ขอความคิดเห็นเรื่องหยุดถวายเงินทองให้พระภิกษุสงฆ์

โดยมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาอ้างว่าพวกตนเองเป็นลูกศิษย์พระสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก
แจกจ่ายใบปลิวแผ่นพับโดยแผ่นพับขนาดเท่ากระดาษเอ 4 มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า "ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 3 หน้า 904 เขียนไว้ว่า ห้ามให้เงินพระ และหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา หยุดทำร้ายตัวเองด้วยการถวายเงินทองให้กับพระสงฆ์" ในแผ่นพับยังระบุที่อยู่ของผู้จัดพิมพ์คือ สำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ แล้วขอร้องให้ประชาชนทุกคนเลิกถวายเงิน-ทองให้กับพระสงฆ์และสามเณร
ผมจึงอยากจะรู้ว่าเค้ามีจุดประสงค์เพื่ออะไรหากใครพอจะทราบข้อมูลช่วยบอกทีหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ได้นะคับ

 

ผมไม่แน่ใจว่าใช้พระวัดนี้รึป่าวนะคับที่เคยเป็นข่าวว่าตบหน้าองค์หลวงพ่อพุทธชินราชและสอนไม่ให้คนเราบูชาพระพุทธรูป

 

ใช่ค่ะ วัดนี้แหละ ที่สอนแบบน้ัน แต่การถวายเงินพระ บางทีก็จำเป็นนะคะ บางองค์ต้องใช้ปัจจัยในการเรียน การรักษาพยาบาลนะ และอีกหลายๆอย่าง นะคะ อย่าคิดมากเลย คิดว่าทำบุญ อนุโมทนาค่ะ

 

ปัจจุบันพระท่านต้องใช้ปัจจัยในหลายเรื่อง การแจกจ่ายใบปลิวแบบนั้น ไม่ค่อยแน่ใจในเจตนามีความสุจริต ถูกต้องแค่ไหน ขอให้เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านไม่ได้บอกห้ามไว้แสดงว่าเราทำถูก อย่าเชื่อ แผ่นใบปลิว ที่ไม่รู้ผู้ทำเข้าใจหลักการถูกต้องหรือไม่ ตอนนี้มีมาร ทั้งผู้ทุรศิล ออกมาแสดงอวดอ้างกันมาก

 

ถ้างั้นผมว่าสังคมเราก็อยู่ในขัดวิกฤตจริงๆนะคับ
เพราะถ้าเค้าทำอย่างนี้โดยที่ไม่รู้จุดประสงค์ของเขาว่าเขาไปทำไปเพื่ออะไร....

 

เจตนาสำคัญอยู่ที่พระรับเงินด้วยความละโมบ สะสม หรือรับเพื่ออนุเคราะห์ญาติโยมให้ได้บุญ โดยนำปัจจัยที่ได้ไปใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับความเป็นพระ เพราะในความเป็นจริง พระก็ย่อมมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เช่น เดินทางก็ต้องเสียค่ารถ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องซื้อยารักษา ของใช้บางอย่างก็ต้องซื้อเพื่อดำรงอัตภาพต่อไป ถ้าเงินนั้นได้รับมามาก พระก็นำไปบริจาค ทำบุญต่อไปได้ พระหลายรูปอาจเห็นแก่ลาภสักการะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรูป พระที่ดี น่าเคารพเลื่อมใสก็มีมาก ไม่ใช่หรือ ก็ไม่ทราบจุดประสงค์ของเค้าเหมือนกัน แต่อยากให้ทุกท่านใคร่ครวญใช้ปัญญาหาเหตุผลให้ดีก่อนคุ่ะ

 

เรื่องการถวายเงินถวายปัจจัยในสมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้าท่านยกเว้นไปแล้วครับ
มันหมดกาลสมัยของท่าน เพราะท่านบอกพระสาวกไว้ก่อนนิพพานว่า
ว่าสิ่งไหนไม่เหมาะสมกับการเวลาให้เว้นล่ะไว้เสียมันจะทำให้เดือดร้อนกันวุ่นวาย
พระท่านจำเป็นต้องใช้เงิน เพราะทุกวันนี้ไปไหนมาไหนมันต้องใช้เงิน
แต่การใช้ปัจจัยนี้ต้องพอเหมาะพอสมควร คือ ต้องมาใช้ในปัจจัย 4 ครับ
ฉะนั้นมันไม่เกี่ยวว่า พระถือเงินพระไม่ถือเงินนั้นผิดศีล ศีล มันอยู่ที่ใจครับ
หากถือแล้วล่ะไม่ได้วางไม่ได้ อยากมักมากนั่นแหล่ะครับ ผิดศีล
แต่ถ้าหากว่าใช้ในการดำรงปัจจัย 4 แต่เพียงเหมาะไม่เห่อเหิมทะเยอทะยาน
มันก็ไม่เป็นอะไรครับ แล้วหากพระไม่ใช้เงิน วัดเกิดจากเทวดาฟ้าอินทร์พรหม
ลงมาสร้างสรรค์ให้เหรอครับ ให้พิจารณาดูนะครับ หรือนั่งภาวนาจนเกิด วิมาน
เป็นวัดวา ละครับ แม้แต่ขึ้นรถหากเป็นพระก็ยังเสียเงินเลย ไม่เสียเงินดูซิครับ
โยมจะบอกว่า นิมนต์หลวงพี่ลงจากรถครับ ลองดูไหมครับ
เวลาปฏิบัติธรรมให้เาอพระวินัยเป็นกลาง แต่ต้องพิจารณาว่าสมัยไหนแล้วครับ
ฉะนั้น จีวรไม่ต้อง ไปเอาผ้า ห่อศพมาห่อกันเลยครับ จะได้ถูกพระวินัย
อย่าลืมนะครับ ในพระวินัยมีให้ภิกษุอาบน้ำ 15 วันอาบครั้งหนึ่ง ลองดูไหมครับ
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสภาพการณ์และความเป็นจริงเน้อ
เคร่งมากเร่งมากไปใจก็ทุกข์ พูดไปเสียไปใจก็โกรธ โทษใครว่าใครใจก็เศร้า
ที่แท้เราคือเขาที่พูดมา สาธุครับ

 

ขอมาช่วยให้ความกระจ่างตามที่ตัวเองเข้าใจนะครับ
คิดตามนี้นะครับ พระไตรปิฎกเป็นคำสอนพระพุทธเจ้าก็จริง แต่คุณคิดว่าใครถ่ายทอดรจนาหรือจารหรือเขียนครับ ใช่พระอรหันต์ไหมครับ? ในเมื่อพระอรหันต์เขียนขึ้นมา แล้วสมัยนี้ยังมีพระอรหันต์อยู่หรือเปล่าครับ? ถ้าคุณคิดว่ามี ถามท่านโดยตรงก็ไม่ต่างกับพระอรหันต์ในพุทธกาลบอกใช่ไหมครับ? ถ้าถามท่านแล้วท่านยืนยันว่าไม่เป็นไร จบครับ เชื่อพระอรหันต์นะครับ สำนักไหน ที่ไหน จะเป็น อรอะไรก็แล้วแต่ตามที่เขาเข้าใจ ตามคติของเดียรถีย์ ที่อดีตชาติเคยทำลาย เคยเผาพระพุทธรูปมาก่อน สิ่งเหล่านั้นก็จะตามเขามา วัวใครเข้าคอกใครฉันใด เจ้าของวัวย่อมกลับมาลากมาจูงคนของเขาไปฉันนั้น อย่าไปสนใจคบหาสนทนาธรรมด้วยครับ ทิฐิของเขาไม่ถูกทำลาย ปล่อยเขา เราเอาแค่คนที่สงสัยมา เราตอบเขาไป ตามพระวินัยห้ามพระจับเงินจริง แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสอีกว่า "สิกขาบทเล็กน้อยบางบท อาจจะยกเลิกเสียได้บ้าง เพื่อความอยู่ง่ายของภิกษุและยังภิกษุให้อยู่ได้ต่อไปในอนาคต" ท่านตรัสแล้วแปลความหมายได้ตามนี้นะครับ ท่านอนุญาตอยู่กลายๆ แต่พระส่วนใหญ่ยังเคารพพระวินัยท่านอยู่ จึงยังมีสิกขาบทครบถ้วนตามที่ทราบกันมา ยุคสมัยเปลี่ยนไป เราไม่มีเวลาไปจับเงินแทนพระมากหรอกครับ เราต้องทำมาหากิน และพระก็มีเรื่องจำเป็นต้องใช้ปัจจัย เรียนหนังสือ หาหมอ ขึ้นรถ จิปาถะครับ แค่พระรูปเดียวถ้าคุณคอยไปถือเงินจ่ายค่าใช้จ่่ายต่างๆให้ คุณก็ไม่มีเวลาเป็นของคุณเองแล้ว แล้วพระบวชกันกี่รูปครับ ถ้าเดียรถีย์พวกนั้นมีเวลา ให้เขาทำไป พวกนี้ดีกว่าพระอรหันต์หลายขุม(นรก) ครับ พระอรหันต์ท่านไม่ขุมให้ไป เพราะท่านบริสุทธิ์แล้ว แค่คนพวกนั้นมีขุมให้ไป พระท่านจะจับเงินหรือจะใช้ตะเกียบคีบ (ไม่จับเงิน ) เป็นเรื่องของท่านที่จะเคร่งในสิกขาบทบทนั้น หากท่านไม่ลำบากและอยู่ได้ก็เป็นเรื่องของท่านเอง แต่บางท่านต้องอาศัยปัจจัย เราชาวพุทธก็ควรอนุเคราะห์ท่านตามควร เพื่อยังพระสงฆ์และผ้าเหลืองให้สืบทอดต่อไป หากเราต่อต้าน บางท่านอาจไม่กล้าบวชแล้วพระก็จะน้อยลงนะครับ และสุดท้าย "พระอรหันต์ที่จับเงินมีอยู่ให้เราเห็นไหม" ต้องตอบว่า มีมากมายนะครับ หลวงพ่อฤๅษีฯ , สมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ ฯลฯ ถ้ายกตัวอย่างแล้วมากมายครับ นับไม่ไหว เชื่อพระอรหันต์นะครับ ถ้าสงสัยจริงๆ ไปถามท่านนะครับ อย่าถามคนทั่วไปที่ ไม่แตกฉานในพระไตรปิฎกเท่าท่านโดยเฉพาะองค์ที่ทรงปฏิสัมภิทาญาณครับ
ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ

 

เเต่ยังไงอย่าเอาเงินใส่บาตรนะครับ
เพราะไม่สมควรครับ
ตอนที่พระพรหมนำบาตรมาถวายพระพุทธองค์พระพุทธองค์ท่านตรัสว่า"บาตรนี้สำหรับใส่ข้าวสุก ขนมสด"

 

เรียนให้ทุกท่านทราบว่าใบปลิวเหล่านี้ มีผู้นำไปแจกที่วัดป่าบ้านตาด เพราะผมไปกราบสรีระองค์หลวงตา ฯ มา ระหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้ครับ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ประชาชนไปร่วมทำบุญนั้น ทางวัดกำหนดไว้แล้วว่าจะนำไปซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็บรักษาเข้าคลังหลวงของประเทศไทยเรา ตามเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาที่ท่านทำพินัยกรรมไว้ก่อนละสังขาร เงินเหล่านี้ไม่ได้ถวายให้พระรูปใดเป็นการส่วนตัวเลย อยากจะให้สำนึกกันบ้างถึงความเมตตาขององค์หลวงตาที่ท่านยังห่วงลูกหลานชาวไทยที่จะเกิดมาในอนาคตในภายภาคหน้า หลังจากรุ่นของพวกเรา ๆ ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว เพื่อให้บรรดาลูกหลานชาวไทยในอนาคตได้มีเศรษฐกิจที่มั่นคง ไม่ต้องตกเป็นทาสทางเศรษฐกิจเหมือนอย่างบางประเทศที่ถูกต่างชาติครอบงำเศรษฐกิจเช่น อาเจนตินา เป็นต้น ลำพังท่านจะอยู่เฉย ๆ ก็ได้เพื่อรอการละธาตุขันธ์เพื่อเข้าสู่พระนิพพาน แต่ท่านไม่ทำ ท่านยังออกมาเมตตาเทศนาเพื่อสงเคราะห์โลกเพื่อเชิญชวนให้บรรดาพี่น้องชาวไทย ช่วยกันสละเงินทองเพื่อความมั่นคงในอนาคตของลูกหลานชาวไทย..........

 

สงสารพระท่านจริงๆ..........................

 

การถวายปัจจัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพระสงฆ์ยุคปัจจุบัน เพราะบางวัดแม้แต่น้ำดื่มพระยังต้องให้ลูกศิษย์ไปซื้อให้ บางวัดอยู่ชนบท อาหารการกินขาดแคลน โยมเองหากินยังยาก
พระก็ลำบาก ซื้อเครื่องใช้ไม้สอยส่วนตัวก็ต้องใช้ปัจจัยทั้งนั้นหล่ะค่ะ เพียงแต่ถวายปัจจัยแต่พอควร ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน ก็ทำๆ ไปเถอะค่ะ