พระขุนเเผนพรายกุมาร นารายณ์อวตาร รุ่นเเรก พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ

พระขุนแผนพรายกุมาร
นารายณ์อวตาร ….พระยอดขุนพลเมืองใต้




สืบเนื่องจากคติความเชื่อว่า ขุนแผน ตามวรรณคดีเสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน เป็นวรรณคดีและมีเค้าโครงจริงสมัยอยุธยาซึ่งขุนแผนมีคาถาอาคมเป็นทั้งนักรบและนักรัก มีเมตตามหานิยม มีเมียมาก ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมชมชอบของชายชาตรีว่าเป็นเมตตาเป็นเสน่ห์แก่ตนดังนั้น เมื่อสมัยอยุธยามีการสร้างพระซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งหมายถึงพระพุทธชินราช พิมพ์ห้าเหลี่ยม จึงถวายพระนามท่านว่าขุนแผนเพื่อคติความเชื่อเรื่องเมตตานั่นเองแต่แท้ที่จริงแล้วคติการสร้างเดิมย่อมหมายถึงพระพุทธเจ้า ต่อมาคติความเชื่อขุนแผนยุคหลังยังมีมาอย่างต่อเนื่องพระเกจิอาจารย์หลายรูปล้วนแล้วแต่สร้างพระขุนแผนทั้งสิ้นด้วยความเชื่อและหวังผลเรื่องเมตตามหานิยม ให้คนนิยมชมชอบแก่ศิษย์ ในยุคกึ่งพุทธกาล ในบรรดาพระขุนแผนพรายกุมารด้วยกัน เห็นที่จะไม่มีใครจะดังและนิยมเท่ากับขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง สมัยนั้น อาจารย์ชินพร สุขสถิต ศิษย์เอกก้นกุฏิ หลวงปู่ทิม ผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร รุ่นแรกปี2517ยังบอกเองเลยว่า สมัยนั้นหลวงปู่ทิมยกให้เป็นปี๊บขนมปังจะหยิบเท่าไหร่หลวงปุ่ก็ให้ ในสมัยนั้นไม่ได้สนใจเห็นว่าพระกรุขุนแผนวัดใหญ่ชัยมงคลนิยมมากกว่า จึงไม่ได้สนใจ มาภายหลังด้วยประสบการณ์อันมากมายของพระขุนแผนหลวงปู่ทิม ปรากฏว่า ค่านิยม ของพระขุนแผนหลวงปุ่ทิม จากที่แจกกันได้ เป็นพระแถมบ้างสมัยก่อนตอนนี้องค์สวยๆราคาเช่าหากันเป็นล้าน ใครจะไปเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงแต่เป็นไปแล้ว มาถึงยุคนี้ ยุคอย่างเราๆคงไม่หาญกล้าพอจะเช่าพระเครื่ององค์นึงเป็นล้านๆ แต่อยากได้พระที่เรียกว่า แทนกันได้แม้จะไม่เหมือนแต่ก็เรียกว่า ห้อยแล้วอุ่นใจไปไหนมาไหนไม่อายใคร ด้วยเหตุผลข้างต้นผมมานั่งคิดว่า ศิษย์หลวงปู่ทิม ผู้ใกล้ชิดได้รับมอบมวลสารเก่าของหลวงปู่ทิม และวิชาอาคมบางส่วนของหลวงปู่ยังอยู่ ประกอบกับผมนับถือเป็นการส่วนตัวด้วย ผมจึงเรียนปรึกษาอาจารย์ที่ผมเคารพคือ อาจารย์ชินพร สุขสถิต ว่าขออนุญาติใช้พิมพ์พระขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ ของหลวงปู่ทิม และขอผงมวลสารผงพรายกุมารอันลือลั่น ชื่อดูขลังๆบางคนนึกว่าผสมอะไรที่อาถรรพ์หรือเปล่าแน่นอนว่ามวลสารนี้มีอายุกว่าห้าสิบปีมาแล้ว มีส่วนผสมของผงเถ้าของเด็กตายทั้งกลม เล็กน้อย ผสมกับผงว่านยาที่มีสรรพคุณทางรักษาโรคเป็นถังๆ เรียกง่ายๆว่า เป็นการผสมพอเป็นหัวเชื้อเท่านั้น และถามว่า ทำไมถึงต้องผสมอาถรรพ์แบบนี้ ต้องอธิบายว่าโบราณจารย์ท่านชาญฉลาด ท่านกำหนดแบบนี้ไว้มิใช่เพื่อความงมงายแต่หากท่านกำนนดแบบนี้เนื่องจาก โดยปกติ ความรักที่แม่มีต่อลูกย่อมรักและผูกพันแม้เลือดเนื้อร่างกายและชีวิตจิตใจ ย่อมสละชีพเพื่อลูกได้ทุกอย่างด้วยเหตุนี้ พวกเราขออะไรย่อมขอจากแม่ได้ทุกอย่างด้วยความรักของแม่ ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นเมตตาขั้นสูงสุด แม้แต่ตำราหลวงพ่อมะขามเฒ่า พระอาจารย์ของเสด็จในกรม พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ยังมีนะดอกดิน เป็นนะที่เขียนอักษรคำว่า พ่อ และแม่ ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง เพื่อผลในเรื่องเมตตา อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าจะขออะไรคนเขาก็ให้เพราะอะไร คำว่าพ่อแม่ แม้ชีวิตก็ให้ลุกได้ ด้วยเหตุนี้จึงถือว่า นี่คือสุนทรีย์ที่เหมือนไสยศาสตร์ที่ซ่อนความนัยถึง ความรักและความผูกพันธ์ของแม่ที่มีต่อลูกนั่นเอง นี่คือเคล็ดลับมหานิยม และบทคุณพระที่มีคุณทางเมตตามหานิยมเฉกเช่น พุทโธ เมตตาคุณังอรหังเมตตา หรือบท ปิโย อันเป็นบทที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นที่รักของ เทวดา มนุษย์ นาค พรหม เนื่องด้วยพระเมตตาธรรมที่ทรงเป็นพระอรหันต์นั่นเอง เมตตาอัปปะมาโน ดังนั้นทำอย่างไรเป็นเมตตาคือเมตตาต่อผู้อื่นและตนเองนั่นเอง ใครทำได้ก็แสนสุขใจ





เกจิที่ปลุกเสกขุนแผนพรายกุมาร นารายณ์อวตาร ยอดขุนพลเมืองใต้
หนึ่งพระเกจิ หนึ่งเกจิฆราวาส สองกฤติยาคมแฝด
ด้วยความเมตตาของอาจารย์ชินพร สุขสถิต ได้มอบต้นแบบขุนแผนพรายกุมารและผงพรายกุมารมาให้ ผมตั้งใจว่าพระขุนแผนรุ่นนี้ต้องให้พระเกจิอาจารย์ที่มีความบริสุทธิ์เป็นพระแท้เป็นผู้อธิษฐานจิตและวัตรปฏิบัติต้องเหมือนๆกับหลวงปู่ทิม คือเป็นผู้สละไม่ยึดติดอะไร และพระองค์นั้นจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก พระครูอนุศาสน์กิจจาทร หรือ พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ ปัตตานี ผู้เป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ตัวพ่อท่านเขียวเอง ท่านเคยร่วมพิธีปลุกเสกหลวงพ่อทวด วัดช้างให้เมื่อปี2497 ปี2522-2524 จึงถึงปัจจุบัน เรียกว่า หากครั้งใด ทำการปลุกเสกหลวงพ่อทวดของภาคใต้ ต้องมีการนิมนต์พ่อท่านเขียวด้วยเกือบทุกครั้งเรียกว่าขาดกันไม่ค่อยได้ หรือขาดไปเกรงจะขาดความขลังประมาณนั้น เท่าที่ทราบและกราบพ่อท่านเขียว มาสิบปีพอดี ท่านเป็นพระเมตตา ต้อนรับขับสู้และสงเคราะห์ไม่เกี่ยงว่ารวยว่าจน คนสนิทไม่สนิทท่านก็ต้อนรับเหมือนกันเท่าเทียมกันหมด ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ท่านมีความเสมอต้นเสมอปลาย แม้แต่สัตว์ท่านก็เมตตาป้อนข้าวป้อนน้ำให้ ท่านไม่ได้ยึดติดหรือเรียกร้องเงินทองจากใคร เรื่องนี้ศิษย์ที่ใกล้ชิดจะรู้ดีว่าไม่มีในนิสัยของท่านเลย เรื่องด่างพร้อยอะไรของท่านก็ไม่มีให้ติฉินนินทา ตัวท่านเองนับถือหลวงพ่อทวดมาก วิชาของท่านนอกจากเรียนจาก โยมพ่อแล้ว ท่านยังเรียนจากตำราเก่าแก่ตกทอดของหลวงพ่อดำ วัดนางโอ และยังเรียนจากเกจิฆราวาส แถวระโนด สามารถเสกใบไม้เป็นต่อแตนได้ เสกด้วยพระคาถานอโมด้ามครก รวมทั้ง วิชารับทรัพย์ วิชาพรานบุญ วิชาเสกพยนต์ต่างๆ ท่านเรียนโหราศาสตร์ และเรียนหมอแผนโบราณ ท่านเป็นพระที่ทันสมัยเสมอเหตุบ้านการเมืองอะไรท่านทราบหมด และเป็นพระที่ตรงไม่เอาใจใคร ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงปู่เป็นแบบนี้ผมจึงตั้งใจว่า พระขุนแผนรุ่นนี้ถือเป็นที่ระลึกแห่งองค์หลวงปู่ท่านด้วยจึงทำตราประทับกดไปด้านหลังพระขุนแผนรุ่นนี้ว่า ตัวนัง พ่อท่านเขียว 85 หมายถึง ยันต์ที่หลวงพ่อทวดมาบอกท่านในนิมิต เพื่อเขียนในตะกรุดแจกทหาร และ 85หมายถึงอายุของท่านในขณะนี้ เพื่อให้พระนี้เป็นพระที่มีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใคร การถอดพิมพ์ ถอดพิมพ์โดยคุณพ่อของผมเอง และผสมบดมวลสารคลุกเคล้าและตำผสมมวลสารทั้งหมดอยู่ในบ้านพักส่วนตัวของผมเอง ไม่ได้ว่างจ้างช่างมากดพิมพ์หรือคนภายนอกกดแต่อย่างใด มีแต่สองคนพ่อลูกที่กดพิมพ์และผสมมวลสารแบบโบราณแบบจำเพาะ อย่าถามว่าดียังไงต้องบอกว่าถ้าเรื่องมวลสารแล้วเชือดขนมกินได้เลยว่า ถ้าเขียนในรายการมวลสารว่าใส่คือใส่เป็นทัพพีไม่ได้ใส่ช้อนสองช้อนแล้วมานั่งเขียนให้เสียสายตาโดยพระรุ่นนี้จะให้หลวงปู่เขียวปลุกเสกเดี่ยวให้สบายใจและหากเป็นไปได้จะนำไปให้อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ เสกพระขุนแผนนี้แบบบินเดี่ยวอีกทีนึง เรียกว่า ให้ปลุกเสกแบบใกล้ชิดและชิดให้เรียกได้เลยว่านี่คือที่สุดแห่งสุนทรีย์แห่งการสร้างขุนแผนพรายกุมาร เรียกว่าได้ทั้งบุ๋นและบู้ไปเลย หากจะบอกไป บอกได้เต็มปากว่า อาจารย์ชินพร สุขสถิต ถือได้ว่าเป็นเกจิฆราวาสคนหนึ่งของยุคนี้และมีความเข้มขลังไมใช่ขลังเพราะว่าท่านดังแต่หากจะบอกไปคนใกล้ชิดท่านอาจารย์เคยเห็นอาจารย์ตื่นแต่เช้าตีสี่ตีห้าท่องบ่นพระเวทย์ตามที่ได้เล่าเรียนมาพร้อมทั้งพระคาถาเก่าแก่จากตำราก็เอามาท่องบ่นเป็นประจำและมีจิตที่เข้มแข็งมีตบะจึงหล่อหลอมให้เกิดความเข้มขลังความศักดิ์สิทธิ์เป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดครบเครื่อง ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำพระขุนแผนให้ตื่นจากในตำนานให้กลับมามีชีวิตและลมหายใจอีกครั้ง




มวลสารเนื้อผงที่นำมาผสมเป็นขุนแผนนารายณ์อวตาร ยอดขุนพลเมืองใต้ ประกอบด้วย
1.ผงปูนวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง
ได้รับมอบมาจากข้าราชการผู้ใหญ่เมตตามอบให้หลายวาระ
2.ผงดินไทย พระพุทธรูปสมัยราชวงศ์บ้านพลูหลวง วัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
เป็นของเก่าแก่ตกทอดมา ผู้ใหญ่ในนครศรีธรรมราชมอบให้มาเมื่อหลายปีก่อน
3.ผงปูนส่วนพระเศียรพระพุทธรูปแตกหักสมัยโบราณ ในถ้ำฉัททันต์ วัดเขาอ้อ พัทลุง
พ่อท่านกลั่นมอบให้มาโดยอนุญาติให้ไปเก็บเอาเองในถ้ำสมัยเมื่อสิบกว่าปีก่อน
4.ผงพระพุทธคุณ และช่อฟ้า วัดระฆังโฆษิตาราม
ศิษย์สายตรงวัดระฆังมอบให้โดยความเมตตา ผงพระพุทธคุณเป็นแท่งชอล์กที่เอาไว้เขียนผงคุณพระตกทอดอายุนับร้อยปี นัยว่าทันสมเด็จโต
5.ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง รับมอบจากอาจารย์ชินพร สุขสถิต
เป็นผงหัวเชื้อที่ผสมมวลสารหลวงปู่ทิมหลายอย่างและมวลสารอาถรรพ์ตามตำรับหลวงปู่ทิม
6.ผงพระพรายสมุทร พ่อท่านเจิม อชิโต วัดศรีสมบูรณ์(หอยราก) 1ถุง
ได้รับมอบมาจากทางวัดหอยรากเป็นพระแตกหักจึงนำมาบดแล้วร่อนนำมาสร้างพระซึ่งส่วนประกอบของพระผงพรายสมุทรมีวัตถุอาถรรพ์และผงพระกรุท่าเรือ นคร ผสมอยู่ด้วยจำนวนมากอีกทั้งมีพระเกจิอาทิ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ พ่อท่านสังข์วัดดอนตรอ ร่วมเสกพระชุดนี้ด้วย เรียกว่าชุดรวมยอดเกจิเมืองนครก็ไม่ผิด
7.ดินเจ็ดป่าช้า เสกและบังสุกุลโดย พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย และ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ
ดินเจ็ดป่าช้าทั้งหมดนี้มีการเก็บสองครั้ง และสถานที่สำคัญป่าช้าเก่า เก็บมาเองกันทั้งหมดเรียกว่าสบายใจได้ว่าผสมใส่อย่างแน่นอน ผ่านพิธีกรรม พลีกรรมขอนายป่าช้าและมีการบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาและตามหลักไสยเวทย์เรียบร้อย
8.ผงแป้งพระราชพิธี แรกนาขวัญบนแท่นประรำพิธี ณ ท้องสนามหลวง
ผงแป้งนี้ผมไปเก็บหลังเสร็จพิธีกรรมมาด้วยตนเองจึงมั่นใจได้ว่าแท้แน่นอน
9.ไม้หลักเมืองนครศรีธรรมราช ได้รับมอบจาก โกน้อย ศิษย์ก้นกุฏิคนสนิทชิดเชื้อ นายอะผ่อง สกุลอมร หรือโกผ่อง ร่างทรงหนึ่งเดียวของจตุคามรามเทพ ในตำนาน แห่งยุคเป้นผู้มอบให้
10.ผงหลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว
11.ผงหลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า
12.ผงหลวงพ่อบุญ วัดกลางบางแก้ว
13.ผงพระสมัยอยุธยาที่แตกหักจำนวนมาก จากวัดสำคัญวัดต่างๆเช่น วัดใหญ่ชัยมงคล วัดบ้านกร่าง วัดอรุณราชวรวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุพระในจังหวัดลพบุรี ผงพระกรุ108กรุ
14.ผงว่านหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี2497 ผงดินว่านหลวงพ่อทวด วัดดีหลวง ปี2505
15.ผงพรายจันทรคราส ผงพรายจันทรเพ็ญ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เสกเดี่ยว
16.ผงอังคารธาตุหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จากป้าน้อย ป้าน้อยได้รับมอบจากครูเย็นอีกทีนึง
17.ดินสังเวชชีนยสถาน ทั้งสี่แห่ง ผงร้อยหมื่นสังขาร จากแม่น้ำคงคามหานที
18 .ผงดินพระพุทธบาทสี่รอย วัดพระพุทธบาท สระบุรี
19.ผงดินพระราชวังบวรสถานมงคล วังหน้า
มวลสารทั้งหมดถูกคลุกเคล้าด้วยน้ำผึ้ง น้ำมันตังอิ๊ว และปูนเปลือกหอยเพียงเล็กน้อย ตำจนได้ที่เหนียวพอประมาณจึงกดพิมพ์ หลังจากกดพิมพ์เสร็จผมเอามาผึ่งลมไม่ได้ตากแดด เพราะต้องให้พระแห้งอย่างช้าๆไม่งั้นพระจะลานและแตก ดังนั้นกว่าจะได้พระกดพิมพ์แบบโบราณตำครกกดพิมพ์มือนั้นยากเย็นจริงๆ หลังจากผึ่งลมอยู่บนหน้าแท่นบูรพาจารย์ก็สวดมนต์บูชาทุกๆวัน ด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มงกุฎพระพุทธเจ้า บทพระคาถาหลวงพ่อมะขามเฒ่า เป็นต้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นก่อนเอาเข้าพิธีใหญ่ในวันพ่อนี้อีกครั้งที่เมืองลพบุรี
หากจะถามว่า ดินเจ็ดป่าช้านี้ ถามว่าที่มาที่ไปอย่างไรเห็นใครๆเขาก็บอกใส่กันจะมีสักกี่ที่ ที่เก็บดินจากเจ็ดป่าช้าจริงๆ จะบอกว่าสถานที่เก็บดินเจ็ดป่าช้านั้น คนที่เก็บทราบจากในฝันว่าลักษณะสถานที่จะเป็นอย่างไรเมื่อไปถึงที่ป่าช้าพบว่าตรงกับความฝันทุกประการ ตอนไปเก็บต้องมีกระทงธูปเทียนไปขอ นายป่าช้าที่เฝ้าด้วยทำแบบโบราณ คนเก็บดินเป็นข้าราชการซี8เป็นฆราวาส ขมังเวทย์สายปรางค์หมู่ สายเขาอ้อ ทุกอย่างทำโดยบุคคลมีความรู้มีหน้าที่การงาน ส่วนคนที่พาไปและคนดูแลเรื่องดินชื่อ ฤทธิ์ ชื่อ ฤกษ์ ชื่อ บารมี เพียงแค่ชื่อคงทราบแล้วว่ามีเคล็ดลางเข้ามาเกี่ยวข้องแบบเต็มๆอย่างหาที่เปรียบมิได้ อะไรก็แพ้ทำจริง ไหนๆทำทั้งทีต้องทำให้ดี และชัดเจน
สุดท้ายนี้คงไม่มีพระอะไรจะขลังและศักดิ์สิทธิ์เท่า พระทุกขัง พระอนิจจัง พระอนัตตา คือพระไตรลักษณ์ที่ทุกคนหนีไม่พ้น ไม่ช้าก็เร็ว






รายการพระที่สร้างมี3แบบดังนี้
1. แบบฝังตะกรุด 2ดอก โรยโมเสส วัดพระแก้ว
2.แบบฝังตะกรุด1ดอก
3.แบบธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
ปล.ตะกรุดที่ปั้มเป็นตะกรุดที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้ปลุกเสกเดี่ยว แล้วมอบให้ป้ากิมลั้ง อินพันทังเมื่อปี2509ผมได้รับมอบจากลูกสาว คือป้าดา ลูกแท้ๆเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของป้ากิมลั้ง

ด้วยจิตคารวะ

คนวังหน้า

 

เปิดจองวันไหนครับหมอ

 

เเบบตะกรุด สองดอก

เนื้อธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
สำหรับพระขุนเเผนนารายณ์อวตาร
ปลุกเสกเดี่ยว โดยพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เเละ อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์
เเละเข้าพิธีนารายณ์อวตาร เมืองลพบุรี

ตะกรุด2ดอกทำบุญ 5500บาท
เนื้อธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ทำบุญ1200บาท
ใครจะทำบุญกรุณาลงชื่อ หลังโอนเงินเเจ้งที่อยู่นะครับ

จะนำเงินไปสมทบทุนสร้างพระเจดีย์สามยอด วัดดีหลวงต้นปีหน้า
เเละสร้างวิหารบูรพาจารย์ พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย

ท่านที่ร่วมทำบุญ กรุณาโอนปัจจัย ไปที่ อาจารย์ นายแพทย์ ประพล เองชวน ตามนี้ครับ

ชื่อบัญชี นายประพล เองชวน
ธนาคารกรุงไทย สาขาโรงพยาบาลสงขลา
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 9805253309

 

การเดินทางปลุกเสกของขุนเเผน

 

จำนวนการสร้างรวมไม่ถึง 300องค์
ดังนั้น ต้องรีบเเล้วละครับ
เพราะเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง เพราะวันงานเเจกจ่ายให้กับคนทำบุญเเละให้คนช่วยงานไปหลายคนเหมือนกันครับ

 

รีบตัดสินใจนะครับ บูชาได้เลยครับ

 

จองเนื้อพิเศษ 1
เนื้อธรรมดา 1
ครับ

 

ต้องระบุด้วยครับว่าชนิดเเบบไหน ฝังตะกรุดดอกเดียวหรือสองดอก

หลังโอนเงินกรุณา บอกชื่อที่อยู่จัดส่งพระด้วยครับ พร้อมโพสสลิปเงินด้วยครับ

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

 

ตอนนี้ยอดพระขุนเเผนที่ให้ทำบุญได้
สำหรับตะกรุด2ดอก มี20องค์
สำหรับ ตะกรุด1ดอก20องค์
เเละ เนื้อธรรมดา 50องค์


ยอดรวมไม่ถึงร้อยองค์สุดท้าย

ปล.นอกนั้นเเจกจ่ายคนช่วยงานไปหมดเเล้วครับ

 

ตะกรุด1ดอกนี่เนื้อพิเศษใช่ไหมครับ บูชาเท่าไหร่ครับ

 

ตำนานไปแล้ว