ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

เมื่อคืนฝันประหลาด พิศดาร สงสัยเพราะสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอน

ฝันว่าไปวัดจีน ที่ภาคเหนือของไทย ไปรอไหว้เจ้าอาวาส
ตอนแรกคนที่กวาดลานวัดอยู่บอกว่า ท่านไม่อยู่ เลยบอกเรามาไกลมากขอร้องเจ้าค่ะ

เค้าบอกให้เราไปรอที่ ห้องหนึ่ง มีโต๊ะมุกวางอยู่

แล้วท่านก็ออกมา ใส่ชุดแบบหลวงจีน แต่เป็นเสื้อกับกางเกง สีเหลืองสดมาก
เราก็มองด้วยความงงๆ แล้วก้มลงกราบ แต่ท่ากราบของเรากลับเอามือแนบขนานตัวไปด้านหน้า

แล้วอาจารย์ก็เดินมาตรงหน้าเรา ผิวกายท่านขาวมาก แบบคนจีน เรามองแต่เท้าท่าน ไม่กล้าเงยหน้า

ซักพักก็เจ็บตาที่สามรุนแรง จนต้องเอามือกุมหัว ร้องกรี้ดออกมาในฝัน
(มันเหมือนโดนพลังงานบีบอัดไปทั้งตัว แต่มารวมที่ตาสาม)

แค่ครั้งเดียวที่กรี้ด แล้วก็หยุดร้อง ยังเจ็บปวด แต่คุมสติได้
แล้วก็ค่อยๆหายไป พอมองไปที่เท้าของอาจารย์ กลายเป็นสีน้ำตาล
คล้ายดิน แต่มีธาตุทองปะปนอยู่ พอเราเงยหน้า หน้าของอาจารย์กลายเป็นมนุษย์
ทองคำ

 

เราตกใจมาก ท่านเดินมาไกล้ แล้วกล่าวว่า

ศิษย์อาจารย์หากมีวาสนาต่อกัน ย่อมได้พานพบ
ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ จะฝึกฝนจริงจังหรือไม่

ในฝันดีใจมาก ก้มลงกราบเท้าท่าน ฝึกเจ้าค่ะ
แล้วท่านก็เอามือวางบนหัวเรา สองมือ บริเวณกระหม่อม
แล้วเจริญมนตราให้เรา ตลอดเวลาที่ท่านเจริญมนตรา
หูเราอื้ออึง ลมตีพัดไปทั้งร่าง แล้วก็มีท่อออกจากตาสามและกลางกระหม่อม

มันไม่ปวด มันไม่เจ็บ แต่อึดอัดทรมานเหมือนร่างกายจะแตก เหมือนกายในจะหลุด
จากร่าง

ท่านจบการเจริญมนตรา แล้วพูดว่า จงเลือกทางที่ถูก

แล้วเราก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีเสียง แบบควบคุมตนเองไม่ได้

แล้วอาจารย์กล่าวว่า จงเลือกของสามสิ่งออกมาใช้

ข้าจะให้เจ้าเก็บไว้ในตลับแห่งใจ ไม่ต้องสนใจคำใครว่าเจ้าอีกต่อไป

เราก็ตื่นขึ้น อารมณ์ตอนนั้น ตื่นมาเข้าสมาธิไปเลย นั่งไปในอารมณ์แห่งความสงบ

 

ในใจวันนี้ ครุ่นคิดแต่เรื่อง ตลับแห่งใจ???

 

ให้เดาว่าภาพสุดท้ายก่อนตื่น จารุเห็นนิมิตแห่งตลับแห่งใจที่เปิดออก

ในนั้นมีอะไรบ้าง

 

ป.ล.มีท่านหนึ่งบอกว่า กินมากธาตุแปรปรวน55555

 

โอนเงินทางอินเทอเน็ตร่วมทำบุญ 1 กอง เข้าบัญชี สำนักศาสนา วัดลี้หลวง
200 บาท
หมายเลขอ้างอิง : 87100716
วันที่ 29กค2558 เวลา 17:18
นายวุฒิพงศ์ วีระกุล

 

โอนเงินทำบุญ
ครูบาเหนือชัย(ครูบาขี่ม้าออกบิณฑบาตร)แห่งวัดถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน.จ.เชียงราย
ในการเปลี่ยนหลังคาศาลาปฏิบัติธรรม
เป็นจำนวน 730 บาท

 

ได้ร่วมทำบุญวัดลี้หลวง โอน 597.00 บาท ธนาคารกรุงไทย
เวลา 09.59 น. 30/07/2015.

 

รอพี่สิงมาต่อ

 

เขียน ๒๓.๓๕

เชื่อมโยงจากกระทู้เบอร์ ๓๓๕๕

แหม..เห็นแม่หมอชอบเอาบุญมาอวดบ่อยๆ โชว์บ้างดิ ฮิฮิฮิ
รับเออีซี เอ้ยไม่ใช่ รับวันเข้าพรรษาน่ะ ๕๕๕





ทำกันอยู่หลายบ่ายเลยกว่าจะได้มากพอ
รวมแล้วได้ ๒,๒๒๒ พอดีเป๊ะ บังเอิญเนอะ
ตอนนับนะ ลังสุดท้าย เทียนหมดกะทะน่ะ
ได้ ๓๒๒ ชิ้น แต่เราติ ว่าเลขไม่สวย
เลยเขียนลดไปเลขนึง ใส่ว่าได้ ๓๒๑

แต่พอนับรวมกันแล้ว ได้ ๒,๒๒๒ ชิ้น
ก็เลยต้องเพิ่มอีกหนึ่ง คืนให้เค้าไป
เป็นได้ ๓๒๒ ชิ้น ในชุดสุดท้าย

ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับหวยรึเปล่านะ ๕๕๕
มีลดหนึ่งเพิ่มหนึ่ง อะไรเงี้ย ๕๕๕
ไม่อยากใบ้หวยเลย แต่จะมี ๒ บนรึเปล่าน๊า หึหึหึ
หรือใครจะตีเป็นสามตัวสองตัว ก็แล้วแต่นะ ๕๕๕

เค้าไม่รู้ด้วยนะเออ ไม่รู้ว่าใครฝากมารึเปล่าอ่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ





ได้มาสองพันกว่าชิ้น ให้ชาวบ้านได้ทำบุญกุศลกัน
ในวันเข้าพรรษา ก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ แม้ไม่ค่อยมีตังค์จะทำบุญ
แต่ลงแรง และลงมนต์ด้วยรึเปล่าหว่า เกือบทั้งหมดต้องผ่านมือเราซะด้วยสิ ฮิฮิฮิ





ทำบุญเสร็จแล้วก็ต้องรับพร จากเจ้าอาวาส
แถมพรมน้ำมนต์ ให้โชคดี และขอให้รวยขอให้รวย ๕๕๕

ใครอ่านแล้วอนุโมทนา ก็ขอให้ได้รับบุญกุศลเหล่านี้ไปด้วยละกันนะ เนอะ
แม้จะเพียงแค่อ่าน แต่ของเราแรงอ่ะ ไปถึงทุกท่านแน่เลย ขอบอก ๕๕๕

ปล.เห็นรูปชุดสุดท้าย แล้วมีนึกโผล่มาอ่ะ ว่า
งานนี้ ไม่รู้ท่านฤษีฤทธิ์ล้น เกี่ยวด้วยรึเปล่าน๊า ๕๕๕



กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / ค้างคาวปล่อยแสง
.

 

เล่าเรื่องไปเชียงรายก่อนนะจ๊ะ

ที่แรกหลังจากนั่งปวดหลัง จากดินแดนเซาะกราว บุรีรัมย์ ออกบุรีรัมย์
รอบสองทุ่มครึ่ง แต่รถมาจริง สี่ทุ่มได้ เพราะเป็นช่วงเทศกาล

นั่งรถไปภาพนิมิตก็มาเต็ม รู้สึกปวดหัวมาก จนรถจอดที่ชัยภูมิ
เพื่อพักทานอาหาร ยี่สิบนาที ก็รีบกินแล้วเดินไปห้องน้ำ
พอออกมา กำลังเห็นรถทัวร์ที่ตัวเองนั่งมา ออกจากสถานี

ไม่เชื่อด็ต้องเชื่อ ตูตกรถ ตอนนั้นวิ่งโวยวาย รถก็ไม่เห็น จนมีเจ้าหน้าที่
มาตาม แล้วติดต่อรถให้ สิบนาทีผ่านไป ท่ามกลางสายฝนพรำ
จารุนั่งซ้อนมอร์เตอร์ไซค์พี่วินจำเป็น(เจ้าหน้าที่รถทัวร์) ไปเจอรถทัวร์จอดอยู่
จอดรอที่ไฟแดง น้องเด็กรถบอกพี่ผมนึกว่าพี่ลงชัยภูมิ เลยถามว่า
น้องแค่สิบนาทีรถออกได้ไง น้องบอกว่า คนเต็มก็เลยออก
(ป.ล.น้องบอกเหมือนเห็นพี่ขึ้นรถแล้วครับ)

ไม่รู้จะว่าไง เลยไปต่อ(ป.ล.ของเค้าแรงจริง)

 

ท่ามกลางภาพนิมิตมากมาย เล่นเอาตูไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ก็ถึงเชียงรายโดยสวัสดิภาพ และเจอผู้ร่วมทริป เพื่อนำชม

สถานปฏิบัติธรรมโลกอุดรวนาราม เพื่อถวายให้ หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร

โดยท่านเจ้าของที่่ มีจิตศรัทธา จะถวายเป็นสถานปฏิบัติธรรมให้พระพุทธศาสนา

จารุพยายามมองและสัมผัสแผ่นดินแห่งนี้ ก็เห็นเพียงม่านหมอกควันสีเทาดำ

จนต้องไปสัมผัสธรณีแห่งนี้ด้วยตนเอง

 

ด้วยบารมีของหลวงปู่ ซึ่งเจ้าของที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัตชอบ
และสัมผัสหลวงปู่องค์จริง มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดินแดนแห่งนี้ในกาลข้างหน้า
จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่พระพุทธศานาจะได้สืบสานต่อไป
ครบพุทธบริษัท และครบรัตนะไตร เป็นดินแดนที่ธรรมจักรจะหมุนวนอยู่เสมอ

และเป็นดินแดนที่ไม่มีกาลเวลา

ขออณุญาตหลวงปู่ใหญ่เล่าต่อไป

 

แต่ก่อนจะไปถึงดินแดนสุวรรณโคมคำ เราจะต้องไปกราบไหว้ต้นตระกูลสิงหะควัต
แห่งโยนกนคร จารุจึงได้ไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่พระธาตุจอมกิตติ
ซึ่งมีพระบรมรูปของพระเจ้าพรหมมหาราช มหาราชแห่งแค้นโยนกนครา

อัญเชิญเทวดาที่รักษาโยนกนครา และพระธาตุทั้งหลาย มาร่วมอำนวยพร
และสักการะดวงพระวิญญาน ของมหาราชจอมราชันย์ แห่งตระกูลสิงหนวัติ

บรรยากาศและลวดลาย เสียงระฆัง สายหมอกและอากาศ ปลุกจิตวิญญาน
ในตัวจารุขึ้นมา เทพเทวาผู้หลับไหลแห่งโยนกนคร ก็ตื่นขึ้นมาด้วย

รวมทั้งพันธุนาคา

ดูดีดี มีอะไรให้ดูเกือบทุกรูปเบยยยย

 

จากนั้น ก็เข้าที่พักผ่อน เพื่อเดินทางไปเวียงไชยปราการ

ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมโลกอุดรวนาราม ผ่านการขับรถวกวน

บรรยากาศงดงามสายหมอก ภูเขา ราวกับแดนสวรรค์

และแล้วก็ถึง สถานที่ที่เฝ้ารอมานาน สำนักปฏิบัติธรรมโลกอุดรวนาราม

ต้องให้ดูรูปก่อนบรรยายนะคะ

 

เค้าว่ากันว่า ดินแดนแถบนี้ เคยเป็นที่เดินทัพของพระนเรศวรมหาราช
ซึมซับไปก่อนนะจ๊ะ ว่าเห็นภพภูมิไหนบ้าง

ไปอาบน้ำก่อนเล่าต่อนะจ๊ะ

 

บ่อ พญานาค สีสวยงามมาก สวยงามกว่าในรูปมาก
บรรยากาศเหมือนย้อนไปในยุคโบราณ รอบๆที่เป็นเทือกเขายาว เหมือนหลังมังกร

น้ำในลำธารก็ใสมาก ตัดกับสีฟ้าชัดเจน ทั้งที่ต้นน้ำนั้น คือบ่อพญานาคสีฟ้าคราม

จารุได้ยินเสียงนกร้องจากทางหนึ่ง เลยบ่อน้ำไป ก็เลยเดินดุ่มๆไปดู ลืมคณะที่มาด้วยไปชั่วขณะ แล้วก็เดินข้ามลำธารไป จนเจอหินขนาดย่อม รูปคล้ายพระนาคปรกในรูป
ด้วยจิตนิมิตไป เห็นหัวหน้าบังบด ตัวสูงใหญ่ โพกผ้าที่หัวเหมือนชาวเหนือโบราณ
ต้องการให้สร้างพระนาคปรกที่นั้น

ดินแดนแถบนี้ เทือกเขาทุกลูกเป็นแดนลับแล(บังบด)
ขอท่านอย่ารบกวนความสงบสงัด มนุษย์มีแต่ทำลาย

แล้วก็เหมือนโดด แว๊บไปแว๊บมา หายไป

เราก็เลยบอกเจ้าของที่เค้าไป และอีกหลายอย่าง

จนจะเริ่มพีธีบวงสรวง ทุกคนก็รอจารุอยู่

จารุบอกยังเริ่มไม่ได้ ต้องไปหาบ่อน้ำต้นน้ำที่แท้จริงก่อน

พ่อหลวงจึงได้พาไป บริเวณนั้นมีศาลเล็กๆ ไม่มีในรูป(ไม่กล้าถ่าย)
บ่อน้ำที่เห็น ชาวเหนือเรียกว่าบ่อน้ำรู เหมือนเป็นต้นน้ำ
มีสี่บ่อติดต่อกัน บริเวณเทือกเขา เหล่านั้น

บริเวณรอบบ่อน้ำขนาดใหญ๋ เป็นหญ้าสูงเกือบท่วมเข่า และบริเวณบ่อน้ำ
ปากบ่อก็เต็มไปด้วยใบบอน จนมองไม่เห็นผืนน้ำ ปากบ่อ มีไม้ใหญ่อยู่สองสามต้น



่

 

เลยต้องรูปจุดธูปขอขมา บริเวณบ่อสีฟ้า ที่เห็นในรูป เหมือนเป็นประตูเมืองบาดาล มีนาคเล็กนาคน้อย ขึ้นมาเล่นน้ำกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะวันพระจันทร์เต็มดวง

แต่บ่อใหญ่ที่รกชัฏนั้น เมื่อก่อนน้ำก็เคยใส แต่ด้วยความหวังดีของเจ้าของที่
ได้ทำการนำต้นไม้ที่รกออก แต่ตอนยก ต้นไม้ใหญ่ดันตกลงไปในบ่อ

ตั้งแต่นั้นก็ไม่รู้ต้นบอนมาจากไหน ขึ้นปิดปากบ่อใหญ่จนมิด
แล้ววันนั้น ชาวบ้านที่ขุดลอกบ่อ บอกว่า พอใช้แมคโครตักลงไปในบ่อ
น้ำกลายเป็นสีแดง เลยไม่มีใครกล้ามาบูรณะอีกเลย

เคยมีพ่อหลวง(ผญ บ้าน) พานักเรียนมาไหว้ บอกว่าไหว้อยู่ดีๆ กิ่งไม้สดขนาดยักษ์
ก็หล่นมาเฉียด ไปนิดเดียว ลมก็ไม่มี กิ่งไม้ก็ยังสดเขียว

เลยกลายเป็นไม่มีใครกล้าเข้าไปกราบไหว้

 

เป็นพญานาคที่มีฤทธิมาก สีฟ้าคราม พญานาคจากยุคโยนกนาคนคร
(บางตนก็หางเป็นสีแดง คงมีหลายเผ่าพันธ์ ลูกผสมข้ามเผ่าก็มี)

เลยเจรจาบางอย่างไป จากนั้น จึงเดินกลับไปบวงสรวงที่ศาลพญานาคต่อไป

แล้วพิธีการก็สำเร็จไปได้ด้วยดี

ที่แปลกกว่านั้น พญาครุฑบินว่อนเต็มท้องฟ้า เหมือนแบ่งอาณาเขตกัน

บริเวณภาคพื้นดิน หัวหน้าหมู่บ้านชาวบังบด ก็พาลูกบ้านมาโมทนาด้วย
บางตนก็แต่งตัวเหมือนใส่กะเหรี่ยง บางพวกก็ใส่ชุดเหมือนชาวบ้านทางเหนือโบราณ
แต่โพกผ้ากันทุกตน

ป.ล.เห็นคนเดียว ไม่เชื่อก็คงต้องท้าให้ไปพิสูจน์

แต่ครุฑทั้งหลายก็ร่วมโมทนาด้วย

จากนั้นคณะเราก็ร่วมกันปลูกต้นสาละ ก่อนกลับ ที่ลานโล่ง หน้าศาลาพระประธาน
และอัญเชิญ รุกขเทวดา มาสถิตย์

ดูรูปต้นสาละดีๆ ซิจ๊ะ ทางซ้ายมือ

 

จากนั้นก็เตรียมกลับ มีเรื่องอีกมากมาย เป็นทริปที่ดีมากมีโอกาสกราบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง ที่เกี่ยวข้องกับองค์พระนเรศวร