หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย apisab, 2 กันยายน 2014.

  1. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    [​IMG]

    มีคนถามว่าขวดที่ใส่น้ำสีข้าง ๆ องค์พระคืออะไร

    เป็นน้ำมันกายสิทธิ์ครับ

    คนที่รับมาจากหลวงปู่เล่าว่า แค่ทาบนวัตถุมงคลก็จะเหมือนกับหลวงปู่ท่านเสกเองเลย

    ถ้าในสายหลวงพ่อฤาษีก็จะเป็นน้ำมันชาตรี ที่กินรักษาโรค เจิมต่าง ๆ
     
  2. trex2553

    trex2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอราคาตะกรุดและพระปิดตาด้วยครับ
     
  3. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2014
  4. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เรื่องเล่าของพิทักษ์โลก จากคนที่รอดชีวิต

    ครั้งที่หลวงปู่ไปบูรณะพระธาตุบังพวนได้นำพระไปบรรจุกรุ เช่นพระพิทักษ์โลก และหลวงปู่ก็แจกญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ (บ้างก็เล่ากันว่าหลวงปู่ท่านเคยมาสร้างพระธาตุบังพวนในสมัยก่อน เมื่อถึงคราวต้องบูรณะหลวงปู่ท่านก็มาซ่อมแซมตามที่ท่านเคยสร้างไว้)

    ข้อมูลจากวิกิพิเดีย
    (พระธาตุบังพวน ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุบังพวน บ้านดอนหมู ตำบลพระธาตุบังพวน ห่างจากอำเภอเมืองหนองคาย ประมาณ 21 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2 (หนองคาย-อุดรธานี) ประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 211 (หนองคาย-ท่าบ่อ) ถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 10 วัดจะอยู่ด้านขวามือริมทาง

    เดิมพระธาตุบังพวนเป็นเจดีย์เก่าแก่ เป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคายมาช้านานตัวองค์พระธาตุเดิมเป็นเจดีย์สร้างด้วยอิฐเผา มีรูปทรงแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ลักษณะเจดีย์ เป็นรูปสถูปแบบอินเดียรุ่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์ เจดีย์องค์ปัจจุบันบูรณะขึ้นใหม่โดยกรมศิลปากรในระหว่างปี พ.ศ. 2519-2521 หลังจากที่องค์เดิมได้พังทลายลงเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2513 เนื่องจากฐานทรุด พระธาตุองค์ปัจจุบันมีฐานทักษิณ 5 ชั้น กว้าง 17.20 เมตร สูงถึงยอดฉัตร 34.25 เมตร รูปปรางค์สี่เหลี่ยมต่อกันเป็นบัวปากระฆังชั้นที่ 6 เป็นรูประฆังคว่ำ ชั้นที่ 7 เป็นรูปดาวปลี และเหนือชั้นไปเป็นที่ตั้งฉัตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  5. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ตอนที่ท่านแจกพระพิทักษ์โลก รับกันหลายคนเรื่องที่จะเล่าเป็นหญิงคนหนึ่งรับไป ซึ่งปัจจุบันแกอยู่ที่อำเภอบุ่งคล้า จ.หนองคาย ถ้าตอนนี้ก็คงจะแก่มากแล้ว แกก็นำไปไว้ที่บ้านเมื่อลูกชายแกรับราชการเป็นทหารอากาศ แกก็ให้พระพิทักษ์โลกให้กับลูกชายไว้คุ้มตัว

    จนกระทั้งวันหนึ่งของการฝึกบิน อากาศแจ่มใส่ แต่ก็มิวายเครื่องบินที่เขาฝึกเกิดตกลงกลางทุ่งนาเครื่องบินระเบิด ไฟไหม้ทั้งลำแต่ชายคนนี้ เขาไม่เป็นอะไรเลย ชาวบ้านก็ถาม ๆ กันหละครับว่าแขวนพระอะไรก็มีอย่างเดียวที่ติดตัวอยู่ก็คือพิทักษ์โลก

    เมื่อมีเวลาเขาได้ไปกราบหลวงปู่และเล่าเรื่องราวให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่เมตตาตอบว่า


    "ใครมีของ ๆ เฮาบ่ต้องย้าน บ่ตายโหงดอก อย่าว่าแต่เอ็มสิบหกเลย นิวเคลียร์ก็บ่ได้กิน"

    แปล.. ใครมีพระของท่าน ไม่ต้องกลัว ไม่ตายโหง อย่าว่าแต่ปืนเอ็มสิบหกเลย นิวเคลียร์ก็ทำอะไรไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  6. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ในครั้งที่กรมศิลป์ได้บูรณะพระธาตุบังพวน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๐ นั้น กรมศิลป์ฯ ได้สร้างพระถวายหลวงปู่เช่น พิมพ์พระรอด พิมพ์พระซุ้มกอ ซึ่งหลาย ๆ คนได้รับจากจากมือหลวงปู่กันเป็นละหนึ่งกำมือ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  7. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    อีกพิมพ์ ซุ้มกอ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. helloxman

    helloxman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +103
    สอบถามราคาครับ

    :cool:
    สอบถามราคา
     
  9. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  10. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พระดีที่หลวงปู่พูดถึง ..........จากความทรงจำของพี่ชายท่านหนึ่ง​


    คนที่ไหว้กราบหลวงปู่ทองทิพย์มักจะเล่าให้ฟังเสมอว่าหลวงปู่ชอบเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิทานปรัมปรา นิทานพื้นบ้านที่ชาวอีสาน-ลาวเล่าต่อ ๆ กันมาซึ่งหลวงปู่ว่าเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น เช่น จำปาสี่ต้น ท้าวสีโหและสังข์ศิลป์ชัย รามเกียรติ์ เป็นต้น บางครั้งหลวงปู่ก็บุพกรรมของบุคคลสำคัญ ๆ ในอดีต แต่ที่เขาจำได้คราวไปกราบท่าน ๆ จะพูดถึงพระดีที่น่ากราบไหว้ บางองค์ก็มรณภาพไปแล้ว เช่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่พิบูลย์ วัดพระแท่นบ้านแดง จ.อุดรธานี หลวงปู่เล่าว่าองคนี้บามีพระโพธิสัตว์ เก่งจะกลับมาตรัสรู้ภายภาคหน้า สมัยก่อนหลวงปู่พิบูลย์ท่านมีชื่อเสียงมากที่ภาคอีสานตอนบน เป็นที่รู้จักด้วยการจุดเทียนดำน้ำ จีวรไม่เปียก ไฟเทียนไม่ดับ เพื่อปราบจรเข้ที่ทำความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน สำหรับหลวงปู่พิบูลย์นี้ท่านธุดงค์ไปศึกษาวิชากับปู่ฤๅษีที่ภูเขาควายและยังมีพื้นเพเป็นคนร้อยเอ็ดเช่นเดียวกับหลวงปู่ทองทิพย์ด้วย


    [​IMG]


    เรื่องราวชีวะประวัติของหลวงปู่พิบูลย์ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี้ http://luangpoopibool.blogspot.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  11. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    องค์ต่อมาก็คือ หลวงปู่สีทัตถ์ คนชาวท่าอุเทน นครพนมเรียกท่านว่า “พ่อแม่สีทัตถ์” สร้างพระพุทธบาทบัวบก และพระธาตุอุเทน ไป ๆ มาๆ สองฝังไทย-ลาว หลวงปู่ทองทิพย์เล่าว่า พ่อแม่สีทัตถ์ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ ลงมาให้ชาติสร้างบารมีเหมือนกันและจะเป็นพระพุทธเจ้า ๑ ใน ๑๐ องค์ข้างหน้า หลวงปู่ว่าอดีตท่านคือ
    “อสุรินทราหูโพธิสัตว์”


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    เรื่องราวต่าง ๆ ของหลวงปู่สีทัตถ์ ลองเข้าชมดูครับ http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-seetud/lp-seetud-hist.htm
    หลวงปู่สีทัตถ์ ท่านเป็นพระที่มีบุญญาบารมีสูงยิ่งจริง ๆ และท่านมีอภินิหารแก่กล้ามาก

    ท่านสามารถก่อสร้างพระธาตุต่าง ๆ สำเร็จมาแล้วหลายแห่ง เช่น

    ๑. พระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

    ๒. พระธาตุพระพุทธบาทบัวบก อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี

    ๓. มณฑปโพนสัน ประเทศลาว

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างพระธาตุท่าอุเทน นั้น หลวงปู่สีทัตถ์ท่านมีความสามารถสร้างเหมือนพระธาตุพนมสมัยก่อนได้ทั้ง ๆ ที่ฐานรองรับก็เพียงขุดหลุมแล้วใส่หินนางเรียง หรือหินแก้วนางฝาน เป็นฐานรองรับพระธาตุซึ่งยังไม่ทรุดแต่ประการใด และมีอายุยาวนานมากว่า ๗๐ ปีแล้ว

    นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์มิใช่น้อยที่คนในสมัยนี้คงไม่มีบารมีก่อสร้างได้เช่นท่าน เพราะการนำเอาหินแก้วนางฝานมารองรับองค์พระธาตุได้นี้ นับว่าเป็นอภินิหารอันแก่กล้าของท่านเหนือโลกจริง ๆ

    จากปากคำบอกเล่าในบันทึกของอดีตนายอำเภอซึ่งได้รับคำไขขานบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองท่าอุเทนเล่าให้ฟังว่า

    หลวงปู่ท่านหายตัวได้และย่อแผ่นดินจากกว้างให้แคบได้

    เช่นเมืองท่าอุเทนอยู่ฝั่งไทย เมืองปากหินปูนอยู่ฝั่งลาว โดยมีแม่น้ำโขงกั้นกลางอยู่ แต่หลวงปู่ท่านก็มีความสามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย

    มีเรื่องเล่าว่าในสมัยนั้นฝั่งลาวกับฝั่งไทยมีความรักใคร่กันดี เมื่อมีงานบุญก็จะบอกกล่าวถึงกันเป็นประจำ แม้จะมีแม่น้ำโขงขวางกั้นอยู่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

    พระเณรจะถูกนิมนต์ให้ไปร่วมทำบุญและไปกันเป็นคณะ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านก็ถูกนิมนต์ไปด้วยเสมอ เพราะชาวฝั่งเมืองหินปูนต้องการชมบารมี และจะได้เห็นหน้าเห็นตาท่านชัด ๆ สักที

    เมื่อญาติโยมได้นิมนต์พระสงฆ์องค์เณรเรียบร้อยแล้วก็ได้พากันไปนิมนต์หลวงปู่สีทัตถ์ ซึ่งขณะนั้นท่านกำลังสั่งและควบคุมพวกช่างสร้างพระธาตุท่าอุเทนอยู่โดยขอนิมนต์ให้ท่านไปพร้อม ๆ กันหลาย ๆ รูปและหลายลำเรือและกล่าวกับท่านว่า

    “ชาวเมืองปากหินปูนกำลังรออยู่ ขอให้หลวงปู่ลงเรือไปด้วยกันให้จงได้ เพราะที่เรือได้เตรียมปูเสื่อน้อยให้สำหรับหลวงปู่อยู่แล้ว เพื่อจะได้ไปทันเจริญพระพุทธมนต์ก่อนเพลในโบสถ์ วัดปากหินปูน

    เสร็จแล้วก็จะได้ให้หลวงปู่ร่วมฉันเพลกับพระรูปอื่น ๆ ด้วย”

    หลวงปู่ท่านกล่าวกับญาติโยมว่า

    “ไปก่อนเถอะ จะสั่งเสียมอบหมายการงานให้ช่างสร้างพระธาตุท่าอุเทนเรียบร้อยแล้ว จะรีบตามไปให้ทันทีหลัง

    พวกญาติโยมก็พากันคะยั้นคะยออยู่หลายครั้ง หลวงปู่จึงหันหน้ามาบอกว่า

    “ไปเถอะ ไปก่อนเถอะ จะตามไปให้ทันทีหลัง ไม่ต้องห่วง”

    จากนั้นญาติโยมก็พากันลงเรือข้ามไปปากหินปูน พอไปถึงฝั่งปากหินไน ที่วัดกำลังมีงานผู้คนก็มาก ญาติโยมได้พาพระเณรจากฝั่งไทยเข้าโบสถ์

    แต่เมื่อทุกคนมองเข้าไปในโบสถ์ ก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างยิ่งเพราะพระเณรของเมืองปากหินปูน ต่างก็นั่งห้อมล้อมหลวงปู่สีทัตถ์อยู่อย่างเนืองแน่น สร้างความประหลาดใจไปตาม ๆ กัน

    เพราะเรือที่ตามมาติด ๆ กันมิได้เห็นมีสักลำ จะเข้าไปถามดูว่าท่านมาได้อย่างไรก็ไม่มีโอกาส เพราะมีพระอยู่มาก และกำลังประกอบกิจทางศาสนาอยู่

    เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ตอนบ่าย ๆ ญาติโยมก็พากันเดินทางกลับมายังเมืองท่าอุเทน ซึ่งหลวงปู่ท่านก็กลับมาด้วย

    พอมาถึงวัด ญาติโยมที่ฉงนสนเท่ห์เป็นอย่างมาก เพื่อให้หายสงสัยจึงไปกราบนมัสการถามหลวงปู่ว่า

    “หลวงปู่ไปถึงวัคปากหินปูนก่อนได้อย่างไร”

    ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ตอบไปโดยเลี่ยง ๆ ว่า“ก็ตามกันไปนั่นแหละ ไม่เห็นหรือ ?”

    จากนั้นหลวงปู่ท่านก็พูดคุยไปในเรื่องอื่น ๆ อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างพระธาตุว่า

    “งานของเรายังมีอีกมาก ช่วยกันเข้าจะได้เสร็จ ๆ ไป”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • picture1.jpg
      picture1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.6 KB
      เปิดดู:
      2,670
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2014
  12. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    "ญาครูขี้หอม หรือพระครูหลวงโพนสะเม็ก" ​

    ใน ปี 2241 เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าสุริยวงศาธรรมาธิราช สวรรคตได้ 8 ปี ประเทศลาวที่กว้างใหญ่ไพศาลได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 อาณาจักร เป็นอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก

    โดยเฉพาะอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก มีความผูกพันกับพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก ซึ่งเป็นพระครูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เคารพศรัทธาสูงสุดของชาวลาวตอนล่าง จนได้รับฉายาว่า "พระครูขี้หอม" หรือ "ญาคูขี้หอม" ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง ส่งผลให้ผู้คนเก็บสิ่งของเครื่องใช้ของท่านพระครูมาบูชา แม้แต่อุจจาระของท่านก็ไม่รังเกียจ เนื่องจากพระครูยอดแก้วโพนสะเม็กฉันอาหารมังสวิรัติประเภท เผือก มัน งา มะตูม จึงทำให้อุจจาระของท่านไม่มีกลิ่นเหม็น

    อ่านเรื่องราวต่าง ๆ ของท่านได้ที่นี้ http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05110010655&srcday=&search=no
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2014
  13. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พระทางภาคใต้ของไทย... พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน​

    [​IMG]


    พระทางสปป.ลาว สำเร็จลุน


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    นอกจากนี้หลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็พูดถึงพระที่ยังมีชีวิตอยู่ในสมัยนั้นคือ หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ท่านกล่าวยกย่องและบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบเอาบุญ พี่ชายท่านนี้ฟังแล้วก็เกิดศรัทธาขับรถออกจากวัดไปกราบหลวงปู่สรวงที่จังหวัดศรีสะเกษ

    เขาเล่าว่าพอไปถึงเห็นหลวงปู่สรวงอยู่กระต๊อบเล็ก ๆ กลางทุ่งนา พอไปถึงหลวงปู่สรวงท่านก็ทักขึ้นก่อนว่า เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ใช่ไหม? เขาตอบว่าใช่ครับหลวงปู่ หลวงปู่ทองทิพย์ให้มากราบ หลวงปู่สรวงท่านก็ว่า ดีแล้วมาเจอเฮากราบเฮานะ แล้วท่านก็ให้พรเป็นภาษาเขมร เมื่อลาท่านกลับมาถึงวัดป่าสีดาฯ หลวงปู่ทองทิพย์ก็บอกว่า หลวงปู่สรวงกับเฮาเป็นเพื่อนกันในอดีต สร้างบารมีร่วมกันมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP9420.jpg
      IMGP9420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      923.2 KB
      เปิดดู:
      735
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2014
  15. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    ล็อกเก็ตปู่ทองทิพย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    สวยงามครับคุณพี่ก๊วยเจ๋ง
     
  17. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ส่วนฆาราวาสที่พี่เขาจำได้ที่หลวงปู่ทองทิพย์กล่าวถึงคือ "ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์" บรรดาลูกศิษย์ท่านชื่อว่าท่านคือบุคคลในตำนาน "กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่" ในอดีตชาติแล้วกลับมาเกิดเป็นปู่บุญเหลือ ในชาตินี้ท่านกลับมาทำบุญเพื่อไถ่โทษโดยการสร้างศาสนาสถานไว้มากมากมาย โดยเริ่มต้นสร้างที่ สปป.ลาว ที่เวียงจันทร์ บริเวรริมโขง ชาวลาวเรียกศาสนสถานนี้ว่า "เชียงควน"

    [​IMG]

    [​IMG]

    เข้าไปอ่านเรื่องราวของเชียงควนต่อที่นี้นะครับ http://www.dooasia.com/trips/detail.php?id=244
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2014
  18. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พอสร้างเสร็จท่านก็ข้ามมาสร้างที่ฝั่งไทยอีกที่จังหวัดหนองคาย เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสาน พราหมณ์ฮินดูและพุทธ เป็นที่รู้จักของนักท่องเทียวว่า "อาศรมแก้วกู่" หลวงปู่ทองทิพย์ท่านว่าปู่บุญเหลือ ท่านเป็นคนดีกราบไหว้ได้

    ศาลาแก้วกู่ ( ชาวบ้านเรียก วัดแขก)
    จ.หนองคาย อุทยานเทวาลัย
    อลังการ งานสร้าง และความศรัทธา

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปู่เหลือ เป็น...นักพรต ผู้ทรงศีล ถือศีล เคร่งวิปัสสนา ...สั่งสานุศิษย์ว่า เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว อย่าฉีดยา อย่าเผา อย่าฝัง ให้ใส่ผอบแก้วไว้ ... ด้วยอัศจรรย์ ร่างไม่ได้เปื่อยเน่า และสานุศิษย์บอกว่า เส้นผมของปู่เหลือ จะเป็นสีดำ และเป็นสีขาว สลับสับเปลี่ยน แบบนี้อยู่เรื่อยๆ (ดำก็ดำล้วน ขาวก็ขาวล้วน)​


    [​IMG]


    อ่านบทความปู่บุญเหลือ ได้ที่นี้ http://sala-saeoku.blogspot.com/


    เรื่องที่นำมาเล่าครั้งนี้ขอขอบคุณพี่ชายที่แสนดีที่อยากจะบันทึกความทรงจำดี ๆ เล่าสู่น้อง ๆ ได้ฟังเปิดหูเปิดตาข้อมูลใหม่ ๆ ของหลวงปู่นำมาเล่าสู่กันฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2014
  19. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พระปิดตาสองหน้า หลวงปู่ทองทิพย์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พิทักษ์โลก หลวงปู่ทองทิพย์​

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...