มีใครถือศีล 5 ได้แล้วบ้าง

ศีล5 ตอนแรกๆ สำหรับผมต้องอาศัยสติกำกับตลอดและระวังก็เคร่งเกินไปอยู่ ถือได้สักพักหนึ่งถือศีล5ข้อจนชิน ศีลก็รวมลงที่ใจสำหรับผมก็เหลือข้อเดียวเองเพียงเฝ้าระวังรักษาใจให้เป็นปกติ

ระหว่างที่ถือศีล 5 ก็โดนทดสอบ

1. ไม่ฆ่าสัตว์ ฯลฯ >> มด ยุ่ง แมลง ข้ามไปเลยเพราะผมไม่มีจิตคิดจะฆ่ามาหลายปีแล้ว เค้าเลยส่งอสรพิษมาทดสอบอยู่หลายครั้ง ครั้งแรกตะขาบตัวยาว 2 นิ้ว ขึ้นมาบนเตียงห่างจากมือผมแค่หน่อยเดียวก็จะกัดแล้ว ตกใจแต่ศีลปกติเลยแค่จับตะขาบใส่ถุงแล้วเอาไปปล่อย ทดสอบครั้งที่2 เค้าเลยส่งตะขาบตัวแดงใหญ่ยาวเท่าไม้บรรทัดมาทดสอบ ปล้ำกับมันตั้งนานกว่าชั่วโมงถึงจะไล่มันออกจากบ้านได้

2. ไม่ลักทรัพย์ ฯลฯ >> มาในรูปค่าขนมก้อนโตเกือบครึ่งแสนเพื่ออนุมัติให้ผู้รับเหมาได้งาน จริงๆผมก็เดือดร้อนเงินทองอยู่มาก แต่ผมตอบปฏิเสธไปโดยไม่เสียดาษและกลับดีใจสุขใจที่ศีลรักษาใจเราได้ดี

3. ไม่ผิดกาม ฯลฯ >> สมบูรณ์ 100% ไม่โดนทดสอบ

4. ไม่โกหก ฯลฯ >> ยากมากสำหรับผมเพราะสันดานภพชาติเก่าด้วยโดนทดสอบเยอะ หากจำเป็นจะละเมิดศีลข้อนี้จะไม่กล่าวเพื่อให้คนอื่นเสียประโยชน์ แต่จะกล่าวเพื่อให้คนอื่นสบายใจมากกว่า ข้อนี้ผมยังขาดและด่างพล้อยอยู่

5. ไม่ดื่มของมึนเมา ฯลฯ >> สมบูรณ์ 100% ไม่โดนทดสอบ



ศีล5 เมื่อ กาย วาจา ใจ ระงับเมื่อเรามีสติอยู่เค้าก็จะมาทดสอบที่เผลอคือในฝันสรุปว่าพอเราเผลอสติโดนน๊อคทุกข้อเลย ปัจจุบันก็ถือเพิ่มต่อจากศีล5 คือ กุศลกรรมบท10 เพียรระวังต่อไปได้เกือบทุกข้อแล้วครับ พระอริยะบุคคลท่านศีลรวมที่ใจบริสุทธ์ไม่ต้องสมาทาน แต่ปุถุชนอย่างเราเราต้องตั้งจิตเจตนางดเว้นจึงจะเกิดบุญนะครับ ส่วนเจตนาไม่เจตนาสมาทานศีลได้อานิสงค์อยู่แล้วคือไม่ก่อกรรมเพิ่ม

 

น่าสนใจมาก ที่ท่านบอกว่า เค้ามาทดสอบ
เค้า นี่คือใครคับ
แล้วอะไรที่ทำให้ท่านเชื่อว่า การที่ตะขาบมาหาท่าน เป็น บททดสอบการถือศีลอย่างหนึ่ง?

 

เค้าตามที่คิดคือสิ่งที่มองไม่เห็นคอยทดสอบผู้ที่ปฏิบัติธรรมนะครับ คนปกติเมื่อภัยจากอสรพิษมาถึงจวนตัว มือคว้าอาวุธอะไรได้ก็คว้าก่อนตบป๊าบๆเพื่อฆ่าอสรพิษนั้นด้วยเหตุเกรงกลัวภัยจากมัน ศีลพระอริยะนั้นแม้นตัวตายก็จะไม่ละเมิดศีลเด็ดขาด ยิ่งความปรารถนาของเราเข้มข้นเพื่อรักษาศีลให้บริสุทธิ์แล้ว ตะขาบมาจวนตัวเราแต่เราไม่ฆ่ามัน เรายอมเจ็บหากมันจะกัดเรา แต่เราจะไม่ฆ่ามันเพื่อสร้างกรรมต่อ ขี้เกียจไปตามใช้หนี้ตามทวงในภพชาติต่อไป

 

เอ ส่วนตัวศีลห้าถือเป็นปกติค่ะ แต่ไม่รู้เริ่มจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้อสามกับห้า นี่สาบานไว้ว่าจะรักษาให้ไม่ขาดตลอดชีวิตมาได้ หลายปีแล้ว แต่ตอนนี้ถือศีลแปดมาได้สักเกือบๆ6เดือน ก็ยังไม่ดีพอกำลังอยู่ช่วงปรับปรุงค่ะ อานิสงค์ของศีลที่ได้รับแน่ คือความเยือกเย็นในใจ สติ และ ความสุขที่เพิ่มขึ้น ค่ะ

 

อูฮู้ ถือศีลแปด ยาว 6 เดือนเลยเหรอ
ดีจังคับ ทำไมถือ ถือยาวขนาดนั้นคับ บนอะไรไว้เหรอ

 

อ้อ ไม่ได้บนค่ะ อยากถือก็ทำเลย ไม่ได้กำหนดเวลาค่ะ ทำไปเรื่อยๆ แต่เนื่องจากยังต้องอยู่ในสังคมอยู่ ถ้าวันไหนเลี่ยงการกินมื้อเย็นไม่ได้ เช่นต้องกินกับเจ้านาย ก็อาราธนาวันนั้นเป็นศีล 5 ค่ะ เพราะคิดว่าเราได้ถือบ้างดีกว่าไม่ได้เลย ) ตอนนี้ทำมาได้ เกือบหกเดือนแล้ว น้ำหนักลดไปหลายกิโลอยู่ค่ะ สุขภาพก็ดีขึ้นเพราะลำไส้ทำงานน้อยลง ที่สำคัญสุขใจมากค่ะ

 

http://palungjit.org/8845298-post34.html

http://palungjit.org/8802189-post70.html

มันได้รับการขัดเกลาอบรมบ่มนิสัย มาจากขุมไหนกัน? ญาติผู้ใหญ่ชอบใช้คำพูดพวกนี้หรือ?

 

คือ ผมไปปฏิบัติธรรมแล้วไม่มีความก้าวหน้า อยากรู้อะไรไม่รู้ วันหนึ่งผมฝันหลวงปู่ฤาษี มาบอกผมว่าต้องรักษาศีลห้า จะได้เป็นพระโสดาบัน ผมก็เลยทำตาม ข้อที่ยากสำหรับผม คือข้อ 4 มุสาวาจา ผมจะไม่ถึงกับโกหก แต่จะตอบเลี่ยง เลยรู้สึกไม่มันใจในข้อนี้ อิอิ แต่ตอนนี้รู้สึกมั่นใจแล้ว เพราะศีลข้่อห้า ขอบเขตที่เรื่องโกหก เท่านั้น
ผลของศีล คือ ประหยัดนะครับ ไม่ค่อยอยากได้อะไรเท่าไหร่ ส่วนเรื่องการทำกรรมฐานก็รู้สึกว่าชัดเจนขึ้น เข้าสู่สมาธิได้รวดเร็วขึ้น พิจารณาทุกข์ได้แล้วขึ้น สลัดผัสสะ สิ่งที่มากระทบได้รวดเร็วขึ้น อารมณ์ใจไม่อยากคิดถึงแต่ศีลและสมาธิ และพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์แล้วรู้สึกสบายใจ ปิติ ขนลุก ร่างกายโยก เกิดได้ง่ายมาก แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเพราะผ่านมานานแล้ว อิอิ

เป็นกำลังใจครับ ศีลห้าเป็นศีลของพระโสดาบัน หลวงพ่อฤาษีบอกไว้
ศีลห้าดีจริงนะครับ คนดีของผมคือต้องรักษาศีลห้าได้ นักการเมืองไม่ใช่สักคน จึงไม่ไปสนใจ

 

ไม่ต้องไปสนใจครับ มันบอกว่ามันเป็นพระศรีอริยเมตตรัย ไอนี้ผมจำได้ เข้าขั้นบ้ามาก อิอิ รักษาศีลต่อไป ไม่ต้องเก็บมาเป็นอารมณ์ รีบสลัดออกเดี๋ยวความทุกข์จะเข้าครอบงำท่านได้อิอิ