ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: แพนด้ายักษ์ ‘เอ้อซุ่น’ คลอดลูกแพนด้าแฝดในสวนสัตว์ฉงชิ่ง
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา สวนสัตว์ฉงชิ่งประกาศว่าแพนด้ายักษ์เอ้อซุ่นได้ให้กำเนิดลูกแฝดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่สวนสัตว์ในเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และขณะนี้ลูกแพนด้ายักษ์ทั้งสองมีสุขภาพแข็งแรงดี
    .
    สวนสัตว์ฉงชิ่งรายงานว่าแพนด้ายักษ์เอ้อซุ่นได้ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติกับแพนด้ายักษ์เพศผู้ตัวหนึ่ง ที่ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยแพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีนในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
    .
    ลูกแพนด้ายักษ์ทั้งสองมีน้ำหนักแรกเกิด 132 และ 91 กรัมตามลำดับ และเพิ่มเป็น 420 และ 257 กรัมในตอนนี้ โดยนี่นับเป็นการคลอดลูกแพนด้าแฝดสองตัวครั้งที่ 2 ของเอ้อซุ่นแล้ว
    .
    แพนด้ายักษ์เอ้อซุ่นเกิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2007 เธอเคยเป็นทูตมิตรภาพและอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์โทรอนโตและสวนสัตว์คาลการีของแคนาดา ระหว่างเดือนมีนาคม 2013 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2020
    .
    อนึ่ง ปัจจุบันสวนสัตว์ฉงชิ่งเป็นบ้านของแพนด้าทั้งหมด 21 ตัว โดยสวนสัตว์แห่งนี้เริ่มเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ในช่วงปี 1960
    .
    #TheStandardNews

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: เกาหลีใต้เผยยอดผู้เสียชีวิต-สูญหาย เหตุน้ำท่วมใหญ่กรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ พุ่ง 16 ราย
    .
    ทางการเกาหลีใต้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกหนักในกรุงโซลและหลายจังหวัดโดยรอบ ล่าสุดวันนี้ (10 สิงหาคม) ยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน และสูญหาย 7 คน โดยในกรุงโซล มีรายงานผู้เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 5 คน สูญหาย 4 คน ส่วนที่จังหวัดคยองกี ซึ่งอยู่ใกล้เคียง พบผู้เสียชีวิต 3 คน สูญหาย 3 คน และในจังหวัดคังวอน พบผู้เสียชีวิต 1 คน
    .
    จากการตรวจสอบพบว่า มีอาคารและบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมรวมมากกว่า 2,600 หลัง ขณะที่มีประชาชนราว 570 คน จาก 378 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และเข้าพักในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการจัดเตรียมให้ นอกจากนี้ พบว่ามีประชาชนกว่า 1,200 คน จาก 724 ครัวเรือนทั่วประเทศที่ต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว
    .
    ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี (Korea Meteorological Administration) รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนในกรุงโซล ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงเช้าวันนี้ อยู่ที่ 525 มิลลิเมตร โดยที่เขตยังพยอง ในจังหวัดคยองกี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลราว 45 กิโลเมตร วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงสุดถึง 526.2 มิลลิเมตร
    .
    ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยังทำให้เกิดน้ำท่วมทางรถไฟในเขตกรุงโซลอย่างน้อย 6 จุด ส่งผลให้ต้องระงับการให้บริการรถไฟ และรถไฟใต้ดินชั่วคราวในบางเส้นทาง
    .
    อย่างไรก็ตาม รถไฟใต้ดินสายหลักของกรุงโซล และบริการสาธารณะส่วนใหญ่ ตลอดจนทางด่วนภายในเมือง เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี ได้ยกเลิกประกาศเตือนฝนตกหนักในกรุงโซลและเมืองอินชอนแล้ว แต่ยังคงประกาศเตือนในจังหวัดชุงชอง ทางภาคกลาง ที่คาดว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนราว 50-80 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
    .
    ภาพ: YONHAP / AFP
    .
    #TheStandardNews #น้ำท่วมเกาหลีใต้ #น้ำท่วมโซล

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ‘หนังสยองขวัญ’ อาจเป็นทางออกในการหารายได้สำหรับ Netflix ท่ามกลางคำถาม หนังฟอร์มยักษ์คุ้มกับการลงทุนหรือไม่?
    .
    ยักษ์ใหญ่บริการสตรีมมิงอย่าง Netflix กำลังประสบปัญหาการเงิน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการทุ่มเงินอย่างมหาศาลไปกับภาพยนตร์แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์อย่าง ‘The Grey Man’ และ ‘Red Notice’ และทั้งสองเรื่องทำเงินให้บริษัทไปเรื่องละ 200 ล้านดอลลาร์
    .
    แม้ภาพยนตร์พวกนี้เป็นก้าวแรกในการจุดประกายแฟรนไชส์ระดับตำนาน แต่ค่าใช้จ่ายในการผลิตนั้นสูงลิ่ว และยังไม่ชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อกำไรของ Netflix
    .
    ขณะที่ผลงานยอดฮิตอย่าง ‘Stranger Things’ ซีรีส์ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติที่ซ่อนความสยองขวัญเอาไว้ได้กลายเป็นมาตรฐานทางวัฒนธรรมไปเรียบร้อยแล้ว และล่าสุดได้เปิดตัวซีซันที่ 4 สร้างแรงบันดาลใจให้กับชุดฮาโลวีนและวิดีโอเกมทั้งหลาย กับจักรวาลที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด
    .
    แม้ตัวซีส์จะใช้งบประมาณใกล้เคียงกับภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง (ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ต่อซีซัน) ทว่าความสำเร็จของมันทำให้บางคนในอุตสาหกรรมตั้งคำถามกับ Netflix ว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์นั้นคุ้มค่ากับการลงทุนของบริษัทหรือไม่
    .
    คู่แข่งของ Netflix ส่วนใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านเนื้อหาแล้ว เพื่อลดค่าใช้จ่ายกับเนื้อหาที่ลงสตรีมมิงอย่างเดียว โดย เดวิด ซาสลาฟ ซีอีโอของบริษัท Warner Bros. Discovery กล่าวว่า บริษัทของเขาไม่สามารถหา ‘มูลค่าทางเศรษฐกิจ’ ให้กับการผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เพื่อลงสตรีมมิงอย่างเดียวได้
    .
    “โชคดีที่เราเห็นแล้วว่าภาพยนตร์ที่ลงสตรีมมิงอย่างเดียวนั้นเป็นอย่างไร” เขากล่าวระหว่างการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 “โดยข้อสรุปของเราคือราคาของหนังที่ลงสตรีมมิงอย่างเดียวนั้นเทียบไม่ได้กับภาพยนตร์ที่เปิดตัวในโรงภาพยนต์”
    .
    สำหรับ Netflix นั้นไม่ค่อยปล่อยภาพยนตร์ลงโรงเท่าไรนัก เว้นแต่ต้องการสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานประกาศรางวัล บริษัทจึงกำหนดงบผลิตภาพยนตร์บนพื้นฐานที่ว่าต้องการเพิ่ม Subscription เท่านั้น
    .
    นั่นเป็นเหตุผลที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าภาพยนตร์สยองขวัญจะเป็นทางออกในการหารายได้สำหรับ Netflix โดย ‘Get Out’ ของสตูดิโอ Blumhouse และ Universal นั้นมีทุนสร้างเพียง 4.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก
    .
    ขณะที่บริษัทวางแผนจะพัฒนา ‘The Grey Man’ ให้กลายเป็นภาพยนตร์ระดับแฟรนไชส์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาบริษัท Creative Media อย่าง Peter Csathy กล่าวว่า Netflix กำลังมองข้ามโอกาสในการสร้างภาพยนตร์ระดับแฟรนไชส์กับภาพยนตร์สยองขวัญ ที่อาจช่วยให้ Netflix ประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อเรื่อง
    .
    “ต้นทุนของภาพยนตร์สยองขวัญนั้นเป็นส่วนเล็กส่วนน้อยของการเดิมพันขนาดใหญ่ของบริษัทเท่านั้น” เขากล่าว “แล้วทำไมไม่ลองซื้อของราคาถูกที่สามารถเจาะใจกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ล่ะ ทำไมไม่ไปลงทุนกับมัน แทนที่จะลงทุนกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มากมายนั่น”
    .
    เขายังกล่าวอีกว่ากลุ่มเป้าหมายของภาพยนตร์สยองขวัญนั้นอายุยังน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ให้บริการสตรีมมิงต้องการเจาะ
    .
    ที่ผ่านมา Netflix ประสบความสำเร็จอย่างมากกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญของตน เช่น ภาพยนตร์ไตรภาคอย่าง ‘Fear Street’ พร้อมทั้งผลงานต้นตำหรับอย่าง ‘No One Gets Out Alive’ และ ‘There’s Someone Inside Your House’
    .
    อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งของการตรวจสอบรายได้ของ Netflix นั้นขาดตัวชี้วัดที่ชัดเจนกับการประเมินประสิทธิภาพของการสตรีมภาพยนตร์และรายการครั้งแรก
    .
    ต้นทุน 200 ล้านดอลลาร์ของภาพยนตร์ ‘The Grey Man’ นั้นอธิบายได้ยากขึ้น เมื่อไม่มีกำไรที่มองเห็นได้เมื่อจบขั้นตอนการผลิตเหมือนอย่างที่สตูดิโอผลิตภาพยนตร์เห็นยอดขายตั๋ว Box Office โดยผู้สมัครรับบริการสตรีมมิงนั้นจ่ายรายเดือนหรือรายปีเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ของแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ Netflix นั้นแย้งว่าคอนเทนต์ของบริษัทคือสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ยังอยู่กับแพลตฟอร์ม
    .
    และยังไม่ชัดเจนว่าต้นทุนของภาพยนตร์ไตรภาคอย่าง ‘Fear Street’ นั้นมีต้นทุนเท่าใด ซึ่งข้อมูลประสิทธิภาพของภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มนั้นมีจำกัด แต่จากการคาดการณ์ของบริษัทผู้ให้ข้อมูลอย่าง Nielsen ภาพยนตร์อย่าง ‘Fear Street 1994’ สร้างเวลาดูของผู้ชมได้ 284 ล้านนาทีในช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดตัว และ ‘Fear Street 1978’ ทำได้ 229 ล้านนาที โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลของ ‘Fear Street 1666’
    .
    ผู้เชี่ยวชาญด้านความบันเทิงหลายคนพยายามหาวิธีคำนวณจากชั่วโมงการดูไปเป็นรายได้ การรักษาลูกค้า และความแข็งแกร่งของ Netflix แต่วิธีการที่บริษัทไฟเขียวหรือยกเลิกรายการไหนยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักวิเคราะห์
    .
    “เห็นได้ชัดว่า Netflix มีวิธีการคำนวณข้อมูลที่พวกเขาเชื่อว่าตรงที่สุด ที่ไว้ตัดสินว่าอะไรสำเร็จและไม่สำเร็จ” แดน เรย์เบิร์น นักวิเคราะห์สื่อและสตรีมมิงกล่าว โดยทั้งนี้วิธีการคัดเลือกเนื้อหาของ Netflix เรย์เบิร์นกล่าวว่าตอนนี้ข้อมูลยังไม่เพียงพอ แต่จะมีมากขึ้นเมื่อผู้ให้บริการสตรีมมิงย่างกายเข้าสู่ธุรกิจโฆษณา
    .
    #TheStandardWealth
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ส.ว. กลับมติ กมธ. ร่าง พ.ร.บ.อุ้มหาย หลังเสนอตัดความหมาย ‘กระทำที่โหดร้าย ย่ำยีศักดิ์ศรี’ ออกจากคำว่า ‘ผู้เสียหาย’
    .
    วานนี้ (9 สิงหาคม) การประชุมวุฒิสภา มีการพิจารณาการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย รายมาตราในวาระที่ 2 ของวุฒิสภา หลังจากที่กรรมาธิการ (กมธ.) ไปพิจารณาแก้ไขรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านความเห็นชอบแล้ว ซึ่งมีการถกเถียงอย่างมากในมาตรา 3 ที่แก้ไข 2 ประเด็น คือ จาก คำว่า ‘ผู้เสียหาย’ เป็น ‘ผู้ได้รับความเสียหาย’
    .
    รวมถึงมีการแก้ไข นิยามความหมายของ ‘ผู้ที่ได้รับความเสียหาย’ ที่ระบุว่า “เป็นบุคคล ซึ่งได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายและจิตใจจากการทรมาน การกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย และให้หมายความรวมถึง สามี ภริยา บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยา ซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้อุปการะและผู้อยู่ในอุปการะ ของผู้ถูกกระทำให้สูญหาย”
    .
    โดย กมธ.วุฒิสภา ได้เสนอตัดถ้อยความที่ระบุว่า “การกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ออก และให้เหตุผลว่าไม่มีความชัดเจน และจะกระทบถึงมาตราอื่นที่กำหนดลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดและบทกำหนดโทษด้วย
    .
    ซึ่ง พล.ต.อ. ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธาน กมธ. ได้ชี้แจงว่า ทั้ง 3 คำที่ตัดออกจากคำนิยามในมาตรา 3 เป็นผลมาจากการตัดมาตรา 6 ทั้งมาตรา ซึ่งมาตรา 6 เป็นการกำหนดห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ทั้ง 3 คำเป็นคำที่อธิบายยาก จะมีปัญหาในทางปฏิบัติ ว่าจะมีขอบเขตการตีความอย่างไร ถึงจะเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
    .
    อีกทั้งคำนิยามคำว่าผู้เสียหายดังกล่าวยังแตกต่างไปจากคำว่าผู้เสียหายตาม กฎหมายอาญา ซึ่งระบุไว้ครอบคลุมอยู่แล้วว่าผู้เสียหาย หมายถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่งตามกฎหมาย
    .
    และการร่างกฎหมายฉบับนี้ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ ที่ไทยได้ลงนามสัตยาบันไว้ แต่ในอนุสัญญาดังกล่าวไม่ได้กำหนดว่าการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต้องออกเป็นกฎหมาย เพียงแต่กำหนดให้มีมาตรการป้องกันเท่านั้น เพราะมีกฎหมายอื่น รองรับการกระทำความผิดอยู่แล้ว
    .
    นอกจากนี้ถ้าไปดูโทษความผิด ตามมาตรา 6 ที่ตัดไป กำหนดโทษไว้เบามาก จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และเป็นความผิดที่อยู่ในอำนาจเพียงศาลแขวง ทั้งที่ความผิดการกระทำที่โหดร้ายตามกฎหมายอาญามีโทษหนัก และรุนแรงกว่าปกติอยู่แล้ว
    .
    ด้าน พล.อ.ต. เฉลิมชัย เครืองาม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายคัดค้าน ว่าการที่ กมธ. ตัดคำว่าผู้ได้รับความเสียหาย “การกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยธรรม” ออก จะทำให้มาตราอื่นกว่า 10 มาตราที่มีคำเหล่านี้ถูกตัดออกไปด้วย โดยเฉพาะมาตรา 5 ที่เป็นเรื่องของลักษณะการกระทำที่เป็นการทรมาน และมาตรา 6 ที่อธิบายลักษณะที่เข้าข่ายเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยธรรม และมาตราอื่นๆ หลังจากนี้ไป และยืนยันว่าทั้ง 3 คำอยู่ในอนุสัญญาที่ไทยไปลงนามไว้ การตัดตามที่ กมธ. เสนอนั้นจะทำให้หลักการของกฎหมายบิดเบี้ยวไป
    .
    เช่นเดียวกับ คำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ชี้ว่า การแก้มาตรา 3 จะทำให้มาตรา 6 ที่กำหนดลักษณะการกระทำความผิดถูกแก้และกระทบต่อมาตรา 39 ที่เป็นส่วนของบทกำหนดโทษไปด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด อีกทั้งร่างหลักที่ที่ประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มีมติรับหลักการมาถึง 4 ฉบับ รวมถึงมีร่างหลักของคณะรัฐมนตรีก็มีคำว่าย่ำยีศักดิ์ศรีมาตั้งแต่ต้น และคำว่า “การกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยธรรม” ก็ถูกเพิ่มมาจากการเสนอของสภาผู้แทนราษฎร หากมีการตัดคำเหล่านี้ออกก็ต้องมีเหตุผลอธิบาย ต้องชี้แจงให้ชัดเจน
    .
    เช่นเดียวกับ มณเฑียร บุญตัน ส.ว. คัดค้านการแก้ไขของ กมธ. โดยกล่าวว่า หากมีการแก้ไขจะเป็นการขัดต่ออนุสัญญาและสนธิสัญญาที่อยู่ภายใต้ปฏิญญาสากลที่คำที่ถูกตัดออกไปมีการระบุเอาไว้ เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และอื่นๆ อีก เพราะคำว่าทรมานถูกกำหนดไว้ในชั้นที่สูง แต่ยังมีกระทำที่หนักเบาอื่นๆ ซึ่งการกระทำเหล่านี้นำไปสู่ความเดือดร้อนเสียหาย เมื่อไทยได้รับเข้าเป็นพันธกรณีที่ไทยเข้าร่วมเป็นภาคีถึง 7 ฉบับ ซึ่งมีเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น การตัดออกก็เท่ากับไทยไม่ให้ความสำคัญกับพันธกรณีเหล่านี้ไปด้วย
    .
    มณเฑียรกล่าวอีกว่า การแก้ไขครั้งนี้จะทำให้กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและตอนที่ประชุม ส.ส. มีมติรับหลักการของร่างกฎหมายนี้ ไทยก็ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ เพราะที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมของไทยก็มีข้อครหาว่ามีการกระทำที่โหดร้ายทารุณเกิดขึ้นอยู่เสมอ และถ้าหากเรื่องเหล่านี้ไม่ถูกใส่ไว้ในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติแล้วลดทอนเหลือแค่เป็นประกาศหรือแค่นโยบาย ความเข้มข้นในมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าวก็จะลดลงไปมาก ความเชื่อมั่นจากนานาชาติและประชาชนก็จะหายไปด้วย
    .
    มณเฑียรจึงสรุปว่าร่าง ส.ส. มีมติให้ผ่านมานั้นจะทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
    .
    สำหรับมาตรานี้มี ส.ว. อภิปรายคัดค้านจำนวนมาก โดยใช้เวลาพิจารณาเกือบ 3 ชั่วโมง ก่อนจะมีการลงมติ ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขดังกล่าวของ กมธ. ด้วยมติ ไม่เห็นด้วย 109 เสียง เห็นด้วย 46 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
    .
    อย่างไรก็ตาม หลังลงมติมาตรา 3 กลับไปเป็นเนื้อหาเดิมแล้ว ยังมีปัญหาการถกเถียง เพราะทำให้มาตรา 3 ขัดแย้งกับมาตราอื่นๆ ที่ กมธ. แก้ไข ประธานจึงเสนอให้พักการประชุม เพื่อให้ กมธ. ไปแก้ไขมาตราอื่นๆ ให้สอดคล้องกับมาตรา 3 แต่ทาง กมธ. ยืนยันไม่ต้องการพักการประชุมไปแก้ไข แต่จะใช้วิธีการแก้ไขมติ กมธ. ในที่ประชุมใหญ่แทน เพื่อคืนมาตราต่างๆ ที่มีการแก้ไข กลับมาเป็นเนื้อหาเดิม
    .
    #TheStandardNews

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: จีนถอนคำมั่นสัญญา ไม่ส่งทหารไปประจำการในไต้หวัน หากยึดครองไต้หวันสำเร็จ
    .
    สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างเอกสารทางการจีนระบุว่า จีนได้ถอนคำมั่นสัญญาที่จะไม่ส่งทหารหรือนักปกครองเข้าไปประจำในไต้หวัน หากเกิดกรณีที่ไต้หวันถูกจีนยึดครอง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงต้องการให้ไต้หวันมีเอกราชน้อยลงจากที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดบนช่องแคบไต้หวัน สืบเนื่องจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    สมุดปกขาวว่าด้วยจุดยืนต่อไต้หวันของจีนได้รับการเผยแพร่ไม่กี่วันหลังจากที่จีนเริ่มซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันเพื่อตอบโต้การเยือนของเพโลซี โดยจีนมองว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างร้ายแรง
    .
    ก่อนหน้านี้จีนเคยระบุในสมุดปกขาวเกี่ยวกับไต้หวันในปี 1993 และ 2000 ว่าจีนจะไม่ส่งกองกำลังทหารหรือนักปกครองเข้าไปประจำในไต้หวัน หากว่าจีน ‘รวมชาติ’ ได้สำเร็จ
    .
    ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการให้หลักประกันว่าไต้หวันจะสามารถปกครองตนเองหลังกลายเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน อย่างไรก็ตามข้อความเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสมุดปกขาวฉบับล่าสุดอีกต่อไป
    .
    นอกจากนี้ในสมุดปกขาวปี 2000 ยังระบุด้วยว่า ทุกอย่างสามารถเจรจาได้ตราบใดที่ไต้หวันยอมรับว่ามีจีนเดียวและไม่คิดแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งข้อความดังกล่าวก็ไม่อยู่ในเอกสารฉบับล่าสุดเช่นกัน
    .
    ทั้งนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยเสนอว่าไต้หวันสามารถกลับสู่การปกครองของจีนภายใต้โมเดล ‘1 ประเทศ 2 ระบบ’ คล้ายกับสูตรที่ใช้กับฮ่องกงเมื่อตอนที่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของจีนในปี 1997 ซึ่งหมายความว่าไต้หวันจะสามารถรักษาระบบการเมืองและสังคมไว้ได้บางส่วน
    .
    อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองใหญ่ของไต้หวันล้วนปฏิเสธข้อเสนอ ‘1 ประเทศ 2 ระบบ’ ของจีน เช่นเดียวกับประชาชนส่วนใหญ่ที่คัดค้าน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่ามีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจกำหนดอนาคตของตนเองได้
    .
    ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images
    .
    #TheStandardNews #จีน #สหรัฐ #ไต้หวัน #Taiwan #TheStandardNews

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    KEY MESSAGES: ทำไมการผ่านร่างกฎหมาย Inflation Reduction Act จึงสำคัญกับสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ และโลกของเรา
    .
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมาย Inflation Reduction Act มูลค่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโลกรวน ขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะมีมติให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ในการลงคะแนนเสียงที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้
    .
    แต่หากการคาดการณ์ไม่พลิกโผ ร่างกฎหมายนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภา ก่อนที่จะถูกส่งต่อให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามรับรองเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายฉบับใหม่ของประเทศต่อไป ซึ่งจะปูทางสู่การลดการปล่อยคาร์บอนของสหรัฐฯ หนึ่งในชาติที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังจะพลิกโฉมบรรยากาศการเจรจาประเด็นสภาพภูมิอากาศบนเวทีโลกอีกด้วย
    .
    Inflation Reduction Act คืออะไร
    .
    - ร่างกฎหมาย Inflation Reduction Act ถือเป็นการลงทุนด้านพลังงานสะอาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกรวน โดยเน้นที่การลดการปล่อยคาร์บอน และปูทางให้ผู้บริโภคหันมาใช้พลังงานสะอาด
    .
    - ร่างกฎหมายดังกล่าวยังช่วยลดต้นทุนด้านยารักษาโรคให้กับผู้บริโภคในประเทศ และจะมีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลบางประเภทด้วย
    .
    - เป้าหมายของ Inflation Reduction Act นั้นก็ตรงตามชื่อ ซึ่งก็คือการปรับลดเงินเฟ้อในประเทศ โดย Moody’s Investors Service และ Fitch Ratings คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายนี้จะช่วยปรับลดเงินเฟ้อในระยะกลางและระยะยาว แต่อาจยังไม่สามารถช่วยลดเงินเฟ้อในระยะสั้นช่วง 1-2 ปีนี้ได้
    .
    ชาวอเมริกันได้อะไรจากการที่ไบเดนทุ่มงบหนุนพลังงานสะอาด-แก้วิกฤตโลกรวน
    .
    - อย่างที่เกริ่นไปเบื้องต้นว่า ร่างกฎหมายนี้มีงบประมาณรวมสูงถึง 4.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นงบประมาณต่อสู้วิกฤตโลกรวนถึง 3.7 แสนล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ส่งผลให้ Inflation Reduction Act เป็นร่างกฎหมายที่ออกมาเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกรวน ที่ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    - ร่างกฎหมายนี้จะไม่เน้นออกบทลงโทษแก่ผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ในประเทศ แต่จะเน้นไปที่การสร้างแรงจูงใจทางการเงิน เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ลด-ละ-เลิก ใช้พลังงานฟอสซิล อาทิ รัฐจะมอบเครดิตภาษีให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ปรับธุรกิจมาใช้พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น
    .
    - นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะมอบเครดิตภาษีสูงถึง 7,500 ดอลลาร์ให้กับชาวอเมริกันที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
    .
    - ผู้ที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐถึง 30% ส่วนครัวเรือนที่ติดตั้งฮีตปั๊มรุ่นใหม่ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งความร้อนและความเย็น จะได้รับเงินอุดหนุนสูงสุด 8,000 ดอลลาร์
    .
    - สถาบันวิจัย Rewiring America ประมาณการว่า ครัวเรือนที่ติดตั้งฮีตปั๊มและแผงโซลาร์เซลล์ รวมถึงใช้รถยนต์ไฟฟ้า จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 1,800 ดอลลาร์ต่อปี
    .
    - งบประมาณราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์จะถูกจัดสรรให้กับอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานสะอาด ตั้งแต่กลุ่มกังหันลมไปจนถึงการแปรรูปแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการผลิตแบตเตอรี่รถ EV
    .
    - ขณะเดียวกันจะมีการจัดสรรงบประมาณอีก 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนในชุมชนผู้ด้อยโอกาส เช่น การให้เงินช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงบ้านพักให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น และการเข้าถึงรูปแบบการคมนาคมที่ปล่อยมลพิษน้อยลง
    .
    - นอกจากนี้ยังมีการแบ่งงบประมาณสำหรับแนวทางป้องกันไฟป่า ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมภูมิภาค รวมถึงงบประมาณสำหรับปกป้องพื้นที่แนวชายฝั่งจากการกัดเซาะของเฮอริเคน แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวเป็นผลพวงจากวิกฤตโลกรวนด้วยเช่นกัน
    .
    - นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดจะช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันมากถึง 1.4-1.5 ล้านตำแหน่งภายในปี 2030 เลยทีเดียว
    .
    โลกได้อะไรจากร่างกฎหมายนี้
    .
    - เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่หาก Inflation Reduction Act ถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายของประเทศ ก็คาดว่าจะช่วยหนุนให้สหรัฐฯ เดินทางถึงเป้าหมายการปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% จากระดับของปี 2005 ให้สำเร็จภายในปี 2030 ตามความตั้งใจของไบเดนที่พาสหรัฐฯ กลับเข้าสู่ความตกลงปารีสอีกครั้ง
    .
    - เป้าหมายหลักที่นานาชาติได้ตกลงกันไว้ในความตกลงปารีสเมื่อปี 2015 คือ การคงอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และมุ่งไปสู่เป้าหมายใหญ่คือ จำกัดอุณหภูมิโลกให้เพิ่มไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้โลกของเราเผชิญกับภัยพิบัติรุนแรง อันเป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
    .
    - นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศที่จะแก้วิกฤตสภาพอากาศอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สหรัฐฯ ในการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นโลกรวนบนเวทีโลกในอนาคต
    .
    - อีกทั้งยังอาจช่วยโน้มน้าวให้ประเทศอื่นๆ ร่วมดำเนินการไปด้วยกันได้ อาทิ จีน คู่แข่งรายสำคัญของสหรัฐฯ และยังเป็นชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในโลก
    .
    แม้ (อาจ) ผ่านความเห็นชอบจากสภา แต่หนทางข้างหน้ายังท้าทาย
    .
    - ในอีกมุมหนึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า หนทางที่สหรัฐฯ จะปรับสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบนั้นยังคงมีความท้าทายสูงมาก
    .
    - ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า เป็นไปได้ยากที่สหรัฐฯ จะไปถึงเป้าหมายตามที่ให้สัญญาไว้ในความตกลงปารีส หากปราศจากนโยบายของฝ่ายบริหาร นโยบายของรัฐ และนโยบายระดับท้องถิ่นที่ส่งเสริมกัน
    .
    - นอกจากนี้การที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 สหรัฐฯ ยังมีงานใหญ่ที่ต้องทำอีกมาก เช่น การสร้างระบบส่งไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับโครงการไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
    .
    - ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังต้องเร่งสร้างเครือข่ายที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ เช่น ไฮโดรเจนสีเขียว พลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน ตลอดจนการยกเครื่องระบบคมนาคมและอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
    .
    - นักวิเคราะห์มองว่า ทางเลือกเทคโนโลยีที่มีในประเทศยังค่อนข้างมีจำกัด ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการทรัพยากรบุคคลที่สามารถออกแบบ สนับสนุนเงินทุน และสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดแห่งอนาคตได้มากกว่านี้
    .
    - ขณะเดียวกันรัฐบาลยังต้องเอาชนะอุปสรรคในการผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งมักเผชิญกับกระแสต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ที่หวั่นเจอผลกระทบในเชิงลบต่อชุมชนของตน
    .
    ภาพ: Kent Nishimura / Los Angeles Times via Getty Images
    .
    #TheStandardNews

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เกาหลีใต้ ฝนตกหนักสุดในรอบ 80 ปี! น้ำท่วมใหญ่ เสียหายยับเยินประเมินไม่ได้
    ภายหลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางไปยุงยงเกาหลีไต้ ให้ตีกับเกาหลีเหนือรอบใหม่ โดยสหรัฐจะรับประกันความมั่นคงปลอดภัย จะมายืนเคียงข้างรับออร์เดอร์อาวุธเสมอไม่จากไปไหน พร้อมบริการจัดไฟแนนท์ให้กู้ยืมระยะยาว โดยเธอให้ทหารอเมริกัน ที่ควบคุมเกาหลีใต้พาไปล่อเป้าที่เส้นเขตแดนระหว่าง 2 เกาหลีอีกด้วย แต่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รู้ทัน จึงไม่ให้เข้าพบอ้างว่าเป็นวันพักผ่อนจึงไม่สนิท เพียงโทรคุยด้วย 40 นาทีเรื่องดินฟ้าอากาศ แล้วส่งรัฐมนตรีต่างประเทศบินแจ้นไปชี้แจงและหารือที่ปักกิ่ง กับจีนทันที
    ภายหลังนางเพโลซี คล้อยหลังบินไปญี่ปุ่นไม่กี่อึดใจ เกิดเหตุฟ้าพิโรธ พายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบ 80 ปี นับตั้งแต่ปี 1942 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลี ระบุว่าในเขตทงจัก กรุงโซล เมืองหลวง อินชอน จังหวัดคยองกี มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดต่อชั่วโมง ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 7 ราย บาดเจ็บ 9 ราย โดยผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ติดอยู่ในห้องกึ่งชั้นใต้ดินที่น้ำไหลเข้ารุนแรง โครงสร้างบ้าน 2,800 หลังเสียหาย ข้อมูลการเคลมประกันรถยนต์ 6,853 คัน โดยเป็นรถหรูนำเข้า 1,900 คัน
    พื้นที่ได้รับผลกระทบหนักฝั่งคังนัม คยองกีเหนือ แม้ว่าน้ำท่วมบางพื้นที่ได้ลดลง แต่เกิดปัญหาโครงสร้าง ถนนยุบ รถไฟใต้ดินบางสายถูกปิด รวมทั้งถนนบางสายปิดระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญ รวมแม่น้ำฮัน ยังคงสูง เจ้าหน้าที่ยังคงเตือนพื้นที่ภูเขาระวังดินถล่ม นับเป็นภัยพิบัติหายนะครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มีแผ่นดินเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล และเจอพายุรุนแรงในฤดูมรสุม แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และยังประเมินมูลค่าความเสียหายที่ชัดเจนยังไม่ได้ และบังเอิญที่ภายหลังนางไพโลซีไปยุแยงญี่ปุ่นให้พิพาทกับจีน ฝนตกห่าใหญ่ก็ถล่มญี่ปุ่นจนท่วมวินาศน้องๆ เกาหลีใต้เช่นกัน..เรียกได้ว่าเธอเหยียบที่ไหน วินาศเละไปหมด แม้การเมืองดีก็ไม่รอด

    ที่มา : KMA , สื่ออิสระท้องถิ่นเกาหลีใต้
    #WorldUpdate

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ยูเครน ทนอีกนิดเดียว! อีกสองแคว้นทางใต้จัดตั้งกองกำลังแยกดินแดนอีกแล้ว
    ภายหลังสาธารณรัฐโดเนตส์ , สาธารณรัฐลูฮันสก์ ประกาศลงประชามติแยกเอกราชไปเป็นรัฐในอารักขารัสเซีย ตั้งสถานทูตในมอสโก ต่อมามี 3 ประเทศให้การรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ คือ รัสเซีย ซีเรีย เกาหลีเหนือ โดยมีการเจรจาเกาหลีเหนือสนับสนุนส่งออกแรงงานเบื้องต้น 1,000 คน เพื่อมาทำงานต่างๆ ในสาธารณะโดเนตสก์ ที่มีค่าจ้างอย่างงามที่จะส่งเงินกลับครอบครัวที่เกาหลีเหนือ และทางโดเนตส์จะส่งออกสินค้าที่เกาหลีเหนือต้องการหลายชนิดเช่นธัญพืช สินแร่ พลังงาน เทคโนโลยี ฯลฯ อันเป็นจุดเริ่มต้นเปิดความสัมพันธ์ระหว่างกัน
    ทำให้คณะผู้บริหาร 700 คน แคว้นทางใต้ซาโปริชเซีย ที่มีโรงงานถลุงเหล็กใหญ่อันดับต้น มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ และ แคว้นเคอร์ซอน ที่มีท่าเรือชายทะเลดำ ก็มองเห็นว่ายูเครนไม่มีอนาคตที่ดีอีกแล้ว ท่ามกลางหนี้สินค่าอาวุธของรัฐบาลล้นพ้นตัวจนต้องประกาศเบี้ยวชำระหนี้ 2 ปี และคาดว่าเมื่อครบกำหนดก็จะขยายเวลาไปอีก จึงเอาอย่างบ้างโดยลงนามและประกาศทำประชามติแยกเอกราชจากยูเครนในเดือน ก.ย.2022 จากนั้นก็จะขอเข้าร่วมเป็นรัฐในอารักขารัสเซียตามกันไป , และยังมีแคว้นคาคิฟที่ผู้บริหารลงนามขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปแล้ว แต่การยึดพื้นที่ยังไม่สมบูรณ์ จึงค่อยๆ นวดด้วยปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้องใส่ทหารยูเครนไปจนงอม
    ล่าสุดอีก 2 แคว้นทางใต้ คือ แคว้นนิโคลาเยฟ และ แคว้นโอเดสซา ชาวยูเครนพื้นที่และอีกส่วนเดินทางมาจากกรุงเคียฟ ได้จัดตั้ง "กองกำลังแยกดินแดน" ขึ้นมาแล้ว เปิดโต๊ะเจรจาขอเป็นพันธมิตรรัสเซีย โดยทางรัสเซียขนอาวุธหนักมาให้จำนวนมากพร้อมเงินค่าจ้างอย่างงาม เพื่อให้กองกำลังเหล่านี้ต่อสู้กับกองทัพยูเครน เนื่องจากพวกเขาเป็นคนพื้นที่ย่อมรู้ชัยภูมิเป็นอย่างดี ขณะนี้รวบรวมกองกำลังแยกดินแดนได้กว่า 3,000 คน หัวหน้ากองพันใหม่ระบุว่า "ในอนาคตอันใกล้นี้พวกเราจะเริ่มปลดปล่อยแคว้นโอเดสซา และนิโคลาเยฟ จากพวกหัวรุนแรงทหารรับจ้าง Azov Neonazi โดยจะไม่มีความเมตตาสำหรับพวกเขา"
    "เราขอเตือนให้ฝ่ายยูเครนทุกคนวางอาวุธลงทันที ถ้าต่อต้านพวกเขาจะถูกสังหาร นี่คือดินแดนของเรา หลุมฝังศพของบรรพบุรุษของพวกเราๆ จะชำระล้างประเทศ ให้สะอาดจากกองกำลังหัวรุนแรงยูเครน และพวก Neonazi " , ในทางชัยภูมินั้นแคว้นนิโคลาเยฟ มีทหารรับจ้าง Azov โปแลนด์ และจากสหรัฐ ที่เพิ่งส่งมาใหม่ถ้าที่นี่แตก เมืองท่าโอเดสซาก็ไม่มีปราการอะไรเหลือและจะถูกตีแตกบดขยี้ในเวลาต่อเนื่องกัน ดังนั้นผู้บริหารเมืองนิโคลาเยฟ ถึงขนาดออกปากว่า "เขาคิดว่าทุกคนในเมืองเป็นพวกรัสเซีย" จึงมีการประกาศเคอร์ฟิวและไล่จับคนที่สงสัยมั่วไปหมด ยิ่งทำให้ชาวเมืองโกรธแค้นหันไปร่วมกองกำลังฝ่ายแยกดินแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    ตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรรัสเซีย โหมการถล่มเร่งยึดเหมืองเกลือที่เมืองโซเลดาร์ ที่มีโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ซับซ้อนยาวกว่า 300 กม. เป็นอุโมงค์ที่มีความกว้างสามารถขับรถบรรทุกวิ่งในอุโมงค์ได้จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญไม่ให้ฝ่ายยูเครนและ NATO ใช้ประโยชน์อุโมงค์เหมืองในการหลบภัยจากกระสุนปืนใหญ่ หรือใช้ลำเลียงและซ่อนอาวุธ สิ่งที่คาดไม่ถึงของฝ่ายยูเครนคือ ปืนใหญ่ M777 Howitzer และจรวด MLRS สหรัฐ นั้น "คือคำสาป" แทนที่จะปกป้องทหารยูเครน แต่มันถูกไล่ล่าจากอากาศโดรน "กลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของขีปนาวุธรัสเซีย" มันอยู่ที่ไหนทหารยูเครนหายนะที่นั่น สถานที่นั้นจะกลายเป็นนรกที่แท้จริง"..ทนขออาวุธมาล่อเป้าอีกสักนิด แยกดินแดนอีกสักหน่อย..สู้ต่อไป ชนะร่อแร่แน่นอน

    ที่มา : RFsentinel , สาธารณรัฐโดเนตส์ , สื่ออิสระยูเครน
    #WorldUpdate

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    LayV - ไวรัสน้องใหม่ที่พบติดเชื้อในประเทศจีน

    ก่อนที่ข่าวจะเริ่มออกมา พร้อมกับข้อมูลที่น่าวิตกกังวลสำหรับไวรัสตัวใหม่ที่ทางทีมวิจัยในจีน ได้ตีพิมพ์ผลงานในวารสาร New England Journal of Medicine ขออนุญาตให้รายละเอียดคร่าวๆว่าไวรัสตัวนี้คืออะไร มีอะไรต้องน่ากังวลใจแค่ไหนนะครับ เอาข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้แบบไม่มีการคาดเดาอะไรไปล่วงหน้านะครับ

    1. ชื่อเต็มๆของไวรัสตัวนี้ชื่อว่า Langya henipavirus เรียกย่อๆว่า LayV ไวรัสชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม paramyxovirus มีไวรัสที่เรารู้จักกันในกลุ่มนี้เช่น ไวรัสโรคหัด และ ไวรัสคางทูม ไวรัสกลุ่มนี้มีไวรัสที่ก่อโรครุนแรงมากๆเช่นกัน เช่น Nipah and Hendra viruses ซึ่งทำให้คนติดเชื้อเสียชีวิตได้สูง แต่ความรุนแรงดังกล่าวทำให้การแพร่อยู่ในวงจำกัดเนื่องจากโฮสต์เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

    2. ประเทศจีนพบการติดเชื้อไวรัส LayV ในคนครั้งแรกตั้งแต่ปลายปี 2018 และ พบต่อมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันนับได้ 35 เคส ข้อมูลที่สำคัญคือ การระบาดไม่เกิดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ แต่เป็นแบบกระจัดกระจาย แสดงว่า ไวรัสกระโดดจากสัตว์สู่คนได้ แต่ไวรัสจะแพร่จากคนสู่คนยังไม่ได้ หรือ ไม่ดี

    3. ไวรัสที่แยกได้จากผู้ป่วยมีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงมากๆกับไวรัสที่แยกได้จาก Shrew หรือ ภาษาไทยเรียกว่า หนูผี ทำให้เชื่อว่า หนูผีน่าจะเป็สัตว์ตัวกลางที่แพร่เชื้อดังกล่าวมาให้คน แต่อาจเป็นไปได้ว่า สัตว์ชนิดอื่นอาจจะเป็นแหล่งรังโรคของไวรัสนี้ได้เช่นกัน

    4. อาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ LayV จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย บางรายอาจมีการทำงานของตับและไตลดลง ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อเสียชีวิต

    สรุปสั้นๆคือ ไวรัส LayV ติดคนได้จากสัตว์ตัวกลาง ยังไม่มีหลักฐานการแพร่จากคนสู่คน อาการไม่รุนแรงมากยังไม่มีผู้เสียชีวิต และ ประเด็นเรื่องความรุนแรงที่มีสื่อต่างประเทศพยายามใส่ข้อคิดเห็นลงมาเพื่อขายข่าว อ้างอิงมาจากไวรัส Nipah ซึ่งไม่ใช่ไวรัส LayV ต้องใส่เครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆกำกับไว้เลยครับว่าไม่น่าจะมีอะไรมายืนยันข้อมูลนี้

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BREAKING!!
    ด่วน ! เงินเฟ้อสหรัฐ 8.5% ต่ำกว่าคาด ! หุ้น ทอง น้ำมัน commodity ดีดขึ้นทันที !
    #WorldMaker

    [1] ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ฝั่งผู้บริโภคหรือ CPI ล่าสุดประกาศออกมาต่ำกว่าคาดที่ +8.5% ซึ่งตลาดมองไว้ที่ +8.7% ขณะที่ตลาดหุ้นและสินค้า Commodity ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรกของการประกาศ S&P 500 ดีดกว่า +1.5% Dow Jones + 1.2% และ Nasdaq +2.5% ทองคำพุ่ง 1825 $/Oz และ Bitcoin ดีดทะลุ 24,000 เหรียญ
    FB_IMG_1660147022059.jpg
    [2] ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่ามาเล็กน้อยที่ 105.2 เลี่ยง ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงหลายอย่างปรับตัวสูงขึ้น !

    NEED TO KNOW !!: เงินเฟ้อโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ? จะผ่อนคลายลงได้บ้างหรือยัง ? ล่าสุดราคาพลังงานของเยอรมนี/ฝรั่งเศสสูงทำ Record ใหม่อีกครั้ง !! และมีคาดการณ์ว่า CPI จีนอาจทะลุ 3% เร็ว ๆ นี้ มุมมองเชิงลึกของ World Maker เป็นอย่างไร มาดูกัน !



    แบ่งปันจาก World Maker

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ซาวาฮิรีคือใคร?

    ซาวาฮิรีถือเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของอัลกออิดะห์ องค์กรก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังถือเป็นบุคคลหลักที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้าย 9/11 และเคยเป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก

    Al-Zawahiri ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Ayman Mohammed Rabie Al-Zawahiri เกิดที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ในปี 1951 ซาวาฮิรีมาจากครอบครัวนักบวช ปู่ของเขาเป็นนักบวชท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง และพ่อของเขาเป็นศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ Zawahiri สืบทอดธุรกิจของบิดาของเขา และเขาก็มีความยอดเยี่ยมทั้งในด้านวิชาการและการศึกษา และศึกษาด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยไคโร อันทรงเกียรติที่สุดในอียิปต์

    อิสลามญิฮาดก่อตั้งขึ้นในอียิปต์ในปี 1973 และความหลงใหลในศาสนาของ Zawahiri ทำให้เขาเข้าร่วมองค์กร หลังจากสำเร็จการศึกษาในปี 1974 อัล-ซาวาฮิรีไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านเวชศาสตร์ศัลยกรรม หลังจากนั้นเขาก็เปิดคลินิกในกรุงไคโร แต่เขามีความกระตือรือร้นมากในกลุ่มญิฮาด เขาก็กลายเป็นคนหัวรุนแรงมาก

    Zawahiri ถูกจับในปี 1981 เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดี Sadat แห่งอียิปต์ และในที่สุดก็ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในข้อหาครอบครองอาวุธอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสามปี ซาวาฮิรีประสบกับการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายขณะอยู่ในคุก ซึ่งทำให้ความเชื่อทางศาสนาของเขารุนแรงและบ้าคลั่งยิ่งขึ้น และเขายังเปลี่ยนจากผู้ที่ใช้ความรุนแรงมาเป็นแนวคิดสุดโต่งอีกด้วย ผู้นำญิฮาดอีกคนที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร Aboud El Zomor ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ทำให้ Zawahiri เป็นผู้นำคนใหม่หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว

    ในปี 1985 หลังจากที่ Zawahiri ได้รับการปล่อยตัวจากคุก เขาเข้าร่วมโดยตรงในขบวนการญิฮาดเพื่อต่อต้านการรุกรานอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียต และเริ่มต้นธุรกิจเก่าของเขาในปากีสถานอีกครั้ง โดยให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้พบกับบิน ลาเดน ผู้นำขององค์กรญิฮาดอีกองค์กรหนึ่ง และทั้งสองได้เริ่มความร่วมมือด้านการก่อการร้ายมาเกือบ 30 ปี เพื่อเผชิญหน้ากับประเทศในยุโรปและอเมริกาด้วยการโจมตีของผู้ก่อการร้าย "ญิฮาด"

    Ayman al-Zawahiri ได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานว่าเป็นผู้วาง bin Laden บนเส้นทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในช่วงทศวรรษ 1980 กล่าวกันว่าเขาได้ทำให้บิน ลาเดน ฝ่าฝืนแนวกลางใน "ญิฮาด" ในอัฟกานิสถานโดยตรง

    ก่อนหน้านั้น บิน ลาเดน เป็นเพียงรุ่นที่สองที่ร่ำรวยจากซาอุดีอาระเบีย แต่ตัวเขาเองไม่มีคุณค่าเพราะแม่ของเขาเป็นชาวซีเรีย เมื่อเขาเข้าร่วมในญิฮาด บิน ลาเดน ยังคงเป็นนักอุดมคติที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ในขณะที่ ซาวาฮิรี มีส่วนร่วมในการลอบสังหารประธานาธิบดีอียิปต์ หลังจากเข้าร่วมอัลกออิดะห์ เขาก็กลายเป็น "สมอง" ของทั้งองค์กรและยังเป็น "สมอง" ขององค์กร ผู้นำที่แท้จริง

    ซาวาฮิรีมีอายุมากกว่าบิน ลาเดน รู้การเมืองและอิสลาม พูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสได้คล่อง และทำให้รู้โลกดีขึ้น ทั้งคู่มาจากภูมิหลังที่มั่งคั่งและมีการศึกษาดี แม้ว่า Zawahiri จะไม่มั่งคั่งเหมือนบิน ลาเดน แต่เขากลับแข็งแกร่งในการต่อสู้และถูกทรมานในคุก

    นักข่าวปีเตอร์ เบอร์เกน ผู้สัมภาษณ์บิน ลาเดนในปี 2541 กล่าวว่า บิน ลาเดนกำลังมองหาพี่เลี้ยงซึ่งเป็นพ่อแทนพ่อของเขาเอง และซาวาฮิรีเป็นตัวละครที่ใกล้ชิดกับพ่อและพี่ชายคนโตของเขา และเป็นผู้ที่ทำให้บินลาเดนใช้เส้นทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โน้มน้าว bin Laden ว่าจำเป็นต้องโจมตี ศัตรูที่อยู่ห่างไกล เช่น สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่รัฐบาลของภูมิภาคอิสลาม และเพื่อสร้างภูมิภาคที่นับถือศาสนาอิสลามอย่างแท้จริง

    เหตุระเบิดสถานทูตสหรัฐฯ ในปี 1998 และระเบิด USS Cole Bombing ในเดือนตุลาคม 2000 ทั้งสองเหตุการณ์เป็นฝีมือของ al-Zawahiri และ bin Laden รวมแล้วการโจมตีสองครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต 224 คนและบาดเจ็บมากกว่า 4,500 คน นอกจากนี้ยังนำความสนใจของโลกมาสู่ บิน ลาเดน และ "อัลกออิดะห์" เป็นครั้งแรก และเอฟบีไอก็จัดให้บินลาเดนเป็นหนึ่งในสิบอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว

    สามปีต่อมา ซาวาฮิรีทำงานที่ฐานของอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ดูแลสิ่งที่จะกลายเป็นหนึ่งในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่กล้าหาญที่สุดในประวัติศาสตร์ 9/11

    เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คนในการโจมตีตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน เครื่องบินโดยสารลำที่สี่ที่ถูกจี้มุ่งหน้าไปยังวอชิงตัน ที่ซึ่งผู้โดยสารต่อสู้กลับและตกในสนามเพนซิลเวเนีย

    ซาวาฮิรีปรากฏตัวในวิดีโอและเทปหลายรายการก่อนและหลังการโจมตี 9/11 เรียกร้องให้โจมตีเป้าหมายชาวตะวันตกและกระตุ้นให้ชาวมุสลิมสนับสนุน

    เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2011 บิน ลาเดน ถูกหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐฯ สังหาร ซาวาฮิรียังคงสานต่อ "อาชีพ" ของทั้งสองคนต่อไป แต่ซาวาฮิรีในเวลาต่อมามีความสงบและมีเหตุผลมากขึ้น และไม่ใช้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกญิฮาดเช่นบินลาเดนอีกต่อไป

    ในปี 2020 อัล-ซาวาฮิรีเริ่มแปลกแยกจากโลกภายนอกมากขึ้นเรื่อยๆ และกล่าวกันว่าพอใจกับการเขียนหนังสือและเขียนบทความ ซึ่งแทบไม่ปรากฏในวิดีโอเลย ในเดือนพฤศจิกายน 2020 มีรายงานข่าวการเสียชีวิตของ Zawahiri และแทบไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเขาในสื่อตั้งแต่นั้นมา

    อย่างไรก็ตาม ในวันครบรอบ 20 ปีของเหตุการณ์ "9.11" "อัสซาฮับ" สตูดิโอโฆษณาชวนเชื่อของ "อัล กออิดะห์" ได้เผยแพร่วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต และผู้เฒ่าอัล-ซาวาฮิรีพูดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ดูเหมือนจะหักล้างข่าวลือเรื่องการตายของเขา

    แต่ซาวาฮิรีไม่ได้กล่าวถึงวันครบรอบ 20 ปีของการโจมตี 11 กันยายน หรือการยึดครองอัฟกานิสถานของตอลิบานในเดือนสิงหาคม เขาใช้โอกาสนี้ตอกย้ำวาทกรรมที่ร้อนแรงในอดีต เรียกร้องให้อัลกออิดะห์เริ่มการรณรงค์ใช้ความรุนแรงต่อศัตรูทุกหนทุกแห่ง “เช่นเดียวกับที่พวกเขารวมตัวกันจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อต่อสู้กับเรา เราต้องโจมตีพวกเขาอย่างแรงทุกที่” เขากล่าวในวิดีโอ

    การเสียชีวิตของ Zawahiri นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการระเบิดครั้งสำคัญต่ออัลกออิดะห์ แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าผลกระทบแทบจะไม่สามารถเทียบได้กับการสังหารบินลาเดน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มขึ้นและลดลงของ ISIS และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ อิทธิพลทั่วโลกของอัลกออิดะห์จึงอ่อนแอมากขึ้นเรื่อยๆ

    ภายใต้การนำของ al-Zawahiri อัลกออิดะห์ในปัจจุบันค่อยๆ "แยกส่วน" แม้จะไม่มีผู้นำ องค์กรก็ยังทำงานได้ ผู้สืบทอดที่มีศักยภาพคือชาวอียิปต์ที่ใช้นามแฝง "Saif al-Adl" กล่าวกันว่านักรบญิฮาดผู้ช่ำชองนี้อยู่มาอย่างยาวนานในตะวันออกกลาง และยังเป็นผู้ก่อการร้ายที่คลั่งไคล้และหัวรุนแรง
    แม้ว่าอัลกออิดะห์จะแตกสลาย การโจมตีของผู้ก่อการร้ายก็จะไม่หายไปเพราะการตายของซาวาฮิรี ผู้บงการเบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 ถูกตัดศีรษะโดยสหรัฐฯ ทีละคน แต่กว่า 20 ปีต่อมา บาดแผลที่เกิดจากเหตุการณ์นี้ในสหรัฐฯ ยังไม่หาย
    สำหรับสหรัฐอเมริกา การเสียชีวิตของอัล-ซาวาฮิรีอาจจุดชนวนให้เกิดการตอบโต้สหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออก "คำเตือนทั่วโลก" เมื่อเร็วๆ นี้ โดยอ้างว่าการเสียชีวิตของอัล-ซาวาฮิรีอาจนำไปสู่ความรุนแรงที่ต่อต้านสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเรียกร้องให้ชาวอเมริกันระมัดระวังตัวมากขึ้น

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เกาหลีใต้ : ช็องจู เมืองใหญ่สุดของจังหวัดชุงช็องเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ ฝนตกหนัก น้ำท่วมเวลา 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น 10.08.2022
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    10.08.22

    สถิติราคาอาหารพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ในเดือนกรกฏาคมราคาอาหารเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าภายในสัปดาห์หน้า

    1.ตัวเลขจาก สำนักงานสถิตินอร์เวย์ (SSB) ในเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นว่าราคาอาหารพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเปรียบเทียบกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 6.8% ถือเป็นการกระโดดของราคานับตั้งแต่ปี 1981

    2.ยกตัวอย่าง สำหรับครอบครัว 4 คนที่มีงบศื้ออาหารประมาณ 11,000 KR ต่อเดือน หมายความว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้ออาการและเครื่องดื่ม มากกว่าว่าปีที่แล้ว 1,100 KR ต่อเดือน

    3.สาเหตุที่ราคาสินค้าอุปโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องมาจาก ต้นทุนเพิ่มขึ้นในทุกส่วนของการผลิตอาหารไม่ว่าจะเป็น ราคาที่เพิ่มขึ้นสำหรับวัตถุดิบ ปุ๋ย การขนส่ง บรรจุภัณฑ์ และ เชื้อเพลิง

    4.แม้ว่า ราคาน้ำมันจะลดลงเล็กน้อยในช่วง เดือนกรกฎาคม แต่ราคายังคงสูงกว่าปีที่แล้วถึง 50% สวนทางกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพียง 3.7% ทำให้คนส่วนมากต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเหตุผลที่กำลังซื้อลดลงตามไปด้วย

    5.คำถามที่หลายคนกำลังสงสัยอยู่ตอนนี้คือ ธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2 เท่า ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ เนื่องจากในเดือนมิถุนายน Norges Bank ได้ปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายทีเดียว 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี บวกกับ อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าการคาดการณ์ของ Norges Bank มากนัก ที่เคยคาดการณ์ไว้ว่า จะอยู่ที่ 3.2% แต่ ในความเป็นจริงแล้ว อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 4.5%

    6.นักเศรษฐศาสตร์ของ Nordea คาดว่าสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ Norge Bank ทำตามแผนอัตราดอกเบี้ยที่ได้ทำมาตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป กำลังจะมาถึงในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับผู้ที่มีหนี้สินจำนองบ้าน และ ผู้ที่มีหนี้สินอื่นๆ

    .
    ....
    ✨E-book 12 ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุดประจำปี 2020
    https://www.flipsnack.com/norwaynewsth/2020.html

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle
    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์

    https://www.facebook.com/norgeutrykk
    #norway #รายงานข่าวประจำวัน #นอร์เวย์ #ข่าว #วัคซีน #โคโรนา #โควิด19 #Coronavirus #ไวรัส #ความเคลื่อนไหวในนอร์เวย์
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook ข่าวนอร์เวย์

    ข่าวต้นฉบับ NRK :
    https://www.nrk.no/norge/rekordhoyt-prishopp-pa-mat-1.16061803

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิตาลี : นาทีน้ำป่าในเมือง มอนเตฟอร์เต อีร์ปิโน 9 สิงหาคม 2565 เกิดฝนตกหนัก

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชื่อชินจังเกี่ยวอะไรกับสีเทียน (Crayon)
    และที่มาของชื่อชินจัง และ ฮิมาวาริ

    ชินจัง การ์ตูนดังตลอดกาล ในชื่อมังงะว่า “เครยอน ชินจัง” ถูกแต่งขึ้นโดย อ.โยชิโตะ อุซึอิ ในปี 1990 เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ และครอบครัว โดยมีการตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Action ของสำนักพิมพ์ฟุตาบาชะ (บ้านของชินจังก็อยู่จังหวัดนี้ค่ะ)

    ต่อมาในปี 1992 ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมะสำหรับเด็ก ถูกเข้าฉายครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 1996 ที่ช่อง 3 ช่วงเวลา 16.00 – 16.30 แต่สาว ๆ รู้ไหมคะว่ากว่าจะมาเป็นชินจัง ณ ปัจจุบันได้นั้น

    อาจารย์โยชิโตะ เคยตันกับคิดชื่อเรื่อง มาแล้ว แต่ด้วยความคิดถึงบทอนิเมะที่เน้นไปที่ชีวิตของเด็กอนุบาล ทำให้อาจารย์และผู้ช่วยคิดได้ว่า งั้นใช้ชื่อว่า “เครยอน ชินจัง” ละกัน เพราะกิจกรรมที่เด็กอนุบาลต้องทำ คือ การระบายดินสอสีเทียน (Crayon แปลว่า สีเทียน ) และชื่อตัวละครเอกก็คือ “โนะฮาระ ชินโนะสุเกะ” ด้วย

    เราลองมาดูที่มาที่ไปของชื่อชินจังและฮิมาวาระ จากชินจังจอมแก่น ภาคอนิเมะหรือมังงะกันดูดีกว่า โดยเรื่องราวนี้ถูกเขียนไว้ในมังงะ เครยอน ชินจัง และมีอยู่ในอนิเมะ

    โดยเนื้อหาของเรื่องพูดถึงเรื่องราวในช่วงที่มิซาเอะตอนคลอดชินจัง ฮิโรชิได้ตั้งชื่อลูกชายคนแรกของเขาเอาไว้ในกระดาษโน๊ตเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งทั้งหมด 4 ชื่อ โดยมีชื่อว่า ชินอิจิ, โทโมโนริ, ซุกุรุ และเก็นตะ แต่ในวันนั้นเกิดมีพายุเข้า ฝนตกหนักทำให้เขาต้องวิ่งฝ่าฝนไปหามิซาเอะที่โรงพยาบาล และเมื่อหยิบกระดาษขึ้นมา ก็พบว่าลายปากกาที่เขียนมันก็เลอะเลยจนมองไม่เข้าจะออก แต่พอลองอ่านดูดีๆ ใหม่อีกครั้ง มันกลับอ่านได้ว่า “ชินโนะซึเกะ”

    และในส่วนของฮิมาวารินั้น สามารถดูได้จากตอน “ชินจังจอมแก่นและฮิมาวาริ ตอนที่ 1 – 4” ซึ่งเป็นตอนที่ทุกคนในบ้านของชินจังรวมถึงคุณปู่และคุณย่าจากนากิตะมาเยี่ยม พร้อมช่วยกันตั้งชื่อหลานสาวคนแรกของครอบครัว

    โดยกติกาคือเขียนชื่อในกระดาษ และพับเป็นจรวด ใครร่อนจรวดได้นานที่สุด จะใช้ชื่อคนนั้นเป็นชื่อหลานสาว ในตอนแรกคนทั้งบ้านไม่ค่อยอยากให้ชินจังตั้งชื่อน้อง เพราะกลัวชื่อออกมาพิเรนๆ แต่ทว่าชินจังไม่ยอมและอยากมีส่วนร่วมของความเป็นพี่ชาย

    จนสุดท้ายจรวดกระดาษของชินจังร่อนได้นานที่สุด เมื่อทุกคนเปิดดูชื่อก็พบว่า ชินจังเขียนชื่อว่า “ฮิมาวาริ” ซึ่งแปลว่าดอกทานตะวัน (คุณพี่ชายเขาน่ารักแหละ)

    ขอบคุณที่มาบทความ
    https://clubsister.com/entertainment/5-things-about-crayon-shinchan-that-fanclub-never-know

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #จตุราชดารา #ดวงดาวแห่งจตุโลกบาล

    "จตุราชดารา" (The Four Royal Stars) คือ ดาวฤกษ์สว่างบนท้องฟ้าจำนวน 4 ดวงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้พิทักษ์จตุรทิศแห่งสรวงสวรรค์ ตามคติความเชื่อทางโหราศาสตร์เปอร์เซีย ได้แก่

    1. "ดาวอัลเดบารัน" (Aldebaran) หรือ "ดาวโรหิณี"
    สมผุสนิรายนะ 15° ♉︎ 56' [นักษัตรฤกษ์ที่ 4 โรหิณี]
    ผู้พิทักษ์แห่งทิศตะวันออก - วสันตวิษุวัต (ฤดูใบไม้ผลิ)

    2. "ดาวเรกูลัส" (Regulus) หรือ "ดาวมฆะ"
    สมผุสนิรายนะ 05° ♌︎ 58' [นักษัตรฤกษ์ที่ 10 มฆะ]
    ผู้พิทักษ์แห่งทิศเหนือ - อุตตรายัน (ฤดูร้อน)

    3. "ดาวแอนทาเรส" (Antares) หรือ "ดาวปาริชาต"
    สมผุสนิรายนะ 15° ♏︎ 54' [นักษัตรฤกษ์ที่ 18 เชยษฐา]
    ผู้พิทักษ์แห่งทิศตะวันตก - ศารทวิษุวัต (ฤดูใบไม้ร่วง)

    4. "ดาวโฟมัลฮอต" (Fomalhaut) หรือ "ดาวยามะมัตสยะ"
    สมผุสนิรายนะ 09° ♒︎ 59' [นักษัตรฤกษ์ที่ 24 ศตภิษัช]
    ผู้พิทักษ์แห่งทิศใต้ - ทักษิณายัน (ฤดูหนาว)

    หากดวงชะตากำเนิดมีดาวพระเคราะห์หรือจุดมัธยภวะของเรือนเกณฑ์ (อุทัยลัคน์, ปาตาลลัคน์, อัสตลัคน์, ทศมลัคน์) เข้าเกาะกุมกับดาวฤกษ์จตุราชดาราเหล่านี้ ภายในระยะวังกะ 3 องศา จะช่วยดลบันดาลผลให้เจ้าชะตามีเกียรติยศชื่อเสียงและมีพรสรรค์ที่โดดเด่นเป็นเอกเหนือกว่าผู้อื่นในทางด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะต้องพึงระลึกไว้ว่าเจ้าชะตาอาจไม่ได้รับความสำเร็จอย่างแท้จริง ถ้าหากยังไม่ผ่านการทดสอบความสามารถที่มีอยู่ภายในจิตวิญญาณของตนเอง

    นอกจากนี้ "จตุราชดารา" ยังสามารถนำมาเปรียบเทียบเข้าได้กับ "จตุโลกบาล" หรือเทวดาผู้เป็นใหญ่ทั้ง 4 ทิศที่ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ตามคติจักรวาลวิทยาในศาสนาพุทธ คือ

    "ท้าวเวสสุวรรณ" โลกบาลประจำทิศเหนือ
    ผู้ทำหน้าที่ปกครองเหล่ายักษ์
    เทียบได้กับ "ดาวเรกูลัส" (Regulus) หรือ "ดาวมฆะ"

    "ท้าววิรูปักษ์" โลกบาลประจำทิศตะวันตก
    ผู้ทำหน้าที่ปกครองเหล่านาค
    เทียบได้กับ "ดาวแอนทาเรส" (Antares) หรือ "ดาวปาริชาต"

    "ท้าววิรุฬหก" โลกบาลประจำทิศใต้
    ผู้ทำหน้าที่ปกครองเหล่ากุมภัณฑ์
    เทียบได้กับ "ดาวโฟมัลฮอต" (Fomalhaut) หรือ "ดาวยามะมัตสยะ"

    "ท้าวธตรฐ" โลกบาลประจำทิศตะวันออก
    ผู้ทำหน้าที่ปกครองเหล่าคนธรรพ์
    เทียบได้กับ "ดาวอัลเดบารัน" (Aldebaran) หรือ "ดาวโรหิณี"

    -------------------------------------------------------------

    *บันทึกข้อสังเกตเพิ่มเติม*

    - จตุราชดารา หรือ ดาวฤกษ์สว่างทั้ง 4 ดวงนี้ ต่างสถิตอยู่ในอาณาเขตกลุ่มดาวราศีพฤษภ, ราศีสิงห์, ราศีพฤศจิก และราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นราศีประเภท "สถิระคุณะ" หรือกลุ่มราศีกลางธาตุที่แสดงถึงความมั่นคงถาวรตามหลักโหราศาสตร์ ด้วยเหตุนี้โหราจารย์จึงจัดให้ดาวฤกษ์สว่างเหล่านี้เป็นดาวตรึงนภาเพื่อแบ่งท้องฟ้าออกเป็นจตุรภาคตามฤดูกาลต่าง ๆ

    - ดาวเรกูลัส (Regulus) ถือเป็นดาวฤกษ์ที่มีอิทธิพลสูงสุดในบรรดากลุ่มดาวจตุราชดาราทั้ง 4 ดวงนี้ เนื่องจากเป็นดาวฤกษ์สว่างเพียงดวงเดียวที่สถิตทับอยู่บนแนวเส้นสุริยวิถีพอดี (ค่าปตนัม +00°27') ด้วยเหตุนี้โหรโบราณจึงกำหนดให้ราศีสิงห์เป็นเรือนเกษตรของดวงอาทิตย์ เพราะเมื่อดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีสิงห์ก็จะโคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์เรกูลัส ทำให้มีแสงสุกสว่างเพิ่มมากยิ่งขึ้น

    - ค่าอยนางศะแบบ Fagan จะใช้ดาวอัลเดบารัน (Aldebaran) เป็นดาวตรึงจักร โดย Cyril Fagan โหราจารย์ผู้คิดค้นค่าอยนางศะ อ้างว่าเมื่อสมัยบาบิโลนและอียิปต์มีการวางจุดเมษของจักรราศีระบบนิรายนะให้ทำมุม 45° กับดาวฤกษ์ดวงนี้ ซึ่งปัจจุบันค่าอยนางศะของ Fagan เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มโหรนิรายนะทางฝั่งตะวันตก

    ค้นคว้าและเรียบเรียงโดย โหรชัยวัฒน์ สดชื่น
    (10/8/2565)
    FB_IMG_1660174412847.jpg
    แบ่งปันจาก โหรช้าง

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #เกณฑ์จันทร์สมพงศ์

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชายหญิง อยู่ร่วมราศีกัน ร่วมนักษัตร (ฤกษ์) ร่วมนวางค์ ท่านว่าอยู่ด้วยกันประเสริฐนักแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาหญิง อยู่ในราศีนำหน้าจันทร์ในชาตาชายดีนักแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชาย เป็น 3 ราศีแก่จันทร์หญิงไม่ดี ถ้าจันทร์ในชาตาหญิง เป็น 3 ราศีแก่จันทร์ชายดีแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชาย เป็น 4 ราศีแก่จันทร์หญิงดี ถ้าจันทร์ในชาตาหญิงเป็น 4 ราศีแก่จันทร์ในชาตาชาย ก็จัดว่าดี แต่จะแพ้ตัวชายแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชาย เป็น 5 ราศีแก่จันทร์ในชาตาหญิงดี ถ้าจันทร์ในชาตาหญิง เป็น 5 ราศีกับจันทร์ชายไม่ดี

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชาย เป็น 6 ราศีกับจันทร์ในชาตาหญิงดีนัก แต่ถ้าจันทร์ในชาตาหญิง เป็น 6 ราศีแก่จันทร์ในชาตาชาย ก็ดีเหมือนกันแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาหญิงชาย เป็น 7 ราศีคือเล็งกันดีนักแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชายเป็น 8 ราศีกับจันทร์ในชาตาหญิงก็ดี จันทร์หญิงเป็น 8 ราศีกับจันทร์ในชาตาชาย เจริญวุฒิดีนักแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาหญิงเป็น 9 ราศีกับจันทร์ในชาตาชายดี ถ้าจันทร์ในชาตาชายเป็น 9 ราศีกับจันทร์ในชาตาหญิงมิดีแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาหญิงเป็น 10 ราศีกับจันทร์ในชาตาชายดีนัก จะทำให้เกิดทรัพย์สินเงินทอง ถ้าจันทร์ในชาตาชายเป็น 10 ราศีกับจันทร์ในชาตาหญิง จะคุ้มโทษภัยอันตรายทั้งปวง บริบูรณ์ทรัพย์สมบัติ รักใคร่ออมชอมกันดีแล

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาชายเป็น 11 ราศีกับจันทร์ในชาตาหญิง ท่านว่าดีนักแล แต่ถ้าหากจันทร์ในชาตาหญิงเป็น 11 ราศีกับจันทร์ในชาตาชายไม่ดี

    ถ้าจันทร์ (๒) ในชาตาหญิงชายคู่ใด ต่างก็อยู่ในที่เป็น 12 ราศีแก่กัน คือจันทร์หญิงก็เป็น 12 ราศีกับชาย หรือจันทร์ (๒) ในชาตาชายก็เป็น 12 ราศี กับจันทร์ในชาตาหญิง จะมีการเคี่ยวเข็ญกันอยู่ร่ำไป ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทบาดหมางกันบ่อยๆ มิดีแล

    ที่มา : หนังสือโหราศาสตร์-สมพงศ์ โดย อ.เทพย์ สาริกบุตร หน้า 66 - 67
    FB_IMG_1660175014587.jpg
    เผยแพร่เป็นวิทยาทานโดย โหรชัยวัฒน์ สดชื่น
    (4/8/2565)
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #เกณฑ์ฤกษ์สมพงศ์

    ให้พิจารณาดูว่าจันทร์ (๒) ในชาตาแห่งคู่บ่าวสาวทั้งสองนั้น เสวยนักษัตรฤกษ์ที่เท่าใด และนักษัตรนั้นจัดอยู่ในคณะใด (เทวะคณะ, อสูรคณะ หรือมนุษย์คณะ) ท่านวางบทพยากรณ์ไว้ดังนี้

    1. นักษัตรฤกษ์ที่จันทร์ (๒) ในดวงชาตากำเนิดของคู่บ่าวสาวนั้น หากอยู่ร่วมคณะกัน ชีวิตสมรสจะเป็นไปด้วยตลอดรอดฝั่ง ทำมาค้าขึ้น ปราศจากอุปสรรคใดๆ รบกวน ให้ต้องบังเกิดการแตกแยกร้าวฉาน

    2. นักษัตรฤกษ์ที่จันทร์ (๒) ในดวงชาตากำเนิดเกาะ ห่างต่างคณะกันเป็นมนุษย์และอสูรคณะ จะอยู่ด้วยกันไม่ยืดยาว มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนให้ต้องตายจากกัน

    3. นักษัตรฤกษ์ที่จันทร์ (๒) ในดวงชาตากำเนิดเกาะ ห่างต่างคณะกันเป็นเทวะคณะกับมนุษย์คณะ จะมีเรื่องเป็นปากเสียง ทะเลาะวิวาทกัน ผลที่สุดก็ต้องเลิกรากันไป

    ฉะนั้นหญิงใดจะเลือกหาคู่ครอง ถ้าหากหาชาตาที่มีจันทร์ (๒) กำเนิด เกาะนักษัตรคณะเดียวกันมิได้ ให้พึ่งเลือกเอาชาตาชายที่มีจันทร์ (๒) กำเนิด ในชาตาเกาะเทวะคณะเถิด จะได้รับความสบายกว่ามนุษย์คณะหรืออสูรคณะ

    ที่มา : หนังสือโหราศาสตร์-สมพงศ์ โดย อ.เทพย์ สาริกบุตร หน้า 45 - 46

    เผยแพร่เป็นวิทยาทานโดย โหรชัยวัฒน์ สดชื่น
    (8/8/2565)
    FB_IMG_1660175261169.jpg
    แบ่งปันจาก โหรช้าง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดเจ๋ง! แดนจิงโจ้เปิดตัวเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากำลังสูงจากแรงดันน้ำทะเล

    คลื่นทะเล (Sea Waves) เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าทางเลือกประเภทหนึ่งที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เลือกใช้พลังงานจากคลื่นที่มีกระแสลมเป็นตัวแปรสำคัญและในบางครั้งกระแสลมอาจไม่มีความสม่ำเสมอเพียงพอ แต่บริษัท บริษัท เวฟสเวลเอเนอร์จี (Wave Swell Energy) จากออสเตรเลีย เลือกที่จะสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากคลื่นสะเทือน (Ocean Swell) ที่อยู่ระดับใต้น้ำทะเลแทน เพราะให้กำลังไฟฟ้าที่ต่อเนื่องมากกว่าและสามารถติดตั้งได้ทุกพื้นที่ชายฝั่งทะเล

    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบใหม่นี้มีชื่อว่ายูนิเวฟ 200 (UniWave 200) ที่บริษัท เวฟสเวลเอเนอร์จี (Wave Swell Energy) ซึ่งตั้งอยู่ในเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย (Victoria) ของออสเตรเลียเป็นผู้ผลิต จากการพัฒนาและทดสอบติดตั้งใกล้ชายฝั่งของเกาะคิง (King Island) ที่อยู่ระหว่างตอนใต้ของเมลเบิร์นกับแทสมาเนีย (Tasmania) เป็นเวลากว่า 1 ปี โดยบริษัทมองว่าได้ผลลัพธ์ในการผลิตที่ดีมาก

    หลักการทำงานของยูนิเวฟ 200 (UniWave 200) คือ การสร้างโพรงอากาศ (Blowhole) ในรูปของท่อ (Chamber) ขนาดใหญ่ที่คล้ายกับตัวแอล (L) ในแนวนอน โดยด้านยาวจะปล่อยให้คลื่นสะเทือนใต้น้ำเข้ามาภายในท่อ โดยแรงดันน้ำทะเลจะส่งผลให้เปลี่ยนความดันอากาศด้านสั้นของตัวแอล (L) ที่ตั้งฉากกับพื้น ในจังหวะต่อมา ความดันอากาศภายนอกจะเข้ามาจากรูด้านบนเหนือท่อ ซึ่งมีกังหันลมคอยรับอากาศอยู่ ดังนั้น อากาศจากภายนอกท่อที่เข้าสู่ระบบจะทำหน้าที่ปั่นกังหันลมทุกครั้งตามจังหวะการยกตัวของคลื่นทะเล ซึ่งเป็นการใช้พลังงานกลจากคลื่นทะเลได้เต็มประสิทธิภาพกว่าการใช้แรงจากคลื่นที่ระดับผิวน้ำที่มีแรงและความเสถียรน้อยกว่า

    โดยการทดสอบที่เกาะคิง (King Island) เครื่องยูนิเวฟ 200 (UniWave 200) มีกำลังการผลิต 40 กิโลวัตต์ (kW) สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) เมื่อให้ระบบทำงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ทางบริษัทเชื่อว่าหากนำไปติดตั้งในบริเวณที่เหมาะสม จะยกระดับกำลังการผลิตได้สูงสุดถึง 200 กิโลวัตต์ (kW)

    ระบบการผลิตโดยเวฟสเวลเอเนอร์จี (Wave Swell Energy) เป็นระบบการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพราะไม่ได้เป็นการรบกวนสมดุลทางธรรมชาติดั้งเดิม เพียงแต่อาศัยน้ำทะเลมาเข้าท่อระบบเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังติดตั้งกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และหากติดตั้งเป็นระบบที่มีหลายเครื่อง ก็สามารถทำเป็นแนวชะลอคลื่นที่ช่วยแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้อีกด้วย โดยในตอนนี้บริษัทกำลังเร่งการทำงานให้พร้อมทำการผลิตในเร็ววันนี้ ส่วนโครงการที่เกาะคิง (King Island) จะติดตั้งไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย

    ที่มาข้อมูล https://tnnthailand.com/news/tech/121602/
    ที่มารูปภาพ Wave Swell Energy

    #ออสเตรเลีย #เครื่องกำเนิดไฟฟ้า #ไฟฟ้า #พลังงานสะอาด #ทะเล #แทสมาเนีย #คลื่น #ชายฝั่ง #TNNTechreports #Techreports #TNNONLINE #TNNThailand #TNNช่อง16 #DThanaboon
    —————————————————————————
    ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    • Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite
    • Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
    • TikTok : https://bit.ly/TNNTechTikTok
    • Line @TNNONLINE : https://lin.ee/4fP2tltIo
    หรือดูรายการ Live ได้ทาง
    https://www.facebook.com/TNN16LIVE/#

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ขณะนี้ จันทร์ อังคาร พุธ “ปาร์ก ชิน” รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ อยู่ที่เมือง “ชิงเต่า” ของจีน --- พบปะเจรจากับ “หวังอี้” รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน
    ก่อนจะสาธยายว่าคุยอะไร ขอแจกแจงก่อนว่า ปกติ ดุลการค้า เกาหลีใต้ “เกินดุล” จีน (หมายความว่า มูลค่าเกาหลีใต้ส่งออกให้จีน มากกว่านำเข้าจากจีน)
    พ.ค. นี้ ไม่ปกติ! เกาหลีใต้ “ขาดดุล” ให้จีน ครั้งแรกในรอบ 28 ปี!! … ช้าก่อน รัฐบาลเกาหลีใต้บอกมันแค่ประเดี๋ยวประด๋าว อย่าตื่นตูม
    ทว่า มิ.ย. ก็ปรากฏว่า “ขาดดุล” ให้จีนอีกแล้ว … และครั้นย่างเข้า ก.ค. ก็ “ขาดดุล” --- 3 เดือนซ้อนเข้าให้แล้ว!!!
    ขอข้ามเรื่องนี้ไปก่อน
    .
    รู้หรือไม่ ตลาดส่งออกใหญ่สุดของเกาหลีใต้ คือ แห่งหนใด? … คงไม่ต้องถาม! เกาหลีใต้ส่งออกไปจีนมากที่สุด (7 เดือนแรก ฟาดไปแล้ว 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ --- คิดเป็น 23% ของยอดส่งออกทั้งหมด)
    หลักๆ ส่งอะไร? “ชิป” --- รู้ๆ กันว่า “ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์” คือ บริษัทรับจ้างผลิตชิปอันดับ 2 ของโลก รองจาก “TSMC” ของไต้หวัน
    จุดนี้น่าฉงน … ที่เกาหลีใต้ส่งออกให้จีนมากสุด คือ ชิป และและและ ที่เกาหลีใต้นำเข้าจากจีนมากสุด ก็คือ ชิป
    เอ๊ะ ไม่ต้องเอ๊ะ! ลองเดาดู น่าจะพอเดาออกครับท่าน! เกาหลีใต้ผลิตชิปชั้นสูง แล้วส่งออกให้จีน ส่วนจีนผลิตชิปชั้นต่ำ แล้วส่งออกให้เกาหลีใต้!?!? --- ก็ไม่แปลก แล้วแต่ความถนัด
    (ปี 2021 เกาหลีใต้นำเข้าชิปจากจีน พุ่งขึ้น 42%!!!! ซัดไปมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์)
    ซึ่งนับวัน มันยิ่งจะบานปลาย … เกาหลีใต้นำเข้าเยอะขึ้นๆๆๆ กระทั่งล่าสุด ถึงขั้นขย่มให้เกาหลีใต้ “ขาดดุล” ให้จีนครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ
    .
    วกเข้ามาเรื่องที่พาดหัวสักที! นี่แหละประเด็นที่ถกกัน --- ทั้งสองฝ่าย ต่างให้คำมั่นจะเป็น “ซัพพลายเออร์” ที่ดีให้แก่กัน : เกาหลีใต้ส่งชิปชั้นสูงให้ จีนส่งชิปชั้นต่ำให้
    เพื่อเอาไปเข้าสู่กระบวนการผลิตใน “ซัพพลาย เชน” ของอุตสาหกรรมของกันและกัน ต่อไป
    พึ่งพากัน ขาดกันไม่ได้
    เรื่องไต้หวันจะอะไรยังไงไม่รู้ … อเมริกาอภิมหามิตรของเกาหลีใต้จะร้องแรกแหกกระเชอท่าไหนไม่รู้ … แต่เกาหลีใต้กับจีนยังจำเป็นต้องแนบแน่นต่อกันทางการค้า
    ...
    ที่จริง ที่ผ่านมา สัมพันธ์ก็ใช่จะสวยหรู
    ตั้งแต่ปี 2016 ที่เกาหลีใต้ตัดสินใจติดตั้ง “THAAD” ระบบดักสกัดมิสไซล์ “เมด อิน อเมริกา” … นับจากนั้นก็หมางใจกัน
    จีนประเคนสารพัด “บาตร” ออกไปคว่ำ --- ไอ้ที่หนักสุด คือ “แบน” ห้ามฉายหนังและละครเกาหลีใต้ ถอดออกจากจอเกลี้ยง! เพลง “เค-ป๊อป” ก็ถูกอุดหู ห้ามฟัง!
    เพิ่งมาปีนี้แหละครับท่าน ที่ชักคลี่คลายหน่อย เริ่มได้ลงจอสักสองสามเรื่อง
    รัฐบาลเกาหลีใต้ ภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่ จึงต้องเร่งรุดรื้อฟื้นกระชับสัมพันธ์
    นอกจากจะยืนยันเรื่องส่งชิปให้จีน ยังต้องอธิบายอย่างทะนุถนอมน้ำใจด้วยว่า มันคืออะไร ที่กำลังจะไปเข้าร่วมพันธมิตร “จตุรชิป” Chip 4 … ใช่เพื่อจะสุมหัวกันหาทางสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนหรือไม่
    .
    วิกฤติไต้หวัน เป็นโอกาสของผู้ใด
    เกาหลีใต้ ใช้จีนคาน ถ่วงดุลอเมริกา?
    จีน ใช้เกาหลีใต้ เป็นทางเลี่ยง ทางสำรองจากไต้หวัน?
    อเมริกา ใช้ไต้หวัน ทิ่มตำจีน?
    ไต้หวัน ใช้ใครทำอะไร??? --- หรือบอกว่าใช้อเมริกา เพื่อเส้นทางสู่ “เอกราช” หรืออย่างน้อย เพื่อสถานะ “ความมั่นคงในภูมิภาค”!?!?!?
    อืมม์
    https://www.scmp.com/news/china/dip...s-chip?module=lead_hero_story&pgtype=homepage
    https://apnews.com/article/taiwan-b...-south-korea-dc64653d52edc0cbbceb7c85529be24a
    https://www.globaltimes.cn/page/202208/1272523.shtml
    https://www.japantimes.co.jp/news/2022/08/10/asia-pacific/south-korea-china-ministers-meet/
    https://www.csis.org/blogs/new-pers...de-deficit-china-stirrings-global-tech-sector
    https://www.scmp.com/economy/global...nprecedented-3-month-long-trade-deficit-china
    https://unipass.customs.go.kr/ets/index_eng.do
    https://unipass.customs.go.kr/ets/index_eng.do
    https://oec.world/en/profile/bilateral-country/chn/partner/kor
    https://oec.world/en/profile/country/kor
     

แชร์หน้านี้

Loading...