คนที่ถูกทิ้ง

อยากให้เรื่องที่จะเล่านี้ "เป็นธรรมทาน " เพื่ออุทิศบุญให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร ที่เคยจะเกิด มาเป็นลูก เป็นหลานแล้วไม่ได้เกิด เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับตัวเราเอง เมื่อ3ปี ที่ผ่านมานั้น เราเกิดพลาด
ไปทำในสิ่งที่เราเคยตราหน้าคนอื่นไว้ ว่าชีวิตนี้
จะไม่ยอมให้เกิด ความผิดพลาดในเรื่องการทำแท้ง
หลังจากทำเสร็จ ก้อใช้ ชีวิตปรกติ แต่จิตใจเรา
ไม่เคยปรกติสุขเลย จะคิดถึงแต่เรื่องที่ทำลงไป
ก้อ พยายาม ทำทุกอย่างที่ จะขออโหสิกรรม
แต่เค้าก้อคงยังอยู่ ที่รู้เพราะ
ตอนนั้นเรา ได้เดินทางไปกรุงเทพ เพื่อไปซื้อของ
ไปกับเพื่อนๆสี่คน ไปพักในห้องของเพื่อนที่นู้น
เราก้อนั่งดูทีวีอยู่ในห้องปรกติ เพื่อนคนนี้ออกมา
จากห้องน้ำ ถึงกับผงักตะลึง และร้องกรี๊ด
ทั้งที่ยัง เปิดไฟสว่าง เพราะว่ายังไม่ดึกมาก แล้วเพื่อน
ก้อถามก่อนเลยว่า ได้ไปทำอะไรมารึเปล่า
(เพื่อนคนนี้ไม่ได้สนิทมากเลยไม่รู้เรื่องเรา)
เราก้อเลยถามว่า ทำไมเหรอ เค้าบอกว่า มีเด็กผู้ชาย
มานั้งอยู่ข้างๆอ่ะ เห็นแว๊บนึง แต่ชัดมาก ทำแท้งมาเหรอ (เพื่อนถาม)
เราหน้าถอดสีขึ้นมาทันที ก้อพยักหน้ารับว่าทำมา
หลังจากนั้นก็พากันเงียบเรา ก้อก็รีบนอนเลย
เราหลับไปแล้วแต่รู้สึกตัวว่า เพื่อนคนเดิมตื่นขึ้นมา
ชะโงกหน้ามองมาทางเรา แบบงัวเงีย ครั้งหนึ่งแล้วก้อ สปริงตัวลุกขึ้นแล้ว ร้องกรี๊สลั่นห้อง
แล้วลุกขึ้นมาเปิดไฟคุยกัน เราก้อถามว่าเป็นไร
เพื่อนก้อบอกว่า เห็นเด็กคนเดิมเป็นเงายืน ยื่นหน้า
โก้งโค้งมองต่ำลงมาที่ตัวเรา(เรานอนพื่น)
แล้วเด็กยืนที่ปลายเท้าเรา แล้วยื่นหน้าก้ม เกือบชิด
หน้าเรา เพื่อนอีกคนหนึ่ง ก้อบอกว่าเมื่อกี้
ก้อเห็นเป็นเงายืนอยู่ แต่งัวเงียคิดว่าเป็นตัวเรา
เลยไม่ได้กลัวอะไร ก้อเลยหลับต่อ
ก้อนั่งคุยซักพัก เราพากันหลับต่อ
ตื่นมาก่อนจะออก จากห้องเพื่อน
ก้อพากันแซว ว่าให้พาลูกกลับไปด้วยนะ
เรา ก้อ เหอ เหอ ยิ้มแหย่ๆ
ทุกวันนี้ไม่รู้จะทำวิธีอะไรแล้ว
จากเป็นคนไม่เคยสวดมนต์ นั่งสมาธิ
ทุกวันนี้ทำเกือบจะ 2 ปีแล้วค่ะ เพราะเค้า
ทำบุญอะไร ก้อจะนึกถึงเค้าตลอด
อยากจะเตือนคนที่คิดจะทำเรื่องพวกนี้นะคะ
ว่าได้ไม่คุ้มเสียค่ะ ความอาฆาตของเค้า
สามารถทำให้เราล่มจมได้ในพริบตา
ทำมาหากินก้อไม่เจริญ
ด้วยอำนาจแห่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขอบุญกุศลที่ลูกได้เล่าเรื่องนี้เพื่อเป็น
ธรรมทานแก่เจ้ากรรมานายเวร
ที่เคยจะเกิดมาเป็นลูกเป็นหลาน
แล้วไม่ได้เกิด ให้ได้รับบุญกุศลนี้ด้วยเถิด:boo::''(

















​

 

หากเด็กคนนี้ มีอายุขัย 60ปี

เขาก็ต้องอยู่ในโลกมนุษย์จนกว่าจะอายุครบ 60ปี ตามอายุขัย

และผู้ที่ตายก่อนอายุขัย เรียกว่า สัมภเวสี ครับ

 

การทำบุญให้ สัมภเวสี

เรื่องนี้ขอนำคำสอนของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง มากล่าวดังนี้..

การทำบุญสงเคราะห์ญาติหรือผู้ที่ไม่ใช่ญาติสำหรับผู้ที่ตายไปเป็น สัมภเวสีต้องทำอย่างไรจึงจะบรรลุผลอย่างแท้จริง

“..ต้องรู้นะว่าการตายไปเป็น สัมภเวสี คือตายอย่างไร คือบุคคลที่ตายด้วยอำนาจอุปฆาตกรรม คือยังไม่สิ้นอายุขัย เช่น ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย งูกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย รถชนตาย สรุปว่าตายปัจจุบันทันด่วนนั่นเอง
คนที่ตายตามอายุขัย ตายปุ๊บจะต้องไปเกิดตามกำลังบุญและกำลังบาป ถ้าเวลากำลังจะสิ้นใจนั้น คนบาป ต้องไปตามบาปทันที ( นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน) ถ้าคนบุญ ไปตามบุญทันที(มนุษย์ เทวดา พรหม นิพพาน) ทีนี้คนที่ตายก่อนอายุขัย ยังไม่มีสิทธิ์ไปตามบุญและบาป จะไปอบายภูมิก็ไม่ได้ ไปสวรรค์ก็ไม่ได้

ตอนนี้แหละเขาเรียกว่า สัมภเวสี

บุคคลที่ตายไปเป็นสัมภเวสี ถ้าหากว่า ญาติพี่น้อง สามี ภรรยา ลูกหลาน มีความฉลาด เมื่อทำบุญจะถวาย สังฆทาน หรืออะไรก็ตาม ต้องระบุชื่อเจาะจงให้แต่ผู้เดียว อย่าเผื่อคนอื่น อย่างนี้จะได้รับทันที เป็นผี (โอปปาติกะ )ที่มีความสุข แล้วก็คนนั้นเมื่อถึงวาระอายุขัย จะไม่ไปนรกแล้ว แต่จะไปสวรรค์ก่อน ตามกำลังบุญที่อุทิศให้ โดยผู้นั้นได้อนุโมทนาบุญนั้นด้วย..”

อีกตอนหนึ่งหลวงพ่อสอนเอาไว้ว่า…

“…บรรดาพุทธบริษัทโปรดทราบไว้ว่า กรรมที่เป็นอุปฆาตกรรมที่มาตัดรอนทำให้คนตายก่อนอายุขัย ตายแล้วไปเกิดเป็นสัมภเวสี บรรดาสัมภเวสีที่เดินเกลื่อนไปเกลื่อนมาในโลกมนุษย์ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคนธรรมดา เวลาที่ตายแต่งตัวแบบไหน นุ่งผ้าประเภทไหนก็แต่งตัวแบบนั้น มีความกังวลอยู่อย่างหนึ่งคือ มีความทุกข์ใจไม่รู้จะเกิดที่ไหนได้แน่นอน บรรดาสัมภเวสีพวกนี้มีความลำบาก ถ้าญาติของเราตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือยังไม่สิ้นอายุขัย เช่น ฟ้าผ่าตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกรถชนตาย เป็นต้น แต่ก็ไม่แน่นักบรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่ก็เผื่อเหนียวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วก็ไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป อย่าทุบแม้แต่ไข่สัก ๑ ฟอง เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร พระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่ามีเหล้ายาปลาปิ้ง เมื่อทำบุญเสร็จก็อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ทำอย่างนี้ท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบ เมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด พวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน…”


ที่มา : หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง


อธิบายเพิ่มเติม

- เหตุที่หลวงพ่อไม่ให้ใช้ไข่ทำอาหารเพื่อถวายสังฆทาน เนื่องจากป้องกันไม่ให้ผิดศีลข้อ 1 เพื่อให้เป็นบุญที่บริสุทธิ์จริงๆ หมายความว่า โดยทั่วไปไข่ที่เราใช้ทำอาหารหากเป็นไข่ที่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ ย่อมไม่ผิดศีลแต่อย่างใด ได้แก่ ไก่พันธุ์ไข่ทั่วๆ ไป แต่หากเป็นไข่ที่เกิดจากการปฏิสนธิแล้ว ถือว่าเป็นการพรากชีวิต ด้วยเหตุนี้เพื่อป้องกันหลวงพ่อเลยไม่ให้ใช้ไข่ทำอาหาร…

- พระพุทธรูปที่ถวาย หลวงพ่อแนะนำว่าควรใช้พระหน้าตักตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไป

- การถวายสังฆทานควรใช้พระตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป
<!-- google_ad_section_end -->__________________

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ร่วมบริจาคกับโครงการของเว็บพลังจิตเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก l ขอเชิญร่วมงานทอดกฐินเพื่อนำเงินสมทบทุนการก่อสร้างเมรุเผาศพ l ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ l ร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ ​

<!-- google_ad_section_end -->

 

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การดำเนินชีวิตที่ขาดสติ การประพฤติตนที่ขาดสัมปชัญญะ ย่อมนำความทุกข์ บาปกรรมมาให้

โลกทุกวันนี้ถูกมอมเมาด้วยวัตถุนิยม จนบดบังคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้ต้องด้อยค่าลงไป เมื่อเป็นดั่งนี้แล้วขอให้เรามาหมั่นเจริญสติตามคำสอนพระพุทธองค์ด้วยเถิด เพื่อความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน อนุโมทนา

 

ขออนุโมทนา ในความกล้าที่จะพูดความจริงของคุณ ขอให้เด็กไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
สาธุ