การปฏิบัติธรรมก็มีวาระที่บุญส่งผล หากทำในเวลาที่ถูกต้อง ย่อมมีโอกาสเข้าถึงมรรคผลได้เร็วขึ้น

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 มีนาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,923
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,386
    ค่าพลัง:
    +26,202
    26F3C9EA-ADAE-4420-81F5-8AC850345B8D.jpeg

    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในช่วงค่ำได้ เพราะว่าช่วงนั้นจะมีงานพิธีเปิดงานประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และงานทำบุญอุทิศอดีตเจ้าเมืองหน้าด่าน ๗ หัวเมือง จึงต้องขยับมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในช่วงเช้านี้แทน

    พวกเราที่มาปฏิบัติธรรมในวันนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ ๒/๒๕๖๖ แต่ว่าหลายท่านก็พลาดไปเพราะความนิ่งนอนใจของตนเอง ก็คือเมื่อมาถึงวัดแล้ว เข้าที่พักบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง บางคนก็มัวแต่โทรศัพท์หรือส่งไลน์แจ้งทางบ้านบ้าง ปรากฏว่าในศาลาแห่งนี้ กระผม/อาตมภาพนำเจริญพระกรรมฐานไปแล้ว

    พวกเราต้องเข้าใจว่าในเรื่องของวาระบุญวาระกรรมนั้น ถ้าจะว่าไปแล้วก็เป็นวงเวียน คือการหมุนวนอย่างหนึ่ง อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า กิเลสคือ รัก โลภ โกรธ หลง ก่อให้เกิดกรรม คือการกระทำ เมื่อมีการกระทำก็ส่งให้เกิดผลแห่งการกระทำ ที่เรียกว่าวิบาก ในเมื่อมีวิบาก ย่อมส่งผลให้กิเลสสามารถเกาะกินได้ ก็หมุนเวียนกันไม่รู้จบในลักษณะแบบนี้

    แต่คราวนี้การหมุนเวียนที่กล่าวถึงในที่นี้ ก็คือวาระบุญวาระกรรมของพวกเราทั้งหลาย ที่กล่าวว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมนี่เอง ถ้าหากว่าวาระบุญมาหนุนเสริม ไม่ว่าเราจะคิด จะพูด จะทำอะไร ก็ง่ายดาย ประสบความสำเร็จไปหมด แต่ถ้าวาระกรรมเข้ามาสนอง จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด

    ยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติธรรมแล้ว วาระบุญวาระกรรมยิ่งสำคัญมาก เหตุก็เพราะว่าในวาระที่บุญส่งผล เราปฏิบัติธรรมก็จะก่อให้เกิดผลง่าย กำลังใจเกาะความดีได้ง่าย แล้วขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าผลบุญช่วงนั้นส่งผลมากจริง ๆ ก็อาจจะได้มรรคได้ผลกันไปเลย

    แต่พวกเราก็มักจะประมาท ปฏิบัติธรรมในลักษณะที่กระผม/อาตมภาพกล่าวไว้ว่า "ทำเหมือนกับแก้บน" ก็คือไม่จริงไม่จัง ทำแบบคนมีเวลามาก ประมาณว่าจะเริ่มเมื่อไรก็ได้ โดยที่ไม่ได้คิดถึงว่าความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก

    ถ้าหากว่าความตายเข้ามาถึง สิ่งที่เราคิดว่าจะทำ ก็ยังไม่ทันจะได้ทำ แล้วผลดีที่คิดว่าจะเกิด ก็ย่อมไม่สามารถที่จะเกิดได้ ถ้าหากว่าวาระกรรมเข้ามาเบียดบัง ช่วงจังหวะที่ดีที่สุดของชีวิตได้เลยไปแล้ว ก็ต้องรอจนกว่าจะหมุนวนมาครบรอบใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไร

    ถ้าพวกเราลองนึกถึงภาพของสุริยจักรวาลของเราที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ประกอบไปด้วยดาวพุธ ดาวศุกร์ โลกของเรา ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวมฤตยู ดาวเกตุ ตอนหลังดาวพระยมเขาตัดออกไปแล้ว ก็เหลือแต่ดาวดาวอัฏฐเคราะห์ ไม่ถึงกับเป็นดาวนพนพเคราะห์

    ถ้าหากว่าเป็นดาวพุธ วงโคจรก็สั้นที่สุด ถ้าหากว่าอย่างโลกของเรานั้น ๓๖๕ หรือ ๓๖๖ วันก็ครบรอบ แต่ถ้าหากว่าเป็นพระเกตุ พระยมก็หลายปี ในเมื่อวาระบุญวาระกรรมของแต่ละคนสั้นยาวไม่เท่ากัน ตามแต่กรรมดีกรรมชั่วที่ทำมา พระพุทธเจ้าจึงสอนไม่ให้พวกเราประมาท แต่พวกเราก็มักจะประมาทอยู่เสมอ เพราะลืมตัวว่าเราจะต้องตาย..!

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๖

    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9318

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
    #ig: wat.thakhanun
    #tiktok: @watthakhanun
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...