ขอเชิญร่วมสืบทอดพระศาสนาเป็นเจ้าภาพอุปสมบท 21 กอง

ในห้อง 'งานบวช' ตั้งกระทู้โดย พระครูวินัยธรสุพิน, 10 มิถุนายน 2010.

  1. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    ด้วยในวันที่ 24 - 25 - 26 มิ.ย 53 นี้

    อาตมาภาพพระสุพิน อัตตสันโต ประธานสงฆ์วัดเทียบศิลาราม

    ม.18 บ.หลักหินใหม่ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

    www.wattiabsilaram.net ได้เป็นเจ้าภาพจัดการในการอุปสมบทขึ้น


    ในวันที่ 24 - 25 - 26 มิ.ย 53 นี้ พร้อมกันนี้ก็มีการจัดปฎิบัติธรรมบวช

    เนกขัมมะบารมี จึงมีความประสงค์ประกาศเชิญชวนญาติโยมพ่อแม่พี่น้อง

    ได้รวมเป็นเจ้าภาพให้ทั่วถึงกัน และโยมยังสามารถเป็นเจ้าภาพได้ตามรายการ

    ด้านล่างนี้

    กำหนดการ

    วันพฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย 53

    เวลา 13.00 น. พิธีบวชเนกขัมมะบารมี ( ปฎิบัติธรรมต่อ )

    วันศุกร์ที่ 25 มิ.ย 53 (ปฎิบัติธรรมตลอดทั้งวัน)

    เวลา 19.00 พระภิกษุจำนวน 9 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์

    ( พิธีบายศรีสู่ขวัญนาค )

    วันเสาร์ที่ 26 มิ.ย 53

    เวลา 07.00 น ทำบุญตักบาตร

    เวลา 09.00 น ถวายภัตตาหารเช้า

    เวลา 13.00 น พิธีอุปสมบท ถวายจัตตุปัจจัยไทยธรรมเป็นเสร็จพิธี

    รายการบำเพ็ญบุญมีดั่งนี้

    1. เป็นเจ้าภาพชุดอุปสมบทจำนวน 21 ชุดๆละ 1,500 บาท
    2. เป็นเจ้าภาพถวายอุปัชฌาย์จำนวน 21 กองๆละ 1,000 บาท
    3. เป็นเจ้าภาพพระกรรมวาจาจารย์จำนวน 21 กองๆละ 500 บาท
    4. เป็นเจ้าภาพพระอันดับจำนวน 21 กองๆละ 300 บาท
    5.เป็นเจ้าภาพถวายสังฆทานจำนวน 21 ชุดๆละ 199 บาท

    6. เป็นเจ้าภาพให้ชีวิตโค 3 ตัวละ 5,000 บาท

    รวมบุญได้ที่ พระสุพิน อัตตสันโต
    ธนาคารกรุงไทยสาขาขุนหาญ
    เลขบัญชี 326-0-16077-9

    โทร 085.657.8676

    จึงเจริญพรบอกบุญมายังญาติธรรมทุกท่านได้ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปสมบทในครั้งนี้

    ขอราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรมเจ้าทุกพระองค์ และพระอริยะสงฆ์สาวกทกๆพระองค์ดลบันดาลอภิบาลความสุขความสำราญเจริญรุ่งเรืองจงบังเกิดมีทุกท่านทุกคนเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2010
  2. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    [​IMG]

    อานิสงส์การเป็นเจ้าภาพงานบวช (พระหรือสามเณร)

    1. ย่อมได้เกิดเป็นมนุษย์ มีชาติตระกูลสูง
    2. ย่อมได้เกิดในสถานที่รุ่งเรืองด้วยศีล สมาธิ ปัญญา
    3. ย่อมเป็นผู้มีศรัทธามั่นคง เป็นสัมมาทิฎฐิบุคคล
    4. ย่อมเป็นผู้ทรงจำดี มีปฏิภาณว่องไว มีปัญญาดี
    5. ย่อมมีอาชีพและกิจการเป็นหลักฐานมั่นคงตลอดไป
    6. ย่อมเป็นผู้มีเสน่ห์ เป็นที่รักนับถือของมนุษย์และเทวดา
    7. ย่อมปลอดภัยจากศัตรูหมู่พาลทั้งหลาย
    8. ย่อมเป็นผู้มีร่างกายแข็งแรง สมส่วน สง่างาม
    9. ย่อมมีอิสระเสรี มีอำนาจมาก
    10. เมื่อยังไม่หมดกิเลส เมื่อตายไปย่อมไปเกิดในสวรรค์เป็นเทวดาหรือหรหม ดังนี้
    - ให้ทาสบรรพาชาเป็นสามเณรได้ผลานิสงส์ 4 กัปป์ อุปสมบทเป็นภิกษุได้ผลานิสงส์ 8 กัปป์
    - ให้บุตรบรรพชาเป็นสามเณรได้ผลานิสงส์ 8 กัปป์ อุปสมบทเป็นภิกษุได้ผลานิสงส์ 16 กัปป์
    - ให้ภรรยาบรรพชาเป็นสามเณรี หรือให้สามีบรรพชาเป็นสามเณรได้ผลานิสงส์ 16 กัปป์ อุปสมบทเป็นภิกษุณีหรือภิกษุได้ผลานิสงส์ 32 กัปป์
    บางท่านว่าไว้ดังนี้ : -
    "สำหรับบิดามารดา (ให้ลูกบวชเป็นพระ) จะได้อานิสงส์คนละ 30 กัปป์ สำหรับคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ เป็นเจ้าภาพบวชให้จะได้อานิสงส์คนละ 12 กัปป์ต่อ 1 รูป สำหรับท่านที่ช่วยเขาคนละบาทสองบาทหรือช่วยด้วยกำลัง แรงอย่างนี้ มีอานิสงส์รูปละ 8 กัปป์"
    11. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพาน ได้ง่าย





    ที่มา : http://www.wattampa.iirt.net/page_01/page_06.html <!-- / message -->
     
  3. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
    ยินดีกับท่านทั้งหลาย
    ที่ได้ร่วมทำบุญสร้างกุศลทุกอย่าง
    ด้วยครับ
     
  4. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    ท่านจูเฬกสาฎก (อ่านว่า จู-เล-กะ-สา-ดก)
    มีเรื่องในธรรมบท ท่านว่า เวลานั้นพระพุทธเจ้า พักอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร เวลานั้น องค์สมเด็จพระพิชิตมาร ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณใหม่ ๆ คำว่า พระพุทธเจ้า ยังไม่ปรากฏในโลก แต่คำว่า อรหันต์นี่ ชาวบ้านรู้เรื่อง เขาต้องการอรหันต์กัน แต่ยังไม่รู้จักอรหันต์จริง ๆ วันนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่เมืองสาวัตถี และก็ไปพักที่พระเชตวันมหาวิหาร บรรดาทายกก็ประกาศว่า เวลานี้องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ คือ พระพุทธเจ้า อุบัติขึ้นแล้วในโลก ขอบรรดาท่านทั้งหลาย จงไปฟังเทศน์พระพุทธเจ้าทั้งกลางวัน และกลางคืน ใครจะไปกลางคืนก็ได้ ใครจะไปกลางวันก็ได้
    ในตอนนั้นท่านบอกว่า มีพราหมณ์คู่หนึ่ง สองตายาย สองสามีภรรยาชื่อว่า จูเฬกสาฎก แต่ว่าพราหมณ์จูเฬกสาฎก ตามบาลีท่านบอกว่า ในสมัยพระวิปัสสี พราหมณ์คนนี้ชื่อว่า มหาสาฎก แปลว่า สาฎกใหญ่ สมัยพระพุทธเจ้าองค์นี้ ก็มาเกิดใหม่ก็ชื่อ สาฎกตามเดิม ชื่อ จูเฬกสาฎก แปลว่า สาฎกเล็ก จูเฬกสาฎกพราหมณ์ จนมาก สองสามีภรรยามีผ้าห่ม แค่ผืนเดียว (พราหมณ์ไปไหนต้องห่มผ้า คือ มีผ้านุ่ง และมีผ้าห่ม) วันนั้นคนฟังมาก จูเฬกสาฎกพราหมณ์ ไปฟังเทศน์พระพุทธเจ้า ด้วยความที่ไม่เคยฟัง อยากฟังชัด ๆ เลยไปนั่งด้านหน้าพระพุทธองค์
    พระพุทธเจ้าตั้งใจเทศน์สงเคราะห์โดยเฉพาะ ท่านจี้จุดเฉพาะจูเฬกสาฎก แต่คนที่ พลอยฟัง พลอยได้หน่ะ มีเยอะ ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าเทศน์ ต้องมุ่งก่อนว่า วันนี้เราไปเทศน์ จะมีใครบรรลุมรรคผลไหม จะมีผลเป็นประการใดบ้าง ถ้าไม่มีผลเลยนี่ไม่ไป ถ้าจะไปแล้ว จะต้องพูดแบบไหน จึงจะมีผล ท่านรู้ไปก่อน ในเมื่อจูเฬกสาฎก ไปนั่งข้างหน้า ท่านก็เทศน์เรื่อง ทานบารมี อธิบายผลของทานว่า ทาน เป็นปัจจัยให้เกิด ความรัก เป็นต้น ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก ของผู้รับ เป็นต้น และบรรดาเพื่อนๆ ของบุคคล ของผู้รับ ก็ย่อมรักผู้ให้ เป็นต้น เทศน์อานิสงส์ของทานว่า การมีชีวิตอยู่ ก็มีความสุข และมีพวกมาก ตายไปแล้ว ไปเกิดบนสวรรค์ มาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ ก็เป็นคนร่ำรวย ท่านเทศน์ยาว ฟังไป ก็รู้และเข้าใจไปด้วย จูเฬกสาฎกพราหมณ์ฟังไป ๆ ก็ทราบว่า เรานี้หนอ ที่เกิดมายากจน ก็เป็นเพราะไม่เคยทำทานมา แต่ปางก่อนแท้ ๆ ชาตินี้จึงน่าเอน็จอนาถนัก สองคนออกจากบ้านพร้อมกันไม่ได้ เพราะมีผ้าห่มผืนเดียว วันนี้เราจึงมาฟังธรรมคนเดียว เพราะภรรยาไม่มีผ้าห่ม ก็เป็นเพราะเราไม่ได้ทำทานนี่แหละ คิดขึ้นมาว่า อย่ากระนั้นเลย เอาผ้าห่ม ที่เรามีอยู่ผืนเดียวนี้แหละ ถวายพระพุทธเจ้าเสีย พอคิดปั๊บ อกุศล ตัวความตระหนี่ มัจฉริยะก็ขึ้นมาแทรกทันทีว่า ให้ไปแล้ว แล้วเราจะเอาอะไรห่มเล่า ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ภรรยาที่อยู่บ้านจะเอาอะไรที่ไหนมาห่ม อย่าเพิ่งให้เลย ว่าแล้วก็ฟังธรรมต่อ
    ฟังไปจนถึงตอนกลาง ก็คิดขึ้นมาอีกว่า ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง เราถึงยังจนอยู่อย่างนี้ ให้ไปเถอะน่า ถึงจนไม่มี ก็ค่อยหาใหม่ แต่ก็คิดขึ้นมาอีกว่า ถ้าให้ไปแล้วแล้ว หาใหม่ไม่ได้ เราทั้งสองคน ก็จะไม่มีอะไรห่ม ไม่มีผ้าห่มนี่ยังพอทำเนา ทำใจได้ แต่อดไม่ได้ฟังเทศน์ อันไพเราะเช่นนี้ ยอมไม่ได้ นี่ภรรยาเราอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้ฟังธรรมอันไพเราะนี้เลย ตัวตระหนี่มัจฉริยะ ความหวงแหนมันขึ้นมา ทำให้ตัดใจไม่ลง
    นั่งฟังไป จนใกล้จะจบ ก็คิดว่า ให้ก็ให้เถอะน่า ไม่ให้วันนี้ ก็ไม่รู้จะได้ให้วันไหนแล้ว ภรรยาจะได้ฟัง ไม่ได้ฟัง ก็ช่างแล้ว จึงดึงผ้า (เก่างั่ก ๆ เพราะสองคน ผลัดกันใช้ผืนเดียว) ออกมา พับเสร็จ ก็นำผ้าไปถวายที่ พระบาทของพระพุทธเจ้า อุทานว่า “ชิตังเม ชิตังเม” ใน ที่ประชุมนั้น ชิตังเม แปลว่า “ข้าพเจ้าชนะแล้ว
    พระเจ้าปเสนทิโกศลเพิ่งกลับมาจากรบทัพจับศึก นั่งอยู่ในห้องประชุมนั้นด้วย ได้ยินก็คิดว่า ใครวะ กล้าบังอาจมาประกาศชัยชนะต่อหน้าเรา ก็ถามว่า นั่นใครร้อง นั่นเสียงอะไร แล้วเรียกให้มาเข้าเฝ้า เห็นเป็นพราหมณ์แก่ ๆ เดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว จึงทรงถามว่า ดูก่อน พราหมณ์ เธอร้องว่า ชนะแล้วน่ะ ชนะอะไร จูเฬกสาฎกพราหมณ์ จึงตอบว่า ข้าพระองค์ชนะความตระหนี่พะยะค่ะ ทรงถามต่อว่า ทำไมถึงว่า ชนะ พราหมณก็ตอบว่า เพราะมีผ้าห่มอยู่ผืนเดียว ใช้กันอยู่ ๒ คนตายาย คิดจะถวาย ตั้งแต่ยามต้น จนยามสุดท้ายจึงตัดสินใจได้ ชนะความตระหนี่แล้ว เอาไปถวายพระพุทธเจ้าแล้ว จึงว่า ชนะแล้วพะยะค่ะ ก็รวมความว่า วันพรุ่งนี้ ทั้งตัวพราหมณ์เอง รวมทั้งภรรยาด้วย คงไม่ได้ฟังเทศน์ ถึงแม้จะไม่ได้ฟังก็ตามใจ นี่ได้ถวายทาน ก็ชื่นใจมากแล้ว
    พระเจ้าปเสนทิโกศลท่านฟังแล้ว ก็สั่งให้เขาไปเอาผ้าสาฎก ที่พระองค์ทรงใช้เอง เอามาสองผืน (หนึ่งคู่) ให้เธอ เธอก็น้อมไป ถวายให้พระพุทธเจ้าอีก ทีนี้ สั่งเอามาให้อีกสองคู่ เธอก็ถวาย พระพุทธเจ้าอีก ไปถึง ๓๒ คู่ ว่าเรื่อยกันไปนะ ๒ คู่, ๓ คู่, ๔ คู่ ว่า ไปเรื่อยถึง ๓๒ คู่ พอถึง ๓๒ คู่ เธอคิดในใจว่า ถ้าเราไม่เอาไว้เลย ท่านผู้ให้ จะหาว่าเรารังเกียจ เลยกันไว้สองคู่ เพื่อยาย คู่หนึ่ง เพื่อตัวคู่หนึ่ง อีก ๓๐ คู่ ถวายพระพุทธเจ้า
    พระเจ้าปเสนทิโกศลก็คิดว่า คนนี้มีความเลื่อมใส ในที่ที่เราเลื่อมใสแล้ว จึงให้ไปนำผ้ากำพล ที่พระองค์ใช้เอง อย่างดีที่สุด ราคาแสนกหาปณะมาสองผืน มามอบให้พราหมณ์ ท่านจูเฬกสาฎก ก็เอาไปทำเพดานให้พระพุทธเจ้า เสียผืนหนึ่ง เอาไปกั้นเพดานที่บ้านเสียผืนหนึ่ง เมื่อเวลาพระสงฆ์ไปฉัน
    พอรุ่งขึ้น อีกวันตอนบ่าย พระเจ้าปเสนทิโกศล มาเห็นผ้ากำพลก็จำได้ ก็ถามพระพุทธเจ้าว่า ใครถวาย พระพุทธเจ้าก็บอกว่า จูเฬกสาฎกถวาย จึงทรงเรียกจูเฬกสาฎกมา อีตานี้ใจหายว้าบ ทรงสั่งให้เข้าเฝ้าด่วน ให้มาด่วนเดี๋ยวนี้ (งานนี้หัวขาดแน่)
    พอตาพราหมณ์เข้ามาถึง ก็ตรัสว่า ฉันให้ผ้าเธอถึง ๓๒ คู่ ไล่เป็นลำดับมา เธอถวายพระพุทธเจ้าหมด สุดท้ายเธอเอาไว้เองสองคู่ เพื่อเธอเอง กับภรรยา ฉันจึงให้ผ้ากำพลอย่างดี ประสงค์ให้เธอเอาไปใช้ เป็นรางวัลที่เธอมีศรัทธา ทำไมเธอจึงถวายพระพุทธเจ้าอีก ตาพราหมณ์ก็เลยบอกว่า ผ้ากำพล ไม่เหมาะกับข้าพระพุทธเจ้า คนฐานะอย่างข้าพเจ้านี้ไม่สมควร สมควรแก่พระเจ้าอยู่หัวอย่างเดียว มิเช่นนั้นก็พระพุทธเจ้าเท่านั้น
    คราวนี้ ท่านปเสนทิโกศลก็เลยบัญชาใหม่ว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราให้คู่ ๔ กับเธอคือ โค ๔, ช้าง ๔, ม้า ๔, กระบือ ๔ แล้วก็ผู้หญิง ๔, ผู้ชาย ๔, ทาสชาย ๔, ทาสหญิง ๔ และทรัพย์อีก ๔,๐๐๐ กหาปณะ (เวลานั้นเป็นคนรวยแล้วนะ) และบ้านสำหรับเก็บส่วย เก็บภาษีอีก ๔ ตำบล รวยใหญ่เลย กลายเป็นอนุเศรษฐีไป
    ต่อมาตอนเย็น บรรดาพระสงฆ์ ทั้งหลาย ก็นั่งคุยกัน (พระพุทธเจ้าอยู่ในมหาวิหาร) ว่าน่าอัศจรรย์ ที่จูเฬกสาฎก ถวายผ้าแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า เพียงแค่ผืนน้อย ๆ ผืนเดียว ผ้าเก่าด้วย มีผลในปัจจุบันขนาดนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์ ฟังแล้ว ก็คิดว่าเราควรจะไปที่นั่น พอไปถึง ท่านก็ถามว่า "เธอคุยกันเรื่องอะไร" (นี่เป็นธรรมดานะ ธรรมดา ของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ก็เหมือนกัน รู้แล้วต้องทำเป็นไม่รู้) พระก็เล่าให้ฟัง พระพุทธเจ้าก็บอกว่า จูเฬกสาฎก ถวายช้าไป ถ้าถวายตถาคตตั้งแต่ยามต้น จะได้ผ้า ๑๒ คู่ หากว่า ถวายยามกลาง จะได้ ๘ คู่ นี่ถวายยามสุดท้าย จึงได้คู่ ๔ คู่ (น้อยไป) ฉะนั้นการทำบุญต้องเร็ว ๆ ไว ๆ "ตุลิตะ ตุลิตัง สีฆะ สีฆัง " เร็ว ๆ ไว ๆ <!-- google_ad_section_end -->
     
  5. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    อาตมาภาพขออนุโมทนามหากุศลบุญกับคุณโยมสิริญาเป็นมากที่ได้รวมเป็นเจ้าอุปสมบท 21 กองในครั้งนี้ด้วยบารมีพระพุทธเจ้าพระธรรมพระอริยสงฆ์
    จงเป็นพยานในการทำบุญของโยมและสิ่งโยมปรารถนาจงสำเร็จโดยพลันสาธุ
     
  6. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,246
    ค่าพลัง:
    +11,631
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] อนุโมทนาคุณสิริญา;


     
  7. ying_tuy

    ying_tuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,120
    ข้าพเจ้าได้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพอุปสมบท ร่วมสืบทอดพระศาสนาเป็นเจ้าภาพอุปสมบท 21 กอง
    ขออุทิศบุญนี้ให้แก่ บิดามารดา เทวดาประจำตัว ครูบาอาจารย์ และ เจ้ากรรมนายเวรคู่ขิวิตของข้าพเจ้า และ ผู้หญิงคนนั้น ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเถิด
    ขออนุโมทนาบุญ สาธุ

    ได้ร่วมทำบุญ โอนเงินไปแล้ว ยอด 200 เมือวันที่ 13/06/53 คะ
    อนุโมทนา สาธุ
     
  8. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307

    ขออนุโมทนาสาธุสัพพะพุทธา ธัมมา สังฆา นุภาเวนะสาตถาโสตถีภะวันตุเม

    ขอนุโมทนากับคุณโยม
     
  9. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    เกาะบุญชายผ้าเหลือง

    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



    ตัวอย่างในพระสูตรที่มีมา ในเรื่องของเณรสุบิน ท่านกล่าวว่า เณรสุบินคนนี้ปรากฎว่าบิดามารดาเป็นพราน แต่ว่าลูกชายมีจิตใจเลื่อมใสในศาสนาขององค์สมเด็จพระ พิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคติไม่ตรงกัน พ่อชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แม่ก็มีอารมณ์จิตเหมือนกับพ่อ แต่ว่าสำหรับลูกชายกลับเป็นคนที่มีจิตน้อมไปในกุศลใน พระพุทธศาสนา หนีพ่อหนีแม่ไปบรรพชาเป็นสามเณร เป็นอันว่าพ่อแม่สามเณรไม่มีโอกาสจะพบกัน

    ต่อมา เมื่อกาลเวลาเข้ามาถึง พ่อและแม่ก็ตายจากความเป็นคน ด้วยอำนาจกรรมที่เป็นอกุศล พระยายมก็สั่งคนมาเชิญไปเป็นแขกรับเชิญ คือเชิญไปในขุมนรก เชิญไปในสำนักพระยายม ก็สอบสวนตามความเป็นจริงว่า ทำกรรมที่เป็นอกุศลอะไรบ้าง แกก็รับทุกอย่างว่าได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ตั้งแต่สัตว์เล็กถึงสัตว์ใหญ่ อาศัยกฎของกรรมอันนี้ ก็ปรากฎว่าท่านทั้งสองจะต้องลงนรก เขาจึงนำไป เมื่อนำไปแล้ว ตามธรรมดาสัตว์นรกที่มีกรรมที่เป็นอกุศลทั้งหมด เมื่อเข้าเขตของนรกแล้ว ก็ต้องลงขุมได้ทันที

    แต่ว่าบิดามารดาของสามเณรนี้ลงไม่ได้ นายนิรยบาลจึงจับโยนลงไปเข้าขุมนรก ก็ปรากฎว่ามีหวายใหญ่มารองรับ เป็นหวายร่างแหรองรับเข้าไว้ ไม่ตกลงไปในนรก ทำอย่างนี้ถึง 3 วาระ คนทั้งสองลงนรกไม่ได้ เพราะอะไร เพราะว่าในเมื่อพ่อและแม่เห็นแสงไฟ ก็คิดขึ้นมาในใจว่า แสงไฟนี้คล้ายจีวรของพ่อเณรน้อย เพราะว่าเณรไปบวช ทราบว่าบวชก็ไปทวงให้สึก เณรก็ไม่สึก เห็นภาพเณรเพียงนิดเดียวเท่านั้น จิตใจนึกขึ้นมาได้ว่า เณรลูกชายของเรามีสีจีวรคล้ายเปลวไฟ เพราะไปบางตอนมันมีสีเหลือง จิตคิดเป็นอย่างนี้ เป็นอันว่าบิดามารดาทั้งสองศรีลงนรกไม่ได้ นายนิรยบาลก็นำกลับมาสำนักพระยายม

    พระยายมก็สอบถามว่า “กรรมใดที่เป็นกุศลนะ ท่านไม่เคยทำบ้างเลยหรือ”

    สำหรับบิดามารดาของสามเณรก็กล่าวว่า “กรรมใด ๆ ที่เป็นกุศล ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งตาย ไม่เคยทำ มีอย่างเดียวคือมีลูกชายอยู่คนหนึ่งชื่อสุบิน เธอไม่พอใจในการทำอกุศลกรรมความชั่ว สอนให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เธอก็ไม่ทำ ในที่สุดเธอก็หนีไปบวชเป็นสามเณรน้อยในพระพุทธศาสนา”

    เป็นอันว่า พระยายมก็ทราบว่านี่บุญลูกชายบวชเณร ท่านจึงกล่าวว่า “ในเมื่อลูกชายบวชเณร เราสอบสวนในตอนก่อนทำไมเจ้าจึงไม่บอก”

    บิดามารดาของสามเณรบอกว่า “นึกไม่ออก เพราะกรรมที่เป็นอกุศลบัง มันกดปากเข้าไว้ บังใจไม่ให้นึกถึง”

    เป็นอันว่าในเมื่อพระยายมทราบอย่างนั้น จึงได้กล่าวว่า เพราะอำนาจกุศลที่ลูกชายของท่านบวชเป็นสามเณรในพระพุ ทธศาสนา จึงเป็นเหตุบันดาลให้ลงในขุมนรกไม่ได้ ฉะนั้น ท่านจงได้รับผลของกรรม คือความดีต่อไป ก็หมายความว่าไปเกิดบนสวรรค์

    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน สำหรับพระสูตรนี้ความจริงยาวมากกว่านี้ เวลามันมีจำกัด ที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์แสดงให้เห็นว่า ท่านทั้งหลายที่มีบุตรชายบวชเป็นสามเณรก็ดี บวชเป็นพระก็ดี ในพระพุทธศาสนา แม้ว่าท่านจะไม่ยินดีหรือไม่ทราบ ท่านก็มีอานิสงส์มาก จะนั่งเทศน์ถึงอานิสงส์ถามกันไปตอบกันมาสิ้นเวลา 1 กัป ก็ไม่จบ ฉะนั้น องค์สมเด็จพระนราสภจึงได้ทรงสรุปไว้ว่า “การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา ย่อมเป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพาน”

    บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ย่อมทราบดีว่าการอุปสมบทบรรพชานี้มีอานิสงส์มาก แล้วสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่าเป็นสามัญผล คือเป็นผลที่เสมอกัน คนที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนานี้ ย่อมมีสิทธิเสมอกันในการทรงสิกขาบท และสามารถที่จะกำหนดจิตปฏิบัติสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐานได้เสมอกัน ฉะนั้น จึงจัดว่ามีอานิสงส์มาก

    ในที่สุดนี้ อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนา ทั้งสามประการ ขอจงบันดาลให้บรรดาพุทธบริษัททุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล ้ว จงมีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล และจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง 4 ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ หากทุกท่านปรารถนาสิ่งใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นจงสมความปรารถนาทุกประการ
    <!-- / message -->
     
  10. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ปุ๊กก้า พี่พงศ์ พี่พี ร่วมบุญทุก ๆ อย่างค่ะ

     
  11. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    อนุโมทนาด้วยครับกับทุกท่านและ จขกท

    ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าและคณะสมความปรารถนาในสิ่งที่หวังทั้งปวง สาธุ
     
  12. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    น.ส.วาสนา คำเนตรและครอบครัว ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชพระใหม่ จำนวนเงิน 10,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชี พระสุพิน อัตตสันโต ธ.กรุ
    งไทย บ/ช326-0-16077-9 ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรที่ข้าพเจ้าล่วงเกินทั้งที่ตั้งใจก็ดี และที่ไม่ได้ตั้งใจก็ดี เทพเทวดาที่รักษาตัวของ ลูก สามี พ่อ แม่ น้อง ๆ ตัวของข้าพเจ้า และกิจจการค้าขายของข้าพเจ้า พระภูมิเจ้าที่บ้านเลขที่7/96 และเทพที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ สาธุ สาธุ
     
  13. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ผมโอนไปแล้วเมื่อวันที่ 21/06/53 100 บาท บ่ายแก่ๆๆ
    ( รบกวนท่านเช็คด้วยครับ ผมโอนพร้อมกันหลายที่ บางทีก้อลืมครับ )
    ขอกราบอนูโมทนาสาธุการกับท่านจขกท และทุกๆๆท่าน
    ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรมดีๆๆทั้งทางตรงและทางอ้อม
    ท่านผู้เข้าบวชด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    [​IMG]
     
  15. suppysuppy

    suppysuppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +9,811
    ขอร่วมทำบุญทุกๆรายการ 100 บาทค่ะ
    โอนเงินวันที่ 23/06/10 เวลา 15:19
    เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย 326-0-16077-9 ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
     
  16. กลอง

    กลอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,468
    ค่าพลัง:
    +2,991
    สวัสดีครับ
    ผมได้โอนปัจจัยจำนวน 200 บาท โอนวันที่ 23 มิ.ย. 53 ครับ

    ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตครับ
    กลอง
     
  17. พระครูวินัยธรสุพิน

    พระครูวินัยธรสุพิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +12,307
    อาตมาภาพขออนุโมทนาบุญกับคุณโยมทุกๆท่าน ขอให้คุณโยมทุกท่าน
    ประสบแต่ความสุขความเจริญทุกถ้วนกันเทอญ

    วันนี้วันเริ่มงานบุญอุปสมบทเดียวอาตมาภาพจะนำภาพในงานมาให้โยมทุกท่านชมเป็นลำดับไป
     
  18. เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล

    เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,646
    ค่าพลัง:
    +4,272
    กราบอนุโมทนาในกุศลผลบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุกท่านในการเป็นเจ้าภาพอุปสมบททั้ง 21 รูปด้วยค่ะ สาธุ
     
  19. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ ๆ
    ยินดีกับท่านทั้งหลายที่ได้มีโอกาสบวชทั้ง 21 รูป
    และท่านได้ร่วมทำบุญสร้างมหากุศลต่าง ๆ ในกาลนี้ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2010
  20. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    เสียดายมากครับ พึ่งได้เข้าอ่านกระทู้ เลยอดร่วมบุญ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน รวมทั้งพระอาจารย์ด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...