คำสอนของวัดพระธรรมกาย นี่คือมรรคาแห่งพุทธหรือ

ก็วันนี้ครับ ที่ผมได้กลับมายังสถานที่นี้อีกครั้ง มาครั้งนี้ผมก็ได้ข้อมูลมาอีกมาก สรุปว่าการมาครั้งนี้ได้ตอบข้อสงสัยของผมได้ดีทีเดียวในประเด็นแรกนั้นผมได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็คือ คำสอนของทางวัดที่นำมาพร่ำสอนคนที่มาทำบุญ(นับพันนับหมื่น)นั้นมีจุดมุ่งหมายสูงสุด หรือ วัตถุประสงค์ของการประกิจกรรมทางศาสนาที่บิดเบือนไปจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(คำก็ ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ คำก็ ขอให้ได้ติดตามหลวงพ่อ และคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comยาย ไปตลอดทุกภพทุกชาติ</st1ersonName> ตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรม) เนื่องจากผมได้ทำเนียนไปถามหลวงพี่ที่ดูแลในโซนของผมโดยตรง ประเด็นแรกนั้น ผมได้ถามหลวงพี่ว่าทำไมต้องอธิษฐานว่าจะไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ หลวงพี่ได้บอกว่า หมู่คณะของเราได้บำเพ็ญเพียรแบบนี้มาหลายกัปล์ช้านานแล้ว(มีที่พักอยู่ที่สวรรค์ขั้นดุสิต) สมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน(พระพุทธเจ้ากัสสปะ)หมู่คณะของเราก็ได้มาบังเกิด แต่ช่วงเวลาที่มาบังเกิดนั้นมักจะมาในช่วงที่ศาสนากำลังเสื่อม เพราะยุคที่กำลังรุ่งเรืองนั้นไม่รู้ว่าจะมาทำไม และหลวงพ่อได้มีความปรารถนาที่จะนำสัตว์ทั้งปวงในภพสามไปสู่พระนิพพาน ด้วยวิธีการที่แปลกใหม่ ว่าจะกำจัดต้นตอของกิเลสตัณหาที่ส่งมาสู่สัตว์ทั้งปวงเลยทีเดียว ซึ่งต่างจากวิธีของพระพุทธเจ้าของเราที่จะเทศน์สอนทีละคนๆจนบรรลุธรรม อุปมาว่า หากเปรียบไฟฟ้าเป็นกิเลส วิธีการของท่านหลวงพ่อนั้นเปรียบได้กับการพังโรงงานผลิตไฟฟ้าในขณะที่วิธีการของพระพุทธเจ้าเรานั้นเปรียบเสมือนการตัดสายไฟไปทีละบ้าน หลวงพี่บอกว่าเมื่อถึงเวลาที่ทำสำเร็จ( ทำลายต้นตอแห่งกิเลสตัณหาที่ส่งมายังสัตว์ทั้งปวงในภพสาม)นั้น แม่ค้าที่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ไม่รู้แม้แต่ธรรมะใดๆก็จะหายแวบไปเข้าสู่พระนิพพานทันที <O></O>
นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ นี่ท่านจะหมายความว่าหลวงพ่อของท่านเก่งกว่าพระพุทธเจ้าผู้เป็นสัญพัญญู ผู้เป็นครูของมนุษย์และเทวดาหรือครับ <O></O>
ผมมานึกดูมันก็คลับคล้ายคลับคลาอะไรบางอย่างนะ ไอ้เรื่องที่ว่าแม่ค้าจะหายไปทันทีน่ะ ใช่แล้วครับ ใช่ เรื่องสืบสาบสูญไง พระเจ้าจะมารับคนผู้บริสุทธิ์ไปก่อนวันพิพากษาโลกจะเกิดขึ้น<O></O>
เมื่อผมนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้แล้วนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไรยังคงถามหลวงพี่ต่อไปซึ่งคำถามเกี่ยวกับเรื่องพระนิพพาน หลวงพี่ให้คำตอบมาว่า เทวดาใน 6 ชั้นนั้นใช่ว่าท่านจะอยู่เฉยๆ ท่านก็จะมีหน้าที่ของท่าน ในสวรรค์ก็จะมีเครื่องบำรุงบำเรอ มีเขต มีพื้นที่ต่างๆ พระนิพพานก็เหมือนกันจะมีลักษณะเช่นนั้น แต่ทว่าจะเป็นของที่ละเอียดกว่า เมื่อฟังมาถึงจุดนี้เรื่องราวมันยิ่งจะเป็นไปแบบที่ผมคิดตอนแรกไปใหญ่เลยครับ นี่ท่านจะหมายความว่าพระนิพพานคือการไปสู่ภพๆหนึ่งที่สุขสบายล่ะซิ(คล้ายๆไปอยู่กับพระเจ้า) ซึ่งขัดแย้งต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าเต็มๆ(ขัดเต็มๆจริงนะ) เพราะในวันที่พระกุมารสิตธัตถะได้ประสูติที่สวนลุมพีณีนั้นได้กล่าวคำพูดออกมาว่า

 

ตามความเห็นเรานะ

ที่บอกว่าดุสิตบุรี นั้นคือสวรรค์ชั้นนึง พระโพธิสัตว์ก็อยู่ชั้นนี้ เพื่อที่จะลงมาเกิดใหม่เพื่อเผยแผ่ธรรมะ ช่วยสัตว์โลกทั้งหมดให้พ้นจากวัฏสงสาร.. โดยตนเองจะขอเข้านิพพานเป็นคนสุดท้าย. น่าสรรเสริญออก ไม่เห็นจะเหมือนกับพระเจ้าตรงไหนเลย.

(ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย.)

 

อย่าเพิ่งตีความคำว่านิพพานว่า"ดับสนิท"อย่างนั้นสิครับ
ส่วนตัวผมเชื่อคำสอนของพระเดชพระคุณพระราชพรหมยานครับ
ที่ว่านิพพานไม่สูญ

ส่วนประเด็นของวัดพระธรรมกายนั้น เค้าจะเน้นที่ ทานอย่างหนักเลยทีเดียวครับ คือการทำบุญ ทำๆๆๆๆ ทำเข้าไป จะหนักมากกว่าศีล และภาวนา นั้นเองครับ
ดูๆไปอาจจะเป็นเรื่องการตลาดนะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
โมทนาสาธุครับ

 

การออกบิณฑบาตในตอนเช้าของทุกวันถือเป็นกิจของสงฆ์อย่างหนึ่ง เพื่อออกโปรดสัตว์และรับการได้ทำบุญของพุทธศาสนิกชน

แต่เคยได้ยินว่า พระวัดพระธรรมกายนั้น ไม่ได้ออกมาบิณฑบาต

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ หากมีท่านใดรู้จริง ช่วยไขข้อข้องใจให้ด้วย

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ดังที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมา ทางวัดพระธรรมกายถือว่าได้

ละเลยกิจอันพึงปฎิบัติ ของ สงฆ์ หรือ ไม่

 

จากพันทิพครับ

กระทู้แนะนำโดยสมาชิกชาวศาสนา
[SIZE=-1]Y6927126[/SIZE] ข้อเท็จจริงกรณีวัดพระธรรมกาย อ่านแล้วตาสว่าง เรื่องที่หลายๆท่านอาจยังไม่ทราบ <!-- [15] -->
[SIZE=-1]Y6942447[/SIZE] หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ความเคารพต่อหลวงพ่อสดมาก แต่ไม่เคยกล่าวถึง “วัดพระธรรมกายเลย” ยกเว้นข้อความต่อไปนี้ <!-- [14] -->
[SIZE=-1]Y6970981[/SIZE] ^^ เอาบุญมาผาก และ บอกบุญผู้ใจดีทุกท่าน .......โครงการประมูลการกุศลส่งท้ายปีเก่า <!-- [14] -->
[SIZE=-1]Y4661041[/SIZE] กรณีธรรมกาย : ทำไมผมจึงกล้าสรุปว่าเจ้าสำนักนี้... ปาราชิก <!-- [13] -->
[SIZE=-1]Y5779543[/SIZE] ธรรม(กลาย) เพื่อ(มอมเมา)ประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย(เป็นอัตตา) <!-- [12] -->
[SIZE=-1]Y6632829[/SIZE] แท้จริงแล้ว “มหาลดาปสาธน์” ก็คือชุดเจ้าสาวของมหาอุบาสิกาวิสาขา <!-- [5] -->