+++ นรก-สวรรค์ ตามพระไตรปิฎก+++

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 22 กรกฎาคม 2005.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ที่จริงแล้วสรรค์นรกมีมาตั้งนานแล้ว แต่พระพุทธเจ้าเป็นเป็นค้นพบเท่านั้น ไม่ว่าเราจะทำดีหรือชั่วก็ตาม ความดีหรือชั่วนั้นจะติดอยู่ในใจของผู้ทำและรอโอกาสส่งผลตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาตายภาพเหล่านั้นจะมาปรากฏให้เห็นเป็นกรรมนิมิตเมื่อตายไปกายละเอียดจะหลุดจากกายหยาบในที่สุด ในช่วงนั้นเองเราถึงรู้ว่านรก สวรรค์มีจริง ส่วนใหญ่จะเพิ่งรู้ตอนตาย 1-7วันหลังตาย วนเวียนในโลก 50วัน กายละเอียดอยู่ที่ลานพิพากษา
    100 วันอยู่หน้าบัลลังก์พญายมราชช่วงนี้ญาติอุทิศบุญไปให้ได้ เช่นกรวดน้ำ ถ้าใจหมอง เช่นกินเหล้าแล้วโดนสึนามิก็ไปนรกทันที ถ้าใจใส ไปสวรรค์ทันที ถ้ากลางๆไปยมโลกตามที่กล่าวอยู่ที่นั้นกายเปลือยทุกคน คนมีบุญจะมีรัศมีกายสว่างเรืองรองมีเสื้อผ้าด้วย
    นรกตามพระไตรปิฏกแบ่งออกเป็นหลายชั้น
    พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าคนที่ตกนรกเหมือนผุ่นในอากาศส่วนผู้ที่จะไปสวรรค์เป็นเพียงฝุ่นในเล็บมือเท่านั้น ผู้ที่ตกนรกจะไม่มีโอกาสมาเป็นมนุษย์ได้เลยถ้ามีก็จะมีโอกาสน้อยมาก
    นรกแบ่งออกเป็นดังนี้
    1.สัญชีวนรก ผิดศีลข้อ 1 ฆ่าสัตว์ นรกขุมนี้เป็นนรกที่คนไปกันมากรองจากขุม 5
    2.กาฬสุตนรก ผิดศีลข้อ 2 อทินนา ลักทรัพย์นั้นเอง
    3.สังฆาตนรก ผิดศีลกาเม ระวังไว้คนที่แย่งสามีผู้อื่น
    4.โรรุวนรก ผิดศีลข้อ 4 พูดเท็จ
    5.มหาโรรุวนรก ดื่มน้ำเมา คนไปมากที่สุด เพราะดื่มน้ำเมาโดยไม่รู้ว่ามีวิบาก ถึงแม้ว่าศาสนาใดก็ตามก็ต้องไปนรกทั้งสิ้น
    6.ตาปนรก เล่นการพนัน
    7.มหาตาปนรก เที่ยวกลางวัน-คืน
    8.อเวจีนรก คนที่ทำกรรมหนัก ฆ่าบิดามารดา ทำให้พระปัจเจกต้องมีโลหิต เป็นต้น และมีขุมต่างๆอีกมาก พอสังเขปเพียงเท่านี้นะครับ มีคำถามว่ายมบาลพูดภาษาอะไรในนรก-สวรรค์ มันเป็นภพละเอียดพูดภาษาเดียวกันเข้าใจกันได้หมด บุญ-บาปอยู่ในใจผู้ทำ กลางกายจะบันทึกทุกอย่างแม่นยำ ในนรกมีเวลามากกว่ามนุษย์โลกเป็นล้านปีจริงตามพระไตรปิฏกต้องเข้าใจว่ามันเป็นภพละเอียด แม้น้ำกรดที่นั้นยังแรงกว่าในมนุษย์หลายเท่าทุกศาสนามีเหมือนกัน และมีมานานแล้วและจะมีต่อไปแม้พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยตกนรกมาก่อน ก่อนจะตรัสรู้ในเวลาต่อมา อุปกรณ์การลงโทษเกิดขึ้นด้วยวิบากกรรมของตนเองทั้งสิ้นยิ่งมีกรรมมากตัวจะใหญ่และมีอายุมากด้วยมีทุกข์มากตายเกิดหลายครั้ง มีนายนริยบาลเกิดด้วยกรรมของตนมาฆ่าตนเอง แม้สิ้นกรรมไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานตามลำดับ กว่าจะมาเป็นคน แม้เป็นคนยังทำชั่วอีกก็ไปอีก เป็นวงเวียน ในนั้นมืดไปหมด ยกตัวอย่างคนที่มีกรรมสุรา ขวดที่เคยกินในตอนมนุษย์ แม้ตายไปขวดนั้นจะเหมือนเดิม แต่เป็นน้ำกรดทองแดงร้อน เข้าสู้ร่างกายไปตามอวัยวะ จนตัวพองและแตก ไปทุกทิศทาง กรรมบีบให้รับรู้ความเจ็บปวดทุกความรู้สึก แม้นิ้วที่หลุดออกไปแล้วก็ยังรู้เหมือนต่อด้วยกัน ทั้งนี้เพราะกรรมบีบให้รับรู้ ไม่เหมือนมนุษย์เจ็บนิดเดียวหลุดแล้วหลุดเลย เมื่อกายแตกกระจายจะต่อกันใหม่อีกจนหมดกรรม ไปยมโลกโดนน้ำทองแดงอีกแต่เบากว่า ไปเป็น เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน คนบ้า คนปัญญาอ่อน กรรมเบาลงอีก เกิดในครอบครัวที่มีคนกินเหล้า เป็นลูกเป็นคนบ้า และเกิดไปคนปกติถ้าไปกินเหล้าอีกก็เข้าวงจรเดิม
    มาดูสวรรค์บ้างคับ
    1.จาตุมหาราชิกา ทำบุญค่อนข้างมาก ใจใสพอสมควรหน้าตาสวยงามกว่า วิมานทอง มีเกย์ ทอม ดี้ แม้พวกเพศที่3 จะทำลบุญมากแค่ไหนจะมาได้แค่จาตุชั้นเดียวมีราชรถมัรัศมีกายมีความสุขด้วยทิพยสมบัติมากมายด้วยบุญอันละเอียด เลิศกว่ามนุษย์มาก มนุษย์มีหน้าที่สร้างบุญเท่านั้นเอง คนไปกันมากที่สุดกว่าทุกๆชั้น
    ชั้น 2. ดาวดึงส์สูงกว่าจาตุอีกทุกอย่างละเอียดสุขเลิศกว่าจาตุ ศีล 5 บริสุทธิ์ มีแต่ ชญ
    3.ยามา คนไปน้อยลง
    4.ดุสิต พระพทุทธเจ้าเคยอยู่ชั้นนี้ก่อนตรัสรู้ คนอยู่ชั้นนี้รู้บุญบาป อย่างดี
    5.นิมมานรดี รักษาศีล 8 ตลอดชีวิต ทำบุญตลอดชีวิต ใน 2000 คนมาแค่ 5 คนโดยประมาณ ใจใสมากก่อนตาย นางวิสาขาอยู่ชั้นนี้ด้วย
    6.ปรนิมสววัตตี สูงสุด 2000 มา 1 คนโดยประมาณ
    สรุปสวรรค์มี 6 ชั้นตามพระไตรปิฏก
    7.รูปพรหมผู้ที่ติดในญาณ ในตอนนั่งสมาธิ ไม่หลงในรุปรสกลิ่นเสียงเหมือนสวรรค์ มีความสุขเลิศกว่าสวรรค์ทุกชั้น
    8.อรูปพรหม หลงในญาณเล็กน้อย เกือบถึงนิพพาน
    9. นิพพานไม่มีกิเลสอีก มีธรรมเป็นความสุข หลุดออกจากไตรภูมิ ไม่เกิดอีก ไม่แปรปรวนไปมา เคยทำบุญมานับชาติไม่ถ้วน ตามบุญกริยาวัตถุ10

    เข้าใจใหมคับ

    คนที่ไม่ทำบาป ไม่ทำบุญ ไปเกิดเป็นภุมเทวา ความเป็นอยู่คล้ายมนุษย์แบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นต่ำ อดอยาก ไม่มีบุญ
    ชั้นกลาง พอๆมนุษย์ ชั้น สูง ดีกว่ามนุษย์ มีตามศาลเจ้าเพราะติดยึดมากเกินไป ตามที่ดินของตน บ้านของตนเป็นต้น

    อากาศเทวา เกือบถึงจาตุต้องการบุญอีกนิดเดียว วิมานเป็นเงินสูงกว่าภุมมเทวา ถ้าบุญมากอาจเป็นทอง

    ผี ชอบเข้าทรงเจ้าใจ หมองก่อนตาย ไม่มีบุญ มีบาปหนาแต่ไม่ถึงที่จะไปนรก

    เรียงตามลำดับความสุขและความใสของใจจากสูงสุดไปต่ำสุดดังนี้

    นิพพาน
    อรูปพรหม
    รูปพรหม
    สวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี หลงในรูปรสกลิ่นเสียง ในสวรรค์ทุกชั้น
    5.นิมมานนรดี
    4.ดุสิต
    3.ยามา
    2.ดาวดึงส์
    1.จาตุมหาราชิกา
    รุกขเทวา เทวดาตามต้นไม้บนโลก
    อากาศเทวา
    ภุมเทวา มีสูง กลาง ต่ำ
    มนุษย์
    ผี
    เปรต
    อสุรกาย
    ยมโลก
    ขุม 1 ฆ่าสัตว์ สัญชีวนรก
    2.ลักขโมย กาฬสุตนรก
    3.กาเม สังฆาตนรก
    4.โกหก โรรุวนรก
    5.สุรา มหาโรรุวนรก คนไปมากที่สุด
    6.การพนัน ตาปนรก
    7.เที่ยวกลางวัน-คืน มหาตาปนรก
    อเวจี
    โลกัตนรก
    พอเข้าในไหมคับ
    มาดูกฏแห่งกรรมบ้าง
    1. อายุยืน ไม่ฆ่าสัตว์ในชาติที่ผ่านมา ให้สัตว์เป็นทาน ทำทานด้วยยารักษาโรค
    2.รวย บริจาคทานมากเหมือนพวกฝรั่งนั้นเอง รวยมากๆ
    3.หน้าตาดี รักษาศืล สร้างพระพุทธรุป ถวายเสื้อผ้าเป็นต้น
    4.ตัวดำ ผมหยิก กรรมมักโกรธ
    5.โลหิตจาง ออกเงินกู้ดอกโหด
    6.ฉลาด ส่งเสริมการศึกษา นั่งสมาธิ
    7.โรคหัวใจ เคยพูดเจ็บๆแสบๆ กรรมฆ่าสัตว์
    8.ภูมิแพ้ พูดให้คนอื่นเจ็บปวด กรรมปานาติบาตเล็กน้อย
    9.ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำทานตลอดชีวิต
    10.เป็นผู้นำ ไม่อิจฉาผู้อื่น
    11.ไม่มีพ่อแม่ กำพร้าพ่อแม่ ไม่มีกรรมดูแลบิดามารดา หรือเคยพูดว่าไม่อยากมีพ่อแม่แล้ว เลยเป็นกรรมติดมา
    12.หน้าเป็นปานแดง ดำ เคยทิ้งขยะที่วัด ทำให้วัดสกปรก
    13.เป็นผู้หญิง มีกรรมเจ้าชู้
    14.เป็นเกย์ กรรมเจ้าชู้สูงกว่าผู้หญิง
    15. ทอมดี้ สูงกว่าเกย์ และหญิง
    16.พวกนิโกร คือพวกที่มีกรรมมักโกรธสุงๆๆๆมากๆ
    17.เป็นบ้า ปัญญาอ่อน ดื่มสุรา
    18.เป็น หมา กรรมเจ้าชู้ เป็นเศษก่อนมาเป็นคน
    19มะเร็งเต้านม มดลูก เจ้าชู้
    20.มะเร็ง ตับ ปอด ลำไส้ กรรมปานาติบาต
    21.ไต ออกเงินกู้ดอกโหด
    22.ฆ่าตัวตายเคยฆ่า ตัวตายมาก่อน พูดให้คนอื่นเจ็บจนฆ่าตัวตาย
    23.มีญาติ พ่อแม่ ขี้เมา เคยเลี้ยงเหล้าและซื้อเหล้า เป็นนาย-นางแบบถ่ายโฆษณาเหล้า
    24เกิดในตระกูลสูง บูชาบุคคลที่ควรบูชา
    25.มีบริวารมากและเป็นคนดี เคยชวนคนทำความดี
    26.อุบัติเหตุกรรมปาณาติบาตรุนแรง หลายชาติมาส่งผล
    27.เคยมีทรัพย์สิน และถูกทำลายโดยธรรมชาติ โดยไฟเผา เคยลักขโมย หรืออาจเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากมิจฉาอาชีพ เช่นขายเหล้า ขายตัว ทรัพย์ที่ได้มาจะวิบัติถ้าไม่วิบัติชาตินี้ก็วิบัติชาติหน้า
    28.เกิดในชนบท มีทิฐิมานะ หยิ่ง
    29.ผิวดี ทำทานด้วยเสื้อผ้า
    30.มีแต่เพื่อนชั่วๆ คบคนพาล
    31.สัตว์ที่ดุร้ายเช่นเสือ มีกรรมปานาติบาตปนโทสะ
    32.ฟันไม่สวยเหยิน ปากไม่ดี พูดโกหกชอบว่าเพื่อนจนเพื่อนเจ็บใจ กรรมมาสนองคนว่าเอาบ้างเป็นต้น
    33.เอดส์ กรรมเจ้าชู้รวมกับฆ่าสัตว์
    อยากให้ชาวพุทธอ่าน บางคนเป็นชาวพุทธแต่ชื่อเท่านั้น
    ไม่รู้เลยว่านรก สวรรค์นั้นมีจริง เพราะมีในไตรปิฏก พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบซึ่งมีมานานแล้วเป็นของสากลตามหลักเหตุผล ทุกๆอย่าง แม้คนยุโรปยังเริ่มทราบและมานับถือศาสนาพุทธเพราะเป็นกลางมีเหตุผล ชาวพุทธอยากไปจะศาสนาอื่น เพราะไม่เคยศึกษาเอง
    ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า
    ความชั่วย่อมเผาผลาญในภายหลัง
    ตราบใดที่บาปยังไม่ให้ผล
    คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน
    แต่เมื่อบาปให้ผลเมื่อใด
    คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น

    ถ้าท่านกลัวทุกข์ ถ้าท่านไม่รักทุกข์
    ก้อย่าทำบาปกรรม ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ

    ชนเหล่าใดประพฤติกรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว
    ชนเหล่านั้นจะข้ามแดนมฤตยูที่ข้ามได้ยาก

    ชีวิตสุดสุดลงที่ความตาย
    ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ คนพาลและบัณฑิต
    ทั้งคนมีทั้งคนจน
    ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า

    เมื่อตายแล้วสมบัติสักนิดก็ไม่ติดไป
    หมายเหตุ ยกเว้นบุญ ทาน ศีล ภาวนา บาป ผิดศีล 5

    ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว
    ย่อมสงเคราะห์ญาติ
    เพราะการสงเคราะห์นั้น
    เขาย่อมได้รับเกียรติ
    ละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์

    จงเตรียมการให้พร้อมสำหรับอนาคต

    เมื่อความบากบั่นมีอยู่
    บัณฑิตพึ่งเว้นบาปในโลกนี้เสีย
    เหมือนคนมีจักษุ
    เว้นเดินทางอันไม่สะดวกเรียบร้อย.

    (จาก http://board.dek-d.com/board/view.php?id=411649 )
    [b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2005
  2. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
    ถ้าคิดเสียว่า " สวรรค์ในอก นรกในใจ "
    ถือว่า เป็น " มิจฉาทิฐิ " ไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ไม่เป็นมิจฉาทิฐิหรอกค่ะ คิดอย่างที่คุณ chanin พูดก็ถูก มันเป็นความหมายที่พูดในเชิงเปรียบเทียบว่า แท้ที่จริงแล้ว ความสุขความทุกข์นั้น ก็ไม่ได้ไกลจากเราเลย แต่มันอยู่ที่การกระทำของเราต่างหาก เราจะทำดีทำชั่ว สวรรค์หรือนรกก็อยู่ในใจเราเอง สวรรค์ ก็เปรียบเหมือนความสุขเมื่อเราทำความดี ส่วนนรกคือความทุกข์เมื่อเราทำความชั่ว แต่ก็ต้องรู้ว่า สวรรค์หรือนรก จริงๆนั้นก็มีนะคะ และมีผู้ไปเห็นมาแล้ว...

    มิจฉาทิฐิเท่าที่ก้อยทราบมานั้น หมายถึง เข้าใจหรือเห็นผิดไปจากทำนองคลองธรรมค่ะ เช่น ไม่เชื่อว่า กฏแห่งกรรมมีจริง ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า ไม่เชื่อว่ามีพระพุทธเจ้าอยู่จริง ไม่เชื่อเรื่องบุญ-บาป แต่อย่างที่คุณ chanin พูดนั้น "ไม่ถือ" ว่าเป็น มิจฉาทิฐิค่ะ.
     
  4. Sittirat

    Sittirat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +821
    1) คำพูดที่ว่า "สวรรค์ในอก นรกในใจ" มันเหมือนกับเป็นการพูดปลอบใจตัวเองน่ะครับ เพราะกลัวอกุศลกรรมที่ตัวเองก่อไว้ และกลัวว่าจะต้องไปชดใช้กรรมใน อบายภูมิ อันมี นรก-อสูรกาย-เปรต-เดรัจฉาน ...คนสมัยนี้จึงมักพูดปลอบใจตัวเองว่า "สวรรค์ในอก นรกในใจ"
    2) คำพูดที่ว่า "สวรรค์ในอก นรกในใจ" ไม่ถือว่าเป็น มิจฉาทิฐิครับ ...แต่ถ้ามีความคิดเห็นว่า นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี อันนี้เป็น มิจฉาทิฐิ แน่นอนครับ ...และผลที่จะได้รับจากการคิดเห็นเช่นนี้ คือไปนรกสถานเดียวครับ.
     
  5. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ความรู้บางอย่างเพิ่มเติมดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...