การใช้หนี้กรรม การชดใช้ด้วยชีวิต

การใช้หนี้กรรม ก็ใช้หลักการเดียวกันกับการใช้หนี้เงินนั่นแหละ หนี้เงินต้องจ่ายด้วยเงิน

สมสุมติว่าอาตามาติดหนี้โยม 100 บาท แต่แทนที่อาตามาจะเอาเงินมาคืน 100 บาท อาตามาดันเอากระเบื้องหลังคาวัด มาตีเป็นมูลค่าเท่ากับเงิน 100 บาท แล้วเอามาตั้งไว้ตรงนี้ โยมจะเอาไหม ไม่เอา มันคนละเรื่อง ฉันจะเอากระเบื้องไปทำไม

ในเมื่อฉันไม่ได้ต้องการนี่ เห็นไหม มันคนละช่องทางกัน ฉะนั้นเวลาแก้ไขจะแก้ไขให้ได้ผลตรงที่สุด ก็ต้องตรงช่องทางกัน สามารถเปรียบเทียบกันได้ ยิ่งตรงกันได้มากเท่าไหร่ ย่อมได้ผลมากเท่านั้น ยิ่งยักเยื้องกันเท่าไหร่ ยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น

แล้วถ้าเป็นหนี้ชีวิตละ จะแก้ไขได้อย่างไร เมื่อเป็นหนี้ชีวิต ก็ต้องใช้ด้วยชีวิต หนี้ทรัพย์ ต้องใช้ด้วยทรัพย์ ปัญหาก็คือ แล้วเราจะเอาชีวิตที่ไหนไปใช้หนี้เล่า สมสมุติว่าอาตามาเคยฆ่าเขาไว้ ธรรมดาคนทั้งหลายที่เกิดมาในโลก ย่อมตั้งความปราถนาแห่งชีวิตไว้เป็นประการต่างๆ ในเมื่อชีวิตถูกพรากไป ความหวังความปราถนาที่เขาวาดหวังไว้ย่อมถูกพรากทำลายสิ้นไปด้วย

แล้วใครจะไม่แค้นเวลาถูกทำลายความหวัง แน่นอนต้องแค้นแน่

เอาอย่างนี้ดีกว่า อาตมาปล่อยปลาให้หนึ่งตัว ไปซื้อปลาในตลาด ปลาเป็นๆนะ ที่เขาอยู่หน้าเขียง แล้วปล่อยปลาอุทิศส่วนกุศลให้ พอใจหรือยัง....... พอใจได้อย่างไร ใครจะไปยอม เพราะอะไร เพราะผู้ที่ถูกฆ่าตายนั้น เขาตายในขณะที่เป็นคนไม่ใช่ปลาสักหน่อย การปล่อยปลาให้ตัวเดียวจะมีความหมายอะไร


แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่ง ในฐานะที่เป็นปลา ถูกขังอยู่ในกะละมัง มีเพื่อนๆ ปลาอยู่หลายตัว แม่ค้าใจยักษ์เอามือเอื้อมมาโอ๊ะ! หลบทัน เห็นนางยักษ์จับเพื่อนไป แล้วเอาไม้ทุบหัวเพื่อนเราจนดิ้นพรวด ถามว่ากลัวไหม ?

กลัว กลัวจนตัวสั่นหวั่นไหวไปหมด เดี๋ยวต้องถึงคราวเราแน่ เมื่อครู่ยังโชคดีที่ไม่พลาด เอ๊ะ! นั่นอะไร พระท่านมาทำอะไร ท่านชี้เราด้วย หรือว่าท่านจะเอาเราไปต้มยำกิน รู้ตัวอีกทีหนึ่ง อุ๊ย ..ท่านช่วยเอาเรามาปล่อยนี่

ดีใจจังเลย กระดี๊กระด๊าฉันรอดแล้ว ฉันมีชีวิตรอดแล้ว ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ปลาตัวหนึ่งมีความสุข เพราะได้รับการปลดปล่อยให้รอดชีวิต มีจะดีอกดีใจขนาดไหน มีความสุขขนาดไหน ถ้าเราเอาความสุขของปลาตัวหนึ่งที่มีโอกาสรอดชีวิตนี้ เอามาชดใช้หนี้กรรมของการพรากชีวิตเขา คนที่เราได้ฆ่าไปนั้นเราจะยอมไหม ต่อให้พูดบรรยายทราบซึ้งเท่าใดก็ไม่ยอม เพราะอย่างไร นั่นมันก็ปลาอยู่ดี แต่นี่คนนะ คน........... ไม่ใช่ปลา


แต่ไม่หมดหนทางเสียทีเดียว เรามีเทคนิค ถามว่าพระอรหันต์ ท่านมีค่าตัวเท่าไร ตอบว่า 1 ล้านล้าน เมื่อเอาบุญของการปล่อย ปลาตัวหนึ่งไปคูณกับค่าตัว คือคุณความดีของพระอรหันต์ โดยถวายการปล่อยปลาให้พระอรหันต์ท่านโมทนา

แล้วจึงผาติกรรม (เอาสิ่งอื่นใดที่มีค่าเสมอหรือเหนือกว่ามาแลกเปลี่ยนสงฆ์) เอาปลานั้นไปปล่อย ความสุขของปลาหนึ่งตัวที่รอดชีวิต จึงเปรียบเสมือนว่าเป็นความสุขของปลาจำนวน 1 ล้านล้านตัว ที่รอดชีวิตด้วย

แล้วโน้มเอาความสุขเท่ากับปลาล้านล้านตัวที่ถูกปล่อยให้รอดชีวิตนั้น ไปใช้หนี้กรรมที่เคยฆ่าฟันเขาไว้ นึกถึงปลาตั้งล้านล้านตัวที่มีความสุข ความสุขขนาดนั้นอาจทำให้เขาใจอ่อนขึ้นมาบ้าง แทนที่จะมาเอาชีวิตเรา ก็ลดลงมาเป็นพิการ แขนขาขาดสักข้างหนึ่ง ซึ่งในแง่ของอาตมาแล้ว เสียขาหรืออวัยวะ ก็ยังดีกว่าเสียชีวิต เป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบา


เราจะพบว่า หมอดูทั้งหลาย มักจะแนะนำให้เราไปสะเดาะเคราะห์ตามที่ต่างๆ โดยวิธีปล่อยโคปล่อยกระบือ ปล่อยนกปล่อยปลา หรือทำบุญ ที่เป็นการต่อชีวิตผู้อื่น แล้วเอาไปทำเพื่ออะไร ก็เพื่อเอามาชดใช้หนี้ชีวิต และต่อชีวิตตนเอง


ฉะนั้นเราจึงสามารถต่ออายุ โดยการช่วยต่ออายุให้กับผู้อื่นในสมัยพุทธกาล มีสามเณรรูปหนึ่ง ซึ่งผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์ ได้พยากรณ์ไว้ว่า สามเณรรูปนี้ได้หมดอายุขัยลงแล้ว

จะต้องตายแน่ๆ ตามตำราแล้วจะต้องไม่รอดไปถึงวันพรุ่งนี้ สามเณรได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความสลดใจ คอตกเดินกลับบ้าน วันนี้เราคงจะต้องตายแน่ๆ เดินไปเดินไป เอ๊ะ...นั่นอะไร

โถปลาตัวน้อยๆ พากันมาติดอยู่ในปลักควายที่กำลังงวด ใกล้จะแห้งหมดอยู่ ด้วยมีจิตเมตตาสงสาร สามเณรจึงแวะวิดน้ำ ช่วยช้อนปลาไปปล่อยลงที่แหล่งน้ำ ไหนๆ เราก็จะต้องตายอยู่แล้ว ขอทำความดีเสียหน่อย

ตกลงวันรุ่งขึ้น เหตุการณ์พลิกผลันหมดเลย หมอดูเก่งอย่างไร ก็ทำนายพลาดหมด เพราะอะไร เพราะว่าบุญที่สามเณรไปต่ออายุปลา เป็นเหตุให้ความดีตีวกกลับมาเป็นบวก จึงเป็นการต่ออายุของตนเอง


เพราะฉะนั้นการแก้กรรม ต้องแก้ไขให้ถูกช่องทาง เราต้องทำบุญหรือทำความดี ในสัดส่วนเท่ากับความซวยที่เราจะได้รับ เอามาหักล้างกัน แต่ขอเน้นว่า "ต้องตรงช่องทาง " สมดุลโลกก็จะยุติลงตรงนี้ เราสามารถทำชีวิตของเราให้มีความสุข

โดยการรักษาศีล ทำทานในนาบุญที่ดี อุทิศส่วนกุศลไปใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวร หรือทำทานทำความดีให้เท่าทันกับกรรมที่จะส่งผล ก็ตัวใครตัวมัน



จากหนังสือ บทวิดีทัศน์ เรื่อง สมดุลโลก สมดุลใจ สมดุลธรรม โดย พระภาสกร ภูริวัฑฒโน ( ภาวิไล )

ธรรมสถานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(วัดฝายหินมช.)
67 หมู่ 1 บ้านฝายหิน ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200 โทร (053)943684

(หนังสือยืมมาจากศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษามหาวิมยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปาล์มยืมมาอ่าน อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาพิมพ์ลงให้ทุกคนได้อ่าน)

 

พี่เอมมาอ่านคนแรกเลย

 

เราสามารถทำชีวิตของเราให้มีความสุข โดยการรักษาศีล ทำทานในนาบุญที่ดี อุทิศส่วนกุศลไปใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวร หรือทำทานทำความดีให้เท่าทันกับกรรมที่จะส่งผล ก็ตัวใครตัวมัน


อ่านแล้วดีมาก ๆ เลยค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะ

 

อ่านแล้วดีค่ะ ..อนุโมทนานะคะ..

ก้อคงต้องพยายามทำความดีให้มากขึ้นค่ะ

 

ช่วงนี้จิตใจกำลังว้าวุ่นสับสน..การได้พบเจอ การได้อ่านสิ่งที่เป็นสัจธรรม

ช่วยได้เยอะเลยค่ะ...

 

โมทนาค่ะ

ดีค่ะ(bb-flower

 

...