ความยาวนานของ "สังสารวัฏ"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xtrem, 29 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    คำอุปมาเรื่องความยาวนานของสังสารวัฏ

    พระผู้มีพระภาคตรัสถึงเรื่องนี้แก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อให้ภิกษุทั้งหลายทำตนให้หลุดพ้นจากกิเลสและจากวัฏสงสาร

    1.สมมุติเราเอาท่อนไม้กิ่งไม้และใบไม้มามัดรวมกันเป็นมัดๆละขนาด 4 นิ้ว โดยสมมติให้แต่ละมัดเป็นมารดาของเรา ท่อนไม้กิ่งไม้และใบไม้ทั่วชมพูทวีปก็จะหมดไปก่อน ไม่พอที่จะนำมาใช้มัดตามจำนวนของมารดาของเราที่มีจำนวนยังเหลืออยู่อีกมากมาย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องตนเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ (ติณกัฏฐสูตร)

    2.สมมุติว่าเราจะเอาแผ่นดินมาปั้นเป็นก้อนๆละขนาดเท่าเมล็ดกระเบา โดยสมมุติให้แต่ละก้อนเป็นบิดาของเรา แผ่นดินทั่วทั้งโลกก็จะหมดไปเสียก่อน ไม่พอที่จะนำมาปั้นให้ครบจำนวนของบิดาของเรา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ (ปฐวีสูตร)

    3.น้ำตาของเราที่ได้ประสบกับความทุกข์ ร้องไห้คร่ำครวญเพราะการประสบสิ่งที่ไม่พอใจและเพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ ในช่วงที่เราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารนั้น หากเอาน้ำตาแต่ละหยดหยาดมารวมกัน ก็ยังมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ(อัสสุสูตร)

    4. น้ำนมของมารดาที่เราเคยดื่มในช่วงที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร เมื่อนำมารวมกันแล้วมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ(ขีรสูตร)

    5.การท่องเที่ยวในสังสารวัฏของเรามีระยะเวลาที่ยาวนานมาก โดยไม่รู้ว่ากี่กัปต่อกี่กัป ช่วงเวลาแค่กัปเดียวก็นานมากแล้ว สมมุติว่ามีภูเขาลูกใหญ่ ยาว กว้าง และสูง ข้างละ 1 โยชน์ เป็นภูเขาแท่งทึบ พอครบ 100 ปีมีคนนำผ้าเนื้อละเอียดมาปัดภูเขาลูกนี้ 1 ครั้ง และปัดอยู่อย่างนี้จนกระทั่งภูเขาลูกนี้ราบเรียบเสมอแผ่นดิน ระยะเวลาที่ยาวนานถึงเพียงนี้ก็ยังไม่ถึง 1 กัป ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ (ปัพพตสูตร)

    6. ระยะเวลา 1 กัปมีความยาวนานมาก สมมติว่ามีเมืองหนึ่งสร้างด้วยเหล็ก มีความยาว ความกว้าง และความสูงข้างละ 1 โยชน์ เขานำเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาบรรจุไว้จนเต็มเมือง พอครบ 100 ปีก็มีคนมาหยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาดออกจากเมืองไป 1 เมล็ด พอถึงเลา 100 ปีต่อไปก็หมายิบแบบเดียวกัน จนเมล็ดพันธุ์ผักกาดหมดไปจากเมือง กาลเวลาที่ใช้ไปก็ยังน้อยกว่ากาลเวลา 1 กัป ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ(สาสปสูตร)

    7. สมมติว่ามีพระ 4 รูป แต่ละรูปมีอายุขัย 100 ปี และทุกรูปมีชีวิตอยู่จนครบอายุขัย ในแต่ละวัน พระรูปแรกระลึกชาติย้อนหลังไปได้วันละแสนกัปเรื่อยไปจนครบ 100 ปีแล้วมรณภาพ รูปที่ 2 ก็ระลึกชาติย้อนหลังต่อจากรูปแรกวันละแสนกัปจนครบอายุขัยแล้วมรณภาพ องค์ที่ 3 และรูปที่ 4 ก็ทำแบบเดียวกันนั้น ถึงกระนั้นก็ดะระทั้ง 4รูปก็ยังไม่สามารถระลึกชาติได้ครบจำนวนกัปที่แต่ละรูปเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ (สาวกสูตร)

    8.จำนวนกับที่สัตว์แต่ตนเวียนว่ายตายเกิดกันมานั้นมีปริมาณมากกว่าเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคาเสียอีก ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ(คังคาสูตร)

    9.คนที่จากโลกนี้ไปสู่โลกหน้า หรือจากปรโลกมาสู่โลกนี้ มีอุปมาเหมือนท่อนไม้ที่ถูกโยนขึ้นสู่อากาศ บางคราวก็ตกลงมาทางโคน บางคราวก็ตกลงมาทางขวาง บางคราวก็ตกลงมาทางปลาย ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ(ทัณฑสูตร)

    10. แต่ละคนที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร โครงกระกระดูกของเขาที่เกิดแล้วตายในแต่ละชาติเมื่อนำมารวมกันแล้ว แค่กัปเดียวก็มีปริมาณมากเท่ากับภูเขาเวปุลละ ใกล้เมืองราชคฤห์ ทั้งนี้เพราะว่าสังสารวัฏนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ (ปุคคลสูตร)


    ---------------------------

    แหล่งข้อมูล : สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
     
  2. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อายุของวิญญาณที่ท่องเที่ยวในวัฏฏะสงสารยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด
    กิเลสและกรรมทั้งหลาย เปรียบดังเชื้อเพลิงและอาหารที่หล่อเลี้ยงวิญญาณนั้น
    การดับกิเลสและตัณหา การไม่ก่อกรรมอีกต่อไป คือการเลิกใส่เชื้อไฟให้กับวิญญาณนั้น
    การนิพพาน คือการฆ่าวิญญาณให้แตกดับไป เหมือนเปลวไฟที่สิ้นเชื้อ
    ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องไหม ???
     
  3. สมใจนึก9

    สมใจนึก9 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    เมื่อท่านฆ่าวิญญาน
    ความจริงวิญญานมีอยู่ไหม
    พุทธไม่ยุทธ
    ไม่ฆ่า
    หลังวิญญานดับไปแล้วจิตอยู่ไหน
    น่าฉงนไหมครับ
     
  4. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด ตราบนั้นวิญญาณก็สมควรมีอยู่
    ไม่เช่นนั้นใครเล่าจะเป็นผู้ไปเกิด ใครเล่าจะเป็นผู้ไปรับผลแห่งกรรม
    ไม่ทราบว่าผมเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องไหม
     
  5. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .......อวิชชา ปัจจยสังขารา สังขาราปัจจยวิญญานัง..:cool:
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คำว่าดับ คำว่าฆ่า. ไม่ใช่การไปทำให้มันหายไปจากระบบ

    คำว่าดับ. คำว่าฆ่า. มันเปนภาษาของสีล มีจิตั้งมั่นไม่โลเล หลักลอย
    แล้วทราบชัด. แจ้งชัดว่า พ้น. ว่าพรากออกมา. ไม่มีฉวยกลับมาถือ
    เอาว่า มีตน. เปนตน ของตน

    อย่างสุขจากการเสพฌาณ. เสพอุเบกขา. เราไม่ได้ วางลง ด้วยการไม่หมั่น
    ประกอบให้เกิดที่จิต. ตรงกันข้าม. ให้เสพให้มากๆ. ทำให้มากๆ

    แล้ว มีจิตตั้งมั่น. แลอยู่ ว่ามันเกิด ดับ. ไม่เที่ยง

    เพราะไม่เที่ยงจึงเปนทุกข์

    เพราะเดี๋ยวก็ดับ จึงเห็นโทษ


    เสพให้มากๆ เพื่อเอามาเปนอุบาย อบรม เหนทุกข์ เหนโทษ

    จิตตั้งมั่น. มากพอ สมควรแก่ธรรม จะเหนได้ว่า. มีสัญญาอย่างไร
    สัญญาดับอย่างไร. เหนสัญญาเกิด ดับ. มันก็เหนว่ามีญาน
    ในกาพ้นอยู่ พรากอยู่ อาสัยะลึกเท่านั้น. ไม่มีการยึดมั่นถือมั่น
    ว่าเปนตน มีตน. เปนของตน
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เสพฌาณ. ต้องมากแค่ไหน

    ทุกลมหายใจเข้าออก. ซึ่งมันเปนสำนวนภาษาปฏิบัติ
    มันไม่ได้แปลว่า. หายใจเข้าหนึ่งครั้ง เสพหนึ่งครั้ง
    ออกหนึ่งครั้ง เสพอีกหนึ่งครั้ง

    ความเปนจริงคือ. วิญญาน. มันเกิดดับ หนึ่งคาบลมหายใจเข้าออก
    มันเกิด มันดับ แสนล้านครั้ง

    ดังนั้น. แสนล้านครั้งนั้น. รู้เท่าไหร่ พรากออกเท่านั้น ตามความสมควร
    แก่ธรรมของตน
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ถ้าตกหล่น. จิ๊ดเดียว

    ก็ให้กำหนดรู้ไปเลย. ว่า. ไม่จบ

    สิ่งที่สมควรรู้ ยังไม่จบ. ความยืดยาวของสังสารวัฏ. ยังหาที่สุดไม่ได้
     
  9. ทานตะวัน10

    ทานตะวัน10 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    น่ากลัวนะโยมนิวรณ์
    สงครามพระกวาดลาน

    ภาพนำสื่อรูปตัวท่าน
    คือพยา
    ยาม
    ยาธิ

    ที่รู้ว่าตาคือเวทนาสื่อสายไปยังจิต
    มีสายสื่อ
    เวทนาคือวิญญานนัง.....มีหูตาจมูกแปรตามบาลีคือฆานะ จักษุ...ครบทั้งหก
    ตรงนี้ท่านสมมุติสื่อเป็นเหมือนอสุจิรอผสมหรือไม่......
    คือร่อนเร่ไป...เป็นสัมภเว
    รอปฏิสนธิ.....

    จบรอบแรกมีรอบสองรอบสามรอบสี่
    ถามว่ารอบอย่างไรครอบอย่างไรคลุมอย่างไร
    ทั้งหมดอย่างไรหรือท่านผู้เจริญ

    อย่างไรรู้รอบ
    รู้ครอบ
    รู้คลุม
    รู้ครบ

    หากท่านรู้สมมุติขอท่านแสดงเพื่อกุสลทำด้วยเทอญ.
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไอ้หย๋า

    ลองเรียก สมาชิกว่า โยม ผมขอผ่านฮับ

    หน้าที ป๋ม ฟังอย่างเดียว
     
  11. ทานตะวัน10

    ทานตะวัน10 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    หลังวินญานังในฌานมีอะไรหรือ
    เราเข้าไปดูนิพานคือนิโรธ
    วิมุติ ออกมาเป็นสมมุติทั้งหมด
    เราเอาสมมุติมาอธิบายได้ไหมเป็นธรรมคือนำสื่อธรรม
    ยาก....
     
  12. ทานตะวัน10

    ทานตะวัน10 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอท่านนิวรณ์นำสื่อสมมุติ...
    มหาสติปัฏฐานสี่เถิด
    กาย
    เวทนา
    จิต
    ธัม
     
  13. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    เรียนถามท่านทานตะวัน10 ทุกข์ควรดับ หรือให้รู้ทันครับ ทุกข์มีที่ดับตรงไหน เรียนเชิญแสดงธรรมตามกาลเถิด
     
  14. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    พอได้ยินคำว่า โยม คุณนิวรณ์ก็ถอยซะแล้ว
    แถมยังจำแลงร่างเป็นหมาน้อยซะเลย 5555:cool:

    จอมยุทธ ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ก็ต้องให้เกียรติหลวงจีนวัดเส้าหลินเสียสามส่วน :boo:
     

แชร์หน้านี้

Loading...