เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2015
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    [​IMG]
    [​IMG]

    คอลัมน์ "สนทนาที่สายลม" ในธัมมวิโมกข์ฉบับเดือนธันวาคม 2530 มีเรื่องประวัติพระชัยหลังช้าง, ในหลวงตรัส, ปฏิปทาในหลวงของเรา,พระสยามเทวาธิราช

    โดยเฉพาะปฏิปทา 3 ข้อของในหลวงหลวงพ่อเคยบอกอยากให้พวกเรานำปฏิปทาของพระองค์ท่านไปใช้ด้วย ลองอ่านกันดูครับ





    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    (จากธัมมวิโมกข์ มกราคม 2530 หน้า 25-31)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/wannachaiamulets/ViewAlbum/1150242_188426144668179_1141266368_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/wannachaiamulets/ViewAlbum/1150242_188426144668179_1141266368_n.jpg" border="0" alt=" photo 1150242_188426144668179_1141266368_n.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/wannachaiamulets/ViewAlbum/1094953_188426251334835_1283949488_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/wannachaiamulets/ViewAlbum/1094953_188426251334835_1283949488_n.jpg" border="0" alt=" photo 1094953_188426251334835_1283949488_n.jpg"/></a>


    หลวงพี่นันต์ท่านเล่าถึงเพื่อนของท่านที่เป็นพระรักษาโรคเอดส์ โรคมะเร็งได้ ลองอ่านกันดูครับเผื่อใครเป็นโรคร้ายนี้อาจไปขอท่านให้ช่วยรักษาได้

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    (จากธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2537 หน้า 78-83)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2016
  4. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***กราบ กราบ กราบ ท่าน พ่อ ครับ
    สวัสดีครับ ท่าน วัน และ ทุกๆท่าน***
     
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]




    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี -/\-


    สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    [​IMG]


    สวัสดีครับพี่รุ่ง สบายดีอยู่นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2014
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__3252388.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__3252388.jpg" border="0" alt=" photo S__3252388.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__3252386.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__3252386.jpg" border="0" alt=" photo S__3252386.jpg"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2020
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2020
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    ลักษณะของผู้ที่ปราถนาพระโพธิญาณบารมีเต็มเป็นยังไง อ่านเรื่่องที่ อ.ปริญญาเขียนไว้ด้านล่างดูครับ

    เคยเจอสมมุติสงฆ์ท่านใดยกดีอวดตนเองกันบ้างไหมครับ (ผมคิดว่าโดยเฉพาะท่านที่ชอบวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ ) อาจารย์ท่านบอกว่ายังห่างไกลความดีมาก


    หลวงพ่อของเรา


    อ.ปริญญา นุตาลัย



    <dd>ผู้เขียนได้พยายามบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ประสบมาเกี่ยวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเจริญศรัทธาลูกหลาน และศิษยานุศิษย์ของท่าน และเพื่อประโยชน์ของท่านสาธุชนคนดีทั้งหลาย เรื่องบางเรื่องอาจเกินสายตาไปบ้าง แต่ผู้เขียนก็หวังประโยชน์สำหรับท่านพุทธศาสนิกชนคนรักดีทั้งหลาย ดังนั้นเพื่อมิให้เรื่องนี้เป็นโทษแก่ผู้ใด กติกาของการอ่านเรื่องนี้ก็คือ คนพาลห้ามอ่าน

    </dd><dd> ขออนุญาตหลวงพ่อสร้างรูปหลวงปู่ปานและรูปหลวงพ่อไว้หน้าโบสถ์</dd><dt>
    </dt><dd>วันหนึ่ง เห็นจะเป็นราวๆ เดือนกรกฎาคม ๒๕๑๗ ผู้เขียนลงมาจากเชียงใหม่ มาหาพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่วัดท่าซุง หลังจากฉันเพลเสร็จแล้ว ท่านชวนไปที่ตลาดชัยนาท เพื่อหาซื้อลูกแก้วมาทำแก้วมณีรัตนะ ผู้เขียนก็พาท่านไป ระหว่างเดินหาซื้อลูกแก้ว (สมัยนั้นมีแต่แบบแก้วใส และมีกลีบมะเฟืองบิดสีต่างๆ อยู่ภายใน ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก) ท่านชี้ให้ดูทุกข์ของคนขายของ

    </dd><dd>ท่านบอกว่าเงินแต่ละบาทเขาหามาได้ด้วยความยาก ลำบาก ดังนั้นพระจึงควรระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินทองของชาวบ้าน หลังจากซื้อลูกแก้วก็เดินทางกลับมาข้ามแพที่อำเภอมโนรมย์ ในระหว่างอยู่ในแพ พวกเราลงจากรถมายืนอยู่บนแพ ผู้เขียนได้โอกาสจึงกราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่อครับ ผมขออนุญาตปั้นรูปหลวงพ่อกับหลวงปู่ปานไว้หน้าโบสถ์นะครับ”

    </dd><dd>ท่านตอบว่า “เออ คุณคิดเหมือนใจฉัน” ผู้เขียนจึงกราบเรียนท่านต่อว่า “ผมขอปั้นรูปหลวงพ่อกับหลวงปู่ ขนาด ๕ นิ้ว กับ ๙ นิ้ว เพื่อให้คนได้บูชาด้วยนะครับ” ท่านตอบว่า “เอาซิ” เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ผู้เขียนและน้องสาว (ชาลินี เนียมสกุล) ก็ไปดำเนินการติดต่อช่างปั้น และโรงหล่อ ช่างปั้นรูป ๕ นิ้ว และ ๙ นิ้วของหลวงปู่ปาน คือ อาจารย์ปฐม พัวพันสกุล จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    </dd><dd>ส่วนช่างปั้นรูป ๕ นิ้ว และ ๙ นิ้วของหลวงพ่อคือ อาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว จาก โรงเรียนช่างศิลป์ กรมศิลปากร อาจารย์ปฐมได้ลงมาจากเชียงใหม่ มาถ่ายรูปหลวงพ่อเป็นแบบปั้นหลวงปู่ปาน หลวงพ่อบอกว่า รูปร่างของท่านกับของหลวงปู่ปานคล้ายกัน ท่านเล่าว่า หลวงปู่ปานเคยให้ท่านใช้เชือกวัดขนาดรอบศีรษะเหนือใบหู และเท่ากับขนาดของหน้าตัก และจะเท่ากับระยะจากบ่าขวาถึงเข่าซ้าย และระยะจากบ่าซ้ายถึงเข่าขวา ท่านว่านี่เป็นลักษณะของผู้ปรารถนาพระโพธิญาณบารมีเต็ม
    </dd><dd>
    </dd><dd>
    </dd><dd>
    </dd><dd>หลวงพ่อท่านนั่งสมาธิให้ถ่ายด้วย ถ้าท่านผู้อ่านเป็นลูกศิษย์วัดท่าซุง จะสังเกตได้ว่า รูปหลวงพ่อนั่งสมาธินั้น แทบจะหาไม่ได้เลย เพราะท่านบอกว่า ท่านั่งสมาธิดูไม่งาม เพราะเหมือนกับจะอวดว่าฉันนั่งสมาธิเก่ง ท่านจึงไม่นิยมให้ใครถ่ายรูปท่านในท่านี้ แม้เมื่อปั้นรูปท่านนั่งสมาธิแล้วมาถวายให้ท่านดู ท่านก็สั่งให้แก้โดยให้เอามือขวามาจับเข่าแทน

    </dd><dd>อาจารย์ปฐม ปั้นรูป ๙ นิ้วของหลวงปู่ปานเสร็จก่อน ก็นำมาให้ท่านดูที่วัดทุกคนที่ได้เห็นลงความเห็นว่าเหมือน (รูปถ่ายของท่านที่นั่งกับพัด) แต่หลวงพ่อท่านว่าศีรษะด้านหลังของหลวงปู่ปานไม่ทุยอย่างรูปปั้น แต่ค่อนข้างเรียบเหมือนท่าน หลวงพ่อบอกว่าอาจารย์ปฐมเป็นช่างของหลวงปู่ปานมาก่อน ชาติที่แล้วเป็นพรหม หลังจากนั้นรูปปั้นหลวงพ่อ ๙ นิ้วของอาจารย์กนกก็เสร็จ

    </dd><dd>รูปนี้ทุกคนก็บอกว่าเหมือน รูปเหมือนขนาด ๙ นิ้ว ของหลวงพ่อและหลวงปู่ มีให้ชมได้ที่บ้านสายลม ตรงบริเวณโต๊ะหมู่พระบูชานั่นแหละ เมื่อซักไซ้ไล่เลียงประวัติของอาจารย์กนก ก็ปรากฏว่าเป็นญาติกับหลวงพ่อทางสายยายของท่าน เป็นคนคลองบางระมาด เขตตลิ่งชันนี่เอง เมื่อปั้นรูปขนาด ๙ นิ้วและ ๕ นิ้วของหลวงปู่และหลวงพ่อเสร็จแล้ว ก็นำไปให้ช่างหล่อที่สามแยกไฟฉายหล่อให้

    </dd><dd>แล้วนำมาทำพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุงเป็นรุ่นๆ ไป หลวงพ่อท่านคงเห็นว่า การขนพระขึ้นมาวัดเพื่อทำพิธีพุทธาภิเษก แล้วก็นำกลับลงไปกรุงเทพฯ ให้ผู้ที่สั่งจองไว้ได้บูชาคงจะยุ่งยาก ท่านจึงสั่งว่า “คราวต่อไปพอพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว แกก็จุดธูปบอกข้า แล้วข้าจะทำให้” ผู้เขียนจึงใช้วิธีพุทธาภิเษกทางธูปตั้งแต่นั้นมา เมื่อดำเนินการสร้างรูปบูชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเรื่องงานปั้นรูปเหมือนไว้หน้าโบสถ์

    </dd><dd>งานนี้อาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว เป็นช่างปั้นทั้งสองรูป รูปหลวงพ่อปั้นยากกว่ารูปหลวงพ่อปู่มาก เพราะทุกคนยังเห็นท่านอยู่ หลวงพ่อเองท่านเมตตามานั่งเป็นแบบให้ปั้นที่โรงหล่อถึง ๓ ครั้ง กว่าจะแล้วเสร็จ เมื่อท่านได้มาเห็นหุ่นครั้งแรกแล้วท่านกลับไปเล่าให้น้านวลน้อย โลพันธ์ศรี ฟังว่า “ไอ้สองตัวนั่นมันปั้นรูปฉันกับรูปหลวงพ่อปานใหญ่กว่าพระประธานในโบสถ์อีก”

    </dd><dd>รูปหลวงพ่อปานเมื่อปั้นเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานเททองหล่อรูปหลวงปู่ปาน เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๑๘ ส่วนรูปหลวงพ่อนั้น เททองที่โรงหล่อ และลงรักปิดทองแล้วเสร็จ จึงอัญเชิญมาที่วัด รูปหลวงพ่อปานนั้นนั่งสมาธิ มือขวาจับเข่าขวา มือซ้ายวางหน้าตักแบบรูปถ่ายของท่าน

    </dd><dd>ส่วนรูปหลวงพ่อท่านเอามือคว่ำประสานไว้ ที่หน้าตัก มือขวาอยู่บนมือซ้าย หลวงปู่ปานมาสั่งให้เอารูปของท่านไว้ด้านซ้ายของอุโบสถ ส่วนรูปหลวงพ่อให้เอาไว้ด้านขวา หลายปีต่อมา ผู้เขียนได้ร่วมงานกับอาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว อีกครั้ง ในงานแกะสลักพระเขาชีจรรย์ ช่วงนั้นอาจารย์กนกมีตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมศิลปากร และเป็นผู้ออกแบบหลวงพ่อเขาชีจรรย์ (พระพุทธวชิรอุตโมภาสศาสดา) ส่วนผู้เขียนเป็นผู้ควบคุมงานแกะสลักพระ จนสำเร็จเรียบร้อย

    </dd><dd> หลวงพ่ออ่านกระเบื้องจาร</dd><dt>
    </dt><dt>
    </dt><dd> ท่านเจ้าคุณพระราชกวี (อ่ำ ธัมมทัตโต) วัดโสมนัสวิหาร ได้ รวบรวมโบราณวัตถุ (พระพุทธรูปต่างๆ รูปสำริดกษัตริย์และขุนนางโบราณ, กระเบื้องจาร, รูปปั้นดินเผา ฯลฯ) จากเขางู และคูบัว ราชบุรี เพชรบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท ปราจีนบุรี นครราชสีมา ไว้มากจนเต็มกุฏิ ๒ ชั้นของท่าน และท่านได้พยายามอ่านกระเบื้องจาร ซึ่งจารึกไว้เป็นภาษาโบราณ จนสามารถอ่านได้

    </dd><dd>ลักษณะของกระเบื้องจารเป็นแผ่นหินหรือ ดินดิบ ส่วนใหญ่สีเทาถึงเทาดำ ที่เป็นสีดินแห้งและสีน้ำตาลอ่อนก็มีอยู่ ขนาดทั่วๆ ไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างยาวประมาณ ๒๕ x ๒๕ ซม. ถึง ๒๕ x ๓๕ ซม. และหนาประมาณ ๓ ซม. แต่ที่หนาถึง ๑๐ – ๑๒ ซม. ก็มีอยู่ และมีตัวหนังสือหรือลายเส้นเต็มไปหมด บางแผ่นเขียนด้วยตัวหนังสือไทย

    </dd><dd>ปัจจุบันก็มีกระเบื้องจารทั้งหมดที่ท่านรวบรวมไว้ มีประมาณ ๑,๒๐๐ แผ่นหลังจากท่านได้เพียรพยายามอ่านกระเบื้องจารจนสำเร็จแล้ว ท่านจึงเขียนหนังสือขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ประวัติศาสตร์ไทยในมุมใหม่ สิ่งที่น่าตื่นเต้นและควรบันทึกไว้เป็นความรู้ใหม่ ที่พบจากจารึกกระเบื้องจารมีหลายเรื่องด้วยกัน อาทิเช่น

    </dd><dd>๑.รูปพระแกะสลักที่ถ้ำเขางู ถ้ำนี้อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดราชบุรี ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ที่เคยสันนิษฐานกันว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี และศาสตรจารย์จอร์จ เซเดซ อ้างว่า จารึกที่ฐานพระพุทธรูปเป็นอักษรคฤนถ์ของอินเดียใต้ ท่านเจ้าคุณพระราชกวี ท่านว่าเป็นภาษาไทย และอ่านว่า บุญวระ ฤษีงู คิรฺ สมาธิ คุปฺต แปลว่า บุญพระฤษีรักษาสมาธิ ณ เขางู พุทธพัสสา ๔๔

    </dd><dd>๒.สมณฑูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งมา ประกาศพระศาสนาที่สุวรรณภูมินั้น มี ๕ องค์ด้วยกัน นอกจากพระโสณะ และพระอุตตระแล้ว ยังมีพระฌานียะ พระภูริยะ และพระมูนียะ อีก ๓ องค์ (แผ่นสร้างวัดศรีมหาธาตุแดนลว้า)

    </dd><dd>๓.พระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิเพชร สูงประมาณ ๙ นิ้ว พระหัตถ์ขวาจับพระชานุ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลาตรงกลาง บนฝ่ามือมีดอกบัวตูมขนาดใหญ่ ประภามณฑลมีตัวหนังสือจารึกว่า เดือนเด่นฟ้า สุวัณณภูมิ ที่ฐานมีอักษรขอมจารึกว่า เดือนพัสสาบงศีล

    </dd><dd>๔.กระเบื้องจารแผ่นที่ ๑๗๗ หน้าแรกอ่านว่า “เดือนเด่นฟ้า ลงคำโสณ เมื่อเดือนดาวแลตะวันงามตัว ส้างกุสลแล้วดี เพราะทะนุบำรุงอรหันตสงฆ ออกคำของพุทธแพร่หลายให้ถึงสุคติหมื่นชาติเทียว” หน้าสองอ่านว่า “ตะวันต่อคำโสณ เดือนไปเกิดเป็นภูมิพลเลกราชา กรุงเทพมหานคร เมื่อนั้นสุวัณณภูมิฟื้นชื่อมีคนรู้ทั่ว” ฯลฯ

    </dd><dd>เรื่องกระเบื้องจารของท่านเจ้าคุณพระราชกวี (อ่ำ) นี้ กรมศิลปากรแถลงว่าเป็นของปลอม ที่คนบ้านคูบัวและบ้านบางขุนเทียน จังหวัดราชบุรีทำขึ้นด้วยซีเมนต์ แต่ทางท่านเจ้าคุณพระราชกวีท่านแจ้งว่า ไม่เคยมีสถาบันใดได้นำกระเบื้องจารหรือวัตถุอื่นใดของท่านไปศึกษาเลย และของที่ท่านมีอยู่ทำด้วยหินทราย และบางแผ่นลงรักลงทองผง ฯลฯ

    </dd><dd>ผู้เขียนเคยดำริจะพิมพ์หนังสือที่มีรูปโบราณวัตถุต่างๆ และกระเบื้องจารทั้งหมดที่ท่านเจ้าคุณพระราชกวีท่านสะสมไว้ จึงไปขออนุญาตท่าน ท่านก็อนุญาต และช่วยจัดของให้เป็นหมวดหมู่เพื่อสะดวกในการถ่ายรูป ปรากกว่าต้องใช้เวลา ๒ วันเต็มจึงถ่ายได้หมด หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชกวีท่านเมตตาถึงขนาดบอกเลิกกิจนิมนต์และจะไม่ฉัน เพลอีกด้วย เพื่อช่วยจัดของ

    </dd><dd>จนผู้เขียนต้องกราบเรียนท่านว่า นิมนต์หลวงพ่อไปฉันเถอะครับ ทางนี้ผมจัดการได้ ในขณะที่ถ่ายรูปกระเบื้องจารอยู่นั้น ผู้เขียนสังเกตเห็นว่า กระเบื้องจารบางแผ่นดูเหมือนซีเมนต์หล่อ เพราะยังมีรอยใบเลื่อยวงเดือนติดอยู่ จึงเรียนถามท่าน ท่านบอกว่า เลื่อยแบบนี้โบราณก็มีใช้ และท่านยังเล่าอีกว่า กระเบื้องบางแผ่นยังมีกระดาษติดอยู่เลย พอผู้เขียนได้ฟังก็สะดุดใจ

    </dd><dd>เพราะกระดาษนั้นทำจากเยื่อไม้ อยู่เป็นพันปีไม่ได้แน่ จะสลายไปหมด ในสภาพดินฟ้าอากาศอย่างบ้านเรา ต่อมาเมื่อมีงาน ๗๐๐ ปีลายสือไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี (ท่านจันทร์) ได้ทรงขอยืมกระเบื้องจารจากท่านเจ้าคุณพระราชกวี ๒ แผ่น ไปแสดงในนิทรรศการที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย หลังจากเสร็จนิทรรศการแล้ว ท่านจันทร์ก็เอากระเบื้อง ๒ แผ่นนี้

    </dd><dd>มาให้อาจารย์สุจิตร พิตระกูล ภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทดสอบดูว่าทำจากอะไรแน่ อาจารย์สุจิตร ก็นำไปตัดตรงขอบ เพื่อทำแผ่นใส (Thin Section) จะได้ตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์ได้ (ที่จริงไหนๆ ก็จะตรวจกันแล้ว น่าจะนำไปหาอายุโดยวีคาร์บอนโฟรทีน (C14) เสียเลย ก็จะรู้อายุได้) อาจารย์สุจิตรได้นำกระเบื้องจารทั้ง ๒ แผ่น พร้อมทั้งแผ่นใสมาให้ผู้เขียนดู ผู้เขียนส่องกล้องจุลทรรศน์ดูแล้วก็เหมือนซีเมนต์

    </dd><dd>ตัวหนังสือบนกระเบื้องจารก็เป็นตัวหนังสือไทยสมัยใหม่ ภาษาก็เป็นภาษาสมัยใหม่ เช่น สวัสดีองค์หญิงก้านตาเทวี (คำว่าสวัสดีนั้นเป็นคำทักทายสมัยใหม่ของไทย เพื่อให้ตรงกับภาษาฝรั่งว่า good day พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) บัญญัติขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๘๗ สมัยเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย) แต่ตัวตัดสินของผู้เขียนไม่มี ผู้เขียนจึงบอกอาจารย์สุจิตรไปว่า ไปวัดท่าซุงกันดีกว่า

    </dd><dd>แล้วผู้เขียนก็พาอาจารย์สุจิตรไปกราบหลวงพ่อ เราไปถึงวัดขณะที่ท่านกำลังรับแขกอยู่ที่ตึกรับแขกพอดี พอไปถึงกราบท่านเสร็จเรียบร้อย ก็เอากระเบื้องจารออกมาถวายให้ท่านดู พอท่านเห็นแล้ว ท่านก็ชวนคุยเรื่องอื่น ผู้เขียนรู้แกวแล้วว่า เรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องแน่ เพราะถ้าเป็นของแท้ แค่กราบเรียนท่านโดยไม่ต้องควักกระเบื้องจารออกมาถวาย ท่านก็จะตอบยืนยันแล้ว ที่ท่านเปลี่ยนเรื่องคุย

    </dd><dd>แสดงว่าท่านกำลังคิดว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะถ้าท่านตอบว่าไม่ใช่ก็จะเป็นเรื่องยาวแน่ ในที่สุดท่านก็บอกว่า “แกไปตัดเรื่องของท่านเจ้าคุณอ่ำมาเป็นตอนๆ แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง” ท่านตอบแค่นี้ผู้เขียนก็เก็บกระเบื้องกลับบ้านได้

    </dd><dd> ผู้เขียนได้อะไรจากหลวงพ่อ</dd><dt>
    </dt><dt>
    </dt><dd>เกริ่นหัวข้อนี้ไว้ เพื่อให้ท่านผู้เป็นลูกศิษย์วัดท่าซุงทุกท่านถามตนเองด้วยว่า ท่านได้อะไรจากหลวงพ่อ สำหรับผู้เขียนแล้ว ท่านเป็นทุกอย่างของผู้เขียน แต่ถ้าจะบรรยายมากไป เรื่องนี้จะกลายเป็นประวัติผู้เขียน แทนที่จะเป็นประวัติหลวงพ่อ ขอลำดับให้ฟังว่าผู้เขียนได้อะไรจากท่านบ้าง

    </dd><dd>๑.อย่าคบคนพาล สำหรับลูกศิษย์แล้ว หลวงพ่อท่านแสดงให้เห็นชัดเจนมากว่า ท่านไม่คบคนพาล ใครจะดีจะชั่ว ท่านจะแสดงให้ปรากฏ และท่านจะบอกให้ลูกศิษย์ของท่านได้รู้ว่า ใครดี ใครเลว ใครควรคบ ใครควรบูชา ใครไม่ควรคบอย่างไร จะขอยกตัวอย่างให้อ่านสัก ๒ – ๓ เรื่อง
    เมื่อครั้งที่ท่านพาคณะฯ ไปเยี่ยมหลวงปู่องค์หนึ่งที่ภาคเหนือครั้งแรก ท่านปรารภขึ้นมาว่า วัดนี้นอกจากหลวงปู่แล้ว ฉันไม่เห็นมีพระดีสักองค์

    </dd><dd>เมื่อคราวที่คุณประชา สิกวานิช นิมนต์หลวงพ่อ หลวงปู่บุดดา และพระองค์อื่นๆ ไปฉันเพลที่บ้าน มีพระองค์หนึ่งเอาบาตรติดตัวไปด้วย เมื่อถึงเวลาฉันก็ตักเอาอาหารที่เจ้าของบ้านจัดถวายมาใส่ในบาตรของตนเองก่อนแล้วจึงฉัน หลวงพ่อบอกว่า ไอ้นั่น ฤาษีกินเหี้ย เรื่องฤาษีกินเหี้ยนี้ ความมีมาในโคธชาดก ว่า ฤาษีทุศีลคนหนึ่ง สร้างบรรณศาลาอยู่ไม่ไกลจากพระโพธิสัตว์ ที่เสวยชาติเป็นเหี้ยอาศัยอยู่

    </dd><dd>พระโพธิสัตว์เห็นบรรณศาลาแล้วก็คิดว่า จักเป็นของฤาษีผู้มีศีล จึงไปไหว้ฤาษีนั้นแล้วกลับไปอยู่ที่อยู่ของตน อยู่มาวันหนึ่ง ฤาษีได้เนื้ออร่อยที่เขาทำมาถวาย จึงถามว่านี่เนื้ออะไร อุปัฏฐากตอบว่า เนื้อเหี้ย ฤาษีจึงคิดว่า เราจักฆ่าเหี้ยที่มาไหว้เราเป็นประจำ แล้วเตรียมเครื่องปรุง มีเนยใส และเครื่องเทศ เป็นต้น เตรียมไว้ เอาผ้าย้อมฝาดปิดท่อนไม้ไว้ รอพระโพธิสัตว์อยู่ ทำทีเป็นสงบ เคร่งครัด ฝ่ายพระโพธิสัตว์เห็นฤาษีมีท่าทางส่อพิรุธ

    </dd><dd> คิดว่าฤาษีคงได้กินเนื้อเหี้ยมา จึงหลบไปใต้ลม ได้กลิ่นตัวฤาษีก็รู้ว่า ฤาษีนี้ได้กินเนื้อสัตว์ผู้มีชาติเสมอกับเรา จึงไม่เข้าไปหาฤาษีแต่ถอยออกไป ฝ่ายฤาษีเห็นดังนั้น จึงขว้างท่อนไม้ไป ท่อนไม้ไปถูกปลายหางเหี้ย เหี้ยจึงว่า “ท่านขว้างพลาดเรา แต่จะไม่พลาดอบายทั้ง ๔ เราสำคัญว่าท่านเป็นสมณะ แน่ะ ท่านผู้โง่เขลา ประโยชน์อะไรด้วยชฎาประโยชน์อะไรด้วย หนังเสือที่ท่านใส่ ภายในของท่านรกรุงรัง เกลี้ยงเกลาแต่ภายนอก”

    </dd><dd>ในอุทุมพริกสูตร พระบรมศาสดาของเราได้กล่าวถึงอุปกิเลสของผู้รังเกียจบาปด้วยตบะ ตอนหนึ่ง ดังนี้ “นิโครธะ ข้ออื่นยังมีอยู่อีก บุคคลผู้มีตบะเป็นผู้นั่ง (สมาธิ) ในทางที่มนุษย์เห็น แม้ข้อนี้แล ย่อมเป็นอุปกิเลสแก่บุคคลผู้มีตบะ นิโครธะ ข้ออื่นยังมีอยู่อีก บุคคลผู้มีตบะย่อมเที่ยวแสดงตนไปในสกุลทั้งหลายว่า กรรมแม้นี้ (ฉันในบาตรในวัตร) ก็เป็นตบะของเรา แม้ข้อนี้แล ย่อมเป็นอุปกิเลสแก่บุคคลผู้มีตบะ”

    </dd><dd>มีเรื่องในพระสูตรว่า พระอรหันต์เถระรูปหนึ่ง ท่านถือเอกาสนิกังคธุดงค์ (ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร) มา ๔๕ ปี วันหนึ่งพระน้องชายของท่านได้น้ำอ้อยมาจึงนำมาถวายท่าน ท่านบอกว่า “คุณนำไปถวายรูปอื่นเถิด” พระน้องชายจึงเรียนถามท่านว่า “หลวงพี่ฉันมื้อเดียวหรือ” เพื่อจะปกปิดเอกาสนิกังคธุดงค์ของท่าน ท่านจึงตอบว่า “เอามาเถิด ผมจะฉัน” หลังจากท่านฉันน้ำอ้อยแล้ว ท่านจึงสมาทานธุดงควัตรใหม่
    </dd><dd>
    </dd><dd>
    </dd><dd>"พระดีนั้น ท่านปกปิดความดีของท่าน ท่านที่ยังยกดีอวดตนนั้น ยังห่างไกลความดีมาก"
    </dd><dd>
    </dd><dd>
    </dd><dd>ท่านเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง ชอบปรามาสหลวงพ่อของเราต่อหน้าอันเตวาสิกของท่านว่า “พระมหาวีระ ชอบอวดฤทธิ์อวดเดช....” วันหนึ่ง หลวงพ่อของเราได้รับกิจนิมนต์ เข้าไปในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยลูกศิษย์ของสมภารเจ้าวัดนี้และพระเถระอื่นๆ อีกมาก

    </dd><dd>ในระหว่างนั่งรอพระราชพิธีอยู่นั้น หลวงพ่อของเรานั่งอยู่ติดกับพระลูกศิษย์สมภารนี้ พระองค์นั้นได้กราบเรียนถามหลวงพ่อของเราว่า “หลวงพ่อ ผมขออะไรหลวงพ่ออย่างหนึ่งได้ไหม” หลวงพ่อก็ถามตอบว่า “จะขออะไรล่ะ กระโถนใบหนึ่งรึ” พระองค์นั้นเลยเงียบไป ผู้เขียนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เพราะกำลังนั่งพัดให้หลวงพ่ออยู่

    </dd><dd>ต่อมาลูกศิษย์ของสมภารวัดนี้อีกตนหนึ่ง ก็ไปโจมตีปรามาสหลวงพ่อต่างๆ นานาที่วัดไทยที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้อัดเทปมาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อก็ได้ตอบเสียงจากอเมริกาลงในธัมมวิโมกข์ ท่านที่เป็นสมาชิกธัมมวิโมกข์คงได้อ่านกันแล้ว ผู้เขียนเห็นว่า การที่สมภารปล่อยพระลูกวัดเที่ยวไปจ้วงจาบพระวัดอื่นนั้น นอกจากจะผิดสมณวิสัยแล้ว ยังเป็นการบ่อนทำลายความสามัคคีของพุทธบริษัททั้งหลายโดยตรงอีกด้วย

    </dd><dd>บ้านเมืองจะระส่ำระสายไปหมด ถ้าพระผู้น้อยจะออกมาจ้วงจาบหยาบคายกับพระผู้ใหญ่ต่างวัดได้ ดังนั้นผู้เขียนจึงเขียนจดหมาย พร้อมเทปไปต่อว่าสมภารวัดนี้ พร้อมทั้งส่งสำเนาจดหมายและเทปไปให้สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จวัดสามพระยา ท่านผู้ใหญ่ลูกศิษย์วัดท่าซุงบางคน เห็นจดหมายของผู้เขียนแล้วก็ร้อนใจ ไปฟ้องหลวงพ่อ ให้เรียกผู้เขียนมาตักเตือน ท่านก็ให้คนโทรศัพท์มาตามผู้เขียนไปพบ ผู้เขียนจึงรีบไปหาท่าน เมื่อไปพบท่าน

    </dd><dd>ท่านได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า สมเด็จวัดสามพระยาได้อ่านจดหมายแล้ว ท่านก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สมภารและสมเด็จพระสังฆราชเห็นจดหมายแล้วหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่พระใหญ่ท่านบอกว่า “ดีแล้ว เขาจะได้รู้ตัวเสียบ้าง”

    </dd><dd>ในการไปประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนครั้ง สุดท้าย หลังจากที่นักบวชจากประเทศไทยไปปรามาสหลวงพ่อไว้ที่วัดไทยในชิคาโกแล้ว เมื่อคณะของหลวงพ่อเดินทางถึงชิคาโก ท่านเจ้าอาวาสวัดไทยในชิคาโกก็มารับที่สนามบินด้วยความนอบน้อมและอาราธนาให้ หลวงพ่อไปที่วัด แต่หลวงพ่อปฏิเสธอย่างหนักแน่น ถึงแม้ว่าท่านเจ้าอาวาสจะพยายามอ้อนวอนโดยยกเหตุผลต่างๆ อยู่นาน

    </dd><dd>แต่หลวงพ่อก็ยืนกรานว่า รับนิมนต์ไม่ได้ และออกจากสนามบินไปบ้านคุณหมอสุภรณ์ทันที พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านทรงปฏิสัมภิทาญาณ ดังนั้น การตัดสินใจใดๆ ของท่านจึงถูกต้องสมบูรณ์และเด็ดขาด เพราะท่านไม่ได้มองเฉพาะปัจจุบัน แต่มองย้อนไปในอดีต และมองเลยไปถึงคติของบุคคลนั้นๆ ในอนาคตด้วย ถ้าท่านเอ่ยปากว่าใครไม่ดีแล้ว คนนั้นเอาดีไม่ได้

    เรื่องไม่คบคนพาลนี้ ผู้เขียนรับเอามาได้อย่างจุใจทีเดียว เพราะเหมาะกับอุปนิสัยบ้าๆ บวมๆ ของตนเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ยังคงไม่จบ ให้ติดตามอ่านในลูกศิษย์บันทึกเล่มต่อไป
    </dd><dt>
    </dt><dt>(จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 5 หน้า 232 - 239)


    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1547#32
    </dt><dd>
    </dd><dd>
    </dd>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2015
  10. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    สวัสดีครับ ท่านวัน พี่ สบายดีครับ:cool:
     
  11. teera-chang

    teera-chang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,529
    ผมอ่านเรื่องของ อาจารย์ ปริญญา ที่ไร ก็ยิ่งอยากได้หนังสือแซยิดท่านทุกทีครับ ไม่รู้ว่าจะถามหาได้ที่ไหนบ้าง นะครับพี่
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    เหรียญเศรษฐีเนื้อโลหะชุบทองพร้อมล๊อกเก็ตแจกงานทำบุญวันเกิดหลวงพ่อตุลาคม 2557 เข้าพิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2557 แจกแก่ผู้ทำบุญทำสังฆทานตั้งแต่ 100 บาทถึง 500 บาทในงานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อที่บ้านสายลมวันที่ 5 ตุลาคม และงานทำบุญกฐินวัดท่าซุง 11-12 ตุลาคม 2557


    เหรียญนี้ออกมาไม่นานแต่มีประสบการณ์ด้านลาภ เป็นพี่ Cobraa เองครับพี่เขาไม่ค่อยได้ซื้อหวย นานๆซื้อทีก็ไม่ถูก ไม่เคยถูกหวยมา 10 ปีได้แต่พอได้บูชาเหรียญนี้มาก็ได้ลาภเสี่ยงโชคมา 2 งวดซ้อน

    พี่เขาเล่าว่าก็ติดเหรียญนี้บนฝาเหนือประตู ทุกวันก็ภาวนาคาถาเงินล้าน ก็มีความคล่องตัวดีอยู่แล้ว แต่อยากรู้อานุภาพเหรียญเศรษฐี เพราะสมัยหลวงพ่อใช้เขียนที่กระดานเรือน แต่สมัยนี้ทำเป็นเหรียญ ก็นำมาติดไว้ หลังจากสวดคาถาเงินล้านตอนเช้าเสร็จ ก็ไปยืนตรงประตูที่มีเหรียญแขวนอยู่ แล้วสวดด้วย คาถาบารมี 30 ทัศ แล้วขอว่า "ขอให้บ้านหลังนี้มีเงินไม่ขาดบ้านด้วย ทุกคนในบ้านขอให้มีเงินไม่ขาดมือ" ประตูบานนี้ทุกคนในบ้านก็ต้องเข้าออกประตูนี้ทุกคน

    คาถาบารมี 30 ทัศ(ย่อ)

    อิติ ปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
    อิติ โพธิมะนุปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม


    [​IMG]

    ในหนังสือ"ตามรอยพระพุทธบาท เล่ม 3 " หลวงพ่อเขียนไว้ว่า " ลงกระดานเรือน หรือ รอดบ้าน เงินไม่ขาดบ้าน "



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2016
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    [​IMG]
    [​IMG]

    เหรียญเศรษฐี(เหรียญเงินไม่ขาดบ้าน)ชุดทองคำและเหรียญเศรษฐีเนื้อเงินทั้ง 3 ขนาดเข้าพิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2557

    ทางวัดยังเหลืออยู่นะครับ ถ้ายังไงควรไปบูชาเอาจากที่วัดถือว่าได้ทำบุญกับทางวัดด้วย ต้องมีบุญหนุนส่งด้วยถึงมีลาภมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2014
  14. penicillin2

    penicillin2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +898
    ทุกๆท่านครับ ผมขอคำแนะนำหน่อยครับ เรื่องการทรงอารมณ์ พรหมวิหาร4

    ถ้าเราเจอคนที่พูดแบบที่เราไม่ชอบฟังปล้วโมโห หรือทำพฤติกรรมที่เราไม่ชอบ หรือดูถูกเรา เราควรจะคิดในใจแบบไหนที่จะทำให้เราไม่โกรธ หรือไม่โมโหครับ
    รบกวนด้วยนะครับ
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/S__4087812.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/S__4087812.jpg" border="0" alt=" photo S__4087812.jpg"/></a>


    น้อง anzu ที่เคยมาเล่าประสบการณ์รับยันต์เกราะเพชรในกระทู้ มีคนมาเล่าให้ฟ้งว่าน้องเขาได้ถวายไฟฉายและถ่านไฟฉายสำหรับพระสอนมโนมยิทธิเต็มกำลังในงานธุดงค์เดือนธันวาเดือนหน้านี้ครับ



    E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2020
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    ไม่ยากครับคุณธีระ ไว้หลวงพี่นันต์ท่านมาบ้านสายลมต้นเดือนหน้าก็เข้าไปสอบถามกับอาจารย์ปริญญาเองได้เลยครับ ท่านมักจะมาทุกวันเสาร์อาทิตย์และวันจันทร์ด้วยครับ

    [​IMG]


    เล่มนี้ผมได้รับแจกจากบ้านสายลมนะครับจำปีไม่ได้แล้ว ตอนนั้นอาจารย์บอกทางไมค์ว่าถ้าใครอยากได้ให้เอาหนังสือที่รับแจกจากทำบุญสังฆทานไปแลกตรงที่อาจารย์นั่งอยู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2014
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704


    ขอกรรมฐานลัดๆ

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมเห็นว่าหลวงพ่อเป็นพระกรรมฐานที่มีแบบฉบับดีมาก ขอกรรมฐานลัดๆ พอเป็นหนทางเข้าสู่มรรคผลนิพพานในชาตินี้ ด้วยเถิดขอรับ

    หลวงพ่อ : " ช่างมัน ช่างมัน "

    ผู้ถาม : แค่นี้เหรอครับ

    หลวงพ่อ : อ้าว สังขารุเปกขาญาณไงละ อารมณ์พระอรหันต์นะ เอาเลยลัดได้ ใครด่าก็ช่างมัน ใครชมก็ช่างมัน คือว่าช่างมันเป็นเรื่องธรรมดา กฏธรรมดาเป็นอย่างนี้ เราจะทุรนทุรายไปเพื่ออะไร เมื่อความร้อนมามันไม่เย็น เราไปเรียกความเย็นมันไม่มาก็เป็นทุกข์เปล่าๆ ทนร้อนไป ถือเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเย็นมากเกินไป มันหนาวจัด ไปเรียกความร้อนมา มันก็ไม่มา ถือว่าโลกเป็นอย่างนี้ก็ปล่อยมัน ทำใจสบายๆ เท่านี้นะ

    (จากธัมมวิโมกข์ กรกฏาคม 2532)


    http://palungjit.org/threads/รวมหลวงพ่อตอบปัญหา-จากคำบอกเล่า.349901/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  18. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    เหรียญรุ่นนี้ก็ปลุกเสกสองครั้ง
    ครั้งเเรก ชุบทอง
    ครั้งสอง ชุดทองคำ เงิน


     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,704
    ครั้งแรก วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2557

    ครั้งสอง วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2557
     
  20. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี -/\-


    สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...