กระจกส่องกรรม..ต่อ..

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 23 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    หากผู้ใดเคยเป็นลูกที่ดื้อดึงเกเร กล้าที่จะต่อว่าพ่อ แม่ได้อย่างตามแต่ใจตน บางคราวก็ตวาดกราดเกรียว บาง คราวก็ด่าทอพ่อแม่จนท่านบังเกิดความเสียใจ หรือบางคราวก็ ใช้ถ้อยคำจาบจ้วงเสียดสีอย่างไม่สมควร บางคราวก็พูดจา หยาบคายต่อผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของตน
    ในชาตินี้
    . .. ผู้นั้นจึงต้องตกอยู่สภาพของคนที่พิกลพิการ เป็น ใบ้ หูหนวก ไม่สามารถพูดจาเอื้อนเอ่ยอย่างคนปกติธรรมดา ทั่วไปได้ อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะได้ยินได้ฟังสรรพเสียงนานา ในโลกก็ได้อีก เสียงของตนที่เปล่งออกมาก็น่าเกลียดเป็นยิ่งนัก จึงมักมีแต่ความทุกข์อยู่ในใจไม่สร่างคลายไปชั่วชีวิต

    หากผู้ใดเคยมีความคิดลบหลู่ดูแคลนในพระธรรมคำ สอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมิใช่เพียงแค่ไม่เชื่อ หรือไม่ศรัทธาเท่านั้น อีกทั้งกล่าวเสียๆ หายๆ ทำนองลบหลู่ ด้วยเข้าใจว่าเป็นตำนานหรือนิยายที่แต่งขึ้น ซึ่งตนนั้นไม่เคย เปิดใจรับฟังและใช้ปัญญาพิจารณาเหตุผลแม้แต่น้อย
    ในชาตินี้
    .. ผู้นั้นจึงตกอยู่ในสภาพของคนพิการ ไม่สามารถที่ จะได้ยินได้ฟังเสียงใดๆ กล่าวได้ว่าคนผู้นั้นอาจหูหนวกมาตั้ง แต่เกิดหรืออาจเพิ่งเกิดการหูหนวกในช่วงโตขึ้นมาแล้วก็เป็นได้ แต่ตลอดชีวิตของตนย่อมจะมีแต่ความทุกข์และปมดัอยที่ฝังใจ ไปตราบจนวันตายกับสภาพของตนที่ตัองหูหนวก และอยู่ในโลก เงียบไปตลอตชีวิต

    หากผู้ใดเคยจัดหารูปภาพและเรื่องราวลามกอนาจาร จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือโปสเตอร์ VDO หรือ CD ให้ผู้ คนทั่วไปได้อ่านได้ดูกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าผู้ขาย ผู้ซื้อ ผู้ผลิต หรือผู้อื่นคิดในการจัดทำออกขาย ไปจนถึงผู้ที่หมกมุ่นถับเรื่อง ลามกอนาจารก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทั้งสิ้น
    ในชาตินี้
    ... ผู้นั้นจึงตกอยู่ในสภาพของคนพิการ ต้องทนทุกข์อยู่ ในโลกมืดชั่วชีวิต อาจจะตาบอดมาแต่กำเนิด หรือเพิ่งสูญเสีย นัยน์ตาเอาเมื่อตอนโตก็เป็นได้ แต่ตราบจนวันตายนั้นก็จะไม่มี โอกาสได้มองเห็นความงามหรือความชัดเจนของโลกใบนี้เหมือน คน ปกติ ทั่วไป

    หากผู้ใดเคยประพฤติปฏิบัติไม่ติดต่อผู้ที่เป็นบ่าวไพร่ ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง บริวาร คนรับใช้ของตนเองหรือของผู้อื่น หากตนมักดูถูกดูแคลน ชิงชังรังเกียจ มักใช้วาจาถากถาง เย้ยหยันหรือชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งข่มเหงรังแกให้เขาได้รับความ ทุกข์และความอับอาย
    ในชาตินี้
    .... ผู้นั้นจึงเป็นบุคคลที่มีรูปโฉมอัปลักษณ์น่ารังเกียจ รูปร่างต่ำเตี้ยแคระแกร็นผิดสัดส่วนปกติของคนธรรมดาทั่วไป หน้าตาก็ขี้ริ้วขี้เหร่จนน่าเกลียด ไม่ว่าจะมีฐานะความเป็นอยู่ ดีเลิศเพียงใดก็ยังเป็นทุกข์ขมขื่น ไร้ความรู้สึกภาคภูมิใจในรูป โฉมของตนไปตลอด

    หากผู้ใดเคยดูหมิ่นดูแคลน หรือแสดงท่าทีเย้ยหยัน บุคคลที่เป็นพิธีสงฆ์องค์เจ้า เหล่านักบวช ฤๅษี ชี พราหมณ์ หรือผู้ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ซึ่งเธอว่าเป็นบุคคลที่ควรแก่การ เคารพ นับถือ ถ้าผู้ใดมักดูถูกเหยียดหยามหัวเราะเยาะเย้ย หรือ แสดงท่าทีชิงชังรังเกียจก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องตกอยู่ในสภาพของคนพิกลพิการ เป็น คนหลังโก่งหลังค่อม มีรูปร่างไม่สมประกอบ ต้องทนทุกข์อยู่ กับสภาพร่างกายอันไม่สง่างามนั้นไปตลอดชีวิต แม้ว่าจะมีฐานะ ความเป็นอยู่ดีอย่างไร ก็ยังคงจะมีความทุกข์ฝังตรึงอยู่ในใจ เสมอ ไม่อาจวางท่วงท่าให้งามสง่าน่าเกรงขามได้เลย

    หากผู้ใดเคยเป็นคนที่มีจิตใจเหี้ยมโหดและประพฤติ ตนเกะกะเกเรเป็นอันธพาล มักจะหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น จนสร้างศัตรูไปทั่ว ไม่ว่าจะไปถึงที่ใดแทนที่จะผูกมิตรสร้างเพื่อน แต่กลับคอยหาเรื่องชกต่อยเป็นนิสัย และทำร้ายผู้อื่นอย่าง อำมหิตไร้ความปรานี แม้มีเรื่องไม่ถูกใจเพียงเล็กน้อยก็สามารถ ทุบตี หรือทำร้ายผู้อื่นให้เลือดตกยางออกหรือบาดเจ็บสาหัสปาง ตายได้
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงเป็นบุคคลที่จะต้องพบแต่ความโดดเดี่ยว เคว้งคว้างตลอดชีวิต กล่าวไดัว่าตั้งแต่เกิดจนตายล้วนมีชีวิตที่ ลำบากยากเข็ญ จะทำสิ่งใดก็มีอุปสรรคและปราศจากคนคอย ช่วยเหลือเจือจุน ชีวิตต้องระหกระเหเร่ร่อน ไร้ญาติขาดมิตร ต้องอดมื้อกินมื้อ สิ้นไรัแม้กระทั่งที่พักพิง มีแต่ความทุกข์ยาก ลำบากทั้งความเป็นอยู่และทั้งจิตใจไปตลอด

    หากผู้ใดเคยกระทำการทุจริตคอรัปชั่น ไม่ว่าจะเป็น การยักยอกทรัพย์รับสินบน โกงกิน ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่หรือ กระทำการใดอันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียต่อวงการ ยิ่งไปกว่านั้นยัง หาทางกอบโกยผลประโยชน์ในช่วงจังหวะที่ตนได้รับหนัาที่หรือ ดำรงตำแหน่ง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาว่าจะทำ ให้สังคมหรือบ้านเมืองมีความเดือดร้อนเสียหายเพียงใด
    ในชาตินี้
    ... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดเป็นคนที่มีสติวิปลาสฟั่นเฟือน เป็นคนบ้าไม่รู้ความ เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง ระบบประสาท ความจำเสื่อม ปัญญาอ่อน หรือเป็นโรคจิตชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่คนทั่วไป และ อาจใช้ชีวิตอย่างคนปกติ ได้ไปจนวันตาย

    หากผู้ใดเคยเป็นคนอกตัญญูต่อผู้มีคุณ คือผู้ที่เคย มีบุญคุณต่อตนนั้นมีเรื่องทุกข์ร้อนมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตน ควรจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือเขาบ้างเพื่อทดแทนคุณ แต่ตนกลับ ปฏิเสธ ไม่ใส่ใจจะตอบแทนและไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่จะคิด ช่วยเหลือใครแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่สามารถพอจะช่วยได้เป็นอย่างดี
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องกลายเป็นคนที่คอยรับใช้ผู้อื่นไปตลอด กล่าวได้ว่าตลอดชีวิตส่วนใหญ่ของคนผู้นี้ตกอยู่ในฐานะของบ่าว ไพร่ที่ต้องคอยก้มหน้ารับใช้ตามแต่คนอื่นจะบงการ ชีวิตส่วน ใหญ่ต้องทนทุกข์และขมขื่นใจ ถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นผู้มีฐานะ ความเป็นอยู่สุขสบาย แต่ในใจก็ยังคงทุกข์ตรมในสภาพของ ตนอยู่เรื่อยไป

    หากผู้ใดเคยเป็นคนที่มีจิตใจไม่รู้จักประมาณตนเอง ไม่เคยรู้จักชื่นชมผู้อื่น ในใจมักคิดอิจฉาริษยาผู้อื่นเป็นกิจวัตร เมื่อเห็นผู้ใดมีดีมีเด่นกว่าตัวก็คิดอิจฉาริษยาเอาไว้ก่อน แทนที่จะ ชื่นชมหรือมองในจุดที่ดีของเขา คิดแต่จะให้ตนดีเด่นเกินกว่า ใครเสมอ
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงเป็นบุคคลที่สังคมรังเกียจ ไม่ว่าจะเป็น คนที่มีรูปงามเพียงใด หรืออาจจะมีฐานะดีอย่างไรก็ตาม แต่ เพื่อนฝูงก็พากันติฉินนินทา พากันรังเกียจราวกับว่าตนเป็น คนมีกลิ่นตัวแรง ชีวิตจึงเป็นทุกข์เป็นกังวลเหมือนคนมีปมด้อย เพราะขาดความเชื่อมั่นและปราศจากการชื่นชมจากคนรอบข้าง

    หากผู้ใดเคยกระทำการล่วงเกินลูกเมียของผู้อื่นโดย ที่ลูกเมียเขามิได้เต็มใจ แต่ตนกลับใช้เล่ห์กลอุบาย ใช้กำลังหรือ ใช้โอกาสทีเผลอเข้าไปประพฤติมิดีมิงาม ไปล่วงล้ำก้ำเกินใน ลูกเมียของผู้อื่น มิว่าจะสำเร็จสมใจตนหรือไม่ก็ตาม แต่การ กระทำที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นมลทินติดตัวเขาไปตลอด
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างไปตลอด จนวันตาย กล่าวไดัว่าบุคคลผู้นั้นแม้จะมีฐานะที่ดี มีชีวิตสุข สบายเพียงใดก็ตาม แต่จะต้องเป็นทุกข์และทรมานในเรื่องคู่ ครอง มีชีวิตอยู่อย่างเปลี่ยวกายเปลี่ยวใจไร้คู่ขาดเพื่อนชีวิต ไปจนถึงวัยแก่เฒ่า ชีวิตต้องเงียบเหงาขาดความอบอุ่นอย่าง น่าเวทนา หรืออาจต้องเกิดเป็นกะเทย เป็นคนผิดเพศผิด ธรรมชาติ

    หากผู้ใดเคยปฏิบัติตนอย่างร้ายกาจต่อคู่สามีหรือ ภริยาของตนเป็นนิสัย ไม่ เคยให้เกียรติและให้ความรักใคร่อย่าง ที่สมควร กลับเอาแต่ดุด่าว่ากล่าว คอยจับผิดคอยตำหนิติเตียน อยู่ร่ำไป ต่อหน้าผู้อื่นก็ข่มเหงกดขี่เขา ลับหลังผู้คนก็ยิ่งบ่นด่า ชี้หน้าใส่ ไม่มีการให้เกียรติกันตามที่ถูกที่ควร
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องตกอยู่ในสภาพร้างคู่ กล่าวคือเมื่อได้ แต่งงานแลัว ไม่นานก็ต้องหย่าร้างแยกทางกัน ไม่ว่าจะแต่งกี่ ครั้งก็ต้องหย่า ชีวิตส่วนใหญ่ตกอยู่ในสถาพเป็นม่าย ที่มีแต่ ความตรมตรอมใจ ต้องอ้างว้างเปล่าเปลียว ไม่มีความสุขและ ความอบอุ่นใจแม้แต่นัอย

    หากผู้ใดเคยเป็นผู้ที่มีจิตใจคับแคบ มีอกุศลจิต คือ มิมีความยินดีในการช่วยเหลือเจือจุนคนตกทุกข์ได้ยาก และมัก คิดในทางไม่ดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอ แม้มิได้ลงมือกระทำการเบียด เบียนใครก็ตาม แต่ถ้าคิดแต่สิ่งไม่ดีมีอคติต่อผู้อื่น ก็ถือว่ามีจิต ใจ คับแคบ เช่นกัน
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดเป็นพ่อแม่ที่มีลูกไม่ได้ดีดังใจ แม้ ตนจะมีความรักลูกมากมาย และเฝ้าอบรมพร่ำสอนลูกอย่างไร ลูกมักกระทำออกนอกลู่นอกทาง หรือไม่ลูกของตนนั้นก็มัก ประสบความล้มเหลวในหนัาที่การงานอยู่เสมอ ตัวลูกเองก็มี แต่ความทุกข์กังวล ผู้เป็นพ่อแม่ก็พลอยมีแต่ความชอกช้ำใจ ไปตลอตชีวิตด้วย

    หากผู้ใดเคยทำความเสื่อมเสียให้แก่บรรดาผู้ปฏิบัติ ธรรมไม่ว่าพระสงฆ์องค์เจ้า ฤๅษี ชี พราหมณ์ นักแสวงบุญ หรือผู้บำเพ็ญในสำนักต่างๆโดยการพูดจาใส่ร้ายป้ายสี หรือใช้ คำพูดในทางใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลเหล่านั้น โดยไม่เป็นความจริง ซึ่งเรื่องที่ใส่ร้ายใส่ไคลัท่านให้มัวหมอง นั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ตนเป็นผู้ก่อขึ้นทั้งสิ้น
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องพบเจอกับความทุกข์ยากในภัยอันเกิด จากอัคคี ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ไฟดูดไฟช๊อต หรือถูกฟ้าผ่าเอา ก็ตาม แต่ตลอดชีวิตนั้นจะต้องผจญกับปัญหาเรื่องราวต่างๆ หรือเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความเดือดรัอนราวกับถูกเพลิงไฟแผด เผาให้ต้องร้อนอกร้อนใจอย่างหาความสุขไม่ได้ไปจนกว่าชีวิต จะมอดไหม้

    .....หากผู้ใดเคยนึกคิดอย่างเป็นสุขใจเสมอทุกคราวที่ได้ พบเห็น หรือได้ยินได้ฟังเรื่องราวอันทุกข์เศร้าของผู้ที่ตกระกำ ลำบากหรือประสบเคราะห์กรรมจนทุกข์เข็ญ ถ้ามีชาวบ้านพบ ความหายนะหรืออยู่ในสภาพน่าเวทนา แทนที่ตนจะแสดง ความเห็นใจ แต่กลับรู้สึกยินดีและสาสมใจที่มีคนตกทุกข์ได้ยาก เช่นนั้นเสมอ
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงมักจะประสบกับโรคภัยสารพัดที่มารุม ล้อมคุกคาม ให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ เสมอๆ ไม่ว่าวันนี้จะมีฐานะร่ำรวยหรือยากจนก็ตาม แต่จะต้อง ประสบกับโรคที่หมอหมดทางรักษาเยียวยา กล่าวได้ว่าตั้งแต่ เล็กจนถึงวัยชรามีแต่โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนจนหมดความสุข

    หากผู้ใดเคยมีจิตใจโหดร้ายทารุณ ชอบจับสัตว์มา ทรมานเล่นอย่างสาแก่ใจ หรือหาความเพลิดเพลินกับการนำ สัตว์เหล่านั้นมาต่อสู้ประชันขันแข่งเป็นต้นว่า ชนไก่ ชนวัว หรือ กัดปลา ฯลฯ โดยไม่คำนึงว่าสัตว์นั้นจะได้รับความเจ็บปวด เพียงใด มิว่าสัตว์นั้นจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ หรือสัตว์ใหญ่ หาก ผู้ใดเคยจับเอามาทารุณอย่างไร้ความปราณีในลักษณะ ใดๆ ก็ตาม ที่ทำให้เขาไดัรับบาดแผลหรือบาดเจ็บก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์
    ในชาตินี้
    .... ผู้นั้นจึงเป็นบุคคลที่ต้องประสบพบกับโรคร้าย อัน เป็นที่น่ารังเกียจแก่คนทั่วไป กล่าวได้ว่าคนผู้นั้นอาจต้องเป็น โรคเรื้อนหรือโรคอื่นใดก็ตามที่เนื้อตัวจะเกิดเป็นแผลพุพอง หรือ แผลเน่าเปื่อยอันมีแต่น้ำเลือดน้ำหนอง ทำให้ได้รับความทุกข์ ทรมานจากความเจ็บปวดและมีแต่ผู้คนรังเกียจ

    .....หากผู้ใดเคยใช้วาจาในทางที่ผิด มักพูดจาใส่ร้ายป้ายสี ยุยงให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิดต่อกัน จนกระทั่งมีผู้ได้รับความ เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการยุแหย์ให้คนสองฝ่ายมีความเกลียด ชังกัน หรือยุแหย่ให้คนต้องทะเลาะบาดหมางต่อกัน หรือใส่ไคล้ สร้างเรื่องจนเป็นเหตุให้คนเดือดร้อนไปทั่ว ถึงกับถูกไล่ออก จากงานหรือครอบครัวแตกร้าว ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้คน เขัาใจผิดจนถึงขั้นฆ่าผู้อื่นหรือฆ่าตัวตาย
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงเป็นบุคคลที่ไม่ว่าจะมีสภาพความเป็นอยู่สุข สมบูรณ์แค่ไหนอย่างไร แต่ก็จะต้องพบเจอกับความเจ็บป่วย แบบทุกข์ทรมานไม่น้อย กล่าวคือต้องอาเจียนออกมาเป็นโลหิต ด้วยการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเหตุอื่นๆ ใดๆ ก็ตาม แต่จะต้องกระอัก เลือดออกมาเสมอ และต้องทนทุกข์ทรมานด้วยอาการของโรค จนถึงกาลอวสานของชีวิต

    ..... หากผู้ใดเคยทำการใดๆ ก็ตามที่เป็นผลให้บุคคลอื่น เกิดความเสื่อมเสีย ไม่ว่าจะเป็นการเสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรี เสียชื่อเสียง เสียทรัพย์สิน หรือเสียใจไปตลอดชีวิตจนคิดฆ่าตัว ตาย และ ว่าการกระทำนั้นจะโดยวิธีการพูดจาใส่ร้ายหรือใช้ เล่ห์เหลี่ยมวางแผนชั่วร้ายใดๆ ก็ตาม แต่ถ้าวิธีนั้นทำให้คนดี คนบริสุทธิ์ได้รับความเสียหายขึ้นมาได้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงต้องประสบกับการจบชีวิตด้วยการม่าตัวตาย ไม่ว่าจะเป็นการยิงตัวตาย กระโดดตึกตาย กระโดดน้ำตาย ผูกคอตาย กินยาตาย ฯลฯ โดยที่ตนเป็นผู้ตัดสินใจลงมือเอง หรือถูกผู้อื่นบีบบังคับก็ตาม ถึงแม้ว่าตลอดชีวิตจะอยู่ดีมีสุข เพียงใด แต่เมื่อถึงคราวตายก็จะต้องมีเหตุให้จบชีวิตด้วยการ ฆ่าตัวตาย อย่าง แน่นอน

    หากผู้ใดเคยกระทำการทรยศหรือคิดร้ายต่อผู้อื่นโดย เฉพาะอย่างยิ่งเป็นบุคคลที่เขาเคยมีบุญมีคุณกับตน ให้การ ชุบเลี้ยงหรือส่งเสริมสนับสนุนในหน้าที่การงาน แต่ตนมองไม่ เห็นความดีกลับตอบแทนด้วยการคิดคดทรยศหักหลัง หรือคิด ร้ายต่อผู้มีพระคุณให้ไดัรับความเดือดรัอนเสียหาย และเสียใจ ในการกระทำของตน
    ในชาตินี้
    ..... ผู้นั้นจึงเกิดมาเป็นสุนัข ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกิดมารับใช้ เจ้านายของมันด้วยความจงรักภักดีไปจนวันตาย มีชีวิตอยู่ อย่างน่าเวทนา บ้างต้องเตร็ดเตร่หากินตามถนน บ้างต้องนอน กลางดินหากินตามกองขยะ ทั้งนี้ชีวิตบาปซึ่งต้องเวียนมาเกิด เป็นสุนัขนั้น การเป็นอยู่อาจทุกข์เข็ญแร้นแค้นหรือสุขสบาย ก็ขึ้นอยู่กับกรรมได้ทำไว้นั่นเอง

    หากผู้ใดมีจิตคิดละโมบประกอบมิจฉาชีพ ด้วยการ วางแผนต้มตุ๋นหลอกลวงผู้อื่น ฉกฉวยเอาผลประโยชน์มาเป็น ของตนโดยเจ้าของไม่ยินยอม เพื่อมาปรนเปรอความอยากด้วย วิธีที่สกปรก ทำให้มีผู้ได้รับความเดือดรัอนเสียหายจนถึงขั้น หมดเนื้อหมดตัว เมื่อต้องการผลประโยชน์ใดก็ไม่คิดพยายาม หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แต่กลับใช้เล่ห์เหลี่ยมกล อุบายหลอกลวงต้มตุ๋นเอาจากผู้อื่นเสมอ
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดมาเป็นหมู ถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่ เป็นของเหลือและบูดเน่า ด้วยจริตนิสัยเดิมเป็นผู้ที่มีความ ละโมบโลภมากจึงกินอย่างเหลือเฟือสมใจจนตัวอ้วนพี แล้วถูก ส่งไปฆ่าทั้งที่ตนไม่ยินยอม เพื่อสังเวยเลือดเนื้อและเครื่องในจน หมดไส้หมดพุงเช่นเดียวกันกับที่ดินได้ทำไว้

    หากผู้ใดเคยหยิบยืมเงินทองของผู้อื่นมาแล้ว แตไม่ ยอมใช้หนี้คืนให้กับผู้เป็นเจ้าหนี้ แม้ว่าตนมีเงินพอที่จะใช้คืน แต่กลับไม่ใช้คืนเขาไป ทั้งที่เจ้าหนี้ก็มาทวงขอเงินคืนตามสัญญา แต่ก็ดื้อดึงอ้างว่ายังไม่มีเงิน โดยไม่นึกถึงยามลำบากเมื่อไปขอ หยิบยืม เขาให้ตนมาด้วยความเห็นใจ
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดเป็นวัว ควาย หรือม้า ซึ่งเป็น พาหนะให้คนใช้งาน ตลอดชีวิตต้องถูกใช้งานอย่างหนัก แม้ เหน็ดเหนื่อยลำบากแค่ไหนก็ต้องยินยอมทำทุกอย่างด้วยความ ซื่อสัตย์ และก้มหน้ารับใช้โดยไม่อาจขัดขืนเพราะถูกสนตะพาย บังคับให้ออกแรงเพื่อเป็นการใช้หนี้และกรรมที่ทำไว้

    หากผู้ใดเคยประพฤติตนเป็นคนชอบเปลือยกายอวด คนอื่น เคยเป็นนางระบำโป๊ คือเคยถ่ายรูปโป๊ลามกอนาจาร นุ่งเสื้อผ้าน้อยชิ้น เผยให้เห็นของสงวนที่ควรปกปิด ไม่ว่าชาย หรือหญิงหากเคยเปลืองผ้าโชว์สัดส่วน หรือโชว์เนื้อหนังมังสา มาก่อนก็ถือว่าอยู่ ในเกณฑ์ทั้งสิ้น
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดมาเป็นโค ไม่ว่าจะเป็นโคเนื้อ หรือโคนม เป็นสัตว์ที่ต้องกินหญ้ากินฟางเป็นอาหารเพื่อรักษา ศีล ชดเชยในครั้งที่เป็นมนุษย์ได้ปฏิบัติตัวให้อยู่ในศีลธรรม อันดีงาม และต้องมารับกรรมด้วยการแบกเต้านมอันหนักอึ้ง ที่คอยผลิตน้ำนมออกมาอย่างเจ็บปวด และสุดแสนทรมานเมื่อ ถูกรีดนม เพื่อใชักรรมตามประสาจิตใจที่ไร้ยางอายนั่นเอง

    หากผู้ใดเคยเป็นนักบวชผู้ทรงศีล แต่กลับไม่ถือศีล ภาวนาตั้งมั่นอยู่ ในทางธรรม ขาดความสำรวมประพฤติตนไม่ เหมาะสม กล่าวคือมีใจหยาบหนาด้วยกิเลสเกาะกุมละโมบโลภ มากในลาภสักการะ หลงในชื่อเสียงบารมี เอาสมบัติส่วนรวม มาเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นการทำลายภาพพจน์ชื่อเสียงของศาสนา ด้วยความลุ่มหลงมัวเมา จนเป็นที่ติฉินนินทาของชาวบัาน
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดมาเป็นเต่าที่มีร่างกายอยู่ในกระ ดอง เนื่องจากอดีตชาติไม่รู้จักสำรวมในศีล จึงต้องเกิดมาใน ร่างของเต่าเพื่อบำเพ็ญอย่างสำรวมระวังในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ฝึกความอดทนและต้องทนลำบากเพื่อชดใช้กรรมด้วย อายุขัยที่ยาวนานกว่าสัตว์ชนิดอื่น แม้จะต้องดำรงชีวิตอยู่ใต้ ท้องทะเลลึก บำเพ็ญอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางความหนาวเหน็บ

    หากผู้ใดชอบคลุกคลีหมกมุ่นอยู่กับแหล่งบันเทิง บาร์ ไนท์คลับ ผับ ดิสโก้เธค คาราโอเกะ สถานเริงรมย์ต่างๆ หรือมั่ว สุมอยู่กับแหล่งอบายมุขไม่ว่าแหล่งยาเสพติด แหล่งการพนัน อันเป็นสถานที่ที่สะอาดไม่บริสุทธิ์
    ในชาตินี้
    ..... คนผู้นั้นจึงต้องเกิดมาเป็นหนองเป็นแมลงวัน ชอบ คลุกคลีอยู่กับบริเวณที่สกปรกเน่าเหม็นเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่ อาศัยเป็นตันว่ากองขยะ หรือซากศพของสัตว์ที่ตายแล้ว หรือ มูลสัตว์ที่สกปรกและเน่าเหม็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามจริตและ นิสัยเดิมของตนที่ชอบมั่วสุมอยู่ในแหล่งอบายมุขนั่นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...