ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

วิกฤติภัยแล้งปี 58 แล้งลามถึงน้ำตก ชันตาเถรแห้งขอด​

​

ถนนเลียบคลอง ที่ปทุมฯทรุดอีก

ปริมาณน้ำเขื่อนหลัก 4 แห่ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังวิกฤติ แม้จะมีน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นรวม 21.88 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าวันที่ผ่านมากว่าครึ่ง แต่ยังน้อยกว่าปริมาณน้ำระบายออก ขณะที่เกษตรกร จ.สุโขทัย ครวญฝนที่ตกลงมาช่วยอะไรไม่ได้ ไร่ข้าวโพด ไร่ถั่วเขียวที่ปลูกไว้แห้งตายต้องไถทิ้งเป็นหนที่สอง ขณะที่ถนนเลียบคลอง 8 ปทุมธานี ทรุดยาว 150 เมตร เนื่องจากน้ำในคลองแห้งขอด ส่วนน้ำตกชันตาเถร จ.ชลบุรี น้ำน้อยเป็นประวัติการณ์ บางจุดแห้งขอดเหลือแต่โขดหิน กรมอุตุนิยมวิทยาคาดภาคเหนือ ภาคอีสานฝนลดลง แต่จะมีร่องมรสุมพาดผ่านช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. ทำให้ฝนเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ภัยแล้งภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางยังเป็นปัญหาซ้ำเติมทุกข์ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะชาวไร่ชาวนาที่พืชผลการเกษตรเหี่ยวเฉาใกล้ยืนต้นตาย แม้จะมีการทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมายังไม่เพียงพอและไม่สามารถเติมน้ำในเขื่อนได้เท่าที่ควร ขณะที่เขื่อนหลักจ่ายน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางระดับน้ำลดต่ำลงอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก หลังจากฝนตกในหลายพื้นที่ของภาคเหนือตอนบนส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล 3.53 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ระดับน้ำยังวิกฤติในระดับ 2 มีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 3,974 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29.52 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง มีน้ำที่สามารถระบายเพื่อการอุปโภคบริโภค และระบบนิเวศจำนวน 174 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 1.80 เปอร์เซ็นต์ และระบายวันละ 8 ล้าน ลบ.ม. เหลือระบายได้อีกเพียง 21 วันเท่านั้น

ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีน้ำไหลเข้า 17.65 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำในอ่าง 3,199 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 349 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ระบายน้ำออก 17.15 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ไม่มีน้ำไหลเข้า ปริมาณน้ำอยู่ที่ 103 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 11 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 60 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ ระบาย น้ำออก 1.73 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีน้ำไหลเข้า 700,000 ลบ.ม. มีปริมาณน้ำ 46 ล้าน ลบ.ม. หรือ 5 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 43 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ มีการระบายน้ำออก 1.29 ล้าน ลบ.ม.

ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั้ง 4 เขื่อน อยู่ที่ 7,322 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การได้ 626 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลเข้า 21.88 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา มีน้ำไหลเข้าเพียง 10.23 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังมีปริมาณน้ำระบายอยู่ที่ 28.17 ล้าน ลบ.ม. สำหรับเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพียง 50,000 ลบ.ม. ปริมาณน้ำในอ่างอยู่ที่ 75 ล้าน ลบ.ม. หรือ 24 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ 52 ล้าน ลบ.ม. หรือ 18 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังต้องระบายน้ำออก 430,000 ลบ.ม.

ที่ จ.แพร่ ฝนที่ตกลงมาในช่วง 2 วันก่อนยังไม่มากพอที่จะฟื้นพืชผลการเกษตรที่เหี่ยวเฉาใกล้แห้งตาย ขณะที่ จังหวัดแพร่ประกาศปิดน้ำตามอ่างขนาดกลางรวม 4 อ่าง เนื่องจากปริมาณน้ำลดลงมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ไม่สามารถปล่อยน้ำได้อีก ขณะที่นายประดิษฐ์ ศศภัทรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ เป็นเจ้าของฟาร์หมูเลขที่ 69/2 หมู่ 3 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ เป็นฟาร์มขนาดใหญ่เลี้ยงหมูในห้องแอร์รวม 5,800 ตัว กำลังเร่งขุดเจาะบ่อบาดาลใหม่ โดยนายประดิษฐ์ กล่าวว่า ฟาร์มมีบ่อบาดาล 8 บ่อ แต่ละบ่อลึก 200 เมตร ตอนนี้น้ำแห้งขอด ต้องเจาะบ่อใหม่ลึกถึง 300 เมตร แต่ไม่พบน้ำใต้ดิน คงต้องขุดบ่อใหม่จนกว่าจะได้น้ำ

ที่ จ.สุโขทัย แม้จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ แต่ ยังไม่สามารถช่วยให้พืชผลการเกษตรรอดพ้นจากภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 9 ต.คลองยาง อ.สวรรคโลก ไร่ข้าวโพด ไร่ถั่วเขียวยืนแห้งตาย ขณะที่สวนมะม่วงขาดน้ำผลมะม่วงร่วงเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยนางแต๋ว มั่นคำ อายุ 72 ปี กล่าวว่า ลูกชายปลูกถั่วเขียวไว้ 30 ไร่ ข้าวโพด 20 ไร่ แต่ขาดน้ำยืนแห้งตายทั้งหมดต้องไถกลบทิ้งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วนฝนที่ตกลงมาไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย

ทางด้านนางรัญจวน ขีดขินไพฑูรย์ อายุ 44 ปี เจ้าของโรงงานทำปลาร้า “บ้านปลาร้าทองคำ” เลขที่ 88/3 หมู่ 12 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย กล่าวว่า หลังจากแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.กงไกรลาศ ลดต่ำลงบางแห่งถึงกับแห้งขอด ชาวบ้านไม่สามารถจับปลาส่งให้โรงงานเพื่อทำปลาร้า ต้องสั่งซื้อปลาทะเลขนาดเล็กจาก อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร มาป้อนเข้าโรงงานแทน ซึ่งต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังต้องขายในราคาเดิมเพราะเกรงจะเสียลูกค้า

ที่ จ.นครสวรรค์ แม่น้ำปิง บริเวณ อ.บรรพตพิสัย เริ่มมีปริมาณน้ำเข้าบ้างหลังมีฝนตกลงมาในช่วง 3 วันก่อน ส่วนแม่น้ำน่านที่ อ.ชุมแสง แม้ปริมาณน้ำไม่มากนักแต่ก็ยังพอให้กับเกษตรกร 2 ฝั่ง ลำน้ำน่านได้ใช้ทำการเกษตร ด้านนายบุญยืน พฤษโชค ประมงจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า น้ำในบึงบอระเพ็ดยังคงอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด 250,000 ไร่ คาดว่ายังคงใช้ได้อีก 30 วัน แต่ถ้าฝนยัง ไม่ตกลงมาเกษตรกรคงไม่สามารถสูบน้ำขึ้นไปใช้ได้อีก ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังต่ำกว่าประตูผันน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด ต้องรอรับน้ำจากน้ำฝนอย่างเดียว

ที่ถนนเลียบคลอง 8 หมู่ 8 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ถนนทรุดตัวลึก 1 เมตร ระยะทางยาว 150 เมตร เนื่องจากน้ำในคลองแห้งขอด เจ้าหน้าที่นำรถลงเป็นทางยาวประมาณ 150 เมตร ลึก 1 เมตร โดยสาเหตุน่าจะมาจากน้ำในคลองไม่มี โดยชาวบ้านบอกว่า ช่วงเย็นวานเห็นถนนมีลอยแยกแต่ไม่มากนัก กระทั่งกลางดึกถนนทรุดตัวลงมาทั้ง 2 ช่องทาง จนรถไม่สามารถผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮขูดผิวถนน พร้อมนำหินคลุกมาปรับพื้นถนนให้ประชาชนใช้ชั่วคราว

ที่สถานีผลิตน้ำประปาของการประปาส่วน ภูมิภาค สาขาธัญบุรี นางนุชนาฏ เอี้ยวสกุล ผู้จัดการ การประปาธัญบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 4 เครื่อง สูบน้ำในคลอง 13 เข้ามาเก็บในสถานีผลิตน้ำโดยนางนุชนาฏกล่าวว่า น้ำในคลอง 13 อาจจะหมดใน 2-3 วันนี้ ต้องสูบน้ำเก็บไว้ทำน้ำประปา เพื่อจ่ายให้ประชาชนกว่า 50,000 หลังคาเรือนใน อ.หนองเสือ ธัญบุรี และ อ.ลำลูกกา ตั้งแต่ช่วงบริเวณคลอง 6 ถึงคลอง 14 และจะเร่งหาแหล่งน้ำดิบใหม่เพื่อไม่ให้ประชาชนขาดแคลนน้ำประปา ขณะที่นางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวว่า ทางเทศบาลได้เตรียมรถดับเพลิงและสำรวจหาแหล่งน้ำดิบให้กับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาธัญบุรี ตอนนี้มีแหล่งน้ำที่เคยเป็นบ่อดินเก่ามีน้ำอยู่เต็ม และได้ประสานขอทางเจ้าของบ่อเรียบร้อยแล้ว หากยังไม่พอคงต้องขอจากอ่างเก็บน้ำพระรามเก้าที่คลองหก โดยใส่รถดับเพลิงนำมาให้ประชาชนไว้ใช้

นายอำนวย ตระกูลศุภชัย หัวหน้าเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมพู่ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ที่น้ำตกชันตาเถร ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติกำลังได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วง ทำให้ปริมาณน้ำน้อยลงกว่าทุกปี บางจุดถึงขั้นแห้งขอดเหลือแต่โขดหิน แหล่งอาหารและแหล่งน้ำของสัตว์ป่าเริ่มหมดลง ทำให้สัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเก้ง กวาง เนื้อทรายมาหากินในพื้นที่โป่งเทียมที่เจ้าหน้าที่สร้างขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องจัดเวรยามเฝ้าดูสัตว์ป่าที่ลงมาหาน้ำและอาหาร เกรงถูกพรานป่าล่า สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมพู่ มีเนื้อที่รวม 90,437.5 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ต.หนองรี ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี ต.บางพระ อ.ศรีราชา และ ต.หนองซ้ำซาก ต.บ้านบึง ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง

ที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยนาก้านเหลือง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านหนองแอก ต.ดงเหนืออ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พล.ต.กนก ภู่ม่วง ผบ.จทบ.สกลนคร นายประดิษฐ์ ปิ่นกระจาย ผอ.โครงการชลประทานสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง สูบน้ำในอ่างเก็บน้ำที่เหลืออยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ระบายลงคลองส่งน้ำช่วยเหลือชาวนาและชาวไร่ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง พืชผลการเกษตรกว่า 1,000 ไร่ ใกล้จะแห้งตาย สร้างความดีใจแก่ชาวบ้านถึงกับกระโดดลงน้ำคลอง โดยนายประดิษฐ์ กล่าวว่า ชาวนาได้เพาะปลูกข้าวแล้ว 600,000 ไร่ จากพื้นที่นาข้าว 1,200,000 ไร่ ปีนี้ปริมาณน้อยสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบต่ออ่างเก็บน้ำและผู้ใช้น้ำขอให้ทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัด

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศว่า ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค.ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงจะยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักได้บางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตลอดช่วง ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ก.ค. อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “จันหอม” บริเวณชายฝั่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และพายุไต้ฝุ่น “นังกา” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางประเทศญี่ปุ่น โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 ก.ค. 2558

หมดทางหาน้ำใช้ ชาวบ้านกำแพงเพชร พึ่งนางแมว แห่ขอฝน​

​

หมู่บ้านหนองแดน จ.กำแพงเพชร แล้งหนัก ฝนไม่ตกมานาน แหล่งน้ำแห้งขอด มันสำปะหลังตายไปแล้ว 3 รอบ นาข้าวทำไม่ได้ เพราะขาดน้ำ ชาวบ้านหมดปัญญาจะหาน้ำมาใช้ ต้องพึ่งประเพณีโบราณ แห่นางแมวขอฝน...

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ชาวบ้านหนองแดน หมู่ที่ 2 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โดยการนำของนายนิด ดีประชา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโกสัมพีนคร หมู่ที่ 2 ได้ทำพิธีแห่นางแมว เพื่อขอฝน โดยนำแมวเพศเมียสีดำใส่กรง เดินไปตามถนนภายในหมู่บ้าน ตามความเชื่อของชาวบ้านที่สืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ หลังจากฝนทิ้งช่วงจนทำให้เกิดความแห้งแล้งขึ้น โดยเฉพาะต้นมันสำปะหลังแห้งเฉายืนต้นตายเพราะขาดน้ำ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก นอกจากนี้แหล่งน้ำที่มีอยู่ก็แห้งขอดจนทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตร

ชาวบ้านลองใช้วิธีโบราณ 'แห่นางแมวขอฝน' เผื่อจะมีฝนตกลงมาบ้าง
ในระหว่างขบวนแห่เคลื่อนผ่านไปตามถนน ได้มีชาวบ้านใช้น้ำสาดใส่นางแมวที่ถูกขังใส่ไว้กรง พร้อมกับตุ๊กตาโดราเอมอนตัวเล็ก เพราะกลัวฝนจะตกหนักเกินไปจนทำให้เกิดน้ำป่า ซึ่งมีชาวบ้านผลัดเปลี่ยนกันแบกหาม พร้อมร่วมกันร้องรำทำเพลงนางแมวขอฝน โดยทุกคนต่างคาดหวัง และเชื่อกันว่าหลังทำพิธีโบราณนี้แล้ว จะมีฝนตกลงมาจริงๆ

ด้านนางแรม พิลึก อายุ 65 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ปีนี้ประสบปัญหาแล้งหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา และรุนแรงในรอบ 40 ปี มันสำปะหลังที่ตนทำไว้ แห้งตายไป แล้ว 3 รอบ ทำให้สูญเสียเงินลงทุนไปจำนวนมาก ซึ่งในปกติทุกปี จะมีฝนตกตามฤดูกาล น้ำท่าไม่ค่อยขาดทั้งน้ำกินน้ำใช้และน้ำทำการเกษตร ถึงจะขาดบ้างก็ไม่เท่ากับปีนี้ซึ่งแล้งยาวนานมาก ชาวบ้านหมดปัญญาจะหาน้ำได้จากที่ไหน จึงต้องพึ่งศาสตร์โบราณโดยการแห่นางแมวเพื่อขอฝน ตนจึงชักชวนชาวบ้านมาทำพิธีแห่นางแมวแบบโบราณเพื่อขอฝนตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้ฝนตกหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ค. 2558

โจรใต้ป่วนสุไหงโก-ลกอีกรอบ กดระเบิดกลางดึก 4 จุดรวด​

​

วุ่นไม่เลิกโจรใต้ป่วนเมืองอีก ซุกระเบิดแล้วกดบึมซ้ำทำร้านค้าไฟไหม้ยับ 4 จุดที่ อ.สุไหงโก-ลก จนท.ตำรวจเตรียมส่ง กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งเช้าวันนี้...

เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 11 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 4 ลูกซ้อน โดยจุดแรกที่ ร้านสมชายอะไหล่ยนต์ เลขที่ 226 ถนนประชาวิวัฒน์ ของนายสมชาย ลือเดชวุฒิไกร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 4 ชั้น โดยจุดระเบิดอยู่ที่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่เก็บสินค้าส่งผลทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วลุกลามทั้ง 4 ชั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการดับเพลิงนานกว่า 4 ชั่วโมง

จุดที่ 2 ที่ร้านไทยอุปกรณ์ก่อสร้าง ถนนประชาวิวัฒน์ ซอย 1 จุดที่ 3 ร้านแสงเจริญ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายประทัดและดอกไม้ไฟ อยู่ด้านหลังตลาดสดเก็นติ้ง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่อำเภอใกล้เคียงกว่า 10 คัน แยกย้ายกันสกัดกั้นต้นเพลิง และต้องใช้เวลาสกัดกั้นต้นเพลิงจนถึงรุ่งเช้าเช่นกัน เพลิงจึงสงบลง ส่วนจุดที่ 4 ที่ร้านคาเธ่ย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.สุไหงโก-ลก จุดนี้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีเพลิงไหม้

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า เหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คนร้ายได้อาศัยแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล ไปซุกไว้ในกองสินค้าภายในร้าน โดยตั้งเวลาไล่เลี่ยกันคือช่วงเวลา 00.10 น. และได้เกิดระเบิดขึ้นส่งผลทำให้ไฟได้ไหม้สินค้าภายในร้าน และลุกลามจนได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ค. 2558

ทั่วไทยฝนลด ขณะภาคใต้ ยังมีฝนตก-คลื่นลมแรง ชาวเรือระมัดระวัง​

​

ไทยฝนลดลง แต่ภาคใต้ยังมีฝนตก ขณะอ่าวไทยและอันดามัน ทะเลยังคลื่นสูง 2-3 ม. ชาวเรือและนักท่องเที่ยว ระมัดระวัง พายุไต้ฝุ่น "จันหอม" ไปจีนไม่มีผลกระทบไทย

วันที่ 12 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี ปรากฏว่า ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคอีสาน มีกำลังอ่อนลง จึงทำให้บริเวณประเทศไทย มีฝนลดลง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้อันดามันยังคงมีฝนตก ด้านคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือและผู้ให้บริการท่องเที่ยวโดยเรือ เดินเรือความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 สำหรับพายุไต้ฝุ่น “จันหอม” กำลังเคลื่อนผ่านบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศจีน โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝน ตั้งแต่ตอนบนถึงตอนกลางของประเทศ ในวันนี้ พบว่า มีกลุ่มฝนก่อตัวตั้งแต่ช่วงเช้า ที่ภาคอีสาน ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนัก ที่จังหวัดนครพนม มุกดาหาร และสกลนคร ฝนตกปานกลางที่จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ฝนจะตกไปจนถึงช่วงสายของวัน

อีกจุดที่ภาคตะวันออก มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ที่จังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง มีฝนตกในช่วงเช้า ช่วงสายกลุ่มฝน จะแผ่ขึ้นไปตกที่จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก กรุงเทพมหานคร นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กาญจนบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี มีฝนตกปานกลาง ส่วนอีกจุดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีฝนตกปานกลาง เช่นกัน ในช่วงเที่ยงกลุ่มฝนจะค่อยๆ กระจายตัวออกในภาคกลาง ภาคตะวันออก และบางส่วนของภาคเหนือ โดยมีฝนตกปานกลาง แต่ที่ภาคอีสาน ฝนยังคงตกหนัก อย่างต่อเนื่อง ในช่วงบ่าย มีฝนตกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และตากไปจนถึงช่วงเย็น หลังจากนั้นกลุ่มฝนในประเทศจะกระจายตัวสลายไป

ส่วนภาคใต้มีกลุ่มฝนก่อตัวในช่วงเช้า มีฝนตกโปรยๆ ที่จังหวัดระนอง ในช่วงสายมีฝนตกปานกลางที่จังหวัดตรัง กระบี่ และบางส่วนของสตูล ช่วงเที่ยงมีกลุ่มฝนก่อตัวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ทำให้ฝนตกปานกลาง อีกจุดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีฝนตกปานกลาง ช่วงบ่ายมีฝนตกเพิ่มเติม ที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาบางส่วน จะตกไปจนถึงช่วงค่ำและสลายไป กลุ่มฝนจะก่อตัวขึ้นใหม่ในช่วงกลางดึกทำให้มีฝนตกหนัก ที่จังหวัดระนอง ภูเก็ต และพังงา

ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้

ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส

ภาคอีสาน มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส

ภาคกลางมีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ควรระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

กรุงเทพมหานคร มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีโอกาสเกิดฝน 41% ในช่วงเวลา 09.00-13.00 น. มีฝนตกปานกลางถึงหนัก และเวลา 16.00-17.00 น. อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ตะลุยธรรมชาติ ตามหาภูเขาไฟ​

10 ก.ค. 58 สวัสดี

07:01 นิมิต ชิดเช้า เล่าว่า พสุธา ร้อนลุ่ม กลุ้มใจ พื้นดิน นั้นลุก เป็นไฟ ทำใจ ให้ดี พี่เอย

07:02 ข่าวช่อง ๓ อุกาบาต ระเบิดเหนือท้องฟ้า สระแก้ว

07:06 นิมิตเช้า นั่งรถไปกับญาติ แวะพักที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใกล้ที่จอดรถมองดูพื้นดิน เห็นรอยไหม้เป็นหย่อมๆ พร้อมควันไฟลอยขึ้นมา เห็นชาวเขารำวงพื้นบ้านในห้อง มีเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นเข้ามานั่งในรถแต่เสียสติ

07:08 ภาพจะสื่อถึง พื้นดินใกล้ประทุเป็นไฟขึ้นมา พื้นที่คือภาคเหนือ ชาวเขาและคนญี่ปุ่น จะสือถึงภาคเหนือ

07:08 เดี๋ยวนี้คนญี่ปุ่นมาอยู่ภาคเหนือเยอะ

เทพบดี ๙๗

ที่มา แจ้งข่าวเตือนภัยทางอีเมล์จากคุณ k_97

 

ประเทศไทยมีภูเขาไฟจริงหรือ?​

อัปโหลดเมื่อ 29 ธ.ค. 2011​

 

ลือ!! พบขี้เถ้าภูเขาไฟ บริเวณหาด วนกร จ.ประจวบคีรีขันธ์​

เผยแพร่เมื่อ 31 ส.ค. 2014​

 

สารคดี ภูเขาไฟมหาประลัยโลก​

เผยแพร่เมื่อ 9 ต.ค. 2014​

 

​

ลุงคนเชียงใหม่ สมาชิก

คนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งมาตั้งหมู่บ้านเล็กๆ ช่วงรอยต่อของอำเภอสะเมิงกับอำเภอแม่ริม เชียงใหม่ มากมายหลายกระแสทั้งผู้รู้จริงและผู้ที่คาดเดาเอาตามกระแส จนถึงทุกวันนี้ก็มีเพียงกลุ่มคนเล็กๆเท่านั้น ที่มีการเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง ลุงพบมีคนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งมาตั้งหมู่บ้านเล็กๆของเขา ในเขตชนบท ห่างจากหมู่บ้านอื่นๆพอสมควร ช่วงรอยต่อของอำเภอสะเมิงกับอำเภอแม่ริม ใช้ชีวิตกันแบบพึ่งพาภายนอกชุมชนน้อยมาก

พื้นที่บริเวณหมู่บ้านมีการปลูกพืชอาหาร ที่เพียงพอกับคนในกลุ่มบ้านนั้น(ประมาณ 20 หลังคาเรือน) เช่นพวกกันแกว มันฝรั่ง เผือก(เขาเน้นอาหารที่มีหัวในดิน คิดว่าเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมีเพียงอาหารพวกนี้แหละที่ปลอดภัยอยู่ในดินไม่ ต้องมาเก็บไว้ในบ้าน นานหลายเดือน) ลุงไปเที่ยวพูดคุยกับเขา พบว่าเป็นช่วงที่เขากำลังจัดงานปิดไฟฟ้าไม่พึ่งพาอาหารนอกชุมชน ประทับใจมากเพราะเขาสามารถอยู่กันได้ โดยไม่ต้องอาศัยไฟฟ้า และไม่ไปซื้ออาหารจากนอกชุมชน เลย เป็นเวลา 7 วัน (คงเป็นการทดสอบระบบ)

ทุกบ้านมีแท้ง PVC ขนาดใหญ่ที่เก็บน้ำที่พอใช้บริโภคได้เป็นเดือน รวมทั้งมีโรงพยาบาลเล็กๆในชุมชนที่มีความพร้อม ขนาดที่ลุงเห็นแล้วตกใจ บ้านเก็บทุกหลังสร้างจากไม้ หลังคามุงสังกะสีทับด้วยหญ้าคา (คงป้องกันการพังทลายจากเหตุแผ่นดินไหว) มีห้องประชุมกลางของหมู่บ้านที่ทำเป็นเหมือนหลุม ขนาดใหญ่และใช้ซุงทำเป็นคล้ายกระโจมร้อยด้วยเชือกสลิงทำเป็นหลังคา (คงเอาไว้หลบภัยถ้ามีอะไรตกจากท้องฟ้าลุงเดาเอา) ทุกหลังคาเรือนมีระบบไฟสำรองคือแบตเตอรี่บ้านละ 5-10 ลูก ไม่นับไฟฉาย

มีถ่านฟื้นทุกบ้านกองเบ้อเริ่ม และอะไรๆอีกมากมายเล่าไม่จบ สิ่งที่ทุกคนในชุมชนเล็กๆนี้ พูดคุยกันตลอดก็คือ BEST PLACE หรือบ้านที่ปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจ เขาอนุญาตให้คนนอกชุมชนเข้าไปน้อยครั้ง อย่างที่รู้เรื่องนะ แต่เวลาขับรถผ่าน ถ้าไม่ลงไปถามลักษณะภายนอก ก็ดูเหมือนชุมชนชนบทบ้านเราหมู่บ้านเล็กๆหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้นเอง ลุงไปเจอและรู้จักเขาเพราะบังเอิญเจอกันที่วัดเลย รู้เรื่องเอา(ขออนุญาตไม่ระบุที่ชัดเจนนะเพราะรับปากเขาไว้แล้ว เขาขี้เกียจมีคนไปรบกวนและตอบคำถามคนที่ไปเยาะเย้ยถางถางว่าบ้าอะไรพรรณ์ นี้)

คนจากประเทศอื่นกว่าครึ่งร้อย กำลังมาเตรียมพร้อมในบ้านเรา ลุงถามว่าทำไมเลือกตรงนี้ เขาตอบว่ามีคนคำนวนทั้งทางธรณีวิทยา และศาสตร์ต่างๆแล้วที่นี่ปลอดภัยที่สุดทั้งจากภัยทางธรรมชาติทางน้ำ ทางแผ่นดินไหว(อันนี้ไม่แน่ใจบ้านลุงไหวมา หลายครั้งแล้วในช่วงนี้แรงด้วย แต่คงน้อยกว่าที่ญี่ปุ่น ) และความมีน้ำใจของคนที่จะไม่ฆ่าฟันกันเอง ในขณะที่เกิดความอดอยาก เพราะมีทางเลือกด้านอาหารมากกว่าภาคอื่นๆ

ที่สำคัญคือ เขามีการเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง และเป็นกลุ่มที่มีอะไรจะได้ช่วยกันได้เต็มที่ มากกว่าคนที่รู้แล้วต่างคนต่างเตรียม ลุงอยากจะชวนให้มีกลุ่มคนที่มีความเชื่อมั่น และพร้อมที่จะเลือกชุมชนใหม่ด้วยกันมาคิดร่วมกันมาทำชุมชนอย่างนี้ด้วยกันจะดีใหมครับ มีใครสนใจบ้างครับ เราลองมาจับกลุ่มใหญ่ๆคุยกันและหาหมู่บ้านเพื่อการอยู่รอดกันดีใหมครับ

ลุงมีข้อมูลที่เขาคาดเดาว่าอะไรจะเกิดเล่าให้ฟัง

1.เขาเชื่อว่าภัยพิบัติจะเกิดจากแผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เขาเชื่อว่ามังกร (ประเทศญี่ปุ่นจะบินขึ้นผงาดบนฟ้าแล้วหายไป คงหมายถึงประเทศญี่ปุ่นหายไป) จะทำลายโลกอย่างแน่นอน และปรากการณ์อย่างหนึ่งคือ พื้นหินชั้นใต้ดินที่เก็บน้ำไว้จะแตกหัก ถ้าน้ำไม่ลงไปข้างล่างก็จะขึ้นมาข้างบน จะทำให้ขณะเกิดเหตุน้ำจะเจิ่งนองไปหมด ยังไม่นับที่เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำต่างๆพังทลายลงไป

ลองนึกภาพ เขื่อนใหญ่ทั้งหมดของเราแตกพร้อมกัน ทำให้นึกถึงภาพขนาดของน้ำจำนวนมหาศาล ที่จะกวาดลงไปตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเขื่อนแม่งัดแม่กวง เขื่อกิ่วลมที่ลำปาง เขื่อสิริกิตต์ที่อุตรดิตถ์ เขื่อนภูมิพลที่ตาก แตกพร้อมๆกัน ขณะเกิดแผ่นกดินไหวที่บ้านพักอาศัยพังทลายไปแล้ว ทุกอย่างก็จะถูกกวาดไปลงทะเล (อย่าลืมคิดคำนวนปริมาณน้ำที่โผล่ออกมาจากใต้ดินที่เกิดจากชั้นหินที่เก็บ น้ำไว้ถูกทำให้แตกหักทำลาย)

2.ความอดอยาก จะตามมาหลังเหตุการณ์ที่ 1 ที่ตามก็คือน้ำที่มีอยู่ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วจากที่ชั้นหินที่อยู่ไต้ดิน ที่ทำหน้าที่อุ้มน้ำมีรอยรั่ว บ่อน้ำที่มีอยู่จากบ่อน้ำหรือที่หาได้ก็จะหมดไป น้ำสะอาดจะหายากขึ้น ยังไม่พออาหารเท่าที่มีจะถูกกวาดไป คือแผ่นดินไหวทำลาย แล้วน้ำก็กวาดไปทิ้ง ที่เหลืออยู่ก็ไม่พอบริโภค

3.สงครามแย่งอาหาร และสงครามเต็มพื้นที่ ดังนั้นเขาจึงเตรียม สถานที่ๆไม่ถูกทำลายจากแผ่นดินไหว เลือกภูเขาที่ไม่สูงห่างจากแนวร่องลำน้ำที่มีเขื่อนอยู่ต้นน้ำ เตรียมน้ำ อาหาร และยารักษาโรคอย่างพอเพียง(มากกว่าคน 100 คน ต้องการร่วม 10 เท่า) รวมทั้งมีการใช้วิทยุคลื่นสั้นติดต่อกันระหว่างบ้าน แทนที่จะเลือกใช้การสื่อสารที่ทันสมัยอย่างอื่นๆ

ลุงอยากจะหาแนวร่วมที่อยากมาอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน ศึกษาหาพื้นที่ที่ปลอดภัย (ไม่ได้กลัวตายนะ แต่อยากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเปลี่ยนแปลง ไม่อยากตายตอนหัวม้วน เพราะตอนกลางเรื่องอาจจะได้เห็นอะไรที่ทั้งชีวิตไม่เคยเจอมา)หวังว่าจะมีผู้ร่วมบุญกับลุงมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ขอบุญกุศลคุ้มครองทุกคน ส่วนใหญ่พอเอ่ยชื่อ ต้องตกตะลึง ที่เจ้าของบริษัทใหญ่ๆมารวมกันที่นี่ นักวิทยาศาสตร์ ชั้นยอดเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยี่ขอญี่ปุ่น ใช้เวลาปีละกว่า 5-6 เดือนอยู่ที่นี่

เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกนี้มาเพื่อเป็นทำการอะไรบางอย่าง หรือเตรียมการอพยพ ผู้คนจำนวนมากมาในอนาคต เพราะคิดว่าเกาะญี่ปุ่นอาจไม่ปลอดภัย...อยู่ที่ใหนก็ได้...ที่ห่างไกลผู้คนมากที่สุด หรือ เข้าถึงได้ยาก เรียกว่า ที่ตาบอด น่าจะดีกว่า....เพราะคนด้วยกันนี่แหล่ะ อันตรายที่สุด ....เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่จะคิด

มีหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่ทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน มีเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ เฉียดผ่านเส้นทาง ในระยะ ๑-๒ กม และต้องเดินทางจากสถานีรถไฟนี้ เข้าไปในหุบเขาลึก อีกประมาณ กว่า ๓๐ กิโลเมตร ทราบมาว่า เป็นหมู่บ้านพึ่งพาตนเอง และเกือบตัดขาดกับ โลกภายนอก...มีเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในหมู่บ้าน...เกือบไม่มีคนไทยเลย ที่นี่ รับรองว่า อย่าว่าแต่คนต่างถิ่นเลย แม้แต่คนเหนือในลำพูน ก็ น้อยคนนักที่จะรู้จัก....แบบนี้ซิถึงจะน่าสนใจ ท่าทางญี่ปุ่นจะมาซ่อนตัวอยู่เมืองไทยกันเยอะจริงๆ

เขียนโดย ARCHYSHOP วันที่ 5/14/2554

ที่มา นึกไป เขียนไป: คนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งมาตั้งหมู่บ้านเล็กๆ ช่วงรอยต่อของอำเภอสะเมิงกับอำเภอ

 

ตำนานพระพุทธบาทสี่รอย​

​

ทำไมพื้นที่สองลำสามเชียงเป็นพื้นที่ในตำนาน และมีความสัปปายะเหมาะสมอย่างไร แต่เมื่อมองย้อนกลับไปดูข้อมูลเกี่ยวกับพระอรหันต์ในบ้านเรา หลายคนคงแปลกใจนะครับว่า ทำไมพระอรหันต์ในยุคของเรา เช่น พระอาจารย์มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม ล้วนแต่มาบรรลุธรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือแม้แต่พระโพธิสัตว์ อย่างครูบาเจ้าศรีวิชัย ก็มาสร้างบารมีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งๆที่ท่านเป็นพระที่พื้นเพอยู่ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ท่านที่มีบารมีธรรมที่สามารถแยกกายจิตได้แล้วนั้น จะเห็นความแตกต่างในการมาบำเบ็ญบารมีในเขต พื้นที่ที่ได้กำหนดกล่าวไว้ในตำนาน ครับ

**********************************************
ทำไมพื้นที่นี้จึงต้องดำรงอยู่ ไม่ถูกทำลายมากนักในยามเกิดภัยพิบัติ
**********************************************

หลายคนคงทราบเกี่ยวกับตำนานพระพุทธบาทสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงมาแล้ว ในภัทรกัป นี้คือ

๑. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ซึ่งเป็นรอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว ๑๒ ศอก

๒. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมโน ซึ่งเป็นรอยที่ ๒ ยาว ๙ ศอก

๓. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งเป็นรอยที่ ๓ ยาว ๗ ศอก

๔. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตโม (องค์ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นรอยที่ ๔ ยาว ๔ ศอก

และมีพุทธพจน์ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรัสแก่พระอานนท์และได้บันทึกไว้ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จประทับพระบาทซ้อนรอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ แล้วก็ทรงอธิษฐานว่า เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทนี้ เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ก็จักปรากฏแก่ปวงมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เพื่อมนุษย์และเทวดาทั้งหลายจักได้มากราบไหว้และสักการะบูชา เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้ว จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ จึงกำเนิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย

เมื่อพระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระพุทธบาทแล้ว ก็เสด็จไปเขตวันอาราม อันมีในเมืองสาวัตถีนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาทสี่รอย หมายถึงเป็นแลนด์มาร์ค ที่พระพุทธเจ้าุกพระองค์ในมหากัปป์นี้ได้ กำหนดอธิฐานไว้ว่าจะต้องคงอยู่จนกว่าจะถึงยุคพระศรีอริยเมตไตย์ เพื่อจะเสด็จมาโปรดเปรตหิน ที่เป็นแท่นที่หินประทับรอยพระบาทให้พ้นจาก การเป็นเปรตหินและบำเพ็ญเพียรจน สามารถบรรลุธรรมเป็น พระปัจเจกพุทธเจ้า ดังนั้น จึงเป็นเหตุหนึ่ง ที่สถานที่ในเขตโซนนี้จึงต้องคงสภาพพื้นที่นี้ไปจวบจน ถึงซึ่งยุคพระศรีอริยเมตไตย์ ซึ่งในส่วนของพระพุทธบาทอื่นๆนั้น ไม่มีพุทธพจน์ทำนายไว้

***********************************************
ประวัติเปรตหินที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ เสด็จมาโปรด
เป็นพระพุทธบาทสี่รอย
***********************************************

ย้อนไปในอดีตกาลอันไกลโพ้น นับได้ ๙๒ กัป ที่ล่วงมาแล้ว ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง สมัยนั้นนั่นแลทรงพระนามว่า “พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า” เสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ ให้ล่วงพ้นวัฏฏสงสาร เฉกเช่นเดียวกับพระสมณโคดมพุทธเจ้าของเราในปัจจุบันสมัยนี้ ในครั้งนั้นบังเกิดมีพระสาวกองค์หนึ่งในพระวิปัสสีพุทธเจ้า มีฐานะเป็นพระสังฆนายก ปกครองพระภิกษุเถรานุเถระเป็นอันมาก แต่พระสังฆนายกองค์นี้ กลับแสวงหาปัจจัยทั้งสี่ อันได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย มากเกินสมควร ได้มีคำสั่งออกไปทั่วสังฆมณฑลว่า

“วัดของเรานี้ไม่เหมือนวัดอื่นๆ ด้วยเป็นที่ชุมนุมของพระมหาเถระเจ้าทั้งหลายอยู่เป็นเนืองนิตย์ ฉะนั้นขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงนำเอาปัจจัยสี่อันเป็นของสงฆ์ทั้งหลาย อันได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย รวมทั้งแก้วแหวนเงินทองทั้งปวงมาให้แก่วัดของเรา เพื่อว่าเราจะได้นำมาถวายทาน แก่พระมหาเถระเจ้าทั้งหลายต่อไป”

เมื่อพระภิกษุทั้งหลายได้รับคำสั่งของพระสังฆนายกดังนี้แล้ว ต่างก็ล้วนลำบากใจ แต่ไม่กล้าทักท้วงคัดค้าน ด้วยเกรงจะมีความผิด คงได้แต่จำใจนำของมามอบให้ที่วัดของพระสังฆนายก จนเต็มโบสถ์เต็มวิหารไปหมด ท้ายที่สุดเมื่อพระสังฆนายกองค์นั้นได้มรณภาพลงไปแล้ว ก็ได้ตกนรก จมลงไปหมกไหม้อยู่ในอบายภูมิทั้ง ๔ ตลอดกาลนาน ด้วยผลกรรมที่ได้เบียดเบียนพระสงฆ์ทั้งหลายให้ต้องได้รับความลำบาก เมื่อชดใช้กรรมในนรกแล้ว อดีตพระสังฆนายกองค์นั้น ก็ได้เกิดมาเป็นเปรต มีนามว่า “มหาศิลาลวงใหญ่” (เปรตหิน) พูดวาจาใดใดไม่ได้ ด้วยสรีระกลายเป็นหิน

เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ ได้เสด็จจาริกประกาศธรรมและโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ (ประเทศไทยปัจจุบัน) จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ และได้ แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้

เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัปป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้ พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด

พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกๆพระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ จักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว (คือประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว)

******************************
วิกรมหลานพระคุณลุง 13-10-2011
******************************

ขอบุญบารมีของ พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ได้โปรดเมตตา คุ้มครองให้ทุกท่าน ด้วยเทอญ

ที่มา http://palungjit.org/threads/แผนที่ละเอียดพื้นที่ปลอดภัย-จากตำนานสองลำสามเชียง.309448/

 

เวรกรรมจากการกระทำของมนุษย์ ผลของกรรม​

​

korn95 สมาชิก

เวรกรรมจากการกระทำของมนุษย์ ผลของกรรม

1- เมื่อมีราคะมาก กามมาก มนุษย์ จะถูกทำลายด้วยน้ำ น้ำท่วม สึนามิ

2- เมื่อมีโทสะมาก โกรธมาก มนุษย์ จะถูกทำลายด้วยไฟ ไฟใหม้ ภูเขาไฟระเบิด

3- เมื่อมีโมหะมาก หลงมาก มนุษย์ จะถูกทำลายด้วยลม พายุเฮอริเคน ใต้ฝุ่น

4- เมื่อมีโลภะมาก โลภมาก มนุษย์ จะถูกทำลายด้วยดิน แผ่นดินใหว ดินถล่ม

5- เมื่อมีมิจฉาทิฎฐิมาก หลงผิดมาก มนุษย์ จะถูกทำลายด้วยอากาศ อากาศเป็นพิษ โรคร้ายแรง

ผลกรรมที่มนุษย์ก่อขึ้น เริ่มส่งผลออกมาให้เห็นแล้ว กฏแห่งกรรมไม่มีไครหนีพ้น.....

ที่มา http://palungjit.org/threads/เมื่อภ...จุบันสำคัญที่สุด-อย่าได้ประมาท.500800/page-19

 

โปรดอย่าทานเนื้อสัตว์กัน​

(ธรรมะโอวาท พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์)​

​

korn95 สมาชิก

เสียงร้องขอชีวิต ที่ไม่มีใครได้ยิน กับ พระโพธิสัตว์ ( ผู้โปรดสรรพสัตว์ ).....

******โปรดอย่าทานเนื้อสัตว์กัน (ธรรมะโอวาท พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์)

อาตมาแบ่งญาณไปเป็นแสนๆ ดลใจมนุษย์ให้รักษาศีลทานอาหารมังสวิรัติมาตลอด แต่พวกท่านไม่สำนึกบาป ยังฆ่า เบียดเบียนมาเรื่อยๆไม่จบสิ้น

อาตมาเห็นจำนวนวิญญาณบาปที่สร้างกรรมด้วยการฆ่า ร่วงลงมาพบอาตมานานนับไม่ได้ อาตมาจึงโปรดสัตว์ไม่หมดนรกได้

จึงขอร้องพวกท่าน ไปบอกมนุษย์ให้หยุดเหตุแห่งทุกข์ ด้วยการหยุดเสพเนื้อสัตว์เสียเถิด มิฉะนั้น ในนรกก็จะไม่มีวันหมดวิญญาณบาปและเจ้ากรรมนายเวรที่มาร้องทุกข์ได้เลย

ยิ่งมนุษย์ฆ่าสัตว์กี่ชีวิต เป็นล้านๆชีวิตได้ ดวงจิตอาฆาตร่วงหล่นมาที่ยมโลกนับไม่ได้ พระโพธิสัตว์จึงแบ่งญาณทำหน้าที่นับไม่ถ้วนเช่นกันในการโปรดสัตว์

มนุษย์ผู้ใดมีจิตเมตตา ไม่เสพเนื้อสัตว์ ท่านนั้นเหมือนได้ช่วยทำงานกิจศาสนาตรงนี้แทนอาตมาและพระโพธิสัตว์ทั้งจักรวาล

ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่ช่วยเข้าใจสัจธรรมชีวิตและหยุดก่อกรรม ท่านได้เดินสายพระโพธิสัตว์เหมือนอาตมา แต่จิตใจท่านต้องมิศีล สมาธิ ปัญญา มีคุณธรรมหากท่านหยุดเสพเนื้อตลอดชีวิตแล้วด้วยจิตสำนึกและศรัทธาของท่านเอง

ขออย่าได้ทานเนื้อมนุษย์ในร่างกายของสัตว์เดรัจฉานกันอีกเลยหนา เพราะพวกเขาก็คือดวงจิตมนุษย์แฝงเหมือนกับพวกท่าน

การกินเนื้อสัตว์เป็นการส่งเสริมให้เกิดการฆ่าอย่างผิดธรรมชาติมากขึ้น เนื่องด้วยพวกเขาไม่ได้ตายเองตามธรรมชาติ แต่มนุษย์ที่โลภในรสกลิ่นทั้งหลายบังคับพวกเขาให้ตายมาเป็นอาหาร

การซื้อเนื้อหรือซากศพพวกเขามานั้น ถือว่า มีบาปติดตัว ผิดศีลข้อที่หนึ่ง ศีลข้อหนึ่งไม่บริสุทธิ์ ผลกรรมที่ได้รับ คือ เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ ครอบครัวแตกแยก สำหรับฆารวาสที่เสพเนื้อสัตว์เป็นนิจ ไม่สำนึกพระคุณฟ้าดิน ยากต่อการบรรลุธรรมแท้ ปัญญามิอาจเปิดได้กระจ่างแท้ในหลักธรรมขั้นสูง เพราะเห็นผิดเป็นถูก

มนุษย์ จริงแล้วในธรรมชาติ มีจิตที่งดงามบริสุทธิ์ มีเมตตาธรรม มีหิริโอตัปปะ เหตุใดท่านทั้งหลายจึงเห็นการตายอย่างทรมานของเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขท่านเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วเล่า

แผ่เมตตา อุทิศบุญด้วยเพียงลมปากเฉยๆไป จะมีประโยชน์อะไร พวกเขาก็รับกระแสพลังเมตตาจากท่านไม่ได้ เพราะท่านมิได้เป็นผู้มีจิตเมตตาพวกเขาอย่างแท้จริงเพราะยังส่งเสริมการเข่นฆ่าสัตว์มาเป็นอาหารด้วยการอยากกิน อยากเสพสุขทางปากมาเป็นของของตน

จิตเมตตากับจิตของยักษ์มารหรือซาตานนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เราขอประกาศว่า ไม่มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ พระโพธิสัตว์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทวยเทพที่มีศีล สมาธิ ปัญญา จะฆ่าสัตว์และอยากเสพเนื้อสัตว์ พวกท่านต่างปรุงแต่งกันไปเองเพื่อสนองกิเลสตัณหา รูป กลิ่น รสอร่อยของตนเองเท่านั้น

จงช่วยกันเผยแพร่สัจธรรม และส่งเสริมการละเว้นเนื้อสัตว์ และการหยุดเบียดเบียนชีวิตกันเถิด

หากท่านไม่เข้าใจ ให้กลับไปบอกกล่าวชาวโลกให้ศึกษา ลังกาวตารสูตร ในพระธรรมไตรปิฎก ทีพระพุทธองค์ได้เทศนาสอนธรรมสำหรับฆารวาสไว้ดีแล้ว

ดังนั้น เมื่อท่านทั้งหลายจะถวายภัตตาหารหรือใส่บาตรให้กับพระภิกษูสงฆ์ผู้เจริญในศีล 227 ข้อและโพธิสัตว์บารมี ขอให้ท่านถวายอาหารบริสุทธิ์ที่ปราศจากเลือดเนื้อหรือชีวิตเวไนยสัตว์เถิด เป็นมหากุศล

เจริญพร.....

( หมายเหตุ จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เนื้อสัตว์เป็นเหตุของโรคมะเร็งและโรคอื่นมากมาย โปรดศึกษาทางเวบไชด์ )

ที่มา http://palungjit.org/threads/เมื่อภ...จุบันสำคัญที่สุด-อย่าได้ประมาท.500800/page-19

 

เมื่อมีราคะมาก กามมาก มนุษย์จะถูกทำลายด้วยน้ำ น้ำท่วม สึนามิ​

อัปโหลดเมื่อ 14 เม.ย. 2011
เผยนาทีชีวิต! ชาวบ้านหนีตาย คลื่นยักษ์สึนามิญี่ปุ่น​

 

สกู๊ป...ความเสียหาย..งดจัดฟูลมูนปาร์ตี้​

เผยแพร่เมื่อ 27 ต.ค. 2014​

หลังเกิดเหตุกับ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎรธานี ทางจังหวัดจึงมีแนวคิดว่าต้องการจัดระเบีย­บ การจัดงานปาร์ตี้ที่เกิดขึ้น ในเกาะพะงัน ที่มีทั้งการขออนุญาติจากรัฐและเป็นการจัดขึ้นเองของผู้ประกอบการในหาด ต่างๆ โดยพบว่าการจัดงานปาร์ตี้ เกิดขึ้นถึง 3 งานใหญ่ต่อเดือนทั้ง ฟลูมูน /ฮาร์ฟมูล และ แบ๊ลคมูล ซึ่งนํามาซึ่งรายได้ของนักท่องเที่ยวจํานว­นมาก แต่เบื้องหลังของรายได้ ก็พบปัญหาทางสังคมเ­กิดขึ้นตามมา

 

ร้านอาหารเจ delivery ส่งทั่วกรุงเทพฯ​

เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ค. 2014​

 

ร้านอาหารมังสวิรัติ Spa Food​

เผยแพร่เมื่อ 14 พ.ค. 2012​

 

Top 5 อาหารเจ นานาชาติ​

เผยแพร่เมื่อ 15 ต.ค. 2012​

 

[อาหารเพื่อสุขภาพ] หมูสะเต๊ะเจ​

เผยแพร่เมื่อ 21 พ.ค. 2015
วิธีทำอาหารเจและมังสวิรัติเพื่อสุขภาพที่­ทำได้ง่ายสะดวก และรสชาติอร่อย!!​

 

ด้นสยาม OTOP น้ำพริกเจกานดา​

เผยแพร่เมื่อ 1 มี.ค. 2015​

 

เจาะทั่วไทย ชิจูย่า เจสไตล์ญี่ปุ่น​

เผยแพร่เมื่อ 17 พ.ย. 2013
ชิจูย่า อาหารเจ สโตล์ญี่ปุ่น @ ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ​

 

เกษตรศาสตร์นำไทย อาหารเจ​

เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2012​

 

อ ยิ่งศักดิ์ บะหมี่มังสวิรัติหม้อดิน​

เผยแพร่เมื่อ 6 เม.ย. 2014​

 

อ.ยิ่งศักดิ์ ซาลาเปาเห็ดหอมเจ​

เผยแพร่เมื่อ 13 ก.ค. 2014​