ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ฟิลิปปินส์อ่วม ฝนตกหนักทำน้ำท่วม ดับแล้ว 4 ราย รวมทารก​

​

เมื่อ 19 ก.ค. นายเฮอร์มินิโอ โคโลมา โฆษกประจำประธานาธิบดี เบนิกโน อาคีโน แห่งฟิลิปปินส์ เผยว่า เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์และหน่วยบรรเทาทุกข์เร่งลงพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ประสบภัยน้ำท่วมจากมรสุมที่ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ศพ รวมทารกอายุ 4 เดือน ที่ถูกดินถล่มฝังตายทั้งเป็นที่ จ.ปันกาซินัน และอีกราว 3,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่

ส่วนตำรวจกรีซแถลงข่าวการจับกุมชายชาวกรีกและชาวบัลแกเรีย อายุ 67 ปีและ 58 ปี ในฐานะผู้ต้องสงสัยลอบวางเพลิง จนทำให้เกิดไฟไหม้รุนแรงย่านชานกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ และลุกลามไปยังเมืองเปโลปอนนีสซึ่งอยู่ใกล้เคียง ขณะที่หน่วยดับเพลิงกรีซสามารถควบคุมเพลิงไหม้ในย่านคาเรอัสของกรุงเอเธนส์ได้ แต่เกิดเหตุสลดเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 นายเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ และคาดว่าอาจพบศพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก

ด้านสำนักงานป่าไม้ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ สั่งอพยพประชาชนราว 300 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนใกล้เคียงถนนแอนเจลิสเครสต์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังไฟป่าทำลายพื้นที่ป่าในบริเวณดังกล่าวไปแล้วกว่า 500 เอเคอร์ ทั้งยังลุกลามเข้าใกล้โรงเรียนสำหรับเด็กผู้มีพัฒนาการเป็นพิเศษ ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเร่งระดมกำลังพยายามสกัดไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นหลายจุดในรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างต่อเนื่อง.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 ก.ค. 2558

โหดไม่หยุด! ไอซิสยกระดับ ใช้อาวุธเคมีโจมตีชาวเคิร์ดในอิรัก-ซีเรียแล้ว​

​

กลุ่มไอซิสยกระดับความรุนแรง.. เริ่มใช้อาวุธเคมีโจมตีนักรบและพลเมืองชาวเคิร์ดในซีเรียและอิรักบ้างแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระยูเค ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกระสุนปืน ค.ไม่ระเบิด หลังถูกยิงมาตกที่เขื่อนเมืองโมซูล มีสารเคมีสีเหลืองกลิ่นฉุนจัดไหลออกมา

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 58 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างการเปิดเผยขององค์กรอิสระ 2 แห่ง ได้แก่ คอนฟลิค อาร์มาเนนต์ รีเสิร์ช (​Conflict Armament Research) หรือ CAR และซาฮาน รีเสิร์ช (Sahan Research) ถึงความเคล่ือนไหวของ กลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่ติดอาวุธ ‘รัฐอิสลาม’ หรือไอซิสว่า มีการใช้อาวุธเคมีโจมตีนักรบและพลเมืองชาวเคิร์ด ทั้งในอิรักและซีเรีย เมื่อไม่นานที่่ผ่านมา

โดยรายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า กลุ่มไอซิสได้เริ่มปรับเปลี่ยนอาวุธที่ใช้สังหารฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นทั้งระเบิดที่ใช้กับมือระเบิดพลีชีพนำไปก่อเหตุรุนแรง รวมทั้ง ระเบิดแสวงเครื่อง ที่มีการใช้สารคลอรีน และสารเคมีชนิดอื่นๆ มาเป็นส่วนผสม ซึ่งกลุ่มไอซิสอาจพยายามหาญกล้าใช้สารเคมีมาพัฒนาเป็นอาวุธชนิดใหม่

องค์กร CAR และซาฮาน รีเสิร์ช ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในสหราชอาณาจักร(ยูเค) ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สืบสวน ไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงหลังได้รับรายงานกล่าวหากลุ่มไอซิสมีการใช้กระสุนเคมีโจมตีฝ่ายตรงข้ามในเหตุการณ์ 3 ครั้ง เมื่อเดือนก่อน โดยการโจมตี 2 ครั้งเกิดขึ้นที่จังหวัด ฮาซากาห์ ทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งกลุ่มไอซิสติดอยู่ในการสู้รบกับนักรบชาวเคิร์ด กลุ่ม YPG มาหลายเดือน และเหตุการณ์ครั้งที่ 3 กลุ่มไอซิสได้ยิงกระสุนปืีน ค. ขนาด 120 มม. ไปตกใกล้ฐานที่มั่นชาวเคิร์ดที่เขื่อนโมซูล ในเมืองโมซูลทางภาคเหนือของอิรัก เพียงแต่กระสุนปืน ค.ลูกนี้ ไม่ระเบิด

องค์กร CAR ระบุว่า ถือเป็นเอกสารครั้งแรกที่ระบุกลุ่มไอซิสได้ยิงกระสุนในวิถีโค้งไปโจมตีกองกำลังนักรบและพลเมืองชาวเคิร์ด โดยนายเจมส์ บีแวน ผู้อำนวยการ CAR กล่าวว่า CAR ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยังที่เกิดเหตุหนึ่งสัปดาห์ หลังจาก กลุ่มไอซิสยิงกระสุนปืนค.มาตกที่เขื่อนโมซูล โดยพบว่า มีของเหลวสีเหลืองไหลออกมาจากข้างในกระสุนปืน จนส่งกลิ่นฉุนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเรายังเกิดอาการปวดหัว และคลื่นไส้อาเจียน หลังได้ตรวจสอบสารดังกล่าวใกล้ๆ จากนั้น กระสุนปืน ค.ลูกนี้ได้ถูกส่งไปตรวจสอบต่อโดยรัฐบาลท้องถิ่นเคอร์ดิสถาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ซีเอ็นเอ็นว่า มีหลายเหตุการณ์ที่กลุ่มไอซิสใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบอยู่ในกระสุนที่ใช้โจมตีนักรบชาวเคิร์ด ‘เปชเมอร์กา’

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

ชาวกรีกโล่งอก ธนาคารเปิดทำการปกติ หลังปิดมา 3 สัปดาห์​

​

ธนาคารกรีซกลับมาเปิดทำการตามปกติแล้ว หลังปิดมานานถึง 3 สัปดาห์ เนื่องจากประสบวิกฤติการเงิน และรัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มเพียงวันละ 60 ยูโร เท่านั้น

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 58 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ธนาคารในประเทศกรีซได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. หลังปิดมานานถึง 3 สัปดาห์ อันเนื่องจากวิกฤติการเงินในประเทศ และเพื่อเป็นการป้องกันความตื่นตระหนกของบรรดาผู้ฝากเงินในธนาคารที่อาจแห่มาถอนเงินจนธนาคารอาจล้มได้ ในขณะที่รัฐบาลกรีซอนุญาตให้ประชาชนถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้เพียงวันละ 60 ยูโร หรือประมาณ 2,200 บาท เท่านั้น

ข่าวแจ้งว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศกรีซ มีคำสั่งเปิดธนาคารทั่วประเทศอีกครั้ง ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ด้านการเงินของกรีซได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากสัปดาห์ก่อน รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ สามารถบรรลุข้อตกลงในการยื่นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ-การเงินของกรีซ ต่อกลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติ เพื่อจะได้รับเงินกู้งวดใหม่ ซึ่งเป็นงวดที่ 3 จำนวน 86,000 ล้านยูโร ในการมาใช้คลี่คลายวิกฤติการเงินในประเทศ และเป็นความพยายามที่กรีซจะได้ไม่ต้องออกจากกลุ่มยูโร หรือกลุ่มประเทศในยุโรป ที่ใช้เงินสกุลยูโร

อย่างไรก็ดี ตามความเห็นของบีบีซี ยังมองว่า ถึงแม้ธนาคารในกรีซจะกลับมาเปิดทำการตามปกติอีกครั้ง แต่ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวของกรีซก็ยังคงมีอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอัตราว่างงานในประเทศที่อยู่ในระดับสูง และภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของกรีซอย่างรุนแรง ในขณะที่แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ชาวกรีกจะต้องเสียเงินซื้อสินค้าและค่าภาษีเพิ่มขึ้น รวมถึงการจ่ายค่าอาหารที่ร้านอาหารและการใช้บริการรถแท็กซี่ ก็เพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 23%

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

ไต้หวันจ่อมีผู้นำหญิงคนแรก 2 พรรคใหญ่ส่งสตรีชิงตำแหน่ง ปธน.​

​

ก๊กมินตั๋ง พรรครัฐบาลของไต้หวัน ตัดสินใจส่งนาง หง ชิ่วจู เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ขณะที่พรรคฝ่ายค้านหลักก็ส่งสตรีลงชิงชัยเช่นกัน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พรรครัฐบาล 'ก๊กมินตั๋ง' แห่งใต้หวัน ตัดสินใจเลือกนาง หง ชิ่วจู รองประธานสภานิติบัญญัติ เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยต้องชนกับนาง ไช่ อิง-เหวิน ประธานพรรคฝ่ายค้าน 'ประชาธิปไตยก้าวหน้า' นับเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 พรรคส่งสตรีลงชิงตำแหน่งผู้นำไต้หวันพร้อมกัน ทำให้มีโอกาสสูงมากที่เกาะแห่งนี้จะมีผู้นำเป็นผู้หญิงเป็นคนแรก หลังการเลือกตั้งในเดือน ม.ค. 2016

นางหงในวัน 67 ปี ได้รับการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการในการประชุมสภาคองเกรสแห่งชาติครั้งที่ 19 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีที่มีผู้แทนกว่า 1,199 คน จากทั่วไต้หวันมาเข้าร่วม โดยหวังว่าเธอจะช่วยกู้หน้าให้พรรคก๊กมินตั๋ง หลังจากพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. จนประธานาธิบดี หม่า อิง-จิ่ว ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาชี้ว่า คะแนนความนิยมของนางไช่ นำหน้านางหงอยู่ 12%

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พายุคลื่นลมแรง ซัดเรือจับแมงกะพรุนล่ม 24 ลำ ที่กระบี่​

​

เกิดพายุคลื่นลมแรงบริเวณชายฝั่ง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซัดเรือประมงที่ออกจับแมงกะพรุนล่มบริเวณท่าเรือ และในทะเลทั้งหมดถึง 24 ลำ แต่คนเรือสามารถว่ายขึ้นฝั่งและถูกช่วยขณะลอยคอได้หมด ไม่มีใครจมน้ำเสียชีวิต...

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 ก.ค.58 นายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอาวุโสอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านแหลมกรวด ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ว่า มีเหตุเรือหางยาวของชาวประมงพื้นบ้าน ที่ออกไปจับแมงกะพรุนในทะเลล่มจำนวน 12 ลำ เหตุเกิดที่บริเวณท่าเรือขึ้นแมงกะพรุน หลังทราบเรื่องจึงไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขเหนือคลอง และชาวบ้านในพื้นที่

พบว่าจุดเกิดเหตุ จุดแรกอยู่บริเวณท่าเรือห่างจากฝั่งไปประมาณ 30 เมตร มีเรือล่มทั้งหมด 10 ลำ คนเรือได้กู้ขึ้นมาหมดแล้ว ส่วนจุดที่ 2 ห่างจากฝั่งประมาณ 300 เมตร เรือล่ม 2 ลำ เรือยังลอยอยู่ในทะเล ส่วนคนเรือทั้ง 2 ลำ รวม 4 คน ได้ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย

นอกจากนั้น ยังพบว่ามีเรือหางยาวที่ออกไปจับแมงกะพรุนไม่กลับเข้าฝั่ง และติดต่อไม่ได้อีก 2 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อ แต่เบื้องต้นไม่สามารถออกไปค้นหาได้ เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง

จากการสอบถามทราบว่า ขณะเกิดเหตุเรือประมงกำลังกลับเข้าฝั่งเพื่อนำแมงกะพรุนที่จับได้มาส่งที่ท่าเรือ แต่ระหว่างที่รออยู่นั้น ได้มีลมพายุพัดอย่างแรง ส่งผลให้เรือในจุดดังกล่าวล่มลง 10 ลำ ส่วนอีก 2 ลำ กำลังกลับเข้าฝั่ง แต่ไม่สามารถต้านทานคลื่นลมได้ ทำให้เรือล่ม แต่โชคดีที่คนเรือทั้ง 2 ลำ ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งได้

ล่าสุด เวลา 19.00 น. มีรายงานหลังพายุกระหน่ำ ในพื้นที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ชาวประมงได้พบลูกเรือหางยาวที่ออกไปจับแมงกะพรุนลอยคออยู่ในทะเลไม่ห่างจากฝั่งมากนัก ในพื้นที่ ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง รวม 4 คน จากเรือ 2 ลำ และนำกลับเข้าฝั่งส่งบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว

ขณะที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางอำเภอเหนือคลอง สรุปเหตุมีเรือล่มรวม 24 ลำ ประกอบด้วย หมู่ 1 ต.เกาะศรีบอยา ล่ม 7 ลำ หมู่ 2 ต.เกาะศรีบอยา 5 ลำ และหมู่ 8 ต.คลองขนาน 12 ลำ ทั้งหมดเป็นเรือหางยาว ที่ออกไปจับแมงกะพรุน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

น้ำประปาเมืองกรุงพ้นวิกฤติแล้ง ค่าความเค็มปกติไม่กร่อย​

​

คนกรุงเฮ! กปน.ประกาศพ้นวิกฤติแล้งแล้ว สถานการณ์น้ำดีขึ้น ทั้งฝนตก ปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก ทำให้มีน้ำดิบผลิตประปาเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำไม่มีรสชาติกร่อย มั่นใจรับมือได้ พร้อมเตรียมแผนรับมือแล้งปีต่อๆ ไป หาแหล่งน้ำใหม่ เดินหน้าจัดกิจกรรมประหยัดน้ำ มีรางวัลให้...

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ระบุ กปน.พ้นสภาวะภัยแล้งจากสถานการณ์น้ำขณะนี้ดีขึ้น ทั้งข้อมูลน้ำ สภาพอากาศ มีฝนตกอย่างต่อเนื่องบริเวณด้านเหนือเขื่อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจนปริมาณน้ำเข้าสู่สภาวะปกติ และจากการจัดสรรน้ำของกรมชลประทานที่ลดกำลังส่งน้ำเหลือวันละ 18 ล้านลูกบากศ์เมตร ทำให้เขื่อนต่างๆ มีน้ำใช้ได้นานยิ่งขึ้น ส่งผลให้ กปน.มีปริมาณน้ำดิบมาใช้ผลิตน้ำประปาเพิ่มมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กปน.ยังมีการนำน้ำจากถังพักน้ำทิ้งที่มีการตกตะกอน มารีไซเคิลเพื่อผลิตน้ำประปาใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีคุณภาพดีเทียบเท่ากับน้ำดิบจากแม่น้ำและมีความสะอาดเช่นกัน ส่งผลให้ กปน.มีน้ำประปาเพิ่มอีกประมาณวันละ 1 แสนลูกบากศ์เมตร

ส่วนสถานการณ์น้ำกร่อย ขณะนี้ค่าความเค็มวัดได้ที่ประมาณ 0.25 มิลลิกรัมต่อลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อประชาชนนำน้ำมาใช้จะไม่มีรสชาติกร่อย เนื่องจากกรมชลประทาน ได้มีการจัดสรรน้ำดิบมาไล่ความเค็มประมาณวันละ 70-90 ล้านลูกบากศ์เมตร

“ประชาชนจะรับรู้รสกร่อยได้ก็ต่อเมื่อ ค่าความเค็มอยู่ที่ประมาณ 0.5 เท่านั้น น้ำกร่อยจะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเลหนุน หากหนุนสูงอาจส่งผลให้น้ำดิบมีความเค็ม โดยหากเป็นระยะเวลาน้ำทะเลหนุน กปน.ก็จะมีการหยุดสูบน้ำดิบเข้ามายังผลิตน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำกร่อย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้ดี”

อย่างไรก็ตาม กปน.ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์น้ำแล้งในปีต่อๆไป โดยเพิ่มถังกักเก็บน้ำ และแนวทางการผันน้ำจากฝั่งตะวันตกมาให้ฝั่งตะวันออก ซึ่งปัจจุบันได้มีการดำเนินการอยู่ รวมทั้งหาแหล่งผลิตน้ำดิบแห่งใหม่ที่เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคของประชาชน เนื่องจากในอนาคตคาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังมีการจัดโครงการประหยัดน้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่ากับกิจกรรม "ช่วยรัฐ ช่วยราษฎร์ ช่วยประหยัดน้ำประปา" จะมีรางวัลให้แก่บ้าน สำนักงาน โรงงานที่มีบิลการใช้น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ค.และ ส.ค. 58 โดยจะวัดจากบิลแจ้งค่าน้ำประปา 2 เดือนติดต่อกัน และผู้ใช้น้ำจะต้องลดปริมาณการใช้น้ำลดลง 10% ขึ้นไป และมีปริมาณการใช้น้ำลดลงไม่น้อยกว่า 5 ลูกบากศ์เมตร ซึ่งจะมีรางวัลของที่ระลึกให้ผู้ที่ลดการใช้น้ำสูงสุด 5 อันดับแรกด้วย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

สิงห์บุรี เปิดศูนย์บริการน้ำฯ พระราชทาน ประปามั่นใจ น้ำไม่ขาด​

​

จ.สิงห์บุรี เปิดศูนย์บริการน้ำอุปโภคบริโภคพระราชทาน พร้อมช่วยเหลือ ปชช.ที่ประสบภัยแล้งอยู่ในขณะนี้ ขณะที่ประปาสิงห์บุรีมั่นใจ ว่าน้ำไม่ขาด เผย มีแหล่งน้ำบาดาลสำรองไว้แล้ว หากน้ำเจ้าพระยาลดลง...

วันที่ 20 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสิงห์บุรี ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดย นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการเพื่อการน้ำอุปโภคบริโภคพระราชทานจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อให้บริการประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ซึ่งเป็นความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับพสกนิกรชาวไทย

โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บริการน้ำอุปโภคบริโภค โดยใช้ศูนย์การศึกษาพิเศษฯ เป็นที่ตั้งศูนย์ฯ จนกว่าสถานการณ์จะจบลง ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี ได้จัดรถผลิตน้ำดื่มที่สะอาดมาให้บริการประชาชน ซึ่งจะสามารถเคลื่อนที่ไปช่วยเหลือนอกพื้นที่ได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมบริจาคน้ำดื่ม อาทิ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด อบจ.สิงห์บุรี การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดสิงห์บุรี และ อบต.บางมัญสนับสนุนรถน้ำ 3 คัน

ขณะเดียวกัน นายสุรศักดิ์ ขจรศรี ผอ.การประปาภูมิภาคสิงห์บุรี กล่าวถึง สถานการณ์น้ำประปาของจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งใช้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มาผลิตเป็นน้ำประปา ซึ่งระดับแม่น้ำยังทรงตัว ส่วนปริมาณน้ำขึ้นน้ำลงนั้น ได้ประสานกับทางชลประทานอย่างใกล้ชิด ทางจังหวัดสิงห์บุรี ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่ก็ไว้วางใจไม่ได้ ทางประปาสิงห์บุรีมั่นใจ ว่าจะประคับประคองการใช้น้ำไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม โดยได้มีการวางแผนรองรับไว้แล้ว หากแหล่งน้ำเจ้าพระยาลดลง ก็จะใช้แหล่งน้ำจากน้ำบาดาลสูบขึ้นมาใช้ทันที พร้อมทั้งได้ฝากถึงผู้ใช้น้ำ ขอให้ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

บึงกาฬฝนถล่ม น้ำทะลักกลางดึก​

​

ชาวบ้านในเขตเทศบาลที่บึงกาฬ ต้องขนของหนีน้ำกันกลางดึก หลังฝนตกกระหน่ำมา 3 วัน น้ำระบายลงแม่น้ำโขงไม่ทัน ล้นทะลักท่วมถนน บ้านพัก สถานที่ราชการ โดยเฉพาะใน รพ.บึงกาฬ ท่วมสูงถึง 1 เมตร ต้องเร่งสูบออก...

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 20 ก.ค.58 ได้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬ และเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังในระดับสูง เนื่องมาจากมีฝนตกหนักติดต่อกัน น้ำระบายลงสู่แม่น้ำโขงไม่ทัน จนรถยนต์เล็กผ่านไปไม่ได้ เช่น ถนนพ้นทุกภัย ช่วงตัดกับถนนสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ทางลงเข้าโรงเรียนมหาศึกษา ถนนรักสงบมีน้ำขึ้นสูงประมาณ 1 เมตร ถนนไทยสมัคร ถนนเจ้าแม่สองนาง รอบบริเวณตลาดสด ถึงหน้าจวนผู้ว่าฯ และถนนบึงกาฬบริวเวณบ้านพักตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ มีน้ำสูงประมาณ 50 ซม.ทำให้ชั้นล่างของห้องพักถูกน้ำท่วม ไม่สามารถอยู่อาศัยได้

ที่ท่วมหนักสุด คือบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบึงกาฬ น้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร มีเจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 50 ครอบครัว และที่โรงเรียนบึงกาฬรั้วติดกับกับ รพ.บึงกาฬ น้ำได้ท่วมชั้นล่าง อาคาร 3, 4 และ อาคาร 5 มีห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ห้องธุรการ และห้องพักครู น้ำสูงกว่า 80 เมตร ทำให้อุปกรณ์การเรียน และคอมพิวเตอร์เสียหายกว่า 50 เครื่อง ต้องระดมทั้งทหาร ตำรวจ หน่วยกู้ภัย เข้าช่วยเหลือขนข้าวของหนีน้ำอย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 3 วันที่ผ่านมามีฝนตกลงในพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ อย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่บ่ายของเมื่อวานนี้ จนถึงสายวันนี้มีฝนตกอย่างหนัก ทางนายวิทยา เสนจันทร์ฒิไช นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบึงกาฬ ต้องระดมเจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำที่ขังอยู่ภายในโรงเรียนบึงกาฬ และที่ รพ.บึงกาฬ ออก

ขณะที่นายบุญเพ็ง ลามคำ ตัวแทนของหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มาสูบระบายน้ำออกสู่หนองน้ำฝั่งแดง ที่อยู่ตรงข้ามถนนสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คงระบายออกได้หมดภายในวันนี้.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

ลูกหมูในฟาร์ม สุโขทัย ตาย 27 ตัว ปศุสัตว์พบเชื้ออหิวาต์สุกร-PRRS​

​

ลูกหมูในฟาร์ม สุโขทัยตาย 27 ตัว ปศุสัตว์พบเชื้ออหิวาต์สุกร-PRRS แจ้งกรมปศุสัตว์ ส่งเจ้าหน้าที่เร่งฆ่าเชื้อ สั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายรัศมี 1 กม. หวั่นระบาดหนัก ยัน ไม่ติดต่อคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 58 เดินทางไปที่ฟาร์มเลี้ยงหมูของนายเกษม โมทิม อายุ 60 ปี เลขที่ 222 ม.6 ต.บ้านหลุม อ.เมือง จ.สุโขทัย หลังทราบว่า มีลูกหมูได้ทยอยตายไปแล้วถึง 27 ตัว คาดว่า น่าจะเกิดโรคระบาดสัตว์ โดยขณะนี้ทางสำนักงานปศุสัตว์ จ.สุโขทัย ได้เข้าทำการตรวจสอบแล้ว

นายเกษม เจ้าของฟาร์ม เล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ตนได้ลงทุนซื้อหมูลูกพันธุ์ลาร์จไวท์ อายุประมาณ 1.5-2 เดือน มาจากฟาร์มแห่งหนึ่งใน ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จำนวน 68 ตัว ราคาตัวละ 1,000 บาท เพื่อเลี้ยงขุนเป็นหมูโตส่งขาย ปรากฏว่า เมื่อเลี้ยงมาได้เพียง 2 สัปดาห์ ลูกหมูบางตัวเริ่มมีอาการเซื่องซึม กินอาหารน้อยลง และท้องเสียอย่างรุนแรง จนตายไปแล้ว 2 ตัว ตนจึงรีบแจ้งไปที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.สุโขทัย เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบเฝ้าระวัง และพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดคอกหมูใหม่ทั้งหมด แต่ปรากฏว่า ก็ยังมีลูกหมูทยอยตายเพิ่มอีกถึง 25 ตัว ตนจึงได้แจ้งสำนักงานปศุสัตว์และส่งซากลูกหมูไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการอีกครั้ง พบเชื้อโรคอหิวาต์สุกร และโรค PRRS ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสติดต่อทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร สามารถติดต่อกันได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดู ทางสำนักงานปศุสัตว์ จ.สุโขทัย จึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ มาให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลสุขาภิบาลสัตว์ โดยทำความสะอาดฟาร์มทั้งหมด ด้วยวิธีพ่นยาฆ่าเชื้อโรค รวมถึงการกำจัดซากลูกหมูที่ป่วยตายอย่างถูกวิธี โดยวิธีการฝังกลบเท่านั้น ขณะนี้ได้แยกลูกหมูที่ยังต้องเฝ้าระวังดูอาการเพียง 1 ตัวเอาไว้แล้ว ตนได้แยกเอาไว้แล้ว นอกนั้นยังมีอาการปกติ

ด้าน นายประมาณ ทองมา ปศุสัตว์ อ.เมืองสุโขทัย กล่าวว่า ปกติ หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ทางสำนักงานปศุสัตว์ จ.สุโขทัย จะสั่งกักสัตว์เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แต่ที่ฟาร์มแห่งนี้ จะมีแต่ลูกหมูเท่านั้น เบื้องต้น ได้สั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายบริเวณรอบฟาร์ม รัศมี 1 กิโลเมตร และ เฝ้าระวังหมูป่วยตาย รัศมีรอบฟาร์ม 5 กิโลเมตร แล้ว ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะเป็นโรคระบาดเฉพาะในสัตว์เท่านั้น ไม่ติดต่อสู่คน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

หนือ-อีสานอาจมีฝนหนัก กทม.และปริมณฑล โอกาสฝนตก 25%​

​

ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง ภาคใต้ตอนบนฝั่งอันดามันมีฝนแต่เช้าไล่ไปถึงตอนกลางก่อนจะตกถึงดึกที่ภาคใต้ตอนล่าง กทม.และปริมณฑล มีโอกาสฝนฟ้าคะนองกระจาย 25% อุณหภูมิ 27-33 องศาฯ...

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2558 ทีมข่าวไทยรัฐ ร่วมกับ The Weather Company ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเช้านี้พบว่า ต้องจับตาดูสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด เพราะช่วงต้นสัปดาห์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ดังนั้น ชาวเหนือตอนบน และอีสาน ต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

ส่วนในช่วงกลางสัปดาห์ไปแล้ว กระแสลมตะวันตกเฉียงใต้หรือมรสุมฤดูฝนจะมีกำลังอ่อนลง ส่วนร่องฝนก็จะเลื่อนไปพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน แบบนี้ก็จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงก่อนที่ช่วงสุดสัปดาห์ทั้ง 2 ปัจจัยจะกลับมาแรงขึ้นอีกครั้ง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งด้วย และจากภาพถ่ายดาวเทียมสดๆ เช้านี้พบว่า กลุ่มเมฆที่ปกคลุมทั่วไทย ค่อนข้างหน้าแน่น โดนเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และมีกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนองกระจายอยู่ทั่วทุกภาค

ในขณะที่สถานการณ์ฝนทั่วไทยวันนี้พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ากลุ่มฝนจะก่อตัวเป็นกลุ่มใหญ่ครอบคลุมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และบางส่วนของภาคตะวันออก และจะตกหนักในบางพื้นที่ ได้แก่ อุดรธานี บึงกาฬ นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อุบลราชธานี สระแก้ว และฉะเชิงเทรา และจะตกแบบนี้ไปจนถึงช่วงบ่าย โดยที่ช่วงบ่ายกลุ่มฝนจะเริ่มหนักขึ้นในบริเวณภาคกลางตอนบนที่นครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี และบริเวณภาคอีสานตอนบนก็ยังคงตกหนักในจุดเดิม และตกหนักเพิ่มที่ชัยภูมิ ขอนแก่น และนครราชสีมา

ช่วงเย็น ไม่พบกลุ่มฝนในภาคตะวันออกแล้ว ส่วนกลุ่มฝนในภาคเหนือ และภาคอีสานเริ่มกินพื้นที่น้อยลง โดยภาคเหนือจะอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสานจะไปเทบริเวณตอนบน และฝั่งตะวันออกของภาค ส่วนบริเวณที่มีฝนหนักจะอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และภาคกลางตอนล่างและฝั่งตะวันตก

ส่วนฝนใต้นั้น เน้นตกตอนบนฝั่งอันดามันตั้งแต่ช่วงเช้าตั้งแต่ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต ช่วงสายจะขยับลงมาบริเวณตอนกลางของภาค ที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ช่วงบ่ายจะกลับไปตกบริเวณตอนบนของภาคและอีก 1 จุด ในจังหวัดยะลา และสงขลา ก่อนที่ช่วงเย็นจะค่อยๆ ซาลงเหลือเพียงในบริเวณชุมพร และสุราษฎร์ธานี และช่วงดึกจะกลับมาตกบริเวณตอนล่างอีกครั้ง

จากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ รวมถึงกลุ่มเมฆที่หนาตาจึงทำให้ทั่วไทย อุณหภูมิลดลง 5-6 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคเหนือ พื้นที่ฝั่งตะวันตกของไทย และอีสานในหลายพื้นที่ อากาศเย็นสบาย ความรู้สึกร้อนสูงสุดวันนี้เพียง 33-34 องศาเซลเซียสเท่านั้น

ส่วนอุณหภูมิในแต่ละภาควันนี้

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 25% อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ดร อาจอง ชุมสาย​ ณ อยุธยา ไม่กินเนื้อสัตว์​

เผยแพร่เมื่อ 28 ม.ค. 2015​

 

ริว จิตสัมผัส - การกินเจที่ถูกต้อง​

เผยแพร่เมื่อ 19 ต.ค. 2012​

 

เมลิออยด์ โรคร้ายที่ควรรู้ - Melioidosis​

เผยแพร่เมื่อ 6 ส.ค. 2012​

 

บรรเทาทุกข์ กับริว จิตสัมผัส​

เผยแพร่เมื่อ 29 ส.ค. 2012​

รายการ 5 เช้าข่าวดี 30-8-55 ดำเนินรายการโดย นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ และ ปาจรีย์ สวนศิลป์พงศ์ ทุกวันจันทร์ -- ศุกร์ เวลา 08.35-09.10น. เชิญมาคุย อุทาหรณ์ที่ได้จากการใช้จิตสัมผัส บรรเทาทุกข์ผู้คน กับริว จิตสัมผัส

 

คู่ซี้ตีเนียน ริว จิตสัมผัส​

เผยแพร่เมื่อ 8 เม.ย. 2014​

 

กฤษนะล้วงลูก : ริว จิตสัมผัส​

เผยแพร่เมื่อ 31 ก.ค. 2012

รายการ กฤษนะล้วงลูก O/A 15 ก.ค.55 ตอน ริว จิตสัมผัส ช่อง Nation Channel​

 

“เจน ญาณทิพย์” กับการดูกรรมเรื่องความรัก​

เผยแพร่เมื่อ 24 เม.ย. 2015​

“เจน ญาณทิพย์” กับการดูกรรมเรื่องความรัก แม่นอย่างกับตาเห็น!! ทำเอาคุณส้ม ณัชพร ถึงอึ้ง เพราะดูมาถูกจามชีวิตจริงเป๊ะๆ ติดตามข่าวร้อน พร้อมเรื่องราวน่าสนใจที่อัพเดตเร็วทันใจ ได้ใน “ตื่นมาคุย” ออกอากาศทุกเช้า วันจันทร์-ศุกร์ 8.00-9.00น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

 

อ.เจน ญาณทิพย์ กล่าวถึงภัยพิบัติ​

เผยแพร่เมื่อ 17 ส.ค. 2014​

 

21 ก.ค. 58

07:01 20 ก.ค. 58 สวัสดี

07:03 จักรยาน ของฉัน มันตลก หัวหด ท้ายนำ น่าขัน อีกทั้ง สีแดง ราดตาม ระวัง อุบัติภัย ใคร่มี

07:04 หันหัวหันคน ภาพชัด ระวังกันนะ ประเภทสองล้อทั้งหลาย

12:32 ข่าวช่อง ๓ ภาคเที่ยงเสนอข่าว จักรยานยนต์สองคันประสานกัน พลเมืองดีเข้าช่วย โทรฯหาย

12:33 ช่วยจริงๆ ช่วยเก็บของ


14:15 ข่าวขั้นชั่วโมงช่อง ๓ ฝรั่งสองคนชายหญิงขึ่มอเตอร์ไซด์ตกเขา

14:16 ระวังหน่อยนะ สีแดงนองพื้นเยอะ สองล้อยังมีเจออีกมาก

14:19 ช่วงนี้คงเป็นคิวของบรรดาสองล้อทั้งหลาย

กระบะเร่งแซงไม่ระวัง พุ่งชนจักรยานดับอนาถ | เดลินิวส์
„เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะพุ่งชน คนปั่นจักรยานดับคาถนนสายลำลูกกา มุ่งหน้าตลาดคลอง 8 ปทุมธานี ชี้เหตุแซงไม่ระวัง เผยคนตายเป็นรปภ.น้ำใจงาม วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2558 เวลา 2:53 น.“

อ่านต่อที่ : กระบะเร่งแซงไม่ระวัง พุ่งชนจักรยานดับอนาถ | เดลินิวส์

ข่าวช่อง ๓ รถบรรทุกชนจักรยานที่นครราชสีมา เด็กเสียชีวิต

หนุ่มพม่าดวงแตกตกรถจักรยานถูกรถขยะทับซ้ำดับ


เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 21 ก.ค.58 ร.ต.ท.ศิรสิทธิ์ ทันศรี พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุชายถูกรถขยะชนเสียชีวิต ที่บริเวณปากซอยอ่อนนุช84 แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

นี่ก็จักรยาน

แม่ใจสลาย!! ขี่จยย.ส่งลูกสาววัย17ไปรร. รถพ่วงเบียดล้ม-ลูกกระเด็นล้อทับหัวดับสยอง
Font Size

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:37 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 44803 คน
วันที่ 21 ก.ค. ร.ต.ท.เกรียงไกร ปรอยกระโทก ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนมิตรภาพ ใกล้กับทางเบี่ยงออกคู่ขนาน หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสามแยกปักธงชัย ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 141 ขาออกนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฮุก 31

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 84-1067 นครราชสีมา หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 84-1068 นครราชสีมา ของห้างหุ้นส่วนจำกัด สหธานีการโยธา โดยที่บริเวณล้อรถหน้าด้านซ้ายของตัวพ่วง พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง หมายเลขทะเบียน จขน 377 นครราชสีมา ถูกชนจนล้มเสียหาย

เรื่องรถจักรยานนี่ดูไม่จบง่ายๆนะ ระวังตัวกันหน่อย

เทพบดี ๙๗

ติดตามข่าวทางไลน์ ส่ง ไอดี มาที่ taeng00

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ที่พม่า​

​

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ที่พม่า

พม่า 21 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณีรายงานว่าเมื่อเวลา 08.27 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 5.6 ริกเตอร์ บริเวณประเทศพม่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 171 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

บราซิลน้ำท่วมหนักหลังโดนพายุฝนกระหน่ำ​

​

บราซิลน้ำท่วมหนักหลังโดนพายุฝนกระหน่ำ

บราซิล 21 ก.ค.-พายุฝนที่โหมกระหน่ำหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิล ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 2,700 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้แล้วกว่า 47,000 คน บางพื้นที่ทางการต้องใช้รถแทรกเตอร์ช่วยอพยพชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ขณะที่ชาวบ้านบางคนไม่ยอมอพยพออกจากบ้านเรือนเนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน เมืองปอร์ตูอาเลเกร เมืองเอกของรัฐริโอ กรันดี โด ซูล เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ถูกน้ำท่วมหนักมากที่สุด คาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนักซ้ำลงมาอีกตลอดวันนี้.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมฉับพลันทำสะพานในแคลิฟอร์เนียถล่ม​

​

น้ำท่วมฉับพลันทำสะพานในแคลิฟอร์เนียถล่ม

สหรัฐ 21 ก.ค.-เกิดเหตุบางส่วนของสะพานในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐพังถล่ม เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนีย กับรัฐแอริโซนา นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน เหตุสะพานถล่มครั้งนี้ยังกระทบต่อการขนส่งสินค้าระหว่างนครลอสแองเจลิสและเมืองฟินิกซ์ มีรายงานว่า แต่เดิมบางส่วนของสะพานแห่งนี้ชำรุดอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ไม่ต้านทานความแรงของน้ำท่วมฉับพลันไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์ตั้งงบกลาโหมปีหน้าสูงเป็นประวัติการณ์​

​

มะนิลา 21 ก.ค.- ฟิลิปปินส์ตั้งงบประมาณกลาโหมปีหน้าไว้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 25,000 ล้านเปโซ (ราว 19,026 ล้านบาท) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในข้อพิพาทเรื่องการอ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้

ประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโนจะเสนอร่างงบประมาณประจำปี 2559 มูลค่า 3 ล้านล้านเปโซ (ราว 2.28 ล้านล้านบาท) ให้รัฐสภาพิจารณาในวันพุธนี้ ในจำนวนนี้ 25,000 ล้านเปโซ (ราว 19,026 ล้านบาท) เป็นงบประมาณกลาโหมที่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปี 2557 และสูงกว่าปี 2556 ถึง 3 เท่า นายฟลอเรนซิโอ อาบัด รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณและการจัดการตอบข้อถามที่ว่างบกลาโหมที่เพิ่มขึ้นมากเป็นเพราะข้อพิพาทกับจีนหรือไม่ว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องปกป้องดินแดนที่อยู่ภายในเขตอำนาจทางกฎหมายอย่างชัดเจน จึงต้องมีประสิทธิภาพในการติดตามความเคลื่อนไหวในดินแดนเหล่านั้น โดยเฉพาะดินแดนในพื้นที่พิพาท นายอาบัดเผยด้วยว่า ร่างงบกลาโหมปีหน้าเป็นส่วนหนึ่งในโครงการปรับปรุงกองทัพระยะ 5 ปี มูลค่า 75,000 ล้านเปโซ (ราว 57,082 ล้านบาท) ที่ประธานาธิบดีอนุมัติไปตั้งแต่ปี 2556 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับจีนแล้ว งบกลาโหมของจีนปีนี้อยู่ที่ 142,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.93 ล้านล้านบาท)

ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวว่า งบกลาโหมจะช่วยกองทัพมีอิสระมากขึ้นในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงให้ทันสมัย รวมถึงการซื้อกองเรือฟรีเกตและเครื่องบินลาดตระเวน.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นขอจีนยุติการสำรวจน้ำมันในทะเลจีนตะวันออก​

​

โตเกียว 21 ก.ค. – กระทรวงป้องกันตนเองของญี่ปุ่นแถลงรียกร้องจีนในวันนี้ ให้ยุติการก่อสร้างแท่นขุดเจาะสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลจีนตะวันออก บริเวณน่านน้ำติดกับญี่ปุ่นที่ทั้งสองต่างแย่งสิทธิครอบครอง โดยวิตกว่า จีนอาจขุดเจาะเข้ามาในแหล่งทรัพยากรของญี่ปุ่น

จีนรื้อฟื้นการสำรวจน้ำมันในทะเลจีนตะวันออกเมื่อสองปีก่อน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีปัญหาเรื่องเขตแดนทางน่านน้ำมาตลอด แถลงการณ์กระทรวงป้องกันตนเองญี่ปุ่นระบุว่า ยืนยันได้ว่าจีนเริ่มการก่อสร้างแท่นขุดเจาะ และญี่ปุ่นขอคัดค้านการสำรวจแหล่งน้ำมันเพียงฝ่ายเดียวของจีน รวมทั้งขอให้ยุติด้วย เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่า แท่นขุดเจาะตั้งอยู่ทางเขตแดนของจีนในแนวเส้นแบ่งเขตเศรษฐกิจจำเพาะของทั้งสองฝ่าย แต่ญี่ปุ่นเกรงว่า การขุดเจาะน้ำมันจะมากระทบแหล่งก๊าซของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในแนวเดียวกัน รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์และฐานปฏิบัติการของญี่ปุ่นเพื่อตรวจจับกิจกรรมทางอากาศและทางทะเลในบริเวณหมู่เกาะที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิครอบครอง .- สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

แผ่นดินไหวที่เมียนมา กรมชลฯ เชียงใหม่ ยัน 2 เขื่อนดิน ไม่กระทบ​

​

กรมชลฯ จ.เชียงใหม่ ยัน 2 เขื่อนดิน ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมียนมา ขอ ปชช. อย่าตระหนก ด้าน จ.สุโขทัย มีฝนตกติดต่อกัน 2 วันแล้ว แต่ชาวนายังไม่กล้าทำนา เพราะกลัวฝนทิ้งช่วง แล้วนาข้าวจะขาดทุนอีก...

วันที่ 21 ก.ค. 2558 นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึง กรณีเช้าวันนี้มีแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ความลึกจากพื้นดิน 10 กม. วัดความสั่นสะเทือนได้ 5.2 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจาก อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 182 กม. ตามที่เป็นข่าวนั้น

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีเขื่อนดินขนาดใหญ่ 2 เขื่อน คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ขอยืนยันว่าทางเขื่อนใหญ่ ทั้งสองแห่งไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นายเจนศักดิ์ กล่าวว่า หากเปรียบว่า ได้รับผลกระทบขนาดไหน ตอบได้เลยว่า ได้รับผลกระทบแค่ 0.2 เปอร์เซ็นเท่านั้น ถือว่าการเกิดแผ่นดินไหวในวันนี้ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เราได้รับผลน้อยมากและสามารถรองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้มากกว่า 7 ริกเตอร์ และทางเขื่อนทั้งสองแห่ง มีอุปกรณ์ตรวจสอบการสั่นสะเทือน ของสันเขื่อนทั้งสองแห่งอยู่ตลอดเวลา จึงขอแจ้งให้ประชาชนชาวเชียงใหม่อย่าได้ตื่นตระหนก

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ก.ค. 2558

สุโขทัยฮือฮา พบเมฆฝนคล้ายเห็ดนางฟ้าขนาดยักษ์​

​

ชาวสุโขทัยฮือฮา หลังฝนหยุดตก มีผู้บันทึกภาพเมฆฝนรูปร่างประหลาด คล้ายเห็ดนางฟ้าขนาดยักษ์ ปกคลุมเหนือท้องฟ้า ลงโลกโซเชียล ซึ่งมีผู้มาแสดงความคิดเห็นต่อภาพดังกล่าวจำนวนมาก...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีฝนตกติดต่อกัน ในหลายพื้นที่ของ จ.สุโขทัย อันเนื่องมาจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จะมีเมฆมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่ ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.ค. 58 ท้องฟ้าบริเวณตัวเมืองสุโขทัย มืดครึ้ม และได้มีผู้บันทึกภาพเมฆฝนรูปร่างประหลาด มีลักษณะคล้ายเห็ดนางฟ้าขนาดยักษ์ ปกคลุมเหนือท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ฝนเพิ่งหยุดตกได้เพียงครู่เดียว

จากการสอบถาม น.ส.พิมพ์ชนก ล้อมวงษ์โสภณ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 5 ถ.ทัศนาพานิช 3 ต.ธานี อ.เมือง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนที่ตนจะออกไปทำงาน ได้เดินออกมาบริเวณหลังบ้าน เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นกลุ่มเมฆมีลักษณะดำทะมึน รูปร่างคล้ายเห็ดนางฟ้าขนาดยักษ์ จึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเมฆดังกล่าวเอาไว้ หลังจากโพสต์ลงในโลกโซเชียล ก็มีสมาชิกเข้ามากดไลค์ และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก...

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ก.ค. 2558

หลอดแอลอีดี ใช้ถนอมอาหารดี​

​

คณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้เปิดเผยว่า ได้ค้นพบแสงสีน้ำเงินของหลอดไฟแอลอีดีมีสรรพคุณเป็นยาต้านแบคทีเรียอย่างชะงัด สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคที่มากับอาหาร และนำไปใช้ในการถนอมอาหาร โดยปราศจากสารเคมีได้

เขาแจ้งว่ามันจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ หากอยู่ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง 4 ถึง 15 องศาเซลเซียส และมีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย การค้นพบนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนสารเคมีในการรักษาอาหารได้ พวกอาหารสด อย่างเช่นผลไม้สดและเนื้อสัตว์ที่พร้อมที่จะบริโภค จะสามารถรักษาโดยใช้แสงไฟอันนี้ ในอุณหภูมิที่เย็นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีอย่างที่ใช้กันอยู่อย่างปกติ

หัวหน้านักวิจัยกล่าวสรุปว่า ผลการศึกษาของเรา ส่อว่าอาจจะใช้แสงไฟจากหลอดแอลอีดีในการเก็บรักษาอาหาร ภายใต้อุณหภูมิอันเย็นได้ โดยไม่ต้องง้อสารเคมีเลย แต่ยังจะต้องมีการค้นคว้าต่อไปว่ามันจะทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 ก.ค. 2558

กทม.โอกาสฝนฟ้าคะนอง 40% เหนือ-อีสานระวังฝนตกหนัก​

​

เหนือและอีสานจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเริ่มจากอีสานช่วงเช้า บ่ายไปตกหนักที่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ภาคใต้ตอนบนฝนตกช่วงเช้า และตกตอนล่างช่วงบ่าย ช่วยเย็นตกแถว สงขลา นราธิวาส กทม.และปริมณฑลโอกาสฝนฟ้าคะนอง 40%...

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2558 ทีมข่าวไทยรัฐ ร่วมกับ The Weather Company ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเช้านี้พบว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศเช้านี้พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ดังนั้นชาวเหนือตอนบน และอีสาน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

จากภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ พบว่ากลุ่มเมฆที่ปกคลุมทั่วไทย ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเมฆชั้นต่ำ และมีกลุ่มเมฆฝนกระจายอยู่ทั่วทุกภาค โดยเฉพาะอีสานตอนบนภาคเหนือฝั่งตะวันออก และภาคตะวันออกตามแนวชายฝั่ง

จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝนวันนี้พบว่า ช่วงเช้ากลุ่มฝนจะกระจายตัวอยู่บริเวณภาคเหนือฝั่งตะวันออก ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออก โดยกลุ่มฝนจะตกหนักหน่อยที่ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ส่วนในช่วงสายกลุ่มฝนจะยังคงตกในบริเวณเดิม แต่จะกินพื้นที่เข้ามายังบริเวณภาคเหนือตอนล่างมากขึ้น

ช่วงเที่ยง ฝนจะไปเทบริเวณขอบประเทศทั้งทางภาคเหนือและภาคอีสาน โดยไล่ตั้งแต่จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และภาคอีสานชั้นในทางตอนบนด้วย รวมถึงยังมีตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศที่กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และภาคตะวันออกที่ระยอง จันทบุรี และตราดด้วย

ช่วงบ่ายนั้นกลุ่มฝนจะไปตกในบริเวณภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ โดยจะตกหนักที่เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ยังมีตกบางพื้นที่ของภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก และฝั่งตะวันตกของประเทศ ช่วงเย็น กลุ่มฝนยังคงปกคลุมในบริเวณภาคเหนือ ส่วนภาคกลางจะปกคลุมตั้งแต่ฝั่งตะวันตกลากเป็นแนวยาวเข้าไปจนถึงภาคอีสานตอนบน ส่วนภาคตะวันออกนั้นยังคงตกกระจายตัวอย่างต่อเนื่องในบางพื้นที่

ส่วนสถานการณ์ทางตอนฝนใต้นั้น ช่วงเช้าจะปกคลุมในบริเวณภาคใต้ตอนบน ช่วงเที่ยงจะขยับลงมาทางตอนล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มฝนปานกลางถึงหนักปกคลุมตั้งแต่นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ส่วนช่วงบ่ายยังคงตกในจุดเดิม และตกเพิ่มที่สุราษฎร์ธานี และยะลา และช่วงเย็นกลุ่มฝนจะขยับลงไปยังตอนล่างตกที่สงขลา ยะลา และนราธิวาส

ในขณะที่การคำนวณปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง จาก 6 โมงเช้าวันนี้ไปจนถึง 6 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ พบว่า ในวันนี้นั้นพื้นที่สีเขียวก็คือ บริเวณที่มีปริมาณน้ำฝนสะสม ตลอด 24 ชั่วโมง มากกว่า 20 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นในหลายจุด โดยเฉพาะภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีบริเวณภาคอีสานตอนบน ตอนกลาง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง อันดามันตอนล่าง และพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมเยอะที่สุดยังคงเป็นในจุดเดิม คือ จังหวัดนครพนม

ในขณะที่อุณหภูมิวันนี้ยังคงทรงๆ เหมือนเมื่อวานนี้ จากฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน ส่วนบริเวณที่รู้สึกร้อนมากที่สุด ก็คือภาคกลาง สูงสุดเพียงแค่ 34-35 องศาเท่านั้น ส่วนในแต่ละภาคภาพรวมเป็นอย่างไรเริ่มต้นที่

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 40% โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

องค์เทพเจ้ากวนอู​

อัปโหลดเมื่อ 27 ต.ค. 2011​

 

Pink Mango 42 Talk ริว จิตสัมผัส​

อัปโหลดเมื่อ 12 เม.ย. 2011​

 

ร่วมสัมผัสหลักธรรม จากซีรีส์พระพุทธเจ้า กับริว จิตสัมผัส​

เผยแพร่เมื่อ 16 เม.ย. 2015​

 

ริวจิตสัมผัส เตือนภัยพิบัติโลก​

เผยแพร่เมื่อ 4 มิ.ย. 2015​

 

Sinking Of Japan หนังเตือนภัยคนญี่ปุ่น​

อัปโหลดเมื่อ 19 ม.ค. 2007​

ถึง ผู้นำประเทศญี่ปุ่น

ในอดีต ...ชาวญี่ปุ่น ก่อกรรม ทำสงตรามไว้อย่างมาก ได้ร่วมกันทำลายพุทธสถาน...ด้วยการ หลอมทองคำจำนวนมหาศาล จาก เจดีย์ชเวดากอง ในพม่า...ซึ่งเป็นทองคำที่ชาวไทยอยุธยาโบราณ ตั้งใจหามา สะสมสร้างพระพุทธรูป พุทธสถานจำนวนมาก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ให้พุทธศาสนารุ่งเรือง ในอดีต ทหารญี่ปุ่นในพม่า ได้นำทองคำจากพุทธสถานนี้ กลับไปทางทะเล สู่ญี่ปุ่น...เมื่อ...สิ้นสุดสงครามโลก ประเทศท่านจึงฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะทองคำเหล่านี้ แต่...ถึงปัจจุบัน กรรม กำลังจะปรากฏ....เกาะญี่ปุ่นครึ่งหนึ่ง จะจมหายไปในทะเล

หนทางรอด...ของประเทศญี่ปุ่น คือ...ชาวญี่ปุ่นทุกคน ต้องร่วมมือกัน...ขอขมาในสิ่งที่ได้กระทำผิดพลาดมาในอดีต ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ช่วยกันคิดว่า...ทองคำ ที่นำมาเหล่านั้น....ควรจะนำไปทำอะไร จึงจะดีที่สุด...เพื่อให้เกาะญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นอยู่รอดต่อไปในอนาคต และ ชาวญี่ปุ่น จะต้องช่วยกันหันมาทบทวนว่า "หลักสัจจะธรรม" คืออะไร และต้องช่วยกันปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ"...นำ "สัจจะ" มานำชีวิตทุกวัน

เพราะ...สัจจะ คือ หนทางปฏิบัติเดียวที่จะทำให้ชาวญี่ปุ่น และเกาะญี่ปุ่นรอดอย่างปฏิหาริย์ !!!!!!! หน้าที่สำคัญของชาวญี่ปุ่น...คือ การไม่สนับสนุนให้ใช้อาวุธนำวิถี อาวุธนิวเคลียร์ เพราะ...จะมีผลอย่างรุนแรงต่อเปลือกโลก จนทำให้เกาะญี่ปุ่นจมทะเลไปในที่สุด ท่านผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องอยู่ในความสงบ ญี่ปุ่น จะต้อง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่สนับสนุน...ที่จะก่อให้เกิดสงคราม การยิงขีปนาวุธ...ครั้งต่อไป เสมือนสัญญาณเริ่มต้นภัยพิบัติทั้งปวง หาก...ท่านและชาวญี่ปุ่นเชื่อ และปฏิบัติตาม....จะถือเป็นพรอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะ....เป็นการให้โอกาสชาวญี่ปุ่นทุกคนแล้ว

หาก....ไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมอย่างยิ่ง เรื่องที่แล้ว....ก็แล้วไป ตั้งแต่บัดนี้ขอให้เริ่มต้นใหม่ !!!!!!!

- " หนุมาน ผู้นำสารจาก โลกุตตระ"

หนุมาน ผู้นำสาร
19-04-2007, 02:18 PM

ที่มา http://palungjit.org/4470798-post41.html

 

รู้สู้ภัยพิบัติ : บทเรียน 4 ปี สึนามิที่ญี่ปุ่น​

เผยแพร่เมื่อ 4 มี.ค. 2015​

 

จิ๊กซอว์ประเทศไทย : สร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง​

เผยแพร่เมื่อ 23 มี.ค. 2015​