น้ำท่วม มา.....ยาต้องใช้ เตรียมตัวไว้หน่อยก็ดีไม่เสียหาย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย จริง?หรือ?, 8 สิงหาคม 2013.

  1. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    พอดีผมไปเจอบทความนี้มาและเห็นว่าช่วงนี้มีปัญหาน้ำท่วมแล้วหลายพื้นที่ และในอนาคตอันใกล้นี้คิดว่าน่าจะมีอีกหลายพื้นที่ที่อาจจะเจออุทกภัย ดังนั้นผมจึงได้นำมาฝากเผื่อว่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ

    น้ำท่วม มา.....ยาต้องใช้

    [​IMG]
    ขอขอบคุณ คุณนภจักร อัตตนนท์ เอื้อเฟื้อภาพถ่าย

    จากการสำแดงเดชของพายุฝนที่ผ่านมา หลายท้องที่คงกลายสภาพเป็นเมืองกึ่งใต้บาดาลไปเรียบร้อย ซึ่งก็ใช่ว่าจะดูโรแมนติคเหมือนเมือง เวนิซ ของอิตาลีแต่ประการใด ตรงกันข้ามกลับเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าซึ่งนอกจากจะสร้างมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาทแล้วยังทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาอีกด้วย อาทิเช่น น้ำกัดเท้า ท้องร่วง โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ตาแดง ร้ายกว่านั้นก็ไปถึงขั้นของ โรคฉี่หนู อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ หรือตับอักเสบ เลยก็เป็นได้
    ดังนั้นคงเป็นการดี ถ้าเราจะเตรียมพร้อมรับมือกับโรคต่างๆเหล่านี้โดยเตรียมยาเพื่อไว้ใช้เบื้องต้นกันดีกว่า พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง..............

    1. กรณีน้ำกัดเท้า หรือโรคผิวหนังจากเชื้อรา
    ใช้ ขี้ผึ้งรักษาโรคกลากเกลื้อน หรือ ขี้ผึ้งวิทฟิลด์ ( whitfield's ointment ) ทาบริเวณที่มีอาการของน้ำกัดเท้า วันละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 3-4 สัปดาห์ ที่สำคัญคือต้องทาอย่างสม่ำเสมอครับ ห้ามโทษดินฟ้าอากาศแล้วขี้เกียจทาเป็นอันขาด
    ยาฆ่าเชื้อราชนิดใช้ทาภายนอก เช่น ทอลนาฟเทต (tolnaftate), โคลไตรมาโซล ครีม (clotrimazole cream) และอื่นๆอีกหลายชนิด หลายยี่ห้อ ซึ่งถ้าอยากให้ชัวร์ ก็ปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านคุณได้เลย
    2. ท้องร่วง เป็น อาการพื้นๆ แต่ต้องระวังให้ดีครับ เพราะอาจมีโรคที่รุนแรงแฝงอยู่ได้ เช่น ไทฟอยด์ หรืออหิวาตกโรคซึ่งก็พอสังเกตได้ง่ายๆ ว่า หากมีอาการปวดมวนท้องอย่างรุนแรง ร่วมกับมีไข้ หรือถ่ายเหลวเป็นน้ำซาวข้าวและเหม็นคาว ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที นอกนั้นอาจยังพอดูแลตัวเองโดยใช้ยาพื้นฐานได้ดังนี้ครับ
    ผงเกลือแร่ หรือ โอ.อาร์.เอส (ORS) เพื่อใช้ทดแทนน้ำหรือเกลือแร่ที่สูญเสียไปซึ่ง ผงเกลือแร่นี้มีเคล็ดลับสำคัญในการใช้ที่หลายคนอาจไม่รู้ ก็คือต้องละลายในน้ำที่ไม่ร้อนจัดจนเกินไป หรือใช้น้ำต้มสุกที่เย็นลงแล้วเท่านั้น อีกทั้งเวลาดื่มก็ต้องค่อยๆจิบ อย่าไปซดทีเดียวหมด
    ผงถ่านที่ใช้ทางยา (activated charcoal or medicinal charcoal) มีคุณสมบัติในการดูดซึมสารพิษ ในทางเดินอาหาร รับประทานครั้งละ 3 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ขณะท้องว่าง หลังรับประทานยานี้ อาจมีอาการอุจจาระที่ออกมาเป็นสีดำคล้ำกว่าปกติครับ
    3. ตาแดง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเจอในเด็กมากกว่าแต่ถ้าเผอิญคุณเกิดเป็นขึ้นมาละก็ แนะนำว่าต้องระวังอย่าเอามือไปขยี้หรือเกาเด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้เป็นมากขึ้น ทางที่ดีควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยเร็ว
    สำหรับการใช้ยานั้นแพทย์หรือเภสัชกรมักจะให้ยาหยอดตาที่เป็นยาต้านเชื้อ หากเป็นยาหยอดตา คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) มีข้อควรระวังคือ ต้องจัดเก็บยาในตู้เย็น ทีนี้ถ้าบ้านคุณน้ำท่วมแล้วตู้เย็นไม่สามารถใช้ได้ก็อาจจ้องใช้กระติกน้ำแข็งแทนหรือก็ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นที่ไม่ต้องเก็บในตู้เย็นแทน ชีวิตจะได้ไม่ต้องลำบากจนเกินไป
    4. อาการหรือโรคอื่นๆ ที่รุนแรงและนอกเหนือไปจากที่กล่าวมาอันนี้ต้องขอให้ไปพบแพทย์ครับ แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันและดูแลตนเองให้ถูกต้องตามสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน เช่น บริโภคอาหารและน้ำที่สะอาด สวมรองเท้ายางทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมขัง ตลอดจนทำความสะอาดร่างกายและระวังไม่ให้เกิดแผล ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
    เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ กับการเตรียมตัวและเตรียมยาเบื้องต้นเพื่อรับภาวะน้ำท่วมเฉียบพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกๆฝ่ายที่เดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมให้ผ่านพ้นภัยธรรมชาติครั้งนี้ไปโดยเร็วและเสียหายน้อยที่สุดครับ



    เรียบเรียงโดย
    เภสัชกรศรายุทธ ทัฬหิกรณ์
    มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา

    ข้อมูลอ้างอิง
    Armstrong, L., Goldman, P., Lacy, F., Lance, L.,2003, Drug Information Handbook, Lexi-Comp’s Canada
    นายแพทยสุรเกียรติ อาชานุภาพ, ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป,บริษัท พิมพ์ดี จำกัด, กรุงเทพมหานคร
     
  2. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    จริงๆแล้วบทความด้านบนผู้เขียนน่าจะโฟกัสเอาเฉพาะโรคที่มากับน้ำท่วมหรือมีโอกาศเกิดขณะมีน้ำท่วมเท่านั้น

    ส่วนโรคอื่นๆที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติจึงไม่ได้นำมารวมไว้ด้วย เช่น ไข้หวัด ปวดหัว ตัวร้อน ฉะนั้นหากท่านใดจะเตรียมตัวจัดหายาสามัญประจำบ้านไว้ช่วงหน้าฝนนี้อย่าลืมเพิ่มพวกยาแก้ปวด ลดไข้ด้วยน่ะครับ

    อีกอย่างก็ท่านที่มีโรคประจำตัวและต้องใช้ยาเฉพาะตลอด เตรียมเผื่อไว้ก็ดีน่ะครับ ช่วงนี้แก้น้ำไม่ท่วมก็เดินทางลำบากสักหน่อย เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้หน่อยก็ดีครับ
     
  3. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูล

    คนที่ไม่ป่วย ไม่รู้จะเตรียมอะไรดี ง่ายๆก็นึกถึงยาสามัญประจำบ้านกันไว้ก่อน ค่ะ

    ส่วนผู้ป่วยเรื้อรัง นอนติดเตียง ต้องสวน ต้องป้อนทุกวัน ทำไงดีเอ่ย?
     
  4. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ส่วนผู้ป่วยเรื้อรัง นอนติดเตียง ต้องสวน ต้องป้อนทุกวัน ทำไงดีเอ่ย?

    สำหรับเรื่องนี้คงต้องรอผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์มาชี้แนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ครั้นจะพูดเอาแต่ตามความคิดตัวเองโดยไม่มีหลักการทางด้านพยาบาลหรือด้านแพทย์ก็กลัวจะผิดพลาดเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าหวังดีประสงค์ร้ายซะเปล่าๆครับ

    รอท่านผู้มีความรู้แนะนำดีกว่าครับ

    แต่ ผมเพิ่งนึกคลับคล้ายคลับคลาว่า "คุณน้ำใสไหลเย็น" เป็นคุณหมอหรือพยาบาลไม่ใช่หรือครับ(หากจำผิดก็ขออภัยด้วยครับ) เคยอ่านเจอในกระทู้ของท่าน "hiflyer" น่าจะเป็นช่วงปีที่แล้ว ถ้าอย่างไรรบกวน "คุณน้ำใสไหลเย็น" ช่วยให้ความรู้ความกระจ่างเพิ่มเติมด้วยครับ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิกหรือคนอื่นที่ผ่านเข้ามาอ่านเจอ จะเป็นกุศลยิ่งครับ

    ขอบคุณครับ
     
  5. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ขอบคุณมากค่ะ คุณในนิมิตร ที่กรุณาให้โอกาสดิฉัน

    โห..กระทู้ท่านฮิ ปีที่แล้ว ดิฉันเล่นไว้แรง น่ะ 55555



    เออ.. เห็นว่าตรงนี้เป็นกระทู้ที่ดี เหมาะสำหรับช่วงน้ำท่วมที่กำลังย่างกรายเข้ามา

    หากแต่ละท่าน ใครก็ได้ นำความรู้หลายๆด้านมาช่วยกันแบ่งปัน เท่าที่จะหามาได้

    ไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือไม่

    หากเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ดิฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งและยินดีสนับสนุน

    และจะพยายามแบ่งปันเท่าที่จะช่วยได้ค่ะ


    ความรู้และประสบการณ์ดิฉันยังน้อยนัก มิบังอาจในบางเรื่อง

    ชอบอ่านทุกกระทู้ และยินดีรับฟังคำแนะนำค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2013
  6. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    บ้างอยู่ในรู บ้างซ่อนอยู่ตามซอกไม้ ดูอย่างไรว่าเป็นงูพิษ

    ไปเจออีกปัญหา คิดว่าสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเตรียมยาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

    ในกรณีที่เราออกไปไหนมาไหนไม่สะดวก หรือโรคภัยไข้เจ็บที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝน รวมถึงกรณีที่มีน้ำท่วมขัง เราคงพอทราบแนวทางเป็นเบื้องต้นแล้ว


    วันนี้เรามารู้จักปัญหาที่เกิดจากสัตว์มีพิษกันบ้าง

    บ้างอยู่ในรู (หน้าฝนคงหนีขึ้นมาจากรูกันหมด) บ้างซ่อนอยู่ตามซอกไม้(เค้าชอบอยู่บนขื่อ ชายคา) เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นงูพิษ ?

    โดนงูกัด อันตรายหรือไม่ ? เราจะช่วยเหลือตนเองอย่างไร?


    เราค่อยๆมาศึกษาไปด้วยกัน ตรงนี้เลยค่ะ
     
  7. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อระบบประสาท

    [​IMG]
    งูเห่า

    [​IMG]
    งูทับสมิงคลา
     
  8. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อระบบประสาท


    [​IMG]
    งูจงอาง

    [​IMG]
    งูจงอางด้านหลัง
     
  9. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อระบบประสาท(Neurotoxin)

    เช่น งูเห่าไทย งูเห่าพ่นพิษ งูจงอาง งูทับสมิงคลา งูสามเหลี่ยมหางแดง เป็นต้น

    อาการแสดง เริ่มจาก...

    แขนไม่มีแรง กระวนกระวาย ลิ้นเกร็ง พูดจาอ้อแอ้ ตามัว น้ำลายฟูมปาก

    เนื่องจากกล้ามเนื้อการกลืนเป็นอัมพาต หยุดหายใจ และ ตายในที่สุด
     
  10. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อระบบเลือด (Hematotoxin)

    [​IMG]
    งูแมวเซา

    [​IMG]
    งูกะปะ

    [​IMG]
    งูเขียวหางไหม้
     
  11. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อระบบเลือด (Hematotoxin)

    เช่น งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้

    อาการแสดง เริ่มจาก ...


    ปวดแผลมาก มีเลือดซึมออกจากแผล เลือดออกจากอวัยวะต่างๆ

    เช่น เลือดกำเดา เหงือก ไอ อาเจียน ปัสสาวะ อุจจาระเป็นเลือด ระบบไหลเวียนล้มเหลว และตายในที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013
  12. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อกล้ามเนื้อ ( Myotoxin)

    มักเป็นกลุ่มงูทะเล เกือบทุกชนิด ที่พบบ่อยในน่านน้ำไทยเรา เช่น

    [​IMG]
    งูสมิงทะเลปากเหลือง

    [​IMG]
    งูสมิงทะเลปากดำ
     
  13. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งูที่มีพิษต่อกล้ามเนื้อ (Myotoxin)

    งูทะเลเกือบทุกชนิดมักให้พิษที่รุนแรง มีงูทะเลชนิดเดียว(เท่าที่รู้มาตอนนี้นะ)ที่ไม่มีพิษคืองูผ้าขี้ริ้ว ค่ะ

    ตัวอย่างงูทะเล เช่น งูสมิงทะเลปากดำ งูสมิงทะเลปากเหลือง

    งูชายธงข้าวหลามตัด งูกะรังหัวโต งูคออ่อนท้องขาว เป็นต้น


    อาการแสดง เริ่มจาก...

    ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมาปัสสาวะสีแดงคล้ำจากกล้ามเนื้อถูกทำลาย

    ตามด้วยไตวายและระบบการหายใจล้มเหลว
     
  14. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    หวังว่าบทความที่นำเสนอไป คงพอทำให้สมาชิกทราบข้อมูลกันเป็นเบื้องต้น แล้ว

    ว่างูที่มีพิษหลักๆ ที่เรามีโอกาสพบเจอมีกี่ประเภท แต่ละประเภทก่อพิษต่อมนุษย์เราระบบใดบ้าง

    เพื่อเราจะได้ตระหนักหากสักวันเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด มีเวลาเราค่อยมาดูกันต่อในเรื่องการปฐมพยาบาล การรักษา

    ตลอดจนเราจะหลีกเลี่ยงให้ไกลห่างจากสัตว์มีพิษเหล่านี้ได้อย่างไร

     
  15. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ขอบคุณ คุณน้ำใสไหลเย็นมากๆครับที่ช่วยกันมาให้ความรู้ เป็นประโยชน์อย่างมากครับ งูเป็นสัตว์ที่ผมกลัวและระวังมากที่สุดรองลงมาจากมนุษย์ครับ

    เพื่อนสมาชิกท่านใดมีความรู้ด้านอื่นๆนำมามาแชร์เพิ่มเติมกันได้น่ะครับ

    คุณ มณีจำปา ก็เป็นผู้มีความรู้คนหนึ่งมาช่วยกันแชร์ครับผม
     
  16. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    ขอบคุณค่ะ คุณในนิมิตร [​IMG] ดิฉันก็พอมีความรู้ทั่วๆ ไป อยู่บ้างค่ะ แต่อาจไม่ลึกซึ้งนัก ค้นคว้า ความรู้เพิ่มเติม เพื่อดูแลแม่ค่ะ หากมีเรื่องใดที่พอจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สมาชิก ก็จะนำมาแบ่งปันให้ได้ทราบกันในโอกาสต่อๆ ไปค่ะ [​IMG]
     
  17. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    [​IMG] เรื่องแรกที่จะนำเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นประโยชน์ และให้เข้ากับหัวข้อกระทู้ ที่คุณในนิมิตรตั้งขึ้นมา "น้ำท่วม มา.....ยาต้องใช้ เตรียมตัวไว้หน่อยก็ดีไม่เสียหาย" ดิฉันก็เลยขอนำเรื่องใกล้ตัวของดิฉันที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว น้ำท่วมปี 2554 ที่บ้านท่วมอยู่ 2 เดือนค่ะ แม่ก็เป็นเบาหวาน และต้องฉีดอินซูลินค่ะ ดิฉันได้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการที่ได้สอบถามคุณหมอประจำตัวแม่แล้ว เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของแม่อีกระดับหนึ่งค่ะ เนื่องจากเราไม่อาจรู้ได้ว่า น้ำท่วม จะกินเวลานานเท่าไหร่ ดิฉันจึงต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้

    [​IMG] เราต้องเตรียมยาเบาหวานให้เพียงพอ และเก็บรักษาได้อย่างถูกต้องค่ะ สำหรับแม่ดิฉันนั้น เป็นเบาหวานประเภทที่ต้องพึ่งอินซูลินแล้วค่ะ คือต้องฉีดอินซูลินเพิ่มให้ร่างกาย เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอกับความต้องการแล้ว ปกติ อินซูลินเมื่อเปิดใช้แล้ว แบบที่แม่ดิฉันใช้ เป็นขวดใส่ไปในปากกาสำหรับฉีด เมื่อเปิดแล้วไม่ต้องนำกลับไปแช่ตู้เย็น ตัวอินซูลินนั้น จะเก็บอยู่ในปากกาฉีดอินซูลิน สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้อง (25 องศาเซลเซียส) ได้นานประมาณ 30 วัน หรือ 1 เดือนค่ะ

    [​IMG] ส่วนอินซูลินที่ยังไม่ได้เปิดใช้ หากเก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส หรือในตู้เย็นช่องแช่ปกตินั้น สามารถเก็บได้นานเท่ากับอายุยาข้างขวด แต่สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (ประมาณ 25 องศาเซลเซียส) ได้นานประมาณ 30 วัน อินซูลินที่เก็บในอุณหภูมิสูง เช่น กลางแดดจัด หรือที่อุณหภูมิต่ำมากๆ เช่น ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากยาเสื่อมคุณภาพ และไม่แนะนำเก็บที่ฝาตู้เย็น เนื่องจาก อาจทำให้อุณหภูมิไม่ค่อยคงที่ จากการปิด-เปิดตู้เย็น

    [​IMG] ในตอนน้ำท่วม ปัญหาที่พบก็คือ ไฟดับ ไม่มีตู้เย็น สำหรับแช่อินซูลิน เลยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ดิฉันตัดสินใจ พาแม่กลับบ้านต่างจังหวัด หนีน้ำท่วมไปค่ะ เรื่องยาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีข้อจำกัดมาก ควรศึกษาให้ดี และเตรียมความพร้อมไว้เสมอๆ แม้จะไม่เกิดเหตุภัยพิบัติใดๆ ค่ะ

    [​IMG] ที่เล่ามาทั้งหมดประเด็นสำคัญอยู่ที่ การรักษาเก็บรักษาอินซูลิน และ อินซูลินที่เสื่อมสภาพเป็นอย่างไร จึงขอสรุปเป็นข้อๆ ให้เพื่อนๆ ได้ดูง่ายขึ้นค่ะ

    [​IMG] การเก็บอินซูลิน
    เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ได้ 3 เดือน ไม่ต้องแช่แข็ง และวางไว้ที่อุณหภูมิห้องได้เป็นเวลานาน 1 เดือน ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำแข็งระหว่างเดินทาง ระวังมิให้ถูกแสงหรืออุณหภูมิที่ร้อนเกินไป ผู้ป่วยควรที่จะมีการสำรองอินซูลินไว้อย่างน้อยหนึ่งขวด
    [​IMG] ควรเก็บยาไว้ในตู้เย็น ห้ามแช่ในช่องแช่แข็ง เพราะทำให้อินซูลินเสื่อมสภาพ
    [​IMG] กรณีที่ไม่มีตู้เย็น ให้เก็บไว้ในกระป๋องที่มีฝาปิดมิดชิดแล้วแช่ในหม้อดินที่มีน้ำหล่ออยู่ต่ำกว่ากระป๋องเล็กน้อย
    [​IMG] กรณีเดินทางควรเก็บไว้ในกระเป๋าถึอติดตัว หลีกเลี่ยงการตากแดด ถ้าไม่แน่ใจให้แช่ในกระติกน้ำแข็ง
    [​IMG] ควรมีอินซูลินสำรองไว้หนึ่งขวดเสมอ

    [​IMG] อินซูลินที่เลยกำหนดวันหมดอายุหรือใช้เกินระยะเวลาที่กำหนดดังนี้
    [​IMG] ขวดที่ยังไม่เปิด เก็บไว้ในตู้เย็น ใช้ได้จนวันหมดอายุ
    [​IMG] ขวดที่เปิดใช้แล้ว เก็บในตู้เย็น ใช้ได้ 3 เดือนหลังเปิดขวด
    [​IMG] ขวดที่เปิดใช้แล้ว เก็บที่อุณหภูมิห้อง ใช้ได้ 1 เดือนหลังเปิดขวด
    [​IMG] ลักษณะของอินซูลินเปลี่ยนไป เช่นมีตะกอนค้าง หรือตะกอนแขวนลอยที่ก้นขวด


    ศึกษาเพิ่มเติม, ที่มาของข้อมูลบางส่วน และขอขอบคุณเว็บไซต์เหล่านี้ค่ะ Siriraj E-Public Library และ ชนิดของอินซูลิน insulin
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013
  18. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    เห็นพี่น้ำใสฯเล่าเรื่องงูชนิดต่างๆแล้ว เลยมาแจมนิดหน่อย
    ช่วงนี้หน้าฝน งูจะออกมาเพ่นพ่านเยอะ วันก่อนหมาที่บ้านแม่ถูกงูกัด
    แล้วไปรักษาได้ยาช้าไปเพราะ ตรงกับช่วงเวลาที่คลินิคปิด เลยไม่รอด
    นึกๆถึงคนเรา หากไปถึงรพ.ได้เซรุ่มช้า อาการคงไม่ต่างกัน

    มีสูตรสมุนไพรถอนพิษงู อยู่สูตรหนึ่ง ที่เราน่าจะพอหามาปลุกไว้ที่บ้านกันได้
    อย่างน้อยก็ช่วยลดพิษก่อนถึงรพ. กรณีที่ฉุกเฉินล่าช้า การเดินทางติดขัด
    เป็นสูตรหนึ่งใน6สูตรของ "หมอกุ" (ครูดำรงศักดิ์ ชุมแสงพันธ์)
    ที่ศูนย์กสิกรรมสมุนไพรไท อ.วังจันทร์ จ.ระยอง
    สมุนไพรเบญจพิษ มี 5อย่างดังนี้
    1.ฟ้าทลายโจร
    2.เสลดพังพอน ตัวผู้
    3.เสลดพังพอนตัวเมีย
    4.เถานาคราช
    5.ว่านหอมดำ(ว่านเศรษฐีมงคล)
    วิธีใช้ นำสมุนไพรทั้ง5ชนิด อย่างละเท่าๆกัน มาตำให้ละเอียด ผสมเหล้าขาว
    คั้นน้ำกิน นำกากมาพอกแผล
    **หากต้องการเก็บไว้นาน ให้นำสมุนไพรใส่ขวดสีชา เติมเหล้าให้ท่วมยา และแช่เย็นไว้

    สมุนไพร5ตัวนี้ สามารถปลูกได้ง่าย มีติดบ้านไว้เผื่อฉุกเฉินจำเป็นก็ดีค่ะ

    ได้เคยเขียนการดูแลผู้ถูกงูกัดด้วยสมุนไพร ไว้ในกระทู้ ท่านtoplus99
    ตามครรลองธุลีดิน หากคุณในนิมิตรสนใจอนุญาต จะcopyที่เคยเขียนมาลงไว้ที่นี่ค่ะ
     
  19. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ขอบคุณมากค่ะ คุณมณีจำปา ที่ได้กรุณาแบ่งปันประสบการณ์จริงในการเก็บรักษาอินซุลินอย่างถูกวิธี

    มีโอกาสได้ดูแลบุพการี ได้บุญแถมกุศลอีกตะหาก โมทนา สาธุ ด้วยจ๊า
     
  20. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    เป็นความรู้ใหม่สำหรับพี่น้ำใสฯ ค่ะ

    เคยได้ยินแต่คำว่า " พระเครื่องชุดเบญจภาคี" วันนี้มาได้ยินคำว่า " สมุนไพรเบญจพิษ" หุหุหุ แซวค่ะแซว

    เป็นสมุนไพรที่น่าสนใจมากนะคะ ถ้าจะกรุณาน้อง pegaojung ช่วย copyข้อมูลจากกระทู้ท่าน toplus99 มาแชร์ให้สมาชิกเราในห้องนี้ จะเป็นพระคุณมากค่ะ

    คิดว่า เจ้าของกระทู้คุณในนิมิตร คงอนุญาตแน่นอน จขกท.ใจดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...