เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

สาธุ..ถ้ารวยอริยทรัพย์ดังท่านว่า คงโชคดีมากๆเลยล่ะครับ...

หากมีทุกขเวทนาจากการเจ็บป่วย คงต้องขอบารมีท่านช่วยสงเคราะห์ดังประสพการณ์ของน้องแพนบ้างแล้วครับ (ผมคงทำโทษปาณาฯ ไว้พอควร เจ็บป่วยบ่อยๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับทางเดินอาหารครับ ตอนนี้พึ่งยาของวัดท่าซุง ตามที่พี่วรรณแนะนำ มาได้พักนึงแล้วครับ)

ในความหมายของน้องแพนคือ ท่านปู่พระอินทร์ มาแนะนำสงเคราะห์ให้ใช้ "วิชากอบโรค" ของท่านปู่ชีวกฯ หรือครับ

 

สวยคมชัดมากครับ

 

ด้วยความยินดีครับคุณ thth

ขอโมทนาบุญล่วงหน้าด้วยเลยครับ

 

วิชากอบโรคเป็นของท่านปู่พระอินทร์ค่ะพี่ชนน์ ต้องรบกวนอาวันน่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับการกอบโรคให้หลวงพ่อท่านนะคะ

 

*** ท่านปู่พระอินทร์ขอให้ หลวงพ่อวัดท่าซุง งดใช้วิชากอบโรค เพราะช่วงหลัง มีคนไม่ยอมเสียค่าครู 1 สลึง แล้วโรคที่กอบให้ผู้อื่นหาย มาเป็นที่ตัวหลวงพ่อเอง.....ครับ..น่าจะมีอยู่ในหนังสือ"ประวัติหลวงพ่อปาน"....และก็ "หนังสืออ่านเล่น เล่มที่ 16-17-18"...ครับ..

 

ขอบคุณครับ ถ้ายังงั้นก็ง่ายเลยครับไม่พลาดแน่นอน แล้วการฝึกมโนยิทธิสำหรับคนไม่เคยนั่งสมาธิสามารถฝึกได้ไหมครับ ใช้เวลานานไหม สามารถนำเด็กเล็กไปด้วยได้ไหมครับ ขอบพระคุณครับ

 

ขอบคุณครับผม

 

พระคำข้าวกับพระหางหมาก ผมเลี่ยมทองแขวนไว้กับสร้อยทองครับ ไม่ค่อยได้นำมาแขวนครับ จะนำมาแขวนก็ต่อเมื่อออกเดินทางไปไหนไกลๆครับ ส่วนเหรียญนี้ผมเลี่ยมพลาสติกแขวนกับเชือกร่มครับ ก็เลยติดตัวไปได้ทุกที เช่นไป ตลาดนัด ใกล้ๆแถวบ้าน ถึงแม้จะไปต่างจังหวัด ผมก็นำติดตัวตลอด คือแขวนพระหางหมาก คำข้าวข้างใน แล้วเอาเหรียญนี้แขวนไว้ด้านนอก ส่วนตัวแล้วชอบทั้งพระหางหมาก พระคำข้าว เหรียญท้าวเวช อยู่แล้วครับ และศรัทธาในองค์หลวงพ่อ เป็นที่สุด ประสบการณ์มีอยู่ตลอดครับ ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ด้วยดีตลอด อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ ผมไม่ได้งมงาย หรือ มโน ไปเอง

 

สวัสดีครับ คุณอาวรรณ พอทราบประวัติ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่นนี้มั้ยครับ เขียนที่กล่องจัดสร้างปี 51 อยากรุ้ว่าออกในโอกาสใดครับ

<a href="http://www.mx7.com/view2/yqqwyp4exet8mpth" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e60/VXXOb1.jpg" /></a>

 

ถ้าพี่ว่างพี่พอมาเล่าให้น้องๆฟัง ปสก.ซักเรื่องได้ป่าวครับ

 

ไว้จะเอาวิธีพี่ไปลองใช้บ้างครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)

 

อุปสรรคในวัด

ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ก็มาคุยกันว่าตอนนี้ให้ชื่อว่า อุปสรรคในวัด เพราะว่าคนในวัดบรรดาท่านพุทธบริษัท ชื่อว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อปาน
ไปไหนก็มีชื่อเสียง มีคนเคารพนับถือ ยกย่องว่าท่านเป็นพระดีด้วยกันทุกองค์ แต่ว่าพระในวัดก็มี 4 ประเภท

1. อุคฆฏิตัญญู มีปัญญาดีมาก มีปฏิภาณดีมากสนใจในธรรมะปฏิบัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็ฉลาดมาก

2. วิปจิตัญญู คนที่มีศรัทธาดี มีบารมีดี แต่ว่ามีปัญญาน้อยไปนิดหนึ่ง

3. พวกเนยยะ นี่รับฟังคำสองหลวงพ่อปานแล้วต้องรับฟังหลาย ๆ หนจึงปฏิบัติได้ครบถ้วน

4. พวกปทปรมะ พวกประเภทบวชตามประเพณีท่านพวกนี้ไม่มีอะไรมาก วิธีปฏิบัติของท่านก็คือผัดหน้าแต่งตัว บางครั้งก็หนีไปร้องเพลงเสียบ้าง
ทำอะไรทุกอย่างไม่ต่างจากฆราวาส

ฉะนั้น บรรดาท่านพุทธบริษัท ระเบียบนี้ก็เป็นระเบียบของวัดทุกวัด แม้แต่ในปัจจุบันในเมื่อผู้ใหญ่ดี ก็จงอย่านึกว่า ลูกน้องดีเหมือนกันทุกท่านแต่ที่ชั่วก็มี ที่ดีก็มาก

รวมความว่า เมื่อเข้าไปถึงวัด การไปธุดงค์ บรรดาท่านพุทธบริษัท แม้แต่มีดพับก็มีเล่มเล็ก ๆ แล้วก็หักปลาย ไม่ให้เป็นอาวุธ มีดโกนก็นำไปไม่ได้
เพราะมันเป็นอาวุธได้เป็นอันว่า ไปธุดงค์ตั้งหลายเดือน แต่ทว่าเวลากลับมา ผมก็ยาว ไม่ได้โกน

พอเข้ามาในวัด สุนัขที่เคยเลี้ยงไว้ มันก็จำไม่ได้มันวิ่งเข้ามากระโชกเห่า แต่พอเข้ามาใกล้ มันจำกลิ่นได้ มันก็เลิกเห่า มันก็หมอบ มันก็คลาน มันก็
ต้อนรับ กระโดดต้อนรับ

ครั้นมาถึงในวัด ก็ตรงไปหาหลวงพ่อปาน แขกกำลังมากไปถึงก็กราบท่าน ท่านก็บอกว่า พระ 3 องค์นี่เขาฝึกธุดงค์(บอกกับญาติโยม) ญาติโยมจะแปลกใจว่า พระ 3 องค์ นี่

1.ห่มจีวรกรัก 2.แบกกลด และก็ 3.มีย่าม 4. มีกาน้ำ 5.มีบาตร ผมที่ยาวอย่างนี้ก็เพราะว่าการไปธุดงค์ เอามีดโกนไปไม่ได้ ปลงผมไม่ได้ ก็ต้องปล่อยไว้ตามสภาพ

เมื่อกราบท่าน ก็รายงานให้ท่านทราบว่าการไปอยู่ในป่ามีความสุขดี ไม่มีอะไรเป็นอันตราย ท่านก็ยิ้ม ท่านยิ้มแล้วหันไปหาญาติโยมบอกว่า นี่พระของฉันโกหก ทั้ง ๆที่ไปธุดงค์มาแล้วนี่ยังโกหก นี่เอาดีกันไม่ได้ พอฟัง
อย่างนั้นก็ตกใจคิดว่า เอ๊ะ นี่เราโกหกอะไรท่าน

ท่านก็บอกว่า หลังจากที่พวกเธอไปอยู่ที่หลังผักไห่ในเขตศรีประจันต์ วันหนึ่งเธอปวดศีรษะมากใช่ไหมก็กราบท่านบอกว่า ใช่ แล้วท่านถามว่า แล้วทำไมจึงบอกว่า มีความสุขดี เลยกราบเรียนท่านบอกว่าพระอินทร์ท่านมาช่วยรักษาให้ ท่านก็ถามว่า พระอินทร์มารักษาให้ แล้วให้อะไรไว้บ้าง ก็กราบเรียนท่านตรง ๆบอกว่า ให้วิชากอบโรคทิ้ง

ท่านก็ถามว่า ก่อนที่จะกอบโรคทิ้ง ต้องมีครูไหม ก็ตอบว่า ต้องมีครู มีธูป 3 ดอก มีเทียนหนักบาท 1 เล่ม มีดอกไม้ 3 ดอก และเงิน 1 สลึง ท่านบอกว่าถ้าอย่างนั้นดีแล้ว ท่านก็เลยถามญาติโยมว่า ใคร
ต้องการจะรักษาโรคบ้าง (นี่ไม่ต้องพักกันแล้วนะ)รักษาโรค ตำราที่พระอินทร์สอนพระใครต้องการไหมญาติโยมยกมือพรึ่บ (ยกมือพนมนะ) ต้องการครับต้องการค่ะ ว่ากันเป็นแถว ๆ ในที่สุดหลวงพ่อปานก็ให้แสดง บอก เอาเลยทำการรักษาได้เลย

เมื่อญาติโยมทั้งหลายจัดสถานที่เรียบร้อยแล้วตามระเบียบแล้ว มีของทุกอย่าง ก็เลยทำพิธีกอบให้ก็มีคน ๆ หนึ่งบอกว่า ปวดศีรษะมาก พอกอบทิ้ง 3 ครั้งท่านสลัดหัวเป็นการใหญ่ สลัดหัวหาการปวดศีรษะก็เป็นอันว่า ไม่ปวดศีรษะ การปวดศีรษะหายไป

วันนั้นก็เลยต้องทำพิธีการกอบกันเป็นการใหญ่เป็นอันว่า คนที่มีโรควันนั้นประมาณ 100 คนเศษมีคนหนึ่งปวดท้องกำลังปวดมาก พอกอบ 3 ครั้งทิ้งก็หาย ก็รวมความว่า วันนั้นได้เงินหลายสลึง ได้เงิน100 สลึงกว่า ก็นำไปถวายหลวงพ่อปาน

หลวงพ่อปานบอกว่าเขาถวายเธอ ก็เลยบอกว่าพระอินทร์ท่านบอกว่าเงินนี่ใช้ไม่ได้ ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่านผู้มีคุณ ท่านเป็นครู
หลวงพ่อปานก็ยิ้มว่า เออ ทำถูกแล้ว แต่ว่าวิชากอบนี้จะต้องปฏิบัติตามครูสอนเด็ดขาดนะ เงินสลึงหรือว่าดอกไม้ก็ดี ธูปเทียนก็ดี จะเว้นไม่ได้เด็ดขาดหลังจากนั้นท่านก็สั่งให้ไปพัก

เมื่อเข้าที่พัก ก็ปรากฏว่าที่พักเดิมที่พักอยู่ รกรุงรังไปหมด บรรดาพวกพระปทปรมะไปนั่งเล่น นอนเล่นทำสกปรกเสียเยอะแยะ ก็เริ่มวางกลด จะกวาดพื้นที่ก็พอดีเห็นลุงวิมา ลุงวิก็บอกว่า ไม่ต้องกวาดครับเดี๋ยวผมจัดการเอง พวกท่านเอาผ้าออก เปลื้องจีวรออกปลงผมกันก็แล้วกัน ต่างคนก็ต่างช่วยกันปลง ผลัดกันปลงเมื่อปลงผมเสร็จ ก็ปรากฏพื้นที่เรียบร้อยดีทุกอย่าง ที่นั่งที่นอนเรียบร้อย เตาต้มน้ำต้มท่าเรียบร้อย น้ำก็มีเสร็จเรียบร้อย แต่ลุงวิหายไปแล้ว ก็เป็นอันว่า มีความสุข

แต่ว่าบรรดาท่านพุทธบริษัทอุปสรรคใด ๆ ของนักปฏิบัติจะยิ่งไปกว่าอุปสรรคของคนนี่ไม่มี ฉะนั้นบรรดาพระพวกปทปรมะทั้งหลาย เขาเห็นหน้าเข้าเขาก็เรียกว่า เฮ้ยพระอรหันต์มาแล้วโว้ยพระโสดาบันมาแล้วโว้ย อะไรบ้างก็ตาม ผู้วิเศษมาแล้วโว้ย คือพูดยวนกวนใจ

ทีนี้บรรดาท่านทั้งหลาย อาตมาบอกแล้วว่า พวกเรายังไม่ดี ยังเป็นทาสของนิวรณ์ นี่นักปฏิบัติทุกคนควรจำไว้นะคำว่า นิวรณ์ แปลว่า กิเลสหยาบที่ทำปัญญาให้ถอยหลังเมื่อเขาพูด บางครั้งบางคราวจิตใจก็ยั้บยั้ง ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าบางคราวก็ชักไม่ชอบใจเหมือนกัน

ในเมื่ออาการไม่ชอบใจเกิดขึ้น จิตก็มัวหมอง ต้องมีการซักซ้อมกันอยู่เรื่อย ๆ และพระบางพวกก็พูดยียวนต่าง ๆนา ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกฆราวาสในตำบลบางนมโคเองไม่ใช่จะมีคนมีความเลื่อมใสหลวงพ่อปานทุกคนที่เลื่อมใสก็มีไม่เลื่อมใสก็มี ทั้ง ๆ ที่ท่านดีขนาดนั้นที่ไม่มีความเลื่อมใส เขาก็หาว่าอาตมา 3 คนนี่ บ้า

รวมความว่า การพูดคุยกับใคร ต้องถนอมถ้อยคำเขาถามความเป็นมาว่า วิชากอบลองกอบให้ผมซิเวลานี้ผมไม่มีสตางค์ กอบให้รวยสตางค์สิ ก็เลยนึกในใจว่า จะบอกให้เขาฟังว่า กอบให้มีสตางค์น่ะกอบไม่ได้ แต่กอบให้ตายน่ะ กอบได้ พอนึกในใจแค่นี้ก็ได้ยินเสียงบนอากาศบอก อย่าทำนะ ถ้าทำเขาเขาจะเป็นอย่างนั้นทันที จะมีโทษ ในฐานฆ่ามนุษย์ก็เลยยั้บยั้ง


(จากหนังสือ "หลวงพ่อธุดงค์" หน้า 66 - 68)

 

ตามที่่ทราบมาโดยมากหลวงพี่ที่ดูแลวิหารเป็นผู้สร้างกันเองเอาไว้เพื่อแจกแก่คนที่ทำบุญกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ แต่ทำบุญเท่าไหร่ถึงได้รับแจกไม่ทราบเช่นกันครับ ปีที่สร้างบนกล่องเพียงบอกให้รู้เท่านั้นว่าสร้างปีไหน

พระหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ขนาดบูชาหน้าตัก 5 นิ้วก็มีสร้างออกเช่นกันสำหรับผู้ทำบุญกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ น่าจะทำบุญ 5,000 บาทแล้วได้รับพระขนาด 5 นิ้วกลับไปนะครับ พึ่งหมดไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เองเป็นหลวงพี่ที่ดูแลวิหารสร้างกันเองแต่ได้ขออนุญาติก่อนนะครับ เป็นรุ่นไม่ได้สร้างเป็นทางการอย่างรุ่นที่มีีจำหน่ายบูชาในปัจจุบันบนตึกรับแขก

 

รออ่านประสบการณ์ประทับใจจากคุณ Sorravut2009 เช่นกันครับ

 

ต้องลองไปฝึกดูนะครับ ฝึกนานแค่ไหนกว่าจะได้ต้องขึ้นกับความเข้าใจและกำลังใจของเราเองครับ

พาไปได้ครับแต่ถ้าเด็กเล็กมากก็ต้องพยายามดูแลอย่าให้ส่งเสียงรบกวนท่านอื่นๆนะครับ

วันเสาร์ที่ 27 ตอนเช้า 8 โมง มีบวงสรวงชุมนุมเทวดาด้วยครับ

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/5201308.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/5201308.jpg" border="0" alt=" photo 5201308.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/1-15.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/1-15.jpg" border="0" alt=" photo 1-15.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/2-8.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/2-8.jpg" border="0" alt=" photo 2-8.jpg"/></a>

 

มวลสารที่ใช้อุดสมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๕ ใช้มวลสารอย่างเดียวกับรุ่น ๔ หรือปล่าวครับ และในรุ่น ๕ นั้น มีเส้นเกศาของหลวงพ่ออยู่ทุกองค์ไหมครับ เพราะของบางท่านบางทีก็เห็นได้ง่าย บางท่านก็ไม่ได้มีให้เห็น

 

พี่วรรณครับ พอทราบไหมครับว่าราคาชุดสังฆทานที่บ้านสายลมมีกี่ราคา แล้วแต่ละราคาแต่ละชุดมีความแตกต่างกันอย่างไรครับ พอดีคิดเอาไว้ว่าหลังจากเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่างๆที่คั่งค้างเสร็จสิ้นแล้วจะเริ่มเก็บเงินใส่บาตรวิระทะโยไปเรื่อยๆน่ะครับ พอสิ้นเดือนหรือขึ้นเดือนใหม่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปเปลี่ยนเป็นสังฆทานและทำบุญอื่นๆทั้งที่บ้านสายลมและที่อื่นๆครับ