เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR



แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุด !


ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR1


ภาพถ่ายดาวเทียม INFRARED ทุกๆ 1 ชม.
ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ (ช่วง ลองจิจูดที่ 100-150 องศาตะวันออก)


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรเเปซิฟิคตอนเหนือด้านตะวันตก ทุก ๆ 1 ชั่วโมง



ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)


ภาพถ่ายสภาพพายุจาก India Satellite (Weather Channel)

 

ปิดถนนพระราม1-ราชดำริ จัดงาน"Street Festival" ฟื้นการท่องเที่ยวเมืองกรุง


นายชัยพร ทองทรัพย์หัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวว่า ในวันที่25-26 ก.ค.นี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จะจัดกิจกรรม“StreetFestival” เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวทราบว่าสถานการณ์ในประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปกติแล้วซึ่งจะมีการจัดงานบริเวณถนนพระราม1และถนนราชประสงค์โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิขบวนพาเหรด ออกร้านขายสินค้าและการแสดงศิลปินดาราที่มาร่วมสร้างความสุขเป็นต้น ซึ่ง กทม.ได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่เทศกิจเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดรถสุขาเคลื่อนที่ รถดับเพลิงและรถพยาบาล

นายชัยพรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่24 ก.ค.จะมีการปิดถนนพระราม1ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า-สี่แยกราชประสงค์ฝั่งวัดปทุมวนารามเพื่อตั้งบูธขายสินค้าและจะมีการปิดการจราจรถนนราชดำริหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในวันที่ 25ก.ค.ตั้งแต่เวลา 12.00น.เพื่อตั้งเวทีการแสดงและจะปิดฝั่งหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชดำริในเวลา 21.00น.ซึ่งททท.ได้ประสานมายังสำนักงานเขตปทุมวันในการจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจมาร่วมอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะมาร่วมงานรวมทั้งให้กวดขันผู้ค้าบนทางเท้าหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และบิ๊กซีราชดำริโดยให้งดการตั้งแผงค้าในวันที่25ก.ค.ชั่วคราวส่วนผู้ค้าหน้าวัดปทุมวนารามให้งดขายตั้งแต่วันที่ 25-26 ก.ค.ซึ่งจะให้มีเพียงร้านค้าที่ททท.จัดมาเท่านั้นจึงขอแจ้งให้ประชาชนทราบเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางในวันดังกล่าวหากต้องการมาร่วมงานขอแนะนำให้ใช้ระบบขนส่งมวลชนเพื่อความสะดวก.

 

ดูเหมือนอะไร.....!!!!

 

ปภ.เชียงรายเตือน ปชช.พื้นที่เสี่ยงระวังน้ำป่าไหลหลาก-น้ำล้นตลิ่ง

ฝนที่ตกในสหภาพเมียนมาร์เหนือแม่น้ำสาย ทำให้แม่น้ำสายซึ่งเป็นน้ำกั้นพรมแดนไทยและสหภาพเมียนมาร์ ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายกับฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์ เพิ่มระดับสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนเลียบชายแดนบริเวณใต้สะพานบ้านสายลม ซอยชุมชนเกาะทราย ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ขณะที่บรรดาแม่ค้าในตลาดสายลมจอยต่างไม่กล้านำสินค้ามาวางขายให้กับนักท่องเที่ยวกลัวระดับน้ำจะขึ้นสูงมาบริเวณร้านค้า เนื่องจากขณะนี้น้ำเริ่มล้นท่วมร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำสายแล้ว
ทั้งนี้ พบว่า น้ำในแม่น้ำสายมีสีขุ่นแดงและไหลเชี่ยวกราก ประกอบกับพื้นที่อำเภอแม่สายและบริเวณด้านบนของแม่น้ำสายยังคงมีฝนตกอยู่ และจากข้อมูลของศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 12 (เชียงแสน) แจ้งว่า เมื่อเวลา 08.30 น.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำสายที่จุดวัดระดับน้ำบ้านสายลมจอยอยู่ 2.18 เมตร ซึ่งจุดวิกฤตของแม่น้ำสายอยู่ที่ 2 เมตร ระดับน้ำเลยจุดวิกฤต 18 เซนติเมตร
ด้านสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงรายได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ และที่ลาดเชิงเขาให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมจากน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

ผู้จัดการออนไลน์ 15 สิงหาคม 2557 11:20 น

 

ฝนกระหน่ำหาดป่าตอง น้ำทะลักท่วมโรงพักกะทู้


ฝนกระหน่ำหาดป่าตอง เมืองภูเก็ต น้ำทะลักท่วมโรงพักกะทู้ รถตำรวจ-ปชช. และรถของกลางได้รับเสียหาย ขณะที่เทศบาลเมืองป่าตอง เร่งสูบน้ำเพื่อระบาย ...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เวลา 04.00 น. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณหน้า สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ส่งผลให้รถตำรวจและรถของประชาชน ตลอดจนรถของกลางที่ตรวจยึดมา จมน้ำได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เทศบาลเมืองป่าตองได้เร่งสูบน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังลงคลองหน้าโรงพักอย่างเร่งด่วน พร้อมใช้รถแบ็กโฮ กวาดดินโคลนที่ไหลมากับน้ำออก คืนสภาพเดิมให้กับโรงพักกะทู้ เพื่อเปิดบริการให้แก่ประชาชนได้ในเวลา 10.00 น.


รถที่จอดอยู่หน้า สภ.กระทู้ ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้ เนื่องจาก สภ.กะทู้ อยู่ต่ำกว่าลำคลองวังขี้อ้อน ที่ไหลผ่านหน้าโรงพัก เมื่อเกิดฝนตกหนักและต่อเนื่องติดต่อกันหลายชั่วโมงจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังได้อย่างรวดเร็ว

เกิดเหตุดินสไลด์ บริเวณถนน 50 ปี ต.ป่าตอง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มลงมาทับรถเก๋ง และรถกระบะของประชาชน ที่จอดอยู่บริเวณถนน 50 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีรถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ จำนวน 1 คัน รถกระบะป้ายแดง จำนวน 1 คันและรถเก๋งอีก 1 คัน ได้รับความเสียหาย จากดินถล่มและกำแพงคอนกรีตที่สไลด์ลงมาทับ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลารุ่งเช้า เบื้องต้นคาดว่า ค่าเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท.

รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดินสไลด์


โดย thairath

 

กรมทรัพย์ฯเตือน 14 จว.ใต้ ระวังดินถล่มตลอดเดือนสิงหา



กรมทรัพยากรธรณี ออกประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม 14 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังดินถล่ม เหตุฝนตกหนักตลอดเดือนสิงหาคม แนะสังเกตลักษณะก่อนเกิดน้ำป่าและดินถล่ม...

นายสมหมาย เตชวาล ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ดินถล่มโดยอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคมนี้ พบว่าพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้เสี่ยงภัยต่อดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากวัดปริมาณน้ำฝนได้เกิน 100 มิลลิเมตร ทำให้มีโอกาสสูงมากในการเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่

จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยหรืออยู่ในพื้นที่ป่าเขาขณะฝนตกหนัก สังเกตสิ่งบอกเหตุเมื่อเกิดดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจะมีระดับน้ำในลำห้วย คูคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำเปลี่ยนเป็นสีขุ่น และสีตะกอนแดง เช่นเดียวกับ สีดินขนภูเขา มีเศษซากไม้ลอยมากับน้ำ รวมถึงมีเสียงดังอื้ออึงมาจากป่าไม้ และภูเขาเนื่องจากมีไม้หักโค่น หรือ เสียงหินกระทบกัน หากพบลักษณะเช่นนี้ ให้รีบออกจากป่า และอพยพออกจากพื้นที่บริเวณนั้นทันที

พร้อมฝากให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากของชุมชน ด้วยการหมั่นสังเกตลักษณะการเกิดดินถล่มและน้ำป่า หากมีบ้านเรือนอยู่ตามแนวเชิงเขา ควรปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้วลึก และมีรากแก้วแขนง เช่น ต้นมะขาม เพราะจะมีความแข็งแรงใช้เป็นที่หลบภัยชั่วคราวได้ แนะนำสำหรับเกษตรปลูกยางพาราในพื้นที่ลาดเชิงเขาควรปลูกด้วยเมล็ดเพื่อยึดชั้นดินได้ดีขึ้น

ข่าวโดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ส.ค. 2557

 

การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศพม่า ประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

สรุปการคาดหมาย ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค.บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน

ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม

ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค.

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค.

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ชาวบ้าน อ.ท่าวังผา ขนของขึ้นที่สูง-พร้อมรับมือน้ำป่า

จากการที่น้ำในลำน้ำยาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาแม่น้ำน่าน ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและไร่นา ต.นาไร่หลวง และ ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน ได้รับความเสียหาย ล่าสุด มีดินไหลเข้าบ้านของชาวบ้านแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือ ขณะที่น้ำป่ากำลังไหลเข้าไปยัง ต.ผาทอง ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา ส่วนชาวบ้านบ้านนาหนุน 2 และนาหนุน 3 ต.ผาตอ ที่มีทั้งหมดกว่า 400 หลังคาเรือน เตรียมความพร้อมด้วยการเฝ้าระวัง ตรวจเช็กระดับน้ำ ที่ริมน้ำลำน้ำยาวเป็นระยะๆ ซึ่งระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ต่างขนของมีค่าขึ้นไว้บนที่สูงแล้ว
ทั้งนี้ ทางอำเภอท่าวังผาได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมา ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มได้ตลอดเวลา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 สิงหาคม 2557 11:20 น.

 

น้ำป่า-โคลนทะลักท่วม “ทุ่งช้าง” กลางดึก ชาวบ้านหาย 1 เดือดร้อนกว่า 300 หลังคา



น่าน - ฝนถล่มหนักต่อเนื่อง ทำน้ำป่าทะลักล้นลำน้ำงอบ ก่อนไหลเข้าท่วมพื้นที่ 8 หมู่บ้านในอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน กลางดึก ชาวบ้านได้รับผลกระทบอ่วมกว่า 300 หลังคาเรือน มีคนสูญหาย 1 ราย

วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.15 น. หลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำงอบสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนกระแสน้ำ ผสมโคลน และเศษกิ่งไม้จะไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เป็นวงกว้าง นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลทะลักท่วมถนนสายน่าน-ทุ่งช้างด้วย

โดยเบื้องต้นมีรายงานว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบมากถึง 8 หมู่บ้าน 3 ตำบล 300 กว่าครัวเรือน ประกอบด้วย หมู่ที่ 6 ตำบลงอบ หมู่ที่ 1, 5 ตำบลทุ่งช้าง หมู่ที่ 1, 5, 8, 9 และ 10 เขตเทศบาลตำบลงอบ

นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) น่าน ยังรายงานว่า มีประชาชนสูญหาย 1 ราย คือ นายคุก ตาคำ อายุ 60 ปี อยู่ที่หมู่ที่ 5 บ้านทุ่งผึ้ง ตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ติดริมน้ำ และบ้านถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปทั้งหลัง ขณะเจ้าหน้าที่ยังเร่งค้นหาติดตามผู้สูญหาย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ และเบื้องต้นหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกับ ปภ.สาขาเชียงกลาง ทหาร และ อปท.ได้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาแล้ว



















โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 สิงหาคม 2557 10:48 น

 

ฝนตกหนักทำน้ำป่าเพชรบูรณ์หลากท่วมชุมชนทับคล้อ เมืองชาละวันอ่วม

พิจิตร - ฝนตกหนักต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ ทำน้ำป่าจากวังโป่ง เมืองมะขามหวาน ทะลักท่วมชุมชนตลาดทับคล้อ เมืองชาละวัน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100 ครอบครัว

วันนี้ (1 ก.ย.) พ.ต.อ.พายัพ ค้าขาย ผกก.สภ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ตลอด 7 วันที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกต่อเนื่องในเขต อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้ามาท่วมเขตชุมชนตลาดใต้ ต.ทับคล้อ บริเวณศาลเจ้าหมู่ 9 บ้านสายดงยางหมู่ 6 ตลาดใต้ หมู่ 1 สูงประมาณ 60 เซนติเมตร มีชาวบ้านเดือดร้อน 110 ครอบครัว นอกจากนี้ น้ำยังได้ท่วมผิวจราจรถนนสายตะพานหิน-ทับคล้อ แต่ยังใช้สัญจรไปมาได้

พ.ต.อ.พายัพ กล่าวว่า ตำรวจ สภ.ทับคล้อ ก็ได้เข้าช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของนำไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งยังจัดกำลังตำรวจเฝ้าทรัพย์สินที่มีค่าแล้ว คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีกภายใน 2-3 วัน ก็จะสามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน และจะเข้าสู่สภาวะปกติได้เช่นเดิม

ด้านนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้บูรณาการกำลังจากทุกฝ่ายระดมลงไปช่วยกำจัดผักตบชวา ที่เป็นตัวต้นเหตุขวางทางน้ำในลำคลอง เพื่อให้เร่งระบายน้ำให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ลุ่มท้องกระทะ และอยู่ริมคลอง จึงทำให้เกิดน้ำล้นคันคลองท่วมชุมชน

แต่ชุมชนใหญ่ของตลาดทับคล้อ ยังคงปลอดภัย ส่วนพื้นที่ริมแม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม ยังไม่มีน้ำท่วม เนื่องจากมีการสั่งเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำยม ลงสู่แม่น้ำน่าน ผ่านคลอง DR 2.8 ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังคงอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 10 เมตร จึงสามารถรับน้ำได้อีก ซึ่งไม่น่าวิตกกังวลแต่อย่างใด

 

ลำปางอ่วมตั้งแต่เช้ามืด น้ำป่าหลากท่วม 2 หมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร
ลำปาง - น้ำป่าทะลักท่วม 2 หมู่บ้านอ่วมตั้งแต่เช้ามืดขณะกำลังหลับสนิท ขนของขึ้นที่สูงไม่ทัน เป็ด-ไก่จมน้ำตาย บางรายต้องยอมทุบกำแพงบ้านเป็นรูให้น้ำระบายออก

เช้าวันนี้(2 ก.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดน้ำป่าจากยอดเขาสูงลงมาตามลำห้วยแม่ก๋ง เข้าท่วมบ้านแม่ก๋งเหนือ ม.3 และบ้านแม่ต้ำใต้ ม.14 ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง ที่อยู่ห่างตัวเมืองลำปางเพียง 30 กิโลเมตรตั้งแต่เช้ามืด บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 30-100 เซนติเมตร กว่า 150 หลัง ล่าสุด ขณะนี้น้ำป่ายังคงไหลเข้าหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

ด้านชาวบ้านซึ่งได้ออกมาสังเกตน้ำนอกบ้านบอกว่า น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาช่วงดึก ซึ่งชาวบ้านกำลังหลับสนิท ทำให้เก็บสิ่งของขึ้นที่สูงไม่ทัน บางส่วนต้องจมอยู่ในน้ำ รวมถึงสัตว์เลี้ยง อาทิ เป็ด และไก่ถูกน้ำป่าท่วมจนตาย นับเป็นภัยทางธรรมชาติที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ชาวบ้านบางหลังคาเรือนทุบกำแพงคอนกรีตให้เป็นรูเพื่อระบายน้ำ











โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

ชุมชนลุ่มต่ำกลางเชียงใหม่ยังเจอน้ำท่วม พระสงฆ์ต้องลุยน้ำบิณฑบาต

เชียงใหม่ - เมืองเชียงใหม่เจอฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำน้ำท่วมขังชุมชนลุ่มน้ำกลางเมืองหลายพื้นที่ บางจุดน้ำท่วมสูงร่วมเมตรได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง พระสงฆ์ต้องเดินลุยน้ำออกบิณฑบาต

เช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพไหลหลากมาตามลำห้วยเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำในตัวเมืองเชียงใหม่ที่ระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังชุมชนสิรินธร ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นบริเวณกว้าง

โดยน้ำได้ท่วมขังเส้นทางการจราจรในชุมชน ระยะทางยาวเกือบ 500 เมตร ส่วนบ้านเรือนประชาชนบางจุดน้ำท่วมขังสูงเกือบ 1 เมตร จนต้องเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าวต้องเดินลุยน้ำออกไปทำงาน ซื้ออาหาร ขณะที่พระสงฆ์ต้องเดินลุยน้ำออกมาบิณฑบาต

ขณะที่ถนนบริเวณสี่แยกข่วงสิงห์ขาออกมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กสัญจรลำบาก และมีรถเสียจอดอยู่หลายคัน รวมทั้งบริเวณตลาดเมืองใหม่ ตลาดพืชผักผลไม้สดก็มีน้ำขังเนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร ประชาชนต้องเดินลุยน้ำซื้อสินค้า

นอกจากนั้นยังเกิดน้ำท่วมขังชุมชนประตูก้อม ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนระแกง และชุมชนศรีปิงเมืองในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่ำ ระบายน้ำไม่ทัน ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ทำให้บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้านและเด็กนักเรียนต้องเดินลุยน้ำออกไปทำงานและไปเรียน ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งระบายน้ำ หากไม่มีฝนตกลงมาอีกสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย











โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

ปริมาณน้ำ “เขื่อนบางลาง” เข้าขั้นวิกฤต เผยยะลาแล้งสุดในรอบ 33 ปี

ยะลา - สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ยังคงวิกฤตอย่างหนัก แม้จะมีฝนตกในพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ พื้นที่การเกษตรหลายแห่งได้รับความเสียหาย เตือนชาวนาชะลอการทำนาปี เผยปีนี้ยะลาแล้งสุดในรอบ 33 ปี

วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา รายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนปัจจุบัน ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพียง 0.0265 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมดในปัจจุบัน 557.4570 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 38.33 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้ 281.1770 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 23.87 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปริมาณน้ำที่มีอยู่ยังคงต่ำกว่าที่เขื่อนสามารถจะกักเก็บน้ำได้ ซึ่งเขื่อนยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก 896.9030 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 61.67 เปอร์เซ็นต์

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา พร้อมด้วย นายนฤพล แหละตี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายคติ ชนนีบำรุง หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง นายอนุรักษ์ ธีระโชติ ผอ.โครงการชลประทานยะลา นายฉลอง เกียรติศักดิ์ โสภณ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนปัตตานี ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งด้านการเกษตร และการผลิตกระแสไฟฟ้า

ซึ่งจากการประชุมหารือ พบว่า ในปีนี้ปัญหาภัยแล้งนับเป็นปีที่หนักที่สุดในรอบ 33 ปี ของจังหวัดยะลา นับตั้งแต่ได้มีการก่อสร้างเขื่อนบางลาง เมื่อ พ.ศ.2524 เพื่อนำน้ำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร จนส่งผลให้การทำนา หรือปลูกพืชของเกษตรกรในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะการปลูกข้างนาปรัง และข้าวนาปี ในฤดูกาลผลิตปี 2557/2558 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนปัตตานี ได้ขอให้เกษตรกรชะลอการทำนาปีออกไปหากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไม่เพียงพอ

อีกทั้งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา หลังมีการร่วมหารือมาตรการเพื่อบริหารจัดการน้ำ และแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาฝนพื้นที่จังหวัดยะลาบ้าง แต่พบว่า ฝนที่ตกลงมานั้นได้ตกแบบทิ้งช่วง และมีปริมาณน้ำไม่มากพอที่จะไหลเข้าเขื่อน เนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งมานานทำให้หน้าดินแห้ง และดูดซับเอาน้ำฝนที่ตกลงมา ซึ่งทำให้ปัจจุบัน ปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ตามที่ได้มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำเอาไว้



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

“น้ำยม” สุโขทัยใกล้จุดวิกฤต เตือนชาวบ้านเตรียมรับมือน้ำท่วม


สุโขทัย - เตือนชาวสุโขทัยเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม หลังน้ำยมเพิ่มระดับใกล้จุดวิกฤตแล้ว

วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย ใกล้ถึงจุดวิกฤตแล้ว หลังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ประกอบกับมีการระบายน้ำลงสู่ด้านท้ายเขื่อนบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ประมาณ 600 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และใกล้ริมแม่น้ำยมตั้งแต่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย รวมทั้ง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงแจ้งเตือนให้พร้อมรับสถานการณ์ในช่วง 2-3 วันนี้

ขณะที่ราษฎรหมู่ 6 ต.ปากแคว อ.เมือง กับหมู่ 7 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง ซึ่งอยู่ติดกัน ได้เฝ้าระวังตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีกำลังทหารและพนักงาน อบต.มาช่วยกันกรอกทราย และวางแนวกระสอบป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงภัย

ด้านกองช่างเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีก็ได้นำกระสอบทรายไปทำแนวกั้นน้ำ และวางอุดตามจุดที่มีน้ำรั่วซึมขึ้นมาบนผิวจราจร บริเวณถนนริมแม่น้ำยมเขตเทศบาล พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

 

12:55 สภาพน้ำท่วม ถ.ปากแควสายหลัง จ.สุโขทัย via @Nokiie_e


12:00 น้ำที่ท่วมเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
11:00 ระดับน้ำแม่น้ำยม บริเวณสะพานแขวน ม.2 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่


10:30 ตัวเลขในระบบของกรมชลไม่แสดงผลว่า แม่น้ำยมล้นตลิ่งใน อ.เมืองสุโขทัย ?? แต่แสดงว่าล้นตลิ่งใน อ.ศรีสำโรง คาดว่าน้ำที่ท่วมใน อ.เมืองสุโขทัย มาจากคันดินกั้นแม่น้ำยมพังเสียหายยาวกว่า 145 เมตร


10:09 ภาพน้ำท่วมหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ภาพจากกู้ภัยในพื้นที่


10:09 ภาพหน้าการประปา ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย via @PPananon
.

10:08 ภาพหน้าธนาคารออมสิน อ.เมือง จ.สุโขทัย via @PPananon


09:40 น้ำยมล้นตลิ่ง ท่วมหน้าโรงเรียนประชาอุทิศ ศรีสำโรง สุโขทัย via @PPananon


09:30 น้ำล้นพนังกั้นน้ำยมที่สุโขทัย via @J_mam_ka


เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com