การกินของพระอนาคามี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มีดปลิดหัวใจ, 5 พฤศจิกายน 2020.

  1. มีดปลิดหัวใจ

    มีดปลิดหัวใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมทราบจากการอ่านว่าพระอนาคามี มีอุโสถศีลเป็นปกติวิสัย แต่สงสัยตรงข้อการกินอาหารไม่เลยเที่ยง ว่าทำไม ทำไมไม่เป็นลักษณะคือกินเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ ถ้าวันนั้นมีเหตุไม่ได้กินอาหาร แล้วไปกินบ่ายให้พอดำรงชีวิตไม่ได้หรือครับ หรือว่าต้องเป็นไปตามนี้คือไม่เกินเที่ยงหรือตะวันเลยศรีษะ จะไม่เป็นลักษณะถือศีลไปหรือครับ ส่วนอีกสองข้อที่เหลือที่เพิ่มมาจากศีลห้านั้นผมไม่สงสัยครับ
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    1415079068-1062837769-o.jpg

    รูปปลากรอบกระทู้ อุทิศโดย "#ข้าวใหม่ปลาวัฬ"
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    วิกาลโภชนา เวรมณี
    b5wa5y.png
    https://watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2885&page=3&langid=1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2020
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ความเห็นส่วนตัวนะครับ

    อนาคามี นัยยะทางนามธรรม ที่เป็นคุณลักษณะทางจิต หมายถึง พวกจิตที่ไม่พึ่งอีกแล้ว
    แต่ว่าไม่พึ่งอะไร ต้องไปตีความกันเอาเอง...

    ข้อการปฏิบัติทั้งหลาย ตั้งแต่โสดา ยัน พระอรหันต์ สมัยนี้ตำรามีบอกอยู่
    ก็พอดูเป็นแนวทางได้ เพราะมันเป็นรูปธรรมเขียนบันทึกได้
    แต่ต้องไม่ลืมว่า รูปธรรมมันสร้างกันได้
    ดังนั้น ก็อ่านๆเป็นแนวทางได้ แต่คงยึดถือว่า ต้องแบบนั้นเลยคงไม่เหมาะ
    มันจะดูตึง และด่วนสรุปเกินไปครับ
    ด้วยที่มันก็สามารถมาสร้างกันได้ เพียงเพราะไปอ่านมา
    แล้วก็มาทำตาม ถามว่า ตัวจิตมันเป็นอย่างนั้นจริงๆไหม ?
    ประเด็นนี้ฝากพิจารณา


    ตย. เปรียบเหมือนศีล ๕ ทางสภาวะนั่นหละครับ
    ถ้าตามตำราก็มีบอกไว้หมดไม่มีรู้กี่ข้อ
    บ้างก็ว่าห้าม บ้างก็ว่าละ แถมแปลในรายละเอียดก็ไม่ครบ
    ถ้าสภาวะทางนามธรรม มันก็คือ สภาวะจิตที่ปกติ ก็คือ
    ไม่คิดอาฆาต ไม่คิดพยาบาท และ ไม่คิดเบียนเบียน
    นี่คือคืด สภาวะศีลแล้วครับ


    ถ้าเราสามารถควบคุม ยับยั้งไม่ให้คิดอาฆาต ไม่ให้คิดพยาบาท ไม่คิดเบียดเบียดได้
    มันก็เป็น สภาวะของสมาธินั้นหละครับ ไม่ใช่ว่า เรานั่งแล้วอยู่ระดับไหน
    เจอกิริยาอะไรมา หรือว่า จิตมีความสามารถทำอะไรได้
    และถ้าแปลสมาธิตามตำรา ก็หลากหลายข้อมูลอีกครับ

    ดังนั้น พยายาม เน้นดูที่สภาวะที่เป็นนามธรรม ทางจิต
    มันจะทำให้เราเข้าใจง่ายกว่า คือ การยับยั้งไม่ให้เกิด (หมายถึงสภาวะสมาธินะครับ)

    ท้ายนี้ ถ้าเราเชื่อว่า พระอรหันต์ ไม่มีเหตุอะไรมาทำให้จิตท่านเกิดได้
    แสดงว่า ในระหว่างใช้ชีวิตปกติประจำวัน จิตท่านก็ต้องไม่มีอะไรมาทำให้เกิดได้
    ระดับต่างๆที่ต่ำลงมา เราก็เทียบสภาวะจิตของเราเองดูก็ได้ครับ
    ว่า ในระหว่าง ๑๕ ถึง ๑๘ ชั่วโมงระหว่างวัน ก่อนที่เราจะนอนนั้น
    จิตเรามันไม่เกิดได้ซักกี่วินาที หรือ ซักกี่นาทีครับ
    เท่านี้ก็พอมองย้อนมาที่ตัวเองได้แล้วโดยไม่ต้องไปถามใครครับ
    ถ้าอยากรู้ว่าตนเองอยู่ระดับไหนนะครับ

    ไม่ใช่อ่านมา แล้วไปทำกิริยาภายนอกให้เหมือนในตำรา
    แล้วไปยึดตำราเลย และเข้าใจตนเองว่า ตนเป็นระดับโน้นนี่นั้น
    มันจะกลายเป็น การดึงเอาตำรา
    มาปกปิดพฤติกรรมทางจิตเราเองได้ อย่างคาดไม่ถึงครับ

    ปล. ยกตัวอย่างนะครับ ฝากไว้ให้พิจารณานะครับ
    ถ้านาย ก ไม่พูดโกหก ไม่ดื่มสุรา ไม่มีเรื่องชู้สาว ไม่ลักทรัพย์ ไม่ได้ฆ่าสัตว์
    แต่ใจนาย ก ยังคิดอาฆาตคนโน้นคนนี้ ยังคิดเบียดเบียนคนนี้ ยังพยาบาทคนนั้น
    ถือว่า นาย ก เป็นคนมีศีลไหมหละครับ ? พอมองภาพเปรียบ
    ตำรา กับ สภาวะออกนะครับ
     
  5. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    "อนาคา"

    อะ = ไม่

    นาคา = เรือน

    "ผู้ไม่มีเรือน" เรือนที่ว่าหมายถึง เรือนร่างกาย..

    ก็แปลความหมายต่อเอาเองละกันนะ..
     
  6. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    สุดท้ายผมมองว่าไม่มีใครได้ใครเสีย
    มีแต่ใจเรารับได้แค่ไหน55
    เรื่องเฮียๆบอกนะพร้อมจัดไม่เคยพูดเล่น55
     
  7. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    พระอนาคามีละร่างกายได้แล้ว
    ร่างกายมันจะตายก็ให้มันตาย
    พระอนาคามีแม้ตายก็ไม่ยอมละเมิดศีลคับ
     
  8. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    นาย ก มีศีลครบคับ
    ถามกลับนะคับ นาย zฮ พูดโกหก ดื่มสุรา
    มีเรื่องชู้สาว ลักทรัพย์ ฆ่าสัตว์
    ไม่อาฆาตคนโน้นคนนี้ ไม่คิดเบียดเบียนคนอื่น
    ไม่พยาบาทคนอื่น ถือว่า นาย zฮ มีศีลไหมคับ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เป็นคำถามที่ดีมากนะ
    แม้ว่าความเป็นจริงจะ
    เป็นไปไม่ได้ทางสภาวะเลยก็ตามนะครับ

    ถ้าตอบทางโลก นาย zฮ ไม่มีศีลแน่นอนตามบัญญัติข้อศีลทางโลก เพราะทั้งโกหก ทั้งฆ่าสัตว์ ทั้งชู้สาว ทั้งดื่มสุรา ทั้งลักทรัพย์
    เพราะว่า
    การลักทรัพย์ ก็เบียดเบียนคนอื่นแล้วจริงไหม?
    การฆ่าสัตว์ ก็เบียดเบียนล่วงละเมิดแล้วจริงไหม?
    ชู้สาวก็ล่วงละเมิดเบียดเบียนแล้วจริงไหม?

    ดังนั้นสรุปว่า นาย zฮ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี
    สภาวะล่วงละเมิด เบียดเบียนจริงไหม
    ถ้ามีการผิดศีลตามบัญญัติทางโลก

    ถึงบอกว่า ตำราเอามาเป็นแนวทางได้
    ให้เน้นที่สภาวะนั่นแระ

    พอเข้าใจเนาะ ^_^
     
  10. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ศีลทางโลกกับศีลทางธรรมไม่เหมือนกันหรือคับ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ศีลทางโลกส่วนตัวมองเป็นรูปธรรม เป็นตำรา
    ส่วนศีลทางธรรม มองเป็นสภาวะ เป็นนามธรรม

    ทั้งสองอย่างควรควบคู่กัน
    คือไม่ควรยึด ทางโลกเป็นเกณฑ์แล้วไปตัดสิน
    ว่าใครมีศีลหรือไม่มี
    แต่ควรมองมาที่สภาวะนามธรรม
    ว่า ถ้าหากจิตได้มีการคิดล่วงละเมิด คิด อาฆาต
    คิดเบียดเบียนแล้ว เป็นเหตุให้ใจไม่ปกติ
    ก็ถือว่า ขาดศีลแล้ว แม้แค่คิด
    แต่ยังไม่กระทำ
    เพราะถ้ากะทำทางรูปธรรมก็คือผิดโดยสำเร็จ

    ยังไม่ต้องไปดูทางโลกที่มีบันทึกไว้
    ว่าอย่างไร

    คือจะพยายามสื่อว่า ไม่ควรยึดทางตำราฝ่ายเดียว โดยลืมดู สภาวะทางนามธรรม ของใจ

    อย่าลืมว่า ภายนอกสร้างกันได้


    พอมองออกเนาะ
     
  12. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    นาย ก มโนนั่งคิดว่าตัวเองกินเหล้า
    แล้วนาย ก ก็คิดเอาเดาเองว่าตัวเองเมาเหล้า

    นาย zฮ นึกคิดอยากกินเหล้าแล้วหาเหล้ามากิน
    นาย zฮ กินเหล้ามากก็เมามากกินเหล้าน้อยก็เมาน้อย
    การที่ขาดศีลหรือศีลขาดอยู่ที่การกระทำไม่ใช่การคิดเอาเดาเองคับ
    ท่านบอกว่ารูปธรรมกับนามธรรมควรควบคู่กันไปแล้วเหตุไฉน
    ท่านมาบอกว่าไม่ควรยึดทางโลกมาเป็นเกณฑ์
    ท่านกำลังบอกว่าให้ยึดแต่นามธรรม
    รูปธรรมไม่ต้องยึดว่างั้นใช่ไหม

    แล้วแย้งย้อนคำพูดตัวเอง
    ด้วยการบอกว่าไม่ควรยึดรูปธรรมตำราฝ่ายเดียว
    ตกลงสรุปยังไงแน่
    ตอนแรกบอกไม่ควรยึดรูปธรรมทางโลกเป็นเกณฑ์
    ตกลงยึดฝ่ายเดียวหรือยึดทั้งสองฝ่าย
    พอตอนท้ายบอกไม่ควรยึดรูปธรรมทางโลกฝ่ายเดียว
    ผมเข้าใจว่าท่านต้องการสื่อให้เห็นว่า
    ให้เอานามธรรมคิดเอาเดาเองเป็นหลักเกณฑ์
    ส่วนรูปธรรมทางโลกไม่ควรยึดเป็นหลักเกณฑ์
    แล้วตบท้ายด้วยการบอกว่าให้ยึดทั้งสองฝ่าย
     
  13. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พระอานาคามีกิน ถ้าเพื่อให้ร่างกายเป็นปกติครับ
    เข้าใจก่อนว่าจิตของพระอานาคามี ไม่ติดในรสกาม
    ไม่ติดใน รูป รส กลิ่น เสียง
    และศีลในข้อ6 บัญัติไว้เพื่อไม่มัวเมาในรสอาหาร
    จิตพระอานาคามี
    พ้นแล้วจากความมัวเมาในรสเป็นปกติ ถ้าการกินเพื่อให้ร่างกายเป็นปกติ ก็สักว่ากินไป
    เจตนาจึงเป็นตัวกรรม พระอานาคามี ไม่ได้มีจิตมัวเมาในรส จิตก็เป็นปกติ ไม่ลูบคลำศีล เพราะกลัวศีลขาดแล้วจะไม่ได้เป็นพระอานาคามี เลยไม่ต้องตั้งท่าเพื่อรักษาศีล เพราะจิตพระอานาคามีเป็นศีลปกติในจิต
    ยกตัวอย่างการเหยียบมด ถ้าไม่เจตนาฆ่า ศีลในข้อ1 ก็ไม่ผิดเลย เป็นเรื่องของปัจจัยตามธรรมชาติไปครับ
    สังเกตุศีลข้อ 6,7,8 จิตพระอานาคามี มีในจิตเป็นปกติ ไม่ต้องตั้งใจทำให้เป็นศีล เพราะฉะนั้นหากการกินตาม จขกท. ว่ามาเพื่อให้ร่างกายดำเนินไปเป็นปกติ ไม่ใช่การมัวเมาในการกิน ก็ไม่ใช่เจตนาที่จะผิดศีลอะไรครับ

    ศีลของพระอริยะ เป็นศีลที่เป็นปกติในจิต ไม่ได้ตั้งท่าถือศีล แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ให้ทำผิดศีล จะเกิดความรู้สึกแบบ "ทำไม่ลง" แต่ไม่ใช่เพราะกลัวจะทำให้ศีลขาดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2020
  14. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    อาหารกะเป็นปัจจัยอย่างหนึ่ง
     
  15. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    กายกะจิตมันสัมพันธ์กัน
    ลองสำรวจอาหารที่เรากินดิ
     
  16. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เหยียบมดโดยไม่ตั้งใจศีลไม่ขาด
    แล้วจะห้ามฆ่าสัตว์ทำไมคับ
    จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเหยียบมดก็ตายไม่ต่างกัน
    เหยียบกับระเบิดโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ
    ระเบิดตูมตามขึ้นมาอาจถึงตายหรือพิกลพิการได้นะคับ
     
  17. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    กินเหล้ามันกะขัดหน่อยขาดสติ
    กำลังจะกินข้าวมันไก่และด้วย55
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พระอานาคามีเดินไปเหยียบมดเพราะไม่เห็น ศีลขาด และหมดการเป็นพระอานาคามีรึไม่ครับ
     
  19. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เจตนาเป็นกรรม พระพุทธเจ้าบัญญัติศีลเพื่อให้จิตของมนุษย์ เข้าใกล้ความเป็นปกติครับ
    ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่นโดยเจตนา
    นอกเหนือเจตนาในการฆ่า ตัวอย่างขับรถไปชนแมลงตาย ไม่เกิดจากเจตนาไปฆ่าแมลงครับ เป็นปัจจัยธรรมตามชาติที่กระทบกันไปตามแรงของวิบากกรรมครับ
     
  20. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ไม่หมดในการเป็นพระอนาคามีคับ
    แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็ยังไม่พ้นผลของวิบากกรรมคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...