ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

เรียนคุณคุรุปาละ ตะกรุดมหาสะท้อน ถ้าเรานำมาบูชาไว้ จะมีผลต่อผู้อื่นหรือไม่หรือมีผลต่อผู้ที่คิดใส่ร้ายเรา

 

ได้รับพระแล้ว

ขอบคุณมากครับคุณกร ผมวีรชัย ภูเก็ตได้รับพระแล้ววันนี้ ๑๐ ม.ค.๕๘
ช่วงบ่าย ครับ รอดูหน้ากระทู้ต่อไปครับ

 

แจ้งได้รับพระสมเด็จพิมพ์จอบยกฐาน(พระของขวัญปีใหม่)แล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ

 

มหาสะท้อนดอกใหญ่หรือเล็กครับ เพราะมันเเตกต่างกันขอถามย้ำอีกที

 

อนุสติ

เรื่องที่จะพิมพ์นี้เนื่องจากผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงอยากบอกเล่าไว้ให้เป็นข้อคิดเตือนใจและเป็นอนุสติแก่ใครๆหลายๆคน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของตัวท่านเอง

เริ่มเรื่องจากมีลูกศิษย์ที่นับถือพ่ออาจารย์ขับรถมารับท่านไปทำพิธีที่บ้านของเขา ขากลับก็มาส่งท่านด้วยตัวเอง ก็เป็นอารมณ์ของคนขับรถไปก็หาหยิบยกเรื่องอะไรมาคุยไปพลางๆกันเบื่อ ​

แต่ประเด็นที่เขาคุยในวันนั้นคือเรื่องงที่ไม่สมควรพูดนั่นคือเรื่องของเบื้องสูงหรือองค์พระมหากษัตริย์นั่นเอง เป็นการพูดให้ร้ายเเละทำให้เสื่อมเสียต่างๆนานา

ซึ่งพ่ออาจารย์เองท่านก็ได้เเต่นั่งเงียบ และพูดขัดเขาขึ้นมาว่าเปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ ครูเราท่านไม่ชอบเรื่องแบบนี้ ครูเราท่านห้ามไม่ให้เรายุ่งกับเรื่องพวกนี้ เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปได้ซักพักหนึ่ง แล้วก็วกกลับเข้ามาเรื่องเดิมต่อ

ทีนี้พ่ออาจารย์ท่านนั่งเงียบไม่หือไม่อือกับใครทั้งนั้น ซักพักหนึ่งภายในรถที่นั่งมานั้นก็มีเสียงระเบิดดังปั้ง เจ้าของรถที่ขับมาถึงกับตกใจจะจอดรถดู ได้เเต่ถามว่ารถผมเป็นอะไรๆ เพราะเสียงที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นภายนอก เเต่เกิดขึ้นภายในที่พวกเรานั่งกันอยู่เป็นเสียงดังมากๆ

พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดขึ้นมาว่าไม่มีอะไรให้ขับรถต่อไป ครูบาอาจารย์ของเราท่านไม่ชอบ เราก็บอกคุณเเล้วว่าอย่าพูดเรื่องแบบนี้ เวลาท่านจะเตือนอะไรก็มักจะมีเสียงดังแบบนี้นี่แหละ

ซึ่งเสียงนี้มันทำให้ผมที่นั่งอยู่ด้วยคิดได้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเเละครูบาอาจารย์เเต่โบราณทั้งหลาย ท่านให้ความเคารพเทิดทูนสถาบันมากๆ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ดี วัตถุมงคลต่างๆก็ดี ผู้นำไปใช้ควรมีใจจงรักเเละซื่อตรงต่อพระมหากษัตริย์ ไม่นำวิชาต่างๆไปใช้ทำลายบ้านเมือง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เขาเหล่านั้นก็จะเจริญรุ่งเรือง

เรื่องนี้พาลให้เรานึกไปถึงเมื่อครั้งพระมหาโมคคัลลาน์ให้สติแก่ท้าวสักกะเทวราช ด้วยการใช้นิ้วเท้าจิกพื้นวิมานในอากาศดาวดึงษ์เพียงเบาๆ ก็ปรากฏผลให้ดาวดึงษ์พิภพสั่นสะเทือนสนั่นหวั่นไหวเป็นการให้สติแก่ท้าวสักกะเทวราช

ซึ่งผมคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าในจุดนั้น หากพ่ออาจารย์ไม่นั่งอยู่ด้วย รถคันที่ขับนี้จะมีสภาพเเละเกิดอุบัติเหตุรุนเเรงเช่นใด ถึงจะสมควรเเก่สิ่งที่ควรได้รับนี้

ก็ฝากไว้เป็นข้อคิดเเละเตือนสติแก่ทุกๆท่าน ให้คิดพิจารณาไตร่ตรองกันเอง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวเสมอว่า จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เเละครูบาอาจารย์ตลอดจนทวยเทพทั้งหลายเขาก็ไม่ได้อยู่ไกลจากเรา เเละเขาก็อยู่รอบๆตัวเรานั่นเเหละ ตัวของเราควรพิจารณาตัวเอง จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดควรใคร่ครวญให้หนัก อย่าลืมว่าการจดบัญชีบาปบุญนั้นมีอยู่จริง เทวดาประจำตัวก็มีอยู่จริง สิ่งที่เราได้กระทำในวันนี้ คือสิ่งชี้ภพภูมิในอนาคตเบื้องหน้า จงระวังเเละสำรวมในการพิจารณากาย วาจา ใจของตนเอง ใช้สติในการดำรงค์อยู่ของชีวิต

ก็ดูเป็นเรื่องเล็กๆเเต่ก็ไม่อยากให้ใครพลาดกัน เพียงเพราะจุดเล็กๆนั่นคือคำพูดของตนเอง

 

พระองค์อินทร์ผงน้ำมันภูติพระเจ้าฝังตะกรุดเทวดาหลงห้อง(หัสนัยน์พันตาท้าวพระยาพันเมีย) ให้ร่วมทำบุญบูชา 5,000 บาท ...จองบูชา 1องค์ ครับท่าน..

 

ลำดับที่ 10 ขอแจ้งว่าวันนี้ผมได้โอนค่าส่งพระสมเด็จพิมพ์จอบยกฐาน(ยกฐานะ)ให้แล้วครับ

ขอบคุณครับ

 

สำหรับใครที่โอนปัจจัยบูชาพระองค์อินทร์เข้ามาเเล้วผมยังไม่ได้PMคาถา 2 บทกลับไปให้รับกวน อินบ้อคมาหาผมด้วยนะครับ เพราะพิมพ์บอกทางเวปเเล้วก็ที่โทรมาจองทางไลน์ ผมก็ค่อนข้างสับสน ถ้ามีลืมๆต้องขออภัยด้วยนะครับ

 

แจ้งการจองและโอนเงินตระกรุดหัวใจมนุษย์และุมหาสะท้อน

ผมได้โอนเงิน ทั้งส้ิ้นจำนวน 1,000.-บาท เป็นค่าบูชาตระกรุดหัวใจมนุษย์จำนวน 700.-บาท ตระกรุดมหาสะท้อน จำนวน 200.-บาท ค่าโอนจำนวน
100.-บาท แล้วเมื่อวันที่ 14 ม.ค.58 เวลา 12.41 นาฬิกา และ 14.42 นาฬิกา
กรุณาจัดส่งไปที่
นายวีรชัย ภู่สีเขียว
56/261 ซอย 11 หมู่ 2 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000
คุณกรณ์อัพโหลดภาพหลักฐานโอนเงินไม่ขึ้น รบกวนตรวจสอบในยอดบัญชีนะครับ

 

ส่งภาพโอนใหม่

ส่งหลักฐานการโอนครับ

 

การใช้วัตถุมงคล

มีถามเเละคงเป็นปัญหาคาใจหลายๆท่าน

วันนี้เราจะมาพูดกันในเรื่องการใช้วัตถุมงคล ต้องกล่าวก่อนว่าคนที่มองหาวัตถุมงคลนั้นส่วนมากจะเป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องต่างๆเเละต้องการของมาใช้ให้ช่วยส่งเสริมตนเอง ทั้งนี้ก็มีหลากหลายชนิดเเละประเภทตามวิถีเเละเเนวทางเเยกย่อยออกไป

พ่ออาจารย์ได้อธิบายว่า เป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต เมื่อเกิดมาอยู่ใต้กฏแห่งกรรมอันธรรมชาติบัญญัติขึ้นมานี้ จะหาสัตว์ใดที่จะหลีกหนีพ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นไปได้ แม้พระศาสดาก็ยังไม่พ้นกฏแห่งกรรม

ดังนั้นเมื่อกฏเเห่งกรรมสนองแก่สัตว์ทั่วหน้า ก็จะแบ่งออกเป็นกรรมดีและกรรมชั่ว ที่กรรมดีสนองก็จะพบกับความสุขที่กรรมชั่วเจ้ากรรมนายเวรสนองก็จะพบกับกองทุกข์

ความสุขเราคงจะไม่พูดถึง เพราะมนุษย์จะหันหน้าเข้าหาพระศาสนาเเละที่พึ่งต่างๆนั้นย่อมล้วนมาจากความทุกข์ทั้งสิ้น ไม่ทุกข์ทางกายก็ติดทุกข์ทางใจเข้าไป ดังนั้นเครื่องปลดทุกข์ปลดเปลื้องพันธนาการนั้นมีได้อยู่สองประเภท

หนึ่งก็คืออมฤตธรรมที่พระพุทธองค์ทรงวางกรอบชี้เเนวทางไว้ดีเเล้ว อีกหนึ่งก็คือไสยเวทย์วิทยาคมที่เอาไว้โปรดไว้ช่วยในเรื่องของโลกีย์วิสัย ซึ่งก็ต้องพิจารณาเเต่เหตุว่าความทุกข์นั้นจะเเก้ด้วยหลักธรรมหรือไสยเวทย์

ถ้ามองโดยเนื้อเเท้นั้น ธรรมมะขององค์พระสมณโคตมนั้นประณีตเเละลึกซึ้งและขัดกับไสยศาสตร์ที่ต้องอาศัยความเชื่อโดยสิ้นเชิง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพระพุทธเจ้าของเรานี้ก่อนที่จะตรัสรู้พระองค์ก็ได้เรียนจบครบทั้ง 18 ศาสตร์ และมีความชำนาญเชี่ยวชาญในทุกศาสตร์ทุกแขนง

หากเเต่เพียงความจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับกันนั่นก็คือไสยเวทย์อาจจะช่วยบรรเทาทุกข์ริดรอนกฏแห่งกรรมให้คลายออกให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่สัตว์ทั้งหลายก็ยังหาได้ก้าวล่วงกฏเเห่งกรรมไม่ แตกต่างจากธรรมมะที่ช่วยขุดรากถอนโคนไม่ให้เหลือสิ้นซึ่งกองทุกข์ใดๆแก่ผู้ที่ศึกษาเเละปฏิบัติธรรมนั้นๆ ถึงแม้จะยังอยู่ในกฏแห่งกรรมเเต่ก็เห็นความทุกข์และนิราศปราศจากทุกข์แบบนั้น

จึงอาจกล่าวได้ว่า จะพึ่งไสยศาสตร์ฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้ หากจะเป็นสัตว์โลกก็ย่อมเป็นได้เเค่สัตว์เพียงนั้น แต่หากตัวเราเองเป็นมนุษย์ ก็ต้องถึงพร้อมด้วยวิชชาเเละจรณะต่างๆ ธรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่อยู่ไกลตัว แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ในโลกได้อย่างสบายตัวในทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่ของเก่าคร่ำครึคร่ำคร่าอย่างใดเลย

เพราะฉะนั้นบุคคลที่พากเพียรในกรรมฐานเเละศึกษาธรรมมะด้วย ก็จะเป็นการปรับจิตใจเเละร่างกายของตนให้บริบูรณ์พร้อม ที่จะอยู่เเละเข้าใจในกฏแห่งกรรม ทุกสรรพสิ่งในโลกหามีสิ่งใดพ้นกฏแห่งกรรมมิได้เลย เมื่อเรามีความพร้อมเช่นนั้นเเล้ว ไสยศาสตร์พระเวทย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคลทั้งหลายก็จะเป็นตัวเสริมให้กับเรา ให้เราปรากฏยศ ชื่อเสียง เงินทองทรัพย์สินศฤงคารไพบูลย์ สืบต่อไปยังวงศ์ตระกูลชั้นลูกหลานให้มีกินมิรู้จักหมดสิ้น

แต่ เรื่องเหล่านี้ย่อมละเอียดอ่อน หากจะเปรียบเทียบเเล้วก็เปรียบกับสายน้ำ น้ำนั้นถือได้ว่าเป็นของละเอียดอ่อนย่อมเเปรเปลี่ยนได้ตามภาชนะที่รองรับ น้ำที่เหนือน้ำละเอียดเกินกว่าสายน้ำทุกสายในโลก ก็คือน้ำในมหาสมุทรสีทันดร แต่ถึงกระนั้น น้ำในมหานทีสีทันดรก็ยังหาเปรียบได้กับน้ำใจมนุษย์ไม่

เราต้องใช้สติพิจารณาควบคู่ตามไปด้วย ผมสอนคนผมก็สอนเรื่องสติมากกว่าเรื่องอื่น จริงอยู่ที่ไสยศาสตร์จะต้องเคียงคู่กับหลักธรรม หากถือโดยไร้ครรลองคลองธรรมเเล้ว จุดจบมักจะไม่สวยทุกรายไป เมื่อเราศึกษาหลักธรรมพร้อมกับเชื่อเเละถือไสยเวทย์หรือมงคลวัตถุ สิ่งที่เราจะละเลยมิได้อีกประการหนึ่งก็คือการงาน มิใช่นั่งรอคอยโชคเเละวาสนา แต่ตัวเองนั้นก็ต้องขัดเกลาตัวเอง นำสิ่งต่างๆมาประยุกต์ใช้ร่วมกันในทางที่ถูกที่ควร

การใช้วัตถมงคลนั้น คนทั้งหลายมักจะมองไปว่าเป็นเครื่องสนองสิ่งที่ตัวเองขาดไป หากมองแค่เพียงเท่านั้น เขาก็จะใช้ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่หากเขามีธรรมมะอยู่ในใจตนเองเขาก็จะใช้ได้ตลอดไป

อุปมาเหมือนเราตักน้ำจากมหานทีสีทันดรขึ้นมาแก้วหนึ่ง มอบให้แก่คนที่กระหายน้ำ ถ้าเขาจิบเพียงเพื่อบรรเทาอาการกระหาย พอน้ำพร่องไปก็รู้จักเติม ใช้ธรรมมะเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย น้ำแก้วนั้นก็จะกลายเป็นน้ำอมฤตที่มีกินไม่มีวันหมด หากเขากระหายเเละเขาตะกรุมตะกรามดื่มน้ำนั้นจนหมด น้ำย่อมจะหมดไปและเกิดความเสียหายทำให้น้ำหกเลอะเเละสูญหายไปได้

เราปรารถนาจะให้คนที่ดื่มน้ำของเรา นอกจากจะได้ชื่อว่ามีดีภายนอกแล้ว ก็อยากให้เขาดีมาจากเนื้อใน จิตใจเนื้อแท้ของตนเองด้วย อันเรียกว่าดีภายใน เพราะน้ำใสใจจริงจากภายในนั้น มันจะติดตัวเขาไปถึงชาติภพใหม่ๆ อย่ามองแต่สถานการณ์ใกล้ตัวจะพึงคิดพึงทำเพื่อความสุขสบายเเต่ในวันนี้ แต่จงมองออกไปโดยรอบให้กว้างเเละไกลขึ้นตามลำดับ จงมองถึงวันพรุ่งนี้และอนาคตด้วย ถ้าเกิดมาลำบาก ก็ควรไตร่ตรองว่าทำบุญเช่นใดประพฤติตนอย่างไรเกิดใหม่จะได้ไม่ลำบาก อะไรที่สนใจที่ฝึกฝนไว้มันก็จะเป็นบุพกรรมสืบเนื่องต่อไปในชาติภพใหม่ด้วย อย่ามองเพียงว่าอายุขัย 100 ปีจะเป็นเวลานาน เพราะพวกเราทุกคนนั้นย่อมเวียนว่ายตายเกิดมาเเล้วนับภพภูมิไม่ถ้วน เป็นเวลานานเเสนนานยาวเกินกว่าอสงไขยจะกำหนดได้

เมื่อเข้าใจแล้ว พอรู้เห็นคลำทางกันได้เเล้ว ก็ต้องทำและพยายามด้วยตนเอง คนเรานั้นไม่สามารถป้อนกันให้ถึงปากได้เสียในทุกๆอย่าง เราทำได้เเต่เพียงจุดตะเกียงให้มีเเสงสว่างเท่านั้นตัวท่านทั้งหลายย่อมเป็นผู้ถือตะเกียง ถ้าเดินก้าวขึ้นฝั่งไปข้างหน้าตะเกียงย่อมไม่มีวันดับ แต่หากถอยหลังลงฝั่งตกน้ำตะเกียงนั้นก็ย่อมจะดับไป

 

พระเนื้อไม้

อีกสิ่งหนึ่งซึ่งพ่ออาจารย์พูดบ่อยเเละผมก็ไม่ได้ใส่ใจจะพิมพ์หรือบอกใครเสียเท่าไหร่ นั่นคือพระเนื้อไม้ช่อฟ้าแกะ

ซึ่งท่านจะพูดเสมอว่านี่เป็นเอกลักษณ์ของเรา วัตถุมงคลที่เราสร้างนั้นเป็นสายบารมี ซึ่งก็มีคำถามมากมายถามมาทางผมบ่อยๆว่าท่านเป็นพุทธภูมิรึเปล่า ท่านเป็นอริยบุคคลขั้นไหน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ท่านไม่เคยตอบ แต่ผมก็มีคำตอบอยู่ในใจเวลาถามท่านเเละสังเกตุสีหน้าเเละอาการเเสดงออกของท่านก็พอจะทราบได้

ท่านมักจะกล่าวถึงเเละพูดถึงเสมอๆว่าพระเนื้อไม้ในรูปแบบต่างๆที่เราเเกะ ต่อไปจะช่วยคนได้อีกมาก ถึงวันนี้เค้าจะมองข้ามไป ไปสนใจพระผงหรือเครื่องรางต่างๆ แต่ภายหน้าในอนาคตนั้น พระเนื้อไม้ที่เราเเกะและลงวิชาต่างไว้ต่อให้พลิกแผ่นดิน ก็หาไม่เจอ ต่อไปเบื้องหน้าสิ่งนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของเราที่เขาจะใช้นึกถึงเรา หากพูดถึงเราก็จะนึกถึงพระเนื้อไม้เหล่านี้ ซึ่งผมก็มานั่งคิดๆดูแล้วก็เห็นจริงว่ายอดสั่งจองเข้ามาถึงจะมีสูงเเต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการของคน

หากมองในเเง่มุมของผมเเล้วผมคิดว่าเป็นสิ่งนี้ทำได้ยากมากๆ ที่ครูบาอาจารย์จะมานั่งเเกะพิถีพิถันกับมือของท่านให้ผู้บูชาทีละองค์แต่พ่ออาจารย์ท่านก็ทำให้ ด้วยความตั้งใจจริงของท่าน พระเนื้อไม้เหล่านี้ผมจึงเข้าใจว่าต้องมีพลังงานบางอย่างที่มากเเละมหาศาลแน่เพราะกว่าจะเเกะได้เเต่ละองค์ท่านทั้งเสกทั้งเป่าเเละเดินมนต์คุมอยู่ตลอดเรียกได้ว่าเสกไปแกะไปก็ไม่ผิด

ซึ่งพระเนื้อไม้ทั้งหลายนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ตามวิชาเละพุทธคุณด้านต่างๆที่ท่านจะประจุลงไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้บูชาที่จะเลือกหามาบูชา แต่ก่อนท่านจะเเกะองค์ใหญ่ๆทำให้การพกพาเเละห้อยบูชาค่อนข้างจะลำบากมาก ไม่ใหญ่เท่าฝ่ามือก็ใหญ่กว่าฝ่ามือ ตอนหลังๆนี้ท่านเห็นใจผู้ที่บูชาไปจึงมีดำริแกะให้เล็กลงกว่าเดิมในขนาดที่บูชาเเล้วสวยงามห้อยคอไม่ใหญ่โตเกินงาม

ท่านมักจะพูดว่าพระที่เราแกะนี้เป็นศิลป์เรียบๆง่ายๆ เป็นศิลป์แบบบ้านๆทำเพื่อสืบต่อและรักษาวิชาเท่านั้น ซึ่งก็เห็นจะจริงเพราะผู้ที่ได้ไปต่างรู้คุณค่าพระเหล่านี้ คนที่สะสมในเเง่ของศิลปะก็ทำการสั่งจองมาเป็นว่าเล่นแต่พระบางชนิดก็ใช่ว่าท่านจะรับทำจะให้สั่งจองได้ก็ต้องพูดคุยกันก่อนก็มี

เหนืออื่นใดนั้น ผมเองมองว่าเป็นความเอื้ออาทรณ์ที่ท่านใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่จะสร้างของดีที่ดีจริงๆก่อนจะส่งมอบให้ถึงมือผู้บูชา

มีประสบการณ์ต่างๆมากมายที่เกิดจากพระเนื้อไม้ที่ท่านแกะ ทั้งด้านเสน่ห์ คุ้มครองป้องกันโดนรถชนพังยับเละไปครึ่งคันเเต่คนไม่เป็นอะไร และเรื่องอื่นๆอีกมากที่ไม่ได้เล่าเเละไม่ได้ลงให้ละเอียดเพราะไม่ได้คุยกับเจ้าของประสบการณ์ไว้

แต่มีประสบการณ์ที่เกิดกับพี่ท่านหนึ่งที่เรายังจำได้ และได้ทำการบอกกล่าวเอาไว้ว่าพระเนื้อไม้ของพ่ออาจารย์นั้น มีพลังพุทธคุณรุนแรงและเย็นยะเยือกเหมือนจับก้อนน้ำแข็ง พลังนั้นได้ไหลเวียนเข้ามาสู่ร่างกายเขา พี่ท่านนี้ได้เปรียบเปรยเอาไว้ว่า พลังพุทธคุณนั้นไม่ต่างจากวัตถุมงคลของปลวงปู่หมุน วัดบ้านจานเลย หากแต่เพียงของหลวงปู่หมุนนั้นต้อนจับได้อาราธนาท่านก่อน แต่ของพ่ออาจารย์นั้นแค่หยิบขึ้นมากำเล่นๆก็แสดงออกให้เห็นแล้ว

ก็อยากจะบอกกล่าวเอาไว้ สำหรับคนที่สนใจเครื่องมงคลทั้งหลายของพ่ออาจารย์ อย่าได้ละเลยหรือมองข้ามพระเนื้อไม้แกะเด็ดขาดเพราะพุทธคุณสูงมากๆ

อันนี้เล่าไว้ให้ทราบ พ่ออาจารย์ท่านพูดเองว่าท่านได้รับนิมิตรจากครูท่าน ครูท่านบอกเองว่าให้ทำพระผง คนทั้งหลายจะชอบพระผงและนิยมนำไปบูชากัน แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบ พ่ออาจารย์กล่าวเสมอว่าพระเนื้อไม้แกะของท่านนั้น หากสิ้นท่านไป จะได้รับความนิยมสูงกว่าอย่างอื่นทั้งหมดพลิกแผ่นดิน ก็หาไม่เจอ

ก็บอกเล่าสู่กันฟัง เพราะผมเองที่ฟังประสบการณ์มาก็ได้รับประสบการณ์จากหลายๆท่านที่บูชาพระเนื้อไม้แกะของท่านไปหลายเรื่องชนิดวันต่อวัน เเละตัวผมเองก็มีประสบการณ์กับพระเนื้อไม้แกะนี้มามาก โดยเฉพาะพระลักษมันอนันตราคราช กับพระอนุรุทธะผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี

 

อันไหนเเรงกว่ากัน

วันนี้ก็จั่วหัวเรื่องนี้ไว้เพราะเป็นคำถามยอดฮิตติดปากเเละผมเชื่อว่าหลายๆท่านที่คุยกับผม ก็เคยถามผมเรื่องนี้นะ 555

เราจะมาทำความเข้าใจกัน พูดกันแบบตรงๆจะได้ไม่หลงประเด็น การพูดคุยปรึกษาสอบถามผมมานี้ผมก็ตอบได้เพียงความคิดเห็นในมุมมองของผม และผมก็ไม่กล้าเปรียบเทียบด้วยว่าอะไรเเรงกว่าอะไร แต่ผมจะตอบไปว่าอะไรที่ออกมาเเล้วมีประสบการณ์เข้ามาเล่าให้เราฟังเยอะมากๆแบบนั้นเเทน

พ่ออาจารย์พูดอยู่เสมอว่า เรื่องการเลือกวัตถุมงคลการใช้วัตถุมงคลนั้นให้ดูที่โฉลกของตัวเอง ดูที่ความชอบดูที่บุญเก่าของเราว่าเรามีบุญสัมพันธ์กับอะไรเห็นอะไรเเล้วรู้สึกผูกพันธ์เเบบนั้น ท่านว่าเหมือนเราเลือกเมียเลือกคู่ครองของตัวเอง จะไปจ้างใครมาแล้วให้เขามาเลือกเเทนเราแบบนี้ย่อมไม่ได้ เพราะเขาก็ะเลือกในทัศนคติของเขา ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับของเราก็เป็นได้

ดังนั้นผมก็ตอบได้เเค่เพียงว่า ผมเป็นผู้ให้คำปรึกษาได้เเต่ท้ายที่สุดนั้นตัวท่านจะต้องเป็นคนเลือกเองทั้งหมดอยู่ดี การแนะนำก็เป็นเพียงการเเนะนำเหมือนผมเดินเข้าร้านอาหาร ต่อให้เด็กเสริฟเชียร์อาหารอย่างไรผมไม่นึกอยากกินผมก็สั่งอย่างอื่นที่คิดว่าอยากกิน ต่อให้สั่งมาเเล้วรสชาติไม่ถูกปากแต่สุดท้ายเราก็กินอิ่มเหมือนกัน

ก็เป็นเรื่องที่อยากคุยกันสบายๆ บางท่านให้ผมเเนะนำผมก็เเนะนำอย่างนึง พอฝากดวงให้พ่ออาจารย์แนะนำท่านก็แนะนำอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่ตรงกันเลย ก็อยู่ที่ว่าจะเชื่อคำแนะนำหรือจะเชื่อทัศนคติของตัวเอง ผมเชื่อว่าไม่มีใครรู้ว่าลึกๆเราต้องการอะไรนอกจากตัวเอง บางทีคุณอาจจะไม่ได้เล่าให้ผมฟังครบทุกอย่างก็เป็นได้ เราทำได้เเค่บอกว่าปัญหานี้ควรจะใช้อะไรๆสุดท้ายตัวท่านก็ต้องเลือกเองอยู่ดี

ก็มีประสบการณ์พระองค์อินทร์เข้ามาจากยูสเซอร์หนึ่งที่ได้ไลน์มาเล่ากับผม แต่โดยการพิจารณาของผมเเล้วค่อนข้างจะเป็นการห้อยออกไปท่องราตรี และได้ผู้หญิงกลับมาห้องแบบนี้ ซึ่งผมถือว่ายังเป็นเรื่องปกติในสายเสน่ห์ของพ่ออาจารย์เพราะว่าได้รับข่าวสารแบบนี้ค่อนข้างบ่อย ก็อยากจะบอกกล่าวกันไว้ว่าอย่าสนุกหรือเพลิดเพลินอะไรมากเกินไปนัก อันตรายมีอยู่จริงนะครับ

จะพูดไว้เป็นอุทาหรณ์ ถือว่าเรารักเเละเป็นห่วงทุกๆคนกันเหมือนพี่ๆน้องๆ หลายๆคนต้องการของเสน่ห์ จะพูดให้ดีเเค่ไหนสุดท้ายก็ไม่พ้นนำไปใช้กับเรื่องบนเตียง ผมเชื่อว่าตัวของท่านอาจจะเป็นคนดีนะ แต่ผู้หญิงที่ท่านนอนด้วยเขาดีรึเปล่า

สมัยนี้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็มีอยู่มากเเละน่ากลัวเสียด้วย การมองรูปร่างหน้าตาภายนอกเราไม่มีทางรู้ไปถึงประวัติชาติตระกูลเเละภูมิหลังเขาได้เลย ดังนั้นจึงไม่ควรเห็นแก่อารมณ์ชั่ววูบ เพราะถึงเวลานั้นอาจจะวูบจริงๆก็ได้ อย่างผมนี่พูดแบบไม่ละอายใจเลยเพราะถือวาไม่ใช่เรื่องน่าอาย กล้ายืดอกพูดเลยว่าผมไปตรวจเอดส์รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพัรธ์มาหมดเเล้ว ผมปลอดภัยเเละไม่มีความเสี่ยง

ดังนั้นหากคิดจะใช้ของเสน่ห์ ก็ควรจะควบคุมอารมณ์ตัวเองด้วยโดยเฉพาะท่านชายทั้งหลายที่ยังรักสนุก เพราะคนที่เค้าเสียใจหากเราเป็นอะไรขึ้นมานั่นย่อมหมายถึงคนที่อยู่ข้างหลังเรา บุพการีของเรา ครอบครัวของเรา อารมณ์ชั่ววูบทั้งหลายขอแค่เราไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ไม่แสวงหาสุดท้ายแป้ปเดียวมันก็จะผ่านไป อย่าคิดว่าผมบ่นอะไรเหมือนคนแก่น่ารำคาญเลยนะ ผมเห็นผู้หญิงหน้าตาดีๆ ดีมากๆ จนถึงผู้ชายที่โคตรจะหล่อ เดินร้องไห้ออกมาจากห้องฟังผลนับสิบๆคน นั่นก็คือเอดส์รับประทานกันทุกท่าน จึงพูดไว้ด้วยความเป็นห่วงเเละปรารถนาดี มีของดีก็อย่าซุกซนให้มาก

 

วันครู

วันนี้ก็เป็นวันดีอีกหนึ่งวัน เป็นวันครูที่ศิษย์ทั้งหลายจะได้ระลึกถึงคุณแห่งครูบาอาจารย์ตลอดจนแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ตามประเพณีที่ดีงามอันสืบมาแต่รากเหง้าวัฒนธรรมไทย

พ่ออาจารย์ได้กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า การเคารพ กตัญญูกตเวทีนั้น หาได้ควรทำในโอกาสใดโอกาสหนึ่งไม่ แต่ควรจะทำในทุกโอกาส เพราะเดชแห่งความกตัญญูและผลแห่งกตเวทิตานั้น ย่อมดลบันดาลให้บุคคลทั้งหลายได้รับคำสรรเสริญในทุกสถานและเป็นบ่อเกิดเเห่งความเจริญรุ่งเรือง

ครูนั้นมิได้หมายเอาเฉพาะครูที่เรารำลึกนึกถึง ในห้วงชีวิตหนึ่ง บุคคลนั้นๆอาจจะมีครูได้มากมาย เมื่อเกิดมาก็ได้รับการสอนสั่งจากพ่อแม่ เราจึงถือว่าพ่อแม่เป็นครูคนแรกของบุตร ดังนั้นบุตรทั้งหลายที่ได้ชื่อว่าประเสริฐ ย่อมรู้คุณเเละสนองคุณแก่บิดามารดาตนเองอย่าได้ช้า ไม่ต้องไปเสาะเเสวงหาครูบาอาจารย์ที่ไหน หากละเลยครูสองท่านนี้ ก่อนจะไปไหว้ครูที่ไหน ชีวิตบุตรผู้นั้นย่อมไม่ถึงซึ่งมงคลอันประเสริฐและพลาดไปเสียแล้ว เพราะเขาพลาดในสิ่งอันเป็นศุภมงคลซึ่งอยู่ใกล้ตัวเขามากที่สุด

หลังจากนั้น รองมาจากบิดามารดาก็คือครูบาอาจารย์ ครูในที่นี้ มีทั้งครูสอน ครูหัด ครูแนะ ครูนำ ครูพักลักจำ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในห้วงชีวิตหนึ่งๆนั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมมีครูกันมากมายจนประมาณเสียมิได้ จะเป็นครูที่สอนเราหรือประสิทธิ์ประสาทวิทยาการอันใช้ในการหาเลี้ยงชีพดำรงค์ชชีวิตให้แก่เราก็ดี หรือครูผ่านๆที่เราไปสังเกตุไปจดจำสิ่งต่างๆจากท่านมาก็ดี บุคคลทั้งหลายเหล่านี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นครูของเรา แม้เราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

การเเสดงออกถึงความกตัญญูนั้น เราคงไม่สามารถทำได้ทั้งหมด เพราะมีทั้งที่เราระลึกได้และเราระลึกไม่ได้คาดไม่ถึง ดังนั้นในวันครู นอกจากบิดามารดาเเล้วก็ควรระลึกถึงครูบาอาจารย์ด้วย ใช้โอกาสนี้เเสดงความกตเวทีโดยการอธิษฐานส่งความปรารถนาดีไปยังครูบาอาจารย์ต่างๆทั้งหลาย ขอขมาขออโหสิกรรมท่านทั้งหลาย หากเราได้มีจิตคิดล่วงเกินเเละลบหลู่ท่านเหล่านั้น เพื่อความเจริญในทุกสาขาวิชาชีพ และจะได้ไม่ติดบ่วงกรรมเล็กๆอันจะมาเป็นอุปสรรคใหญ่ๆในชีวิตของเรา

 

สาธุ ผู้ข้าขอกราบวันทาคุณครูทั่วหล้า นับแต่บิดรมารดาครูคู่แรก จนถึงครูสอน ครูหัด ครูแนะ
ครูนำ ครูพักลักจำ ฯลฯ ตลอดกาลเทอญ ศิษย์จะได้ดีเพราะมีครูดี และศิษยจะได้ดีต้องมีความกตัญญูรู้คุณครู สาธุ

 

ทำดี

วันนี้จะนำโอวาทย์ง่ายๆที่่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวสอนมาลงเพิ่มเติมนะครับ สำหรับหัวข้อที่จะพูดในวันนี้ก็คือการทำความดี

คนเรามักแสวงหาครูบาอาจารย์ตลอดจนศึกษาคุณธรรมต่างๆแต่มักรู้เเละละเลยการปฏิบัติ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นที่จะต้องไปศึกษาที่ไหนไกลตัว เราจะกล่าวแบบง่ายๆ คนเรานั้นมีจิตสำนึกที่ใช้ดำริตริตรองนึกคิดกันอยู่ทุกคน เมื่อจะทำการณ์สิ่งใดนั้นใจของเราความรู้สึกของเรา มันบอกมันเตือนเราอยู่เสมอ ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด เป็นความดีหรือความชั่ว เป็นสวรรค์หรือนรก หากแต่เรารู้ว่าไม่ดีเเล้วยังกระทำ เช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นเสมอๆ

ถ้าจะกล่าวเเบบสั้นๆง่ายๆเลยนั่นก็พูดได้ว่า ถ้ารู้ว่าอะไรดีก็ทำ อะไรชั่วก็อย่าไปทำ มันมีอยู่เพียงเท่านี้ เมื่อมีวิจารณญาณรู้ถูกผิดเเล้ว แยกเเยะได้เเล้ว ก็ถือว่าสัตว์ทั้งหลายรู้ดีรู้ชั่วอยู่แก่ใจ หากเพิ่มความละอายแก่ใจและการเกรงกลัวต่อบาปเข้าไป ก็เป็นอันแน่นอนว่าคนเรามีความเสี่ยงที่จะประพฤติชั่วน้อยลง

ทั้งนี้การเจริญสติก็ช่วยควบคุมเรื่องต่างๆเหล่านี้ได้ ทุกสิ่งล้วนเกิดเเต่ใจ ใจเราเป็นใหญ่กายเราเป็นรอง ตรงนี้จิตได้ทำหน้าที่ควบคุมร่างกายอยู่ ดังนั้นความประพฤติดีชั่วทั้งหลายจึงกล่าวได้ว่าเกิดเเต่ใจเราเป็นเหตุ ก็ในเมื่อการทำดีเเละชั่วมันง่ายเทียมกันปานนั้น เราแยกเเยะได้แบบนั้น ทำไมเราถึงทำชั่วคิดชั่ว เพราะว่าเราขาดการควบคุมตัวตนภายในของเรา

พระพุทธเจ้าท่านวางรากฐานง่ายๆ ให้สัตว์โลกทั้งหลายรู้จักควบคุมความประพฤติตนเอง นั่นคือการรักษาศีล

คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ศีลเป็นเครื่องกำบังเเละปกป้องจิตใจของเรา คนมีศีลก็เหมือนคนใส่เสื้อผ้า หากทุศีลก็เหมือนคนเดินแก้ผ้า ธรรมทั้งหลายนั้นหากจะบรรยายก็คงจะไม่เข้าใจเเละไม่สิ้นสุด แต่ถ้าลงมือปฏิบัติเเล้วเราจะเริ่มเข้าใจในเหตุและผลของตัวมันเอง ดังนั้นจึงควรลงมือทำมากกว่าการคิดการศึกษาทีไร้การปฏิบัติ

การรักษาศีลนี้ควรฝึกควบคู่ไปกับการเจริญสติ สตินี้เป็นบ่อเกิดเเห่งพระกรรมฐานเป็นบ่อเกิดเเห่งดวงปัญญา เมื่อเราจะเดินขึ้นบันได เราควรเดินขึ้นไปทีละขั้นทีละก้าวทีละก้าว เมื่อเรานำการเจริญสติมาใช้ในชีวิตประจำวันเเล้ว เรื่องที่จะทำผิดคิดชั่วนั้นก็จะน้อยลง ฝึกให้เป็นอารมณ์ก่อน เป็นอารมณ์ที่เราควบคุมรักษาดวงจิตของเราในทุกขณะจิต รู้เท่าทันความคิด รู้เทาทันการกระทำของตนเอง มองตนเองให้รู้ตนเองแบบนั้น ควรเพ่งพิเคราะห์ตัวเองให้กระจ่าง อย่าไปใส่ใจคนอื่นทำตัวเองนั่นแหละให้ดีก่อน เมื่อเราฝึกสติในทุกๆเวลาจนเป็นนิสัยเเล้ว การทำกรรมฐานก็จะเจริญก้าวหน้าพัฒนาขึ้นตามลำดับโดยตัวของมันเอง

นับเป็นเรื่องที่ง่าย ที่ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องลงทุนลงเเรงเเต่ประการใด หากแต่ใช้วิจารณญาณของตนเองฝึกใช้จิตใจตนเองให้อยู่ในทางที่ถูกที่ควร เพียงเท่านี้แม้คิดจะทำความชั่วสิ่งใด ก็จะเกิดความละอายแก่ตัวเอง อายแก่สัตว์ทั้งหลาย อายแก่สิ่งมีชีวิตโดยทั่วเพราะได้ชื่อว่ากำลังคิดชั่วและจะกระทำชั่ว การกระทำนั้นก็จะระงับไปได้ ด้วยสติรู้เท่าทันความคิดตนเช่นนี้

 

ขอบูชาตะกรุดมหาสะท้อน 4 ดอกครับ
ขอบคุณครับ

 

กรรม

ได้ฟังพ่ออาจารย์ท่านเล่าเรื่อง เกี่ยวกับกฏแห่งกรรมของลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านไว้ ก็เลยนำมาเล่าต่อให้ฟังเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนทั้งหลาย

ท่านมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง นับว่ามีหน้ามีตาในสังคมพอสมควร ฐานะทางครอบครัวก็อยู่ในระดับที่ดี มีที่ดินมูลค่านับร้อยล้าน มีบ้านอยู่อาศัยหลังละหลายสิบล้าน เพียงเท่านี้ครอบครัวก็น่าจะเป็นครอบครัวที่มีความสุขในระดับหนึ่งแล้ว เนื่องจากพ่อแม่หาเงินเก่งนั่นเอง

แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิด ครอบครัวนี้มีลูกอยู่ 4 คน เป็นหญิง 1 ชาย 3 ลูกก็เหมือนโซ่ทองคล้องใจของบุพการี เป็นผู้สืบสันดาน ด้วยเวรกรรมหรือบุพนิสัยแต่เก่าก่อนเรื่องนี้ก็ยากที่จะพูดได้ ผัวเมียคู่นี้ มีข้อเสียเพียงอย่างเดียว นั่นคือชอบด่าทอเเละใช้คำพูดที่รุนแรง ชอบเสี้ยมให้คนเขาแตกแยกกัน พูดต่อหน้าอย่างหนึ่งลับหลังอย่างนึง กล่าวง่ายๆคือถ้ามีเรื่องอะไรที่ผัวเมียคู่นี้รู้ เป็นอันว่าเรื่องนั้นต้องได้รู้กันทั้งซอย ต่อให้เป็นเรื่องน่าอายหรือเรื่องไม่สมควรพูดของบ้านหลังไหนก็ตาม

แล้วเวรกรรมก็ตามทันเขาในวันหนึ่ง สามีนั้นติดการพนันจนถอนตัวไม่ขึ้น ทองคำที่ภรรยานำใส่อ่างใบใหญ่ๆไว้จนเต็ม ถูกโขมยออกไปขายจนเกลี้ยงเพื่อนำเงินมาหมุนการพนัน รถคันละหลายล้านบาทบีเอ็มดับบลิวที่เปรียบเสมือนหน้าตาของคนขับก็หายวับไปกับตา แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นทรัพย์สมบัติยังเป็นสิ่งที่หาได้หากมีเเรงเเละพลังใจ

แต่สิ่งที่เสียไปเเละหาไม่ได้นั่นคือ ความอบอุ่นภายในครอบครัว ลูกชายทั้งสามกลายเป็นสาวประเภทสองไปผ่าตัดมาแล้วหนึ่งท่านสวยซะจนผู้หญิงปกติอาย ลูกชายคนที่สองญาติขอรับไปอุปการะเพราะญาติไม่มีลูกเเละญาติท่านนี้รวยมาก โดยเมื่อนำไปอุปการะเเล้วก็ไม่ให้พ่อแม่ได้พบลูกอีก ภายหลังญาติท่านนี้กลับมา ผัวเมียคู่นี้เมื่อพบญาติจึงเข้าไปถามทันทีในทำนองว่าเอาลูกตัวไปเลี้ยงมาหากันก็น่าจะมีเงินติดไม้ติดมือมาให้ใช้เล่นซักล้านสองล้านทำไมมามือเปล่า การณ์กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเมื่อญาติท่านนี้ได้ตอบว่า ยังมีหน้ามาทวงเงินกูอีกหรอ กูจะเอาลูกมาคืนพวกมึง คุยไปคุยมาจึงทราบว่า ลูกคนนี้ได้ปลอมลายเซ็นต์เอารถหรูไปขาย เอาสร้อยเพชรเเละทรัพย์สินในบ้านต่างๆ ทยอยโขมยออกไปขาย และเมื่อถูกจับได้ ก็ได้อันตรธานหายไปพร้อมกับเงินก้อนใหญ่เป็นที่เรียบร้อย ทุกวันนี้อยู่ที่ไหนไม่สามารถสืบหาตัวได้ เรื่องนี้สร้างความเจ็บปวดใจให้กับผู้เป็นพ่อแม่ยิ่งนัก

เมื่อมาถึงลูกคนที่อยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน ก็มีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ลูกชายนั้นติดการพนันตามพ่อ เพราะพ่อได้สอนและเเนะนำให้ลูกเล่นทุกอย่าง เวลาโมโหฉุนเฉียวก็จะด่าบุพการีรุนแรงแม้กับเรื่องเล็กๆเช่นเงิน100-200บาท เรียกได้ว่าพ่อและเเม่นั้นร้องไห้น้ำตาตกในยิ่งกว่าอะไรเสียทั้งหมด ส่วนลูกสาวเมื่อสอบเข้ามหาลัยที่ดีได้ พ่อแม่ก็คุยฟุ้งไปทั่วทุกตรอกซอกซอยเป็นหน้าเป็นตาเเก่ครอบครัวเเละวงศ์ตระกูล แต่เรียนยังไม่ทันพ้น 3 เดือน ก็ไปควงเด็กแว๊นที่ไหนไม่ทราบเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านตนเอง ถึงกับต้องให้พ่อแม่สร้างห้องใหม่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาให้เขาอยู่ และเเฟนเขาเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านก็ทำตัวเสียยิ่งกว่าเป็นพระราชาเสียอีก

เรื่องนี้พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าเจ้าตัวเขามาสารภาพให้ฟัง จึงเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจคน ให้คิดเสมอว่าความร่ำรวยนั้นไม่อาจซื้อความสุขให้แก่ชีวิตผู้ใดได้ การประพฤติปฏิบัติตัวเองให้ดีเสียอีกที่จะสร้างความสุขทางกายเเละทางใจให้กับตนเองเเละผู้อื่น หากตนเองไปผูกกรรมก่อเวรไว้เเก่ผู้หนึ่งผู้ใด ทำจนเขาได้รับความอับอายเเละยังทำต่อไปเรื่อยๆจนนิสัยเสียนั้นปลูกฝังเข้าไว้ในกมลสันดานเสียเเล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้ามันเกิดกับตัวเองอย่างเดียวก็คงดีไป แต่หากเกิดกับครอบครัวเกิดในชั้นลูกชั้นหลาน ความรุนแรงนั้นคงไม่สามารถประเมินมูลค่าใดๆได้ หลายคนที่เห็นคนทำผิดคิดชั่วได้ดีก็อย่าหลงไปอิจฉาเขา เพราะชีวิตคนนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะดีได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้นย่อมมีความทุกข์ทั้งสิ้น เพราะการเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เพื่อชดใช้กรรมดำเนินไปตามกลไกเเห่งกรรมเเละกาลเวลา

สิ่งเหล่านี้ก็ฝากไว้เป็นข้อคิดสอนใจเล็กๆ พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นคนมีความสุข สุขในที่นี้คือการดำรงค์อยู่อย่างมีความสุขไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด มีครอบครัวที่อบอุ่นมีการงานที่เจริญก้าวหน้า สมบูรณ์ทั้งทางโลกเเละทางธรรม

 

อันนี้เป็นข้อสงสัยของผมเอง ผมได้ถามท่านว่าทำไมคนทั้งสองที่เข้ามานั้น เขาทำตัวให้เสื่อมให้แย่ลงขนาดนั้น แต่เขาก็ยังมั่งมีร่ำรวยไม่รู้หมดสิ้น ถึงจะติดการพนัน แต่ตรงกันข้ามกิจการของเขาก็ยังดีวันดีคืนไม่ได้ทรุดต่ำลง จะมีก็แต่ครอบครัวที่แตกแยก ทรัพย์สินที่สะสมไว้ค่อยๆโดนนำไปใช้เล่นการพนัน

ท่านเล่าให้ฟังว่าแต่เดิม ท่านได้ลงตะกรุดสังวาลย์โภคทรัพย์ไพศาลให้กับภรรยาของเค้า ตัวภรรยาเค้าคาดตะกรุดชุดเส้นนี้พร้อมท่องหัวใจพระคาถาตลอด คาดติดตัวแม้ตอนนอน พอเชือกเปื่อยทีหนึ่งเขาก็เอามาให้เราขึ้นเชือกให้ใหม่ ทีนี้ สรรพวิทยาสรรพศาสตร์ทั้งหลายนั้น เป็นคนละส่วนกับเรื่องของเวรกรรม เมื่อกรรมตามสนองเค้า แต่สิ่งที่ไม่ได้ทิ้งเค้าเลยนั่นก็คือความรู้ที่ตนเองได้หมั่นพร่ำท่องบ่นด้วยความตั้งใจ และเเรงครูแรงวิชาในตะกรุดนั้นก็ไม่ได้ทิ้งศิษย์เเละผู้ศรัทธา อันความศรัทธาและพระเวทย์คาถาที่เรียนเเละท่องจำไปนั้น ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สมบัติที่จะอยู่ติดตัวเราไปจนชั่วชีวิต ทรัพย์นี้หากยังไม่ถึงที่ตายเเล้วก็จะไม่มีสิ่งใดมาพรากไปจากเราได้ เราได้ตัดสินใจลงสังวาลย์เส้นนี้ให้แก่เขาพร้อมทั้งสอนมนต์ภาวนากำกับแล้ว มันก็เป็นส่วนดีของเค้าที่นำไปภาวนาพร่ำบ่นจนเป็นนิสัย แม้จะพบเวรกรรมใดๆ เขาก็จะไม่ต่ำลงในทุกสถานหากยังทำมาหากินอยู่จะงอกเงยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

เรื่องนี้เป็นคติสอนใจดีๆให้กับตัวเองในหลายๆแง่มุม

* เมื่อคืนมีไลน์เข้ามาหาผมถามเรื่องพระองค์อินทร์ ผมเดาว่าน่าจะมีการนำไปจับไปวัดพลัง พี่ท่านนี้ถามผมว่ามีพรายหรือไม่ ผมนั่งนึกซักพักจึงนึกออกว่าตอนทำท่านจะผสมผงหัวเชื้อพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ลงไปด้วย ผมก็เลยถามว่า ถามแบบนี้เพราะสาเหตุใด พี่เขาบอกว่า มีคนสัมผัสได้ว่ามีพรายเลยถามดู ก็เลยบอกเค้าไปว่ามีผงพรายหลวงปู่ทิม พี่ท่านว่า แต่องค์นี้มีครบเครื่องเลยครับดีๆ เค้าบอกมาแค่นี้ ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ผมเชื่อว่าพระที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจเสกมีพุทธคุณและอิทธิคุณสูงจริงๆ

 

ผมแจ้ง PM ที่อยู่จัดส่งวัตถุมงคลไปแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ค่ำๆครับ ไม่รู้ว่า PM ไปถึงรึเปล่าอ่ะครับ =)