ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    นายกองพม่า สั่งทหารห้ามเผาวัดโปรดสัตว์

    วัดเหนือวัดโปรดสัตว์ขึ้นไปถูกพม่าเผาจนเสาโบสถ์เหลือแต่ต่อ แก่นไม้สมัยโบราณทนทานมาก เผาอยู่นานก็ไหม้ไม่หมด แต่ว่าวัดโปรดสัตว์ไม่โดนพม่าเผา เรื่องมีอยู่ว่า

    สมัยที่ด่านขนอนหลวงยังอยู่แถวนี้ มีต้นมะขามต้นหนึ่งอยู่ริมน้ำ เป็นที่โยงโซ่เหล็กกั้นเรือสำเภาทั้งหลายเพื่อรอให้จ่ายค่าขนอนก่อนจึงจะหย่อนโซ่ลงน้ำให้เรือเข้าไปกรุงศรีได้ โซ่นี้เป็นโซ่โบราณโยงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนที่หลวงทวดยังเด็ก เห็นคนเอาโซ่แต่ละข้อมาขายเป็นโบราณวัตถุ คิดราคาข้อละ ๑๐๐ บาท ถือว่าแพงมากทีเดียวค่ะ

    พวกนายกองพม่าได้นำช้างเดินทัพลงมาจากกรุงศรีอยุธยา หลังจากยึดกรุงศรีอยุธยาได้แล้ว ไปถึงวัดไหนก็เผาวัดนั้น จนมาถึงวัดโปรดสัตว์ ก็เตรียมการที่จะเผาจึงได้ล่ามช้างที่ขี่มาไว้กับต้นมะขามต้นหน้าวัด ที่มีโซ่กั้นด่านขนอนนั่นเอง

    พอกลับมา ไม่เห็นช้าง ช้างหายไป นายกองพม่าพูดว่า คนไทยขี้ขโมย ช้างของพม่าล่ามไว้ตรงนี้ ตอนนี้หายไปไหน คนไทยขโมยไปใช่ไหม

    ท่านสมภารเจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้นก็เดินมายังต้นมะขามที่นายกองพม่า อ้างว่าผูกช้างไว้แล้วช้างหายไป ท่านสมภารบอกว่าคนไทยจะขโมยช้างไปทำไม ตอนนี้บ้านแตกสาแหรกขาด คิดแต่จะหนีเอาชีวิตรอดกันเท่านั้น ไม่มีใครมาขโมยช้างท่านหรอก

    ให้ท่านหงายกะลาดูซิ (มีกะลาคว่ำอยู่บริเวณนั้น) พอนายกองพม่าหงายกะลาขึ้น ช้างก็ปรากฏตัว สมภารท่านบอกนายกองว่า ช้างมันก็อยู่ของมันตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน ท่านมองไม่เห็นเอง

    เท่านั้นหล่ะ นายกองพม่าโบกมือสั่งไม่ให้ลูกน้องเผาวัดนี้ วัดนี้ศักดิ์สิทธิ์
     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    กรมหลวงวงศาธิราชสนิท (ต้นราชตระกูลสนิทวงศ์) ทรงมาทำพิธีตัดไม้ข่มนามที่วัดโปรดสัตว์

    [​IMG]
    ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งราชวงศ์จักรี ตามคำบอกเล่า ไม่ปรากฏว่าเป็น พ.ศ. ใด ครั้งหนึ่ง กรมหลวงวงศาธิราชสนิท (ต้นราชตระกูลสนิทวงศ์) ได้ขึ้นไปทัพเพื่อปราบปรามข้าศึก แต่ก็ต้องล่าถอยทัพมา จึงได้มาพักที่วัดโปรดสัตว์ ในครั้งนั้นปรากฏว่า มีพระภิกษุประจำอยู่ที่วัด ๓ รูปเท่านั้น แต่ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้มีวิทยาคม และของขลังศักดิ์สิทธิ์ถวายกรมหลวงวงศาฯ ท่านได้สนทนาปราศรัยกับภิกษุเหล่านั้น

    ภิกษุเหล่านั้นก็ได้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาคมและของขลังศักดิ์สิทธิ์ถวายกรมหลวงวงศาฯ แล้วจึงได้ทำพิธีตัดไม้ข่มนามที่อุโบสถ เสร็จแล้วกรมหลวงวงศาฯ ท่านก็ได้ยกทัพขึ้นไปปราบข้าศึกอีกครั้ง คราวนี้มีชัยกลับมา พระองค์ท่านจึงได้กลับมาหาภิกษุ ๓ รูปนั้นอีก และได้ปวารณารับรองกับพระภิกษุเหล่านั้นว่า ท่านจะปฎิสังขรณ์วัดทั้งหมดให้มีสภาพดีขึ้น แล้วท่านก็ได้สั่งเอาไม้ซุงมาเป็นแพๆ มาจอดหน้าวัด แล้วสั่งให้นายด่านเป็นผู้ควบคุมการปฎิสังขรณ์จนเสร็จ

    ตลอดทั้งเชื่อมเขื่อนหน้าวัดด้วยไม้สัก ดังที่มีซากปรากฏอยู่ในบัดนี้ ตลอดทั้งถาวรวัตถุและเสนาสนะในปัจจุบัน เช่นพระเจดีย์ วิหาร กุฏิ ที่ได้รับการปฎิสังขรณ์ ก็คือ ใช้ของเดิมรวมกับของใหม่ปฎิสังขรณ์ขึ้น เมื่อกรมหลวงวงศาฯ ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ล่วงมาเป็นเวลานานปี สิ่งต่างๆที่ก่อสร้างก็ชำรุดทรุดโทรมลงไปอีก แต่ก็ได้มีทายาทของพระองค์ท่านได้มาบูรณะบ้างเป็นบางคราว
     
  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ด่านขนอนหลวง กรุงศรีอยุธยา อยู่ที่วัดโปรดสัตว์

    ด่านขนอนกรุงศรีอยุธยามีหลายด่าน แต่ด่านขนอนหลวงกรุงศรีอยุธยามีด่านเดียวคือ ด่านขนอนหลวงตะนาวศรี ก็คือบริเวณวัดโปรดสัตว์นี้เอง

    ด่านขนอนที่เข้าไปทางบ้านโพธิ์แล้วแยกออกไป เรียก ด่านขนอนเหนือ

    ด่านขนอนด้านตะวันตก เรียก ด่านขนอนปากคู

    ด่านขนอนสองด่านล่างเป็นด่านขนอนทั่วไป

    ความเห็นทางสายธาตุเห็นว่า ด่านขนอนหลวง น่าจะตั้งไว้เพื่อเก็บภาษีสินค้านำเข้าและสินค้าส่งออก ส่วนใหญ่ต้องติดต่อกับชาวต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ส่วนด่านอื่นๆเป็นการเก็บภาษีทั่วไปในประเทศ
     
  4. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระปิยะมหาราชทรงเสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพกรมขุนสุพรรณภาควดีที่วัดนี้

    [​IMG]

    พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าลูกเธอที่อยู่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวที่พระองค์ทรงประสบ ปัญหาต่าง ๆ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในระยะแรก ซึ่งสมเด็จพระบรมชนกนาถทรงรับสั่งว่าพระองค์ทรงเป็น "ลูกคู่ทุกข์คู่ยาก"​

    พระองค์ ได้รับพระกรุณายกย่องพระเกียรติยศไว้ยิ่งกว่าพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นหลาย ประการ เช่น ทรงมีสร้อยพระนาม คือ "สุนทรศักดิกัลยาวดี" ซึ่งตามปกติแล้วสร้อยพระนามมักจะมีแต่ในพระนามของเจ้าฟ้าที่ประสูติแต่พระ ภรรยาเจ้าและในพิธีโสกันต์ยังโปรดให้ทำพิธีเขาไกรลาสใหญ่เช่นเดียวกับเขาไกรลาสของ เจ้าฟ้า เป็นต้น​

    พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2447 พระชันษา 37 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระราชวังบางปะอิน โดยใช้พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์เป็นที่ประดิษฐานพระศพ และโปรดให้จัดงานพระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ​

    ระหว่าง การเสด็จพระราชดำเนินไปในงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพของกรมขุนสุพรรณภาควดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ ก็ทรงประชวรและสิ้นพระชนม์ ด้วยพระอาการไข้พิษ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 ซึ่งในสี่แผ่นดินกล่าวว่า "ต้องเชิญพระศพพระเจ้าลูกเธอองค์หนึ่งลงมา แล้วเชิญพระศพของอีกพระองค์ขึ้นไป"

    พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี : ลูกคู่ทุกข์คู่ยากในรัชกาลที่ ๕
     
  5. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ต่อชาติ ต่อประชาชน มากล้นพ้นรำพัน สุดที่ใครจะนำมาบอกกล่าวให้ครบถ้วนทุกด้านกันได้ในวันเดียว หรือนำมาเขียนให้ครอบคลุมได้แค่หน้ากระดาษหนังสือพิมพ์วันหนึ่ง
    การยึดมั่นในชาติ กับการยึดมั่นในองค์พระสยามินทร์ "เป็นสิ่งเดียวกัน" ถือเป็นปณิธานทางใจที่ใช้แทนการพูดถึงกันได้ ผมมั่นใจเช่นนั้นนะครับ ฉะนั้น เมื่อวันวารเวียนถึงวาระพึงกตเวทิตาเป็นพิเศษเช่นนี้ เป็นหน้าที่ของพวกเรา-ชาวไทยทุกคน ควรน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ด้วยการทบทวน "การกระทำตัวเอง" สู่เส้นทาง
    ตลอดทั้งพระชนม์ชีพสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ณ วันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พุทธศักราช ๒๔๑๑ ตราบวันจากสรวงสวรรค์คืนสู่สรวงสวรรค์ ณ ๒๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ คนทั่วไปพูดว่า เป็นเวลา ๔๒ ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ องค์พระสยามินทร์เคยตรัสไว้กับเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ว่า
    "....คำซึ่งกล่าว ได้รับสิริราชสมบัติเปนคำไพเราะจริงหนอ เพราะสมบัติย่อมเปนที่ปรารถนาของบุคคลทั่วหน้า และย่อมจะคิดเห็นโดยง่ายๆ ว่า ผู้ซึ่งได้เปนเจ้าแผ่นดินแล้วย่อมจะมีอำนาจอาจจะลงโทษแก่ผู้ซึ่งไม่พึงใจ อาจจะยกย่องเกื้อกูลแก่ผู้ซึ่งพอใจ และเปนผู้มีสมบัติมาก อาจจะใช้สอยเล่นหัวหรือให้ปันแก่ผู้ที่พึงใจได้ตามประสงค์ ผลแห่งเหตุที่ควรยินดี กล่าวโดยย่อเพียงเท่านี้ ยังมีข้ออื่นอีกเปนหลายประการจะกล่าวไม่รู้สิ้น
    แต่ความจริงหาเปนเช่นความคาดหมายของคนทั้งปวงดังนั้นไม่ เวลาซึ่งกล่าวมาแล้วอันจะพูดตามคำไทยอย่างเลวๆ ว่ามีบุญขึ้นนั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นผู้มีกรรมแลมีทุกข์ยิ่ง ดังตัวพ่อได้เปนมาเอง..."
    "มีบุญขึ้นนั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นผู้มีกรรมและมีทุกข์ยิ่ง" เพราะเหตุใดพระองค์จึงตรัสเช่นนั้น และด้วยเหตุใดพระองค์จึงต้องทรงเป็นผู้มีกรรมและมีทุกข์?....


    แหล่งที่มา
    วันเสารที่ปลายซอย แม้ศัตรูยังอิจฉาในพระบารมี | ไทยโพสต์
     
  6. พี่ทิดศิษย์มีครู

    พี่ทิดศิษย์มีครู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +2,794
    อาตมาภาพ ธ.โชติกะภิกขุ ขอนุญาติอีกสักครั้ง ในการใช้พื้นที่อันมีค่าของญาติธรรมที่ดี แห่งนี้เพื่อมาบอกข่าวสารเร่งด่วน และเพื่อการสร้าบารมีและมตตาไมตรีทีดีร่วมกัน กับญาติธรรมในกลุ่มผู้ที่เคารพเชิดชูและพร้อมสร้างความดีเพื่อถวายเป็นพระบารมีธรรมต่อองค์สมเด็จพระนเรศวร และวีรชนผู้กล้า

    อาตมาขอบอกข่าวบุญด่วนบุญใหญ่เพื่ออานิสงฆ์อันยิ่งใหญ่ในวันออกพรรษา และวันเทโวโรหณสูตร ขอแจ้งให้ญาติธรรมทราบว่า
    วันนี้หลวงปู่พยุงที่อาพาธคุณหมออนุญาติให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

    วันนี้เมื่อ ๑๑.๐๐ น โยมพ่อมนัสได้เดินทางจากวัดหลังจากทำบุญในวันออกพรรษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเดินทางไปรับท่านตามคำอนุญาติของแพทย์ผู้ดูแล ซึ่งให้หลวงปู่กลับมาพักรักษาตัวต่อที่วัดได้เนื่องจากท่านเป็นห่วงพระสงฆ์ และญาติโยมที่วัด ซึ่งมาอาศัยใบบุญกันอยู่ แต่ก็คงต้องกลับไปรักษาตัวต่อ ซึ่งเป็นความเที่ยงของสังขารเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วย่อมหนีไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บตาย อาตมาภาพกับโยมบิดา และโยมผู้ดูแลท่านอื่น ยังมีภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตอนนี้ ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งเมื่อเช้าว่า มีค่าใช้จ่ายรวมกับบิลที่แจ้งมาเมื่อ ๒วันก่อน ประมาณ ๖๐๐๐๐ บาท(โดยประมาณ) ซึ่งตอนนี้นั้น มีเงินที่ได้รับมอบมาจากโยมสมบูรณ์ และจากการร่วมใจของผู้มีจิตอันเป็นกุศล ที่เหลือจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับหลวงปู่ในแต่ละวันที่ผ่านมาอยู่ประมาณ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ ก็ยังคงขาดอีก ๓๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณและยังจะต้องมีในด้าน ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดภายหน้า และอาตมาเองนั้น เห็นว่าผู้ที่ดูแลท่านในขณะนี้เป็นเพียงคนที่รักและศรัทธาที่ดีต่อหลวงปู่ แต่ยังขาดผู้ที่มีความรู้ที่ดีและมีความชำนาญ ในการดูแลครูบาอาจารย์ผู้เป็นตัวอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และญาติธรรมทั้งปวง ถ้าเป็นไปได้ อาตมาอยากหาพยาบาลสักท่านมาดูแล แต่คงหาอาสาสมัครที่มีใจเป็นกุศลแถวนี้ดูก่อน เพื่อร่วมสร้างบุญเพิ่มบารมีร่วมกันดู และวันนี้นั้นอาตมาและโยมบิดาได้หาเงินมาสำรองใว้ก่อนแล้ว และหากไม่มีผู้ร่วมบุญอาตมาเองและบิดาก็ยินดีและเต็มใจที่จะรับในภาระนี้

    แต่ เพื่อความดีงามและประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า อาตมานั้น ขอบอกบุญด่วนนี้อีก ๓๐๐๐๐ บาทที่กระทู้นี้และ ขอเชิญท่านร่วมบุญกันไปกับอาตมา ตามรายการของวัตถุมงคลที่อาตมาได้ถ่ายภาพเองและนำมาบอกบุญเพื่อมงคลที่ดีใน การบูชาและเพื่อการรักษาอาการอาพาทของครูบาอาจารย์ (แต่เดิมมีโยมแม่อีกแรงที่เป็นหลักให้บัดนี้ท่านก็มาเสียชีวิตลง เมื่อ๓ต.ค.ที่ผ่านมาหลังจากการดูแลหลวงปู่ที่อาพาธในครั้งก่อน อาตมาขออนุญาติและขอเมตตาบารมีอันสูงล้นจากทุกๆท่านด้วยเทอญในการครั้งนี้

    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา

    ขออนุโมทนา
    ธ.โชติกะภิกขุ(พระธานินทร์ โชติโก)


    แจ้งถึงญาติธรรมท่านที่สนใจจะร่วมบุญนี้กับอาตมาเพื่อแบ่งเบาภาระและสนับสนุนการดูแลรักษาครูบาอาจารย์

    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา


    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา

    ขออนุโมทนา....เจริญในธรรม
    ธ.โชติกะภิกขุ

    ด้านล่างภาพภ่ายใบแจ้งค่ารักษาล่วงหน้าที่รับมาจากทางโรงพยาบาลอินเตอร์เวชการ พิษณุโลก เมื่อ๒วันที่ผ่านมา



    วันนี้หลวงปู่พยุงที่อาพาธคุณหมออนุญาติให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว


    วันนี้เมื่อ ๑๑.๐๐ น โยมพ่อมนัสได้เดินทางจากวัดหลังจากทำบุญในวันออกพรรษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเดินทางไปรับท่านตามคำอนุญาติของแพทย์ผู้ดูแล ซึ่งให้หลวงปู่กลับมาพักรักษาตัวต่อที่วัดได้เนื่องจากท่านเป็นห่วงพระสงฆ์ และญาติโยมที่วัด ซึ่งมาอาศัยใบบุญกันอยู่ แต่ก็คงต้องกลับไปรักษาตัวต่อ ซึ่งเป็นความเที่ยงของสังขารเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วย่อมหนีไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บตาย อาตมาภาพกับโยมบิดา และโยมผู้ดูแลท่านอื่น ยังมีภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตอนนี้ ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งเมื่อเช้าว่า มีค่าใช้จ่ายรวมกับบิลที่แจ้งมาเมื่อ ๒วันก่อน ประมาณ ๖๐๐๐๐ บาท(โดยประมาณ) ซึ่งตอนนี้นั้น มีเงินที่ได้รับมอบมาจากโยมสมบูรณ์ และจากการร่วมใจของผู้มีจิตอันเป็นกุศล ที่เหลือจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับหลวงปู่ในแต่ละวันที่ผ่านมาอยู่ประมาณ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ ก็ยังคงขาดอีก ๓๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณและยังจะต้องมีในด้าน ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดภายหน้า และอาตมาเองนั้น เห็นว่าผู้ที่ดูแลท่านในขณะนี้เป็นเพียงคนที่รักและศรัทธาที่ดีต่อหลวงปู่ แต่ยังขาดผู้ที่มีความรู้ที่ดีและมีความชำนาญ ในการดูแลครูบาอาจารย์ผู้เป็นตัวอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และญาติธรรมทั้งปวง ถ้าเป็นไปได้ อาตมาอยากหาพยาบาลสักท่านมาดูแล แต่คงหาอาสาสมัครที่มีใจเป็นกุศลแถวนี้ดูก่อน เพื่อร่วมสร้างบุญเพิ่มบารมีร่วมกันดู และวันนี้นั้นอาตมาและโยมบิดาได้หาเงินมาสำรองใว้ก่อนแล้ว และหากไม่มีผู้ร่วมบุญอาตมาเองและบิดาก็ยินดีและเต็มใจที่จะรับในภาระนี้

    แต่ เพื่อความดีงามและประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า อาตมานั้น ขอบอกบุญด่วนนี้อีก ๓๐๐๐๐ บาทที่กระทู้นี้และ ขอเชิญท่านร่วมบุญกันไปกับอาตมา ตามรายการของวัตถุมงคลที่อาตมาได้ถ่ายภาพเองและนำมาบอกบุญเพื่อมงคลที่ดีใน การบูชาและเพื่อการรักษาอาการอาพาทของครูบาอาจารย์ (แต่เดิมมีโยมแม่อีกแรงที่เป็นหลักให้บัดนี้ท่านก็มาเสียชีวิตลง เมื่อ๓ต.ค.ที่ผ่านมาหลังจากการดูแลหลวงปู่ที่อาพาธในครั้งก่อน อาตมาขออนุญาติและขอเมตตาบารมีอันสูงล้นจากทุกๆท่านด้วยเทอญในการครั้งนี้

    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา

    ขออนุโมทนา
    ธ.โชติกะภิกขุ(พระธานินทร์ โชติโก)


    แจ้งถึงญาติธรรมท่านที่สนใจจะร่วมบุญนี้กับอาตมาเพื่อแบ่งเบาภาระและสนับสนุนการดูแลรักษาครูบาอาจารย์

    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา


    ท่านที่สนใจและมีศรัทธาในการจะร่วมบุญกับอาตมา ในการอาพาทของหลวงปู่นั้นสามารถร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นเมตตตาบารมีทาน ในการช่วยเหลือ พระภิกษุที่ชราภาพ อายุ๘๗ปี และ ๖๗ พรรษาในการอุปสมบท ซึ่งเป็นการร่วมบุญกับพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาในการครองเพศบรรชิต ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้ เพื่อบารมีทานที่ดี ที่ควร สามารถร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา

    ขออนุโมทนา....เจริญในธรรม
    ธ.โชติกะภิกขุ

    ด้านล่างภาพภ่ายใบแจ้งค่ารักษาล่วงหน้าที่รับมาจากทางโรงพยาบาลอินเตอร์เวชการ พิษณุโลก เมื่อ๒วันที่ผ่านมา และตอนนี้ยอดจริงที่ชำระไปได้กลับมาถึงแล้วพร้อมหลวงปู่ และ ยังคงค้างจ่ายทางโรงพยาบาลใว้อีก๔,๐๐๐ บาท จากยอด สุทธิหักส่วนลดแล้ว ๕๔,๒๔๖ จ้ะ (ขณะตั้งกระทู้ท่านกลับมาถึงกันพอดี)สักครู่จะนำใบเสร็จล่าสุดยอดหลังมาลงจ้ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. พี่ทิดศิษย์มีครู

    พี่ทิดศิษย์มีครู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +2,794
    อาตมาความอนุเคราะห์ในดวงจิตที่เปี่ยมเมตตา และผู้ที่มีกำลังอันจะสามารถให้การช่วยเหลือ หลวงปู่ และโยมบิดา ผู้รับผิดชอบ และแบ่งเบาในภารกิจบุญอันหนักด้วยอานิสงฆ์และการแสดงมุฑิตาและกตัญญูกตเวทิตานี้ได้ อาตมานั้นมีวัตถุมงคล พระเครื่อง และพระบูชา ที่เป็นของส่วนตัวและของบรรพบุรุษของอาตมาที่ิ้งใว้ มอบเป็นน้ำใจจ้ะ และเป็นการมอบให้เพื่ออนุโมทนา ,,,,,ขอทุกท่านเจริญในธรรม

    สนใจช่วยเหลือพระภิกษุชรา อาพาท ขาดแคลน แต่แน่นหนัก และประจักษ์ธรรม ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองตม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 2282364274 ชื่อบัญชีพระธานินทร์ โชติโก

    หรือ สอบถามเรื่องราวบุญนี้ได้ที่ 082-4446445 พระธานินทร์โชติโก อาตมานั้นใช้บัญชีนี้เพียงบัญชีเดียวในการบุญต่างๆทั้งปวงที่เกิดจากความคิด และความตั้งใจของอาตมา


    ขออนุโมทนา
    ธ.โชติกะภิกขุ(พระธานินทร์ โชติโก)


    ภาพถ่ายหลวงปู่ขณะพักรักษาตัวที่วัดก่อนน้ำท่วมปอด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210


    ขอเชิญพระเดช
    ปกป้องเขต แดนสยาม

    ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2010
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....พลันนึกถึงหนังสือระดับ National Bestseller เล่มหนึ่งของ Amitav Ghosh ในเรื่อง The Glass Palace ผมไม่ได้อ่านเอง หากแต่คุณภูมิชาย ล่ำซำ ไปเที่ยวพม่าแล้วซื้อมาอ่าน มีบางบทกษัตริย์พม่าตอนนั้นซึ่งเป็นนักโทษในคุก รำพึง-รำพันถึงพระมหากษัตริย์ไทยเชิงเปรียบเทียบชะตากรรมทั้งของตัวเอง และประเทศชาติตัวเองอย่างน่าสนใจ
    น่าสนใจแง่ที่ว่า เป็นความจริงอีกด้านหนึ่ง ซึ่งคนภายนอกไม่มีโอกาสรู้ว่า "กษัตริย์พม่าคิดอย่างไร?" ต่อไทย ต่อพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นั้น-ขณะนั้น คือ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มันเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ อันมีบันทึกอยู่ใน "หอจดหมายเหตุ" ในพระราชวังพม่า
    คุณภูมิชายให้เพื่อนช่วยแปลให้ผมฟัง เขาเขียนถึง "กษัตริย์องค์สุดท้าย" ของพม่าและของราชวงศ์อลองพญา พระนามว่า "พระเจ้าธีบอ" หรือพระเจ้าสีป่อ ท่านที่เคยอ่าน "เที่ยวเมืองพม่า" ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ คงจำได้ว่า พม่าเสียเมืองให้อังกฤษราวๆ พ.ศ.๒๔๒๙ ระบบกษัตริย์ล่มสลาย พระเจ้าสีป่อถูกอังกฤษจับไปขังอยู่ในคุกที่อินเดียเกือบ ๓๐ ปีก่อนถูกประหารชีวิต เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘
    Amitav Ghosh เขียนเกี่ยวพันถึงการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๑ ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ผ่านการ "คิดสะท้อน" ของพระเจ้าสีป่อ โดยยกชะตาชีวิต-ชะตาชาติตัวเองเปรียบเทียบ ดังนี้
    มีการตัดสินอนุญาตให้ส่งหนังสือพิมพ์จากบอมเบย์ไปยังเคหาสน์เอาท์แรม พร้อมกับเที่ยวเรือขนส่งเนื้อหมูของพระเจ้าสีป่อ หนังสือพิมพ์ปึกแรกอ่านพบรายงานข่าวที่ทำให้จิตใจจดจ่อหมกมุ่น มันคือข่าวบรรยายการเสด็จประพาสยุโรปของ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจุฬาลงกรณ์แห่งกรุงสยาม" นับเป็นครั้งแรกที่พระราชวงศ์เอเชียเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรปอย่างเป็นทางการ การเสด็จประพาสกินเวลานานหลายสัปดาห์ และตลอดช่วงเวลานั้น ไม่มีสิ่งอื่นใดครอบงำความสนพระทัยของพระเจ้าสีป่อได้อีกเลย
    ที่กรุงลอนดอน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจุฬาลงกรณ์ประทับ ณ พระราชวังบัคกิงแฮม พระองค์ทรงรับการถวายการต้อนรับสู่ออสเตรียโดยสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ทรงรับการถวายพระราชไมตรีโดยกษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ณ กรุงโคเปนเฮเกน และประธานาธิบดีฝรั่งเศสถวายพระราชทานเลี้ยง ณ กรุงปารีส ที่ประเทศเยอรมนี พระเจ้าไกเซอร์ วิลเฮล์ม ทรงยืนคอยรับเสด็จที่สถานีรถไฟ จนกระทั่งขบวนรถไฟพระที่นั่งของ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจุฬาลงกรณ์" แล่นเข้าเทียบ พระเจ้าสีป่อทรงอ่านรายงานข่าวครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งทรงจดจำขึ้นพระทัย
    เพียงมินานมานี้ที่ พระเจ้าอลองพญา ผู้ทรงเป็นสมเด็จทวดของพระเจ้าสีป่อ และพระเจ้าพะคยีดอ ผู้ทรงเป็นสมเด็จปู่ กรีธาทัพรุกรานสยาม บดขยี้กองทัพอยุธยา ปลดกษัตริย์ผู้ครองบัลลังก์ และปล้นสะดมกรุงศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าของสยาม ผลภายหลังคือ ผู้มีบรรดาศักดิ์ซึ่งถูกปราบพ่ายแพ้เลือกพระเจ้าอยู่หัวองค์ใหม่ บางกอกกลายเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ต่อมา มันเป็นเพราะพระเจ้าแผ่นดินพม่า เพราะบรรพกษัตริย์ของพระเจ้าสีป่อ เพราะพระราชวงศ์คองบอง สยามจึงได้มีพระราชวงศ์ปัจจุบันและกษัตริย์ผู้ครองแผ่นดิน
    วันหนึ่งพระเจ้าสีป่อรับสั่งกับเหล่าพระราชธิดาว่า 'เมื่อครั้งที่บรรพกษัตริย์ของเรา พระเจ้าอลองพญาผู้เกรียงไกร ทรงยกทัพรุกสยาม พระองค์มีพระราชสาสน์ถึงพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา' พระราชสาสน์ฉบับคัดลอกเก็บอยู่ที่หอจดหมายเหตุในพระราชวัง กล่าวใจความว่า
    "หาได้มีความเป็นคู่ขันแข่งในพระเกียรติยศและบุญญาธิการระหว่างเราทั้งสองไม่ การวางพระองค์เทียบข้างพวกหม่อมฉัน เป็นการเปรียบพญาครุฑของพระวิษณุกับนกนางแอ่น พระอาทิตย์เปรียบกับหิ่งห้อย พฤกษเทวดาแห่งสรวงสวรรค์เปรียบกับไส้เดือนดิน พญายูงทอง ธตรัฏฐะ เปรียบกับแมลงเสพคูถ"
    นั่นเป็นวาจาที่บรรพกษัตริย์ของเราตรัสกับพระเจ้ากรุงสยาม ทว่าบัดนี้ พวกเขากลับได้นอนพำนักในพระราชวังบัคกิงแฮม ขณะที่พวกเราถูกฝังจมราบอยู่ในกองมูลสัตว์เยี่ยงนี้.......
    ครับ..บุญญาบารมี และพระบรมเดชานุภาพด้วยพระเกียรติก้องแห่ง "พระมหากษัตริย์ไทย" เป็นฉันใด อยู่เหนือการลบหลู่ และผู้คิดล้มล้างจะมีผลฉันใด แม้ในประวัติศาสตร์พม่าเองยังต้องยอมรับ......



    เข้าใจว่าเรื่องนี้น่าจะยังไม่ค่อยได้รับรู้กันมากนัก เลยขออนุญาตคัดลอกจากคอลัมน์ "วันเสาร์ที่ปลายซอย แม้ศัตรูยังอิจฉาในพระบารมี" โดยคุณเปลว สีเงิน หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ มาฝากกันครับ
    วันเสารที่ปลายซอย แม้ศัตรูยังอิจฉาในพระบารมี | ไทยโพสต์
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    วันที่ 23 ตุลาคม ไปทำบุญปวารณาวันออกพรรษา ที่วัดที่มีหลังคาจีน วัดนี้วัดอะไรเอ่ย​

    วันนี้ 24 ตุลาคม ไปทำบุญตักบาตรเทโว และถวายผ้าพระกฐิน ที่วัดนี้อีกครั้ง (คนที่ชี้ให้สังเกตุหลังคาวัดนี้ว่าถ้าไม่มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ แต่ใส่เป็นมังกรเข้าไปแทนก็กลายเป็นหลังคาวัดจีนไปเลยนะนั่น ทางสายธาตุจึงเพิ่งเอะใจวันนี้ว่า หลังคาแอ่นโค้งแบบหลังคาจีนจริงๆ ต้องเอากระเบื้องหลังคาแบบวัดจีนมาใส่จึงจะได้ คงเป็นความตั้งพระทัยของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงสร้างวัดนี้)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0448.JPG
      IMG_0448.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.6 KB
      เปิดดู:
      500
  11. พี่ทิดศิษย์มีครู

    พี่ทิดศิษย์มีครู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +2,794
    ขออนุโมทนา...........เจริญธรรม บริบูรณ์

    อาตมาภาพมองเห็นความมีเมตตาธรรมและพรหมวิหาร๔ ที่เป็นตัวอย่าง ของ "คนบุญ" แน่แท้ ขออนุโมทนาในกุศลราศรี และบารมีธรรมที่กำเนิดในการนี้ด้วยเทอญ.......สาธุ อนุโมทามิ

    ขอท่านเจริญในธรรม...บริบูรณ์

    ธ.โชติกะภิกขุ
     
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    สร้างช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ประกอบเข้าไป ได้หลังคาวัดไทย ทำให้น่าคิดว่า กษัตริย์ผู้สร้างวัดนี้ทรงต้องการให้หลังคาในลักษณะนี้สื่อความหมายหรือไม่ อย่างไร​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0451.JPG
      IMG_0451.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.7 KB
      เปิดดู:
      420
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2010
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    อ่านประวัติวัดโปรดสัตว์เกี่ยวกับเจ้าจอมมารดาเนื่องแล้วตีความหมายไม่ได้ ช่วยตีความหมายกันหน่อยนะคะ

    อ้างอิงพระประวัติเจ้าจอมมารดาเนื่องในวีกิพีเดีย ดังนี้

    ทางสายธาตุ ตีออกมาสองความหมาย

    ความหมายที่ ๑ เจ้าจอมมารดาเนื่องนั้นทรงประสูติในเรือที่พักอยู่หน้าวัด ทรงเป็นธิดาของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์

    ความหมายที่ ๒ เจ้าจอมมารดาเนื่องทรงพระครรภ์แก่ เมื่อเสด็จมาจอดเรือพักอยู่ที่หน้าวัด ทรงให้ประสูติกาลพระองค์หญิงเยาวภาพงศ์สนิท(พระธิดา)หรือพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์(พระโอรส) พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ซึ่งทรงเป็นพระะธิดาและพระโอรสแห่งพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕

    ท่านผู้อ่านตีความหมายอย่างไร หรือว่ามีผู้ที่รู้เรื่องราวนี้ว่าที่จริงเป็นมาอย่างไรบ้างคะ
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ใครทำการบังอาจไว้ คงต้องเตรียมรับผลของกรรมนั้นแล้ว ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ขอใช้คำว่า it's your turn ค่ะ
     
  15. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ๕๕๕๕ น้องโมเย พี่ทางสายธาตุขอหมอบเรื่องประวัติวัดกู้ และ ประวัติวัดพระยาเจ่งนะคะ มันเกินกำลังพี่ที่จะไปค้นหา ขอฟังอย่างเดียวถ้าจะมีใครอยากเล่าขึ้นมาค่ะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อวานนี้และวันนี้ไปทำบุญที่วัดปราสาทมาค่ะ และพอดีวันนี้ได้โต๊ะวางของเพื่อเตรียมรอตักบาตรเทโวอยู่ด้านข้างโบสถ์ ก็เลยได้แหงนหน้ามองหลังคาวัดอย่างชัดๆ ซึ่งไม่เคยสังเกตมาก่อน ทั้งๆที่มาวัดนี้นับได้เป็นสิบครั้งแล้ว จึงได้พบรายละเอียดอีกอย่างหนึ่งบนหลังคาโบสถ์นั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0450.JPG
      IMG_0450.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.5 KB
      เปิดดู:
      383
    • IMG_0452.JPG
      IMG_0452.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.5 KB
      เปิดดู:
      388
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    น.ส.พ. คมชัดลึก ลงข่าวเกี่ยวกับ บางขดาน ใต้วัดโปรดสัตว์

    บางขดาน ย่านศักดิ์สิทธิ์ทำพิธีไล่น้ำ

    [​IMG]

    สะดือแม่น้ำ เขตศักดิ์สิทธิ์ย่านบางขดาน น่าจะอยู่ช่วงใต้ขนอนหลวงลงมา ช่วงระหว่างวัดโปรดสัตว์กับเกาะพระ (ปรับปรุงจาก google satellite)


    คมชัดลึก :ในฤดูที่มีน้ำหลากมากล้นแต่ถึงเวลาที่ต้องไล่น้ำให้ลดลงเพื่อไม่ท่วมข้าวในนาจนตาย โบราณราชประเพณีจึงมีพิธีไล่เรือหรือไล่น้ำหรือไล่ชลเป็นสัญลักษณ์ อยู่ในพระราชพิธี 12 เดือน เกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่เดือน 11 (ราวเดือนตุลาคม) ที่มีการแข่งเรือเพื่อเสี่ยงทาย และเดือน 12 (ราวพฤศจิกายน) มีพิธีลดชุดลอยโคม และเดือนอ้าย (ราวธันวาคม) มีพิธีไล่น้ำ เป็น 3 เดือนที่เกี่ยวเนื่องกันและเกี่ยวข้องกับการเพิ่ม-ลดระดับน้ำตามธรรมชาติ ก่อนจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต

    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1287925072&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.53.64&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20101020%2F76672%2F%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3.html&dt=1287925072688&shv=r20101007&jsv=r20101022&correlator=1287925072688&frm=0&adk=2841150207&ga_vid=68182119.1286028875&ga_sid=1287925073&ga_hid=1318186197&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=2&u_java=1&u_h=768&u_w=1366&u_ah=728&u_aw=1366&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1345&bih=554&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fq%3D%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%258C%26hl%3Dth%26rlz%3D1T4ADFA_enTH388TH389%26ei%3DvyvETNycOoK2vQOhuoB7%26start%3D10%26sa%3DN&fu=0&ifi=1&dtd=46"></SCRIPT>
    โคลงทวาทศมาส ระบุตำบลย่านที่ทำพิธีว่า ต้องทำที่บางขดาน มีเอกสารระบุว่าอยู่ใต้ขนอนหลวงวัดโปรดสัตว์ ซึ่งที่แห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2129 สมเด็จพระนเรศวรเคยยกทัพมาตั้งค่าย ในกำสรวลสมุทร เอกสารยุคต้นกรุงศรีอยุธยา เขียนว่า “จากมามาแกล่ใกล้ บางขดาน ขดานราบคือขดานดือ ดอกไม้” สุจิตต์ วงษ์เทศ อธิบายไว้ในหนังสือประเพณี 12 เดือน ว่าบริเวณนี้เป็น “ดินสะดือ” หมายถึงมีน้ำวนเป็นเกลียวลึกลงไป ถือเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ของแม่น้ำเป็นทางลงบาดาลของนาค คนยุคต้นกรุงศรีอยุธยา หรือยุคทวารวดีเชื่อว่ามีสะดือแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตำบล “บางขดาน” ใต้ตัวเมืองอยุธยาลงไป มีพรรณนาอยู่ในโคลงทวาทศมาสว่า พระเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จทางเรือนาค (อนันตนาคราช)ไปทำพระราชพิธีหรือพิธีกรรม “เห่เรือ” ขอขมาผีน้ำผีดินที่ตำบลนี้ ขอให้น้ำลดเร็วๆ ชาวนาจะได้เกี่ยวข้าว


    บางขดาน คงอยู่ในเขตตำบลขนอนหลวง อันเป็นที่ตั้งของวัดโปรดสัตว์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน ขนอนหลวง หรือขนอนบางตะนาวสี หมายถึง ด่านเก็บอากรของหลวง ตั้งอยู่ข้างวัดโปรดสัตว์ เป็นด่านภาษีใหญ่กว่าทุกแห่ง สำหรับตรวจผู้คนและเรือลูกค้า กับเก็บภาษีสินค้าที่เข้าออกทางหัวเมืองชายทะเลและต่างประเทศ

    สะดือแม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์เหลือเพียงคำเล่าขานในราชพิธี แต่ชาวบ้านอาจยังคุ้นเคยกับความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำบริเวณนี้ เพราะมีเรื่องเล่าที่มาของวัดโปรดสัตว์ที่ใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำหน้าวัดรดทำลายมนต์ดำและแก้โรคภัยไข้เจ็บ


    "เรือนอินทร์ หน้าพระลาน" คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก รายงานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2553

    http://www.komchadluek.net/detail/20101020/76672/บางขดานย่านศักดิ์สิทธิ์ทำพิธีไล่น้ำ.html
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&channel=9989085094&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.53.64&dt=1287925523590&shv=r20101007&jsv=r20101022&correlator=1287925523590&frm=1&adk=3805495853&ga_vid=1658550507.1287231041&ga_sid=1287917607&ga_hid=409713647&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=4&u_java=1&u_h=768&u_w=1366&u_ah=728&u_aw=1366&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1345&bih=554&ifk=3080506838&fu=4&ifi=1&dtd=125"></SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&channel=9989085094&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.53.64&dt=1287925638543&shv=r20101007&jsv=r20101022&correlator=1287925638543&frm=1&adk=3805495853&ga_vid=1658550507.1287231041&ga_sid=1287917607&ga_hid=947744002&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=4&u_java=1&u_h=768&u_w=1366&u_ah=728&u_aw=1366&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1345&bih=554&ifk=3080506838&fu=4&ifi=1&dtd=94"></SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2010
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    บางขดานในพงศาวดาร

    ๒๑ จากมามาแกล่ไกล้ บางขดาน
    ขดานราบคือขดานดือ ดอกไม้
    มาเกาะกำแยลาญ ลุงสวาท กูเอย
    ถนัดกำแยย้าใส้ พี่คาย ฯ

    บทนี้มีสองตำบล บางขดาน และ เกาะกำแย

    ชื่อบางขดานปรากฏในพงศาวดารบางฉบับ แต่เกาะกำแย หรือที่ฉบับ อ.ล้อมชำระว่าเกาะตำแยนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อน และทั้งสองตำบลนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้ว

    พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐฯ มีความตอนหนึ่งว่า

    ศักราช ๙๔๘ จอศก (พ.ศ.๒๑๒๙) ณ วันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ พระเจ้าหงษางาจีสยางยกพลลงมาเถิงกรุงพระนครศรีอยุทธยา ณ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๒ แลพระเจ้าหงษาเข้าล้อมพระนคร แลตั้งทัพตำบลขนอนปากคู แลทัพมหาอุปราชาตั้งขนอนบางตนาวแลทัพทั้งปวงนั้นก็ตั้งรายกันไปล้อมพระนครอยู่ แลครั้งนั้นได้รบพุ่งกันเปนสามารถและพระเจ้าหงษาเลิกทัพคืนไปในศักราช ๙๔๙ (พ.ศ.๒๑๓๐) นั้นวันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ เสด็จโดยทางชลมารคไปตีทัพมหาอุปราชา อันตั้งอยู่ขนอนบางตนาวนั้นแตกพ่ายลงไปตั้งอยู่ ณ บางกระดาน วันศุกร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ เสด็จพระราชดำเนินออกไปตีทัพมหาอุปราชา อันลงไปอยู่ ณ บางกระดานนั้นแตกพ่ายไป วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ เสด็จพระราชดำเนินพยุหบาตราออกตั้งทัพไชย ณ วัดเดชะ แลตั้งค่ายขุดคูเปนสามารถ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ เอาปืนใหญ่ลงสำเภาขึ้นไปยิงเอาค่ายพระเจ้าหงษาๆ ต้านมิได้ก็เลิกทัพไปตั้ง ณ ป่าโมกใหญ่ วันจันทร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๔ เสด็จพระราชดำเนินออกไปตีทัพข้าเศิก ๆ นั้นแตกพ่าย แลไล่ฟันแทงข้าเศิกเข้าไปจนค่ายพระเจ้าหงษานั้น วันอังคาร แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๒ เสด็จพระราชดำเนินออกตั้งเปนทัพซุ่ม ณ ทุ่งหล่มพลี แลออกตีทัพข้าเศิก ครั้งนั้นได้รบพุ่งตลุมบอนกันกับม้าพระที่นั่ง แลทรงพระแสงทวนแทงเหล่าทหารตาย ครั้นข้าเศิกแตกพ่ายเข้าค่าย แลไล่ฟันแทงข้าเศิกเข้าไป จนถึงน่าค่าย วันจันทร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ เพลานาฬิกาหนึ่งจะรุ่ง เสด็จยกทัพเรือออกไปตีทัพพญานคร ซึ่งตั้งอยู่ ณ ปากน้ำมุทุเลานั้น ครั้งนั้นเข้าตีทัพได้เถิงในค่าย แลข้าเศิกพ่ายหนีจากค่ายแลเผาค่ายข้าเศิกเสียสิ้นแลพระเจ้าหงษาก็เลิกทัพคืนไป แลพญาลแวกมาตั้ง ณ บางซาย ครั้งนั้นเสด็จออกไปชุมพลทั้งปวง ณ บางกระดาน เถิงวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ เพลาอุษาโยค เสด็จพยุหบาตราจากบางกระดานไปตั้งทัพไชย ณ ซายเคืองแล้วเสด็จไปลแวก ครั้งนั้นได้ช้างม้าผู้คนมาก

    ความในพงศาวดารตอนนี้กล่าวถึงขนอนบางตนาว และบางกระดาน เป็นไปได้ว่า ทรนาว ในโคลงบทที่ ๒๐ และ บางขดาน ในบทที่ ๒๑ ก็คือทั้งสองที่นี้เอง
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    บางขดาน ในโคลงดั้น ทวาทศมาส

    ๑๓๐. ชลธีปละปลั่งคว้าง.......ทางสินธุ์
    นาเวศนาวาวาง....................วาดน้ำ
    ตกปางขดานดิน..................สดือแม่
    ดลรดูสั่งล้ำ........................ไล่ชล ฯ

    ๑๓๑. ไล่ชลนาเวศแล้ว........เมือโรง
    อ่อนรทวยนวยกล................กิ่งก้ม
    เรียมพายรโงงโหง...............หกอยู่
    เพราะเพื่อพลหายห้ม............ห่มแรง ฯ

     
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    วันนี้จะให้จบเรื่องวัดโปรดสัตว์นะคะ โดยเฉพาะเรื่องน้ำมนต์ศักดิ์สิทธ์หน้าวัดโปรดสัตว์

    สวัสดีค่ะพี่จงรักฯ
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ที่มาของชื่อ วัดโปรดสัตว์

    ตาเจิมเล่าว่าในสมัยที่ตรงกับรัชกาลที่ ๑ หรืออาจจะเข้าสู่รัชกาลที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรีแล้วก็ได้ เกิดเรื่องประหลาดขึ้นที่วัดโปรดสัตว์แห่งนี้

    วัดแห่งนี้เดิมที่ไม่ใช่วัดชื่อวัดโปรดสัตว์ มีประวัติเล่าว่า มีผู้เก่งกล้าวิชาอาคมเสกกระดูกผีเป็นช้างลอยน้ำมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา มาติดอยู่หน้าวัด ในระหว่างที่ลอยมาผ่านที่ไหนชาวบ้านจะล้มเจ็บเป็นจำนวนมาก เด็กวัดได้ไปพบช้างที่หน้าวัดจึงได้มาบอกหลวงพ่อ

    หลวงพ่อได้บอกกับเด็กวัดว่าไม่ใช่ช้างเป็นกระดูกผีลอยน้ำมา เจ้าจงเอาน้ำมนต์ไปสาดช้างเชือกนั้น ปรากฎว่าเป็นกระดูกผีจริงๆ ชาวบ้านที่ล้มป่วยทราบว่าหลวงพ่อมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จึงได้เดินทางมาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเป็นจำนวนมาก

    หลวงพ่อเดินไปที่หน้าโบสถ์ชี้ไปที่แม่น้ำเจ้าพระยาตรงหน้าโบสถ์ และพูดว่าน้ำมนต์อยู่ในน้ำนั้น ชาวบ้านจึงตักน้ำตรงหน้าวัด ไปรักษาญาติที่เจ็บป่วยหายเป็นปลิดทิ้ง ตั้งแต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่า "วัดโปรดสัตว์"
     

แชร์หน้านี้

Loading...