[กฎแห่งกรรม] การเจริญพระกรรมฐานทำให้ชีวิตรุ่งเรือง โดยหลวงพ่อจรัญ

​

การเจริญพระกรรมฐานจะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง วัฒนาสถาพร และจะรุ่งเรืองต่อไปถึงลูกหลาน โยมลองดูได้เลย ยกตัวอย่างเรื่องจริงให้เห็นดังนี้
เมื่อสมัย พ.ศ. ๒๕๐๐ มีผู้หญิงคนหนึ่ง พ่อเป็นจับกังรถลพบุรี-สิงห์บุรี แม่รับจ้างซักรีดเสื้อผ้า สมัยนั้นใช้เตารีดชนิดเตาถ่าน ต้องใช้พัดโบกให้ถ่านติด<O</O
<O</O

ครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมด ๖ คน ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวคนโต เรียนจบชั้น ม.๖ (เทียบเท่า ม.๓ สมัยนี้) พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ เพราะต้องเลี้ยงน้องอีก ๕ คน<O</O
<O</O
บ้านที่อยู่ปลูกทรงหมาแหงน อาศัยปลูกอยู่ในที่หน้าบ้านของเศรษฐีผู้หนึ่ง<O</O
ลูกสาวคนโตนุ่งผ้าขาดปะแล้วปะอีก สร้อยสักเส้นก็ไม่มี แหวนสักวงก็ไม่มีใส่ แถมยังนำเชือกปอมามัดเอวแทนผ้า<O</O
“หลวงพ่อคะ หนูคงหมดโอกาสที่จะมีสามีที่ดีได้ หนูคงจะมีสามีเป็นจับกังเหมือนคุณพ่อของหนู”<O</O
อาตมาก็ถามว่า “ทำไมหนูคิดอย่างนั้นเล่า เป็นเพราะเหตุผลประการใด”<O</O
เขาก็ตอบว่า “หนูเป็นคนจน หาเช้ากินค่ำ หาค่ำกินเช้า ต้องเลี้ยงน้อง เงินทองก็ไม่พอจะเลี้ยงน้อง และส่งน้องไปโรงเรียนได้บางวันก็ขาดแคลนเหลือเกิน เพราะไม่มีของจะแบกขึ้นรถ ไม่มีใครมาจ้างซักจ้างรีด ข้าวสารจะกรอกหม้อก็ไม่มี”<O</O
อาตมาดูเด็กคนนี้แล้ว เห็นหนอ....มันบอกว่าจะต้องเป็นเถ้าแก่เนี้ย เป็นอาเสี่ยใหญ่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดรายการ เมตตาเธอมีอยู่ โหงวเฮ้งมันขึ้นแล้ว เขาจะต้องเป็นใหญ่เป็นโต จะจริงหรือไม่ประการใด ถ้าจริงเขาจะต้องเชื่อหลวงพ่อแน่<O</O
อาตมาจึงบอกว่า “จะเชื่อหลวงพ่อไหมล่ะ มาอยู่ที่วัดหลวงพ่อสักเดือนหนึ่ง”<O</O
เขาก็ถามว่า “หลวงพ่อจะให้หนูอยู่ทำอะไรคะ”<O</O
อาตมาตอบว่า “มาเถอะ มาช่วยอยู่ที่โรงครัว”<O</O
ตอนนั้นยังไม่มีสำนักชี มีโรงครัวอยู่หลังเดียวที่อาตมาไปซื้อมา ในที่สุดเขาก็มาอยู่ที่วัดมารับใช้บ้าง นั่งกรรมฐานบ้าง ๑ เดือนเต็ม<O</O
ที่วัดสอนทั้งแม่บ้านเคหศาสตร์ เขาเป็นคนที่สอนง่าย คนที่มีคุณธรรม สอนง่าย ไม่หัวดื้อหัวรั้น คนไม่มีกรรมสอนง่าย<O</O
คนที่กฎแห่งกรรมดันไปทางความชั่ว มันจะไม่ฟังคำสอนเราเลย ขอฝากญาติโยมไปคิดในวันนี้<O</O
เด็กคนนั้นก็เป็นกฎแห่งกรรม พอได้ยินหลวงพ่อวัดอัมพวันกล่าวว่า เอาละหนู หนูไปฝึกจิตสูงเมื่อใด หนูจะได้สามีจิตสูง ถ้าหนูจิตต่ำเมื่อใด หนูจะได้สามีเป็นคนใจต่ำ” เด็กคนนั้นคิดออกเลยทีเดียว<O</O
<O</O

เพราะคนมีบุญวาสนา สะกิดนิดเดียว เขารู้แล้ว คนที่ไร้บุญวาสนา บอกปากจะฉีกถึงรูหู ยังไม่รู้เรื่อง จิตคอยหลั่งไหลไปสู่กฎแห่งกรรมที่ทำไว้ มันจะไม่ยอมฟังเลยนะ<O</O
<O</O

ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็มาอยู่ที่วัด อาตมาก็ให้ซื้อเสื้อผ้าให้ใส่ใหม่ เขาก็ปฏิบัติกรรมฐานเดินจงกรมถึงระยะหก จิตเข้าถึงธรรมะ มีความอดทนสูงปฏิบัติถึงขนาดตายให้ตาย<O></O>
<O</O

เขาเป็นโรคโปลิโอด้วย กลับกลายไปได้เพราะตั้งสติเข้าไป แต่งตัวก็สวยน่ารัก เป็นที่เจริญใจของผู้ที่ได้พบเห็น<O</O
พ่อแม่เขาก็เป็นห่วงลูกสาวของเขาเหมือนกัน แต่พ่อเขาพูดรู้เรื่อง เดิมที่เขาไม่ใช่คนจน แต่ไปได้เมียคนจน ทางบ้านเลยไม่ยกสมบัติให้เลย มีความรู้แค่ ป.๔ เลยเป็นจับกัง ต้องช่วยตัวเอง<O</O
<O
พ่อเขาก็มาหาลูกสาวเรื่อย อาตมาก็บอกว่า นี่คุณโยม อย่ามาห่วงลูกสาว อาตมาจะรับเป็นลูกสาวเอง จะดูแลอย่างดี แม่ก็รับจ้างซักรีดไปก่อน เป็นทุกข์ทรมานชั่วคราว นี่แหละกฎแห่งกรรม<O</O
<O</O

คนจะสร้างความดีต้องลงทุนความลำบากได้ พระเอกนางเอกในเรื่องละครชีวิต เป็นคนยากจนทั้งนั้น เก็บผักหักฟืนขาย กตัญญูต่อพ่อแม่<O</O
<O</O

ขอญาติโยมโปรดฟัง “สร้างความดีชอบลงทุนความลำบาก สร้างความชั่วชอบลงทุนความสบาย”<O</O
คนที่ชอบเลี่ยงงานเก่ง ไม่เอาเหนือเอาใต้แต่ประการใด มีมากทั่วไป แต่หาคนดีจริง ๆ หายาก มันต้องทนทุกข์ทรมาน ลำบากตลอดรายการ ชั่วโมงบินมันมาก<O</O
<O</O

คนที่ยากจนด้วยเงินทอง แต่ไม่จนด้วยน้ำใจ รู้เรื่องความทุกข์ดี<O</O
การเจริญพระกรรมฐานทำให้จิตรวย ทำให้ไม่จนเงินจนทอง ทำให้มีสติปัญญา แก้ไขปัญหาได้ ตรงนี้ไม่มีใครคิดบ้างหรือ<O</O
ท่านต้องการจะมานั่งหลับตาไปสวรรค์ นิพพาน อย่างนั้นหรือ ท่านจะผิดหวังนะ แค่มนุษย์สมบัติท่านยังไม่ครบเลย มีเครื่องมือแก้ไขปัญหาหรือยัง ถ้ายังไม่มี ท่านจะไปสวรรค์ นิพพาน ไม่ได้<O
การเจริญกรรมฐานต้องการให้มีปัญญาแก้ไขปัญหา จำตรงนี้ไว้ให้แม่น<O</O
ลูกสาวอาตมาก็มานั่งกรรมฐาน แผ่เมตตา อานิสงส์ของการแผ่เมตตา ทำให้พ่อแม่มีงานทำมากมาย เขาจึงมาขอลูกสาวให้กลับไปช่วย<O</O
<O</O

อาตมาก็บอกว่า “ยังไม่ครบหน่วยกิต ยังกลับไม่ได้ ต้องให้ครบเดือนก่อน” นี่เห็นไหน ลูกสาวคนโตช่วยพ่อแม่ได้<O</O
อาตมาคิดถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าว่า ลูกสาวคนโตก็เป็นแม่ของน้องได้ ถ้าเป็นพี่ชายคนโตก็เป็นพ่อได้<O</O
พอปฏิบัติกรรมฐานได้ครบ ๑ เดือน ก็มีปัญญา มีมนุษย์สมบัติครบ เป็นกุลสตรีอันดียิ่ง เป็นลูกแก้วลูกขวัญ เธอจะไปเป็นแม่แก้วแม่ขวัญของลูกในอนาคต มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ยิ้มตลอด<O</O
เขาช่วยงานหลวงพ่อได้ดี แขกมาก็เจ้าคะเจ้าขา เชิญรับประทานอาหาร แขกผู้ใหญ่มาก็ช่วยต้อนรับ โอภาปราศรัย หลวงพ่อเบาใจมาก ได้ลูกสาวดีอีกคนหนึ่ง เป็นที่พึ่งของหลวงพ่อได้<O</O
<O
พอลูกสาวกลับไป ใครมาวัดก็ถามถึงแต่หนูคนนั้น ไม่ถามถึงหนูคนอื่นเลย เพราะหนูอื่นไม่เคยไปเลี้ยงแขก อาตมาจึงได้ตำราใหม่<O</O
บอกกับหนูว่า “หนูเอ๋ย มาอยู่กับหลวงพ่อเพียงเดือนหนึ่ง หนูกลับไปนะเขาถามถึงจังเลย หนูกลับมาอยู่กับหลวงพ่อใหม่ไหม?”<O</O
เขาบอกว่า “ไม่ได้หรอกค่ะ หลวงพ่อบอกให้หนูไปเป็นเศรษฐีจะกลับมาได้ยังไง ถ้าหนูกลับมาก็ไม่เป็นเศรษฐีซิคะ จะไม่มีเงินทอง มาช่วยหลวงพ่อนะ”<O</O
อาตมาก็บอกว่า “ตกลง หนูจ๋า ได้เพชรหลวงพ่อไปหนึ่งกิโลแล้ว ได้ทองคำไปหนึ่งตัน ทองกับเพชรอันนี้ไม่ต้องมีตำรวจมาอารักขา เก็บไว้ที่ใจของเธอ”<O</O
“เพชรน้ำหนึ่งคือ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นนิจ ขยันประหยัดให้มั่น หันหลังให้อบาย มีความขยันหมั่นเพียร เรียนด้วยตนเอง อัตตาหิ อัตโนนาโถ คนเป็นที่พึ่งแห่งตน นี่คือเพชรของหลวงพ่อ”<O</O
<O</O

สัจจังเว อะมะตาวาจา พูดแล้วต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ คือเพชรน้ำหนึ่งในดวงใจ เสียสละ สามัคคี มีสัจจะ มีวินัย ขยันเอาการ งานสะอาด ฉลาดรอบคอบ ชอบระวัง ตั้งใจให้ตรงศีลธรรม จะได้นำทางให้ถูก จะได้ปลูกสติ จะได้ดำริชอบ จะได้ประกอบกุศล ได้ผลอนันต์ นี่คือ เพชรในดวงใจ ถ้าคนใดมีเพชรในดวงใจ รับรองคนนั้นเป็นเศรษฐีแน่ ขยันหมั่นเพียรตลอดรายการ<O</O
ลูกสาวหลวงพ่อคนนี้มีมนุษย์สมบัติครบ จะยืนเดินนั่งนอน จะเหลียวซ้ายแลขวา จะคู้เหยียด เหยียดขาก็สวยน่ารัก ถึงจะนุ่งผ้าปะหน้าปะหลังเหมือนแผนที่อย่างไรก็ตามก็ยังน่ารักอยู่<O</O
<O</O

บางคนแต่งตัวฉูดฉาด ทาปากแดงสวยจริง ๆ แต่ดูแล้วมันน่าเกลียด ทำอะไรก็น่าเกลียด จะนั่งก็น่าเกลียด จะล้างชามก็น่าเกลียด แต่ลูกสาวหลวงพ่อน่ารัก จะทำอะไรก็น่าดู กลับไปอยู่บ้านก็ยังเจียมตัวอยู่ ยังนุ่งผ้าปะเจียมตัวว่าเป็นคนจน พ่อแม่ก็พอมีเงินส่งน้องเรียนหนังสือ สวดมนต์แผ่เมตตาให้น้อง พอมืดค่ำแล้วก็สอนหนังสือให้น้อง น้องเรียนเก่งทุกคน<O</O
สอนให้น้องสวดมนต์ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พาหุงมหากาฯ แล้วก็ชวนน้องนั่งกรรมฐาน พ่อแม่ก็ดีอกดีใจ ลูกเอ๋ย ถึงเหนื่อยมาพ่อก็ยังดีใจ<O</O
<O</O

เขาบอกกับคุณพ่อคุณแม่ของเขาว่า “หนูจะไม่ทำลายน้ำใจของคุณพ่อคุณแม่เลย จะยากดีมีจนนุ่งผ้าปะ หนูก็ไม่อายเขานะ หนูสร้างความชั่วหนูถึงจะอาย ผ้าปะนี่มันปิดร่างกาย เพื่อกันหนาวกันร้อนเท่านั้น ไม่ใช่กันอย่างอื่น ห่อเข้าไว้เพื่อกันความละอายในเท่านั้น ไม่ต้องการสวยฉูดฉาดนะ” คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจเหลือเกิน<O
อาตมาก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้ หนูเอย ลาหลวงพ่อกลับไปแล้ว หนูต้องได้สามีหนึ่งในตองอูแน่<O</O
เพราะคนดี ต้องได้สามีดี คนชั่วต้องได้สามีชั่ว ถ้าดีกับชั่วได้กัน จะอยู่กันไม่ได้ ต้องเลิกกันแน่ ๆ<O</O
อยู่ต่อมามีเถ้าแก่ที่สิงห์บุรีพาอาเสี่ยใหญ่จากเยาวราชมาขอลูกสาวเศรษฐี เขามีโรงสี มีโรงน้ำแข็ง มีลูกสาว ๓ คน ใส่เพชรพราวทาปากเสียแดง คิ้วก็โก่งยังกับเขียน แต่ไม่ได้เรียนวิชา<O</O
เถ้าแก่พาอาเสี่ยเดินผ่านบ้านลูกสาวของเราพอดี เพราะมาอาศัยบ้านเศรษฐีอยู่ อาเสี่ยคนนี้สบเนตร เห็นลูกสาวของหลวงพ่อกำลังล้างชามอยู่ นึกพอใจทีเดียว นี่เห็นไหม ใส่ผ้าปะก็ยังพอใจ<O</O
เขาก็พากันเดินเข้าไปในบ้านเศรษฐี ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เถ้าแก่ก็เจรจาจะมาขอลูกสาวบ้านนี้ จะให้คนไหนแล้วแต่จะชอบกัน แต่คุณแม่มีความประสงค์ว่าจะขายคนโตก่อน<O</O
ถามอาเสี่ยว่าลูกสาวคนโตนี่ชอบไหม เขาก็ตอบว่า ไม่ชอบ คนรองชอบไหม ก็ไม่ชอบอีก พอถามถึงคนเล็ก ก็ไม่ชอบทั้งสามคน<O</O
อาเสี่ยเข้ามา จะมีใครไหว้เขาสักคนไม่มีเลย เดินกระโปรงบานออกมา ใส่แหวนเพชรแพรวพราวไปหมด ทาปากแดงด้วย จะสวัสดีค่ะไม่มีเลย ขอฝากไปคิด นี่บ้านลูกเศรษฐีนะ<O</O
เถ้าแก่ที่พาอาเสี่ยไปนึกว่าจะมีหน้ามีตา กลับเสียหน้าเพราะเขาไม่ชอบ อาเสี่ยบอกว่าชอบคนหน้าบ้าน เถ้าแก่บอกว่า ไปชอบทำไม บ้านคนจน เป็นขี้ข้าเขา<O></O>
แต่อาเสี่ยประทับใจ เดินผ่านมาก็ถามว่า <O</O
“คุณครับ ทำอะไรครับ”<O</O
ลูกสาวหลวงพ่อบอก “ขอบคุณค่ะ หนูกำลังล้างชามค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์ถามหนู”<O</O
แต่สามคนนั้นไม่เคยไหว้อาเสี่ยที่จะมาขอเลย ไม่มีขอบอกขอบใจ ถ้าไปเป็นนางกวักในบ้านของใครคงขายของไม่ได้ หน้าก็งอเหมือนมือนางกวัก จะยิ้มสักหน่อยก็ไม่ได้เลย เพราะไม่เคยมาเรียนจิตวิทยาที่นี่<O</O
ถ้ามาฝึกก่อนก็จะได้ให้ยิ้ม พอเขาจะมาดูตัวคอยยิ้มเข้าไว้<O</O
ขอฝากนักกรรมฐานไว้ ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าไปข้ามนะ บริษัทล้มไปแล้ว เดี๋ยวนี้เป็นเสี่ยใหญ่รวย เอาสามคูณเลยนะ<O</O
<O</O

อาตมาจำคำคมนี้ได้ตั้งแต่เป็นเด็ก<O</O
อย่าไปข้ามคนล้ม อย่าไปข่มคนรู้ อย่าไปขู่คนกล้า อย่าไปท้าคนพาล อย่าไปวานคนร้าย <O</O
อย่าไปขายคนรัก อย่าไปกักคนรีบ อย่าไปบีบคนบอบ อย่าไปชอบคนชั่ว อย่าไปยั่วคนดี อย่าไปตีคนตาย<O</O
<O</O

โยมกรรมฐาน คนล้มไปแล้วอย่าไปข้ามนะ อย่าดูถูกคนจนนะ ดูเห็นหนอให้มันรู้ขึ้นมาบ้างซิว่า ข้างนอกเป็นเงาะป่า ข้างในเป็นทอง มันมีวิชา มีปัญญาหากิน รูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจงาม ไม่ดีหรือ รูปร่างสวยอย่างเทวดา แต่นิสัยเลวที่สุด จะมาเลี้ยงเราได้หรือ<O</O
ตอนหลังอาเสี่ยมาคนเดียว มานั่งคุยกับลูกสาวบอกว่า “คุณกำลังทำอะไรครับ” ลูกสาวก็ตอบว่า “ขอบคุณค่ะ สบายดีหรือคะ”<O</O
ลูกเศรษฐีสามคนนั่น ขอบคุณไม่เป็นเลย ตอนหลังก็ไม่มีใครขอ มีสามีไม่ได้เลย<O</O
อาเสี่ยก็พูดตรง ๆ บอกว่า “คุณครับ ผมชอบคุณแล้ว” พูดเองไม่ต้องมีเถ้าแก่ ลูกสาวตอบว่า<O</O
“ขอบคุณค่ะที่ชอบดิฉัน ชอบดิฉันแบบไหนคะ”<O</O
อาเสี่ยก็ตอบว่า “ชอบที่จะขอคุณไปอยู่บ้านผมซิครับ”<O</O
ลูกสาวตอบว่า “ขอบคุณอย่างสูงที่สุด ดิฉันไม่บังอาจหรอกค่ะ”<O</O
อาเสี่ยถามว่า “เพราะเหตุใดรึ”<O</O
ลูกสาวตอบว่า “ดิฉันจนไม่มีอะไรเลยนี่คะ ดูบ้านดิฉันซิ ทรงหมาแหงน มาอาศัยบ้านเศรษฐีเขาอยู่นี่”<O</O
อาเสี่ยบอกว่า “เอาละเธอ ฉันดูเธอมา ๓ ครั้งแล้ว ฉันเข้าออกบ้านนี้ ฉันดูเธอนะ”<O</O
ลูกสาวก็บอกว่า “ดิฉันตกลงด้วยไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันยากจน เจียมตัวเจียมตนทุกประการเจ้าค่ะ คุณมาชอบดิฉัน ขอบพระคุณอย่างสูงที่สุดที่อุตส่าห์เมตตาคนจน”<O</O
ลูกสาวหลวงพ่อพูดดี มีโอกาสที่น่าคิด ทำให้อาเสี่ยรักเพิ่มมากขึ้น<O</O
อาเสี่ยก็บอกว่า “เอาละ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมมาพูดเรื่องจริงนะนี่ ผมตกลงเลย”<O</O
ลูกสาวก็บอกว่า “ก็คุณมาขอลูกสาวเขาทั้งสามคน ลูกสาวเขาดีนะ ดิฉันมาอาศัยบ้านเขาอยู่นะนี่ ตกลงด้วยไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะมาว่าเอา”<O</O

อาเสี่ยก็อุตส่าห์เทียวไปเทียวมา ๓ ครั้ง จึงได้ตกลง เรียกพ่อแม่มาบอกว่าจะเลี้ยงโต๊ะจีน ๒ โต๊ะ<O</O
ลูกสาวก็มาหาหลวงพ่อวัดอัมพวัน บอกว่า หลวงพ่อคะเรื่องราวเป็นอย่างนี้ หนูไม่ตกลงนะ เดี๋ยวเขาจะมาแห่เข้า<O</O
หลวงพ่อบอกว่า “เอ้า! แห่ให้มันแห่ เขาไล่ให้เราไปรวยแล้ว ดีแล้ว” อาตมารู้ว่าต้องแห่แน่ ๆ<O
พอตกลง เขาก็มากันสี่ห้าคนเท่านั้น เอาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน คาดเข็มขัดทอง ใส่แหวนเพชรแพรวพราว ใส่แค่วงเดียวพอ แล้วเขาก็ไปอยู่ที่เยาวราช ขายทอง<O</O
<O</O

วันนั้นจวนสี่ทุ่ม คุณพ่อของลูกสาวมาหาอาตมา แล้วบอกว่า “หลวงพ่อ จะทำอย่างไรเล่า เขาไล่ผมแล้ว ไล่ให้ไปภายในคืนนี้ ผมจะไปยังไงทัน”<O</O
<O</O

อาตมาจึงต้องเอาช่างที่วัดไปช่วยรื้อบ้าน ไปอาศัยอยู่ที่วัดทับควาย (เสถียรวรดิษฐ์) ปลูกทรงหมาแหงนอยู่ข้างวัด ปลูกคืนเดียวเสร็จ<O</O
นี่คนรวยมีเงินนะ ดูถูกคนจนไล่แห่คืนนั้นเลย เขาก็ไม่มีปากมีเสียงจะเถียงเลยนะ<O</O
ลูกสาวไปอยู่กรุงเทพฯ แล้วยังกลับมาทำขนมมาไว้ที่วัดนี้ และเลี้ยงเพลด้วย<O</O
<O</O

อาตมาเคยไปเยี่ยมเขา พบตาแป๊ะหนวดยาวคือเตี่ยของเขาบอกว่า “หลวงพ่อเอ๋ย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อดีจริง ๆ ถ้าไม่อยู่ขายของไม่ได้นะ คนมาทีไรก็ถามว่าอาเจ๊ไปไหนเล่า อาเจ๊ไม่อยู่ อยู่แต่อั๊ว อยู่นี่กันหลายคนเป็นอะไรหา ถ้าอาเจ๊อยู่ก็ขายดี เจ๊มันพูดดีนี่” <O</O
อาแป๊ะพูดอีกว่า “แหม! หลวงพ่อเอ๋ย ลูกสะใภ้อั๊วไม่ผิดหวังเลย ได้นางกวักเข้าบ้าน เฮงไล้ เฮงขื่อ เซ็งลี้ฮ้อ ขายของดี”<O</O
เขาก็มีลูกเป็นใหญ่เป็นโตหมด ไปเรียนที่สิงคโปร์ ไต้หวัน เรียนเมืองนอกหมดทุกคนทั้งลูกสาวลูกชาย<O</O
“หลวงพ่อดีใจเหลือเกิน หนูไม่ต้องมาตอบแทนหลวงพ่อหรอกนะ”<O</O
<O</O

เมื่อมีเงินทอง ประกอบอาชีพการงาน เลยส่งน้องเรียนสำเร็จการศึกษาทุกคน พ่อแม่ก็ไปอยู่กรุงเทพฯหมด เขาก็ไม่ได้เป็นลูกเป็นหลานอะไรของหลวงพ่อหรอก เราก็สอนเขาให้ดีได้เป็นใหญ่เป็นโต<O</O
<O
อาตมาดีใจเหลือเกินที่ ปลุกคนให้ตื่น เสกคนให้เป็นงาน สอนคนให้มีหน้าที่การงานทำ เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เป็นที่พอใจของอาตมาในโลกมนุษย์นี้ ไม่ต้องไปสวรรค์ นิพพาน มันจะผิดหวัง<O</O
<O</O

คนเรายากดีมีจนอย่างไร สร้างคุณสมบัติมนุษย์ไว้ให้ครบ สมบัติมนุษย์ต้องสร้างให้กับตนเอง เมื่อคุณสมบัติครบแล้วมันจะดันให้สูงขึ้นไปเอง ดังที่กล่าวมา<O</O
<O</O

.........................<O</O​

<O</O

ที่มา : ภาคกฎแห่งกรรม เล่ม 7
วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี​

 

มีโอกาสคงได้ไปวัดท่านค่ะ

 

ขออนุโมทนา

อาตมาภาพขออนุโมทนาสาธุการ ในข้อความดีๆที่ทำให้ผู้มาอ่าน อาจพ้นจากขุมนรก ขอให้ทุกๆท่านจงเร่งภาวนา

 

อนุโมทนา..สาธุครับ
ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ให้คนเชื่อ
ฉลาดเหลือวาจาสง่าศรี