เรื่องเด่น ลองของจนเจอดี@

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ubon2555, 12 มีนาคม 2015.

  1. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่รู้จักค่ะแต่เขาเสียชีวิตไปหลายปี ....เป็นเพื่อนประเภทนักสะสมของแปลกๆเหมือนกับเราค่ะ..เรามักจะสะสมพวกคตต่างๆ.. ไม้กาฝากของอาถรรพ์อื่นๆบ้าง..
    @@@แต่คนที่เราอ้างถึงเขาสะสมของแบบที่คนทั่วๆไปเขาไม่ค่อยสะสมกัน…
    เท่าที่เราเคยเห็นนะค่ะ. มีพวกหัวกะโหลกคนตาย… น้ำมันพราย…. ของใช้ผีตายโหง.. ของประเภทเกี่ยวกับผีๆๆเขาสะสมทุกอย่าง. แค่เรามองๆๆนี่ก็รู้สึกเย็นวาบเสียวสันหลังยังไงไม่รู้.. เคยถามเขาว่าไม่กลัวเหรอสะสมของแบบนี้… เขาบอกว่าไม่กลัวเขามีพระดี มีคาถาอาคมสยบผีได้ เขาไม่กลัว..เขาตอบ.. ที่ไหนเขาล่ำลือว่าผีดุไม่เคยกลัว..เป็นต้องรีบไปลองของ และเก็บของที่ระลึกจากศพมาสะสม
    . เมื่อก่อนเขาก็เป็นเซียนพระ แต่พอเล่นของเกี่ยวกับผีๆๆมากๆเหมือนเขาจะมีพฤติกรรมแปลกชอบนุ่งขาวห่มขาวไปนั่งสมาธิในป่าช้าคนเดียว ...
    ที่ไหนเขาว่ามีผีตายโหงแกชอบแอบไปลนน้ำมันพรายจากศพมาเก็บไว้..
    บางทีมีตอกเอากระโหลกช่วงหน้าผากของผีตายโหงมาเก็บไว้ด้วย..
    .....แต่แล้วเพื่อนบ้านก็ต้องตกใจในตอนเช้าเมื่อไปเจอเขาใส่ชุดขาวผูกคอตายที่ต้นไม้ในป่าช้าที่เขาชอบไปนั่งสมาธิในตอนกลางคือ..
    สาเหตุการตาย… ชาวบ้านพากันพูกว่าโดนพวกผีๆที่เขาเอามาสะสมไว้เล่นงาน เพราะอาคมเสื่อม… หรือเพราะ…..
     
  2. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    บูชาพระรัตนตรัย เทพเทวดา ก็เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง นำพาชีวิตไปสู่ทางที่ดี บูชาผี เล่นกะผี ก็อย่างที่เห็น ผีชวนไปผูกคอตาย
     
  3. kind123

    kind123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +38
    "ตอกเอากะโหลกช่วงหน้าผากของผีมาเก็บไว้ด้วย"

    เข้าใจว่ามีแต่สมัยโบราณ

    ทำได้อย่าไรคะ ญาติคนตายไม่รู้เหรอ ปกติหลังจากสวดศพเสร็จ ก็จะเผา แล้วเค้าไปตอกช่วงไหน อย่างไร?
     
  4. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701

    คงไปเอามาจากผีไม่มีญาติที่ฝังตามสุสาน หรือวัดที่ล้างป่าช้า
     
  5. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    อย่ายุ่งเกี่ยวกับพวกผีๆเป็นดีที่สุดครับ ของแบบนี้มันเข้าตัวเองได้ ผมเองก็เห็นผู้หญิงคนนึงเลี้ยงผีไว้ที่บ้าน เคยไปบ้านเขาทีนึงก็รู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกครับ เหมือนมีใครกำลังจ้องมองเราอยู่ ส่วนผู้หญิงคนนี้ชีวิตเขาก็แย่พอสมควรเป็นหนี้เป็นสินมากมาย ความรักจะรักใครชอบใครเขาก็ไม่สมหวัง ส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะเลี้ยงผีด้วยนี่แหละ ซึ่งชีวิตเขาดูอับเฉา ดูน่าหดหู่จริงๆ
     
  6. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    แบบนี้คือถูกผีหงำ เอาไปเป็นเพื่อนที่เมืองผี
     
  7. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    ยังไง เล่นกับผี มันก็วางแผนล้ำกว่าเราไปได้ หลายก้าวครับ มันเห็นเราได้ตลอด ต่างกับเราที่ยังต้องพัก ต้องนอน เผลอก็โดนครับ
     
  8. รพินทร์นาถ

    รพินทร์นาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +844
    นั่งสมาธิสะสมพุทธคุณ ที่เกิดจาก ศิล สมาธิ และให้กระจ่างในปัญหาทั้งปวง ด้วยปัญญา ครับถ้านั่งเพื่อไว้กำกับคาถาอาคม อย่างนี้เอาตัวรอดจากพวกนี้ลำบาก
    นั่งดีดีเทวดาอยู่กับเราของสะสมแปลกก็ไม่ต้องสะสมแล้วครับ
     
  9. มันไม่แน่

    มันไม่แน่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,956
    หลวงปู่ปาน สั่งว่า อย่าอวดดีกับผี อย่าลองดีกับพระ เพราะของจริงเขามีอยู่...
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เด่วจะเล่าอะไรให้ลองอ่านพิจารณาดูดีๆนะครับ..
    พวกมีวิชา คาถาอาคม หรือมีความสามารถทางจิตในเรื่องที่จะคอย
    ควบคุมดวงจิต ดวงวิญญาน หรือ กระแสภายนอกอะไรพวกนี้มันมี
    มานานมากแล้วมาพร้อมๆกับพุทธศาสนาเรานี่หละครับ..
    และก็เป็นปัญหาสืบเนื่องกันมา จนถึงปัจจุบันนี้ ในกรณี
    ที่ดวงจิตบางดวงที่ได้มาเปลี่ยนร่างใหม่ในปัจจุบันนี้เจอ
    ก็คือพวกสาเหตุการเจ็บป่วยแบบหาสาเหตุไม่ได้
    หรือเจ็บป่วยแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น ทั้งๆที่พยายาม
    หาทางรักษาแล้ว ไม่ว่าทางโลกทางด้านนามธรรมอย่างไร
    ก็ตามก็ไม่หาย..และสุดท้ายก็เป็นเหตุให้ดวงจิตปัจจุบันนี้เปลี่ยน
    ภพภูมิไปแบบคาดไม่ถึงต่างๆนั้นหละครับ.

    และการเปลี่ยนภพภูมิไปนั้นก็จะเปลี่ยนไปอยู่ในภูมิเดียวกัน
    หรือกระแสพลังงานเดียวกัน กับส่วนพลังงานที่ตนเองได้
    ไปเกี่ยวข้องหรือข้องเกี่ยวไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอธรรม
    หมอผี หมอต่างๆที่เกี่ยวกับนามธรรม เกี่ยวกับดวงจิต ดวงวิญญาน
    ทั้งหลายแหล่นั่นหละครับ..

    ที่นี้ปัญหามันไม่ใช่ที่ว่า ผู้ที่ทำได้วิชาเสื่อม อาคมเสื่อม อย่างที่เราๆ
    เข้าใจกันนะครับ หรือผิดผี ผิดครูอะไรกันแต่ฝ่ายเดียวครับ..
    ..และการเคารพพระรัตนตรัย หรือ ยึดพระรัตนตรัย
    เป็นที่สุดที่ได้แนะนำมาก็ถูกครับ...
    เหตุมันคือ การที่ดวงจิตเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่อง นามธรรมทั้งหลายแหล่นี้นั้น..
    ตัวจิตมันจะมี ตัวอุปโลกสร้างครอบดวงจิตขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ตัวอุปโลกน์นี้
    ก็คือ ตะบะ ฌาน ญาณ สมาธิ กำลังจิตจากตัวจิต หรือจากบทสวดมนค์
    คาถาต่างๆนั้นหละครับ..ตัวอุปโลกน์ตรงนี้ มันก็จะเป็นตัวที่ไปเชื่อมกับ
    กระแสพลังงานภายนอกต่างๆ หรือ วิญญานต่างๆไว้นั้นเองครับ..
    ถ้ามีมากกว่า มันก็จะสร้างให้ผู้ทำได้เข้าใจว่า ตนมีวิชา มีความสามารถ
    มีกำลังจิตในการควบคุมพลังงานภายนอกทั้งหลายครับ.....

    เนื่องจากมันมีกระแสจากภายนอกที่มาเชื่อมกับตัวอุปโลกน์พวกนี้อยู่
    นั่งเองครับ..ยิ่งมีกระแสภายนอกมาก ตัวอุปโลกน์เหล่านี้มันก็จะยิ่งมี
    กำลังมากมากเพิ่มขึ้นครับ..มันจะไม่เป็นไปในลักษณะที่รู้แล้ววาง
    รู้แล้วหละ เพื่อคลายตัวอุปโลกน์พวกนี้ เหมือนๆกับบุคคลที่เดินปัญญา
    เพื่อลดละกิเลสครับ..เพื่อเป้าหมายในการให้จิตกับเข้าสู่ธรรมชาติเดิมๆ
    ของตัวจิตเพื่อเป้าหมายการไม่ได้กลับมาเกิดครับ...

    ที่นี้เมื่อตัวอุปโลกน์มันเพิ่มขึ้นๆ โดยที่เจ้าตัวอาจจะยังไม่เข้าใจนั้น
    มันก็จะไปดึงสัญญาจรต่างๆในอดีตที่ตัวจิตเคยสร้างเอาไว้ให้เข้ามารวม
    กันเพิ่มขึ้นเข้าไปอีกจน กระแสภายนอกมันตกผลึกมีความหนาแน่นมาก
    ยิ่งกว่าครับ..ที่นี้เมื่อกระแสภายนอกมันหนาแน่น เวลามันรวมตัวกันเพื่อ
    แหย่อะไร ในดวงจิตเราซักอย่าง ตัวจิตนั้นๆก็จะขาดภูมิต้านทานใน
    การต่อต้านกระแสภายนอกพวกนี้ครับ.ถ้าตกผลึกมาก ก็จะทำให้ดวงจิต
    ขาดการควบคุมร่างกายตัวเองไปเลยคับ เพราะไม่มีกำลังต้านตรงนี้ครับ..
    เป็นเหตุให้บุคคลภายนอกมองเหมือนกับว่าบุคคลนั้นทำอะไร
    ไปแบบไม่รู้ตัวรู้ตัวครับ
    กระแสภายนอกตรงนี้ที่มันมีกำลังมากจากการตกผลึก
    เนื่องจากเราไปเผลอยึดมันเอาไว้แบบไม่ได้ตั้งใจ
    หรือคาดไม่ถึง จากการตั้งใจทำ ตั้งเอานั้นหละครับ..
    มันจึงสามารถควบคุมร่างกายเราได้
    จะให้เราทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ตัวเราครับ..

    การที่ร่างกายเอาเชือกไปผู้คอตัวเองนี่ก็เป็นกรณีหนึ่งเท่านั้นเองครับ..
    ยังมี แหย่ให้เรา ปรามาสพระรัตนตรัย แหย่ให้เราโกรธ เกลียด รัก โลภ
    หลง ต่างๆนาๆ นี่ก็เป็นอีกกรณีครับ.ให้เราลองนึกดูพฤติกรรม
    บางอย่างที่เราแสดงออกมาก็ได้ครับ คิดดูดีๆนะครับ
    ว่าลึกๆแล้วเราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราจะเป็นอย่างนี้
    ทำอย่างนี้ แต่ทำไมมันเหมือนมีอะไรมาดลจิต
    ดลใจให้เราต้องเป็นนั้นหละครับ.นี่หละครับ
    ที่เค้าเรียกว่า กระแสภายนอกมันคอยแหย่ครับ
    มันจะดูว่าเราจะเล่นด้วยหรือเปล่านั่นเองครับ.

    วิธีแก้เราต้องสร้างเครื่องมือตัวหนึ่งให้กับตัวจิตเรา ก็คือ ตัวสติทางธรรม
    ที่จะมาเห็นไอ้พวกกระแสภายนอกต่างๆตรงนี้ให้ได้ครับ ถ้ามันเกิดเราก็
    ต้องดับมันไปก่อน จนกระทั่งหาวิธีเอามันออกไปให้ได้ต่อไป ด้วยวิธีการ
    ที่ไม่สนใจ ไม่ยึดไม่ติด ให้แล้วก็แล้วไป เพื่อไม่ให้พวกกระแสพวกนี้
    มันมีกำลัง สร้างกำลังจนตกผลึก จนกระทั่งให้เราทำอะไรที่เราเองก็พอ
    รู้สึกได้ ว่ามันไม่ใช่เรา แต่เราทำไม่ถึงเผลอทำนั้นหละครับ...

    ปล.ประมาณนี้ครับ..แบบหยาบๆ แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังนะครับ
     
  11. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    คุณ nopphakan ไม่ต้องอธิบายให้มันเหนื่อยเลยคะ พวกนี้มันหลงตัวเอง กูเก่งกูแน่ สามารถต่อกรกะผีได้ สั่งมันได้ เอาวิญญานมาใช้ในทางผิดๆได้ กักขังทรมานวิญญานที่ออนแอกว่า แต่ตนไหนที่แข็งเก่งกว่าก็จะเสร็จมันอย่างที่รู้ๆกัน จริงอยู่คนเรามีของเก่าติดตัวมา ชาติก่อนข้าเคยเป็นหมอไศยผู้ทรงอิทธฤทธ์ ชาตินี้ต้องเป็นอีก อะไรปานนั้น ไม่คิดบ้างหรือแล้วได้อะไรจากตรงนี้ ไม่ช้าก็ตายอีกเสียเวลาเปล่า เค้าต้องใช้พุทธคุณในการศึกษาศาสตร์เหล่านี้ แล้วไม่เฉี่ยวไม่หวนคิดบ้างหรือ พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนอย่างไร พระพุทธเจ้าสำเร็จมาแล้วไม่รู้กี่พระองค์ มีองค์ไหนสอนให้ไปสู้รบกะผีบ้างละ หลักของท่านคือ เมตตา ปล่อยวาง ให้เห็นความไม่เที่ยงจริง ทำจิตใจให้ผ่องใส มีศีล มีทาน แค่นี้ผีก็กราบละ แต่อย่างที่บอกพวกเค้าหลงตัวเอง อยากเก่งกว่าพระพุทธเจ้า ชาตินี้มีของเก่าติดตัวมาก็หลงต่อไป ชาติหน้ามีของเดิมมาอีกก็ก็หลงยาวอีก แล้วเมื่อไหร่จะจบ มันต้องจบที่ตัวเรา มองตัวเราเอง อีกไม่ช้าก็กลายเป็นผีเหมือนกัน รีบๆสร้างความดีอวดผีกันเถิด
     
  12. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    น่ากลัวนะค่ะ. สะสมอะไรไม่สะสมสะสมผีๆๆ
    น่ารักก็ไม่น่ารัก
    ..ออกแนวหลอนอีกต่างหาก
     
  13. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    แล้วประเภทเล่นผีถ้วยแก้วละค่ะ
    ใครเคยมีประสบการณ์บ้าง
    เล่าให้ฟังบ้างนะค่ะ
     
  14. rukmac

    rukmac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +377
    ขออนุญาตินะครับ ผมเชื่อว่าหลายท่านได้ความรู้ ได้สติ จากคำอธิบายของคุณ nopphakan ในหลายๆ ด้าน ในหลายๆเรื่องนะครับ จึงขอความกรุณาคุณ nopphakan เหนือยตามสะดวกแล้วกันครับ จากFC คนหนึ่งครับ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เรื่องทำนองนี้ ส่วนตัวไม่ค่อยอยากจะพูดหรอกครับ...
    แต่อยากจะเขียนๆเตือน บุคคลหรือใครๆก็ตาม
    ที่รูปแบบการใช้ชีวิตของตนเอง ยังเผลอ(ให้คำว่าเผลอนะครับ)
    ไปข้องเกี่ยวหรือยุงเกี่ยว กับเรื่องพวกนี้อยู่
    ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง...
    จะขอแนะนำว่า ควรจะเลิกคบซะ ไม่ว่ากรณีใดๆนะครับ

    ไอ้ที่มันบอกว่า ไปเอาน้ำมันพราย ไปเอากระโหลกมา
    ไปเอาของใช้ของผีๆมา เพื่อสะสม มันเป็นข้ออ้าง
    และข้อแก้ตัวทั้งนั้นหละครับ....
    คนปกติที่ไหน จะไปเอาน้ำพรายมา เค้าก็รู้ๆกันอยู่ว่า
    มันใช้ทำเพื่ออะไร..ได้ยินแล้ว อยากจะหัวเราะให้ฟังร่วง..
    คิดได้ไงวะ..หรือสมมุตินะถ้าจะอ้างว่า
    ไปเอาหัวกระโหลกมาแล้วบอกว่าเพื่อปลง
    อสุภะก็พอฟังขึ้น แต่ใครอ่านก็รู้ว่า ตอแหลชัดๆ..
    อย่างกรณีไอ้ดวงจิตที่มันผูกคอตายเนี่ย
    ..สาเหตุการตาย..ส่วนตัวเรียกว่า การรวมกันมาสหของฝ่ายภพภูมิครับ..
    และส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าบุคคลที่มาทางพุทธศาสนาจริงๆ
    เคารพนับถือในพระรัตนตรัยด้วยใจจริงๆ..
    ต่อให้มีความสามารถทางจิตมากกว่านี้..
    ก็จะไม่ทำเรื่องทำนองแบบนี้ครับ...

    นี่แค่อ้างว่ามีพระดี มีคาถาดี
    และพอมีสัมผัสทางนามธรรมดีหน่อย..
    และใช้กำลังจิตของตนเองเพียวๆที่พอมีบ้าง
    ด้านพลังงานทำให้ใช้ผลของคาถาได้ผล..
    ยังหลงตัวเอง ว่าตัวว่าตน มั่นใจตนเองขนาดนี้..
    แล้วก็ดันใช้ความสามารถระดับหลงตัวเองตรงนี้.
    .กับระดับวิญญานที่เค้าไม่ค่อยมีกำลังจิตอีก..
    ไปสร้างเวรสร้างกรรมกับฝ่ายภพภูมิอีก...
    ยิ่งพอทำได้ ก็หยิ่งทำให้หลงตัวเองเข้าไปกันใหญ่...
    แทนที่จะมีจิตสำนึกในสิ่งที่ตนเองทำ..ว่ามันคือความชั่ว.
    ถ้าสมมุติว่า ผมเป็นชาวบ้านแถวๆนั้น
    แล้วรู้ว่ามีพฤติกรรมแบบนี้นะครับ..
    ก็จะบอกว่า ตายๆ(.เติมกันเอาเองครับ....)ไปเถอะ
    อยู่ไปรกโลกเปล่าๆ..
    ถึงเป็นญาติก็ไม่ไปเผาผีด้วยหรอกครับ.
    .

    ไปใช้กำลังจิตบังคับ ดวงจิตอื่นๆก็เพื่อให้มี ให้เกิด
    ในเรื่องกิเลสทั้งนั้น ออกทางอกุศลล้วนๆ..
    แต่ถ้าหลงผิดไปด้วยเหตุอันใดก็ตาม.
    .แล้วกลับตัวได้.อย่างนี้ให้อภัยกันได้..
    แต่ถึงแม้จะกลับตัวได้..เชื่อไหมครับ

    ถ้ามีลูกหลาน เด่วพวกวัตถุที่ทำไว้
    ก็ส่งผลสร้างความเดือดร้อนให้ลูกหลานอีก
    ต้องหาคนหาห่มเหลือง
    มาดึงวิญญานออกจากวัตถุให้อีก...
    และถึงจะเผาทำลายได้..
    ลูกหลายถึงจะอยู่ได้อย่างผาสุข
    ถ้าไม่มีลูกหลาน..เด่วพอได้กลับมาเกิด ก็จะต้องมาชดใช้กรรม
    ที่ทำไว้แบบเดิมอีก คือป่วยตายแบบไม่ทราบสาเหตุ
    วนเวียนอยู่อย่างนั้น
    แต่ก็ไม่รู้เหตุผลที่เค้าทำนะครับ...
    ส่วนตัวมองว่า สุดแล้วแต่กรรมวิบากแล้วกัน..

    กลุ่มบุคคลที่ทำให้ฝ่ายภพภูมิสะเทือนแบบนี้
    นอกจากจะไม่มีครูบาร์อาจารย์ระดับสูงอยู่เบื้องหลังแล้ว
    เพราะพวกนี้มันมักจะหลงตัวเอง คิดว่าตนเก่งกว่าครูบาร์อาจารย์ครับ..
    และนอกจากจะหลงตัวเองแล้ว...
    จะต้องเจอแบบนี้เป็นปกติทุกดวงจิตครับ..
    และตัวจิตนั้นๆก็จะไม่เกินฝ่ายภพภูมิที่เค้ารุ่มกันมาสหครับ...

    เข้าเรียกว่า กระโดดขึ้นบนหลังเสือ แล้วบังคับขี่เสือ ในขณะ
    ที่เดินทางด้วยเห็นว่าตนมีเสือเป็นพาหนะ ก็มีความหยิ่งลำพองใจ.
    ว่าตัวว่าตน..แต่จริงๆแล้วเหตุเพราะเค้ากลัวเสือ
    ที่มาด้วย..ครั้นพอเสือไม่เอาด้วยแล้วไม่ว่าเหตุใดๆ
    ก็เหมือนกับคนธรรมดาเดินดิน..พวกที่เค้าโกรธแค้นอยู่แล้ว
    เนื่องจากไปทำร้าย ทำลายเค้าไว้ก่อน..เค้าก็เข้ามาสหนั้นหละครับ...

    ถ้าจะเลือกเดินทางนี้..จะขึ้นหลังเสือก็ต้องขึ้นอย่างสง่า ให้เสือ
    มาเชิญขึ้น หรือ เต็มใจให้ขึ้น..และเวลาจะลงก็ลงจากหลังเสือ
    อย่างสง่าเช่นกันครับ เหมือนๆครูบาร์อาจารย์หรือห่มเหลือง
    มีทั้งหลายในอดีตนั่นหละครับ ถึงจะเรียกว่าเป็นบุคคล
    ที่น่ายกย่องครับ.....

    พอมีสัมผัสทางธรรมบ้าง มีความสามารถทางด้านพลังงานบ้าง..
    ถ้าจะทำอะไรแนวๆนี้ก็ควรทำตัวเองสร้างตัวเอง
    สร้างดวงจิตตัวเอง ใช้ในทางที่มันเป็นประโยชน์
    ต่อสังคม เพื่อความไม่มีทั้งหลาย.ทำให้ฝ่ายภพภุมิเค้ายกย่อง
    ภพภูมิถึงพร้อมจะสนับสนุน...อย่าไปทำเหมือน
    กรณีตัวอย่างที่ยกมากระทู้นี้ครับ..

    ปล.เล่าให้ฟังไว้ประกอบการพิจารณาครับ
    ที่แล้วมาก็แล้วไปนะครับ..
     
  16. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    :cool::cool::cool:บูชาพระรัตนตรัย โดยการสวดมนต์ เดินจงกรม สวดมนต์ เจริญภาวนา รักษาศีล๕ หรือ ๘ ตามสะดวกและไม่ประมาท รู้กตัญญู ทำประโยชน์ตนและท่าน ตามโอกาส ชีวิตไม่ตกต่ำ หรือพบสิ่งที่ดีแน่ๆ:cool::cool::cool:
     
  17. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    จริงๆ แล้ว อ่านกระทู้นี้มาสักพัก แต่ไม่อยากออกความเห็น แต่พอมีคนที่มีความเห็นตรงกับเรา ก็เลยต้องขอแสดงความเห็นบ้าง

    ผมอยากให้เราแยกแยะให้ออกก่อนว่า กริยา กับ กรรม มันไม่เหมือนกัน ถ้ามีบุคคลผู้หนึ่งเข้าไปในป่าช้า เพื่อไปเอากระดูกผีมาทำกุมาร พวกเราจะตีค่าว่าบุคคลนั้นเป็นคนไม่ดีหรือเปล่า


    กุมารทอง-นางกวัก หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม รุ่นบูชาครู เนื้อผงผสมกระดูกผี ลพ.แย้มสร้างรุ่นนี้เพื่อบูชาพระคุณของลพ.เต๋ผู้เป็นอาจารย์ที่สืบทอดวิชาการทำกุมารและนางกวักให้ท่าน รุ่นนี้เฮี้ยนมากครับ ว่ากันว่านอกจากใส่กระดูกผีแล้ว ยังใส่ก้อนเนื้อคนขนาดเท่ากำปั้นที่เผาไม่ไหม้ไฟ แถมไม่ เน่าอีกต่างหาก และใช้ดินกระดูกผีที่ใส่ในกุมารทององค์ใหญ่องค์ครูองค์แรกของลพ.แย้ม

    สิ่งที่หลวงปู่แย้ม อยากบอกเกี่ยวกับ "กุมารทอง"

    “คนที่มาบูชากุมารทอง อาตมาจะบอกพวกเขาเสมอว่ามันเป็นเรื่องของ “อนุสติ”..

    ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นเรื่องธรรมดา ความไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ตาย เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านทรงค้นพบแล้วว่า เรื่องเหล่านี้มนุษย์ไม่สามารถหลบหนีได้.. ”

    “ทุกวันนี้คนเขาเห็นว่ากุมารทองของวัดนี้ดี มีประสบการณ์ ก็เลยเอาไปออกกันบ้างซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะรู้กันแค่เพียงส่วนผสม แต่ไม่รู้วิธีการปลุกเสก

    มีหลายที่เหมือนกันที่เอาชื่อวัดหรือชื่ออาตมาไปหลอกลวงญาติโยม ทีอาตมากล้าพูดเพราะว่าเคยมีลูกศิษย์นำมาให้ดูที่วัด อาตมาเห็นแล้วบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่...”





    ดังนั้นอย่าตีค่าบางสิ่งบางอย่างด้วยความรู้สึกส่วนตัว เพราะ กริยา+ความตั้งใจ=กรรม เราจึงควรพิจารณาความตั้งใจของบุคคลเป็นหลัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.8 KB
      เปิดดู:
      81
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2015
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อืมครับ..ห่มเหลืองท่านนี้ก็เป็นหนึ่งเสมือนข้อความที่คุณ pongio
    อ้างอิงมานั่นหละครับ..ส่วนคำสอนอื่นๆก็เห็นคล้ายๆกันครับ.
    และก็มีอีกหลายท่านเช่นกันครับ..ที่ละสังขารไปแล้วและเรารู้จักกันดีก็มีครับ.
    ไหนๆก็ไหนๆแระ ขออนุญาตซะเลยนะครับ..
    ขอพูดหน่อยนะครับ เพราะว่าแบบนี้พึ่งเคยเจอเหมือนกันครับ..
    ห่มเหลืององค์นี้ท่านมีเอกลักษณ์พิเศษตรงมีวิชาเฉพาะทาง นอกจากเรื่องพลังงาน
    และสัมผัสที่ท่านมีเป็นปกตินะครับ.
    และส่วนตัวถือว่ามีเทคนิคที่ค่อนข้างพิเศษครับ
    ก็คือต้นฐานสัมผัสกับต้นฐานพลังงานของท่าน
    จะขึ้นไม่เหมือนทั่วๆไปคือทั่วๆไปต้นฐานจะวนเข้าตัวตามลำตัวคือตามแนวจักระ
    ของท่านจะหมุนขนานลำตัวทั้งด้านหน้าและหลังก่อน..และก็
    ที่แปลกกว่าที่ได้เคยสัมผัสมาก็คือ จะมาหมุนขนานอีกทีตรงใต้กระโหลก
    ก่อนที่พลังงานตรงนี้จะหนุนดันพลังงานไปเชื่อมครูบาร์อาจารย์กับเชื่อมพลังงาน..
    เอกลักษณะพลังงานลักษณะแบบนี้นี่เอง..เลยทำให้กระแสที่ขึ้นข้างบน
    มันมีความหนาแน่นมากกว่าทั่วๆไปครับ...
     
  19. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    ลงไลน์ใหม่เพื่อนๆหาย
    แอดมาใหม่ละกันนะค่ะ
    ไอดี.ubon1982
     
  20. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    อย่างเราเองเคยได้กำไลสมัยขอมมาอายุน่าจะประมาณไม่ต่ำกว่าพันปีใส่นอนทีไรจะฝันร้ายถึงการรบราฆ่าฟันกันประจำค่ะ
    บางครั้งก็ภาพการสั่งฆ่าเชลย ..เลยเดาเอาว่าคงเป็นของคนสำคัญ..เจ้าเมือง อะไรประมาณนั้น. เลยบริจาคให้วัดเอาไปหล่อพระประธานค่ะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...