การสร้างพระพรหมของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย นาธิยะ, 13 พฤษภาคม 2012.

  1. นาธิยะ

    นาธิยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +56
    [​IMG]
    การสร้างพระพรหมของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า <!--coloro:#000000--><!--/coloro-->ในบทพาหุง (ชัยมงคลคาถา บทที่ 8) เป็นปางที่พระพุทธเจ้าไปปราบทิฐิของท้าวพกาพรหม เพราะท้าวพกาพรหมถือตนเองว่าเป็นใหญ่ที่สุดในสามโลก ไม่กลัวผู้ใด พระพุทธเจ้าทรงใช้อำนาจฤทธิ์โดยไปปราบท้าวพกาพรหมได้ตกลงกันว่า จะซ่อนหากัน โดยให้ท้าวพกาพรหมไปซ่อนก่อน ท้าวพกาพรหมก็ตกลงและไปซ่อนทั้งสามโลก ไม่ว่าจะเป็นพรหมโลก ยมโลก โลกมนุษย์ พระพุทธองค์ก็ทรงหาท้าวพกาพรหมพบ แม้แต่ท้าวพกาพรหมจะแปลงตนให้เล็กที่สุดแล้วไปซ่อนในเม็ดทรายในมหาสมุทร เม็ดที่เล็กที่สุด พระพุทธองค์ก็หาพบ ท้าวพกาพรหมจึงยอมแพ้ต่อพุทธองค์แต่ยังไม่ยอมเสียทีเดียว โดยกล่าวว่าท่านหาเราแล้ว แต่เรายังไม่ได้ค้นหาท่านเลย จึงให้พระพุทธองค์ไปซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงแปลงพระวรกายให้เล็กลง และไปประทับบนมวยผมของพรหม พรหมนั้นหาไปทั่วทั้ง 3 โลก แต่ก็ไม่สามารถหาพระพุทธองค์พบ จึงอ่อนใจและยอมแพ้ในที่สุด ดังนั้นพระพุทธองค์จึงเสด็จลงมาบนมวยผมของพรหมเมื่อพระพุทธองค์ทรงเห็นว่าพรหมเริ่มลดทิฐิมานะมาบ้างแล้วก็ได้ทรงแสดงธรรมให้ฟัง ท้าวพกาพรหมนั้นก็สำเร็จโสดปัตติผลกลายเป็น “พระพรหม”<!--colorc--><!--/colorc--> ในปัจจุบันหลวงปู่ดู่บอกว่า การสร้างพระพุทธองค์ไว้บนเศียรองค์ของท่าน ผู้ที่นำไปใช้เมื่อปฏิบัติดีสามารถชนะได้ทั้งสามโลก เหมาะแก่การนำไปบูชา เพื่อให้ชีวิตรุ่งเรืองแต่หลวงปู่บอกไว้ว่า สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงนั้นคือกรรม

    หลวงปู่จะสอนศิษย์ว่า สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้เป็นอนิจจังไม่เที่ยง อย่าหลงในทรัพย์สมบัติลาภยศสรรเสริญ ชื่อเสียงและสิ่งต่าง ๆ เพรานั้นมันเป็นของปลอม ของแท้ที่ข้าให้ธรรมะที่ข้าสอนให้รักษาไว้เท่าชีวิต ข้าขอฝากพวกแกด้วย ให้ปฏิบัติต่อไป นี้เป็นคำพูดที่หลวงปู่ทรงเมตตากับศิษย์ ซึ่งหลวงปู่จากพวกเราไปนานแล้ว แต่คำพูดของท่านยังกังวลอยู่ในหูของศิษย์อีกหลายคน เมื่อศิษย์เหล่านั้นนึกขึ้นมาทีไร น้ำตาของพวกเขามักจะหลั่งรินถึงเมตตาของหลวงปู่ หลวงปู่ให้ระลึกเสมอว่า อย่าประมาท ปฏิบัติทำแต่กรรมดี เพราะว่าท่านว่า <!--coloro:#FF0000-->
    <!--/coloro-->“ใครจะใหญ่เกินกรรม"<!--colorc--><!--/colorc-->

    ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว ลูกศิษย์นั่งฟังธรรมกับหลวงปู่ประมาณ 10 กว่าคน มีลูกศิษย์ 2 คน ได้ยกพรหมใส่กะละมังมาให้ท่านปลุกเสก หลวงปู่เลยบอกว่า <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->พวกแกจงร่วมปลุกเสกและอนุโมทนากับข้า ที่ท่านพูดเช่นนั้นไม่ใช่กำลังบุญของท่านจะไม่พอ แต่ท่านอยากให้ลูกศิษย์นี้ได้บุญกับท่าน เมื่อมีคนนำพรหมไปใช้กราบไหว้ แล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยและนำไปปฏิบัติ ลูกศิษย์เหล่านั้นจะได้บุญกับท่านด้วย พอท่านบอกว่า ทุกคนอธิษฐาน ทุกคนก็หลับตาลง มีเสียงดังแกรก ๆ ลูกศิษย์ที่หลับตา คิดว่าหลวงปู่เอามือไปกวนลงในกะละมังจึงเกิดเสียงดังขึ้น ที่จริงแล้วหลวงปู่ เพียงเอามือแตะที่ขอบกะลังมังเบา ๆ แล้วพรหมก็ลอยขึ้นมาเหมือนดั่งพายุหมุนไปรอบ ๆ แต่มีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง ไม่ได้หลับตา จึงเห็นเหตุการณ์นั้นแต่หลงงปู่ก็เห็นศิษย์คนนั้นลืมตาอยู่ ท่านจึงยกมือห้าม เป็นการบอกใบ้ว่าไม่ให้พูดไป<!--colorc--><!--/colorc-->

    ในวันที่หลวงปู่ปลุกเสกพรหมนั้น ไม่มีใครได้ขอหลวงปู่ไปบูชาสักคนเดียว แต่พอหลวงปู่ละสังขารไปแล้ว ศิษย์ที่เห็นเหตุการณ์คนนั้น จึงบอกกับศิษย์คนอื่นว่าวันที่หลวงปู่ปลุกเสกพรหม ท่านเอามือแตะขอบกะละมังเบา ๆ แต่พรหมลอยขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบ ๆ สูงท่วมหัวเลยหละ ทุกคนเมื่อรู้ดังนั้น บางคนหลวงปู่เคยให้พรหมไว้องค์หนึ่งบ้าง บางคนก็ยังไม่ได้ จึงเกิดความเสียดาย และเมื่อพบพระพรหมหลวงปู่เมื่อใดมักจะขอเช่าหรือบูชาจากผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะลูกศิษย์รู้ดีว่า <!--coloro:#FF0000-->
    <!--/coloro-->พระของหลวงปู่ทุกรุ่น หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า ข้าเสกไว้ดีแล้วอธิษฐานตามความชอบ จะมีแต่เจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย กันผีปีศาจกันคุณไสยต่าง ๆ กันกระทำย่ำยี แม้ติดตัวไปที่ใดเทวดาเทพพรหมเห็นผู้ที่นำพระไปใช้ปฏิบัติและภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เขาเหล่านั้นอยู่ในที่ใด ผีปีศาจวิญญาณ เทพพรหมทั้งปวง ก็จะอนุโมทนาบุญด้วยและคอยปกปักรักษาเขาเหล่านั้นตลอดไป<!--colorc--><!--/colorc-->

    พระเครื่องของหลวงปู่ไม่เหมือนพระเครื่องของที่อื่น ๆ เขาว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ก็รู้ก็ว่าไปตามเขา เพราะไม่สามารถเป็นพยานให้กับตนเองได้ ไม่ต้องมีคนมาบอกหรือมาเล่า ว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ เปรียบเสมือนว่า มีคนกินผลมะม่วงสุก แล้วมาบอกเราว่า หวานและชื่นใจเหลือเกิน จะบอกและอธิบายเพียงไร เราก็ไม่สามารถจะเข้าใจเพราะเกิดมาเราไม่เคยกินมะม่วงผลนั้น แต่ถ้าเราได้กิน เราก็จะรู้ว่า รสชาติเป็นอย่างไร ไม่ต้องมีคนมาบอก เขาเรียกว่า เป็นพยานแก่ตนเองได้<!--colorc--><!--/colorc-->

    ที่มา:http://www.mod-amulet.com/webboard-th-30779-633625-การสร้างพระพรหมของหลวงปู่ดู่+วัดสะแก.html
     
  2. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]

    กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ ขอโมทนาสาธุ
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]

    กราบหลวงปู่ดู่ วัดสะแก กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
     
  4. ์Ning chaiyo

    ์Ning chaiyo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +50
    ไม่มีรุ่นหลวงปู่ดู่ปลุกเสก ไว้หรอกเพราะเป็นเด็กรุ่นใหม่
    มีแต่ของหลวงตาม้า ปลุกเสก ทำแจกไปทั่วโลก
    ก็ได้แต่อธิฐานจิตเอา ขอให้หลวงปู่ดู่เมตตา ก็พอใจแย้ว
    สวดมนต์พระจักรพรรดิ์ทุกวัน
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    หลวงปู่ดู่เป็นพระที่สำคัญมาก คำสอนง่ายๆ แต่ทำได้จริงได้ผลจริง
    พระที่ถึงดีท่านจะสอนง่ายๆ
    พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เข้าถึงมรรคผลนิพพานได้เร็ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...