ทำไม รู้สึว่าทำบุญตลอด ทำทานเป็นประจำ แต่ชีวิตยังไม่ก้าวหน้าเลย

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย redeye127, 11 กันยายน 2015.

  1. redeye127

    redeye127 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,474
    คือ ผมเป็นคนที่ทำบุญและทำทานเป็นประจำนะครับ ถ้ามีโอกาสก็จะพยายามไปทำที่วัด หรือ ถ้าไปไม่ได้แต่อยากทำบุญเกี่ยวกับอะไรก็จะโอนเงินไปร่วมทำบุญเสมอครับ ,,, ผมจะพยายามตักบาตรทุกวัน ที่สามารถทำได้ และทุกๆวันเสาร์-อาทิต ก็จะซื้อปลาที่ตลาดมาปล่อย ทุกครั้งที่ทำบุญก้อ ขอให้เจ้ากรรมนายเวร และ เทวดาประจำตัว พ่อ-แม่ มีความสุข ,,,,,, ผมทำจนเป็นนิสัยนะครับ สิ่งที่ได้รับอย่างชัดเจนมากๆคือ ทุกครั้งที่ได้บริจาคจะรู้สึกดีมาก แต่ ชีวิตของผมกลับเหมือนยิ่งค่อยๆแย่ ไม่ดีขึ้นหรือก้าวหน้าเลย ในขณะที่มองคนรอบๆตัวแล้วรู้สึกว่า คนที่ไม่คิดแม่แต่กระทั้งบวชให้พ่อ-แม่ กลับได้ดีขึ้นทุกวัน หยิบ-จับ อะไรก็ประสบความสำเร็จหมด จะคิดหรือทำอะไร จะนินทาใคร ก็มีแต่คนเอ็นดู ในขณะที่ผม อยู่เฉยๆคนก็เข้าใจผิดซะอย่างนั้น ว่าเป็นคนอย่างนั้น อย่างนี้ ,,,,, ขอ บ่นหน่อยนะครับ เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคม จะทำให้คนแบบผม เริ่มเปลี่ยนจากความคิดที่ว่า ทำดีได้ดี เป็น ทำไม่ดีกลับได้ดี หรือ ความคิดที่ว่า สรุปว่า ถ้าทำดี ทำบุญแล้วมันไม่ดีขึ้น เราไปทำพวกสีเทาไม่ดีกว่าหรอ เงินมาง่าย และ มาไว มาก ,,,,,, อยากให้ทุกๆคนช่วยเตื่อนสติให้ผม ยังคิดเหมือนเดิม ว่า ทำดีได้ดี ด้วยเถอะครับ เพราะสมัยนี้หาตัวอย่าง ยากมาก ที่ว่า คนทำดีแล้วจะได้ดี !!!

    ล่าสุด มีคนจะมาซื้อที่ สุดท้ายก็หายไปอีกแล้ว เฮ้อ...........
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    นั่นไง ทำแล้วสบายใจ นี่เป็นผลของบุญที่ส่งให้เสวยทันที ตรงข้ามหากท่านตาเเดง(อย่าร้องไห้บ่อยนะครับ..ตาอาจแดงไม่หาย)..ไปด่าใครสักคน เท่านั้นความเดือดร้อนใจจะตามมาจนอาจเจ็บป่วยไปได้เพราะคิดกลัวภัยที่เขาจะตามมาเฉ่งเอาบ้าง..



    ..นี่เป็นความฟุ้งซ่านที่ตนคิดเอาเองจากการสุ่มเดาไร้ทิศทางเพราะไม่มีข้อมูลที่ถูกตรงมากำกับ..เพียงเห็นคนอื่นแว๊บๆว่ามีโน่นนี่ก็คาดเดาเอาว่านี่คงมีแต่ความสุขสมหวังตลอดเวลา คงบริบูรณ์ในทุกสิ่ง..แต่ไม่เคยไปคลุกคลีอยู่กับเขาตลอด๒๔ชั่วโมง ตลอด ๗วัน ตลอดเดือน ตลอดปี..ตลอดชีวิต..ก็ไม่รู้หรอกว่า เขาถูกกดดันจากอะไรบ้าง เขาอาจถูกด่าว่าจากที่ทำงานหรือชุมชนหรือบริวารในครัวเรือน เป็นส่วนมาก หรือมีญาติที่กำลังผลาญทรัพย์เขาอยู่โดยอาการต่างๆ หรือมีโรคประจำตัวที่รักษาไม่หายและทรมานมาก ก็ได้!

    หรือคนสรรเสริญเขาเฉพาะต่อหน้า พอลับหลังก็ยับเยินเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าชื่นชมโสมนัสแก่ใครเลย..ส่วนพวกที่ร่ำรวยมาจากการทุจริตต่างๆ สำนึกชั่วนั้นจะตามรังควานจิตให้ทุรนทุรายเสมอว่า จะมีใครจับได้ไล่ทันสักวันหนึ่ง ทั้งคนที่รู้ย่อมดูหมิ่นรังเกียจลามไปถึงโคตรเหง้าตระกูลด้วย มันจะดีตรงใหน!!?



    อย่าโยนความผิดไปที่สภาพเศรษฐกิจเลยว่าทำให้คิดเช่นนี้!
    คนที่เจอสิ่งเลวร้ายกว่านี้ แต่รักษาความเห็นถูกตรงเรื่องกรรมได้ก็มีอยู่..

    การสั่งสมสันดานเพื่อคิดในทางผิดมีมาก่อนนับชาติไม่ถ้วน พอได้เหตุปัจจัยใหม่กระตุ้น ก็ง่ายที่จะคิดอย่าง เดิมๆที่เคยคิดมาก่อนว่า"บาปบุญไม่มีจริงหรอก เขาเอาไว้หลอกคนโง่"..อย่างนี้แล้ว ที่จะขวนขวายในเรื่องบุญย่อมเป็นเรื่องที่ยากกว่าการทำบาป..ก็เมื่อไม่เห็นสาระว่ากรรมมีผล ใครจะเสียเวลามาทำความดีอยู่ สู้ไปเข้ากลุ่มสีเทาจะดีกว่าง่ายกว่า..

    เพราะชอบสีเทา จึงทำเหตุเทาๆไว้มาก ที่ใหนจะได้สิ่งขาวสะอาดงดงามน่ารื่นเริงใจในบัดนี้เล่า..บัดนี้ ผลเทามาส่ง สอดคล้องกับ"เหตุสีเทา"ที่ทำมาเองกับมือ แล้วจะโทษใครที่ใหนกันดี?..

    อย่าลืมว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนจริงๆ ไม่มีใครทำให้ใครได้ ตนเท่านั้นทำเอง ด้วยเจตนาของตนนั่นเอง...

    จึงสมควรแต่จะอาศัยพระธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องกั้นบาปใหม่ทางความคิดเช่นนี้ให้หมดไปโดยเร็ว...เพราะหากเสพคุ้นไปจนนาทีสุดท้ายที่จะลาโลกแล้วจิตคิดไปว่า "กรรมเกิมอะไรไม่มีผลหรอก" อย่างนี้ย่อมเป็นการเปิดทางให้บาปอื่นๆที่ทำไว้แม้เมื่อแสนโกฏิกัปป์ที่ผ่านมา มาส่งผลพาไปที่ๆตนไม่นึกชอบได้..

    การทำใจให้เชื่อว่า "กรรมไม่มี"เมื่อทำบ่อยๆจะเข้าถึงมิจฉาทิฏฐิที่แก้ไม่ได้ จะไม่อาจรับสาระจะพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ที่จะออกจากวัฏฏะได้ย่อมไม่ใช่ฐานะเลย ควรสังวรกำจัดความคิดเช่นนี้ทุกครั้งที่เกิด..



    ..อนุโมทนาความคิดให้ใครๆเตือนสติ แต่ปัจจัยภายนอกยังไม่สำคัญเท่าปัจจัยภายใน.. เพราะหากตนไม่เอาด้วยเสียอย่างเดียว ต่อให้พระพุทธเจ้ามาทรงเตือน ก็ไม่มีผลอยู่ดี..

    ตนเตือนตนนั่นเองย่อมดีที่สุด คนที่เตือนตนได้ ย่อมมีแต่บัณฑิต เพราะรู้จักแก้ไขตนเองได้ ไม่ต้องร้องหาใครมาช่วยแก้..


    ช้า..ช้า..ได้พร้าเล่มงาม อดทนรอคอย ในเมื่อทำอย่างอื่นไม่ได้ หรือจะใช้อุบายอื่นช่วยเช่นโฆษณาทั่วทุกสื่อ ลดราคา แจกแถมอะไรก็ว่าไป..เหล่านี้อาจทำให้มีคนมาซื้อได้..

    ขอให้บุญดีทั้งหลายมาสนับสนุนให้ท่านพ้นทุกข์ประสบสิ่งที่ปรารถนาได้โดยพลัน และที่สำคัญคือป้องกันท่านไว้จากหล่มแห่งมิจฉาทิฏฐิทุกประเภทครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2015
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เชื่อกฏแห่งกรรมไหมครับ

    รู้จักกรรมเก่า ไหมครับ จขกท


    มีกรรม ก็ต้องชดใช้กรรมกันไป เคยก่อเคยสร้างกรรมอะไรไว้ก็ย่อมได้รับผลแห่งกรรม ตามกฏแห่งกรรม ครับ

    บางคนกินบุญเก่า บุญเก่าส่งผลอยู่ ไม่สร้างบุญใหม่ บุญเก่าหมดไปก็ไปตามกรรม


    สงสัยว่า นี่ถ้า จขกท ไม่ได้ทำบุญส่งผลเลย คงจะโดนหนักกว่านี้

    .


    คนบางคนเค้าอาศัยบุญเก่าสงผล กินบุญเก่าอยู่ ไม่สร้างบุญใหม่ สร้างแต่กรรมชั่ว แล้ว จขกท ไปเห็นตอนที่เค้ากินบุญเก่าอยู่ อย่างนี้ แล้วเอามาสรุปว่า ทำไม่ดีกลับได้ดี กอย่างนี้หรืออย่างไร

    การทำบุญกุศลกรรม ผลบุญกุศลกรรมก็ย่อมส่งผลตามลำดับ เช่น ทำชาตินี้ ส่งผลชาติหน้า ก็มีครับ

    ถ้าอยากให้ผลบุญกุศลส่งผลชาตินี้ คุณต้องไปทำบุญกับพระอรหันต์ที่ออกนิโรธสมาบัตินะครับ ถึงจะเห็นผลในชาติปัจจุบัน ^^

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2015
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    "เรื่องของกรรม หากไม่เคยกระทำไว้ ไม่ต้องกลัวเรื่องผลที่จะต้องรับ"

    รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=215
     
  5. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ทุกสิ่งที่เกิดมิใช่เรื่องบังเอิญต้องมีเหตุมีปัจจัย เมื่ออดีตเราปลูกพริกวันนี้เราจึงเสวยพริก แม้วันนี้เราจะปลูกข้าวแต่มิใช่ว่าหว่านข้าวแล้วข้าวจะเจริญเติบโตในทันทีจนเป็นเมล็ดข้าวให้กินเลยก็มิใช่ การทำบุญคือการให้ เป็นการสะสมผลบุญแม้วันนี้เรากินพริกนั้นเพราะอดีตเราเคยปลูกพริกมาก่อน ส่วนคนที่ทำไม่ดีแต่กลับได้ดีที่ท่านเห็นนั้นท่านเห็นแต่ผล แต่ท่านมิได้เห็นเหตุปัจจัย อดีตเค้าเคยปลูกข้าวมาวันนี้เค้าจึงกินข้าวอย่างดีแต่ในขณะที่เค้ากินข้าวอยู่นั้นเค้าก็หันมาปลูกพริกแล้วท่านคิดว่าในภายภาคหน้าเค้ามิต้องกินพริกเหมือนท่านในวันนี้เหรอครับ. เมื่อเราไม่มีของเดิมคือทุนเดิมวันนี้เรายิ่งต้องขยันหมั่นเพียรเป็น2เท่าเพื่อหมั่นทำบุญทำกุศลจะได้มีเสบียงบุญกุศลในภายภาคหน้า หากวันนี้ยังยึดผลแต่มิได้ดูเหตุแห่งอดีต ท่านก็จะหลงทางในที่สุด. พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมต้องเสวย มีกรรมเป็นทายาท ท่านเชื่อพระองค์รึเปล่าครับ ทำดีดี ทำชั่วชั่ว วันนี้ที่ท่านเห็นคือผลของกรรมดีในชาติก่อนของเค้าหากชาตินี้เค้าทำชั่วชาติหน้าเค้าก็เสวยกรรมชั่วที่ทำในชาตินี้ ท่านเองจะรู้รึไม่ว่าชาติก่อนท่านปลูกพริกมารึเปล่าชาตินี้จึงกินพริกทั้งๆที่ชาตินี้ท่านปลูกแต่ข้าว ผมเชื่อว่าชาติหน้าท่านต้องได้กินข้าวที่ชาตินี้ท่านเพียรปลูกอย่างแน่นอน. พระพุทธเจ้าสอนไว้ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2015
  6. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    "ลูกเอ้ย.. บุญที่ทำชาตินี้ชาติหน้าถึงจะเริ่มให้ผล
    แต่ถ้าเป็นประธานถวายผ้ากฐิน 2-3 วัดจะสามารถเห็นผลในชาตินี้เลยนะ"

    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
     
  7. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    เป็นประธานถวายผ้ากฐินนี้ ต้องทำอย่างไรคะ
    คือ ...1. การถวายผ้ากฐินด้วยตัวเอง โดยมีคนร่วมบุญด้วย ?
    หรือ.. 2.ถวายผ้าด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีคนอื่นร่วมบุญด้วยก็ได้ ?
    หรือ 3.ต้องไปรับจองเป็นเจ้าภาพกฐินวัดนั้นๆ ด้วย ถึงจะเรียกว่าประธานถวายผ้ากฐิน ?
     
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,455
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมขอฝากหนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ที่อยู่ใต้ comment ของผมให้คุณ redeye127 ลอง download ไปอ่านดูครับ หนังสือเล่มนี้ดีมาก ๆ ผมอยากให้คุณ redeye127 ตั้งใจอ่านให้จบดูครับ ใน link มีหนังสืออยู่ 2 เล่มคือ หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้กับหนังสือทําบ้านให้เป็นสุข ยังไงลองอ่านให้จบดูครับ อ่านจบแล้ว เราจะได้คิดอะไรได้อีกหลาย ๆ อย่างครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้คุณ redeye127 เก็บหนังสือ 2 เล่มนี้ไว้ใน computer ของคุณเลย คือถ้าวันไหนคุณรู้สึกไม่ดีอีก ก็เปิดอ่านหนังสือ 2 เล่มนี้ได้ครับ เวลาผมจิตตกเหมือนจะไม่ไหว ผมจะชอบเปิดหนังสือชึวิตเป็นอย่างนี้อ่านครับ อ่านทีไรผมก็จะกลับมามีสติได้เหมือนเดิมทุกครั้ง ยังไงก็ download ไปอ่านดูนะครับ ขอให้โชคดีครับ อนุโมทนาครับ ส่วนเรื่องของการทําบุญนั้น ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากชวนคุณ redeye127 ให้หันมารักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตาในทุก ๆ วัน ทําไปทุกวัน เดี๋ยวชีวิตจะดีขึ้นเอง การทําบุญด้วยการรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธินั้น เป็นบุญที่ใหญ่มาก ๆ อีกอย่างเราก็สามารถทําได้ในทุก ๆ วันด้วย คือไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแต่อาศัยความตั้งใจบวกกับความศรัทธาของเราเป็นที่ตั้ง อ้อ แต่อย่าไปยึดติดนะครับ ขอให้ตั้งใจทําในทุก ๆ วันก็แล้วกัน คนเราเกิดมากันหลายชาติ บางทีกรรมเก่ายังตามเราทันอยู่ บางครั้งชีิวิตเราก็จะดูเหมือนมีอะไรติด ๆ ขัด ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ยังไงทําดีย่อมได้ดีแน่นอนครับ ยังไงก็อย่าเพิ่งถอดใจไปก่อน ส่วนตัวผม ผมก็โดนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ผมก็พยายามอดทนอยู่เหมือนคุณ redeye127 ผมอยากให้คุณ redeye127 คิดประมาณว่า คนอื่นก็มีทุกข์เหมือนกันหมด ไม่ใช่เราคนเดียวที่มีทุกข์ คนอื่นเค้าก็มี แต่มีคนละเรื่องราวกันเท่านั้นเอง คิดอย่างนี้แล้วจะสบายใจ แล้วจะอยากทําดี ทําบุญต่อไปเรื่อย ๆ ครับ อีก technique หนึ่งที่ผมชอบคิดเวลาผมท้อ ๆ คือ เรายังทําดีไม่พอ เราถึงยังไม่ไปถึงไหน เพราะฉะนั้น ผมก็จะขอทําดีต่อไปเรื่อย ๆ คือคิดอย่างนี้แล้วเราจะสบายใจครับ ลองนําไปใช้ได้ครับหากสนใจ ขอให้โชคดีครับ ผมขอเป็นกําลังใจให้นะครับ ไม่ใช่คุณ redeye127 คนเดียวหรอกครับที่รู้สึกแบบนี้ คนอื่นก็รู้สึกเช่นกันเพียงแต่เค้าไม่ได้มาเล่าให้เราฟังเท่านั้นเอง ตามนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2015
  9. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    คือมันมีประเด็นอยู่อีกว่า ในยุคนี้การจะเจริญก้าวหน้ามันต้องมีความสามารถเกี่ยวกับมวลชนสังคมด้วย

    ดังนั้นการเป็นประธานกฐิน ถ้าหากเตรียมการเอง ตั้งแต่ติดต่อวัด จัดแจงสิ่งของ วางแผนเวลาเอง ชวนเชิญผู้คนที่รู้จัก อาจจะให้มาร่วมอย่างเดียวก็ได้ .. ผมว่าแบบนี้จะได้บารมีที่ใช้ในการทำงานทางโลกได้แน่ ..

    เพราะเมื่อกำลังบุญถึง บารมีพร้อม มันก็ง่ายขึ้น .. เพราะถ้าพอมีบุญอยู่บ้าง แต่บารมีไม่พร้อม จะต้องเกาะบารมีคนอื่นถึงจะเจริญอย่างสูงได้ แต่ถ้าไม่เกาะบารมีคนอื่น อาศัยเพียงกำลังตนเอง แบบนี้คงต้องรอจังหวะเวลาในอนาคต หรือ ชาติต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2015
  10. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    อันที่จริงขึ้นชื่อว่าบุญ ย่อมเป็นของดี ทำให้จิตใจยิ้มแย้ม แจ่มใส
    เป็นสิ่งที่ใครต่อใคร ควรจะปารถนา และอยากเข้าใกล้

    ดังนั้นแม้ไม่ถึงจะเจริญจนยิ่งใหญ่ แต่ไม่ควรจะตกต่ำเสื่อมถอยลงมา ถูกไหม?

    เพราะว่าคนดี แม้ไม่เก่ง แต่ดีมีการแสดงออกมาทางใบหน้า และกิริยา
    ย่อมไม่เป็นที่รังเกียจ

    ดังนั้นถ้ายังสังเกตว่า ยังมีคนรังเกียจอยู่ ให้พิจารณาตรวจสอบเรื่อง ศีล กับเรื่องความคิด ของตนเอง
    เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ จะแสดงออกมาทางสีหน้า และ การแสดงกิริยาออกมาเป็นบุคลิก

    แต่ถ้าให้ดี ให้บำเพ็ญให้ครบบุญกิริยาวัตถุ 10 เช่น รวมการขวนขวายกิจส่วนรวมอันชอบด้วย, การแสดงความเคารพเข้าหาผู้ใหญ่ไปเยี่ยมเยียนทั้งผู้ใหญ่ที่ทำงานและที่บ้าน ด้วยเป็นต้น

    อีกประเด็นคือ การถามหาความเจริญก้าวหน้า ในที่นี้ หมายถึง เจริญทางด้านการงานทางโลกถูกไหม.. ต้องระวังว่าพระพุทธศาสนามีแนวทางที่ต่างกัน สองทาง คือ หนีโลก (ขั้นสูง) กับ อยู่กับโลกอย่างสงบสุข (ขั้นต้น)

    ต้องพิจารณาด้วยว่าปฏิปทาที่เราเลือกอยู่นั้น เป็นขั้นไหน ถ้าเอาทางโลกก็ต้องเลือกให้ถูก อย่าเอาขั้นสูงมาปน เดียวจะให้ผลไม่สมกับที่คาดหวังไว้ (แต่ถ้าจะเอาทั้งสองอย่างก็ต้องรู้กาลเทศะ จังหวะการแสดงออกให้เหมาะสม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2015
  11. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เวลาทำบุญให้อธิษฐานครับ ว่าขอให้ผลบุญช่วยให้เราดีขึ้นในด้านไหน หรือให้เราหมดกรรมในด้านไหน จะช่วยได้มากกว่าการอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรครับ ถ้าเราเอาแต่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรมันไม่เป็นการเจาะจงพอ ถ้าทำบ่อยๆ สีหน้าเราจะไม่ผ่องใส ดูเหนื่อยๆ ใครก็ไม่เมตตา เรารู้สึกว่าติดขัดในด้านไหนก็อธิษฐานให้พ้นจุดนั้นดีกว่า ถ้าอธิษฐานทุกครั้งที่ปฏิบัติธรรมจะยิ่งเร็วครับ แต่อย่าหวังว่าจะเห็นผลทันที แต่ถ้าทำบ่อยๆ ไม่กี่เดือนก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ได้อธิษฐานไปครับ
     
  12. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ขอให้ยึดมั่นในความดีค่ะ

    ดิฉันเคยเห็นเหมือนกันว่าเลวทรามต่ำช้ายิ่งกว่าอมุษย์ แต่ทำดีได้ดีเป็นไปได้อย่างไรเงินใช้ฟุ่มเฟือยไม่ขาด บุญหนุนขนาดนั้นเลยหรือ พยายามคิดว่า คงเป็นบุญเก่า
    ตอนนี้บางอ้อแล้วค่ะ กรรมล้วนๆค่ะ มิน่าทำไมบุคลิก แววตา ถึงเป็นแบบนั้น

    บุญอาจจะไม่ได้เห็นเป็นตัวเงินค่ะ หากมีเงินแสนล้านแลกกับญาติธรรมดีๆ ดิฉันเลือกญาติธรรมค่ะ
     
  13. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    เคยเป็นเหมือน จขกท ครับ สมัยที่เลิก เกเร มาถือธรรมมะ ใหม่ๆ ด้วย เกือบถอดใจหลายหน รวมแล้วกว่าจะพ้นแต่ละอย่าง เป็น 10 ปีครับ ซึ่งต่างจากช่วงทำตัวเหลวแหลกก็อยู่ดีมีสุข

    - ถูกเพื่อนฝูง เกลียดขี้หน้า ไร้สาเหตุ เลิกคบ
    - โดนคนท้าต่อยตีตลอดทั้งที่ไม่ได้มีอะไรกัน หรือพาลใส่ความ ขนาดมีคนเข้าใจผิดเป็นคู่อริก็หลายหน
    - มีเหตุการณ์ที่ต้องกลายเป็นแพะรับบาป เนื่องๆ
    - โดนผู้ใหญ่ เขม่น เกลียด

    เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าพ้นช่วงนี้มาได้ จะเรึ่มตั้งตัวกับการทำความดีได้ และมีความสุขครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2015
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เห็นด้วยกะข้อความนี้มากค่ะ ดิฉันเองก็โดนมา แต่ญาติธรรมบอกว่า "คนอื่นเขาไม่บ่น(หรือร้องไห้) เหมือนพี่ คนอื่นๆก็โดนเหมือนกันไม่ใช่แค่พี่คนเดียว"

    มารไม่มีบารมีไม่เกิดจริงๆค่ะ ลองผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้ แล้วมานั่งนึกดูเราจะพบว่าได้อะไรเพิ่มขึ้นมาค่ะ แต่ละคนคงใช้เวลาต่างกัน

    ดิฉันเคยถูกสั่งให้เลิกนั่งสมาธิแบบเด็ดขาด ต้องไปนั่งในห้องน้ำแทน แอบนอนสมาธิก็ทำ ทั้งๆที่ตอนนั้นนั่งเพราะยาไม่นำเข้าประเทศ ต้องใช้การนั่งสมาธิมาช่วย แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางการแพทย์วิธีนี้จึงไม่เป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง

    ตอนที่เป็นมังสะแรกๆ (ไม่ใช่เขี่ย--จริงๆเขี่ยมานานแล้วค่ะ) โดนด่าเยอะมาก หาว่าเป็นลัทธิอื่นบ้าง รอบๆข้างรังเกียจบ้าง จนดิฉันคิดในใจว่า ขอเป็นมังสะตลอดทุกชาติไปเหตุเพราะกว่าจะผ่านปัญหาไปได้น้ำตาไหลไปเยอะค่ะ
     
  15. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    ครับ ขนาดตอนนี้ผมทำบุญใหญ่ เช่น ร่วมทอด กฐิน ผ้าป่า สังฆทาน วันต่อมาผมจะป่วยหนักทันที ลุกไม่ค่อยได้ หรือ มีเหตุการณ์กระทบจนเซ็ง ก็ท้อไปเหมือนกันแรก มันลำบากนะ ที่ทั้งระวังไม่ให้กระทบคนอื่น และควบคุมตัวเองไม่ให้ไปก่อเรื่องด้วย แทบบ้าครับช่วง 10 ปี นั้น ทั้งเหตุการณ์ ทั้งตัวแปร เรียงกันมาๆเป็นเซตๆ เล่นงานเราจนสติหลุด แต่หลังๆ พระอาจารย์ที่นับถือ ก็บอกว่า ดีแล้ว ต้องใช้กรรมก่อน เหมือนถ่ายเทเอาน้ำดีไล่น้ำเสียออกก่อน แล้วจะมีสิ่งดีๆเข้ามาภายหลัง
     
  16. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ในช่วงนี้ฝนตกได้ตกดี..แต่พรุ่งนี้ฝนไม่ตก ต่อให้เป็น "หน้าฝน" ฝนก็ไม่ได้ตกทุกวัน แม้มี "มรสุม" เข้ามาเต็มท้องฟ้า แต่ก็มีช่วงเวลา "ตกมากน้อย" สลับกัน ไม่มีใคร "ทุกข์ได้ตลอดเวลา" หรือมี "ปัญหา" ไปซะ "ทุกเรื่อง" มี "ช่องว่าง" ระหว่าง "เมฆดำ" ที่มืดมิด ให้เรามองเห็น "แสงสว่าง" ของ "ดวงอาทิตย์" ในชีวิตเราเสมอ

    ใจเย็นเย็นค่ะ..

    คนที่จะเข้าถึงเส้นทางแห่งการหลุดพ้นได้นั้น เปรียบเสมือนคนที่ต้องบุกป่าฝ่าดง ต้องเผชิญแต่ความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส หาใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ กลีบดอกไม้ อย่างที่คนบางกลุ่มเขาทำกัน แบบนั้นยังห่างไกลพระสัจธรรม จะให้เข้าใจคำว่า "ทุกข์" อย่างแท้จริงนั้นไม่มีทาง..จริงๆค่ะ
     
  17. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ระวังเป็นเปรต
    ทำกับพระคิดอยากได้บุญก็ชิบหายสิครับ
    ขอขมาพระสงฆ์(บน)ก็ดีนะครับ

    ถามท่านว่ามีอาหารพอไหมตอนบิณฑบาตรก่อนให้
    สังฆทานมีของพอหรือเปล่าขาดอะไรหรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2015
  18. ธิญาดา

    ธิญาดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +582
    ทำบุญไม่ได้บุญทันที เพราะเจ้ากรรมนายเวรเล่นงานอยู่
    ส่วนคนที่ไม่ทำบุญแต่ได้ดี เพราะบุญเก่าส่งผล
    บุญ-กรรม มีเวลาส่งผล ไม่ใช่ทำปุ๊ปได้รับปั๊ป
    อย่าท้อถอยง่ายๆ เป็นไปได้ว่ากรรมขวางไม่อยากให้ทำความดี อยากให้เรารู้สึกท้อจนเลิกทำ
    เหมือนปลูกต้นไม้ เรายังไม่ได้กินผลของมันทันที เราต้องรดน้ำพรวนดิน รอจนกว่าโตเต็มที่ เมื่อนั้นเราจึงเอาผลมันมากินได้
     
  19. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ใครสอนว่าโจรปล้นเป็นการเบิกหนี้ มีที่ไหน ลัทธิไหนสอนมาอ้อไอ้ลัทธิยึดหนอนะรึ เค้านั้นผิดศีล เค้าก่อกรรมชั่วเค้ามีอบายเป็นที่ไป ใครบอกว่าเค้ามีเงินใช้สบายนั้นมันแค่ความคิดเราว่าเค้าสบาย อย่างรุ้ว่าเค้าใช้เงินสบายจริงรึเปล่าต้องทำเอง ไม่ใช่เอาความคิดเราไปใส่ให้เค้าว่าเค้าใช้เงินสบาย. เค้าอาจใช้เงินลำบากก็ได้ อย่าเอาความคิดตนไปยัดเยียดใส่คนอื่นนั้นมันมิจฉาทั้งดุ้น ตัวตนทั้งดุ้น แล้วบอกดับได้ๆ แล้วคนบ้าที่ไหน นอนหลับยังรุ้ รุ้อะไร รุ้ยันในฝันรึ เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีกนะนี่พระพุทธเจ้ายังทำไม่ได้เลย คุยโม้โออวดดีทั้งๆที่ไม่มีดีให้อวดเพราะมันตรงข้ามกับความจริงในโลกนี้ พอเถอะอย่าแสดงอีกเลย กระเบื้องห้าห่วงยังหนาสุ้ไม่ได้แล้ว5555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  20. kantiphong

    kantiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +207
    ผมทำเพราะผมพร้อมสละ ไม่หวังผลครับ นอกนั้นต่อสู้เอาเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...