แต่เหมือนมันฟังไม่เข้าหูผมเลย
    ....หูผมจะได้ยิน
    เฉพาะเรื่องที่ตัวผมเองอยากรู้เท่านั้น
    คือ เรื่องปาฏิหารย์เหนือธรรมชาติ

    แล้วก็หลงคิดไปว่าอิทธิฤทธิ์
    “นี่เองหรือคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้”





    ............................
     
  10. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “นั่งสมาธิครั้งแรก”



    หลังจากผมได้ฟังซีดีธรรมะแผ่นนั้นแล้ว
    ก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นทันที
    จากนั้นผมก็เข้าอินเตอร์เน็ต
    ดาวน์โหลดธรรมะของดร.สนอง
    ....และของท่านอื่นมาฟัง เต็มไปหมด

    แม้แต่หนังสือที่ผมอ่าน
    ก็เป็นหนังสือเกี่ยวกับการทำสมาธิทั้งสิ้น
    ....ยิ่งอ่าน ยิ่งฟัง ก็ยิ่งอยากปฏิบัติ

    ครั้งแรกลองนั่งสมาธิระหว่างพักกลางวัน
    ในที่ทำงาน
    ....ผมหามุมสงบๆได้
    ....ก็เริ่มด้วยการดูลมหายใจที่เข้า – ออก
    โดยบริกรรมว่า พุท-โธ
    ...ครั้งแรกที่นั่งจิตรวมเป็นสมาธิเร็วมาก
    มีอาการตกวูบๆไปนิ่งสนิท
    จนไม่รับรู้ถึงลมที่เข้า – ออกอีก
    และรู้สึกว่าร่างกายผมหายไป

    เมื่อผมทำสมาธิไปได้ซักพัก
    ก็ได้ยินเสียงเบาๆ ไกลๆ
    เป็นเสียงอ๊อด ทำงานนั่นเอง
    ....ผมออกจากสมาธิมา
    ....รู้สึกปลอดโปร่งอย่างมาก
    มองสิ่งต่างๆรอบๆตัวชัดขึ้น

    บ่ายวันนั้นไม่ง่วงนอนเลย
    และผมก็เก็บความประทับใจ
    ....ในการนั่งสมาธิครั้งแรก
    และพยายามนึกถึงขณะนั่งสมาธิ
    ...และเอาไปเทียบเคียง
    ...กับหนังสือธรรมะบ้าง
    เสียงธรรมที่ดาว์นโหลดมาบ้าง
    ....ว่าผมได้ฌานไหน

    ผมค้นข้อมูล เทียบเคียงตำรา
    พอรู้ว่าจิตเป็นฌานนั้น ฌานนี้
    ....ก็ยิ่งมีกำลังใจในการปฏิบัติ

    โดยครั้งต่อมา
    .....ด้วยความที่เห็นว่า
    นั่งสมาธิครั้งแรกก็ได้ฌานแล้ว
    จึงเกิดความอยาก....
    ว่าครั้งนี้ต้องดีกว่าครั้งที่แล้ว
    ...หรืออย่างน้อยต้องเหมือนครั้งที่แล้ว
    และความอยากนี้เอง
    ....เป็นอุปสรรคในการทำสมาธิของผม

    ครั้งที่สองนี้จิตไม่เป็นสมาธิเลย
    และมีอาการปวดหัว ปวดตา อีกด้วย
    ซึ่งมาจากการบังคับอยากให้สงบ
    ....ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้

    ในตอนนี้ผมคิดผิด
    ผมอยากให้สมาธิที่ผมทำมันเป็นไปอย่างใจ
    อยากให้ดีขึ้นเรื่อยๆในทุกครั้ง
    ....ด้วยความไม่รู้ของผม

    จากนั้น
    ผมยังคงเพียรนั่งสมาธิ
    ....ทุกครั้ง
    ที่ผมนั่งรถประจำไปทำงาน
    คนทั้งรถจะหลับกัน

    ....แต่ผมกลับนั่งสมาธิ
    ภาวนาพุท-โธ ไปจนถึงที่ทำงาน
    ....ทำงานไปตามปกติ
    รอจนพักเที่ยง
    ....ผมก็จัดแจงรีบไปกินข้าว
    แล้วกลับมาที่หลบมุมประจำของผม
    .....เพื่อนั่งสมาธิ จนถึงเวลาเข้างาน
    พอเลิกงานนั่งรถกลับ
    ....ผมก็นั่งสมาธิบนรถอีกเช่นเคย
    ผมเอาจริงเอาจังกับการนั่งสมาธิ
    ผ่านฌานนั้นออกฌานนี้
    ด้วยการที่ทำบ่อยจิตจึงเป็นสมาธิได้ง่าย

    แต่มาถึงตอนนี้
    ผมก็ยังไม่ทราบว่า.... จะทำไปเพื่ออะไร พระพุทธเจ้าให้นั่งสมาธิไปเพื่ออะไรกันแน่?
    แต่ผมรู้อย่างเดียวว่า
    ถึงไม่ได้อะไร...
    ผมก็ได้ความสุขจากการทำสมาธิ
    .....แค่นี้ก็พอแล้ว



    ................................
     
  11. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  12. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “อยากได้ปัญญา”


    ผมทำสมาธิ แบบอย่างเอาจริงเอาจัง
    ทำทุกเวลาที่ว่าง
    ....ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเปล่าๆ
    ผมจะหลับตาทำสมาธิ
    ....พุทโธไม่ได้ขาดเลย
    เมื่อไหร่ที่ได้ที่นั่งเหมาะๆ
    และสถานการ์ณเป็นใจ
    ผมก็จะแกล้งทำเป็นหลับ
    แต่ความเป็นจริงผมกำลังนั่งสมาธิอยู่
    เพราะไม่อยากให้ใครมาถาม
    นั่งสมาธิ
    ผมทำถี่ขึ้น บ่อยขึ้น
    จนเป็นความเคยชินไปแล้ว
    ....ผลของการนั่งสมาธิ
    ก็คือ จะรู้สึกแจ่มใส มีสติ
    มีความสุขทั้งขณะทำสมาธิ
    และเวลาใช้ชีวิตประจำวันปกติ
    ...ความสุขมันเยิ้มออกมา
    รู้สึกว่าตัวเบาๆ
    ลมหายใจก็ละเอียด
    ....จนแทบรู้สึกว่าไม่มีลมหายใจ
    ไม่ต่างจากการนั่งหลับตาทำสมาธิเลย
    ผมปฏิบัติสมาธิไปอยู่เรื่อยๆ

    จนวันนึง
    ได้ฟังธรรมะอยู่ตอนหนึ่ง
    มาสะดุดกับคำว่า “วิปัสสนา”
    ....จะทำให้เกิดปัญญา
    ผมได้ยินอย่างนั้นก็เกิดความอยาก
    ...อยากได้ปัญญา
    ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วปัญญาที่ว่านั้นคืออะไร

    พยายามหาซีดีมาฟัง
    หนังสือมาอ่านเรื่องวิปัสสนา
    จนเกิดความคิดที่จะปฏิบัติแบบจริงๆจังๆ
    แบบมีครูบาอาจารย์ดู
    ....และก็ได้คำแนะนำ
    จากพี่ที่เป็นกัลยาณมิตรคนแรกของผม
    แนะนำไปวัดแห่งหนึ่ง

    คือ “วัดภัททันตะอาสภาราม”
    ผมไม่ลังเล
    ดูแผนที่ ที่ได้มาจากพี่เค้า
    แล้ววางแผนเตรียมตัวไปวันหยุดนี้ทันที

    แรงขับเคลื่อนในตอนนั้น
    คือ เต็มไปด้วยความอยาก
    ...อยากที่จะเห็นเทวดา นางฟ้า
    ซึ่งผมทำสมาธิมาระยะหนึ่งแล้ว
    ...ก็ยังไม่ได้เห็นซักที
    กะว่าไปวัดครั้งนี้อาจจะได้ของดีกลับบ้าน
    .....หรืออาจจะได้ปัญญา


    .....มาถึงเวลานี้
    ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าอย่างนี้หรือไม่
    ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนไว้หรือเปล่า?




    ...............................
     
  13. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  14. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
    “บินเดี่ยว”

    ....แล้วก็ถึงวันที่รอคอย
    วันที่ผมอาจจะได้ของดี
    กระเป๋าสิ่งของเตรียมพร้อม
    .....กำลังใจเต็มที่
    ออกเดินทางไปวัดภัททันตะฯทันทีแต่เช้า
    หวังจะเอาของดีคนเดียว

    พอถึงวัดก็รู้สึกพอใจมาก
    ที่วัดเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติ
    ผู้มาปฏิบัติที่นี้แยกนอนเป็นห้องๆ
    ผมเข้าไปเก็บกระป๋า...เปลื่ยนชุด
    แล้วลงมาปฏิบัติ
    สิ่งที่ได้เห็นคือนักปฏิบัติแต่ละคน
    เอาจริงเอาจังกันมาก ...ไม่มีใครคุยกันเลย
    ...ทำให้ผมยิ่งตั้งใจปฏิบัติ

    ที่วัดสอนแนวสติปัฏฐาน4
    โดยกำหนดสติดูที่หน้าท้องว่า “พองยุบ”
    ....แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิบัติในแนวทางของทางวัด
    ใช้ดูลมหายใจ ภาวนาพุท-โธ เอา

    ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีความเขื่ออยู่
    ว่าการปฎิบัติธรรมคือการทำให้จิตสงบ
    ให้ได้ฌานสูงๆ

    เวลานั้นการนั่งสมาธิแต่ละครั้ง
    ก็อยากจะให้เหมือนกันทุกครั้งไป
    ผมอาศัยการจำมา..แบบผิดๆถูกๆ
    จากฟังธรรมะในซีดีบ้าง และหนังสือบ้าง
    โดยการตีความตามความสนใจ
    ของตัวเองเป็นหลัก

    ขณะนั่งสมาธิก็เกิดความคิดแว๊บขึ้นมา
    ถ้าอยากได้ปัญญา
    ....ก็ต้อง “วิปัสสนา”
    คราวนี้ผมลองดู....
    พอจิตผมเริ่มสงบ เข้าถึงฌานลึกๆ
    ผมก็ถอยลงมาในฌานต้นๆ
    ที่ยังมีการคิดนึกได้
    แล้วอาศัยการนึกคิดถึงความตาย
    คิดว่าเราต้องแก่
    แล้วพยายามจินตนาการถึงความสกปรก
    ของร่างกายในส่วนต่างๆ

    ผมปฏิบัติอย่างนี้ตลอดสองวันที่มา
    ...ปฏิบัติที่วัด
    มีความรู้สึกลึกๆในใจ....
    ....คิดว่าคงต้องได้ปัญญา
    หรือ อาจจะได้เห็นเทวดา นางฟ้าบ้าง
    ....อย่างที่หวังไว้
    แต่พอถึงช่วงสุดท้ายวันจะกลับ

    .....ก็ต้องถอนหายใจยาวๆ
    กับความผิดหวังที่ตั้งเอาไว้สูง
    ผมทำแค่ความสงบ
    และยังไม่เข้าใจการวิปัสสนาที่แท้จริง
    ว่าต้องทำอย่างไร


    จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องธรรมดา
    ว่า ทำเหตุผิดอยู่... ผลจะออกมาถูกต้อง
    .....ได้อย่างไร?


    ...............................
     
  15. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  16. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “อยากเหนือกว่าใครๆ”


    .....หลังกลับจากวัด
    ผมก็ปฏิบัติอยู่เหมือนเดิม
    ไม่ทิ้งการปฏิบัติ....
    ...คิดว่าไม่นานสิ่งที่ผมหวังต้องเห็นผล
    ผมให้ความสำคัญการนั่งสมาธิเป็นงานหลัก
    แต่หน้าที่การงานให้ความสำคัญเป็นงานรอง

    แล้วเริ่มออกชักชวนคนรอบข้าง
    ซึ่งได้คนที่สนใจมาไม่กี่คน
    หนึ่งในนั้น คือ เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมฯ

    แม้ผมจะไม่รู้ธรรมะอะไรมาก งูๆปลาๆไป
    แต่อาจเป็นเพราะเพื่อนผมคนนี้มีของเก่ามา
    ....ทำให้ผมกล่าวชักชวนได้ไม่นานนัก
    ผมก็ได้เพื่อนมาร่วมปฏิบัติธรรม
    เกือบทุกๆวันหยุด
    ต้องพากันไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม
    พอเจอธรรมะอะไรดีๆก็จะแชร์กัน
    ผลการปฏิบัติก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
    ...ความก้าวหน้าที่ว่านี้
    ก็เป็นแต่เพียงความสงบเท่านั้น

    แต่การทำสมาธิ...ไม่ใช่จะจะสงบทุกวันไป
    ....จะมีบางวัน ที่ต้องคิดเรื่องงานมากๆ
    หรือมีปัญหามากระทบใจ
    วันนั้นก็จะไม่สงบ...

    ช่วงที่ผมฝึกสมาธิ
    ผมสังเกตุอารมณ์ของตัวเองว่า
    มันเฉยๆ อารมณ์ไม่ค่อยเกิด
    เหมือนกับว่ากิเลสทั้งหลายมันหายไป
    .....แต่มันไม่ใช่
    แต่พอเกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาซักครั้งนึง
    จะรุนแรงมาก
    ซึ่งความโกรธของผมไม่ได้หายไปไหน
    มันถูกกดอำนาจของสมาธิ อำนาจของฌาน

    ตอนนั้น....ผมมักจะมีความคิดอยู่เสมอ
    ว่า “เราเก่งที่ทำฌานได้
    ฌานที่เป็นรื่องยากของคนอื่น
    แต่สำหรับเรากลับเป็นเรื่องง่าย”
    ผมมีความคิดนี้เกิดขึ้นลึกๆภายในใจ

    คิดอยากจะเอาเพิ่ม
    อยากมี อยากเป็น ....
    ....ความเป็นตัวตนในใจ ไม่เคยหายไปไหน
    และคิดว่าตัวเองเหนือกว่านักปฏิบัติด้วยกัน
    ....เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป
    ที่ไม่ได้รู้จักของดีแบบผม

    จนมาถึงเวลานี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่า
    “พระพุทธเจ้า สอนอะไร”
    และผมยังขึ้นชื่อว่าอยู่ห่างจากพระพุทธองค์
    แม้ว่าตอนนั้นผมจะหลงคิดไปเองว่า
    ตัวเองเป็นคนมีธรรมะก็ตาม




    ...................................
     
  17. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  18. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “ผลที่ได้จากการทำสมาธิ”


    ชีวิตดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
    นอกจากการทำงานแล้ว
    ....การนั่งสมาธิเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม
    ผมทำงานอยู่ได้ประมาณ 1 ปีในโรงงานแห่งนี้
    โดยจ้างทำงานสำคัญโปรเจ็คๆหนึ่ง
    จ้างแบบเป็นสัญญาปีต่อปี
    ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ
    ผมรอวันที่ต่อสัญญาเพื่อที่จะได้ทำงานต่อ
    และคิดว่าคงได้ทำงานที่นี่ต่อแน่ๆ

    แต่เหตุการ์ณไม่เป็นอย่างนั้น
    ก่อนการต่อสัญญาของผม
    เป็นช่วงที่บริษัทฯมีปัญหา
    ก่อนหน้านี้มีการจ้างพนักงานออก
    จำนวนหนึ่งแล้วเพื่อลดรายจ่ายบริษัท
    จึงมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้างานในแผนก
    และที่สุดหัวหน้างานใหม่
    ....ก็ไม่ต่อสัญญาให้กับผม
    เป็นอันว่าผมต้อง ออกจากบริษัท
    ....กลายเป็นคนตกงาน
    เพราะไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้เลย

    หลังออกจากงานได้หนึ่งวัน
    ผมเก็บกระเป๋าไปวัดทันที
    .....ตั้งใจจะอยู่วัดปฎิบัติ 7 วัน
    กะหวังจะเอาดีทางธรรมเลย

    แต่ด้วยความร้อนรุ่ม
    การเข้าวัดปฏิบัติธรรมครั้งนั้น
    ไม่มีความสงบเลย จิตใจกระวนกระวาย
    คิดถึงอนาคต....
    ...จะเป็นอย่างไร...จะทำอย่างไรดี
    จึงอยู่วัดด้วยความร้อนลุ่มได้เพียง 5 วัน
    ....จึงตัดใจออกจากวัดมา

    ระหว่างทางกลับบ้าน
    นึกถึงหนังสือที่เคยอ่าน ....
    ....และผมเคยตั้งเป้าหมายจะร่ำรวย
    ก่อนผมจะอายุ 30 ให้ได้

    เลยได้ความคิดจะเปิดบริษัทฯของตนเอง
    ....กลับถึงบ้านวางแผนการเปิดบริษัทฯ
    เตรียมการต่างๆเอาไว้

    แต่พอมาสำรวจเงินที่มีอยู่...
    มันไม่พอจะเปิดบริษัท แค่จะเอาไว้ใช้จ่าย
    ก็คงจะอยู่ได้ไม่นานด้วยซ้ำ

    แต่ผมยังไม่ถอดใจ
    ตระเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้
    แล้ววันหนึ่ง....
    ผมได้ไปดูสถานที่เช่าทำเป็นออฟฟิศ
    กะว่าจะดูเอาไว้ก่อน...เพราะเงินยังไม่มี
    เมื่อไปดูสถานที่ทำออฟฟิศ
    ....ก็ได้พบกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
    อยู่ๆเค้าได้ขอร่วมหุ้นกับผม
    ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ออกปากชวนแม้แต่นิด
    ผมกับไปคิดดูกับพี่สาว
    ....เมื่อมีโอกาสเข้ามาแล้วก็ควรจะคว้าเอาไว้
    แล้วที่สุดผมก็ได้ส่วนที่ผมขาดอยู่
    .....นั่นคือ เงินทุน

    ความคิดทีจะเปิดบริษัทเองก็สำเร็จ
    แบบที่ผมไม่ได้ออกแรงไขว่คว้าซักเท่าไหร่
    มันเป็นเชื่อว่ามันเกิดจาก“กุศลฝ่ายดี”
    ที่ผมปฏิบัติสมาธิจนจิตเป็นฌานอยู่ประจำ พระพุทธเจ้า
    ตรัสถึงอานิสงค์ของการทำฌาน
    ว่าเป็นกรรม(หนัก)ฝ่ายดีที่ให้ผลก่อนในปัจจุบัน


    และนี่คือจุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิตผม





    .....................................
     
  19. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5
  20. yee.prasong

    yee.prasong Set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2022
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +5

    “ห่างธรรม”


    ผมกลับมามุ่งมั่นทางโลก กับงาน
    กับบริษัทที่ผมกำลังจะสร้างมันขึ้นมา
    และมีความคิดในใจอยู่ว่า
    เราโชคดีมาก อยากได้อะไรก็ได้
    ความรู้สึกผมยิ่งพอกความเป็นตัวตน
    ให้เหนียวแน่นขึ้นไปอีก
    คิดว่ายังไงตัวเองไม่มีทางตกต่ำ
    เพราะเมื่อผมเปิดบริษัทฯ
    ...ก็มีผู้ใหญ่อีกหลายคนเข้ามา
    ให้การสนับสนุนอย่างมาก

    ....เวลานั้น
    ผมทุ่มไปกับงาน
    และหลงความรื่นรมย์ในทางโลก

    ...จากเมื่อก่อนเคยขับรถไปไหน
    ก็จะฟังแต่ธรรมะ
    แต่ตอนนี้ไม่เคยเปิดฟังเลย
    และไม่ได้รับความสนใจจากผมอีก
    ....เรื่องการนั่งสมาธิก็น้อยลง น้อยลง
    จนไม่ได้นั่งสมาธิอีกเลย

    ในที่สุดก็กลับมาใช้ชีวิตทางโลก 100%
    และธรรมะก็หายไปจากชีวิตผม



    .............................


    “เป็นนักธุรกิจที่ไม่เคยล้มเหลว”

    บริษัทที่เปิดงานก็เข้ามาทันทีจากคนรู้จัก
    ทั้งที่ยังจดทะเบียนบริษัทยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ
    ผมจัดการทำเองทุกอย่าง
    ...ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
    ผมตั้งใจทำเต็มที่
    และหมายมั่นปั้นมือว่าธุรกิจที่ผมทำนี้
    จะทำให้ผมได้รวยเป็นร้อยล้าน พันล้าน

    ผมเคยผ่านตา...
    กับประสบการณ์ของนักธุรกิจดังๆ
    จากการอ่านหนังสือ หรือตามยูทูป
    ...ที่เค้ามักจะบอกว่าเป็นเสียงเดียวกัน
    ต้องพบอุปสรรค ต้องเจอความล้มเหลว
    ล้มลุกคลุกคลานไม่น้อย
    .....กว่าจะสำเร็จ

    ....แต่มาถึงตอนนี้
    ผมกลับคิดเข้าข้างตนเอง...
    ....ว่าผมปิดประตูความล้มเหลวเรียบร้อย

    เพราะหลงคิดว่า
    มีผู้ใหญ่หลายคนพร้อมให้ความช่วยเหลือ
    คิดว่าตนเองมีความรู้ธุรกิจอย่างดี
    ...และคิดเข้าข้างตัวเองอีกว่า

    “ผมนี่แหละนักธุรกิจคนแรกที่ไม่เคยล้มเหลว”



    .................................
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...