anchalee_mata39
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
12 มิถุนายน 2013
วันที่สมัครสมาชิก:
1 มิถุนายน 2010
โพสต์:
0
พลัง:
0

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 0 0
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หมู่ที่ 2 ถ.กาญจนาภิเษ
อาชีพ:
รับราชการครู ตำแหน่ง ครูชำนาญการ

แชร์หน้านี้

    1. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุณ อ.ชีวิตนี้อยู่มาได้ถึง ๕๒ ปีนับว่าเป็นผู้ที่มีโชคดี มีวาสนาดี ที่ยังมีโอกาสได้มารู้จักพุทธวัจน (ธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์ ที่พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่าทรงตรัสไว้ดีแล้ว บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ทั้งเนื้อความและพยัญชนะ) และมีโอกาสได้ฟังธรรมบรรยายจากท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ที่นำพุทธวัจนมาถ่ายทอดบอกสอน
    2. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      สวัสดีครับ อ.ก็ดีเเล้วละครับได้ทำในสิ่งที่มีความสุข ก็ได้ไปลองเปลี่ยนดูอารมณ์ ความคิด ความรู้ ถ้ากระทำไปพร้อมด้วยสติ อะไรๆ ก็ยังอยู่ในความพอดีของผู้มีศีลมีธรรมเเล้ว ตรงนี้ไม่มีใครบอกไม่มีใครเที่ใหนรู้ เราก็คงรู้ของเราเอง ก็เป็นอย่างนี้เเหละ ทำเเล้ว คิดเเล้วออกมาเป็นความรู้ได้เปรียบเทียบได้ ก็ถูกเเล้ว
    3. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เรารู้ว่าความสุขทางโลกที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เกิดขึ้นแล้วก็ดับลงไป ถ้าเป็นความสุขทางธรรมนั้นเราจะรู้สึกปิติต่อสิ่งที่เราปฏิบัติได้ผ่าน มันมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเจน นี่คือความรู้สึกของตนเอง ไม่รู้ว่าตนเองคิดถูกหรือเปล่าคุณอาจารย์
    4. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ทำให้ตนเองรู้สึกว่าได้มีโอกาสผ่อนคลายความเครียคจากหน้าที่การงานได้อย่างมีความสุขมากๆ ร้องเล่นเต้นรำได้อย่างสนุกสนาน แต่ถึงอย่างไรเราจะรู้ตัวเสมอว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เหมือนกับจิตหนึ่งจะคอยเตือนเราอยู่เสมอ จะสนุกอย่างไรต้องตั้งอยู่ในความสำรวมระวัง อย่าให้เกินความพอดี และต้องระวังกับคนที่ดื่มเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
    5. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุณ อ.ได้ไปสัมนาที่แอมบาสเดอร์ หาดจอมเทียน ในหัวข้อเทพฯเป็นหนึ่ง โดยรวมครูเทพศิรินทร์ทั้งสิบโรงเรียนมาลงนามสัตยบรรณ เพื่อมีแนวทางในการทำงานที่เหมือนกัน และเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมีการแข่งขันกีฬากระชับมิตร มีการแสดงและรับประทานอาหารสังสรรค์ร่วมกัน
    6. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุณ อ. มันเป็นความจริงที่คุณบอกกล่าว ทุกวันนี้รู้อยู่ว่า เอ้า! หมดเวลาแล้วหรือนี่ เป็นวันที่ปกติของครูอัญจริงๆ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้มีรสชาดมากๆ สามารถเรียนรู้กกับทุกเหตุการณ์ อย่างไม่หวั่นไหว จะพยายามแก้ปัญหาทุกเรื่อง อย่างมีสติทีมั่นคง ด้วยหลักธรรมตามคำสอนของพระตถาคต
    7. พุทธะธรรม
      พุทธะธรรม
      สวัสดีครับ อ.ก็มองให้เป็นปรกติธรรมดา (คือธรรมดามันจะต้องเป็นอยู่อย่างนี้เเหละคือมีเเต่สิ่งที่ต้องอดทนหรือความทุกข์ทรมานเสียดเเทงอยู่เป็นปกติ) ถ้าวันใหนไม่มีเรื่องพวกนี้เข้ามาวันไหนไม่มีอะไรๆวันนั้นมันเป็นวันที่ไม่ปรกติ
    8. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      เดือนพฤศจิกายน เหลืออีก๔ วัน ให็รู้สึกว่าเดือนนี้เร็วมากๆ ตนเองแทบจะไม่มีเวลาว่างเป็นการส่วนตัวเลย ทุกๆ กิจกรรมที่เราต้องทำ ต้องเดิน ต้องแก้ปัญหา มันเข้ามาให้เราได้ทดสอบ ว่าเราจะก้าวผ่านได้ไหม ก็ขอบอกคุณ อ. ว่าทุกๆเหตุการณ์ เราสามารถก้าวผ่านมาได้ แต่ก็ต้องตั้งสติให้ดีก่อน ถึงจะละ วาง และดับมันลงไปได้...สวัสดีค่ะ
    9. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      สวัสดีค่ะคุณ อ. มีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ามาให้เราได้พิจารณา ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกใบนี้ก็ยังต้องเผชิญกับเหตูการณ์หลายๆ อย่าง ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยให้เราได้มีโอกาสได้เรียนรู้ และสามารถทำให้ทุกเหตุการณ์ผ่านพ้นไปได้อย่างมีสติ และปัญญาแก้ปัญหาสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เดินตามคำสอนของพระพุทธองค์
    10. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      แม้กำลังนอนอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัวต่อสิ่งลามก เป็นคนปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลสอยู่เนืองนิจแล. (จตุกฺก. อํ ๒๑/๑๗/๑๑.)
    11. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      อุทิศตนในการเผากิเลสอยู่เนืองนิจ. ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุกำลังนอนอยู่ ถ้าเกิดครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในกาม หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางเดือดแค้น หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางทำผู้อื่นให้ลำบากเปล่าๆ ขึ้นมา, และภิกษุก็ไม่รับเอาความครุ่นคิดนั้นไว้สละทิ้งไปถ่ยถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ; ภิกษุที่เป็นเช่นนี้
    12. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางเดือดแค้น หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางทำให้ผู้อื่นลำบากเปล่าๆ ขึ้นมา, และภิกษุก็ไม่รับเอาความครุ่นคิดนั้นไว้ สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ; ภิกษุที่เป็นเช่นนี้แม้กำลังนั่งอยู่ ก็เรียกว่าเป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัวต่อสิ่งลามก เป็นคนปรารภความเพียร
    13. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      และภิกษุก็ไม่รับเอาความครุ่นคิดนั้นไว้ สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ; ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้กำลังยืนอยู่ก็เรียกว่าเป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัวต่อสิ่งลามกเป็นคนปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลสอยู่เนืองนิจ. ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุกำลังนั่งอยู่ ถ้าเกิดครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในกาม
    14. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ภิกษุที่เป็นเช่นนี้แม้กำลังเดินอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัวต่อสิ่งลามกเป็นคนปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลสอยู่เนืองนิจ. ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุกำลังยืนอยู่ ถ้าเกิดครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในกาม หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางเดือดแค้น หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางทำผู้อื่นให้ลำบากเปล่าๆขึ้นมา,
    15. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ผู้มีความเพียรตลอดเวลา ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุกำลังเดินอยู่ ถ้าเกิดครุ่นคิดหรือความครุ่นคิดในกาม หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางเดือดแค้น หรือครุ่นคิดด้วยความครุ่นคิดในทางทำให้ผู้อื่นลำบากเปล่าๆขึ้นมา, และภิกษุก็ไม่รับเอาความครุ่นคิดนั้นไว้สละทิ้งไปถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ;
    16. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ไกลจากข้าศึก ปลดธงลงได้ ปลดภาราะลงได้ ไม่ประกอบด้วยวัฏฏะอย่างไร คือภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละอัสมิมานะเสียได้ ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา. ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ไกลจากข้าศึก ปลดธงลงได้ ปลดภาระลงได้ ไม่ประกอบด้วยวัฏฏะใดๆอย่างนี้แล(ปญฺจก.อํ ๒๒/๙๕/๗๑.)
    17. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา. ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอนเสาระเนียดขึ้นได้อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอนกลอนออกได้อย่างไรคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ ประการเสียได้ ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา. ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอดกลอนออกได้อย่างนี้แล
    18. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ที่เป็นเหตุนำให้เกิดในภพใหม่ต่อไปได้ ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้รื้อเครื่องแวดล้อมได้อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอนเสาระเนียดขึ้นได้อย่างไร คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละตัณหาเสียได้ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน
    19. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      ภิกษ ท.! ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอนลิ่มสลักขึ้นได้อย่างไร คือภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ละอวิชชาเสียได้ ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา. ภิิกษุ ท.!ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถอนลิ่มสลักขึ้นได้อย่างนี้แล. ภิกษุผู้ลื้อเครื่องแวดล้อมได้อย่างไร คือภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละชาติสงสาร
    20. anchalee_mata39
      anchalee_mata39
      เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีเจโตวิมุติและปัญญาวิมุติ เมื่อนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้ถอนลิ่มสลักขึ้นได้ดังนี้บ้าง ว่าเป็นผู้ลื้อเครื่องแวดล้อมได้ดังนี้บ้าง ว่าเป็นผู้ถอนเสาระเนียดขึ้นได้ดังนี้บ้าง ว่าเป็นผู้ถอดกลอนออกได้บ้าง ว่าเป็นผู้ไกลจากข้าศึกปลดธงลงได้ ปลงภาระลงได้ ไม่ประกอบด้วยวัฏฏะ ดังนี้บ้าง
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หมู่ที่ 2 ถ.กาญจนาภิเษ
    อาชีพ:
    รับราชการครู ตำแหน่ง ครูชำนาญการ
    ชื่อและนามสกุล:
    อัญชลี ด้วงแก้ว
    เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 2501
Loading...