ความจริงของร่างทรงและวิธีพิสูจน์ร่างทรง ด้วยปัญญา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มกราคม 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก่อนที่เราจะดับทุกข์ได้ เราก็จะต้องรู้จักทุกข์ดีเสียก่อน
    วันนี้ เราจะเลิกนับถือเจ้าเข้าทรง เทพยดา องค์นั้นองค์นี้ เราก็ต้องรู้จักสิ่งเหล่านี้ให้ดีก่อน แล้วหาสาเหตุว่า เพราะอะไรจึงมีสิ่งเหล่านี้
    เมื่อเรารู้จักดีแล้ว เราก็เลิกสนใจ ก็เป็น นิโรธธรรม เกี่ยวกับการนับถือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ค่อยๆ ศึกษาว่า สิ่งเหล่านี้ มีอะไรที่ไม่ดีแอบแฝง เราจะค่อยๆ ถอน จนเลิกนับถือ เลิกเชื่อถือ ได้ ก็จะเป็นแนวทางแห่ง การละสีลพตรปรามาส



    เรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ เจ้าเข้าทรง หรือ ฤาษี หรือ จตุคามรามเทพ หรือ อะไรร้อยแปดสิ่งศักดิ์สิืทธิ์นี้ ผมจะค่อยๆ ชี้แจงเป็นข้อๆ ถึงเหตุผลกลไก ว่าทำไมเราจึงมีคำตอบที่อธิบายไม่ได้

    สิ่งที่อธิบายไ่ม่ได้ที่เราคิด ทางพุทธนั้นบอกว่า อธิบายได้ แต่เราไม่เข้าใจมันเองต่างหากจึงคิดว่า มันอธิบายไม่ได้ เราสาวไปถึงเหตุไม่เจอ เราจึงเหมาเอาว่า ฟ้าบันดาล เทพบันดาล แท้จริงแล้ว

    กรรมบันดาล

    เริ่มที่ ทรงเจ้า เข้าผี อาการของคนที่ ทรงเจ้าเข้าผี คือ อาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ขาดสติสัมปชัญญะ แล้วจากนั้นก็จะกลายเป็น เจ้าไป แท้ทีจริงคือ จิตใต้สำนึกของคนนั้นเอง มันผุดขึ้นมา ทีนี้ สัญญาหรือความจำอะไรเก่าๆ มันก็พร่างพรูออกมา มันก็เห็นนั่นเห็นนี้ มันก็พูดไปตามเรื่องตามราว เรียกง่ายๆ ว่า เพ้อเจ้อ ไม่ต่างอะไรกับ คนบ้า
    ก็ถามว่า แล้วทำไม เจ้ามันรู้นั้นรู้นี่ ข้อนี้ขอตอบว่า มันรู้บ้างผิดบ้างถูกบ้าง ตามกำลังญาณที่มีของเขา ที่เขาสะสมมา คนบางคน อดีตชาติ เคยเป็นพราห์มณ์ทำสมาธิ สูง แต่บูชาของต่ำ มันก็มีญาณรู้ แต่ก็ถูกบังตา เกิดมาชาตินี้ก็มืดต่อไป ช่วยเหลือคนก็ช่วยผิดๆ แต่ก็ยังมีคนศรัทธาเพราะกรรมในอดีตชาตินั้น ช่วยเหลือกัน แก้ทุกข์ให้กัน มา
    มันก็ติดกันมาชาตินี้ ก็เจ้าบางคน พอทักถูกหน่อยหนึ่งโอโห ศรัทธากันปานจะแต่งงานกัน ไปถวายตัวเป็ฯศิษย์รับขันธ์ ทีนี้พอมันมีกระแส มันก็ดึงดูดกันไป ต่อเนื่องกันไป ไอ้เจ้านั้นก็ บางทีก็รู้ตัวได้สติ แต่ลงไม่ได้เปรียบเหมือน ขี่หลังเสือ มันก็เลยต้อง ตกกระไดพลอยโจน

    วิธี พิสูจน์ เอาให้มันหน้าแตกไปเลยนะ ไม่ต้องไปกลัว มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก ตัวมันเองยังเอาไม่รอดเลย
    ถามมันเลยว่า เจ้าที่ลงนี้ ชื่ออะไร ถ้ามันบอกว่า เจ้าแม่กวนอิม ท้าให้มันพูดภาษาจีน ถามโคตรแซ่เจ้าแม่กวนอิมไปเลยว่า เกิดที่ไหน ตำบลอะไร มีพ่อแม่ พี่น้องกี่คน ทำไมถึงตาย ตายแล้วไปอยุ่ที่ไหน ทำไมถึงมาเป็นเจ้าแม่ได้ มันต้องสาวแบบนี้
    ถ้ามันบอกว่าเป็ฯชนองค์จตุคาม ถามมันไปเลย ว่าเป็นคนที่ไหน พ่อแม่ชื่ออะไร ซักไซ้ไล่เลียงกันไปให้ถึงต้นตอ จตุคามท่านเป็นคนใต้ ถามไปเลยว่า สมัยนั้นพูดจากันอย่างไร ใช้ภาษาอะไร
    ถ้าเป็นคนแขกให้มันพูดภาษาแขก ถ้าเป็นทรงพระพุทธเจ้า ถามมันด้วยภาษาบาลีไปเลย
    ถ้าเป็นพ่อแก่ ถามไปเลยว่า พ่อแก่เป็ฯคนที่ไหน อยุ่ป่าไหน ตายไปแล้วอยู่สวรรค์ชั้นไหน พูดภาษาอะไร

    นี่นะวิธีพิสูจน์ ไล่เลียงให้มันสุดๆ ไปเลย ไม่ต้องไปกลัว ถ้ากลัวนึกถึงพระพุทธองค์ นึกถึงผมว่า ไอ้ขันธ์ มันยังไม่กลัวเลย เราเกลียดขี้หน้าไอ้ขันธ์มันจะตาย เราจะไปขี้ขลาดกว่าไอ้ขันธ์มันได้อย่างไร

    นี่เอาเบื้องต้นก่อน เดี๋ยวจะมาเล่าอะไรให้ฟังดีๆ อีก เอาให้มันพังกันไปข้างหนึ่งเลยกับ สีลพตรปรามาสเนี่ย
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มีทรงท่านหนึ่ง บอกว่าทรง รัชกาลที่ 5 บ้าง ทรง พระสุพรรณกัลยาบ้าง
    ทรงใครต่อใครที่เป็น ราชวงศ์ บอกว่า ถ้าทรงรัชกาลที่ 5 ให้มันเข้าวังไปเลย ไปหยิบจับ สถานที่ ที่ท่านเคยพำนัก ให้มันพูดออกมา ถ้าเป็ฯ ร 5 ท่านมาจริง ท่าน ก็พาร่างไปที่ วังเก่าแล้ว เปิดเผยกันให้ดังไปเลย แบบนั้นแหละ ก้องฟ้าแน่ นี่มันไม่แน่ มันไม่กล้าให้พิสูจน์ แต่มันเอาคำขู่ให้คนกลัว คนเลยไม่กล้าพิสูจน์

    ประการที่ 2 เรื่อง จตุคาม ถามว่าทำไมคนแขวนแล้ว ถูกหวยบ้าง โชคดีบ้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    ก็ต้องตอบว่า 1 เมื่อกำลังใจเรามี สายแห่งบุญแห่งกรรมมันดลบันดาล ให้เราโชคดีเอง แต่เอาเถิด ให้เราพิจารณาว่า

    เจ้ามือรับแทงหวย ใส่จาตุคาม และ คนแทงหวยใส่จาตุคาม มันก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งได้เงินกันบ้างแหละ คนแทงหวย ไม่ต้องใส่มันก็มีบ้างที่ถูกหวย

    วันที่เจ๊ง มันไม่เอามาคุย มันคุยตอนถูกหวย คนเรามันก็ชอบอวด สรรพคุณ


    ใครมีอะไรโต้แย้ง ผมอยากคุยด้วย ยินดี เชิญมาตั้งคำถามและ เล่าประสบการณ์อันวิเศษมา ผมจะแย้งและให้คำตอบเอง
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อ้าว เพิ่งไปอ่านว่า อีกกระทู้เขาก็มีแบบนี้เหมือนกัน
    ผมต้องขอโทษด้วยที่ตั้งกระทู้ซ้ำ

    แต่ใครอยากจะมาคุยกระทู้นี้ก็ได้นะ ยินดี
     
  4. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    กระทู้ดี มีข้อคิด ขออนุโมทนา
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ก็ว่างั้น

    ขออนุญาติลบครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2008
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตอบข้อแรก

    ข้อนี้ยังไม่ค่อยน่าสงสัยนะครับ แต่จะลองตอบดู พระที่มีคุณธรรมดีๆ ท่านก็รู้ว่าการเข้าทรงนั้น เป็นเรื่องหลอกกัน ท่านรู้ในสิ่งที่มากกว่านั้น ซึ่งการทรงเจ้า แม้บางครั้งอาจจะมีเจ้ามาเข้าจริง แต่ก็เลอะเลือน เป็นการกระทำอันขาดสติ ซึ่งถ้ามีคนหมั่นไส้ คนทรงเจ้าตอนนั้นขึ้นมา เจ้าจะปกป้องตัวเองไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่ทรงเจ้าอยู่ ก็พอจะปัดป้องได้บ้าง

    ข้อที่ 2 การที่มีคนเชื่ออยู่แล้ว ทำให้ คนทรงเจ้าทำอะไรได้สะดวกขึ้นครับ
    เจ้าไม่สามารถเข้าทรงขณะเพิ่งตายได้ เพราะว่า คนยังไม่รู้จักดีพอ
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาหละ คำถามแบบท่านเล่าปังนี้ ไม่เอานะครับ เดี๋ยวหาว่า ชงกันเองกินกันเอง

    เอาแบบสงสัยจริงๆ ผมจะตอบให้ แต่คงเป็นวันอื่น วันนี้ขอตัว เพราะได้เวลานอนแล้ว
     
  8. no careless

    no careless สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +10
    ทำไมหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านว่ามีจริงล่ะครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนนะครับ ท่านเล่าไว้ในประวัติของท่าน ตอนที่ท่านพิสูจน์ร่างทรงเหมือนกันแต่ท่านเจอของจริงและท่านก็ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มีจริง ท่านบอกของปลอมน่ะเยอะแต่ของจริงก็มีแต่น้อย ต้องพิจารณาให้ดี อย่าเพิ่งไปสบประมาทน่ะครับ ท่านว่าไว้
     
  9. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    ทุกสิ่งในโลกา ล้วนมี ถูก-ผิด, สูง-ต่ำ, ดำ-ขาว และแน่นอน จริง-เท็จ ก็ย่อม คู่กันเป็นธรรมดา เรื่องเหล่านี้ เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะบุคคล ตราบใดที่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนต่อผู้อื่น คอยช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน แม้แต่ ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ขออนุโมทนา และเรื่องใดที่ไม่ได้ประสบกับตัวเอง ย่อมไม่กล้าพูดว่า เรื่องนั้นจริงหรือเท็จประการใด...ซ่าน ไจ้
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ต้องดูว่า แม้มีจริง ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรเราได้ เพราะตัวเจ้า เองยังต้องมาขอร่างคนอื่นอยู่เลย ถ้าบันดาลอะไรได้จริง ก็บันดาลร่างตัวเองก่อนสิ

    จะบันดาลเงินทองโชคลาภนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะคนหาเงินได้ก็ต้องทำมาหากิน
    อยู่ดีๆ เจ้าจะเสกเงินมาไม่ได้ เราต้องสร้างกุศลของเราเอง
    ถึงจะได้

    การบันดาลโชคลาภ หาก ว่าเราไหว้ขอพร แต่เราไม่ทำมาหากิน เราก็ไม่อาจจะมีเงิน แต่หากเราทำมาหากิน อดออม ไม่ต้องขอ เราก็มีเงิน เพราะเราทำมาหากิน

    คนสักยันต์ ไหว้นั่นนี่ ไม่มีเงิน ทักษิณดูฮวงจุ้ยร้อยแปด แต่ปากไม่ดี เป็นไง ระเหเร่ร่อน
    ดูดวงร้อยแปด ก่อนแต่งงาน แต่ถ้าไม่เข้าใจกัน ไม่อภัยกัน ก็เลิกกัน
    ผมไม่ได้ ดูดวงตอนแต่งงานเลย ทำพิธีก็แบบพื้นๆ เอาความสะดวก เราอาศัยความเข้าใจ และ การให้อภัยกัน มองแต่ข้อดีกัน ผู้นำทำตัวให้เป็นแบบอย่าง มันก็อยุ่กันยืด ร่มเย็น ไม่ต้องดูฤกษ์ยาม

    ทีนี้ คนเราหากทุกข์ใจ เมื่อไร ไม่ต้องไปถามเจ้า แต่ให้ถามตัวเราเอง ว่าเหตุมันเป็นเพราะอะไร แล้วแก้เหตุนั้น

    เช่น สามี ไปมีภริยาน้อย
    เราจะแก้ไข เราก็สำรวจตัวเองว่า เราบกพร่องอะไร ปากมากไป จู้จี้หรือไม่
    ถามกันดีๆ ถ้าสามีมีเมียน้อย ก็พูดกับเขาดีๆ ให้อภัยเขาว่าเราเป็นต้นเหตุ
    ชี้ให้เขาเห็นถึงความ เดือดร้อน และ ความทุกข์ใจที่จะตามมา
    แก้ไขในทางกุศล อย่าแก้ไขด้วยอารมณ์ หรือ ให้เจ้าทำพิธี มันไม่มีประโยชน์
     
  11. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    กายทิพย์ ซึ่งแสวงหาร่างเพื่อการทรงนั้นมีจริง และมีหลายชั้นหลายระดับ นับจากเบื้องสูงลงมายังเบื้องล่าง

    แต่ที่มากคือชั้นสัมภเวสี เจ้ากรรมนายเวร และอสุรกาย อันนิยมแอบอ้างเป็นเทวดาและเทวนารีพระองค์ต่างๆ

    จุดประสงค์เพื่อเสพเครื่องเซ่น กับได้พ้นสภาพเร่ร่อน เคราะห์หามยามดียังมีผู้รู้ไม่เท่าหันไม่ทัน ให้การยำเกรงบูชาสักการะด้วยปัจจัยนานา


    อนึ่ง ผู้ประกอบคุณความดีอยู่ในศีลในธรรมโดยแท้นั้น ย่อมมีเทพรักษา บางท่านถูกเลือกไว้ด้วยจุดมุ่งหมายพิเศษ


    ทั้งนี้ บุคคลซึ่งประกอบด้วยคุณลักษณะเหนือธรรมดา มิได้มีดาษดื่น


     
  12. hack super fast

    hack super fast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +560
    ตั้งแต่เด็กมาผมเจอเข้าหลายเรื่องเลย
    ตอนเด็กมาก พ่อแม่ชอบพาไปหาร่างทรงนู้นที นี้ที ทายผิด ทายไม่ตรงเกือบหมด แต่ก็มีบางคนทายได้ตรงจนหน้ากลัว เช่น พี่ผม มีร่างทรงที่เป็นทรงของต้นตระกูลผมเอง ท่านตั้งชื่อให้พี่ผมว่า สมยศ ล่วงมา กว่า 30 ปี มันตกงานและมันเกลียดการเป็นทหารมาก สุดท้ายมีคนช่วยดั้นมันเข้ามาเป็นทหารยศนายร้อยโดยง่าย (ช่วยทางลับไม่สามารถเปิดเผย) ซึ่งก็ตรงจนหน้าตกใจ และก่อนหน้าที่จะเป็นก็เจออีกคนเป็นร่างทรงฤาษีท่านบอกมาเลยว่ามันจะได้เป็นทหารอากาศ มันบอกจะได้ๆไง ตัวมันเองเกลียดทหารจะตาย แต่สุดท้ายมันก็ต้องมาเป็น.....

    แต่ก็ส่วนใหญ่จะทายผิดนะ

    และแถมอีกเรื่องของผมเอง มีทรงแม่อุมาซึ่งเป็นเพื่อนแม่ ยอมรับตามตรงเพราะสนิทเลยนึกว่าเค้าไม่ใช่ของจริง แต่มาเจอเข้ากับตัวนะซิถึงเชื่อสนิทใจ
    ก็เวลาแม่เราเค้าปวดหัวมาก ไมเกรน เค้ามักจะโทรศัพท์หาร่างให้ช่วย ท่านก็เมตตาช่วยและก็หายอันนี้เราก็นึกว่าแม่เราเครียดพอเค้าสวดมนตร์เลยหายเครียด แต่พอเรามาเจอกลับตัวซิครับ งง เลย ผมปวดหลังมาก ปวดมาเป็นปีๆ ไปนวดแล้ว หาหมอเอ็กซเลย์ ก็แล้ว ก็ไม่พบอะไรผิดปรกติ จนสุดท้ายแม่ต่อโทรศัพท์ให้คุยด้วย ท่านดีอกดีใจบอกเด็กนี้เป็นคนดี ให้หยิบน้ำขึ้นมาและให้พ่อไปจุดธูปที่หน้าพระ และท่านบอกเอาแก้วเข้าใกล้โทรศัพท์ท่านร่ายคาถาเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ไม่เคยได้ยินแต่พอฟังซักพักรู้สึกขนลุกซู่ และท่านก็ให้ดื่มน้ำมนตร์นั้นที่เหลือให้เอาน้ำนั้นมาลูบหลัง พอทำเสร็จท่านให้ลองนั่งก้มจับปลายเท้าทดสอบตอนแรกก็กลัวเพราะทุกทีทำไม่ได้ แต่ทันใดนั้น สำเร็จ ทำได้ไม่เจ็บแบบทุกทีแล้ว เจ็บน้อยมาก เหมือนมันตึงๆ เชยๆ ท่านบอกโดนเล่นของท่านไล่ให้แล้ว พรุ่งใส่บาตรซะ ท่านไม่เรียกเงินใดๆ เลย มีแต่บอกสงสารผีที่ถูกส่งมาแกล้ง ไปก็ไม่ได้ กลับก็ไม่ได้ ให้อุทิศให้เค้าหน่อยน่าสงสารมาก

    ต่อมาพี่ก็มาเป็นแทน ท่านก็ช่วยด้วยวิธีเดียวกันทางโทรศัพท์และหายเหมือนกัน.....

    สุดท้ายในทัศนะของผม คงไม่พูดว่าไม่มีของพวกนี้ แต่เราต้องหาของที่แท้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มกราคม 2008
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สิ่งที่เรา มักจะกังวลกันมากที่สุด คือ เรื่องการเจ็บป่วย ที่ไร้สาเหตุ แล้วเมื่อพอไปหาเจ้า หาใครต่อใครที่มีอำนาจพิเศษ เขาทำนั่นนี่มา เรากลับมาเราหาย เราก็แปลกใจว่าทำไมมันหายได้

    ข้อนีี้้อาจจะสงสัยกันและเป็นหนทางนำไปสู่การเชื่อถือแบบผิดๆ

    การเจ็บป่วยในปัจจุบันนี้ ที่หาสาเหตุไม่เจอนั้น ผมทราบดีว่าเพราะอะไร
    ที่เราสาเหตุทางแพทย์ไม่เจอ เพราะว่า มันเป็นโรคแห่งกายลม เป็นโรคแห่งสังขาร กายลมมันวิ่งไปมา หากแพทย์ตรวจหาก็ไม่เจอสาเหตุ
    เช่นปวดหัว ไมเกรน ปวดหลัง ปวดขา ปวดแขน สารพัดปวด
    ให้สังเกตุว่า อาการเหล่านี้ เคลื่อนที่ไปมาได้ นั่นแหละ โรค กายลม คือต้นเหตุมาจากลม มันมาจาก อาการยึดในสังขาร อาการเครียด จนเป็นปกติวิสัย เช่นคนบางคน ลองไปสำรวจทั่วกายนะ เอาตั้งแต่หัวเลย เรามักจะเกร็งตรงนั้น เกร็งตรงนี้ โดยอัตโนมัติ อาการเกร็งนี้ และ ประกอบกับ การ ไม่วางในสังขาร ลมมันก็ไปอั้น ไปตัน
    การเกร็ง หรือ การเครียด มาจาก จิตใจ ที่ไม่ปล่อยวาง มีการยึด บางคนมาจากการขาดหลักยึดในใจ เป็นปกติวิสัยที่ เมื่อเวลาวิตกอะไรนานๆ ไม่ต้องทำอะไร จิตก็จะวิ่งไปสู่วิตกนั้นโดย อัตโนมัติ ก็เป็นเหตุให้เรา มีเวทนาที่แปรปรวน
    ทีนี้ หนักๆเข้า พอหาสาเหตุไม่เจอ ก็เลยกลายไปเป็น โดนของบ้าง โดนผีบ้าง โดนไอ้นั่นไอ้นี่บ้าง ต้องหาเจ้า พอไปหาเจ้า ใจเราเดิมทีเบื่อกับการที่จะต้อง สู้ด้วยตนเองอยู่แล้ว พอมีที่พึ่ง เท่านั้นแหละ คลายไปเลย ก็เลยเหมาเอาว่า เจ้า ช่วยได้ ลองไปหาพระที่เราศรัทธาสิ หายเหมือนกัน หรือ ลองไปหาหมอสิ ไอ้ที่ป่วยอยู่ ทุเลาลงทันที

    ทีนี้ เรื่องนี้ผมไม่ได้วิเคราะห์นะ เป็นเรื่องจริง เจอมามาก เห็นมามาก เป็นเหมือนกันหมดทุกคน

    ก็ความจริงมันคือ เรากำหนด ทิศทางของร่างกายเราด้วย จิตใต้สำนึกที่เราไม่รู้ตัว และมองไม่เห็น วิถีแห่งความคิดความรู้สึก ไม่เชื่อลองหันไปรับรู้ต้นคอตัวเองตอนนี้สิ ว่าเกร็งอยู่หรือเปล่า

    เราลองดูเราสิว่า เวลาเราเจอนั่นเจอนี่ ร่างกายเรา มีปฏิกิริยาทันทีโดยเราไม่ต้องสั่งหรือเปล่า พอมันเป็นไปเรื่อยๆ แบบนี้ เราก็เจอผัสสะ ที่มันไม่สบายตัวนะ

    ก็เดี๋ยวมาพูดให้ฟังต่อ เอาเท่านี้ ก่อน
     
  14. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,176
    เทพระดับใหญ่ๆ ท่านมีเมตตามหาศาลคะ เรื่องที่กล่าวร้ายท่านว่าท่านจะทำให้เจ้าของร่างเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ บาปมาก
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทีนี้มาต่อ เรื่องของเทพอะไรก็ตาม ไม่อยากให้ไปนึกถึงเลย ไม่เเช่นนั้น เราจะกลายไปเป็น เทวา สรณัง คัจฉามิ
    ให้ระลึกถึงในแง่ที่ว่า เทพ เทวานั้น ช่างสุขสบาย คงทำแต่กุศล ตัวเราเองเราจะทำแต่กุศล จะได้ไปเกิดในภพภูมิแบบเทพ บ้าง ให้เรานึกแบบนี้จะเป็นปัญญา แต่ถ้าเชื่อถือ ศรัทธาเทพองค์นั้นองค์นี้เรียกว่า ไสยศาสตร์ เพราะว่า ไม่เคยรู้จักเทพองค์นั้นมาก่อน ไปศรัทธาโดยขาดเหตุผล
    ศรัทธาแบบไม่รู้ปี่รู้ขลุ่ย

    ก็มาเล่าต่อ เมื่อกายลม หรือ ขอบัญญัติศัพท์ใหม่นะ ว่า อัตโนจิตสังขาร คือ จิตสังขารที่วิ่งไปในทิศทางใดทางหนึ่งโดยอัตโนมัติ ทำให้ร่างกายเกร็ง ไม่สลายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็จะปวดเมื่อยต้นคอบ้าง ปวดเมื่อไม่มีสาเหตุบ้าง

    เลยกลายไปเป็นที่มา ของ ผีขี่คอ โดนคุณไสย ตอบว่า โดนคุณไสย นั่นแหละใช่ เพราะคำว่า ไสยศาตร์ คือ ศาสตร์ที่ไม่มีที่มาที่ไป เราโดนจิตเราเองที่เรามืดบอดไม่รู้เรื่องกับมันเล่นงานตัวเราเอง

    จิตของมนุษย์นี้ รับอะไรได้ง่ายมาก แต่หากว่า จิตพระอริยะ ก็จะไม่รับอะไรภายนอก แต่จะมีกำลังใจภายในแก่กล้า โลกธรรมภายนอก คลื่นอะไรต่างๆ ภายนอกก็จะเข้ามาไม่ถึง

    จิตมนุษย์นี้ โยงใยถึงกัน เลือกรับอะไรมันก็ไปอย่างนั้น มันเกาะกลุ่มกันไป
    หรือ เรียกว่า จิตวิทยาหมู่ แต่จริงๆ มันคือ จิตที่เชื่อมโยงไปถึงกันได้
    เราเข้ากลุ่มไหน เราก็ตามๆกันไป มันมีข้อมูลและงานวิจัยจากพวกฝรั่งนะ ว่า

    หากให้มีคนที่มีกำลังจิตเข้มแข็ง ไปคุยกับคนที่อ่อนกว่า คนที่อ่อนกว่า จะทำท่าทาง คำพูด ตามคนที่มีจิตแข็งกว่า

    ทีนี้ เรามี สัญญา เรามีสังขาร ความปรุงแต่งมากมาย พอที่จะนำจิตใจของเราหลุดออกจากความเป็นจริง ไปเป็น บุคคลอีกคนหนึ่งได้

    ยิ่งผู้หญิงนี้ ชอบสะกดจิตตนเอง มันก็กลายๆ กับการทรงเจ้านั้นแหละ
    ผมท้าลอง ทุกคน วันไหนเราแต่งตัวดี เราจะรู้สึกว่าเป็นอีกคนหนึ่ง วันไหนเราแต่งตัวไม่ดี จิตใจเราจะกลายไปเป็นอีกคนหนึ่ง

    ลองสังเกตุกันดูนะ ทีนี้ ผู้หญิงที่เขามีความเชื่ออยุ่แล้ว ผนวกเข้ามากับ สัญญาเดิมที่มีอยู่ ก็จะกลายไปเป็น คนอีกคนหนึ่งทันที แล้วเขาก็จะบอกว่า พูดไปเอง รู้ตัวแต่ควบคุมไม่ได้ แท้จริงแล้ว ตนสร้าง จิต อีกอันขึ้นมาในสังขารนี้ เอง
     
  16. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    ในอีกด้านที่ผมเคยประสบ คือ ในสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้าย พ.ศ.2540 ผมเรียนสาขาการบัญชี ผมได้ไปหาเจ้าเข้าทรง (ไม่เสียเงิน เพราะเป็นโรงเจ) ผมไปขอพร และขอให้ได้คะแนนสอบเยอะ ๆ ขอให้ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 (อันนี้จุดธูปอธิษฐานเอง) และพอถึงคิวผมเข้าไปหาเจ้า ผมได้ถามเรื่องสอบ ว่าจะสอบผ่านหมดทุกวิชาไหมสำหรับเทอมนี้ ท่านบอกให้ตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบให้มาก และให้รีบนอนแต่หัวค่ำ ปรากฎว่า เทอมนั้น ผมสอบวิชาบัญชี 5 เล่ม เศรษฐศาสตร์ อีก 1 เล่ม ผมได้ A หมดเลยทุกวิชา

    ผมได้ไปกราบขอบพระคุณพระพุทธ และเทพเจ้าที่ โรงเจ ดังกล่าว เมื่อผมเรียนจบ และได้มีโอกาส เข้าพบเจ้าองค์เดิม ก็บอกขอบพระคุณที่ท่านเมตตา ท่านบอกว่า "ใจศรัทธา ทำสิ่งใดก็ย่อมสำเร็จ" และได้ชี้แนะผมให้ รักษาศีล ปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ ทุก ๆ วันพระจีน

    ในอีกด้านในช่วงชีวิตการทำงาน ผมเคยแกล้งไปขอให้ถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ท่านหัวเราะและตอบกลับมาว่า "อย่าขอเช่นนี้ หากบุญบารมี ไม่ได้ทำมา ขอเท่าไร ก็ไม่มีทางได้"

    และผมเคยเห็นผู้อื่น เข้าไปถามเรื่อง ผัว ๆ เมีย ๆ ท่านตอบว่า "ชอ ไก่ สื่อ เมี่ยง มึ่ง" แปลว่า เรื่องทางโลก อย่าถามท่าน

    มีครั้งหนึ่ง มี หญิง ตาบอดผู้หนึ่ง เข้าไปขอให้ท่านช่วยรักษาตา ที่บอดสนิท ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด ท่านตอบว่า ให้ปฏิบัติธรรม รักษาศีล เกิดชาติหน้าจะมีตาที่ดี เรื่องตาบอด นั้น เป็นกรรมเก่าที่เราทำของเราเอง มาแต่อดีตชาติ จงยอมรับมันเสีย

    ร่างทรง คนนี้ ทรงมานาน ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ๆ ทรงฟรี ๆ ไม่เคยได้เงินเลยสักบาทเดียว เพราะท่าน ก็มีอาชีพของท่าน และก็ค่อนข้างจะมีเงินทองเชียวแหละ

    ทุกวันนี้ ผมยังคงสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ตามคำแนะนำของเจ้าท่าน และชีวิตของผมในทุกวันนี้ ก็มีความสุขดี ทั้งหน้าที่การงาน

    เพื่อน ๆ ที่จะเข้าหาเจ้าเข้าทรง ก็คงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป อย่าได้เหมารวมทั้งหมดว่า ร่างทรง นั้น โกหก หลอกลวง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น ก็ขอจงได้ใช้ปัญญาพิจารณาด้วยตนเองเทอญ....สาธุ
     
  17. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    เท่าที่ผมไปปฏิบัติธรรมที่โรงเจ เจ้าท่านจะสอนให้สวดมนต์ บูชาพระพุทธเจ้า นำ มอ เซ็ก เกี้ย เหมา นี ฮุก คือ บูชาพระพุทธเจ้าสมณโคดม และองค์เจ้าเอง เวลามาประทับทรง จะต้องจุดธูป เพื่อทำคารวะต่อพระพุทธรูป และเวลาจะถอยทรง ก็จะยกมือขึ้นไหว้พระพุทธรูป ทุกครั้งไป....สาธุ
     
  18. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    คุณขันธ์ การพิสูจน์มีได้หลายวิธี ที่สำคัญต้องมีใจเป็นกลาง แรกๆ ผมก็เหมือนคุณนั่นแหละ คือ ท้าทายไปก่อน จริงหรือ เก่งจริงก็บอกดิว่าในกระเป๋ามีเงินเท่าไหร่ พระองค์นั่นองค์นี้ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าว่าเกิดอย่างไร เกิดเมื่อไร อะไรประมาณนี้ เคยลองมาแล้วทั้งนั้นเพราะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่เชื่อแม้แต่ภพภูมิมีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง พระนิพพานมีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คิดว่าล้วนแล้วแต่เป็นเพียงแค่อุดมคติหรือมายาทั้งสิ้น

    เมื่อไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์ด้วยจิตของเรานี้แหละ เริ่มจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน โดยการเจริญสติภาวนา สมาธิภาวนา วิปัสนาภาวนา รักษาศีล ศึกษาแนวทางการบรรลุธรรมของทั้งฝ่ายพุทธเถรวาท พระโพธิสัตว์แห่งพุทธมหายาน บาโดแห่งทิเบต ราชาโยคะแห่งฮินดู ตันตระมายา ก็เพื่อการหลุดพ้นทั้งสิ้น และได้ปฏิบัติบูชาอย่างสม่ำเสมออยู่สองปี พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว ก็ขอพิสูจน์ โดยให้เพื่อนพาไปในพิธีบรวงสรวงโตฮาเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะเห็นคนพูดกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ซึ่งเป็นพิธีอัญเชิญและสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาเสด็จประทับเพื่อเป็นศิริมงคลแก่สถานที่และผู้นับถือ มีคนจำนวนมากมาย แต่งกายชุดร่างทรง ส่วนตัวผมเองก็นั่งอยู่กลางๆ แถวหลัง ใส่กางเกงยีน เสื้อยึดคอกลมสบายๆ เพราะไม่เคยคิดจะเป็นร่างทรง เพียงแค่ทดสอบจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ในปรัมพิธีจะมีกลุ่มนักสวดโตฮาเริ่มสวดพระรัตนตรัย ตามด้วยพระพิฆเนศเจ้าแห่งพิธี มหาเทพ มหาเทวี และทวยเทพทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทพภารตะ เทพจีน และเทพกษัตริย์ไทย ในระหว่างสวดมนต์อยู่นั่นได้กล่าวอาราธนาอัญเชิญพระองค์ญาณหนึ่งอยู่นั่น ผมเองเกิดอาการผิดปกติไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พยายามที่สงบจิตและอุเบกขาทุกอย่างเพื่อให้อยู่ในอาการปกติ แต่ทำไม่ได้เลยเพราะยิ่งฝืนก็ยิ่งเจ็บและจุกมากๆ ล้มลุกคลุกคลานอยู่อย่างนั่น จนกระทั่งเจ้าพิธีต้องพาผมไปกลางปรัมพิธีเพื่อขอให้พระองค์ญาณแสดงพระบารมีจนจบ เสร็จแล้วผมนอนสลบอยู่ปรัมกลางพิธีและเมื่อได้สติแล้วค่อยๆ คลานออกมา แบบว่าเข็ดจนตาย แต่ผมไม่ใช่ร่างทรงหรือประกอบอาชีพนี้นะ

    บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ทำให้ค่อยๆ ซึมซับและปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ จนเห็นด้วยจิตว่าสิ่งเหล่านี้มีจริง ด้วยวิชชาสามและมโนมยิทธิ อย่าลืมว่าพระอริยะเจ้าอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านยังสื่อและมีพระญาณบารมีฉัพรังสีของพระพุทธเจ้าได้เลย พระญาณหลวงปู่ทวดและหลวงปู่โตแห่งพระศรีอารย์ เป็นต้น แต่หนทางเหล่านี้เป็นเพียงแค่โลกียะเหมือนไม้ค้ำยันลำต้นไม้ให้ยืนหยัดอยู่ได้ จนกว่าจะเติบโตและมั่นคงแล้วค่อยปลดออกเพื่อหนทางสู่โลกุตตระ ฉันใดก็ฉันนั่นทุกอย่างที่ตัวเรา คุณขันธ์ก็ลองทำตามที่ผมบอกมาบ้างก็ได้นะครับ ถือว่าเป็นการเรียนรู้ ไม่มีผิดมีไม่ถูก ล้วนเป็นครู และลองสอบถามคนที่มาร่วมในงานพิธีบ้างก็ได้ว่าเคยเชื่อกันมาก่อนบ้างหรือเปล่า แล้วทุกท่านเหล่านี้ประสบสิ่งนี้มาได้อย่างไร เผื่อจะได้เขียนหนังสือหรืองานวิจัยให้คนอื่นได้รับรู้โดยทั่วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2008
  19. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    แต่ก่อนก็ไม่เชื่อเหมือนกันแต่ต่อมาก็ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไปเพราะได้เกิดอะไรขึ้นกับตนเองแบบที่ตนเองพิสูจน์เองก็คงเล่าอะไรไม่ได้มาก
    แต่ขอยืนยันว่าญาณของเหล่าเทพเทวามีจริงบางทีวิธีพิสูจน์แบบคุณขันธ์ก็เป็นการลองในอีกอย่างหนึ่ง
    เทพเทวาที่สัมผัสนั้นบางองค์ไม่ได้ให้เรารู้อะไรมากไปเลยคาดว่ามาเพื่อให้รู้ถืงความมีอยู่จริงแล้วที่ว่าท่านช่วยอะไรไม่ได้นั้นก็ไม่แน่เสมอไปอยู่ที่กรรมเราด้วย
    ที่ท่านทำให้มีร่างเองไม่ได้นั้นก็จริงอยู่เหล่าเทพเทวาก็ยังมีกรรมเป็นของตนเช่นกันคาดว่าถ้าไม่ได้เกี่ยวพันกันมาก็คงไม่มาให้รู้ให้ทราบท่านมีร่างโปร่งใสเรามองด้วยตาธรรมดาใม่เห็นแน่
    แล้วที่ว่าเกิดจากจิตใต้สำนึกนั้นก็อยากคิดเหมือนกันแต่รู้ตัวตลอดนี่สิไม่ได้วูบหรือครึ่งหลับครึ่งตื่นเลยสติยังอยู่ครบกำลังนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออกรู้ตัวทั่วพร้อมแต่เย็นกลางศรีษะแล้วก็สวดภาษาอะไรไม่รู้ออกมาเป็นเสียงต่างๆกันก็ฟังเองได้ยินเองเล่าให้ใครฟังก็คงว่าเอาแต่ยืนยันได้ว่ายังรู้ตัวทั่วพร้อมไม่ยอมสวดยังสวดชินบัญชรเองได้จนจบเลยแต่ก็ยังให้เราสวดเป็นภาษาอะไรอื่นจนได้
    แต่เราก็ไม่ได้เป็นร่างทรงหรืออะไรแต่ก็ทำบุญไว้มากทำเรื่องส่วนรวมไว้มากโดยไม่หวังผลตอบแทนเหมือนคุณๆที่ปรารถนาพุทธภูมิในเว็ปนี้หลายท่านแต่ก่อนก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องพุทธภูมิอะไรตอนที่ทำเรื่องนั้นคิดแต่อยากอุทิศตนให้เป็นประโยชน์อย่างเดียว
    แต่ตอนนี้หันมาฝึกจิตดูภายในจิตตนอย่างเดียวมาเป็นเวลา6เดือนเศษแล้วในเว็ปนี้มีการสอนการคุยถึงเรื่องต่างๆมากมายเลยทำให้ทราบหลายเรื่องก็มีเรื่องนี้ที่มีประสบการณ์ของตนเองอยู่บ้างมีภาพที่เชื่อว่าเป็นพลังงานของเหล่าท่านที่ไม่เห็นตัวเหล่านี้ไม่น้อยแต่เอารูปขึ้นเว็ปไม่เป็นไม่อย่างนั้นคงได้ดู
     
  20. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เรียน คุณขันธ์

    กระทู้ว่าด้วยเรื่องการพิสูจน์ร่างทรงของท่านนั้นดีนัก ทำให้เกิดข้อคิดทางการใช้ปัญญาพินิจสรรพสิ่ง อันเกิดขึ้นรอบตัวตนของเราทั้งหลาย


    โดยเรามั่นใจว่า โรคชนิดอุปาทานทำตัวเองนั้นมีอยู่จริง และเกิดแก่บางราย

    กรณีการทรงผ่านร่างของพลังงานกายทิพย์นั้น ซึ่งหลายท่านได้ถ่ายทอดจากที่ตนเคยประสบหรือเคยได้รับรู้มา

    ควรค่าแก่การรับฟัง และพินิจตามเช่นกันด้วยเป็นปัจจัตตัง

    ขณะเดียวกัน กรณีมีผู้เชิญกายละเอียด อันได้แก่ โอปปาติกะ หรือสัมภเวสี ที่มีแฝงอยู่กับหลายตัวบุคคลมาสนทนา

    โดยต่างกรรมต่างวาระกันนั้น ก็ยังเป็นอีกแง่หนึ่ง

    ด้วยท่านทั้งหลายเหล่านั้น ล้วนแสดงอาการทางกายอันผิดแผกไปจากสามัญของตน

    เป็นต้นว่า ขอให้อุทิศบุญส่งไป ร่ำไห้ และอื่นๆ ประดามี

    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...