ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ขอระบายความรู้สึกในใจบางอย่างครับ ผมได้อ่านกระทู้นี้มาตั้งแต่ยังมีแค่ยี่สิบกว่าหน้า ก็ได้รับรู้ไว้แต่ยังไม่ค่อยสนใจ แต่พอศึกษาและอ่านอะไรต่างๆหลายๆศาสตร์ ผมสรุปว่ายังไงก็ต้องเกิด แต่ว่าบางท่านว่า ปี51-52 อันนี้ยังโอเค แต่อย่างมาก ปี 60 ที่อึดอัดบางอย่างก็เพราะมันกระทบเกี่ยวกับการวางแผนชีวิตทางโลกของผมด้วย ก็คือถ้ามันจะเกิดเร็วๆนี้ปีสองปีนี้ ผมจะไม่ลงทุนเปิดกิจการใหม่ และจะเตรียมรับมือเต็มที่ แต่ถ้าเกิดปี 60 ผมจะลงทุนเปิดกิจการใหม่จะได้มีเงินไปช่วยสร้างอะไรอย่างอื่นเช่นที่ ปรียานันท์มากๆ ถ้าให้ระวังกันเต็มที่ทุกปีแล้วมันเลื่อนๆๆไปเรื่อยๆแบบนี้ทางโลกผมไม่เจริญก้าวหน้ากันพอดีเพราะไม่กล้าลงทุน ส่วนเรื่องทาน ศีล สมาธิ วิปัสนาก็ทำอยู่เรื่อยทุกวันเท่าที่มีโอกาส ช่วงเวลาที่ให้คอยดูถึงสิบปี มันวางแผนอะไรบางอย่างยากนะครับ แค่บ่นให้ฟังครับ อาจมีใครคิดเหมือนผมบ้างครับ ถ้าปรียานันท์จะเป็นศูนย์กลางใหม่จริง ปรียานันท์คงต้องเป็นรูปเป็นร่างมากกว่า60%ก่อนจะเกิดเรื่องซึ่งคงเกินปีนี้แน่นอน จะพยายามโอนเงินไปช่วยมากๆบ่อยๆนะครับ ผมอยู่ไกล ภาคใต้ตอนล่าง

 

วันวาเลนไทน์ (Valentine)



​

เรื่อง

 

ผมคิดว่ารอดูสถานการณ์ในปี 2551-2552 ก่อนจะดีกว่าครับ อย่าเพิ่งลงทุนอะไรในช่วง 2 ปีนี้ หากว่าพ้น 2 ปีนี้ไปแล้วยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ลงทุนไปตามที่ได้ตั้งใจไว้ได้เลยครับ ช่วงนี้ก็คอยติดตามข่าวสงคราม ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศไปก่อนดีกว่าครับ เพราะมีสัญญาณเตือนภัยเข้ามามากเหลือเกินว่า ประธานาธิปดีบุช จะต้องลงมือทำอะไรบางอย่างกับอิหร่าน ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งอย่างแน่นอนครับ

ตัวอย่างของคนที่รับรู้ข้อมูลข่าวสาร
เรื่องภัยพิบัติอย่างตื่นตระหนกและขาดสติ​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>

ชาวรัสเซียกว่า 30 คน ยังไม่ออกจากถ้ำรอวันโลกาวินาศ​

​

มอสโก 16 พ.ย. ​

 

อันนี้ก็เป็นปัญหานะครับ...กับทุกๆท่าน

อยากให้ลงทุนตามปกติ...แต่ลดขนาดกิจการลง...เผื่อความเสี่ยงไว้บ้าง...ครับ ...ไม่รู้จะรูสึกดีขึ้นไหม ?

กรณีตัวอย่าง...เคยคุยหลวงพี่ที่วัดว่า...ผมจะอพยพ...ไปอยู่วัดได้ไหม...ท่านบอกว่า...ยังไม่ถึงเวลา....อย่าตระหนก...เกินไป...ให้ทำมาหากินไปก่อน...เรื่องมาอยู่วัดไม่ใช่ปัญหา....ปัญหาคือเรื่องปากท้อง...เรื่องครอบครัว...ครับ

ซึ่งผมก็คิดว่า...เรื่องปากท้อง...นั้นสำคัญ...ไม่ว่าจะยามปกติ...และยามมีภัย

ขอเสนอความเห็นไว้เท่านี้...ครับ

 

เห็นเข้าบอก ประเทศไทยจะเหลือแค่มีสองฤดูนับจากเกิดภัยพิบัติ หนาว(หิมะตก)กับฝน ร้อนคงต้องมีบ้างบางวัน ร้อนคนไทยชินอยู่แล้วแต่หนาวหิมะตกคนไทยไม่ชินต้องเตรียมไว้มากๆ เตียมเสื้อกันฝนกับอุปกรณ์กันหนาวไว้ด้วยนะครับ

 

เรื่องลงทุน ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครับ ต่อไปทั่วโลกก็ต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นทางออกเหมือนกัน ความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจมันชัดมากขึ้น (แม้ไม่มีภัยพิบัติ) การขยับตัวด้วยความพอเพียงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ... ถ้าเจ๊งขึ้นมาก็เจ็บตัวพอประมาณ ไม่ใช่ต้องมาแบกรับหนี้สินหลายสิบปี ถ้าทำรอดก็ค่อยๆขยายไปตามความจำเป็นและตามกำลังที่ควบคุมดูแลได้ ไม่ผลีผลาม อยู่ได้ด้วยตนเอง เพราะสมัยก่อนการทำธุรกิจปัจจัยเสี่ยงมันไม่รวดเร็วเท่าตอนนี้ ตอนนี้ข้อมูลทั่วโลกมันทันกันหมด การเปลี่ยนแปลงมันเร็วมากๆ รอบการลงทุนมันขึ้นเร็วลงเร็ว วงจรมันสั้นมากขึ้น ถ้าคุณโชคดีลงทุนถูกจังหวะ ก็ขึ้นไปเร็วระวังตั้งตัวไม่ทัน ลงทุนผิดจังหวะก็เจ๊งเร็วไม่ต้องรอผลนาน จะเห็นว่าใครไม่ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงจะลำบากมากๆ

พระองค์ท่านมองเห็นความจำเป็นจึงมอบหลักแนวคิดนี้ให้คนไทย เมื่อก่อนไม่มีใครเข้าใจ กว่าที่สังคมจะเข้าใจก็ต้องใช้เวลา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

อนุโมทนา.....สาธุ


ถ้าเราเป็นคุณที่อยู่ภาคใต้ตอนล่างและเป็นนักธุรกิจ
เราจะแทงกั๊กเลย น่ะ เพราะแถวนั้นยังงัยก็อยู่ไม่ได้แน่

เรื่องธุรกิจก้ทำไป แต่ทำแบบระยะสั้นหรือซื้อมา-ขายไป
หากมีธุรกิจระยะยาวอยู่แล้ว ก็เริ่มผ่องถ่ายออกไปบ้าง

แล้วเอาเงินทุนมาหาทำเลใหม่อยู่แถวภาคอีสานหรือภาคเหนือ น่ะครับ

ความกังวลตรงนี้ทำให้คนไม่อยากจะคิดสร้างอะไรใหม่ๆก็จริงอยู่ แต่อย่าลืมว่าอะไรที่จะสร้างในวันนี้ หากติดมือก็อาจจะหายวับไปกับตาได้เหมือนกัน
อันนี้คงจะต้องเลือกเอา นั่นแหละครับ เวลายังพอมีเหลือ

เราว่าคนเราหากมีชีวิตอยู่และยังมีทุนเหลืออยู่บ้าง ยังงัยก็ต้องสร้างตัวใหม่ได้อยู่ดี ผิดกับคนที่ไม่ระวังอะไรเลย หากพังก็อาจจะไม่เหลือชีวิต หรือเหลือก้เป็นชีวิตที่รุ่งริ่ง น่ะครับ

 

ไม่มีใครอยากให้เกิดภัยพิบัติหรอกนะคะ แต่คุณtam220tต้องดำเนินชีวิตไปตามปกตินะคะ จะลงทุนก็ลงทุนแต่ก็ไม่ควรเป็นกิจการใหญ่มาก เอาขนาดกลางและเล็กก็พอ เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี น้ำแข็งก็ละลายเอาๆhttp://www.chinadaily.com.cn/world/2008-02/13/content_6452891.htm

 

ช่วงนี้ดูสงบเงียบทั่วโลกนะครับ....

 

ช่วงนี้หัวเลี้ยวหัวต่อ...ครับ

1. ไทยเลือกตั้ง...ได้รัฐบาลใหม่...แนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่ดีเลย...ยาวอีก 2 ปี

2. สหรัฐกำลังเลือกตั้ง...เปลี่ยนผู้นำ...หากไม่มีการโกง..ก็จะดี...แต่ดูแล้ว...พวกที่มีเงิน..และต้องการครอบครองโลกต่อไป...(พวกช๊อกเกอร์)...น่าจะดันคนที่ต้องการให้เป็น ปธน. แน่ๆ

3. แผ่นดินไหว...แรงมากแล้วครับ..ระดับ 6 ริกเตอร์มีทุกวัน

4. ภาวะโลกร้อนส่งผลชัดเจน...เป็นรูปธรรมแล้ว...จีน หิมะตก..จน ปธน. ออกมาขอโทษ...สหรัฐโดนพายุโจมตี...หิมะตกท่วมก่อนจีนเสียอีก...ฮ่องกง...หนาวมาหลายสัปดาห์แล้ว

5. อีกไม่นาน...หิมะก็ตกในประเทศไทย

เหตุการณ์ไม่ได้เงียบครับ...เพียงแต่ประสาทสัมผัสเรา...ชาชินเสียแล้ว

 

หลังทะเลสงบราบเรียบมากมาก
มักจะแสดงว่าพายุลูกใหญ่ กำลังมาเยือน
...
จริงจริงแล้ว ถ้าเกิดอะไร มาปุบปัป ไฟฟ้าดับ อินเตอร์เนตล่ม
การติดต่อสื่อสาร ขาดหายไป
ทุกคนคงหนีไป อย่างสะเปะสะปะ คนละทิศ ละทาง
แล้วสมาชิกในห้องนี้ จะติดต่อกันยังไงครับ

 

มด...ขนไข่ตัวอ่อน เสบียง ขึ้นบ้านคนทางเหนือแล้ว !!!!
คน....จึงต้องระวัง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นั่นดิ เริ่ม ชิน แล้ว 6 ริกเตอร์ นี้ รู้สึกเฉยๆ แล้ว มันไหวทุกวันจริงๆ

 

ตัวกระทำ...จะจัดสรรแต่ละคนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

การสื่อสาร

1. ควรมีวิทยุ AM FM ไว้ฟังข่าวสาร...จากรัฐ
2. ควรมีวิทยุสื่อสาร...เครื่องแดง...เครื่องดำ...ไว้บ้างและใช้ได้อย่างชำนิชำนาญ


อินเตอร์เน็ต

1. ย้าย Server มายังประเทศไทย

2. ย้าย Server ไปต่อกับ Backbone ที่เสี่ยงน้อยกว่า กทม. เวปอาจช้าบ้างแต่...ยังใช้ได้

3. ระบบอินเตอร์เน็ต...ในช่วงเริ่มต้น..ใช้เพียง Text ไม่ต้องมีรูปภาพ...ไม่ใช้ Bandwidth มากมายเหมือนทุกวันนี้...หากเกิดปัญหาแบบนั้นจริงๆ...ก็ต้องกลับไปสู่ระบบเก่า

4. หากข้อจำกัดอยู่ที่เรื่องพลังงาน...การใช้ PC ที่ต้องการพลังงานมากนั้นไม่เหมาะสม...อาจต้องย้าย Platform ไปยังเครื่องปาล์ม หรือ PDA ที่ใช้พลังงานน้อยกว่า...ทำงานได้นานกว่า

5. วิทยุสื่อสาร...จะมีบทบาท...และแทนที่โครงข่ายแบบมีสาย...ด้วยโครงข่ายวิทยุ...การส่ง DATA ผ่านโครงข่ายวิทยุ...ทำได้โดยใช้ Packet Radio หรือการใช้ Point to Multi-Point Radio (วางระบบใหม่)

เนื่องจาก...วิทยุสื่อสาร...มีใช้มากมายหลายล้านเครื่องทั่วประเทศ...ดังนั้น...เราคงไม่พลาดจากกันแน่นอน...ครับ

 

พระเจ้า.......
คือ โลกุตตระ สูงสุดในจักรวาลแล้ว

พระวจนะของพระเจ้า .......
คือ คำสอนขององค์โลกุตตระที่อวตารเป็นมนุษย์ คือ องค์เขตะมารัจจะ

แจ้งข่าวดีขณะที่ใกล้วันสิ้นโลก .......
คือ เรื่องราว โลกุตตระธรรม หลักสัจจะธรรม การหลุดพ้นทุกข์จากบ่วงกรรม ด้วยสัจจะ สัญญาที่มีขึ้นกับใจตนเอง

พระคริสต์เสด็จกลับมา...
คือ บุรุษผู้นำพาโดยองค์โลกุตตระ เพื่อสานต่อศาสนศาสตร์เพื่อนำพาสัตว์หลุดพ้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ไม่ยึดติด ****

เราไม่ควรยึดติดลำดับเหตุการณ์....ให้มองภาพรวม ภาพใหญ่
ทุกอย่างเปลี่ยนไปตาม... การกระทำของมนุษย์

เมื่อ มนุษย์รู้จักสัจจะ มีสัจจะนำทางชีวิต
จึงเกิดตัวกระทำขึ้น และส่งผลตอบแทนตลอดเวลา
เหตุการณ์ของประเทศไทย จึงโชคดี ด้วยสัจจะของผู้ที่เชื่อ และทำจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "