anchalee_mata39
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
12 มิถุนายน 2013
วันที่สมัครสมาชิก:
1 มิถุนายน 2010
โพสต์:
0
พลัง:
0

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 0 0
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หมู่ที่ 2 ถ.กาญจนาภิเษ
อาชีพ:
รับราชการครู ตำแหน่ง ครูชำนาญการ

แชร์หน้านี้

    1. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      ความเเปลกเเยกเเตกต่างใน การกระทำ คำพูด ความคิด ย่อมเเตกต่างออกไปด้วย อันเป็นเเนวทางส่งเสริมเพิ่มพูนในสิ่งที่ไม่อาจจะหาหรือมีได้โดยทั่วไป บุคคลอันพร้อมเเล้วที่จะไปด้วยดี ย่อมมีวิถีที่เเตกต่าง อันเป็นข้อสังเกตุได้โดยไม่ยาก ถ้าผู้นั้นเองก็เป็นผู้ที่รู้เเละเข้าใจในธรรม นั้นๆเเล้วเป็นอย่างดี
    2. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      สวัสดีครับ อ.ในทางตรงกันก็คือจะมีผู้คนอีกซักกี่คนในโลกที่ได้มีโอกาสที่เข้ามาศึกษาเเล้วนำไป ประพฤติปฎิบัติ เเล้วเขาเหล่านั้นก็คงจะมีถ้อยคำที่ตรงกันอย่างเดียวกันเช่นนี้ เพราะการได้รู้เเละเข้าถึงพระสัทธรรม ขององค์พระศาสดาได้เเล้ว ความเป็นปถุชนโดยทั่วไปย่อมหมดสิ้นลง
    3. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ก็ขออนุโมทนากับคุณ อ. ที่เป็นผู้มีโอกาสเหนือผู้อื่นทั้งในทางโลกและโดยเฉพาะในทางธรรม ในโลกนี้จะมีคนอย่างคุณถึง ๑๐ คนหรือไม่หนอ สำหรับตนเองเพิ่งได้รู้ได้เห็นคุณ อ.เป็นคนแรก และยังไม่เคยเห็นคนต่อ ๆมาอีกเลย โอกาสที่จะได้เห็นอีกจะมีหรือไม่หนอ คุณ อ. สวัสดีค่ะ
    4. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      คนที่มีหน้าที่การงานอย่างตนเองนั้น โอกาสที่จะถือสันโดษนั้นหาได้น้อยมาก เมื่อไรที่ยังต้องอยู่กับคนมากๆ ความวุ่นวายย่อมเกิดขึ้นเสมอ ต้องมีความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่งถึงจะผ่านพ้น หรือฝ่าฟันได้สำเร็จ คิดว่าไม่เกินห้าปีคงมีโอกาสได้ถือสันโดษบ้าง(หรือเร็วกว่านั้น)
    5. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      และสามารถนำความรู้ที่คุณอธิบายบอกสอนไว้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ และมีบางเรื่อง บางพระสูตรที่ตนเองไม่เข้าใจ คุณก็สามารถอธิบายถ่ายทอดให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ จึงรู้ว่าสิ่งที่คุณ อ.นำมาถ่ายทอดนั้นท่านเป็นผู้ที่ปฏิบัติด้วยตนเองแล้วจึงบอกสอนผู้อื่นได้ดี
    6. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุุุุุุณ อ. ตนเองได้ติดตามศึกษาข้อธรรมของคุณพุทธะธรรมมาเป็นเวลาครึ่งปีคือ 6 เดือนเต็ม โดยการย้อนอ่านข้อธรรมของคุณตั้งแต่ที่คุณเขียนไว้เมื่อต้นปี 2009 อ่านแบบตั้งใจศึกษาข้อมูล และเทียบเคียงกับพุทธวจนทีมีอยู่ในมือ ข้อมูลของคุณ อ.ไม่ผิดเพี้ยนไปจากพุทธวจน
    7. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      เมื่อจิตตั้งมั่นธรรมทั้งหลายย่อมปรากฎ คือความรู้เเจ้งในเหตุเกิดเเละความดับไปโดยไม่เหลือ นั่นเป็นการเห็นการเกิด-ดับคือมีปัญญา อันจะนำมาซึ่งการเห็นความจริงเเล้ว ความจางคลาย ความดับไม่เหลือ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ วิชชา คือความรู้เเจ้ง วิมุตติคือความหลุดพ้นย่อมเป็นสิ่งที่มีได้สำหรับผู้ที่เดินมาตามทางนี้ ก็ขออนุโมทนา
    8. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      สวัสดีปีใหม่ครับ อ. ก็ถึงตรงนี้เเล้วถ้าไม่พลัดหลงออกไปในความชอบความพอใจอันมีเกินจากความพอดีคือปล่อยให้เพลิน ก็ย่อมเข้าสู่ภาวะจิตอันตั้งมั่นได้คือมี สมาธิ ดั่งที่ว่าเมื่อมีปิติเเล้วก็จะมีสุขเมื่อมีความสุขจิตย่อมตั้งมั่น (ในองค์ฌาณนั้น)
    9. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณ อ. ความชนะอื่นใดไม่เท่ากับความชนะใจตนเอง โดยเฉพาะการกระทำที่ถูกต้องที่เป็นกุศลธรรมซึ่งนำพาให้เราได้ข้ามพ้นความทุกข์ทั้งปวง ได้พบความปิติสุขลึกๆอยู่ในดวงจิต ยากที่จะบอกให้ใครรู้ได้นอกจากตนเองเท่านั้นค่ะคุณ อ.
    10. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      เพราะหลุดพ้นไป ก็ตั้งมั่น เพราะตั้งมั่น ก็ยินดีในตนเอง เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว เมื่อไม่หวั่นไหว ก็ปรินิพพานเฉพาะตน ย่อมรู้ชัดว่า "ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก" ดังนี้ แด่คุณ อ.เจ้าค่ะ
    11. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      เพราะหลุดพ้นไป ก็ตั้งมั่น เพราะตั้งมั่น ก็ยินดีในตนเอง เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว เมื่อไม่หวั่นไหว ก็ปรินิพพานเฉพาะตน ย่อมรู้ชัดว่า "ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก" ดังนี้ แด่คุณ อ.เจ้าค่ะ
    12. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุณ อ. ก็ต้องขอส่งท้ายปีเก่าด้วยคำของพระพุทธองค์ ภิกษุ ท. ! ถ้าราคะ ในรูปธาตุ ในเวทนาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุเป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว เพราะละราคะได้ อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้น ก็ไม่งอกงาม หลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง
    13. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ภิกษุ ท.! เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ. ภิกษุมีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริง. ย่อมรู้ชัดซึ่งความเกิดและความดับแห่งรูป ความเกิดและความดับแห่งเวทนา ความเกิดและความดับแห่งเวทนา ความเกิดและความดับแห่งสัญญา ความเกิดและความดับแห่งสังขาร ความเกิดและความดับแห่งวิญญาณ
    14. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ใน ๘ คู่ข้างต้นได้ ให้ดึงสติกลับมารู้ที่ฐานคือกาย ตราบใดที่จิตยังซัดส่ายไปๆ มา ๆ ทั้งการอนุปัสนา(การตามเห็น)ก็ดี และวิปัสสนา(การเห็นแจ้ง)ก็ดี ต่างก็ทำได้ยาก พระพุทธเจ้าจึงรับสั่งว่า ให้เราเจริญสมาธิ เพื่อให้ธรรมทั้งหลายปรากฏตามเป็นจริง
    15. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ซึ่งเป็นจุดประสงค์ของการเจริญสติปัฏฐานทั้งสี่ สติปัฏฐานสี่ทุกหมวด จบลงด้วยการเห็นธรรมอันเป็นเหตุเกิดขึ้นและเสื่อมไป ขั้นตอนของสติที่เข้าไปตั้งอาศัยในฐานทั้งสี่ เป็นเพียงบันไดขั้นที่หนึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าเราไม่สามารถรู้ชัดซึ่งจิตโดยอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง
    16. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีทาง "รู้ชัดซึ่งจิตอันมีโทสะ ว่า จิตมีโทสะ" ได้เลย
      มีผัสสะ.--- จิตรับรู้อารมณ์ --- มีสติ --- ละความเพลิน --- รู้ชัดซึ่งจิต ในระหว่างขั้นตอนนี้ถ้าเราสามารถเห็นธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้นหรือเสื่อมไปในจิตได้ การเห็นตรงนี้เรียกว่าวิปัสสนา
    17. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      พระพุทธเจ้ามิได้ให้เราฝึกตามดูตามรู้เรื่องราวในอารมณ์ไปเรื่อยๆ และการตามดูตามรู้ซึ่งจิต(จิตฺตานุปัสฺสนา)จะต้องเป็นไปภายใต้ ๘ คู่อาการนี้เท่านั้น โดยธรรมชาติของจิต มันรู้ได้อารมณ์เดียว ในขณะที่เรากำลังโกรธอยู่นั้น เราจึงต้องละความเพลินในอารมณ์ที่ทำให้เราโกรธเสียก่อน
    18. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      และทิฏฐิอาศัยไม่ได้ และเธอไม่ยึดมั่นอะไร ๆ ในโลกนี้ ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้มีปกติตามเห็นจิตในจิตอยู่ แม้ด้วยอาการอย่างนี้ (มหาสติปัฏฐานสูตร มหาวาร. สํ.๑๐/๓๓๑/๒๘๙.)
    19. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      เป็นเหตุ เกิดขึ้นในจิตอยู่บ้าง เห็นธรรมเป็นเหตุเสื่อมไปในจิตอยู่บ้าง, เห็นธรรมเป็นเหตุทั้งเกิดขึ้นและเสื่อมไปในจิตอยู่บ้าง. ก็แหละสติ(คือความระลึก) ว่า "จิตมีอยู่" ดังนี้ของเธอนั้น เป็นสติที่เธอดำรงไว้เพียงเพื่อความรู้ เพียงเพื่อความอาศัยระลึก. ที่แท้เธอเป็นผู้ที่ตัณหา
    20. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      (๑๖) รู้ชัดซึ่งจิตอันยังไม่หลุดพ้น ว่า "จิตยังไม่หลุดพ้น" ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกษุผู้มีปกติเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิต(จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ) อันเป็นภายในอยู่บ้าง, ในจิตอันเป็นภายนอกอยู่บ้าง, ในจิตทั้งภายในภายนอกอยู่บ้าง. และเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นธรรม
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หมู่ที่ 2 ถ.กาญจนาภิเษ
    อาชีพ:
    รับราชการครู ตำแหน่ง ครูชำนาญการ
    ชื่อและนามสกุล:
    อัญชลี ด้วงแก้ว
    เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 2501
Loading...