สาธุ วันนี้โยมปี๊ก หรือสตีฟ ได้โทมาสนทนากับอาตมา และได้ฝากให้อาตมาแจ้ง บอก โป้ยเซียนสาว เฮียปอตำมะลัง ภัทรอังคาร แล้วก็ โยม รัก ให้บอกข่าวกับเพื่อนคนอื่นๆด้วย (สงสัยจะคิดถึงอย่างแรง) ว่า โยมปี๊ก คิดถึงทุกๆคน แต่ไม่สามารถติดต่อกับใครได้ เนื่องจากประสบกับพายุน้ำแข็งจนต้องย้ายบ้านเรือนไปอยู่กับญาติ (น่าสงสารเนาะ)จึงฝากอาตมาเป็นสื่อส่งข่าวนี้ต่อให้กับ ทุกๆคนได้ทราบข่าวกัน และ โยมสตีฟ ได้ร่วมบริจาคปัจจัยเป็นจำนวน 200 เหรียญ เพื่อสมทบกับผ้าป่า ที่จะทอดถวายที่วัดอาตมา ขอให้ทุกๆคนส่งกำลังใจไปให้โยมสตีฟ ให้สามารถผ่านความหน่าวอันรุนแรงที่กำลังประสบอยู่ได้โดยเร็ว ห้ามแข็งไปเสียก่อนที่จะได้มาเจอเราๆทุกๆคน สาธุ ปล. ตัวหนังสือสีแดงเข้มอาตมาเติมน้ำปลานิดนึงนะอย่าถือสาหาความเลยนะ (ขำ)
บางครั้งความในที่เจ้าเป็น อาจเป็นเพียงสิ่งทดสอบใจเจ้า หากเจ้ายอมรับมันได้ เจ้าจะตัดขาดจากมันในชาตินี้ ขอเพียงเจ้าอย่าได้ไปก่อเหตุแห่งกรรมเดิม สาธุธรรม ใครอื่นหมื่นแสนหรือจะรู้จิตเราเท่าเราเอง แม้เขาไหนใครอื่นจะกล่าวเช่นไร เราก็อาจจะเป็นเช่นเขาว่า หรืออาจจะไม่ได้เป็นเช่นเขากล่าว แต่กระนั้นไม่ว่าเพราะเหตุนั้นหรือเหตุไหน ไม่มีใครจะพาเราไปสู่ความสุขอันนิรันดร์ หรือเมืองพระนิพพานได้ นอกจากเราเอง เพราะฉนั้นแล้ว ใยต้องมัวไปวิ่งไล่ตามจิตของผู้อื่น กลับมามองดูจิตเราดวงนี้ ว่ามันเป็นเช่นใดกัน เฝ้าดูเฝ้ารู้จิตตน จะพ้นจากบ่วงมาร กำลังใจมีให้สหธรรมเสมอ นั่นคือกัลยาณมิตร หนทางจะยาวหรือสั้นบางครั้งมันอยู่ที่การหยุดมอง เราจะรอเจ้ากลับคืนสู่บ้านของเจ้า ขอเจ้าจงพ้นภัยแห่งใจตนเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
คำว่าล่วงเกินนั้นเราก็มิเคยจะไหวหวั่น เราผ่านทางสายนี้มานานพอ หาใช่อยู่เพียงหน้าจอนี้ไม่ จิตอันกำเริบไปด้วยเหตุใดๆก็ตามแล้วปล่อยกายวาจาให้กระทำตามจิตนั้น นั่นก็นับว่าเราแพ้ภัยแห่งอกุศลแล้วมิใช่หรือ จิตเพียงรู้แล้ววางไว้ในที่อันควร รอเวลาจนกว่าจะพ้นจาก โทสะ โมหะ โลภะ อันฟุ้งกระจ่ายอยู่ เพลิงแห่งไฟทั้งสามนั้นร้อนแรงเพียงใด ยิ่งเผาใจให้มอดไหม้ได้เร็วเพียงนั้น หากรอจนไฟนั้นอ่อนกำลังลงคงอยู่แต่ตัวรู้ จึงควรคิดตรองต่อด้วยเมตตาจิต วางเราวางเขาไว้เสียก่อน แล้วเราจะทราบได้ว่า แม้เราเองนี้ก็ชั่งแรงเหลือเกินก่อนจะทราบเหตุให้แจ้งเสียก่อน น้อยนักหนาที่ใครๆจะมองใจตัวและยอมรับว่าเราก็อาจคิดผิดได้เช่นดั่งกัน ความปรามาส แม้จะมิได้ตั้งคิดเอง แต่เพราะจิตที่ถูกกิเลสย่ำยีอยู่ จึงทำคนให้ปรามาสโดยรู้ไม่เท่าทัน เมื่อเราคิดว่า เรานี้ถูกหนอ เขาย่อมผิด แต่หากเราคิดก่อนว่า ท่านผู้นั้นท่านมีเหตุเยี่ยงไรหนอ เมื่อรู้เหตุชัดแจ้งแล้ว จึงเป็นการควรที่จะปักใจเชื่อว่า ท่านผู้นั้นท่านเป็นเช่นนั้นๆ ใช่หรือไม่หนอ แล้วเราหละได้ดำเนินตามหนทางนั้นหละหรือหนอ
ผู้รู้สมมติอย่างถ่องแท้ ย่อมไม่ติดในสมมติ ผู้ไม่ติดในสมมติย่อมไม่ไหวหวั่นในสมมติ หากแต่ผู้รู้ทั้งหลายผู้ถึงแล้วซึ่งวิมุติด้วยดี ย่อมรู้จักใช้สมมตินั้นเพื่อก่อความพ้นจากสมมติแก่ผู้อื่น สมมติจึงมีผลต่อวิมุติโดยแท้ แท้จริงแล้ววิมุติมิอาจจะเกิดได้หากปราศจากสมมตินั้น การจะเข้าถึงความพ้นจากสมมติโดยแท้นั้นมิอาจจะหักเอาได้ด้วยกำลังทางกายหรือการบีบบังคับ จนกว่าว่าจิตจะเสพอนิจจลักษณะอย่างกระจ่าง ละความถือมั่นในสมมติเสียได้ เมื่อนั้นแม้สมมติหรือวิมุติถึงจะมีก็มีเพียงการถูกสมมติขึ้นเพื่อให้เข้าใจได้โดยง่าย แต่จิตผู้พ้นแล้ว ไม่มีทั้งสมมติและวิมุติ เราเห็นดังนี้ ท่านเป็นเช่นใด สาธุ สาธุ สาธุ
สวัสดีค่ะ ไปตั้งกระทู้ไว้ค่ะ ในห้องจิตวิทยา ไม่ทราบว่าตั้งถูกห้องมั้ย ถ้าตั้งไม่ถูกรบกวนย้ายให้ด้วยนะคะ อิอิ..ไม่ทราบว่าจะตั้งห้องไหนถึงจะถูกต้องค่ะ http://board.palungjit.com/showthread.php?t=174224 ขอบคุณค่ะ