ประสบการณ์บ้านเช่า..เมื่อบ้านเช่าหลังล่าสุดมีเสาตกน้ำมัน

คืนวันพระ กับการนั่งสมาธิในกลตจนรุ่งเช้า

คืนนี้ตั้งใจมากที่จะให้ตัวเองผ่านไปจนถึงทำวัตรเช้าให้ได้

ก่อนเข้าไปกางกลต ก็มีนั่งสมาธิตามปกติแต่ไม่ได้เข้าไปในโบสถ์ วันพระจะนั่งลานธรรม
แปลกคือ ยุงไม่กัดเลยค่ะ นั่งไปเกือบชั่วโมง จนรู้สึกสงบดีแล้ว อยู่ดี ๆ ค่ะ อะไรเย็น ๆ ไม่รู้มาอยู่ในมือที่นั่งทำท่าสมาธิอยู่ คือจะบอกยังไงดี เวลาจิตสงบเนี่ย มันทิ้งร่างกายไปจนลืมเลยว่าเราอยู่ที่ไหน ทำอะไร ร่างกายอยู่ในท่าอะไร ลืมไปเลยค่ะ มีแต่ความว่างเปล่า แล้วก็กลับมารู้สึกเย็นที่มือขวาที่ทับมือซ้ายอยู่ นานพอดูจนตัดสินใจออกจากกรรมฐานก่อน แล้วลืมตาดู โอโห..............คางคกตัวเบ้อเริ่มเลยค่ะ มานอนอยู่บนมือค่ะ ดิฉันสติแทบแตกดีนะคะไม่กรี๊ดแค่ สะดุ้งปัดมือจนคางคกมันกระโดดหนีไป คนที่นั่งรอบข้างบางคนตกใจดิฉันเป็นอะไรลืมตามอง ดิฉันบอก คางคกค่ะ แต่...ไม่มีใครเห็นมันเลยสักคน เหมือนดิฉันเป็นคนบ้า เห็นอยู่คนเดียว อาจเพราะมันโดดหนีไปใต้ต้นไม้ข้าง ๆ ดิฉัน ก็เลยแป่ว....ไม่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเลย นั่งอีกทีพอได้สมาธิก็แผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายซะหน่อยค่ะ เค้าคงมาขอแทนเพื่อน ๆ เค้ามั้งคะ คิดเล่น ๆนะคะ

พอช่วงสี่ทุ่ม ใครอยู่เนสัชชิกต่อก็เข้าไปกางกลตกัน ดิฉันก็ไป พอช่วงห้าทุ่มก็เริ่มนั่งแล้วสัปหงก จนต้องออกไปเดินจงกรม สลับนั่งสมาธิ ช่วงไปบวชนั้นเป็นเดือน พฤศจิกายน ปลายเดือน อากาศหนาวค่ะ ได้ฝึกความอดทนไปในตัว พอหายง่วงจากการเดิน ก็มานั่งในกลตเหมือนเดิม จนกระทั่งออกไปเดินรอบสุดท้ายราว ๆ ตีสองครึ่ง แล้วกลับมานั่ง คราวนี้ได้สมาธิมาก จิตสงบไม่ง่วงไม่สัปหงก เสียงพระเทศน์ก็ฟังเข้าใจปกติ นอกจากเสียงพระเทศน์ผ่านลำโพงเบา ๆ แล้ว ก็มีแต่ความเงียบสงัดค่ะ

จนกระทั่งได้ยินเสียง ๆ เสียงนึงมาแต่ไกลจากทางด้านหลัง เป็นเสียงที่แหวกความเงียบมา เสียงลากโซ่ตรวนค่ะ ดิฉันตอนนั้นจิตนิ่งมาก ได้ยินเสียงก็ท่องแค่เสียงหนอเสียงหนอ คือให้มันผ่านไปไม่เก็บมาคิด ตามที่ทางวัดสอนเวลานั่งสมาธิได้ยินได้สัมผัสอะไรให้กำหนดรู้เพียงลมหายใจ รู้เพียงมันผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป สติระลึกรู้เพียงลมหายใจ ก็ทำตาม เสียงหนอนั้นก็ลากมาเรื่อย ๆ จากไกล ก็ใกล้แบบเร็วมาก ที่ทำให้ดิฉันมั่นใจว่าโซ่ตรวนคือ ลากมาจนอยู่ข้างหูดิฉันอยู่นอกกลตเลยค่ะ ระยะห่างของเสียงที่ลากมาคือข้างซ้ายมือที่ดิฉันนั่งทำสมาธิอยู่ ไม่เพียงเสียงลากโซ่ตรวนมา เค้ามาหยุดตรงกลตดิฉัน แล้วที่ดังจนสมาธิแทบแตกคือ เสียงหอบค่ะ หอบเหนื่อยมากเหมือนวิ่งมา ความรู้สึกคือเป็นผู้ชาย ดิฉันก็ตั้งสติทำสมาธิใหม่ เสียงหอบนั้นก็ไม่หายไป เหมือนรออะไรสักอย่างอยู่ข้างซ้ายมือดิฉัน ทีนี้สมาธิเริ่มไขว้เขวเริ่มมีความอยากรู้อยากเห็นว่าเป็นอะไรเข้ามาแทนที่ จะออกจากสมาธิเพื่อลืมตาหันไปดู แต่ดีที่สติยั้งทันคำพระที่เคยสอนผุดมา ให้แผ่เมตตาหากคืนนี้เจออะไร ท่านบอกว่าบางคนถ้าทำสมาธิได้ดีจิตแน่วแน่ จะเป็นแสงบุญแผ่ออกมา ซึ่งคนเราไม่มีใครมองเห็นนอกจากสิ่งที่ไม่ใช่คน เค้าจะเห็นและจะมาขอ ให้แผ่เมตตาอุทิศให้อย่าว่อกแว่ก

ดิฉันก็จัดเลยค่ะ แอบว่อกแว่กไปแล้วแต่ เอาน่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ ตอนคิดนี่เสียงยังไม่หายไปเลยนะคะ เคยมั้ยคะเวลาได้ยินเสียงอะไรตอนหลับตาอยู่ อยากลืมตาแทบแย่เพื่อจะดูให้รู้ว่าเป็นอะไร อยากเห็นชัด ๆ ดิฉันประจำ กลัว แต่อยากเห็นให้รู้ไปว่า คิดเองหรือของจริง แต่คราวนี้เว้นไว้ค่ะ

จึงทำสมาธิให้จิตนิ่งที่สุดอีกครั้งแล้วแผ่เมตตาในใจแบบตั้งใจที่สุดในชีวิต จบแล้วก็บอกเค้าว่า เรากำลังทำสมาธิ หากท่านมารบกวนให้เราได้ยิน เราอาจเสียสมาธิและทำให้ท่านเป็นบาป หากกำลังทุกข์ทรมานก็ขอให้บุญที่เราทำทั้ง7วันที่ผ่านมาและอดีตทั้งหมด ดลให้ท่านหายทุกข์ทรมานและอย่ารบกวนกันเลย

เท่านี้ค่ะ เสียงหอบน่ะหายไปค่ะ แต่เสียงลากโซ่ตรวนมาแทน แต่...กลับไปทางเดิมและเบาลงจนดิฉันไม่ได้ยินอะไรอีก จึงตั้งสติเรียกสมาธิเพื่อออกจากกรรมฐาน แล้วลืมตามองอีกครั้งก็ไม่มีอะไร อยากถามกัลยาณมิตรที่อยู่ด้านนอกว่าเห็นอะไรมั้ย ได้ยินอะไรมั้ยก็ไม่กล้า เพราะแต่ละท่านกำลังทำสมาธิเช่นกัน

และตอนนั้นใกล้จะตีสาม อากาศเย็นมาก จึงออกมาเดินจงกรม และยืนสมาธิท้าลมหนาวแทน ยืนไปยืนมาอยู่ดี ๆ เข่าทรุดคงเพราะร่างกายมันล้าไม่ได้นอน แต่ตอนเข่าทรุดกำลังจะกระแทกพื้น มีมือค่ะ มายั้งตัวไว้ไม่ให้ร่วง ภาพหลังจากที่ตั้งสติยืนได้ เห็นเลยค่ะ มีคน ๆ นึงพรวดขึ้นมาจากดินเอามือมาดันไว้ แล้วยิ้มให้ เห็นหน้าไม่ชัด แต่รู้สึกได้ว่าเป็นคุณย่าที่เพิ่งเสียไปเดือนก่อน จึงตั้งจิตอธิษฐานให้ดวงวิญญาณท่านรับไปเต็ม ๆ

จากนั้น ใกล้ได้เวลาสวดมนต์เช้า จึงไปเข้าห้องน้ำ เดินไปคนเดียว ห้องน้ำมีสองห้องอยู่ตรงข้ามกัน อีกห้องนึงว่าง เลือกเข้าห้องซ้าย ยังไม่ทันล๊อคกลอน มีคนเคาะประตูดังปัง! ดิฉันนี่สะดุ้งเลยค่ะ แล้วเป็นเสียงคนแก่ร้อง ฮึ่!!!! แบบนี้ ดิฉันนึกว่ามีแม่ชีท่านใดมาล้มจึงเปิดประตูดู พบเพียง ความว่างเปล่าอีกตามเคยค่ะ ออกไปนอกบริเวณห้องน้ำหันซ้ายหันขวามองหาใครมาเคาะประตู เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ทุกคนยังเดินจงกรม บางท่านก็นั่งในกลต ไม่มีใครมาบริเวณนี้เลย...........ดิฉันก็ อึ้ง ตามเคย แต่ไม่ได้กลัวนะคะ เพราะทำใจแล้ว แม่ชีท่านเคยบอกว่า หากจิตเราเป็นกุศล จิตเรานิ่งสงบเย็นเป็นบุญ อาจจะเจออะไรแปลก ๆ อย่าตกใจ ให้ทำใจและแผ่เมตตาให้เค้า เพราะที่นี่มีพื้นที่ป่าช้าเก่านำมาทำลานธรรมที่นั่งสมาธิกันนั่นล่ะ ดิฉันดีใจที่ผ่านมาได้ 7คืน8วัน ถามเพื่อนกัลยาณมิตรที่เจอกันวันท้าย ๆ ยังนัดกันมาบวชอีกบ่อย ๆ แต่ดิฉันไม่สามารถไปได้ เคยถามเค้าว่า

เคยได้ยินเสียงหวีดสูง ๆ อยู่เหนือยอดไม้นอกโบสถ์เวลานั่งสมาธิตอนกลางคืนมั้ย
เพื่อนบอก ไม่เคยเลย ดิฉันได้ยินทุกคืนเลย บางทีก็อยู่ตรงที่พัก ดังมากจนแสบแก้วหู
เพราะเสียงแหลมสูง แล้วทุกครั้งที่ดัง จะมีลมพัดยอดไม้ไหวตลอด ใจนึงคิดว่าอาจเป็นนกกลางคืน อีกใจก็...ที่ท่านคงจะรู้กัน แต่เวลาได้ยินก็แผ่เมตตาให้อุทิศบุญให้ เสียงหายเองนะคะ

และจะบอกว่าอยู่บ้านสามีตอนนี้ ได้ยินบ่อยมาก ที่แปลกคือ ทุกวันพระวันโกน ดังอยู่เหนือต้นมะม่วงหน้าบ้านค่ะ ดิฉันไม่ได้แผ่ให้เพราะช่วงนี้ไม่ได้ทำบุญ ได้แต่ขอกับเจ้าที่และสิ่งที่มองไม่เห็นในบ้านให้ช่วยคุ้มครองอย่าให้สัมภเวสีภายนอกเข้ามารบกวนในเขตรั้วบ้านเท่านั้นเอง

 

เรื่องต่อมา
กลับมาบ้านก็มาต้อนรับเลยค่ะ ห้องข้าง ๆ ดิฉันขึ้นมา แม่ไม่ได้เปิดไฟในห้องแต่เปิดประตูไว้ ขึ้นบันไดไป เห็นคนนั่งอยู่ในห้องมองมาที่ดิฉัน แบบว่า ตกใจขนนี่ลุกพรึ่บถึงเส้นผมเลยค่ะ แต่ก็ทำใจแข็งแกล้งมองไม่เห็นร้องเพลงเดินเข้าห้องตัวเองไป พอเข้าห้องตัวเองได้นี่จุดเทียนไหว้พระสวดมนต์แทบไม่ทันค่ะ เห็นลาง ๆ นี่บ่อย แต่คราวนี้มาเป็นตัวเป็นตนเลยค่ะ เพียงแต่มันมืดเลยเป็นร่างคนเงาตะคุ่มอยู่ในห้อง

หลังจากนั้นดิฉันก็แต่งงานย้ายไปอยู่บ้านสามีคนละจังหวัดกัน เดือนนึงก็กลับมานอนบ้านครั้งนึง 4 วันบ้าง อาทิตย์นึงบ้าง ที่ว่าเรื่องไปบวช เกี่ยวกับที่บ้านก็ไม่นานมานี้น่ะค่ะ

ช่วงนึงไม่สบายค่ะ กลับมานอนบ้านซมไข้ บ่ายยังลุกไม่ขึ้นเพราะกินยา แม่ไปข้างนอกปิดบ้านไว้เหมือนเคย หลับไม่รู้เรื่องอีกตามเคย แล้วเสียงวี๊..............ในหูก็มาปลุกอีก ทีนี้สู้อะไรไม่ไหวไม่ยอมลืมตาด้วยค่ะ แต่หูได้ยินเสียงตีขิมดังมาจากในห้องนอนตัวเอง เพลงเพราะมาก บอกก่อนว่าดิฉันอยากตีขิมมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีโอกาสตอนอยู่ชมรมดนตรีไทยตำแหน่งขิมเต็ม เลยต้องไปเล่นระนาดทุ้ม ซออู้ แทน และตั้งใจว่าวันนึงจะซื้อขิมมาตีตอนแก่ก็ยังดี จากนั้นดิฉันก็เผลอหลับ ไม่ได้สนใจเสียงที่ได้ยินเพราะไม่สบาย แล้วอยู่ดี ๆ ก็ฝัน ว่าเดินขึ้นบันไดไป มองที่มาของเสียง เห็นเป็นผู้หญิงสวย ใส่ชุดไทยห่มสไบเฉียงสีชมพู โจงกระเบนสีชมพู นั่งตีขิมอยู่หน้าห้องดิฉัน เค้าเห็นดิฉันก็หยุดตี แล้วพูดอะไรสักอย่างด้วยรอยยิ้ม ดิฉันฟังไม่ถนัด แต่ที่ชัดคือหน้าของเธอคล้ายกับผู้หญิงในบ้านทรงไทยที่ไปยืนยิ้มให้ดิฉันอยู่บนบ้าน ตอนเดินจงกรมที่วัด แล้วดิฉันก็ตื่น จากนั้นแม่ได้ยินดิฉันเล่าให้ฟังบ่อย ๆ จึงไปถามเจ้าของบ้าน ว่าเคยเห็นบ้างมั้ย เค้าบอกว่า พี่ไม่เคยเห็น แต่คนเช่าส่วนใหญ่ที่อยู่มาก่อนจะเห็นกัน แล้วก็ย้ายไป มีน้องนี่ล่ะอยู่นาน แต่ไม่รู้ลักษณะเป็นยังไง แสดงว่าเค้ามาดี ทำบุญก็อุทิศให้ นึกถึงบ้าง จะได้อยู่กันนาน ๆ


หลังจากนั้น ประมาณ สองเดือนถัดมา กลับมาบ้าน ก็ทำกับข้าวทำบุญวันพระใหญ่จำไม่ได้วันอะไร แล้วก็มีสังฆทาน ไปกันทั้งครอบครัว พอกลับมาก็กินหมูกระทะกันพ่อแม่ลูก อยู่ดี ๆ หมาที่เลี้ยงไว้ มันคาบฝาน้ำอัดลมโยนเข้ามาในบ้าน ร้อยวันพันปีมันไม่เคยคาบมาโยนในบ้าน หรือคิดอีกแง่ อาจเพราะเราย่างหมูกระทะ มันหอมเนื้อหมูย่างเลยโผล่หน้ามาตรงประตูที่เปิดไว้แล้วก็คาบฝาอยู่ ฝาเลยหลุดจากปาก

ดิฉันก็แปลกใจเลยไปดูที่ฝา ว่าคืออะไร ก็เห็นเป็นฝาน้ำอัดลม ใต้ฝาเห็นเลข 21 ชัดเจน เลยบอกแม่ว่า เขียว ให้หวยล่ะแม่!(หมาชื่อเขียวค่ะ) ก็ไม่ได้คิดจะทุ่มเทอะไรมากเพราะไม่ค่อยอยากเสี่ยงโชค ส่วนตัวคิดว่าดวงตัวเองไม่มีทางนี้ เลยแค่โทรฝากเพื่อนสามีเล่นใต้ดิน แค่ 20.-เล่นขำ ๆ ปรากฎว่า ออก 2 ตัวล่าง 21 เป๊ะ ๆ แต่...คนที่ฝากเค้าลืมจด ก็แห้วไปรอบ ทีนี้ก็พูดเปรย ๆ กับแม่ในบ้านว่า ไม่เป็นไรแม่ งวดหน้าเอาใหม่ อาจออกอีกก็ได้ แล้วพอกลับบ้านสามีมา ก็ยุ่ง ๆ งานวุ่นวายจนลืมวันเวลา ได้เวลาหวยออกอีกรอบค่ะ
ลืมซื้อ..........21 ออกอีกรอบ แต่ออกข้างบนแทน คือ แป่ว แหะ ๆ แต่หลังจากนั้น ก็ไปถูกเลขอื่นแทน 4 งวดติดเลยค่ะ งงตัวเองมาก ส่วนใหญ่เลขมันจะเข้ามาในหัวตอนใกล้ ๆ จะออก มีครั้งนึงตอนมัธยม เดินผ่าน สน.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เดินผ่านสุสานซากรถ อยู่ดี เพื่อนถาม งวดนี้หวยออกอะไร ให้แม่เล่น ดิฉันตอบกลับไม่คิด 79 เพื่อนก็หัวเราะ ดิฉันก็หัวเราะ ว่าอะไรฟะ 79 มาไงฟะ คือมันอยู่ในหัวแล้วตอบไปเองก็เลยขำ รุ่งขึ้นหวยออก แม่เพื่อนถูกเฉยเลย ทีนี้ไปบ้านเพื่อน ได้กินของดี ๆ เฉยเลย ขำดีค่ะ

จบสำหรับเรื่องที่บ้านเช่า อย่างที่บอกค่ะ ไม่มีอะไรหวือหวามาก แค่มาอำมาให้เห็นแว๊บ ๆ คือเหมือนไม่มารบกวนมากมาย อ้อ!! ลืมบอกไปค่ะหลังจากที่ถูก 4 งวดติด ก็ซื้อขิมมาจนได้ค่ะ แล้วฝันตอนเด็กก็เป็นจริง

 

แต่เรื่องต่อไปเป็นเรื่องแถมอีกเรื่องค่ะ
เพิ่งเจอล่าสุดค่ะ อันนี้แรงสำหรับนักโดนอำอย่างดิฉันมาก
เรื่องนี้อยู่กับเพื่อนสองคน ได้ยินทั้งคู่ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนเจ้าของหอค่ะ

เรื่อง..หอพักหลอน

หลังจากเรียนทางไกลกับมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ก็ต้องไปเรียนเข้มหลายวัน เพลียมากและประจวบกับไม่สบาย ขากลับเพื่อนรักคนนี้ก็ไปรับที่มหาลัยแล้วมานอนพักที่หอเค้า หอพักเป็นหอหญิง ห้ามชายขึ้นเด็ดขาด เป็นหอเก่าที่เคยร้างมาหลายสิบปีแล้วมาทำใหม่

ดิฉันไปถึงห้องก็เป็นห้องเล็ก ๆ เดินลากกระเป๋าขึ้นไปแบบหมดเรี่ยวแรง ไปถึงก็ขอเพื่อนนอนก่อนเลย ส่วนเพื่อนก็ทำนู่นนี่อยู่ในห้อง พื้นห้องเป็นเสื่อน้ำมัน ที่นอนก็สูงฟุตนึงได้ มีตู้เก่า ๆ โบราณอยู่ปลายเตียง ดิฉันไม่สนใจอะไรเลยเพลียมากเลยหลับไป แล้วก็ตื่นเพราะได้ยินเสียงเพื่อนเปิดประตูออกไปข้างนอกแล้วล๊อคกุญแจ ได้ยินเสียงคุยของเพื่อนกับเพื่อนห้องข้าง ๆ ก่อนจะลงจากตึกไป ดิฉันก็จะนอนต่อ

แต่...นอนไม่ได้ เสียงวี๊ๆๆๆๆ มาอีกแล้วค่ะ ท่านอนคว่ำหันหน้าไปทางซ้ายติดกำแพง ด้านขวามือโล่ง ได้ยินเสียงชัดเจนเลยค่ะ เสียงเดินเท้าเปล่าเหยียบเสื่อน้ำมัน ดัง แปะ แปะ เดินเข้าทางประตูห้อง เข้ามาใกล้ ๆ ๆ จนกระทั่งมายืนอยู่ข้างลำตัวอีกตามเคย ที่รู้ว่ามายืนข้างลำตัวเพราะ เสียงค่ะ เสียงดังมาก ดังจนนอนไม่ลง แต่ขยับไม่ได้ตามเคย ทีแรกชิน เพราะเจอมาเยอะเลยไม่ค่อยกลัว แต่เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเสียงผู้ชาย ชัดเรื่อย ๆ เริ่มกลัว เพราะที่เค้าคุย เค้าไม่ได้คุยกับดิฉัน เค้าคุยกันสองคนกับผู้หญิง เสียงผู้หญิงเบาเหมือนมดคุย แต่เสียงผู้ชายดังลั่น แปลกตรงที่ เป็นภาษาที่ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ น้ำเสียงหนักแน่น ดังกังวาลมาก คุยเป็นนาที ๆ ดิฉันก็ขยับไม่ได้เป็นนาที ๆ เริ่มกลัว สวดชินบัญชรในใจ ก็ยังคุยกันอยู่ นึกในใจ อย่ารบกวนกันเลยดิฉันไม่สบายอยากพัก เค้าก็ยังคุยไม่เลิก จากนั้น ก็นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ได้ช่วยลูกด้วย กลัวแล้ว สักพัก ภาพหลวงพ่อโสธรขึ้นมาชัดเจนเลยค่ะ มาทั้งองค์หน้าและองค์หลัง เหมือนในภาพถ่ายเลยค่ะ แล้วเสียงนั้นหายไปเลย เงียบกริ๊บ ดิฉันลุกพรวดเลย นึกขึ้นได้ ตอนพรีเซ้นต์งานแนะนำจังหวัดที่ตัวเองอยู่ นิมนต์ภาพหลวงพ่อมาด้วย เลยรีบเอาออกจากกระเป๋าเดินทางไว้หัวนอนด่วนเลยค่ะ แล้วก็....นอนไม่ได้ รอเพื่อนมา เพื่อนมาก็เห็นเราหน้าซีด ๆ เลยบอกว่าเดี๋ยวไปกินข้าวนอกบ้านแล้วจะเล่า ตอนเล่าเพื่อนบอกว่า....ไม่นะเสียงห้องข้าง ๆ พาสามีมามั้ง บางทีสามีก็เอาของมาให้ เค้าคุยเสียงดังนิด ๆ คืนนั้นเลยนอนแทบไม่ได้ นั่งดูทีวีกันแบบเกร็ง ๆ พอสองทุ่ม ชอทเด็ดเลยค่ะ

เพื่อนนั่งหน้าทีวี ดิฉันนั่งปลายเตียงเป่าผมกับพัดลมอยู่.........ต่างคนต่างเงียบ
จู่ ๆ มีเสียงดังโพล่ง เป็นภาษาที่จับใจความไม่ได้เช่นเดิม ดังมาก ๆ จนเพื่อนกับดิฉันสะดุ้งแทบกระโดดหนี เพื่อนก็หันมามองหน้าดิฉัน ดิฉันก็ขนลุกเกรียวเพราะเสียงเป็นเสียงเดียวกับที่เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนมันหัวเราะบอก สามีพี่เค้าสงสัยยังไม่กลับ คุยเสียงดังยันสองทุ่มเดี๋ยวก็โดนคนดูแลด่า ไม่มีไรหรอกแกคิดมาก

ดิฉันเลยโล่งใจ อ่ะแสดงว่าตั้งแต่กลางวันก็คงสามีภรรยาคุยกันซินะ นอนลงบ้างแต่ก็ไม่วายระแวง จนรุ่งเช้า กลับบ้าน เพื่อนขับรถไปส่ง ระหว่างทาง หล่อนสารภาพค่าาาา

จะสารภาพว่า ห้องเราอ่ะมี มีมานานแล้ว เสียงที่แกได้ยินน่ะแม่ช้านเวลามานอนพักได้ยินเหมือนกัน แต่แค่เสียงเท้าเดินมาข้าง ๆ ไม่ได้ยินเสียงคุย แต่ตัวช้านน่ะไม่เคยได้ยินอะไรเลย แล้วเสียงตอนสองทุ่มอ่ะ ชัวร์! เพราะเสียงมันอยู่ข้างหลังช้านเลย ไม่งั้น ไม่สะดุ้งหรอก อีกอย่าง พี่ที่เราบอก เค้ายังไม่มีสามี ที่อยู่กับเค้าอ่ะแม่ หอนี้คนโสดล้วน ถ้าหอคนแต่งงานแล้วจะอยู่อีกที่นึง เค้าแยกกัน.............

คำสารภาพของเพื่อน ทำให้ทั้งคู่ต้องรีบทำถังสังฆทานกันแบบเร่งด่วน เพราะดิฉันมาเล่าให้รุ่นน้องที่มีสัมผัสพิเศษฟัง แค่บอกว่า "พี่เพิ่งไปเจอดีมา"ยังเล่าไม่ทันจบ หล่อนสวนมาทันควัน ไปทำบุญให้เค้าเถอะพี่ เพื่อนพี่น่ะไม่เคยทำเลย เค้ามาขอพี่ และรอพี่อยู่ มากันสองคน ชายหญิง.................ดิฉันเงียบไป 5 วิ ก่อนจะแสดงความประหลาดใจ

จบค่ะเรื่องราวทั้งหมด ที่เหลือเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และเรื่องเล่าจากเพื่อน ๆ ไม่ได้เจอเอง จึงมีเท่านี้

แต่ที่บ้านเสาตกน้ำมัน เวลาสวดมนต์ไหว้พระ สังเกตได้เลยค่ะ พอเริ่มสวด ที่นอนนี่ยวบเลยค่ะ ความรู้สึกเหมือนมีคนมานั่งเป็นเพื่อนจำนวนนึง แต่เข้าข้างตัวเองตลอดว่า คิดไปเอง

สุดท้ายนี้เรื่องที่เล่าไม่ได้มีเจตนาต้องการอะไรนะคะ แค่มาเล่าสู่กันฟังในเรื่องที่ประสบมา หากท่านใดมีความรู้ใดเพิ่มเติมแนะนำก็เชิญได้นะคะ น้อมรับคำแนะนำค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ(f)

 

มีให้อ่านอีกเปล่า ชอบ

 

เรื่องเล่าจาก....บ้าน สา มี

วันศุกร์ และเสาร์ที่ผ่านมา เจออีกตามเคยค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะบ้านมีทำบุญบ้าน นิมนต์พระ 9 องค์มารดน้ำมนต์และเลี้ยงพระเพลค่ะ บ้านมีสองหลัง บ้านใหญ่ กับบ้านกิจการ บ้านกิจการเป็นสถานที่จัดเลี้ยงห้องคาราโอเกะซะส่วนใหญ่ แล้วก็โต๊ะสนุ๊ก ส่วน บ้านใหญ่เป็นบ้านเก่าสร้างมา 30 ปีค่ะ คนไม่พลุกพล่าน ปกติพอค่ำเราจะมาอยู่บ้านนี้คนเดียวตลอด มันเงียบดี คนไม่พลุกพล่านเหมือนบ้านนู้นน่ะค่ะ ละพอดีแม่สามีอยากทำบุญบ้าน เหตุเพราะตอนทาสีบ้านใหม่ คนงานทาสี ฝันเห็นค่ะ แม่สามีเลยเริ่มเชื่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา

เรื่องมีอยู่ว่า คนงานทาสี นอนค้างที่บ้าน แล้วฝันเห็นมังกรมีแป๊ะยิ้มนำมังกรเข้าบ้านใหญ่ แล้วเห็นย่าของสามี เห็นคนเต็มงานเลย ช่างสีถามว่ามาทำอะไรกัน แล้วแป๊ะยิ้มก็พูดกับช่างสีคนนั้นว่า อยากรู้ก็ถามนายลื้อดูซิ แล้วก็เชิดมังกรกัน มีลูกแก้วด้วย พอตื่นก็มาเล่าให้แม่สามีฟัง แม่สามีบอกขนลุกเลย เพราะเมื่อ 30 ปีก่อนที่บ้านทาสีใหม่เสร็จ ย่าของสามี(เจ้าของบ้านใหญ่เสียไปนานแล้วค่ะ) ทำบุญบ้านและเชิญมังกรเข้าบ้านมีแป๊ะยิ้มตามความเชื่อคนจีน เค้าเลยอยากทำบุญบ้าน เรานี่ค่ะ นึกแว่บแรกเลย เค้าเชิดกันยังไงอยากเห็นจัง มีลูกแก้วด้วยหรอ ไม่กี่วันค่ะ ไปเจอกล่องเก่า ๆ อันนึงที่อาของสามีที่เสียไปไม่นานท่านทิ้งไว้ เปิดกล่องดู เจอเป็นภาพแรกเลยค่ะ ภาพงานทำบุญบ้านใหม่เมื่อ 30 ปีก่อน มีมังกร มีลูกแก้วล่อมังกร แล้วคุณย่าของสามีก็เป็นคนยืนอยู่หน้าสุดตรงปากมังกร ชัดเจนเลยทีนี้

จากนั้น มีคนทักแม่สามีว่า บ้านหลังนี้มีอะไรรึเปล่า ตอนตีสองตีสาม เห็นลูกไฟดวงเบ้อเร่อเลย วิ่งพุ่งเข้ามาในบ้านใหญ่ ตอนจะไปขายของที่ตลาด วันพระวันโกนเห็นตลอด แม่สามีเลยบอกว่า เมื่อก่อน ที่เกือบร้อยไร้ ไม่ได้ใช้งาน ย่าของสามีสร้างบ้านมา ที่เหลือเฟือ มีสถานธรรมมาติดต่อขอใช้ที่ ทำพิธีล้างป่าช้า แต่เค้าว่าที่นี้จะดี จะไม่มีอะไรนะเพราะเราช่วยสงเคราะห์สถานที่ให้ส่งเค้าไปที่ ๆ ดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ค่ะว่าดวงไฟที่เค้าเห็นทุกวันพระวันโกนตอนตีสองนั่นเค้าคืออะไร แอบงงนิด ๆ


....................................................

บ้านหลังใหญ่เก่ากว่า 30 ปี คนภายนอกมองมาก่อนทาสีใหม่ มีแต่คนว่าเป็นบ้านผีสิง แหมถ้าผีสิง เราก็คงเป็นผี เพราะสิงมา 4 ปีแล้วค่ะ ก็เลยทาสีใหม่และทำบุญบ้านซะเลย

วันศุกร์ ก่อนงาน ก็ให้คนจากทางวัดมาล้อมสายสินญ์รอบบ้าน หลังจากนั้น เราก็เตรียมจานเตรียมของอยู่ในบ้านคนเดียวจนค่ำ คนอื่นอยู่บ้านอีกหลังที่ไม่ได้จะทำบุญบ้าน ห้องครัวติดห้องไว้รูปภาพของบรรพบุรุษ ปกติคนอื่นจะกลัวห้องนี้เพราะมีแต่รูปคนตายไปแล้ว แม่สามียังคิดว่าดิฉันกลัวให้ปิดห้องก็ได้ถ้าเวลาจะทำอะไรที่ครัว แต่ดิฉันไม่ปิด รู้สึกไม่น่ากลัว รู้สึกอุ่นใจมากกว่าเหมือนมีเพื่อนอยู่ตลอดเวลาที่ต้องอยู่บ้านใหญ่คนเดียวตอนกลางคืน ห้องครัวเป็นหน้าต่างบานกระจก เรายืนหันหน้าให้กระจกเช็ดจานอยู่

แล้วก็สะดุ้ง เพราะตอนเงยขึ้นมามองกระจกหน้าต่าง เห็นชัดเลยค่ะ มีคนเดินผ่านหลังไป เป็นคนแก่แต่เห็นหน้าไม่ชัด ผมขาวรู้สึกว่าเป็นหญิง ไปไม่เร็วมากเพราะเราเห็นได้ขนาดนี้ แต่ความรู้สึกคือไม่กลัวเลยค่ะ แค่สะดุ้งเพราะตอนนั้นอยู่บ้านหลังนั้นคนเดียวไม่มีใคร ก็คิดในใจว่าไม่ตาฝาดก็คงเป็นบรรพบุรุษมาบ้านเตรียมร่วมงานบุญพรุ่งนี้ก็ได้

.....................................................

วันเสาร์ อันนี้ เรา สามี และน้องชาย สะดุ้งพร้อมกันเลยค่ะ แหม ถ้าทันถ่ายคลิปคงส่งรายการคนอวดผีได้เงินกินขนมแล้ว

หลังจากพระฉันท์เพลเสร็จ แขกเหรื่อไปกินเลี้ยงต่อที่บ้านอีกหลังที่จัดเตรียมงานไว้ให้ เรากับสามีและน้องชาย อยู่เคลียร์บ้านหลังใหญ่กันสามคน ประตูเข้าตัวบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ แต่ตรงบานเลื่อนด้านล่างมันหลุดจากร่องเลื่อนนิด ๆ ถ้าเวลาเปิดประตูแล้วมือผลักเพื่อเลื่อน แรงไป ประตูจะถูกกระแทก เผยอ ออกมานิดนึงก่อนจะเลื่อนไปตามแรง

บอกก่อนว่าประตูกระจกหนักค่ะเพราะทำจากไม้เนื้อแข็งและกระจกหนาเตอะตกแต่ง และมีประตูไม้บุมุ้งลวดกั้นอีกบานอยู่ด้านหลังประตูกระจก เหตุก็เกิดคือ เราสามคนนั่งกินขนมอยู่เยื้องกับประตู ตอนนั้นในบ้านไม่มีใครแล้วค่ะเพราะเราเป็นคนส่งแขกคนสุดท้ายออกจากตัวบ้านและดับไฟปิดแอร์ปิดประตูทุกบาน ออกมานั่งไม่นาน

ปัง!!!!! เสียงดังมากจนเราสามคนสะดุ้งพร้อมกัน สามีกับน้องชายหันควับไปมอง ดิฉันนี่นั่งนิ่งเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่า หันไปต้องเจออะไรแน่ เลยไม่หัน

ประตูกระจกบานที่ว่า ถูกกระแทกจากข้างในเผยอออกมาแล้วกลับเข้าไปตีกับประตูบานเลื่อนมุ้งลวดอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง น้องกับสามีรีบเข้าไปดูเผื่อมีแขกหลงอยู่แล้วเปิดประตูไม่เป็นเลยดันออกมาจนประตูมันกระแทก ปรากฎว่าเคว้งเลยค่ะ ไม่มีใครจริง ๆ อย่างที่เราคิด น้องชายนี่หน้าซีดเลย น้องกลัวผีมากๆๆ สามีนี่แค่ขนลุก ดิฉันไม่หันมอง แต่เห็นคนอื่นกลัวก็เลยบอกว่า สงสัยลมพัดแรง ประตูหน้าตรงกับประตูหลังบ้าน ถ้าลมแรงอาจกระแทกประตูได้(รู้อยู่แก่ใจค่ะประตูหนักขนาดนั้นลมที่ไหนจะประทะยังกับคนดันประตู) สามีเลยบอก ไปดูซิหน้าบ้านปิดประตูไปแล้วลมจะมาได้ไงในเมื่อหน้าต่างปิดหมดเพราะเปิดแอร์รอบบ้านขนาดนั้น เราก็เดินไปมองประตูหน้าที่มันตรงกันกับประตูต้นเรื่อง เออจริงด้วย ปิดแล้ว ละตะกี้ อะไร กระแทกประตู....หมาก็อยู่ข้างนอกหมด แมวก็ไม่ได้เลี้ยง....

วันนี้ยังคุยกันกับสามีอยู่เลยว่า เมื่อวันเสาร์ แรงมากเลยเนอะ ใครก็ไม่รู้ แรงเยอะชะมัด....

 

เรื่อง เสียงปริศนา

เพิ่งเจอหมาด ๆ เมื่อวันโกนที่ผ่านมาค่ะ

จริง ๆ เราได้ยินบ่อยมาก บ่อยจนต้องจุดธูปไหว้ศาลเจ้าที่ในบ้านไม่ให้เสียงที่ได้ยินนั้นข้ามกำแพงเข้ามาได้

บ้านที่เจอคือบ้านสามีที่ฉะเชิงเทราค่ะ ที่เคยให้มูลนิธีมาใช้ที่ทำพิธีล้างป่าช้าเมื่อหลายสิบปีก่อน เหตุเกิดมาหลายครั้ง ทุกวันโกนวันพระจะได้ยินชัด

ทีแรกเราได้ยินคนเดียวค่ะ แต่ไม่อยากเล่าให้ใครฟังเพราะได้ยินจนชิน วันไหนวันโกนเสียงจะดังมากกว่าวันพระ

เสียงแรกที่ได้ยินเป็นเสียงสูง ๆ อยู่เหนือยอดไม้ สูงแหลม บางทีแหลมจนเราแสบแก้วหูเหมือนอยู่เหนือบ้าน บ้านสามีตรงกลางเป็นสวนหลังคาเปิดค่ะ เราได้ยินเสียงดังจนต้องแผ่เมตตาให้และอธิษฐานกับเจ้าที่บ้านว่าขอไม่ให้อะไรที่อยู่นอกบ้านข้ามรั้วเขตบ้านมารบกวนคนในบ้าน แต่พอหลังวันพระ จะไม่มีเสียง สังเกตมาหลายครั้งแล้วค่ะ ได้ยินจนชินจนบางทีคิดว่านกกลางคืนไปซะดีกว่าจะได้สบายใจ

เสียงที่สองนี่ จะได้ยินชัดตอนตีหนึ่งถึงช่วงตีสี่ เราได้ยินชัดจนขนหัวตั้งตอนสมัยเล่นเกมส์จนเช้าอยู่ช่วงนึง ช่วงตีสามกว่า จะได้ยินทุกวัน เป็นเสียงผู้หญิงร้องไห้ค่ะ ร้องจากเบา ๆ เป็นดัง ดังแล้วสะอื้นไห้ แบบเสียใจมากสะอื้นดังมาก เรานั่งเล่นเกมส์อยู่ก็เลยเงียหูฟัง ลองคิดว่าเป็นเสียงเบรครถสิบล้อจากถนนใหญ่หรือเปล่า แต่รถอะไรมาเบรคนานเป็นนาทีสองนาที แล้วใกล้หลังห้องเรามาก หลังห้องเราห่างจากกำแพงกั้นเขตบ้านประมาณ 8 เมตร หลังกำแพงปูนเป็นสถานที่ที่ห้างแห่งหนึ่งมาเช่าที่ของสามีน่ะค่ะ ที่ติดกับกำแพงเป็นลานจอดรถของห้างที่ดึก ๆ จะไม่มีรถสักคันเดียว เสียงนั้นดังข้ามกำแพงมาชัดเจนมาก เหมือนมีคนนั่งร้องไห้พิงกำแพงบ้านเราอยู่

คืนนั้นเราก็ปิดไฟนอน ไม่ได้บอกใคร สามีหลับไปก่อนแล้ว หลังจากนั้น เราก็ได้ยินอีก เรียกว่าได้ยินจนชิน จนพักหลัง ๆ ต้องซื้อยางอุดหูมาอุดเพื่อนั่งทำงานเวลาดึก ๆ หรือเล่นเกมส์ดึก ๆ ไม่งั้นได้ยินตลอด ครั้งแรกที่ได้ยิน ได้ยินดังมากร้องไห้ลั่นเลยค่ะ แต่ตอนนั้นตีหนึ่ง เราคิดว่า สงสัยอีตาคุณยามทะเลาะกับภรรยาแน่เลย แล้วภรรยาหลบมาร้องไห้ถึงนี่ ตัวบ้านกับหน้าห้าง มีลานจอดรถห้างคั่นอยู่ กว้างประมาณ600เมตรได้ค่ะ

แล้วมีวันนึง อันนี้ขนหัวตั้งเลยค่ะ อาบน้ำตอนตีสามครึ่ง จำได้ว่าวันนั้นวันพระใหญ่เข้าพรรษา เราไปทำสังฆทานที่วัด3ถังแบบซื้อทำเองเลยค่ะ คืนนั้นมัวดูหนัง จบตีสาม เล่นคอมและจะไปอาบน้ำนอน ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงสะอื้นมาแต่ไกลเลยค่ะ ทีแรกได้ยินแว่ว ๆ มาจากหน้าห้าง เหมือนคนร้องไห้ไกล ๆ เราก็อาบ ๆ ไม่สนใจเพราะชิน แอบกลัวจนต้องรีบ แต่....แว๊บเดียว เสียงมาข้างกำแพงอีกตามเคยค่ะ คราวนี้ลั่นเลยค่ะ ร้องสะอื้น ฮือๆๆๆๆ ถี่มาก เสียใจมากช้ำใจอะไรมากไม่รู้ เราหยุดอาบน้ำเลยค่ะ ขนนี่ลุกทั้งตัว ยะเยือกไปพักนึงตั้งสมาธิบอกเค้าไปว่าเราไปทำบุญมา แบบนี้ ๆ ๆ อนุโมทนาซะนะ แล้วถ้าเราพอมีบุญอยู่ขออำนาจคุณพระศรีฯช่วยส่งผลบุญนั้นให้กับเค้า คือถามว่า หยุดร้องมั้ย

ไม่หยุดค่ะ ลั่นเหมือนเดิม ยังคงร้องอยู่แบบนั้น จนเราแผ่เมตตาให้จบ ก็จ้วงน้ำด้วยขันแทนฝักบัวเลยค่ะ อย่างรวดเร็ว วิ่งหนีออกจากห้องน้ำเลย เข้าห้องนอนจึงไม่ได้ยินเสียง นั่นคือดังสุด สามีหลับปุ๋ยฝันดีไปแล้ว ไม่ได้ปลุกมาเล่า พอเช้าเราก็ไม่อยากเล่าเพราะสามีก็กลัวผีไม่ต่างกัน

จนกระทั่งวันนี้ค่ะ เมื่อวานซืน และเมื่อวานเป็นวันพระ เราไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯตั้งแต่วันจันทร์ค่ะ คิดอยู่เหมือนกันว่า ที่บ้านสามี เหลือสามีนอนคนเดียวจะได้ยินมั้ยนะ....

ปรากฎวันนี้พอกลับมาถึงบ้านแล้วอยู่กันสองคน เรียกเราไปถามเฉยเลยค่ะ

"เธอเคยได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงมั้ย อยู่นอกกำแพง เสียงดังมาจากห้าง แล้วก็มาหยุดข้างกำแพงบ้านเรา ดังมากจนเค้าชะงักเลย ตอนตีสองกว่านอนเล่นมือถืออยู่ ดังแบบร้องไห้เหมือนเสียใจอะไรมาก ๆ สักอย่าง เลยถามดูว่าเคยมั้ย"

เราเลยตอบว่า "เสียงนี้เป็นเหตุผลแรกที่เค้านอนต้องใช้ที่อุดหูอ่ะ ตื่นมาดึก ๆ ได้ยินประจำ อาบน้ำดึก ๆ นั่งเล่นคอมดึก ๆ วันพระวันโกนนี่ชัดแจ๋วไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียงเลย"

เรากับสามียิ้มให้กัน เข้าใจตรงกันไปโดยปริยายค่ะ

นึกว่าเราจะได้ยินคนเดียวซะอีก ที่แท้วันนี้สามีก็ได้ยิน.............

 

สนุกดีค่ะ (ถ้าเป็นเรื่องคนอื่นนะคะ ไม่อยากเจอเอง)

 

เรื่อง วันนี้ วันพระ เหรอ??

คือ วันนี้ตอนช่วงสี่ทุ่มค่ะ อย่างที่เคยเล่าเรื่องด้านบน เสียงปริศนา แต่เสียงนี้คุ้นเคยกว่า มาหลังจากเสียงหมาหอนค่ะ ตอนแรก ๆ ไม่ทันฉุกคิดนะคะ วันพระเท่านั้นที่จะได้ยินเสียง วี๊ด.......หลังจากเสียงหมาหอนสงบลง แต่คิดมาเสมอว่าเป็นนกกลางคืนหรือจิ้งหรีด อย่างที่เคยเล่าว่า ถ้าเป็นเสียงนกหรือจิ้งหรีด ทำไมมันร้องแค่คืนวันพระ....?

หลังจากกลับจากขายของ ก็ออกจากห้องมาเคลียร์ของหน้าห้อง บ้านสามีอยู่ห่างจากวัดราว 5 กิโลเมตรได้ ก็ถือว่าไกลอยู่ แต่เวลามีงานศพหรืองานวัด เสียงจากวัดจะดังมาถึงบ้าน ซึ่งคราวนี้ ออกไปเก็บของ ก็สังเกตว่า หมาหอน หอนกันมาเป็นทอด ๆ ก็ไม่ได้เอะใจเพราะมัวเก็บของ และคิดเล่น ๆ ว่า น้องชายสองคนเล่นเกมส์ในห้องข้างเรา จะได้ยินและกลัวรีบเข้านอนมั้ยนะ ไม่นานนัก ก็เก็บของเสร็จ แต่หมายังหอนไม่หยุดเลยค่ะ ก็แอบงง มันหอนกันนานจัง แล้วสักพักมันก็หยุดหอน พอหยุดหอนทีนี้ เสียง วี๊ดดดดดดดดดดดดดด ลั่นหูเลยค่ะ คือถ้าปกติจะวี๊ดไกล แต่คราวนี้ อีกนิดเดียวต้องเอามือปิดหูเลยค่ะ จนต้องวิ่งเข้าห้องไปถามสามีว่า วันนี้วันพระเหรอ??? เพราะคุ้น ๆ ว่าเมื่อวานวันโกน ยังแอบแซวกันอยู่เลยว่าระวังจะได้ยินเสียงจากลานจอดรถห้างเจ้าเดิมนะ นี่โดนซะเองค่ะ วิ่งหน้าตื่นเข้ามา สามีตอบ ใช่...ทำไมเหรอ เราก็....เอ้อ ได้ยินเสียงวี๊ดมั้ย เกือบต้องปิดหู วี๊ดอยู่นอกรั้วหลังต้นมะม่วงใหญ่ สามีปิดเสียงทีวี ออกมาฟัง เงียบกริบค่ะ

ใจนึงแอบคิดไปว่า ถ้าเป็นแบบที่คิดจริง ๆ จะเป็นคนในบ้านที่เสียไปรึเปล่านะ ทำไม มาวี๊ดเสียงดังอยู่รอบบ้านได้ ภาวนาให้ไม่ใช่เลยค่ะ หรือเปรตเค้าจะอยู่ได้ทุกที่คะ ใครทราบบอกทีนะคะ

 

ปกติเสียง เปตร ที่เคยได้ยินตอนเด็ก ๆ สมัยก่อนบ้านอยู่ใกล้ ๆ วัด ตอนกลางคืนตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงร้อง กรี๊ด ๆ ๆ เสียงสูงแหลมมากลากเสียงยาว
ถ้านึกไม่ออก ลองไปแถวโรงฆ่าหมู เขาจะฆ่าหมูตอนกลางคืน เสียงหมูตอนถูกเชือด จะร้อง กรี๊ด ดังลั่นไปหมด เสียงคล้ายเปตรมาก ส่วนเสียดัง วี๊ด ๆ อาจจะเป็นเสียงลมพัดกระทบอะไรก็ได้ เคยได้ยินเสียงแบบนี้เหมือนกัน

 

สนุกดี แต่สนใจเลขเด็ดค่ะ มีนิมิตรมาบ้างยังคะ

 

อุตสาห์อดใจไม่ถามนะเนี่ยะ

 

16 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปบอกในห้องทำนายฝันว่าลืมมาให้ทาย เพราะฝันตอนเช้าวันหวยออกมักจะตีเลขได้แม่น แต่เป็นคนตีเลขไม่เก่ง คราวนี้ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากในโบสถ์ไม้เก่าแก่ หันไปเห็นผู้หญิงห่มสไบแดงสองคนนั่งอยู่ แล้วก็ตื่น

ตื่นมานึกได้วันนี้หวยออก ลองตีเล่น ๆ พระ 9 ผู้หญิง 5 มี 2 คน บวกกันเป็น 10 ได้เลข 910 และถ้าสองตัว ก็คงเป็น 95 ตื่นมาจะโทรไปหาเพื่อนฝากซื้อใต้พื้นดิน ก็ดันไม่รับ ทำงานบ้านจนสายสักบ่ายสองได้ เลยเดินไปหาซื้อล๊อตเตอรี่ ก็ไม่มีเลข สรุป งวดนี้ ชวดค่ะ คงเป็นคนไม่มีดวงทางนี้จริง ๆ ฝันแต่ซื้อไม่ได้ รู้งี้มาบอกเพื่อน ๆ ในห้องทำนายฝันคงจะมีหลายคนได้ลาภไปตาม ๆ กัน คราวหน้าเอาใหม่ค่ะ อิอิ

 

ใช่ค่ะ คิดว่า เป็นเสียงนกกลางคืน ถ้าเสียงเหมือนหมูร้องเคยได้ยินค่ะ ดังทรมานมาก จนต้องสวดมนต์แผ่เมตตาให้ เพราะรถขนหมูชอบมาจอดติดไฟแดงตรงบ้าน (บ้านอยู่ใกล้สี่แยกไฟแดงน่ะค่ะ) โรงเชือดอยู่อยู่อีกตำบล ทุกวันตอนช่วงเช้าจะได้ยินเสียง

 

เมื่อคืนก็ได้ยินอีกค่ะ เสียงวี๊ดเหนือบ้าน คงเป็นนกกลางคืน เพราะเมื่อวานคงไม่ใช่วันพระ ก็เลยเดินชิลๆไม่สนใจไม่ได้แผ่เมตตาอะไรเลย พอดีวันนี้มารอนถตรงสี่แยกหน้าบ้าน เจอรถขนหมูติดไฟแดงพอดี เลยแผ่เมตตาให้แทนร้องกันอี๊ดอ๊าด จะรู้ตัวมั้ยนะว่ากำลังจะตาย

 

ผมอ่านได้หน้าแรกสนุกตื่นเต้นดีแต่ประสบการณ์เยอะจัด ชอบบสุ้สุ้เป่นกำลังใขให้คนพิมคับ

 

ประสบการณ์เฉียดตาย....หรือเพราะดวงตก

รู้เลยว่า ทำไม ความเชื่อที่ว่า
คนที่ตายด้วยอุบัติเหตุทางถนน จะยังไม่รู้ตัวว่าตัวตาย
กว่าจะทำใจมาเล่าได้.....
เพิ่งเกิดกับตัวเองและน้องชายกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจเมื่อเสาร์ที่ 25 ตุลาที่ผ่านมา....
เรื่องของเรื่องคือ
ขับมอไซค์จะข้ามถนน 4 เลนส์ เป็นถนนที่โล่งและรถขวาจะเร็ว ตอนนั้นช่วงโพล้เพล้ เราปกติจะรอจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีรถมาเลยสักคันถึงจะข้าม ใครไปก่อนช่างเค้าเราเอาชัวร์ ไม่อยากตายบนถนน....แต่ วันนั้นคงมีอะไรดลใจให้รู้ตัวว่า บางที ความตาย มันเร็วจนเราไม่ตั้งตัว
เลนส์ฝั่งตรงข้าม มีเก๋งมาคันสุดท้าย และถนนฝั่งนู้นจะโล่งปลอดภัย แต่ฝั่งเราโล่งมานานมากแล้ว มองซ้ายขวาอีกที ไม่มีรถ จึงขับออกไปกลางถนนเพื่อรอเก๋งวิ่งแล้วเราจะเสียบต่อ ขณะที่กำลังเคลือนตัวไปต่อรถเก๋ง ชั่ววูบ ต้องหันไปทางขวา เพราะได้ยินเสียงเบรคเต็มแรง มีกระบะคันนึง เหยียบมาเต็มแรง พุ่งมา พร้อมเสียงกรีดร้องของคนข้างถนนที่เห็นเหตุการณ์ ลักษณะรถเรากับกระบะเป็นตัว T เราเป็นหัวตัว ที กระบะพุ่งมากลางคัน หันไปได้ยินเพียงเสียงเบรคสุดตัว ล้อเสียดสีพื้นดังลั่น ชาวบ้านสองฝั่งร้องลั่น ผู้หญิงก็กรี๊ด ดังพอกับเสียงเบรค สิ่งที่เราคิดตอนนั้นคือ....ตาย แน่.....เรากับน้อง ห่างกระบะ แค่ 3 เมตร ถ้าเราเคลื่อนรถไปข้างหน้า น้องเราจะโดนคนเดียว เลยไม่เคลื่อน ถ้าตายก็จะตายด้วยกัน แล้วก็ร้องลั่นทั้งพี่ทั้งน้อง
โชคยังดีที่ 3 เมตรนั้น กระบะยังพอมีสติ หักซ้ายสุดตัว เราได้ยินเสียงเหมือนอะไรปัดโดนรถดัง เปี๊ยะ!!!!! ตอนกระบะหักหลบ นึกว่าไม่รถเราก็กระบะมีบุบแน่ แต่สามีบอกว่า ถ้าหน้ารถปัดโดนท้ายมอไซค์เรา เราก็ล้มคว่ำไปแล้ว ปรากฎว่ากระบะดิ๊บไปเลนส์ซ้ายกระแทกฟุตบาท เราเห็นกระบะหักหลบก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าเพราะเลนส์ที่จะไปยังไม่มีรถมา ต่างคนต่างหลบ แบบหวุดหวิด กระบะก็จอดมองมาทางเรา เราก็จอดมองไปทางกระบะว่า เค้าไปชนกับข้างทางหรือเปล่า ทุกสายตาคนที่นั่นมองมาที่รถเรา และกระบะ เราจอดรถข้างทางตัวสั่น เพิ่งรู้ว่า....คนเราเมื่อกลัวตาย มันสั่นได้ขนาดนี้ อยากร้องไห้ก็อยากร้อง แต่ปลอดภัยทั้งเราและน้องและกระบะคันนั้น ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะยังกลัวไม่หาย นอกจากมาร้องไห้เล่าให้สามีฟัง ว่า เกือบไม่ได้กลับบ้านแล้ว.... และรถไม่มีรอยอะไรเลย คือ ดวงคงยังไม่ถึงคาด คงแค่มาเตือน ๆ ว่า อย่าประมาท
จนวันนี้ มันคือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว และคิดทีไรก็ระลึกเสมอว่า....ความตาย มันไม่เคยบอกใครว่าจะมาเมื่อไร คนที่แก่ตาย เป็นโรค รู้ตัวก่อนตายยังมีโอกาสได้สั่งเสีย ได้ทำอะไรที่อยากทำก่อนจะหมดเวลา แต่คนที่ตายด้วยอุบัติเหตุ น่าสงสารตรงที่ บางทีเค้ายังไม่รู้เลยว่า....เค้าตายได้ยังไง.....ถ้าเป็นเราคงเสียดายที่วันนั้นยังไม่ได้บอกพ่อแม่ว่ารักเค้าแค่ไหน....
เรื่องนี้ ถ้าวันนั้นกระบะไม่เบรค เรากับน้องก็จะกระเด็นไกลหลายเมตร ถ้าไม่ตาย ก็พิการ ส่วนกระบะ ก็คงหนีไม่ได้เพราะคนเห็นเป็นสิบยี่สิบคน คาดว่า กระบะวิ่งมาอย่างเร็วและคุยกันกับคนข้าง ๆ ไม่ทันมองหน้า ที่แน่ ๆ เค้าไม่เปิดไฟหน้ารถ รถเค้าสีเขียวเข้มเก่า ๆ ตอนโพล้เพล้ใกล้จะมืด ไม่งั้นคงบีบแตรไล่เราตั้งแต่ไกลแล้ว แต่นี่ ระยะ 3 เมตร เรายังไม่เห็นเค้าเลย และเราเองก็ตาไม่ดีพอที่จะเห็นกระบะมาแต่ไกล ๆ ไม่งั้นคงไม่ออกตัว.....ต่อไปนี้ จะใส่แว่นขี่มอเตอร์ไซค์ตลอด และจะไม่มีวันประมาทเวลาข้ามถนนอีกแล้ว กลัวจริง ๆ มันเร็วมากเลยวินาทีนั้น ไม่เอาแล้ว.......วันอาทิตย์นี้ไปขายของยังคิดอยู่เลย จะข้ามถนนใหญ่รอดมั้ย จากไม่กลัว บอกเลย กลัวมาก....แต่ทำไงได้ ชีวิตต้องสู้ ไม่สู้ก็ตายสู้ก็ตาย งั้น สู้ดีกว่าอย่างน้อยก็ตายเพราะสู้ชีวิต....ถ้าไม่ทำมาหากิน พ่อแม่ก็ลำบาก เสี่ยงชีวิตเพื่อปากท้องคนที่บ้าน ตาย ก็ ตาย ตาหลับละนะ....แต่สัญญาว่าจะไม่ประมาทอีกแล้ว

 

แต่ทำไงได้ ชีวิตต้องสู้ ไม่สู้ก็ตายสู้ก็ตาย งั้น สู้ดีกว่าอย่างน้อยก็ตายเพราะสู้ชีวิต....ถ้าไม่ทำมาหากิน พ่อแม่ก็ลำบาก เสี่ยงชีวิตเพื่อปากท้องคนที่บ้าน ตาย ก็ ตาย ตาหลับละนะ....แต่สัญญาว่าจะไม่ประมาทอีกแล้ว


ประโยคนี้โดนสุดๆ

 

ต้นเดือนที่ผ่านมา โค้งที่ aun กลัว มีคนตายจนได้ค่ะ
รถเก๋งชนกับรถตู้ ตรงยูเทิร์นที่บอกว่ากลัว จนไม่อยากขับมอเตอร์ไซค์ไปยูเทิร์น เพราะเลนส์ขวาของทั้งสองฝั่ง ขับเร็วทะลุนรกกันจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่สิบล้อ

เก๋งตัดหน้ารถตู้ ชนสนั่น ร.ต.ต.วัย83ปีดับคาที่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ออกข่าวด้วยค่ะ ตรงนี้เลยที่ aun ต้องขับไปขายของตลาดนัด บขส.(เมืองใหม่)แล้วต้องยูเทิร์นจุดนี้ทุกครั้ง ตอนหกโมงเช้า เที่ยง บ่ายสาม กว่าจะได้ล๊อคขาย....เสี่ยงสุด ๆ

 

ฝันค่ะ มีผู้ชายมากับต้นไม้ใหญ่ มาบอกเลขเมื่อเช้า

ก่อนโพสต์ด้านบน เรื่องรถชนกันตายจุดที่ aun กลัวและต้องขับไปยูเทิร์นบ่อย ๆ
ก็ไปโพสต์เรื่องแปลก ๆ ที่ฝันเมื่อเช้าก่อนตื่นที่ห้องทำนายฝัน

ฝันว่ารอรถเมล์อยู่กับเพื่อน รถกำลังจะมา อยู่ดี ๆ มีต้นไม้สูงใหญ่มาก
มาขวางกลางถนน ก็ถามเพื่อนว่า ต้นไม้นี่มาได้ไงเมื่อกี้ยังไม่มี
แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงผู้ชายพูดมาจากต้นไม้ว่า

งวดนี้ออก 94 นะ....

แล้ว aun ก็บอกเพื่อนในฝัน คนที่รอรถด้วยกันได้ยินก็เฮกันใหญ่ว่าตัวเองถูก
ตื่นมา ไปซื้อล๊อตเตอรี่หมด รถไฟฟ้าใต้ดินก็ไม่รับ ก็เลยมาบอกในห้องทำนายฝัน
เผื่อว่าจะมีใครได้เฮเหมือนในฝัน ก็มีเพื่อนสมาชิกในห้องฝันได้เฮหนึ่งท่าน ดีใจแทนค่ะ

ก็ไม่รู้ว่าใครมาบอก แล้วทำไมต้องเป็นต้นไม้สูงใหญ่ แต่ตั้งใจทำสังฆทานอยู่แล้วจะอุทิศให้ด้วย อนุโมทนากันด้วยนะคะ(f)