เรื่องเด่น น้อมกราบสาธุ ครูบาบุญชุ่ม ประกาศละสังขาร พร้อมคำสั่งถึงศิษย์(คลิป)

น้อมกราบสาธุ ครูบาบุญชุ่ม ประกาศละสังขาร พร้อมคำสั่งถึงศิษย์


จากกรณีที่เมื่อวานนี้(6พ.ย.) ที่วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง (รัฐฉาน) พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอนเรือง ได้แสดงเทศธรรมะ ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อเสร็จสิ้น ครูบาบุญชุ่ม ได้กล่าวถึงเวลาที่ท่านจะละสังขารเมื่อไร เป็นภาษาไทยใหญ่อย่างชัดเจน พร้อมกับห้ามใครทำพิธีใดๆ ให้ โดยให้เอาร่างไว้ที่เมืองพง ไม่ว่าจะมรณภาพที่ไหนก็ตาม



ทั้งนี้ต่อมามีการแชร์ข้อความดังกล่าว โดยอ้างถึงคำพูดของครูบาบุญชุ่ม โดยกล่าวว่า เมื่อท่านตายแล้ว ห้ามทำพิธีใดๆ ทั้งนั้น เก็บไว้ 5 วันพอ ตายแล้วให้เอาไปไว้เมืองพง ไม่ว่าจะตายที่ไหน ห้ามเอาไปเมืองไทย ห้ามเอาไปที่ไหน ห้ามเผาให้เอาใส่โกฏิทำจากหินพม่า(หินขาวมัณฑะเลย์) ท่านจะนั่งตายแบบพระธิเบต

ตายวันไหนให้เอาใส่วันนั้นห้ามให้พ้นเวลา 9 โมงกลางคืน แล้วให้เอาน้ำผึ้งป่าใส่ทางปาก ระหว่าง 3 วันไม่ต้องปิดฝาโกฏิให้เอาน้ำมันผักกาดทาทั่วร่างกาย เมื่อครบ 3 วันก็ให้ปิดฝาโกฏิ ให้เก็บศพท่านที่วิหารภูฏาน 5 วัน เมื่อครบ 5 แล้วให้นำไว้ใกล้เจดีย์แม่แสงหล้า ท่านบอกว่า แม่อยู่ไหนท่านก็จะอยู่ตรงนั้น



ขณะที่เฟซบุ๊ก Sutiroj Tithapanachotiwattana ได้โพสต์ถึงพระครูบาบุญชุ่ม ที่ได้กล่าวถึงการละสังขารด้วย โดยมีรายละเอียดที่ระบุไว้ว่า

พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร หลังจากเทศธรรมะเสร็จ ได้กล่าวถึงเวลาที่ท่านละสังขารเมื่อไร กล่าวไว้เป็นภาษาไตยได้ชัดเจนมาก “ เมื่อท่านตายแล้วห้ามทำพิธีใดๆ ทั้งนั้น เก็บไว้ 5 วันพอ ตายแล้วให้เอาไปไว้เมืองพง ไม่ว่าจะตายที่ไหน ห้ามเผาให้เอาใส่โกฏิทำจากหินพม่า(หินขาวมัณฑะเลย์) ท่านจะนั่งตายแบบพระธิเบต ตายวันไหนให้เอาใส่วันนั้นห้ามให้พ้นเวลา 9 โมงกลางคืน แล้วให้เอาน้ำผึ้งป่าใส่ทางปาก ระหว่าง 3 วันไม่ต้องปิดฝาโกฏิให้เอาน้ำมันผักกาดทาทั่วร่างกาย เมื่อครบ 3 วันก็ให้ปิดฝาโกฏิ ให้เก็บศพท่านที่วิหารภูฏาน 5 วัน เมื่อครบ 5 แล้วให้นำไว้ใกล้เจดีย์แม่แสงหล้า ท่านบอกว่า แม่อยู่ไหนท่านก็จะอยู่ตรงนั้น” สาธุ สาธุ สาธุ รับทราบโดยทั่วกัน





After he had given a sermon, Phra Krubapor Boonchoom Yanasangwaro disclosed in the Tai language about when he will leave the physical body. He clearly stated that after his passing, do not organize any ceremony. Keep his body for 5 days after passing, and then bring his body to Muang Pong for keeping. It doesn’t matter where he passed away. Do not cremate his body, but put his body into a coffin made of Burmese marble (Mandalay white marble).

He will pass away in a sitting position, just like Tibetan monks. On the day of his passing, put his body into the coffin right away, do not exceed 9PM. After this, put honey from the forest into his mouth. Do not close the coffin for 3 days and during these time, rub radish seeds oil all over his body.

After the 3 days, close the coffin and keep his body in the Bhutan Viharn for 5 days. After the 5 days, keep his body near the Chedi of Mae Sangla. He said that wherever Mae is, that’s where he’ll be. Satu Satu Satu!



ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Sutiroj Tithapanachotiwattana


https://clip.tnews.co.th/clip_1541563183_2834.mp4


--------------------
ขอบคุณที่มา
https://www.tnews.co.th/contents/483116

 

วันที่เท่าไหร่ เดือนไหน ปีไหนนะค่ะ ไม่เห็นระบุวันที่แน่ชัดเลย ใครรู้ช่วยบอกด้วยค่ะ ฟังภาษาไทยใหญ่ไม่ออก มีแต่ระบุว่าเมื่อถึงเวลาละสังขารแล้วให้ดำเนินตามที่สั่งไว้ เมื่อท่านเทศน์เรื่องมรณานุสติ เป็นไปได้ไหม!! ค่ะว่า เป็นการยกตัวอย่างว่าไม่อย่างไร ทุกคนล้วนแต่ต้องเดินทางไปความตายอย่างแน่นอนไม่วันใดวันหนึ่งข้างหน้า ไม่เว้นแม้แต่ใครผู้ใด แม้แต่ผู้พูด ประมาณนี้นะค่ะ ก็เลยสั่งเป็นการล่วงหน้าไว้ เพราะคนเราไม่รู้วันตายได้ ว่าต้องตายเมื่อไหร่? ตายอย่างไร? และตายที่ไหน! แต่ให้เตรียมพร้อมกับการตายได้ตลอดเวลานะค่ะ

หากมีข้อมูลยืนยันวันตายที่แน่นอนว่าละสังขารจริง ๆ ขอทราบวันกำหนดที่แน่นอนและชัดเจนด้วยนะค่ะ

 

เป็นเหมือนคำสั่งเหมือนพินัยกรรมครับ แต่วันตายท่านคงระบุแน่นอนไม่ได้เพราะถ้าเบื้องบนเห็นว่าสังขารท่านยังไหวก็คงช่วยให้ท่านอยู่ ช่วยสงเคราะห์คนไปก่อน จนกว่าสังขารจะเสื่อมโทรมไม่ไหวแล้วโน่นแหละครับ

 

คิดเหมือนคุณจิตยิ้มระดับครูบาบุญชุ่มท่านคงไม่มาบอกวันตายแบบนี้หรอก พาดหัวข่าวหัวเรื่องแบบนี้เดี๋ยวกะมีคนมาโจมตีท่านอีก อ่านจากเนื้อหาข่าวแล้วคือท่านสั่งไว้ต่างหากว่าหากท่านมรณภาพให้จัดการศพอย่างไร ท่านบอกก่อนก็ดีกันความวุ่นวายภายหลัง เหมือนกับบางท่านที่เราได้อ่านข่าวต่างๆ ว่าเกิดกรณีแย่งศพท่านกันอีก