แฉความลับ (ทหารปฏิรูปประเทศไทย)

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย เกตุวดี, 15 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. จริงจังนะ

    จริงจังนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +11,536
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    อ่านแล้วเพลียจริงๆ กำนันผู้ใหญ่บ้านเขาไปรวมพลัง เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยคือบ้านคือศักดิ์ศรีของเขา อยู่ๆก็ไปปิดบ้านเขา เอารั้วไปล้อม มันข่มแหงกันเกินไป ไม่เห็นมีใครมาแจกตังค์ดั่งท่านว่า กรรมจริงๆเล้ย
     
  3. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    5 พ.ค.57 เผย..วันนี้เมื่อ 64 ปีที่แล้ว ลำลึกฉัตรมงคล ราชประเพณีวัฒนธรรม

    การจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น มีหลักฐานเริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งพ่อขุนผาเมือง ได้อภิเษกพ่อขุนบางกลางหาว (กลางท่าว) ให้เป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัย มีพิธีต้อนรับประมุขของแผ่นดินอย่างมโหฬาร พอมาในสมัยอยุธยา เมื่อมีการเปลี่ยนองค์พระมหากษัตริย์ ทั่วทั้งเมืองจัดให้มีพิธีเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกใหญ่โตไปทั่วทั้งพระนคร

    ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คำว่า "พระบาท" นำหน้า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า "พระบรมราชโองการ" และอีกประการหนึ่งคือจะยังไม่มีการใช้ นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้น

    ต่อมา สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงกระทำพิธีฉัตรมงคลขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2393 โดยมีพระราชดำริว่า “ วันบรมราชาภิเษกเป็นมหามงคลสมัยที่ควรแก่การเฉลิมฉลองในประเทศที่มีพระเจ้าแผ่นดิน จึงถือให้วันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล และควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ “

    แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่ ยากต่อการเข้าใจ เพราะวันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีแต่เดิม ดังนั้นพระองค์จึงได้มีพระราชดำริจัดงานพระราชกุศลพระราชทานชื่อว่า "ฉัตรมงคล" ขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าการเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เป็นครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์นั่นเอง

    ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงออกพระราชบัญญัติ ว่าด้วยตราจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลขึ้น ให้มีพระราชทานตรานี้ตรงกับวันคล้ายบรมราชาภิเษก และยังให้รักษาประเพณีสมโภชเครื่องราชูปโภคอยู่ตามเดิม รูปแบบงานวันฉัตรมงคลจึงเป็นเช่นนี้จนถึงปัจจุบัน

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพในราชสกุลมหิดล อันเป็นสายหนึ่งในราชวงศ์จักรี ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เหตุที่พระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพระบรมราชชนก และพระบรมราชชนนี กำลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ที่นั่น หลังจากที่ประสูติได้ไม่นานนัก สมเด็จพระบรมราชชนก ได้ทรงย้ายไปประทับที่เมืองเซาท์บอลและบอสตัน และในปลายปีที่ประสูติ ได้เสด็จกลับประเทศไทย พร้อมสมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี ถึงปี พ.ศ. 2468 ได้ตามเสด็จสมเด็จพระบรมราชชนก และพระชนนีไป ประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส อีกครั้ง

    หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แล้วต่อมา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ รัฐบาลในสมัยนั้นเห็นได้กราบบังคมทูลเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ซึ่งมีพระมายุเพียง 8 พรรษา และทรงอยู่ลำดับที่ 1 ในการสืบราชสมบัติ ตามกฏมณเฑียรว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ.2476

    วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จสวรรคต จากการลอบปลงพระชมน์ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวัง ผู้ลงมือ คือ ร.ท.วัชรชัย อดีตรองราชเลขาสำนักพระราชวัง คนสนิทปรีดี โดยลอบสังหารต้นห้องจนเสียชีวิต จากนั้นเข้าไปวางยา รัชกาลที่ 8 แล้วจึงลอบปลงพระชนม์ด้วยอาวุธปืน เมื่อสำเร็จแล้วก็หลบหนีไปร่วมกับอำมาตย์ตรีปรีดียังประเทศจีน ทางการไทยได้ขอให้ทางการจีนสังหาร ร.ท.วัชรชัย ให้ตายตกไปตามกัน ส่วนปรีดี โจวเอินไหล เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เชิญให้ออกจากประเทศ ไปลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งเสียชีวิตบนโต๊ะทำงานด้วยโรคหัวใจ

    สาเหตุเพราะในสมัยนั้นรัฐบาลเหลิงอำนาจมาก ในบันทึกส่วนพระองค์รัชกาลที่ 8 พบว่าพระองค์ทนไม่ได้ที่ถูกปรีดี ในฐานะนายกรัฐมนตรี และผู้สำเร็จราชการ ริดรอนพระราชอำนาจ กดขี่ ข่มเหง กอบโกย ทุจริต และเอาเปรียบประชาชน ถ้าปล่อยให้ ผู้ปกครองที่ไม่ธรรม ทำการดูแลบ้านเมืองต่อไป จะนำพาประเทศไปสู่ความเสียหาย จนมีบันทึกไว้ว่า " แม้แต่รถก็ไม่มีให้ใช้ หากแม่เราป่วยจะไปโรงพยาบาลจะไปอย่างไร " รัชกาลที่ 8 จึงจะทรงสละราชสมบัติมาลงเลือกตั้งแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรี และจะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นในหลวงแทน

    เมื่อความนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงปรีดี จึงรวมหัวกับพวกวางแผนปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 เรื่องนี้ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง เมื่อหลังจาก จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจจอมพล ป.(ที่เป็นนอมินี ของปรีดี ) สำเร็จ ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน 2490 มีการแต่งตั้งให้ พล ต.ต.พระพินิจชนคดี กลับเข้ารับราชการทำหน้าที่สืบสวนกรณีสวรรคตเสียใหม่ หลังถูกปลดออกในช่วงรัฐบาล จอมพล ป. แม้ว่าปรีดี จะข่มขู่หรือติดสินบนพยานเท่าใด ก็ไม่สำเร็จ

    โดยปรีดีได้มาเจรจา ศ.น.พ.ชุบ โชติกเสถียร เพื่อให้ยอมไปให้ปากคำว่า เป็นการปลงพระชนม์ตัวเอง โดยยื่นสินบนด้วยคำพูดว่า "จะเปิดคลังหลวงให้และให้เอากระเป๋าไป 2 ใบ ใส่เงินเท่าที่ใส่ได้ ให้ไปกินอยู่ตลอดชีวิต แค่อย่าให้ปากคำกับศาลว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์" แต่พยาน ศ.น.พ.ชุบ ก็ไม่ยอม และไม่กลัวตาย จ้างทหารมาเป็นยาม ถือปืนลูกซองอยู่ในบ้าน ใครเข้ามา "ยิงทิ้งทันที"

    คดีลอบปลงพระชนม์นี้ สืบพยานตามระบบกฎหมายไทยขณะนั้นทุกประการ จนมีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาในที่สุด (เรื่องนี้ขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์โจมตีให้ร้ายในหลวงตลอดมา เพราะพวกนี้เป็นพวกฝ่ายซ้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งปัจจุบัน คนในเครือข่ายกลุ่มนี้ กลายมาเป็นผู้บริหาร บริษัทเผาไทยนั่นเอง)

    ภายหลังรัชกาลที่ 8 สิ้นพระชมน์ ในวันเดียวกันนั้นเอง รัฐสภาได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ อัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นพระอนุชาร่วมพระราชชนนี ในรัชกาลที่ 8 ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ต่อไป เดิมทีในหลวง ทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะทรงครองราชสมบัติ แต่ในช่วงการจัดงานพระบรมศพของพระบรมเชษฐาเท่านั้น เพราะยังทรงพระเยาว์และไม่เคยเตรียมพระองค์ในการเป็นพระมหากษัตริย์มาก่อน

    เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา พระองค์จึงทรงอำลาประชาชนชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เปลี่ยนสาขาจากวิทยาศาสตร์ ไปเป็นสาขาสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับตำแหน่งประมุขของประเทศ ในขณะที่ในหลวง ทรงประทับรถพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อทรงเดินทางไปศึกษาเพิ่มเติม ก็ทรงได้ยินเสียงราษฎรคนหนึ่งตะโกนว่า "ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน" จึงทรงนึกตอบในพระราชหฤทัยว่า "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้"

    ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตระหนัก ในหน้าที่พระมหากษัตริย์ของพระองค์ ดังที่ได้ตรัสตอบชายคนเดิมนั้นในอีก 20 ปีต่อมา พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์ ปี พ.ศ. 2488 และเมื่อทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2493

    วันฉัตรมงคล หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์ พระแสงประจำรัชกาล ทำในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษกเสวยราชสมบัติตามราชประเพณี , พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในรัชการที่ 9 ระหว่างวันที่ 4 - 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็น “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร “ โดยมีรายละเอียด คือ

    - วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2493 การเตรียมพิธีแต่โบราณราชประเพณี โดยพราหมณ์ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น มาทำพิธีเสกน้ำ สำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และ น้ำสรงพระมูรธาภิเษก นอกจากนี้ ยังมีการประกอบพิธีจารึกพระปรมาภิไธย ลงบนพระสุพรรณบัฎ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะดวงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    - วันที่ 4 พฤษภาคม 2493 ตามเวลาพระมหามงคลฤกษ์ เจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏ พร้อมด้วยดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาขึ้นพระราชยานกงที่เกยพลับพลาเปลื้องเครื่อง ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แห่ไปตามถนน เข้าประตูพิมานไชยศรี ถึงหน้าประตูสนามราชกิจ แล้วเชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑลในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ประดับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังพระบรมมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระทวารเทเวศร์รักษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

    พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัย แล้วประทับพระราชอาสน์ พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลเบิกทายาทผู้สืบสกุลพระยาเมือง ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ข้าหลวงประจำจังหวัด เข้าเฝ้าทูลละอองธุลลีพระบาท คือ

    - เจ้าราชบุตร (วงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
    - พระเพ็ชรคีรีศรีสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำปาง
    - เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูน
    - เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครน่าน
    - พระพิพิธภักดี (ตนกูมุกดา อับดุลบุตร) ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 2
    - ตนกูมะ บินกูปูเต๊ะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 1
    - ตนกู ตึงเงาะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองนราธิวาส
    - ตนกู อับดุล เลาะรงโซะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองยะลา
    - ตนกู อิบบราฮิม บินตนกูอหมัด ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 1
    - กูฮาหมัด บิบตำมะหงง ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 2
    - ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ภาค 5, 4, 3, 2, 1 ตามลำดับ
    - ข้าหลวงประจำจังหวัด เชียงใหม่ ปัตตานี น่าน ลำพูน ยะลา นราธิวาส สตูล ตามลำดับ

    พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมประจำภาคทั้ง 5 ภาค เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนชนวน พระราชทานแก่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เพื่อทรงนำไปจุดเทียนที่เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต แล้วทรงจุด เทียนพระมหามงคลและเทียนเท่าพระองค์

    จากนั้น เสด็จฯ ขึ้นยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 30 รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ขึ้นสู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางประตูสนามราชกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล

    มหามงคลฤกษ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดเทียนทองชนวน ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เสร็จแล้วถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญมงคลคาถา จุดเทียนชัย จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนชนวนแก่มหาดเล็ก พร้อมด้วยธูปเงิน เทียนทอง และดอกไม้ ไปบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือ

    - พระมหาเศวตฉัตร 5 แห่ง ในพระที่นั่งต่าง ๆ คือ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน , พระที่นั่งไพศาลทักษิณ , พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท , พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ,พระที่นั่งอนันตสมาคม


    - ปูชนียสถานสำคัญ อีก 13 แห่ง ดังนี้ พระสยามเทวาธิราช ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ , พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเครื่องต้น ที่ห้องภูษามาลา ] เทวสถาน พระอิศวร , เทวสถาน พระนารายณ์ , เทวสถาน พระคเณศร์ , พระหลักเมือง , พระเสื้อเมือง ,พระกาฬชัยศรี , พระเพลิง , พระเจตคุปต์ ,เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ , เทวรูป ณ หอเชือก , เทวรูป ณ ตึกดิน

    สมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับไปขึ้นนั่งอาสนะ อ่านประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับใบสมิตมาทรงปัดพระองค์ ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ธูปเทียนบูชา พระสยามเทวาธิราช พระแท่นอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงประทับพระราชอาสน์ ณ ห้องกลาง ทรงพระมหามงคล

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จกลับไปประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะ นั่งปรก และสวดภาณวารต่อไปตลอดคืน เสด็จพระราชดำเนินกลับ

    - วันที่ 5 พฤษภาคม 2493 การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงรับการสรงพระมูรธาภิเษก จากสหัสธารา พระสงฆ์ในมณฑลพระราชพิธี เจริญชัยมงคลคาถา ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด

    จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ สู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาเป็นปฐม เพื่อทรงรับน้ำอภิเษก จากสมาชิกรัฐสภา เมื่อทรงผันพระองค์ เวียนมาสู่ทิศบูรพาอีกครั้งแล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร(จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒิสภา กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ, นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กราบบังคมทูลเป็นภาษาไทย

    เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี (สวาสดิ์ พราหมณกุล) ทำหน้าที่พระมหาราชครู กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ และภาษาไทย แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระราชครูวามเทพมุนี ร่ายเวทย์ สรรเสริญศิวาลัยไกรลาส จบแล้ว กราบบังคมทูลถวาย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เป็นภาษามคธ

    แล้วทูลเกล้าฯ ถวาย พระสุพรรณบัฎ จารึกพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร”, เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์, เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์, เครื่องราชูปโภค และ พระแสงราชศัสตราวุธ กองทหารถวายความเคารพ ทหารยิงปืนกองแก้วจินดา ตามกำลัง วันศุกร์ 21 นัด ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด

    จากนั้นจึงมี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “ ทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจรรยา ดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ ทุกประการ แล้วเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน โดยมี คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล

    ต่อมาทรงเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ให้ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี จากนั้นพระองค์ฯ เสด็จด้วยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    ** ดู Clip VDO พระราชพิธีในครั้งนั้นที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=VgN-Sw8gPRc]พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๑ - YouTube[/ame]

    สำหรับเครื่องมงคลสิริเบญจราชกกุธภัณฑ์ นั้น เป็นเครื่องแสดงพระราชอิสริยศักดิ์ แห่งความเป็นสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช พระมหาราชครูผู้ใหญ่นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายขณะประทับพระที่นั่งภัทรบิฐในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบด้วย

    1. พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นเครื่องราชศิราภรณ์ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้สร้างขึ้น ทำด้วยทองคำจำหลักลาย ลงยาราชาวดี ประดับด้วยรัตนชาติ โดยเฉพาะเพชรดวงใหญ่ประดับยอดพระมหาพิชัยมงกุฎ มีชื่อว่า พระมหาวิเชียรมณีเพื่อเกื้อกูลประโยชน์สุขแห่งมหาชน

    2. พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นเครื่องราชศัสตรา ส่วนองค์พระแสงขรรค์เป็นเหล็กกล้า ตรงโคนพระแสงทั้งสองข้าง จำหลักเป็นภาพพญาสุบรรณ สมเด็จพระ อมรินทราธิราชทรงช้างเอราวัณ พระนารายณ์เป็นเจ้า และพระพรหมธาดา ลำดับกันขึ้นไปในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้ามและฝักพระแสงขรรค์ชัยศรี หุ้มทองคำจำหลักลาย ลงยาราชาวดี ประดับด้วยรัตนชาติ

    3. ธารพระกรชัยพฤกษ์ ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์หุ้มด้วยทองคำเกลี้ยง ส่วนศรีษะทำเป็นหัวเม็ดทรงบัวอ่อน เถลิงคอทำด้วยเหล็กคร่ำทองเป็นลายก้านแย่งดอกใน ประกอบแม่ลายกระหนาบทั้งล่างและบน ส่วนส้นทำเป็นส้อมสามขาด้วยเหล็กกล้าคร่ำทอง และรัดด้วยเถลิงส้นคร่ำทองลายเดียวกับเถลิงคอ

    4. พัดวาลวิชนีและพระแส้จามรี จะทำด้วยใบตาลขลิบทองหุ้มขอบ ด้ามและนมพัดทำด้วยทองคำเพลาลาย ลงยาราชาวดี ประดับด้วยรัตนชาติ ส่วนพระแส้จามรี ด้ามเป็นแก้ว จงกลรัดโคนแส้และส้นทำด้วยทองคำเพลาลาย ลงยาราชาวดี ประดับด้วยรัตนชาติ

    5. ฉลองพระบาทเชิงงอน ทำด้วยทองคำจำหลักลาย ลงยาราชาวดี ประดับด้วยรัตนชาติ ด้านในทั้งสององค์บุด้วยสักหลาดสีแดง

    ปี พ.ศ.2557 นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักเปี่ยมสุข ไปยังศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสด็จเข้าท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม

    จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาเทพยดารักษานพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการสมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์

    พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียน สมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร โหรผูกผ้าสีชมพู สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ทองคำประจำรัชกาล แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

    สนธิกำลังทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 1,000 นาย ถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะในส่วนของกำลังทหาร ได้ขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมจาก จ.เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี มาร่วมด้วย เพื่อให้การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในครั้งนี้มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด นอกจากนั้น กำลังบางส่วนต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ เป็นจำนวนมาก

    จะเห็นได้ว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีหลวงของพระมหากษัตริย์ ที่ทุกพระองค์ทรงยึดถือปฏิบัติ ตามระเบียบแบบแผนราชประเพณีมาแต่โบราณกาล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจ ด้วยพระราชวิริยะอุตสาหะ เสียสละ เพื่อพสกนิกชาวไทยของพระองค์ได้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข

    หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และพสกนิกรชาวไทย ควรร่วมกันถวายพระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมหามิ่งขวัญแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไป

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2014
  4. chang938

    chang938 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +451
    แบบนี้ส่งเข้าประกวดได้ไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    10 พ.ค.57 เผย..อุบาทว์พระเพลิง อุบาทว์พระพาย และศาลสุดท้ายที่เสื้อแดงจะเจอ

    ตอนนี้สถานการณ์ ของขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์ แก็งค์อั้งยี่แดง เหมือนผีซ้ำด้ามพลอย เมื่อหมู่มิตร ล้วนไม่กล้าเข้าใกล้ ชายดูไบ เข้าเขมรไม่ได้มานานแล้ว ทั้งๆ ที่เคยมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งผลประโยชน์และเครือญาติ คนที่ฮวยเซ็งอยากอยู่ห่างๆ สัก 10 ล้านปีแสงมากที่สุดตอนนี้ คือ ชายดูไบ นั่นเอง..นั่นเพราะเขา “กลัว” ประชาชน และสม รังสี จะใช้วิธีเดียวกันกับของกำนัน ขืนให้ชายดูไบ เข้าประเทศ เมื่อนั้นสม รังสี จะปลุกประชาชนมาลุกฮือ อีกระลอก หลังจากที่เขาจุดม็อบติดมาแล้วหลายครั้ง

    ตอนนี้สม รังสี ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากประชาตลอดเวลา เพราะคนรุ่นใหม่ของเขมรเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ เขาเบื่อฮวยเซ็ง ที่เผด็จการ ขี้โกง และใช้อำนาจทำร้ายประชาชนบ่อยครั้ง ล่าสุดตอนนี้เขมร วุ่นวายหนัก เพราะสม รังสี เลียนแบบกำนัน ก่อการประท้วงลุกลามที่ละน้อยขยายวงไปเรื่อยๆ ขืนเป็นแบบนี้ในไม่ช้ามะม่วงเขมรคงหล่นไปอีกต้น ไป Clip VDO การประท้วงเขมรที่ https://www.facebook.com/photo.php?v=707849069271829

    ช่วงนี้ชายดูไบ ก็ทำได้แค่มาระเหเร่ร่อน ผลุบๆ โผล่ แถวสิงคโปร์ ให้สมุนบริวารบินไปพบ เพื่อรายงานข้อมูลหลอกลวงว่าจะชนะแล้ว ได้เปรียบแล้ว ใกล้แล้ว เพื่อหลอกแดกเอาเงินท่อน้ำเลี้ยงนั่นเอง ขืนเข้าไปเขมรตอนนี้ โดนฮวยเซ็งฝังแน่ๆ ดังนั้นการสนับสนุนก่อสงครามกลางเมืองเหมือนปี 53 ในกรุงเทพฯ จากเขมรในปี 57 นี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฮวยเซ็งเอง ก็ยังไม่รู้เลยว่า จะเอาตัวรอดจากแรงบีบคั้นทางการเมืองเขมรได้อย่างไร แม้เขาจะไปเจรจากับสม รังสี หลายครั้งเพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเขา และพรรคพวก สม รังสีก็ไม่ยอมอ่อนข้อ

    มีความเป็นได้สูงมาก ที่ปรากฏการณ์ “กำนันปริงส์ “ ที่คล้ายอาหรับสปริงค์ ที่โค่นรัฐบาลอาหรับไปเกือบ 10 ประเทศ จะมีจุดเริ่มต้นที่ไทย และลุกลามขยายตัวไปประเทศเอเชียไต้นี้ และ สม รังสี อาจผงาดขึ้นมาแทนฮวยเซง ในเวลาไม่นานต่อจากนี้ ซึ่งเขามีแนวคิดชาตินิยมสูง จะสามารถเกื้อหนุนทางนโยบายต่างประเทศ ได้ดีกับรัฐบาลใหม่ จากการปฏิรูปของประชาชนไทย รวมถึงนักโทษทางการเมืองไทยที่ตกค้างในเขมรด้วย..

    ด้านมาเลเซีย ก็ออกข่าวครึกโครมว่าปูเน่า และแก๊งค์อั้งยี่แดง ถูกลงโทษจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ไทยสูญเสียเงินกว่า 4 แสนล้านบาทกับโครงการนี้ ที่มีการทุจริตในทุกระดับของรัฐบาลบริษัทเผาไทย ทำให้ ปปช. และหน่วยงานอื่นๆ ที่เป็นกลาง พบการทุจริตมากมายในโครงการดังกล่าว นับเป็นเรื่องแปลกเพราะสื่อมวลชนในมาเลเซียนั้น การจะออกข่าวใดๆ ต้องได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลของเขาก่อน

    ส่วนสำนักข่าว CNN และ CBS ก็รายงานคล้ายกันว่า การก่อความรุนแรง และเหตุยิงอาวุธสงคราม M79 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เกิดจากชายดูไบ และแก็งค์อั้งยี่แดง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น..โห บริษัทเผาไทย ดังไปทั่วโลกแล้วเพราะความชั่ว เลว ทราม ของตนเอง แม้จะจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ จ้างสื่อนอก เท่าไรก็ปิดไม่มิด ดังคำโบราณที่ว่าช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิด..

    ในสายตาชาวโลก และประเทศเพื่อนบ้าน เขามองไทยตกในสภาพ "ไร้รัฐบาล" พม่า และลาว เองยังกลัวปรากฏการณ์ “กำนันปริงส์ “ กลัวคนจากบริษัทเผาไทยมาก และพยายามวางตัว ในภาพการเมืองระหว่างประเทศ ไม่ให้รัฐบาลใหม่ของไทย ที่จะเป็นฝ่ายตรงข้ามบริษัทเผาไทย รู้สึกหวาดระแวง ดูจากปึ้งเหม่งไปพม่า เขาก็ไล่ถีบออกมาเหมือนหมูหมา แม้แต่จะขอเข้าไปถ่ายรูปกับ รมต.อาเซียนเขายังไม่ยอมเลย แต่เขายอมให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย เพราะเขากลัวปึ้งเหม่ง และบริษัทเผาไทยเอามาอ้าง..ไม่มีประเทศไหนอยากคบบริษัทการเมืองที่หมดอนาคต..

    หากปึ้งเหม่งเบิกงบหลวงไป งานนี้ข้าราชการเจ็บตัวโดน สตง.เล่นงานกันระนาวแน่..เพราะมันหมดสถานะ รมต.ไปตั้งแต่วันศาลตัดสินพร้อมปู่เน่าแล้ว , อีกแห่งคอยดูเหอะงานนี้ สตง. กัดไม่ปล่อย แน่ จะต้องให้ ศอ.รส.ศูนย์เถื่อน ส่งมอบเอกสารหลักฐานประกอบการใช้จ่ายงบประมาณ นับตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มา จนถึงปัจจุบัน เพราะเขาเกรงว่าพอตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว จะมีปัญหาหาตัวผู้รับผิดชอบเงินแผ่นดินไม่ได้

    เวลา 2 ปี 9 เดือน 2 วัน ที่ปูเน่า แห่งขบวนการล้มเจ้าแดง เป็นนายกฯ ได้เผาผลาญทรัพยากรกองกลางของชาติ ทำให้กองทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยลดลง เกือบ 600,000 ล้านบาท และเงินพวกนี้แทนที่จะไปถึงชาวนา ชาวไร่ ผู้ยากจน กลับผันเงินไปให้พวกตนเอง เช่น แกนนำแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ไวพจน์ ที่จัดรายการ “รามสูร” ทางช่องทีวีเอเซียอาบแดด มีเงินร่ำรวยมากเกินเหตุ แจ้ง ป.ป.ช.ว่าทำเกษตรแต่ได้เงินหลายล้าน

    คากคกตู่ ใส้เดือนเต้น และแก๊งค์ นปช. วันๆ ก็จ้องจะอมหัวคิวจากม็อบลูกเดียว ซื้อบ้านกันหลายหลัง ซื้อที่ดินอีกจำนวนมากงอกขึ้นมา พอถูกจับได้ว่าจ้างม็อบก็อ้างว่าเป็นแดงเทียม..มันไม่มีเทียมหรอก ก็ไปจ้างเขามาแล้วไม่จ่ายเขาก็มีสิทธิโวยวายได้ ก็จ่ายๆ เขาไปหัวละ 3,000 บาทต่อวัน เขาจะได้ไม่ประจานเอา

    ส่วนที่เชียงรายอาฟเตอร์ช็อกก็อาเพศยังไม่หยุดสงบนิ่ง เขย่าไปแล้วกว่า 700 ครั้ง ชาวบ้านผวาไม่กล้าเข้าบ้าน หวั่นถล่มทับ บางคนเครียดจัด กู้เงินสร้างบ้านไปกว่า 3 ล้าน แต่พังถล่มหมด ได้เงินชดเชยแค่ราว 3 หมื่นบาท..ก็บาปกรรมที่ชาวบ้านบางส่วน ดันไปสนับสนุนเลือกขบวนล้มเจ้าเสื้อแดง ที่เป็น ส.ว. และ นายก อบจ.ธรณีก็พิโรธ เตือนแต่ก็ไม่เข็ดกัน พลอยทำให้คนอื่นที่เขาไม่หนุนพวกล้มเจ้า เลยซวยไปด้วยเลย

    คนกาลกิณี พาซวยไปเหยียบที่ไหนก็อาเพศ เมื่อปูเน่า ที่ชาวนา 10 ล้านคนสาปแช่งโกงจำนำข้าว หนีม็อบไปเชียงใหม่ ข้อมูลถูกปิดเงียบเป็นส่วนตัว โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ ปรากฏว่ายามไร้อำนาจ แต่ไม่มีความดี ไม่มีแม้แต่เงาบิ๊กข้าราชการ กลุ่มคนเสื้อแดง ไปต้อนรับเลยสักแม้สักคน..ต่างกันฟ้ากับเหวยามมีอำนาจ

    ปกติปูเน่า จะเดินทางไปพัก จะพักอยู่ 3 แห่ง คือ ที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของ เครือญาติตระกูลชิน เช่น บ้านชายดูไบ , บ้าน เจ้ ด.แดกข้าว , โรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่เพื่อ ว.5 กับการ์ดให้หนำใจ , และหากมีสถานการณ์ทางการเมือง จะไปพักที่บ้านเกิด ใน อ.สันกำแพง ครั้งนี้ไม่พบกำลังชายชุดดำในเครื่องแบบไปอารักขาเหมือนเคย

    เมื่อปูเน่ามา จะให้เสียชื่อ “ผู้นำความอาเพศ” ได้อย่างไร จึงเกิดอุบาทว์พระเพลิงขึ้น จู่ๆ เวลากลางดึก 01.30 น.ของคืนที่ผ่านมา เกิดเพลิงไหม้ใกล้บ้านพักของ ชายม่ารูด และเจ้ ด.แดกข้าว ขณะที่ปูเน่ายังอยู่ในบ้าน ที่ปลูกในบริเวณที่สนามกอล์ฟกรีนวัลเล่ย์ จ.เชียงใหม่ ห่างไม่ถึง 200 เมตร ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถดับไฟได้ทั้งหมด ไฟไหม้รถกอล์ฟที่จอดชาร์ตแบตเตอร์รี่ทิ้งไว้ในเวลากลางคืน ในโรงเก็บรถกอล์ฟ เสียหายกว่า 150 คัน และขนย้ายหนีไฟได้ประมาณ 20 คันเท่านั้น สูญเงินไปกว่ากว่า 30 ล้านบาท..เออ มันแปลกไหมนั่น พวกขบวนการล้มเจ้า ชอบเผาบ้านเผาเมืองไปที่ไหน ต้องเกิดเหตุร้ายแรงให้คนอื่นซวยกันถ้วนหน้าจริงๆ ซะด้วย

    ส่วนสรย้วย ที่เมื่อก่อนเป็นเด็กตัดข่าวให้ ส.หยุ่น จนมาวันหนึ่งติดธุระ เลยให้สรยวยวิเคราะห์ข่าวแทน ต่อมาชายดูไบ เห็นแววให้เงินก่อตั้งบริษัทไร่สีแดงปนสีเหลือง 100 ล้านบาท และหุ้น ปตท. อีกจำนวนมาก ก็เกิดอาการสมองกลับ ไม่กล้าเดินทางเข้าช่อง 3 หลังจาก มวลชน กปปส. ได้ตั้งเวทีปราศรัยหน้าสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 แต่ไปจัดรายการข่าวนอกสถานี โดยใช้สตูดิโอเฉพาะกิจที่บ้านพัก แทนสถานีไทยทีวีสีช่อง 3..เออ..กลายเป็นรายการเร่ร่อน สัมพเวสีไปอีกแล้วเหมือน ชายดูไบ

    มีเรื่องเก็บตกเกร็ด การชุมนุมของแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช.ที่ถนนอักษะ วันแรก 10 พ.ค.57 มาเล่าให้ฟัง เพราะมีการเลือดสาดกระเซ็นเกิดขึ้น คือ

    ที่อุทยานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ติดกับโบนันซ่า เขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง โคราช ใส้เดือนเต้น เลขาธิการ แก็งค์แดงล้มเจ้า นปช. พร้อม มวลชน 400 คน ทำพิธีสักการะ ปลุกเสกเหรียญหลวงปู่ทวด หลังจากนั้น แกนนำ ได้จัดริ้วขบวนรณรงค์ประกาศชัยชนะ พร้อมเชิญชวนชาวโคราชให้ไปสละชีพที่ถนนอักษะ เพื่อรักษาประชาธิไตยแบบคอมมิวนิสต์ ให้แกนนำมีรายได้ โดยใช้รถบรรทุกหกล้อ ติดเครื่องขายเสียง ตระเวนไปตามเส้นทางถนนในเขตเมือง นครราชสีมา

    ที่ศูนย์ประสานงานบริษัทเผาไทย ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง โคราช กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่เขตเทศบาล ทยอยขนสัมภาระ และของใช้ส่วนตัว มาเข้าคิวรับค่าจ้าง พร้อมรอขึ้นรถเหมาที่ทางแกนนำจัดเตรียมไว้ จำนวน 500 คน เพื่อเดินทางไปสมทบกับเสื้อแดง ที่ถนนอักษะ กรุงเทพ...

    ขณะที่ระดมคนไปชุมนุมกับ นปช. ก็เกิดอาเพศไฟฟ้าลัดวงจร พระเพลิงไหม้หลายจุดพร้อมๆ กันในเขตเมืองโคราช อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เช่น ที่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนมิตรภาพ บริเวณทางแยกห้างบิ๊กซีนครราชสีมา , บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ เส้นทางโคกไผ่-เขื่อนคนชุม หน้าโรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 , บริเวณใกล้เคียงกัน ถัดออกไปประมาณ 100 เมตร เพลิงกำลังลุกไหม้ป่าหญ้าข้างทาง ซึ่งกระแสลมได้พัดเปลวไฟลุกลามไหม้โกดังเก็บของแห่งหนึ่ง ได้รับความเสียหาย , บริเวณเกิดเหตุ เป็นที่ตั้งสถานีบริการแก๊ส เอ็นจีวี ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาที..เออ เอาซิ มันเหมือนธรรมชาติอาเพศ อย่างไรก็ไม่รู้

    - กลุ่ม นปช. พิษณุโลกนำโดย นวลศรี พร้อมมวลชนประมาณ 150 คน มารวมตัวกันที่หนัา สภ.เมือง จ. พิษณุโลก เดินทางไปร่วมชุมนุมที่ ถ.อักษะ รถบัสโดยสารจำนวน 1 คัน และรถยนต์ส่วนตัวอีก 13 คัน นักคันละ 1-2 คน , เสื้อแดงลพบุรี ทะยอยออกไปประมาณ 1,000 คน กำหนดจ้างอยู่ชุมนุม 5 วัน
    - เวลา 09.50 น. ยอดเสื้อแดงประมาณ 800 คน บนเวทียังไม่มีกิจกรรมใดๆ มวลชน ช่วงเช้าส่วนใหญ่เป็นชาว กทม.และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้ค่าจ้างมา 300 บาท/คน/วัน
    - บรรยากาศเวทีหันหลังให้สะพานข้ามคลองทวีวัฒนา หันหน้าเข้าด้านองค์พระฯ จาก ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ถึงเวทีใหญ่ ระยะทาง 1.3 กม. ติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ประมาณ 12 จอ เครื่องปั่นไฟประมาณ 15 เครื่อง
    - เวทีไม่ลงทุนใหม่ใช้ของเดิมคราวที่แล้ว (แต่เบิกเงินชายดูไบใหม่) ด้านหลังเวที มีเต็นท์ใหญ่สีขาว จำนวน 4 เต็นท์จัดรูปแบบตัวอี รองรับ แกนนำ,ผู้ติดตามการ์ด และ สื่อมวลชน
    - การ์ดในพื้นที่มีผ้าพันคอสีแดง เป็นสัญญลักษณ์ คนที่จะเข้ามาสะดวก ต้องทำท่าเคียวหมากฝรั่ง จึงจะถือว่า VIP..เฮ่ย..แล้วยายแก่ๆ เคี้ยวหมากพลูจะทำไงกัน..ฮา
    - ส่วนไอ้คางคกตู่ ใม่กล้ามาบวงสรวงที่องค์พระพุทธมณฑล เหมือนครั้งก่อน เพราะเฮี้ยนเหลือเกิน จึงไปบนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ที่ เขาใหญ่ โคราช , มีการอันเชิญรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มาวางทิ้งวางขว้างแบบหมิ่นเกียรติ ที่ข้างเวทีใกล้ๆ คูน้ำ
    - มีรถซูบารุ กั้นคอกกันเล่นซน และตก ไว้รับ – ส่งทุยแดง เข้าพื้นที่ , ชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบนอกอักษะ จะมีเสื้อแดงมาชวนไปเข้าไปยืนถ่ายภาพให้เต็มจอสัก 2-3 ชม. แล้วกลับได้ อัตรา 300 บาท วินมอเตอร์ไซต์หมุนเวียนกันไปยืน
    - เวลา 12.25 น. นกแสก , สมหวัง แห่งเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูจิบ้า เดินทางมาถึงเวทีชุมนุม โดยให้สัมภาษณ์ว่า ครั้งนี้เป็นการ “ซ้อม” อีกแล้วครับท่านนนน..
    - เวลา 13.00 น. แกนนำแดงล้มเจ้า นปช. ธนาวุฒิ, พรศักดิ์, ก่อแก้ว, รังษี , วรชัย และทุยแดงทยอยเข้ามา ยอดหน้าเวทีประมาณ 700 คน
    - พื้นที่อากาศร้อนอบอ้าว ที่้เหลือมวลชนทุยแดงจึงหลบแดด ตามสุมทุมพุ่มไม้ และบางส่วนลงไปนอนคลุกปลักโคลน บางส่วนวิ่งไล่ขวิดกัน บางส่วนเอาไถนามาด้วยเนื่องจากเป็นวันพืชมงคล ฯลฯ โดยรวมทุกจุดทุยแดงประมาณ 2,500 คน
    - มีการตากผ้า กางเกง ยกทรง ผ้าอามัย กันไปทั่วที่หน้าองค์พระ อย่างไม่เคารพสถานที่ พอตกเย็นขยะเยอะมากๆ , แนวร่วมก็ลดน้อยลงมากๆ ไปด้วย เพราะมวลชนเสื้อแดงเริ่มผิดสังเกตุกับการรับเคราะห์กรรมและโทษทัณฑ์ และยังไม่ได้เงินจำนำข้าว แต่แกนนำกลับเสวยสุขรับตำแหน่งเป็น ส.ส.และรัฐมนตรี

    ส่วนห้องน้ำชายมีกรวย ต่อสายยาง ทุยแดงที่มาต่างบ่นกันอุบ ไม่กล้าฉี่..บอกกลัวส้วมแตกบ้าง , หายปวดฉี่ไปเลยบ้าง ...ที่สำคัญก็คือ มันมีความสูงระดับเดียว..คนเตี้ยหรือเด็ก จะเขย่งฉี่ไม่ถึงถ้าถึงต้องจู๋ยาว 2 ฟุตถึงจะฉี่ลงรูกรวย ทุยแดงผู้ชายบางคนที่ตัวเตี้ย พอเข้าไปฉี่สักพัก ได้ยินเสียงร้อง...โอ้ยยย !!..ครือว่า ขอบกรวยพลาสติก “มันบาด” จู๋เข้าให้ เลือดซิบเบย..ฮา

    หลายคนจึงเดินกุมเป้า ไปยืนฉี่ใต้ต้นไม้จนเหม็นสะอิดสะเอียนมากไปทั่วบริเวณ ยิ่งพอช่วงกินอาหารเย็น กลิ่นเยี่ยว ขี้ ขยะ แมลงวัน ผสมปนเปคละคลุ้งกับกลิ่นอาหารไปหมด นั่งกินกับขยะไป เยี่ยว ขี้ไป ไม่รู้กลิ่นอะไรเป็นอะไร..มึนหัวไปหมด

    พ่อครัวแม่ครัวจาก ต่างจังหวัด โมโหมาก ที่มาถึงแล้วแกนนำค้างค่าตัว โดยบางคนติดค้างตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ยังไม่ได้ จึงเริ่มมีการการเก็บข้าวของกลับบ้านกันเยอะแล้ว เพื่อจะเดินทางกลับ , ส่วนพ่อครัวจิตอาสาเสื้อแดง ก็โวยวาย ด่าทอแกนนำทางเฟสประจานไปทั่วว่า ว่าถูกแกนนำ นปช.เรียกเก็บค่าหัวคิวใช้สถานที่วันละกว่า 1 พันบาท ทั้งๆ ที่เขาทำอาหารมาแจกเอง

    แกนนำ นปช.ชูประเด็นตลอดการชุมนุมว่า ปูเน่า จะขึ้นเวทีในวันแรก แต่ดันโดนรู้ทันเสียก่อน เพราะขืนไปขึ้นเวที ก็หมายความว่ายอมถูกมัดมือชก ให้เป็นตัวประกันชายดูไบ บังคับให้ต้องจ่ายท่อน้ำเลี้ยงนั่นเอง ปูเน่าจึงหนีแก็งค์ทวงหนี้นอกระบบแดง นปช.ไปเชียงใหม่ เสีย และที่สำคัญ คือ นปช.ไม่ได้ทำ “โพย” ให้อ่าน ปูเน่าเลยไม่เสี่ยง

    ก่อแก้ว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะชุมนุมยาวถึง 1 เดือน..คางคกตู่คำรามดุดัน ท้ากำนันเหยงๆ ว่าวัดจำนวนมวลชน ใครน้อยกว่า ถอยกลับบ้านไป.. จากการข่าวมีการขอให้อดีต ส.ส. เผาไทย สำรองเงินค่าจ้างขนคนไปก่อน แล้วแกนนำ นปช.จะคืนให้ภายหลัง แต่ ส.ส. กลัวว่า นปช.จะได้หน้า ได้ผลงานมากกว่า และมาแย่งลง ส.ส.ครั้งหน้า จึงพากันหักหลัง ไม่ยอมจ่ายเงิน ส่วนที่กำลังเดินทางไป ก็โทรสั่งยกเลิกกระทันหันหมด ลองมาดูกันว่าระหว่างแกนนำ นปช.กับมวลชนเสื้อแดงรับจ้างที่มา หลังวันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นไป ใครมันจะแน่กว่ากัน จะเหลือกี่คน วัดกันให้เห็นๆ ไปเลย

    เวลา 17.00 น.ยอดทุยแดงวันแรก 8,000 คน แกนนำ วีระ , นกแสก ปราศรัย ส่วนไฮโซคางคกตู่ , ใส้เดือนเต้น บอกว่าร้อนผิวจะเสีย จะขึ้นปราศัยในเวลาประมาณ 20.00 น.และ 21.00 น.ตามลำดับ มีการขึ้นเวทีของโรเบิรต์ ฝรั่งล๊อบบี้ยิสรับจ้างของชายดูไบ บอกว่าประเทศมันอย่างไรไม่สน แต่ประเทศไทยต้องทำตามคำสั่งมัน คือ ต้องยกเลิกมาตรา 112 ให้คนเสื้อแดงกล่าวร้าย อาฆาตมาดร้าย สถาบันเบื้องสูงของไทย และราชวงศ์ได้อย่างเสรี เพื่อมุ่งสู่ระบอบคอมมิวนิสต์เต็มรูปแบบ กดขี่ประชาชนด้วยกำลัง

    และแล้วเหตุการณ์เลือดสาดของคนเสื้อแดงก็เกิดขึ้น เมื่อมวลมหาประชา “ยุง” ได้เริ่มโจมตีคนเสื้อแดงทันทีเมื่อพลบค่ำ เนื่องจากรอบๆ แถวนั้นเป็นป่ารก มีน้ำขัง งู ตะขาบ แมงป่อง และยุงชุมมากๆ หลายคนต้องสังเวยเลือดให้กับยุงที่มีหลายล้านตัว ปัดอย่างไรก็ไม่พ้น อาหารชั้นเลิศเหมือนดั่งภัตตาคารเลือด ได้เริ่มขึ้น ทุกคนโดนยุงกัดจนบวมไปหมด เผลอๆ จะไข้เลือดออกตามมา ชาวบ้านแก่ๆ ที่มาเริ่มป่วยจากโรคประจำตัวกำเริบ หลายคน

    ราว 22.00 น. ที่ชุมนุมถนนอักษะ ก็เกิดอาเพศ จากการนำรูปปั้นพระนเรศวร ทรงหลั่งทักษิโณทก มาตั้งแบบไม่เคารพ ทั้งพายุฝน มหาพายุลม ฟ้าแลบแปลบปราบ เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า โครมครืน โจมตีถนนอักษะอย่างหนัก ส้วมเยี่ยว ขี้ ของมวลชนถูกแรงลมพัดจนขี้กระจาย กระเด็นไปบนท้องฟ้าและตกลงมาใส่มวลชน เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้น เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ ซ้ำร้ายไฟฟ้าบนถนนที่ลักลอบต่อ ก็ดันมาดับเป็นระยะๆ อีก

    เครื่องปั่นไฟก็ไม่ทำงานครบทุกตัว พวกทุยแดง นปช. แตกฮือเหมือนคอกควายแตก แกนนำหน้าซีดเป็นไก้ต้ม เยี่ยวราด โวยวายว่าอำมาตย์กลั่นแกล้ง และเสียวว่าขืนยืนปราศรัยต่อ เกิดมีใครปล่อยแสงแว๊บๆ จากกระบอกจิงโบ๊ะ พุ่งเข้าเจาะหัวแกนนำ ล้มคว่ำลงกลางเวที จะวุ่นวายผิดแผน

    เพราะการแห่ศพ ต้องเป็นศพมวลชนเสื้อแดงไพร่เท่านั้น อำมาตย์อย่างแกนนำ นปช.ต้องหลบอยู่ข้างหลัง ว่าแล้วแกนนำทุกคนก็เผ่นแน่บ หนีขึ้นรถหายไปจากที่ชุมนุมไปนอนแช่น้ำอุ่นในเซพเฮาส์ใกล้เคียงทันที ลอยแพมวลชนเสื้อแดงให้เผชิญชะตากรรมพายุตามลำพัง

    สักราววันที่ 14-15 พ.ค.57 แถวอักษะ แกนนำ นปช.คงทำให้เกิดเสียงระเบิดดังรอบๆ บริเวณชุมนุม ทำให้ทุยแดงแตกตื่นวิ่งหนีเข้าป่ารอบข้าง ถูกงูกัดตายบ้าง เหยียบกับระเบิดจนชิ้นส่วนหลุดขาดจากกันบ้าง ถูกสอยหัวโดยพวกเดียวกันเองบ้าง จากนั้นก็จะแห่งชิ้นส่วนศพ ให้สื่อแดงแห่ประโคมข่าวว่าอำมาตย์สั่งชายชุดเขียวทำ "คบคนพาล พาลพาไปหาระเบิด คนบัณฑิต บัณฑิตพาไปปฏิรูป " เสื้อแดงก็ต้องเลือกเอาเอง

    บิ๊กสีเขียวบอกว่า "ขอให้เชื่อมั่นในทหาร ซึ่งจะต้องเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประเทศชาติและประชาชนได้ในทุกโอกาส ขอให้เก็บทหารไว้สุดท้าย"

    - ปปช.ชี้มูลความผิดจำนำข้าว..เสื้อแดงก็เถียงว่าการโกงไม่ผิด
    - ศาลแพ่ง..ตัดสินคุ้มครอง กปปส.ตามสิทธิ..เสื้อแดงก็ว่าลำเอียง
    - ศาลอาญา..ตัดสินจำคุกพวกหมิ่นเจ้า..เสื้อแดงก็บอกรังแก
    - ศาลปกครอง..ตัดสินว่าย้ายถวิลผิด..เสื้อแดงก็ว่าทำได้
    - ศาลรัฐธรรมนูญ..ติดสินว่าปูเน่าหลุดตำแหน่ง..เสื้อแดงก็ว่าไม่รับคำตัดสิน

    เสธ ว่าครบทุกศาลแล้วเสื้อแดงยังไม่สำนึก...งั้นเจอศาลเตี้ยอย่าร้องกราบขอชีวิตก็แล้วกัน !!

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    12 พ.ค.57 แฉ..ขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดง นปช.แอบอ้างเบื้องสูงหนุนม็อบอักษะ

    อาเพศแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อค ที่เชียงราย ยังมีอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 729 ครั้ง ยอดผู้ตายจำนวน 2 คน และบาดเจ็บ 23 คน ล่าสุดเมื่อผลเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ออกมาส่อว่าจะเป็นเมียเสื้อแดง ของยุทธตู้เย็น ก็เกิดอาเพศพิโรธ แผ่นดินไหว ที่อาณาจักรโยนกไชยบุรีศรีช้างแสน ขนาด 5.0 ริกเตอร์ ความลึก 8 กม. บริเวณ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย..และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง แผ่นดินที่แยกก็ยังคงเกิดอยู่เรื่อย บ้านเรือนที่พังทลาย และแตกเกิดรอยร้าว ก็มีจำนวนมากเกือบ 10,000 หลัง..

    แถวสมุทรปราการ ที่เสื้อแดงชอบป่วนเมือง ก่อความรุนแรง วันก่อนก็มาเผาโลงศพที่ใต้ทางด่วน ตอนนี้เกิดอาเพศพระเพลิงอีกแล้ว เมื่อเกิดไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา ซ้ำเป็นรอบที่ 3 แล้ว ส่งผลให้เกิดควันพิษกับผู้ที่อยู่ในรัศมีควันไฟจำนวนมากนับไม่ถ้วน

    พื้นที่ใดมีคนเสื้อแดงคิดแบ่งแยกประเทศจากอาณาจักรไทย..คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็ต้องรับชะตากรรมอาเพศต่างๆ หนักขึ้นตลอดเวลา..ไม่เชื่อคอยดูหน้าแล้งนี้ ว่าจะโหดร้ายทุกข์ทรมาณขนาดไหน และหน้าฝน จะต้องเจอน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่สนับสนุนเสื้อแดงจนย่อยยับอีก ทรัพย์สินที่หามา ได้มาจากค่าจ้างเงินบาป จะต้องพินาศสูญหายไปจนหมดสิ้น..จนกว่าชาวบ้านจะรวมตัวกันทำพิธีขอขมาสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์กษัตริย์บรรพบุรุษ ว่าจะไม่สนับเครือข่ายขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์ บริษัทเผาไทยอีกแล้วตลอดไป

    อาฟเตอร์ช็อค ต่อชีวิตคนเสื้อแดงก็ยังไม่หยุดเช่นกัน เมื่อเซียนอู๊ด เซียนพระเครื่องสายตะวันออก และเป็นสมาชิกขบวนการล้มเจ้าแดง นปช.พัทยา ช็อกตายถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างคาจอทีวีช่องเอเชียอาบแดดในบ้าน กว่าจะพบศพก็ 5 วันผ่านไป จนขึ้นอืดศพบวมปริ น้ำเหลืองไหลย้อย กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แม้แต่พระเครื่องจำนวนมากก็เอาชีวิตไว้ไม่อยู่..วงเวียนกรรมหมุนเอาชีวิตคนเสื้อแดงลงดินไปอีกแล้ว

    รายงานจากสำนักข่าวป๊อบคอร์น มาว่าเมื่อคืนตอนตี 2 กองกำลังนิรนามโหดสุดขั้วมือที่ 4 สนธิกำลังกับนักรบดำมือที่ 5 (^_^) ได้เปิดปฏิบัติการพิเศษ “ ล้างเฮลล์บลูบอย” ที่ห้างแดงย่านลาดพร้าวอีกครั้งหนึ่ง กวาดจับกองกำลังติดอาวุธชุดดำกว่า 30 คน พร้อมอาวุธสงครามร้ายแรงเพียบ แล้วมัดมือ ผูกตา ทุบ ฟาดด้วยด้ามบีบีกัน จนพอใจ แล้วกระชากลากตัว เคลื่อนย้ายใส่รถตู้ติดฟิล์มดำทึบ ไม่มีแอร์ไปสอบขยายผล ณ สถานที่ลึกลับที่แห่งหนึ่ง

    ขณะรถเคลื่อนตัวไปตลอดทาง แว่วๆ ได้ยินเสียงของแข็งกระทบเนื้อ และกระดูก เปรี๊ยะๆ พลั่ก อึก โพละ..โอ้ย !! ดังมาเป็นเป็นระยะ ผสานกับเสียงเพลงที่เปิดจากหน้ารถ “สู้ๆๆ เข้าไป อย่าได้ถอย “..ถึงตอนนี้คาดว่าจะไปพักผ่อนช่วงซัมเมอร์ โดยการย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ใต้ทะเลลึก กับพยานาคอย่างถาวร เพื่อปกป้องประชาธิปไตยต่อไป..คางคกตู่จะไปเยี่ยมก็ส่งจิตไปเยี่ยมได้นะ..ยึดอาวุธเอาไปปลูกสะระแหน่หมดแล้วว่ะ..ฮา

    พวกแมงเม่าแดงยิง M79 นี่มันโง่ เพราะทันทีที่มันยิง จุดต่างๆ จะถูกติดตามทันทีด้วยอุปกรณ์ไฮเทค แล้วตามไปถึงรังโดยพรรคพวกแสนโง่หารู้ไม่ว่าการเคลื่อนไหวถูกเกาะติดตลอด ชะล่าใจว่าเพิ่งมีการกวาดจับเพื่อนไปหลายร้อยคนไปหยกๆ ความคิดจึงมโนว่าจุดนี้จึงปลอดภัยที่สุด จึงถูกกวาดไปอีกล็อตแล้วว..ไอ้คนคุมกำลังนี่มันตำราไหนว่ะ..ตำราที่เรียนมาคือ “ การตั้งรับที่ดีคือการรุกเงียบโว้ย”..

    แต่เพื่อประหยัดค่าทนายให้ญาติ และไม่ให้รบกวนเวลาศาลไคฟงอาญา..จึงมีการตั้งศาลขึ้นมาใหม่เฉพาะกิจ คือ “ศาลเตี้ย” ก็เคยส่งสัญญาณเตือนไปวันก่อนแล้วไม่ฟัง เสือกดื้อตั้งกองกำลังติดอาวุธมายิง M79 ไปเที่ยวตระเวนไปลอบยิงที่ต่างๆ ได้ค่าจ้างลดลงเหลือลูกละ 5,000 บาทจากขบวนการล้มเจ้า แก๊งค์อั้งยี่แดง..แต่ว่าไป ศาลเตี้ยนี่ก็ดีนะช่วยลดโลกร้อนเรื่องกระดาษได้มาก พอจับตัวได้ปุ๊บ พนักงานกองกำลังนิรนาม ก็ไม่ต้องพาไปแถลงข่าว ไม่ออกสื่อ ไม่ต้องส่งฟ้อง ไม่ให้สู้คดีรออีกหลายปี พอสารภาพปุ๊บ ก็ลงความเห็นพิพากษาเลย..พาไปพักผ่อนให้สบายใจได้เลย..ฮา

    ส่วนหนอนบ่อนไส้ เสื้อแดงผู้หญิงที่เคยมาแฝงตัว หาข่าวในเวทีแจ้งวัฒนะ มีเจตนาร้าย มาแฝง เพื่อชี้เป้าให้แก๊งค์อั้งยี่แดงยิง M79 ในครั้งที่แล้วถูกจับได้ แต่แอบกระโดดข้ามรั้วค่ายชายชุดเขียว พล.ปตอ.หนีไปได้ เที่ยวนี้เลยชะล่าใจ เพราะความโง่ที่คิดว่าหลวงปู่ฯ ไม่อยู่ค่ายที่แจ้งวัฒนะ การ์ดก็คงหละหลวม..เฮ้อ..นี่พวกแมงเท่าแดงมันไม่รู้เรื่องกลศึกเอาเสียเสียเลย..หลวงปู่ในอดีตเขาเคยเป็นลูกน้องใครใน 5 เสือ ทบ.ตอนนี้ไปศึกษาประวัติซะบ้าง..

    ที่หลวงปู่เขาพาขบวนไปวัดอ้อน้อย เขาแค่วางกลศึก “ขุดบ่อล่อปลา “ ให้พวกโง่ๆ แอบแฝงมาหาข่าวที่แจ้งวัฒนะ และแล้วหนอนบ่อนไส้ เสื้อแดงผู้หญิง ครั้งนี้ก็ถูกการ์ดจับกุมจนได้ สบายละน้องเอ้ยต่อจากนี้..ส่วนพวกที่ลอบไปวางระเบิด และลอบยิงหลังคาโบสถ์วัดอ้อน้อย ด้วย M16 กว่า 100 นัด เขาวางแผนขุดหลุมพรางไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าพวกนี้จะต้องสั่งสมุนมาโจมตีแน่ๆ พอแสดงตัวปุ๊บก็ถูกไล่ล่า เชื่อมโยงไปหาผู้บงการทันที..เจอกระบวนการศาลเตี้ยอีก..

    ไอ้พวกสมุนแก๊งค์อั้งยี่แดงนี้ มันมีแต่กำลังแต่ไร้สมอง และขยันโง่กันนัก..ขืนแก๊งค์ไหนโผล่หัวมายิง M79 และปาระเบิดอีก..ก็ส่งศาลเตี้ยอีก..สบายกันทั่วหน้าล่ะมรึงเอ้ย

    ส่วนอาฟเตอร์ช็อค ได้ลามมาถึงถนนอักษะ กรุงเทพอีก เมื่อแก๊งค์ล้มเจ้า ล้มราชวงศ์แดง นปช. เหิมเกริมและชะล่าใจหนัก แอบอ้างเบื้องสูงว่าหนุนหลังม็อบแดง นำรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาวแอบอ้างติดตรามูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนา ติดสติกเกอร์หมายเลขรถ 903 ซึ่งเป็นหมายเลขรถเฉพาะ ประจำพระองค์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ที่มีเพียง 1 คันเท่านั้นไม่มีคันอื่น

    แต่เสื้อแดงทำรถปลอมแล้วนำไปแจกข้าวของให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง นปช.บริเวณถนนอักษะ เพื่อปลุกใจเสื้อแดงให้หลงเชื่อ หวังแบ่งฟ้า แบ่งวัง..ทั้งๆ ที่รถคนนี้แหละที่แกนนำแก๊งค์อมเงินแดง นปช.ปลอมแปลงใช้สำหรับพรางตัวเดินทาง เพื่อเปิดทางสะดวก มันบังอาจมาก. !!

    ทำให้ ดร.มนัสโนนุช กรรมการและผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและแผนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ต้องรีบเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดเสื้อแดง กับ พ.ต.ท.ประเสริฐ พรมจันทร์ พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา พร้อมทั้งนำภาพถ่ายมายื่นเป็นหลักฐาน ให้ดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. เสื้อแดง ที่แอบอ้างติดตรามูลนิธิ ฯ โดยยืนยันเบื้องสูงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับสาธารณะชน ถือเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง และเป็นการสร้างความระคายเคืองให้กับพระองค์ด้วย

    ขอให้ตำรวจเร่งตรวจสอบหาเจ้าของรถและจับกุมมาดำเนินดี เพราะหลักฐานว่าแกนนำเสื้อแดงกระทำผิดชัดเจนมาก..เรื่องนี้มาถูกแฉ จน นปช.หงายเงิบ เมื่อเสื้อแดงที่ไปชุมนุม ได้ไปถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่แก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. จัดชุมนุมที่ถนนอักษะ แล้วโพสต์เฟสบุ๊ก ส่งต่อกันในโซเชียลเน็ตเวิร์กแพร่ไปอย่างรวดเร็ว

    เลยกลายเป็นหลักฐานมัดประจานแกนนำ นปช. ที่แอบอ้างเบื้องสูงอยู่ตลอดเวลาว่าหนุนหลัง ที่ผ่านมาเสื้อแดงก็กล้าปลอมหนังสือราชการ หมิ่นเบื้องสูง แอบอ้างพระบรมฯ และต่อมานำภาพอื่นมาตัดต่อให้ประชาชนเข้าใจว่า พระองค์ทรงพระราชทานพวงมาลา วางหน้าหีบศพ กวีแดงล้มเจ้า "ไม้หนึ่ง" เพื่อหลอกปลุกมวลชนพวกเดียวกันเองให้ฝันลมๆ แล้งๆ แต่ถูกนำมาแฉ ว่าเป็นภาพปลอมจนหงายเงิบไป

    ที่เสื้อแดงโชว์โง่ แอบอ้างราชวงศ์อีกก็คือ โพสรูปองค์ภา อ้างว่าถ่ายในช่วง ชุมนุมที่ถนนอักษะ เพื่อให้สาวกลัทธิแดงคอมมิวนิสต์ เข้าใจผิดว่าองค์ภาไปร่วมอยู่ในม็อบ แต่ความจริงแล้วเป็นรูปเก่าที่องค์ภา ทรงไปชมเทนนิสที่อื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเสื้อแดง นปช.ทั้งสิ้น

    ที่ผ่านมาขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดง ชอบแอบอ้างโหนเบื้องสูงสารพัด เช่น เรื่องทหารราชวัลลภ ให้ปูเน่าบังคับบัญชาก็ไม่เป็นความจริงจนปูเน่าพ้นตำแหน่งไป..สรุปทุกเรื่อง เบื้องสูงทุกพระองค์ ไม่เคยรู้เรื่อง และไม่เคยมายุ่งเกี่ยวใดๆ เลย..พอเสื้อแดงถูกจับได้เรื่องนี้ ก็หาเรื่องแถแอบอ้างโหนเบื้องสูงเรื่องใหม่ต่อไปเรื่อยๆ..แต่แกนนำบนเวทีกลับประกาศโครมๆ ว่าพวกตัวเองคือขบวนการล้มเจ้าตัวจริง , จะเลิกมาตรา 112 ให้หมิ่นได้เสรี

    เอาแกนนำมาปราศรัยก็โจมตี ให้ร้ายเบื้องสูงตลอดเวลา คนเสื้อแดงบางคนทนฟังไม่ไหวต้องเดินหนีเสี่ยงตายออกมา และกลับบ้านไปก็เยอะแล้ว ล่าสุดจากประสาท ไร้ศรีษะ อดีต ส.ส.บริษัทเผาไทย เจ้าภาพขบวนการล้มเจ้า ก็โดนอีกแล้ว เจอกองทัพทำหนังสือไปแจ้งความในคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่ปราศรัยผ่านสถานีเอเชียอาบแดด..

    เปลี่ยนรัฐบาลใหม่เรียบร้อยอีกไม่นาน พวกตำรวจทำคดีหมิ่นเชื่องช้า , พวกสลายม็อบ , พวกใช้ความรุนแรงกับประชาชน , ริดสีดวง , ศอ.รส., กระทรวง ICT ได้ถูกล้างบางไปเป็นภารโรงแน่ๆ..จะเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ยังโง่อย่าลืมฉันอยู่อีก

    ส่วนการชุมนุมที่ถนนอักษะ กี้ตะกายตึก ขึ้นเวทีปราศรัย บอกว่าถ้ากำนัน ผลักดันตั้งนายกฯ ได้ จะยอมกราบกำนัน..ฮา..มรึงพลาดและ.., ส่วนขวัญควาย พอเห็นว่าเสื้อแดงแพ้แน่และยังไม่ได้เงิน ก็ออกอาการเลื่อนนำมวลชนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมกับ นปช.ที่ถนนอักษะ เนื่องจากยังติดภารกิจ..ท่อน้ำประปาที่บ้านไม่มีน้ำไหลเข้ามา..ฮา

    และตอนนี้ มีพลเมืองดีไปแจ้งทางราชการว่า แกนนำ นปช.แอบต่อท่อสูบน้ำของการประปาหลวงมาใช้บน ถ.อักษะ โดยไม่ขออนุญาต จึงจะต้องโดนข้อหาลักทรัพย์และทำลายทรัพย์สินทางราชการ..เอ้า..โดนดีแล้ว ส้วมขี้ เยี่ยว ก็ไม่ลงทุน คนเสื้อแดงผู้ชายเข้าไปเยี่ยว เจอกรวยหลากสีถึงกับงง ว่าตรูจะเริ่มเยี่ยวอย่างไรดี ..ฮา

    ส่วนคางคกตู่ ใส้เดือนเต้น นกแสก และแกนนำ นปช. ก็เบื่อทีวีช่องเอเชียอาบแดดมาก เพราะไร้สาระ มีแค่คำหยาบ และเรื่องโกหกตลอดเวลา จึงหันมานั่งพักหลังเวที เปิดทีวีจอใหญ่ติดตาม ดูการปราศรัยช่องบลูสกายแทน เผื่อว่าจะฉลาดขึ้นบ้าง ส่วนพวกทุยแดงที่โง่ก็ให้ช่องเอเชียอาบแดดหลอกปั่นหัวต่อไป..ฮา

    คืนที่ผ่านมาการชุมนุมเสื้อแดงที่อักษะ เงียบเป็นเป่าสาก “สงบเสงี่ยม ปราศจากมนุษย์” เพราะคางคกตู่ดันไปประกาศว่า "ใครไม่ได้มาชุมนุมด้วยใจ มาเพราะรับเงินค่าจ้าง ให้กลับบ้านไปเลย" ดังนั้นหลังจากรับค่าจ้างชุมนุมแล้ว ผู้ชุมนุมก็เชื่อฟังแกนนำมาก ก็รีบกลับไปกันหมดเลย..ติ๊งต่อง..จะรับปี๊ปคลุมหัวเพิ่มสักอันไหมท่านประธานคางคก..ฮา

    พอช่วงเช้า 09.00 น.เหลือผู้ชุมนุมแน่นขนัดมาก จนไม่ที่ยืนหน้าเวที นปช.คือ ประมาณ 12 คน รวมแม่ค้าขายเสื่อ หมวกและร่มกันแดดแล้ว..เฮ้อ ถ้าลำบากกันขนาดนี้ ไปดูลิเก แถวงานวัดต่างจังหวัด คนยังมากกว่านี้เลย แถมได้คำราชาศัพท์จากพระเอกลิเก ไม่ต้องมานั่งฟังคางคก ใส้เดือน นกแสก และสารพัดสัตว์เลื้อยคลาน หมิ่นเจ้าให้ระคายหูแบบนี้

    คนอีสานช่วงนี้เขาทำนา กลุ่มเป้าหมายเสื้อแดงคือรากหญ้าคนอีสานและเหนือ แล้วดันมาจัดม๊อบ ช่วงต้นฤดูทำนา คนอีสานเขาทำนา ดำนา กันช่วงนี้ ไหนจะต้องใส่ปุ๋ย ออกไปเก็บเกี่ยวพวกวัชพืชออกจากที่นา ฯลฯ จะดึงคนอีสานขึ้นมาร่วม ถ้ามาฟรีๆไม่มีใครเขามากัน เพราะถ้ามาชุมนุมกับเสื้อแดงแล้วใครจะทำนา ค่าจ้างวันละแค่ 300 , 500 , 800 , 1,000 บาท/วันตามระยะทาง แล้วยังมาถูกเบี้ยวอมเงินอีก เขาก็แทบจะไม่มาไม่มีใครอยากมาหรอก..จึงมีแต่คนแก่ๆ ที่ทำนาไม่ไหวแล้วถูกหลอกมาร่วม..และเอามาเข้าโรงฆ่าสัตว์สังหารแห่ศพแทนแกนนำ

    เพื่อตอกย้ำให้แกนนำแก๊งค์ล้มเจ้า นปช. และคนเสื้อแดง จุกกระอักเลือด ให้ไปชมคลิปเสื้อแดง พูดภาษาถิ่นอีสาน ที่โดนแกนนำ นปช.เบี้ยวเงินค่าจ้างชุมนุม 1,000 บาทต่อวัน จ้างให้ไปชุมนุมที่ถนนอักษะ กรุงเทพ แต่สุดท้ายก็โดนแกนนำเบี้ยวเงินค่าจ้างจนได้ ที่ https://www.facebook.com/photo.php?v=741680445883700

    ประชาสัมพันธ์ ช่วงนี้กรมปศุสัตว์ เขาคงจัดพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ จะไปร่วมงานที่นั่นก็จะเป็นกุศลนะ..ฮา

    ช่างแตกต่างราวฟ้ากับแกนกลางโลก เมื่อมวลชน กปปส. ได้ทำความสะอาดสวนลุมพินี จนสะอาดเนี๊ยบอย่างเดิมทุกประการ น่าชื่นชมมาก..และที่น่าอัศจรรย์อีกครั้ง เมื่อช่วงที่จะเริ่มเดินทางเปลื่ยนที่หมายใหม่ ออกจากสวนลุมพินี ไปทำเนียบ ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด ณ พระบรมรูป รัชกาลที่ 6 เป็นศิริมงคลอย่างมาก

    ฤกษ์งามยามดีแบบนี้ บ่งบอกว่า นายกฯ คนใหม่ไม่นานนี้ จะก่อปรากฎการณ์ให้เกิด “ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา “

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    13 พ.ค.57 ตอกย้ำ..คนฆ่า เสธ แดง ยืนหายใจรดต้นคอน้องเดียร์ บนเวทีอักษะ

    วันนี้ครบรอบวันตาย 4 ปีของ เสธ แดง ที่เวทีแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ถนนอักษะที่คนเป็น “ร้าง” ลูกเดียร์ ของ เสธ แดง ผู้ผ่าตัดทำศัลยกรรมมากว่า 3 ครั้ง และ “ ได้ดีเพราะผีพ่อ“ ได้ขึ้นเวที กล่าวคำไว้อาลัยพ่อ ให้มวลชนทุยแดงรับจ้าง สวมวิญญาณ เสธ.แดง เข้าไป ต่อสู้เพื่อระบอบคอมมิวนิสต์ ท่ามกลางผู้สั่งยิงพ่อตนเอง ยืนรายล้อมตัว จึงจะเอาขั้นตอนการฆ่า เสธ แดง มาตอกย้ำน้องเดียร์ ให้ช้ำใจเล่นอีกครั้ง

    เสธ.แดง เป็นชายชุดเขียว ที่ถวายสัตย์กับธงชัยเฉลิมพลไว้ แต่มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธให้กับชายดูไบ ได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก ห้าวหาญทำให้ลูกน้องรักมาก ช่วงชุมนุมเขามักไปหาคนแดนไกล ที่ดูไบ หรือเขมร พาพรรคพวกไปครั้งละหลายคน รวมทั้งนายพลป๊อบอาย และได้รับของกำนัลติดไม้ติดมือมาเสมอ บทบาทของเขาดังพุ่งพรวดพราด ในช่วงชุมนุมปี 53

    ต่อมาแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. มีความอิจฉาริษยา เสธ แดง ที่ได้รับความไว้วางใจจากชายดูไบมากกว่า ไปหาแล้วยังถ่ายรูปมาเย้ยอีก แต่พวกแกนนำแก๊งค์ฯ ต้องอยู่บนเวที เสี่ยงหัวเป็นรูทุกวัน ดังนั้นแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. จึงวางแผนถีบหัวส่ง เสธ.แดง ตลอดเวลา ความขัดแย้งจึงมากขึ้นโดยลำดับ ถึงขนาดประกาศเฉดหัวส่งกัน ทางสื่อมวลชนหลายครั้ง และยังมีการจิกหัวด่านายพลป๊อบอาย ผ่านสื่อ จนทนเด็กจิกหัวด่าไม่ไหว เพราะเป็นผู้ใหญ่ ต้องถอนตัวออกไป และบอกให้ เสธ.แดง ถอนตัวด้วย แต่เขาได้ให้คำมั่นกับชายดูไบไปแล้ว จึงไม่ยอมตระบัดสัตย์

    ต่อมาแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. 3 คน เจรจายุติการชุมนุม กับนายกหล่อใหญ่ เพราะเริ่มอยากจะเลิกไปใช้เงินที่อมไว้ไปเสวยสุข จึงตกลงหลักการปรองดองกันได้บางข้อ เสธ.แดง รู้จึงโมโห บุกไปที่หลังเวที ขูว่าว่าถ้าแก๊งค์เลวแล้วรวยถอนตัว หรือออกจากที่ชุมนุมก็จะถูกเขาฆ่าทิ้ง ช่วงนั้นหัวหน้าการ์ดประจำตัวแก๊งค์เลวแล้วรวยคือ อารี เป็นคนชายชุดฟ้าฝ่ายเลว ที่สนิทกับชายดูไบ จัดส่งตรงมาช่วย ดูแลกองกำลังอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่ของ เสธ แดง ทำให้ทั้ง เสธ แดง และ หัวหน้าการ์ดอารี ทะเลาะกันถึงขั้นจะยิงกัน และลูกน้องของทั้งสองฝ่าย ก็ทะเลาะฟัดและยิงกันอย่างน้อย 2 ครั้งในสวนลุม

    ทั้งสองกลุ่มขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นแยกทางกันเดิน มีความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ในเรื่องระบบการ์ด เมื่อเสธ.แดง นำระบบการ์ดของตนเอง เข้ามาจัดระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจกับ อารี ที่เสียผลประโยชน์ ความขัดแย้ง ปะทุขึ้นจนถึงขีดสุด จนวีระ ได้ลาออกจากการเป็นแกนนำ และหายหน้าไปจากเวทีคนเสื้อแดง ขณะที่ เสธ.แดง ก็ประกาศตนยึดอำนาจ แก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ชิงขึ้นเป็นแกนนำ รุ่นที่ 2

    ช่วงท้ายการชุมนุม ช่วง พ.ค. 53 แก๊งค์เลวแล้วรวย เห็นท่าไม่ดี จึงวางแผนกันโดยไม่มีวีระ ไม่ยอมให้ เสธ แดง มายึดอำนาจการนำมวลชน นปช. ประกอบกับต้องการโยนความผิดให้กับหล่อใหญ่ ว่าเป็นคนสั่งฆ่า เพราะเคยออกมาเอ่ยชื่อ เสธ แดง ในรายการเชื่อมันประเทศไทย โดยแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. วางแผนกับชายดูไบ ประสานนักข่าวต่างประเทศให้ เสธ แดง เพราะรู้ว่าเสธ แดงชอบเป็นข่าว แล้วใส้เดือนเต้นได้ว่าจ้างมือปืน รนณ์ จากนครศรีธรรมราช

    ที่เป็นทีมเดียวกับที่ลอบสังหารพลทหาร ชายชุดเขียว วันที่ 28 เมษายน 53 ในเหตุการณ์ปะทะกับ เสื้อแดง บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ดอนเมือง และสังหาร ร่มเกล้า ที่สี่แยกคอกวัว โดยวางแผนหลายวันให้มือปืน พยายาม ขึ้นไปอยู่บนตึกสูงแห่งหนึ่ง ใกล้แยกศาลาแดง เล็งยิงระยะไกลด้วยปืนไรเฟิลคุณภาพสูง

    ราว 4 วันก่อนหน้าที่ เสธ.แดง จะถูกลอบยิง นายพลปีอบอาย ที่ เสธ.แดงให้ความเคารพ ได้เตือนให้เพิ่มความระมัดระวังตัว ต่อมาในช่วงค่ำวันพฤหัสที่ 13 พฤษภาคม 53 เสธ แดง ผู้ดวงขาดเขาเป็นคนไว้วางใจพวกเดียวกัน จึงได้ถูกกลลวงแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ไปยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ ซึ่งมีคนใกล้ชิดกับ เสธ แดง และ ลูกเดียร์เป็นคนชี้เป้า บริเวณแยกศาลาแดง เขาจึงถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลคุณภาพสูงเจาะเข้าที่หัว ตายในเวลาต่อมา..

    ดังนั้นหลัง เสธ แดง ตาย วันที่ 13 พ.ค. 53 นายพลป๊อบอาย และทีมงานสำคัญ ๆ ของ เสธ.แดง ได้ประชุมกัน ลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่า เขาถูกฆ่าตายเพราะคนพวกเดียวกันสังหาร แม้พวกแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. จะพยายามป้ายสีความผิดผิดให้กับรัฐบาลสมัยนั้น แต่ก็ไม่สามารถตบตาหลอกลวงพวกเดียวกันเองได้ เพราะไก่ตีนงู งูเห็นนมไก่นั่นเอง

    พวกเขาจึงได้พากันประกาศ ถอนกำลังของทีมตัวเองที่จัดตั้งมากลับ ผลคือทำให้ทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทีมอดีตทหารพราน ที่ขณะนั้นก็ได้รับการประสานงานจากฝ่ายความมั่นคง ที่ไม่สามารถทนเห็นการทำลายประเทศชาติ แบบที่ทำกันอยู่ในขณะนั้นได้ ทีมนี้ก็ได้ถอนออกไปด้วย

    จึงทำให้กองกำลังอาวุธของแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ร่อยหรอลง เป็นเหตุให้แก๊งค์นี้ มีการประกาศระดมรับสมัครการ์ด ทั้งที่ราชประสงค์ และที่ดินแดงตลอดเวลา โดยให้ค่าจ้างการ์ด วันละ 2,000 บาท/หัว พร้อมอาวุธสงคราม และช่วงนั้นมีกองกำลังเขมร จากฮวยเซ็งเข้ามาผสมโรงในช่วงนี้ จนเกิดเหตุการณ์บานปลายเผาเมืองต่อมา ในวันที่ 19 พ.ค.53 นั่นเอง ( ดู Clip VDO ที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=iMei-Jw6gw8]เสธ.แดง ถูกยิงที่แยกศาลาแดง - YouTube[/ame] )

    ที่ลูกของ เสธ แดง ย้ายค่ายมาอยู่ข้างแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. อาจเพราะไม่รู้ความจริง , เชื่อในสิ่งที่เขาหลอก, ยอมให้เขาหลอก หรือ มารู้ภายหลังแต่หลงใหลติดลมในลาภ ยศ จอมปลอมที่เขาตอบแทนให้

    ให้สังเกตได้ง่ายๆ ดูที่ใส้เดือนเต้น และคากคกตู่ จะไม่ค่อยอยากกล่าวถึง หรือ ตอบคำถามทุยแดงเรื่อง เสธ แดง ทั้งบนเวทีและแถลงข่าว เพราะกลัวความจริงจะเปิดเผย และควบคุมคำพูดหลุดไม่ได้ และให้ดูการชุมนุมที่ถนนอักษะที่ผ่านมา และครั้งนี้ แกนนำแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ไม่อยากใช้บริการการ์ด ของแรมบ้า ขวัญควาย อีกครั้ง นั่นก็เพราะระแวงกลัวว่าลูกน้อง เสธ แดง จะแฝงตัวจ้องมาเอาคืนแก้แค้นนั่นเอง

    การตายเสื้อแดง 6 ศพในวัดปทุมฯ ช่วงชุมนุมเผากรุงเทพฯ เดือน พ.ค.53 เป็นการถูกฆ่าตายโดยการ์ดชุดดำชื่อยักษ์ และพวกในช่วงบ่าย เพราะการ์ดติดอาวุธพวกนี้เป็นลูกน้องภายใต้สังกัดของของแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. พวกนี้แต่งกายชุดพรางเหมือนชายชุดเขียวทุกประการ เพื่อให้เสื้อแดงที่เห็นเหตุการณ์เข้าใจผิด โทษว่าชายชุดเขียวทำ

    ดังนั้นเมื่อชายชุดเขียวใช้รถหุ้มเกราะ รื้อด่านและสิ่งกีดขวางแก๊งค์อั้งยี่แดง มุ่งหน้าเข้าขอคืนพื้นที่ สู่แยกราชประสงค์ แก๊งค์นี้จึงจนแต้ม ถูกสั่งการให้ระดมยิงสังหารคนเสื้อแดงที่เป็นพยาบาลอาสา และผู้ชุมนุมพวกเดียวกันเองทันที โดยการใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่จากแนวระนาบ..

    การ์ดเสื้อแดงเองในภายหลังก็สารภาพว่า “ สถานการณ์เป็นรอง ต้องเสียสละคนของตนเอง เมื่อนายดูไบกลับมาจะตอบแทนให้คุ้มค่า “

    สำนักข่าวป็อบคอร์นรายงานว่า น้องเดียร์ ยืนอยู่บนเวทีแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ที่ถนนอีกษะ กทม. โดยมีคนที่สั่งฆ่าพ่อตัวเอง ยืนประกบอยู่ด้านข้างซ้าย ขวา หลัง ลักษณะเหมือนถืออาวุธปืนจี้ด้านหลังอยู่

    จึงเอาความจริงครั้งนั้นมาตอกย้ำน้องเดียร์ ว่า 4 ปีผ่านไป คนฆ่าพ่อตนเอง ยังยืนหายใจรดต้นคอใกล้ชิดเหลือเกิน ดวงวิญญาณ เสธ.แดง คงเดือดลูกตัวเอง !!

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    14 พ.ค.57 แฉ..ขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดงสารพัดเงิบอีกแล้ว กลิ่นพยัคฆ์มันโชยแรง

    ตามที่เคยเตือนมาล่วงหน้าหลายครั้งว่า ตอนนี้ขบวนการล้มเจ้า แก็งค์อั้งยี่แดง มันแพ้ทางกฎหมายแล้ว เลยใช้กฎหมู่แทน โดยจะมีการปลอมตัวเป็นการ์ด และมวลชน กปปส. หากเป็นการ์ดพวกนี้จะแทรกซึมไปสมัครเป็นการ์ด หรือจะปลอมตัวเอาดื้อๆ ใกล้ขบวนหรือการชุมนุม กปปส. และจะมีการลอกเลียนแบบการแต่งตัว และมีผ้าพันคอครบทุกสี แล้วก็จะก่อเรื่องรุนแรงต่างๆ

    หรือปลอมเป็นมวลชน กปปส.แล้วก่อเหตุวิวาทกับประชาชนทั่วไป และรีบส่งภาพและข้อความไปออกข่าวในเครือข่ายสื่อแดงไว้ก่อน ประชาชนที่ไม่คุ้นเคยกับวิธีการหลอกลวงนี้ ก็จะหลงกลส่งต่อหรือวิจารณ์ข่าวเรื่องนั้นไป โดยหลงลืมเป้าหมายปลายทางที่แท้จริง หันมาสนใจเพียงแมลงวันที่ไต่ตอมให้รำคาญ ส่งผลให้การศึกก็เสียกระบวน หรือล่าช้าชะลอไป

    หลักการคล้ายขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์ บริษัทเผาไทย ที่จะใช้วิธีสร้างและปล่อยข่าวลือ ให้ร้าย แบ่งฟ้า แบ่งวัง เบื้องสูงออกมา ประชาชนไม่รู้ก็นึกว่าเท่ห์ แชร์ภาพหรือลิ้งต่อ แล้วเอาไปพูดใส่สีตีไข่ เล่าลือต่อๆ กันไป จากข่าวนิดเดียวก็ขยายวงออกไปมาก จนกลายเป็นว่าประชาชนนั่นแหละ คือเหยื่อผู้แพร่ข่าวลือทางลบของสถาบันฯ เสียเอง เป็นกลยุทธ์คอมมิวนิสต์แดงที่ใช้มานานกว่า 50 ปี แต่ก็ยังมีคนใจไม่หนักแน่น ตกหลุมพรางหลงกลอยู่เสมอๆ

    ดูกรณีศึกษาที่มีข่าวตามสื่อต่างๆ ที่มีข่าวว่า การ์ด กปปส. รุมทำร้ายแล้วจ้วงแทง ชายชาวอ่างทอง เจ้าของร้านน้ำแข็ง พร้อมรุมซ้อมภรรยานั้น พอข่าวนี้แพร่ไปปรากฏว่ามีประชาชน ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เห็นข่าวเพียงวูปแรก ก็หลงกลงับเหยื่อโดยรู้ไม่เท่าทันกลศึกแดงชั่ว แต่ทองแท้ ยอมไม่หมองฉันท์ใด การยึดมั่นในความดีและความจริง ย่อมต้องแสดงตนให้ประจักษ์ในฉันท์นั้น

    เมื่อผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวไว้ ได้ออกมาแสดงความเสียใจว่า ภาพที่มีการเผยแพร่เป็นเรื่องจริง แต่ “ข้อความที่มีการเขียนข่าวอธิบายภาพนั้น เป็นเรื่องเท็จ“ ซึ่งความจริงก็คือ การ์ดคนในภาพ เขาเป็นพลเมืองดีได้ลงไปช่วยเหลือชายที่เป็นเจ้าของร้านน้ำแข็ง ขยับกรวยจราจรไว้ เพราะเขาถูกรุมทำร้าย จากเสื้อแดงที่ปลอมตัวมาเป็น กปปส. และนอนอยู่ที่พื้นถนน เมื่อมวลชน กปปส.มาพบเข้า เขาก็ลงไปช่วยเหลือด้วยความเร่งด่วน ช่วงนั้นมีฝนตกอยู่ เขารีบนำถุงดำมาคลุมแผลไม่ให้โดนน้ำฝน แล้วตามหน่วยกู้ชีพมาช่วยเหลือทันที

    ชายเจ้าของภาพ ก็ถ่ายภาพไว้ได้ และด้วยความหวังดีเขาแค่นำไปโพสต์ในเว็ป "พันธุ์ทิพย์" ที่มีแก๊งค์เสื้อแดงที่ ขบวนการล้มเจ้าแดง นปช.จ่ายเงินเดือนหล่อเลี้ยงไว้ ซ่องสุมอยู่ที่ห้องราชดำเนินมาก แต่จริงๆ แล้วเขาไม่เห็นเหตุการณ์ว่าใครแทง หรือใครเป็นใครทั้งสิ้น ต่อมาภายหลังเขาก็ได้ลบภาพนั้นออก แต่ปรากฎว่ามีสื่อบางแห่งมาขอภาพข่าวนั้นไป แต่กลับไม่ได้ขอรายละเอียดใดๆ เลย จากนั้นก็สนุกสื่อแดงเลย เมื่อนำไปเขียนคำอธิบายภาพข่าวตามใจชอบ ส่งผลให้พลเมืองดี กปปส.ที่เข้าไปช่วยเหลือได้รับความเสียหาย

    เจตนาคนโพสภาพ เขาแค่อยากช่วยคนถูกแทงแค่นั้น อยากให้ปลอดภัย เขาไม่ได้ยุ่งกับการเมือง เขารู้สึกไม่ดีที่เสื้อแดงนำภาพเขาไปใส่ร้ายการ์ด กปปส.แบบนี้ เพราะถ้ารู้เขาจะไม่ให้ภาพนี้กับใครเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นเอามาเป็นเครื่องมือโจมตีกันเกินจริง ทำให้พลเมืองดี กปปส. หรือคนช่วยผู้ป่วยเสียความรู้สึก สังคมก็ประณามเขาแบบตามืดบอด g-เขารู้สึกเห็นใจคนที่ช่วยกันตอนนั้นอย่างมาก ที่ถูกต่อว่าจับผู้บาดเจ็บมัดถุงดำ เขาบอกว่ามันแรงไป ที่สื่อแดงไร้จรรยาบรรณใส่ร้ายพลเมืองดีแบบนี้

    เขาบอกว่าเขาเรียนน้อย อยู่แค่ ปี.2 เรียนแค่ครู แต่เขาก็ไม่อยากเห็นความแตกแยก เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นต่อสังคม พลเมืองดีช่วยคนเจ็บก็เป็นคนที่อยู่ในขบวนมวลชน กปปส.ที่แค่ผ่านมาเจอ ไม่รู้ว่าเป็นการ์ดหรือไม่ แต่เขาเห็นกับตาว่าพลเมืองดีคนนี้พยายามโทรหาหน่วยกู้ภัย ทุกคนช่วยกันโดยไม่คิดอะไร แต่ข่าวสื่อแดงออกมาทำให้สังคมแตกแยก และใส่ร้ายคนดี

    พอเจ้าของภาพเขาออกมาฟ้องร้องสังคมแบบนี้ มีใครเห็นสื่อแดงรับผิดชอบแก้ข่าวให้เขาและพลเมืองดีบ้างไหม แล้วทุกคนที่กล่าวร้ายพลเมืองดีท่านนั้นไปแล้ว จิตใจไม่หนักแน่นสงสัยในความดี ไปโพสถาม จุดประเด็น วิจารณ์ ตามที่ต่างๆ หรือไปทำล้อเลียนเรื่องกรวย ได้รู้สึกผิดหรือไม่ และจะรับผิดชอบการเชื่อข่าวลวงจนคนดีเสียหายอย่างไร

    ถ้ารู้สึกผิดก็ต้องช่วยกันแชร์ข้อมูลความจริงนี้ ชดเชยไถ่บาปให้กับพลเมืองดี กปปส.เขา ให้สังคมรับรู้หักล้างข้อมูลสื่อแดงให้มากที่สุด เพื่อให้พลเมืองดีเขาได้มีกำลังใจ และมีที่ยืนในสังคม มิฉะนั้นหากวันหนึ่งหากเราประสบเหตุเอง คนดีไม่อยากช่วยเหลือ เพราะกลัวถูกกล่าวร้าย เราก็จะแย่เสียเอง

    คอยดูตั้งแต่นี้ไป จะมีข่าวทางลบต่อมวลชน กปปส.ลักษณะคล้ายแมลงวันตอมขี้นี้ ออกมาจากเครือข่ายสื่อแดงเรื่อยๆ เพราะเป็นยุทธศาสตร์ของเขา ที่ เสธ เคยบอกให้รู้ล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว ใครเป็นสมาชิกเพจนี้ ลองกลับไปอ่านเรื่องเดิมย้อนหลัง เมื่อวันที่ 7 และ 9 พ.ค.57 ว่าตรงตามนี้เป๊ะเลยหรือไม่ เพราะจะแจ้งเตือนประชาชนก่อนล่วงหน้าเสมอในทุกตอน ว่าขบวนการล้มเจ้า อั้งยี่แดงมีแผนจะทำอะไรต่อไป แต่บางเรื่องต้องบอกเป็นปริศนา เพื่อไม่ให้อันธพาลแดงที่มาส่องเพจนี้ไหวตัว..อ้าวสะดุ้ง..ฮา

    ส่วนที่เสื้อแดงแถ ไม่ยอมรับว่ามีการจ้างชาวบ้านสระแก้ว 60 คน มาร่วมชุมนุมกับ ขบวนการล้มเจ้าแดง นปช.ที่ถนนอักษะ ค่าจ้างวันละ 1,000 บาท/คน/วัน โดยแถลอยแพมวลชนตัวเอง ว่าเป็นแดงเทียมตามมุกเดิมนั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเสื้อแดงคนนี้ ก็ต้องแฉ ให้เสื้อแดงหงายเงิบ หวังเวิด ไปอีก

    ตามที่ นางคำพวน เหลาสา อายุ 52 ปี หมู่ 10 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ชาวบ้านที่เขาได้สะพายกระเป๋าลายธงชาติ มาแจ้งความร้องทุกข์ สภ.หนองหมากฝ้าย ว่าถูกนางบุญญาภา (เจ๊มี) เบี้ยวเงินค่าจ้างไปชุมนุมที่ถนนอักษะ จนถูกเสื้อแดงกล่าวหาว่า เป็นแผน กปปส.จัดฉาก เพื่อสร้างสถานการณ์ ให้คนเสื้อแดงเสียหายนั้น ( ดูคลิปที่ https://www.facebook.com/photo.php?v=741680445883700 )

    ให้เสื้อแดงไปถาม ทองทศ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกนางบุญญาภา (เจ๊มี) ไปสอบถามแล้ว ยืนยันตอกหน้าคางคกตู่ ว่าเจ้มี ผู้ว่าจ้าง “เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจริง” เพราะร่วมกลุ่มกันมานานตั้งแต่ปี 52 แล้ว และส่วน นางคำพวน ที่สะพายกระเป๋าลายธงชาติ และสวมเสื้อธงชาติ “ ก็เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงพวกเดียวกัน “ ไม่ใช่กลุ่มคน กปปส. ตามที่แกนนำบนเวทีกล่าวอ้าง..อ้าว..สนุกจังเลย แฉคางคกตู่เนี่ย..เมื่อคุณแถ เราจะแฉ..ฮา

    ทองทศ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีคน กปปส.อยู่เบื้องหลังแน่นอน “ เป็นการหลอกลวงกันเองของคนเสื้อแดง” ที่เห็นแก่ประโยชน์เรื่องเงิน (หุย..ฮา) คนเสื้อแดงสระแก้ว ต้องการเงินค่าจ้างไปร่วมม็อบนี้ อยากได้เงินวันละ 1,500 ตามที่เจ๊มีบอก 3 วันก็ 4,500 บาท..ว่าแล้วตรงตามตอนก่อนไหม ว่าเจ้มี อมไป 500 บาท/หัว ไปจ่ายให้ผู้ชุมนุมจริง 1,000 บาท/หัว..ที่เหลืออีก 1,500 บาท/หัว..คางคกตู่อมๆๆ..ฮา

    เพราะชาวบ้านยากจนต้องการเงินค่าจ้าง เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องตัวเจ๊มี ถูกนายธวัช แกนนำเสื้อแดงอยู่ที่ภาคอีสานจ้างมาอีกทอดหนึ่ง..และหลอกว่าจะให้เจ๊มี ชิงตำแหน่งขึ้นเป็นแกนนำเสื้อแดงของ จ.สระแก้ว แต่ทองทศ แกนนำเดิมไม่ยอม เพราะได้ตำแหน่งยิ่งใหญ่นี้ มาจากชายดูไบ และเขาเคยบินไปพบ ที่ฮ่องกงมาแล้ว 2 ครั้งในปี 57 นี้.อ้าว..ตายละวาประธาน นปช.จังหวัดไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของคนเสื้อแดงนี่ แบบนี้ก็สืบทอดอำนาจมาจากอำมาตย์ดูไบซิ

    นี่มันทำร้ายจิตใจกัน คนเสื้อแดงอย่ายอมนะ มัน 2 มาตรฐาน คนเสื้อแดงต้องไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจแกนนำง่ายๆ แบบนี้..ไปชูป้ายประท้วงเผาโลงศพที่หน้าบ้าน ทองทศ แกนนำเสื้อแดงสระแก้วเลย..ตะโกนว่า “ เราต้องการเลือกตั้งประธาน นปช.จังหวัด , เราต้องการเจ๊มี เป็นผู้นำทดแทนคนเดิม..เพราะจ่ายมากกว่า “..ฮา

    ส่วนอีกเรื่องเสื้อแดงก่อเหตุฉาวอีกแล้ว เมื่อ พ.ต.ท.วันชัย แก้วจินดา พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา บอกว่ามีคดีที่มีคนมาแจ้งความว่า ถูกเบี้ยวไม่ได้รับค่าจ้างไปชุมนุมที่ถนนอักษะ กรุงเทพ แล้วประมาณ 30 ราย..อุแม่เจ้า..กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ้ย..ปล่อยข่าวออกไปให้มากที่สุด ว่าประธานคางคกตู่ รังแกคนเสื้อแดง อมเงินค่าจ้างไปชุมนุมจนมีหลักฐานราชการไปแจ้งความแล้ว..ฮา สนุกจริงๆ

    นี่ถ้าคดีไปที่ศาลไคฟง ให้เปาบุ้นจิ้นซักโจทก์ และจำเลย คงหัวเราะกันขี้ราดเต็มกางเกงแน่ๆ ถ้า เสธ เป็นเปาบุ้นจิ้น จะถามคางคกตู่คำแรกว่า ท่านประธานขบวนการล้มเจ้าแดง นปช. ท่านอมสตังค์ค่าจ้าง “ ประชาธิปไตยใบสีเทา สีม่วง ของพี่น้องเสื้อแดงไปไหนหมด..ประชาธิปไตยใบแดงๆ ก็อมไปอีกแล้ว “ เอาไปแอบไว้ส่วนใดของร่างกาย

    ถ้าคางคกตู่ตอบว่า " ใครไม่ได้มาชุมนุมด้วยใจ มาเพราะรับเงินค่าจ้าง ให้กลับบ้านไปเลย" แสดงว่าเป็นผู้ร้ายปากแข็ง..งั้น หวังเฉา หม่าฮั่น ไปยึดพัดลม แอร์ ที่เป่าหลัง บน ล่าง เวทีปราศัย และในรถติดแอร์ ที่ถนนอักษะมา..เพราะจุดอ่อนคางคกตู่คือขี้ร้อน ต้องทรมานให้มันร้อนจนยางพิษออก จนกว่าจะยอมคืนเงินให้ผู้เสียหายเสื้อแดงครบทุกคน เกือบ 1,000 ล้านบาท..ฮา

    ก่อเรื่องอมเงินพี่น้องเสื้อแดงด้วยกัน ยังไม่สาแก่ใจ แท็กซี่เสื้อแดง ก่อเรื่องกระทืบนักข่าวที่หน้าโรงพัก เพราะเขาจะทำข่าวแฉการจ้างม็อบอักษะ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายทอมฉัน บุญไสย์ หมู่ 2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้เดินกระย่องกระแย่ง บาดแผล โดนกระทืบ ฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง มาแจ้งความกับ พ.ต.ท.วันชัย แก้วจินดา พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา

    ในบันทึกแจ้งความระบุว่า เขาได้มาทำหน้าที่สื่อมวลชน ถ่ายภาพทำข่าวม็อบเสื้อแดงที่ถนนอักษะ เป็นปกติประจำทุกวัน จนเขาได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนจากกลุ่มผู้ร่วมชุนนุมเสื้อแดง มาร้องทุกข์ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ว่าไม่ได้รับค่าจ้างจากนายหน้า ที่ว่าจ้างมาชุมนุมตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทางหัวหน้าข่าวได้ประสานให้เข้ามาทำข่าวที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อเดินทางมาถึงก็นำกล้องวีดีโอ ออกมาถ่ายภาพทำข่าวกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงที่รออยู่หน้า สน.แต่กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดง ประมาณ 20 คน ก็กรูกันมารุมกระทืบ ทำร้าย ชกต่อย เขาหลายสิบครั้ง

    เขาถูกบังคับให้ลบภาพที่บันทึกไว้ออกทั้งหมด เขาก็ยอมทำตามไม่ได้ขัดข้อง แต่เนื่องจากล่าช้าไม่ทันใจแท็กซี่เสื้อแดง จึงแย่งเอาม้วนเทปบันทึกภาพไป ซึ่งระหว่างนั้น ก็ถูกทุบ ถูกต่อย ตลอดเวลา ก่อนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพวกเดียวกับแท็กซี่เสื้อแดงตะโกนว่า อย่าทำร้ายสื่อมวลชน กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงจึงหยุด และนำม้วนเทปติดมือไปด้วย แล้วผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไปตามเอากลับคืนมาให้ จนช่วงเช้าจึงไปตรวจร่างกายที่ รพ.ธนบุรี 2 แล้วนำใบรับรองแพทย์ ดำเนินคดีกับกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงที่มารุมกระทืบเขา ถึงหน้าโรงพัก

    อ้าว..สมาคม สภาสื่อมวลชน ช่อง 3 , NBT , เอเชียอาบแดด , โว้ยทีวี , ข่าวแห้ง , มติชิน ฯลฯ จะออกแถลงการณ์ประณามว่า เสื้อแดงคุกคามเสรีภาพสื่อมวลชนไหม หลักฐานชัดนะ ถึงกับกระทืบนักข่าวจนบาดเจ็บด้วย ..ถ้าไม่ออกแถลงการณ์จะเป็น 2 มาตรฐานกับ กปปส.เขานะ !!

    และที่สื่อเสื้อแดง มีการออกข่าวครึกโครมใส่ร้ายมวลชน กปปส.ว่าขโมยของมีค่า ที่กระทรวงคลองหลอดต่างๆ ไปจำนวนมาก หลังวันที่ 5 พ.ค.57 ที่เจอยุทธการทิ้งค่ายแล้วมาเอาคืน จนมือปืน 10 ล้านกระบอกแต๋วแตกนั้น เสื้อแดงก็มโน แชร์ใส่ร้ายกันใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปลัดกระทรวงฯ กลับออกแถลงการณ์ตอกหน้าเสื้อแดงหงายเงิบไปอีกแล้วดังนี้
    ------------------------------------------------------------------
    เรียน ท่านผู้เป็นที่เคารพทุกท่าน

    ตามที่เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า สิ่งของศักดิ์สิทธิ์และโบราณวัตถุมีค่าภายใน "ห้องดำรงราชานุภาพ" (ชั้น 2) อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย เกิดการสูญหายอันเกิดจากการกระทำของคณะบุคคลที่เข้ายึดและอาศัยอยู่ในกระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่วันที่ ธ.ค. 56 นั้น

    กระผมขอเรียนว่า ในวันนี้ (8 พ.ค. 57) คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรวมถึง "ห้องดำรงราชานุภาพ" ดังกล่าวแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรือโบราณวัตถุมีค่าที่อยู่ภายในสูญหายแต่อย่างใด

    กระผมจึงเรียนมายังทุกท่านผู้เป็นที่เคารพเพื่อให้เกิดความอบอุ่นใจ และไม่เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนต่อข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่แต่แรก

    ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล
    8 พค.57
    -------------------------------------------------------------------

    อ้าว..แล้วที่สื่อมวลชินแดง กับทุยแดงกล่าวร้าย กปปส.จนแพร่หลายครึกโครมไปทั่วน่ะ จะแถว่าไง เขาตั้งกรรมการมาตรวจนับ แล้วมันไม่มีอะไรหาย จะไปบังคับให้เขาขโมย กปปส.เขาก็ไม่ทำ จะเอาหน้าไหวไหนล่ะที่นี้..

    ไอ้เรื่องขโมยนี่ คนที่กลัวที่สุดคือ ส.ว.ทั้ง 149 คนตอนนี้ (เว้นคนเดียวไม่กลัว) เพราะตอนนี้ ทราบว่าต้องระมัดระวังตัวเครื่องประดับกันแจเลย กระเป๋าถือ นาฬิกา สร้อย แหวน เครื่องเพชร โทรศัพท์มือถือ แบรนด์เนม เผลอวางทิ้งไม่ได้เลย เพราะมี ส.ว.คนหนึ่ง ขี้ขโมยจะจิ๊กเอาของไป เพราะเคยถูกจับได้คาหนังคาเขาเผาเมืองเมื่อปี 53 หลังจากลูกน้องเผาห้างแถวราชประสงค์แล้ว ส.ว.คนนี้ได้ไปขโมยเครื่องเพชร จากร้านค้าในห้างมา เอามาซ่อนไว้ในรถเบ๊นซ์ขวัญควาย อุดร..อืมม ส.ว.คนนี้คนอุดรใครรู้จักบ้าง..ฮา

    วันนี้เกิดสิ่งที่แปลกเกิดขึ้นกลางกรุงเทพฯ ก่อนการได้รับนายกคนใหม่ผิวขาว เมื่อพระอาทิตย์ทรงกรด เห็นได้หลายจุดใน กทม. คนไทยนับถือดวงอาทิตย์เป็นเทวดาเบื้องบนองค์หนึ่ง จึงเรียกนำหน้าว่า “พระ” ส่วนกลดก็ถือเป็นของสูงสำหรับพระ เช่น กลดของพระธุดงค์ ปรากฏการณ์นี้จึงเปรียบได้กับกลดของพระ ที่กำลังถูกล้อมรอบไว้ด้วยแสงของดวงอาทิตย์ไว้นั่นเอง

    จึงถือเป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ เป็น “มหิธานุภาพ” ของดวงอาทิตย์ มีความหมายในทางที่ดี มีมงคล ดังนั้นอีกไม่กี่วัน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี “ นำชาติไทยเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา “ วันนี้ช่วงค่ำ มติ สว.และ 12 องค์กร มีความเห็นตรงกันว่าจะตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ อำนาจเต็ม ใช้ปฏิรูป 6 ถึง 12 เดือน..เอ..งานนี้ “นิวัดทำโลง “ คงจะต้องกลับไปนั่งดูละคร สามีตีตรา แล้วล่ะ..ฮา

    ส่วนพวกขบวนการล้มเจ้าแดง นปช. ที่ เช้าเอน เพลนอน เย็นพักผ่อน ค่ำซัดมาม่า ดึกๆ มายิง M79 ที่ขู่มอๆ ว่าจะยกโขยงทุยแดงตะแบงระยำขำกลิ้ง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจากอักษะจะมาก่อเหตุป่วน สำนักข่าวป็อบคอร์นเขาส่ง LINE มาบอกว่าขอให้คนเสื้อแดง ที่หลงผิดคิดว่าสนุกจะร่วมขบวนมา ให้รีบกลับบ้านหนีห่างไกลจากแกนนำ และกองกำลังติดอาวุธ ให้มีระยะห่างสัก 1,000 กิโล..เขาฝากมาว่ายกทัพกันมาได้ แต่เพราะอาเพศจะแรง ไม่ทันถึงขอบฝั่งแม่น้ำหรอก ..จะมีอันเป็นไปจน “ทัพขี้ข้าแตก”

    และก่อนที่จะได้ขยับทัพ จัดกองกำลังขี้ข้าออกจากถนน อักสะบักสะบอม นักรบนิรนามมือที่ 6 มือที่ 7 (^_^) เขาจับตามองอยู่ไม่กระพริบ หากจะกรีฑาทัพ “แดงเท่ากระจุกไฝ” ..ของพวกมันออกมา เขาว่ามันจะมีอาเพศหน้าฝน อัสนีบาท มันฟาดเปรี้ยงๆๆๆๆ แสงสีเสียง จะแลบแปลบปราบ ไม่หยุดสัก 2-3 ชั่วโมง..ขอเตือนด้วยความหวังร้าย ขี้ข้าอื่นๆ อย่าลืมเด็ดขาด !!

    ส่วนหน่วย อรินทราช หรือ ตชด.ที่เตรียมจะหาช่องบุกจับแกนนำ กปปส.น่ะ..คิดด้วยสติให้มาก เขามีคำสั่งศาลคุ้มครอง 9 ข้ออยู่ และจะตั้งรัฐบาลใหม่ไม่กี่วันแล้ว อำนาจจะเปลี่ยนมือไปแล้ว อย่าเสี่ยงคำยุยงของเป็ดเหลิม ปึ้งเหม่ง หรือย้อยเลย สำนักข่าวป็อบคอร์นเขาหวังดี เขาสังเกตุเห็นมีการเคลื่อนไหวของหน่วย SEAL , RANGER, RECON จาก 3 กองทัพไทยผิดปกติ และมีการนำรถตีนตะขาบมาจอดรอ “ทำสปา” ไว้จำนวนมาก..

    มันจะได้ไม่คุ้มเสีย..ก่อนสลายชุมนุมเมื่อวันที่ 14 , 18 ก.พ.57 ก็เตือนล่วงหน้าหลายวันแล้วดื้อไม่ฟังแบบนี้..ญาติก็ต้องมาร้องไห้กันที่หลัง มันไม่เกิดประโยชน์..บอกย้ำอีกทีว่า พยัคฆ์ที่หมอบเงียบ ร้ายกว่าแมวที่เดินเพ่นพ่าน เพราะพยัคฆ์มันนอนดูเหยื่อ ที่กำลังเดินไปมา แล้วมันคิดตลอดเวลาว่าจะจัดการเหยื่ออย่างไร จัดการด้วยวิธีไหน จะดักทางเหยื่ออย่างไร จู่โจมขย้ำเหยื่อในเวลาไหน..

    ส่วนแมวที่เดินเพ่นพ่าน จะไปทางไหน ซ้าย-ขวา, หน้า-หลัง, บน-ล่าง พยัคฆ์เขารู้หมดแล้ว..ถ้าแมวคิดแต่จะใช้กำลังเข้าหักหาญ ยามปลายยกนี้..เขาเรียกว่าแมวขาดสมอง..เป็นแมวผู้หลงผิด ในหมู่แมว ย่อมมีแมวที่แฝงตัวเป็นใส้ศึกอยู่เสมอ ไม่มีการรบที่ไหนไม่มีใส้ศึก

    เสธ แอบได้ยินเสียงคำรามฮึ่มๆ ในลำคอมันดังขึ้นแปลกๆ จึงเอามาเตือนกันแบบพี่น้อง เวลาพยัคฆ์มันตะปบมันจะรุนแรง รวดเร็ว และไร้ความปราณี..

    กลับไปซะ พระสงฆ์ช่วงนี้กิจนิมนต์งานบวช งานแต่งเยอะ..อย่าไปลัดคิวมางานศพเลย!!

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  9. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    15 พ.ค.57 แถลงการณ์..กองทัพมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร เข้าคลี่คลาย

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเย็นวันนี้ แต่จะขอนำสรุป “บางข้อ” ที่มีนัยยะความหมายมาให้ทราบโดยทั่วกัน ดังนี้

    1. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวก ทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมายก็ดี หรือการพูดคุยเจรจา หรือสันติวิธีอื่น ๆ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศชาติออกจากความขัดแย้ง..(หมายถึง ทหารให้การสนับสนุน ส.ว.)

    2. การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิง ผบ.ทบ และ ผบ.เหล่าทัพ ว่า อยู่เฉย ไม่ดำเนินการใด ๆ ขอเรียนว่า กองทัพได้ดำเนินการทุกอย่าง มาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง..(หมายถึง ทหารดำเนินการทั้งเปิดเผยและทางลับตลอดมา)

    3. ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้..(หมายถึง เตือนการหมิ่นกองทัพ)

    4. หากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง “ ทหารจำเป็น ต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ “ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม ..(หมายถึง ทหารจะใช้กำลังพล และอาวุธหนักมากขึ้นกว่าเดิมขั้นสูงสุด)

    5. หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น จนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล “ กองทัพมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร เข้าคลี่คลายสถานการณ์ “ ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มบุคคลนั้น จะต้องถูกทหารใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ได้ เช่นกันกับ กลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร..(หมายถึง การประกาศกฎอัยการศึก)

    6. กองทัพเป็นของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน มิได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด กองทัพต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชน อย่างเต็มความสามารถ..(หมายถึง ทหารจะปกป้องสถาบันหลักสุดกำลัง)

    จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก

    ----------------------------------------------------------------------
    สายข่าวรายงานมา มีการขนอาวุธ M.16 มาจากปราจีนจำนวนมาก เป้าหมายใหญ่ คือ หลวงปู่ แถวแจ้งวัฒนะ , บุคคลสำคัญ และ ส.ว.สายหนุนปฏิรูปภาคประชาชน , นายเฟส พล.ซุ่มยิง สังกัด นขก. แฝงตัวมาในกลุ่ม กปปส., ให้ระวังการโจมตีไม่ว่ากลางวัน หรือ กลางคืน

    สำนักข่าวป็อบคอร์น แปลเป็นภาษาทหารไปเป็นภาษาแบบชาวบ้านได้ว่า การประกาศอัยการศึก และการไล่ล่าอย่างเป็นทางการกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว..กองทัพมีการใช้ “กองกำลังพิเศษ” โดยระดมมือดีจากหน่วยต่างๆ เข้ามา กวาดล้างสัตว์เลื้อยคลานเมื่อสถานการณ์สุดงอมเต็มที่

    แกนนำขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์ บริษัทเผาไทย บรรดาพบบุคคลสำคัญทยอยเดินทางไปต่างประเทศ อดีต ส.ส.เผาไทย ตอนนี้ต่างขวัญเสีย ค่อนขอดผู้บงการใหญ่ว่า "พี่ หนีผมไปไหน"

    ขอชื่นชม ส.ว.และภาคส่วนประชาชนต่างๆ ที่กำลังทำงานทั้งวันทั้งคืน ท่านทำหน้าที่ของท่านไปตามช่องทางกฎหมายได้เลย ทหารสนับสนุนท่านแล้ว ส่วนถ้าจะมีสถานการณ์รุนแรงอะไรหลังจากนั้น ทหารจะจัดการเอง

    คนมันจะถึงคราวตายหมู่ จะไปห่วงมันไปก็ไม่มีประโยชน์ ทรัพย์สินก็ตกเป็นของแผ่นดินจนสิ้น

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]
     
  10. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    16 พ.ค.57 แฉ..บุกคลังอาวุธของคางคก..ชายดูไบ เปิดเผยหน้าล้มสถาบันแล้ว

    สายรายงานมาว่าวันนี้มีการจับอาวุธสงครามได้ล็อตใหญ่มาก ที่นครนายก เป็นเหตุบังเอิญที่จับได้อย่างเหลือเชื่อขนลุกจริงๆ มีนักการเมืองเสื้อแดงตัวพ่อ หิ้วอีหนูไปนอน ที่โรงแรมแบบรีสอร์ทชื่อเหมือนน้ำผึ้งพระจันทร์ เผอิญมีดาราสาวปากฮ้อยรวย เข้ามาพักที่โรงแรมแห่งนี้ด้วย แต่เกิดต่างหูราคาเป็นล้านหล่นหาย เธอจึงไปแจ้งความ

    แต่เพราะกลัวความลับนักการเมืองแตก จึงส่งชายชุดดำนอกเครื่องแบบมาตรวจที่เกิดเหตุ อุแม่เจ้า..ตรวจค้นไป ตรวจค้นมา เจอตอ..พบเป็นคลังอาวุธสงครามมโหฬาร ชายชุดดำเกิดอาการปอดแหกเพราะมันเยอะเหลือเกิน จึงได้โทรแจ้งให้ กอ.รมน.จังหวัดเข้ามาดำเนินการจับกุมแทน ปรากฎว่ารีสอร์ทนี้ เป็นแหล่งพักพิงกบดานเซพเฮาส์ ของคางคกตู่ กับใส้เดือนเต้น ใช้เป็นที่ประชุมลับ และพาทั้งผู้หญิง ผู้ชายไปหลับนอนกัน อยู่เป็นประจำ และยังเป็นคลังแสงเก็บอาวุธอีกด้วย !!

    ขณะตรวจค้นมีชาย 2 คนเป็นลูกน้องคางคกตู่ นำอาวุธปืน 2 กระบอก ไปเก็บไว้ในรถเมีย นักการเมืองท้องถิ่น กอ.รมน.จึงเข้าตรวจยึดได้อีก ซัดทอดไปตรวจในบ้าน ของ รองนายกเทศมนตรี และ สว..เฮ่ย..ไปตรวจเจออาวุธปืนสงครามอีก 30-40 กระบอกโดยบังเอิญเข้าไปอีก

    ที่น่าตื่นเต้นพิศวงกว่านั้น เมื่อนักการเมืองแต๋วแตก บิ๊กคลองหลอด กำลังวิ่งเคลียร์ปิดข่าวให้วุ่นไปหมด เขาอยากปิดข่าวนัก..งั้นเราช่วยเขาหน่อย โดยการเปิด แฉให้รู้กันทั่วโลก 5 พันล้านคน และแฉ ให้รู้ไปถึงดาวอังคาร ดาวพลูโต ไปเลย..ว่าให้ไปทุกคนตามเก็บซากถุงยางอนามัยที่นี่ด้วย เพราะมันใช้ตรวจ DNA มัดเป็นหลักฐานได้..ฮา

    ในระยะเวลาต่อจากนี้ ประเทศไทยคงต้องมี “ นายกฯ เฉพาะกิจ” และ “ รัฐบาลเฉพาะกาล” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีขั้นตอนซับซ้อนพอควร รัฐธรรมนูญฉบับนี้คงต้องมีการเพิ่มเติมเอกสารเฉพาะการณ์แนบท้าย ขอให้แกนนำ และมวลชน กปปส.ใจร่มๆ อย่าทำให้เสียการใหญ่ “ มิตรใดดีตลอดมารักษาไว้ “ อย่าอารมณ์ชั่ววูบผลักเขาออกไป

    ชายดูไบเองก็รู้ ช่วงนี้เขาถึงเงียบผิดปกติ ท่ามกลางบรรดาลูกสมุนบริวารที่บินไปหาที่สิงคโปร์ ขุนพลสายลับอีสาน และสายข่าวอื่นๆ ประมวลได้ว่า อดีต ส.ส.อาวุโสที่คุม ส.ส.อีสานบริษัทเผาไทย ถ่ายทอดคำสั่งการชายดูไบ มาให้เครือข่ายผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหลายฟังว่า คนแดนไกลมีนโยบาย “ ให้ทุกคนเตรียมพร้อมสู้ " เขาเปิดหน้าขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์สถาบันเบื้องสูงแบบไม่เหนียมอายอีกต่อไปแล้ว และใช้คำพูดตีตนเสมอเจ้า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างรุนแรง

    โดยกล่าวว่า “อยากให้เขารีบเสนอชื่อนายกฯ คนใหม่ อยากรู้ว่าเบื้องสูง (แต่เขาใช้อีกคำ) จะเซ็นไหม?..อย่าปลอมลายเซ็นเบื้องสูงมาก็แล้วกัน ถ้าเบื้องสูงเซ็น จะได้รู้ว่ากล้าเป็นศัตรูกับพวกเขา เบื้องสูงกล้าเป็นศัตรูกับประชาชน"..นับว่าเป็นคำพูดที่รุนแรง และแสดงธาตุแท้ของเขา และบริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย ว่าเป็นอันตรายอย่างสุดขั้วกับ 3 สถาบันหลักของชาติ ตั้งแต่มีสถาบันพระมหากษัตริย์มา ยังไม่เคยมีใครกล้าคิดร้ายต่อเบื้องสูงถึงเพียงนี้มาก่อน

    วอร์รูมยุทธศาสตร์ ของบริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย มีแผนการรับมือกับการตั้งนายกฯ เฉพาะกิจคนใหม่ และรัฐบาลเฉพาะกาล คือ

    1. ให้อึดต่อสู้ทางการเมืองอย่างยืดเยื้อ ให้ขัดขืน ข่มขู่ ไม่ยอมรับอำนาจทางตุลาการ และนิติบัญญัติ ในขณะเดียวกันก็แอบแฝง พยายามใช้กฎหมายปฏิวัติตนเองไปด้วยเพื่อยื้ออำนาจรัฐบาลเทียม แต่ก็ความขัดแย้งระหว่างชายชุดดำฝ่ายดี กับฝ่ายชั่วขยายวงอย่างหนัก เช่น ริดสีดวง ข้ามมาก้าวก่ายสั่ง สตช. โดยร่วมมือกับชายชุดดำฝ่ายชั่ว เร่งการไล่จับแกนนำ กปปส.ให้ได้มากที่สุด เพื่อข่มขวัญมวลชนให้หวาดกลัว ขวัญเสีย แต่กลับส่งกำลังชายชุดดำ 3,750 คน ไปนั่งเฝ้าอารักขาแกนนำมวลชนแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช.ที่มีผู้ชุมนุมถนนอักษะ เพียงวันละไม่เกิน 1,000 คน ฯลฯ

    2. ให้แก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ยืนหยัดชุมนุมต่อต้านนายกฯ คนใหม่ ที่ถนนอักษะก่อน สะสมกำลังมวลชนให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเคลื่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อาจมีเป้าหมายสถานที่คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน (ซึ่งจะได้เห็น นศ.รามฯ เตรียมการตั้งเวทีก่อนล่วงหน้าเร็วๆ นี้ และแก้แค้นเอาคืนแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ที่ใช้นักรบพระเจ้าตาก ของเลิศ กับกองกำลังชายชุดดำฝ่ายชั่ว ปิดล้อมยิงนักศึกษารามทั้งวันทั้งคืน จนชายชุดเขียวนำโดยผู้การแดง และชายชุดขาว บุกไปช่วยเหลือ นศ.ราว 3,000 คน รอดตายจากรามฯ ออกมาได้ เมื่อปลายปี 56 )

    3. ให้อดีต ส.ส.แดง หลอกลวงปั่นหัวแบบคอมคอมมิวนิสต์ ปลุกระดมมวลชนในพื้นที่ของตัวเองให้ต่อต้านนายกฯ คนใหม่ ในพื้นที่จังหวัดของตนเอง

    4. ให้กองกำลังติดอาวุธ เร่งก่อวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลให้หนักขึ้นและรุนแรงขึ้น ลอบโจมตีเป้าทางตุลาการ และนิติบัญญัติ และมวลชน กปปส. โดยมีชายชุดดำฝ่ายชั่วจากอีสาน เหนือ และปราจีน เป็นหลักๆ ภายใต้การสั่งการจากย้อย เสริมด้วยอาวุธราชการจาก DSI สนับสนุนให้กองกำลังรับจ้างไม่ใช่ราชการ ที่ฝึกฝนมาก่อการร้ายสากล

    5. ให้พวกคอมมิวนิสต์เร่งโฆษณาชวนเชื่อ โจมตีให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงทั้งบนดินและใต้ดิน บ่อนทำลายอย่างเต็มที่ เช่น การล้อเลียนด้วยกรวยตามสถานีรถไฟฟ้า , การจุดเขียนไปเลือกตั้งมุกเดิม แต่ไม่พูดถึงการประนามฆ่าคนตาย ฯลฯ โดยคนทั่วไปจะเข้าใจตื้นๆ ว่ากราบกรวยหมายถึงการ์ด กปปส. แต่แท้จริงแล้วพวกคอมมิวนิสต์ เฉี่ยวให้หมายถึงเบื้องสูงนั่นเอง

    6. ให้นายกฯ เฉพาะกิจ สั่งการให้สลายการชุมนุมของ แก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช. แล้วให้ก่อวินาศกรรมสังหารหมู่คนเสื้อแดงด้วยกันเองเต็มกำลังแบบไม่ยั้ง ให้ตกเป็นเหยื่อตายมากที่สุด แล้วนำศพไปแห่ หลอกมวลชนต่างจังหวัดให้ลุกขึ้นสู้พร้อมกันทั่วประเทศ

    บริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย มีความเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถพลิกสถานการณ์ กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ และกำชัยชนะได้ สามารถโค่นล้ม หรือ ทำลายสถาบันเบื้องสูงได้

    แผนการนี้เริ่มเด่นชัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.57 เป็นต้นมา ที่รู้ว่าแพ้ทางกฎหมาย และกำนันเร่งปิดเกมส์ การปฏิบัติการเช่น เมื่อวันที่ 15 พ.ค.57 ทีมผู้ก่อการร้ายแดง ได้ก่อการร้ายสากลกับ เยาวชน ผู้หญิง และคนสูงอายุ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

    บริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย เลือกก่อเหตุที่นี่ เพื่อแสดงให้เห็นเด่นชัดว่า พวกเขาต้องการระบอบคอมมิวนิสต์แบบประธานาธิบดีเท่านั้น และต้องทำลายฝ่ายประชาธิปไตยที่จุดสัญลักษณ์เลย โดยขณะเกิดเหตุมีผู้ชุมนุม กปปส.และการ์ด อยู่ประมาณไม่มากนักราว 20-30 คน เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการสร้างเต็นท์โดมขนาดใหญ่ แต่ยังสร้างไม่เสร็จ และบางส่วนเพิ่งเดินทางมาถึง จึงอ่อนเพลียพากันนอนพักผ่อนอยู่บริเวณดังกล่าว

    เนื่องจากเพิ่งเคลื่อนย้ายมวลชนมาจากสวนลุมพินี ทำให้การตั้งบังเกอร์ชายชุดเขียวตามจุดต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นระบบการรักษาความปลอดภัยจึงต้องใช้ด่านของชายชุดดำเป็นสำคัญ

    เวลา 02.30 น. มีการยิง M 79 จากตึกสูงจำนวน 2 ลูก และปืนกล ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่กำลังนอนหลับ เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ด้วยความตกใจจากเสียงปืน มวลชนจึงลุกขึ้นวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางไป โดย M-79 ตกระเบิดที่หน้า รร.สตรีวิทยา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2 การ์ด กกปส. ได้รับบาดเจ็บสาหัส

    เวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 02.50 น. ชายชุดดำฝ่ายชั่ว ขับขี่รถยนต์กระบะสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้ปืนกลมือ กราดยิงกราดยิงซ้ำอีกระลอก เข้าใส่ประชาชนที่กำลังวิ่ง บริเวณสี่แยกคอกวัว ทำให้โดนกระสุนปืนได้ง่าย มีผู้บาดเจ็บ 19 ราย และเสียชีวิต 3 ราย เกิดการยิงต่อสู้กันนานราว 20 นาที และมีการยิงใส่ชายชุดเขียว และประชาชนจากตึกสูงลงมาด้วย

    เวลา 03.00 น.มีรถยนต์กระบะ ขว้างระเบิดปิงปอง ลงมาจากสะพานพระราม 8 ที่แยกวิสุทธิกษัตริย์ มาบริเวณถนน ตรงถนนหน้าจุดชายชุดเขียว ปตอ.พัน.1 รอ. ตั้งบังเกอร์อยู่ แล้วขับหลบหนีย้อนศรกลับไป

    เวลา 03.10 น.มีรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ฝากระโปรงสีดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาจากสะพานวันชาติ ได้ก่อเหตุยิงปืนขู่มาที่บริเวณ จุด ปตอ.พัน.1 รอ. ก่อนกลับรถหนีไปทางสะพานวันชาติ

    เวลา 03.30 น.พบผู้ชายใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนต์ สวมรองเท้าผ้าใบ มีพิรุธ บริเวณซอยหลัง รร.สตรีวิทยา ชุด จยย. เคลื่อนที่เร็ว ทำการไล่ติดตาม ผู้ต้องสงสัยได้วิ่งหนี เนื่องจากมีซอกซอยช่องหนีเข้าไปในชุมชนแฝงตัวไปได้ง่าย กำลังพลทุกนายปลอดภัย ขวัญกำลังใจดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่

    มีสิ่งผิดปกติอย่างมาก และการข่าวมาว่าใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐชายชุดดำฝ่ายชั่ว ( ชุดเดียวกับที่เคยก่อการร้ายสากลตั้งแต่สมัยเสธแดงรับสารภาพที่ https://www.facebook.com/photo.php?v=645673508851058
    ท้ายคลิปมีพาดพิงถึงไอ้ปื๊ดด้วย ) มาสังหารประชาชนมือเปล่า ดังนี้

    1. มีการวางแผนตัดสายสัญญาณกล้องวงจรปิด หลายจุด ตามเส้นทางก่อเหตุ แล้วหลบหนี

    2. มีการแทรกซึมปลอมตัวเป็นมวลชน กปสส.เพื่อร่วมมือ โดยเป็นผู้ชาย กับผู้หญิงนางนกต่อ เวียนมาดูต้นทางก่อน แล้วชี้เป้าให้เข้าจู่โจม ชี้เป้าทางหนี ตอนนี้รู้ชื่อแล้ว (คล้ายที่หลวงปู่จับผู้หญิงที่แฝงตัวเข้ามาได้ และรับสารภาพว่า ส.ส.แก็งค์อั้งยี่แดงจ้างมา 10,000 บาท)

    3. ด่านชายชุดดำในเครื่องแบบที่แยกคอกวัว จู่ๆ ก็หายไปก่อนเกิดเหตุไม่นานนัก และด่านฯ ที่แยกอรุณอมรินทร์ ก็กลับปล่อยรถผ่านแบบไม่เข้มข้นเหมือนตอนก่อนเที่ยงคืน

    4. มีการพาดยิง โดยมีกล้องช่วยเล็งในเวลากลางคืน และชายชุดดำด่านกลับไม่มีการติดต่อทางวิทยุสกัดหลังเกิดเหตุใดๆ เลย และก็มีชุดคุ้มกัน ทำให้การไล่ติดตามทำได้ยากลำบาก เปิดทางสะดวกให้พวกเดียวกันเองหลบหนีอย่างสบาย

    5. เป็นการกระทำของข้าราชการชายชุดดำฝ่ายชั่ว ที่ทำงานสายตรงกับ ภราดอ , อีกคนเป็นคนหารถพาหนะก่อเหตุ , และนักการเมืองใหญ่ที่เมา และขู่ทุกวัน หลุดตำแหน่งไปแล้ว แต่อ้างว่ารอลงประกาศราชกิจจา ทั้งๆ ที่มีผลทันทีนับแต่วินาทีอ่านคำพิพากษา หมอนี่เป็นคนจัดหาอาวุธ มันจึงไม่กล้าเซ็นต์เอกสารใดๆ เป็นหลักฐานทั้งสิ้นหลังวันศาลพิพากษาเป็นต้นมา

    มี 1 ใน 3 ผู้ตายครั้งนี้คือคุณ "สมควร นวลขนาย" ชาวชุมพร น่าเศร้ามาก แสดงให้เห็นถึงความเลวร้ายของ บริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย ที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่มีอาณาจักรไทยมา เลวร้ายมากกว่าข้าศึกชาติไหนๆ ที่บรรพบุรุษชาติไทยของเราเคยออกรบด้วย เพราะมันคือการใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีตราแผ่นดินราชวงศ์จักรีที่หน้าหมวก มาใช้ปืนจากภาษีมากราดยิงสังหารราษฎรของกษัตริย์ ที่พระองค์รักทุกคนเหมือนลูก

    ผู้เสียชีวิตคนนี้เป็นคนชุมพร อายุ 51 เป็นสมาชิก อบต. ไม่ใช่การ์ด กปปส. เขา และคณะ เดินทางจากชุมพร มากรุงเทพ เพื่อมาแสดงสิทธิทางการเมือง ครั้งนี้เขาและคณะรวบรวมเงินมาได้ 40,000 บาท ค่ารถวันละ 1 หมื่นบาท แชร์กันคนละ 1,000 บาท มากันทั้งหมด 40 คน เหมารถบัสมาราชดำเนิน รถเพิ่งเดินทางมาถึงราวๆ 02.00 น. พอลงจากรถก่อนแยกย้าย เขาสั่งคนขับรถว่า "รอผมนะ 4 วัน พวกผมจะกลับบ้านด้วย"

    คณะส่วนใหญ่เดินเข้าไปที่เต๊นท์ที่ชุมนุม แต่ อบต.ท่านนี้ขอพักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะเขาเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงไม่อยากเข้าไปเบียดข้างใน เลยขอนอนพักที่นี่เพราะอากาศสบายและเย็นดี สำหรับประชาชนที่ต้องต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์แดงเผาไทย ที่นี่คืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่พักพิงเพื่อชาติมันคือสิ่งที่มีเกียรติที่สุดของประชาชน

    เมื่อประชาชนได้รับชัยชนะแล้ว เขาอยากมีส่วนร่วมในการฉลองที่ราชดำเนินนี้ เหมือนกับพี่น้องร่วมชาติคนอื่นๆ และเขาก็ถูกระบอบคอมมิวนิสต์แดงเผาไทย สั่งการใช้อำนาจรัฐมาทำร้าย จนเขาเสียชีวิต โดยยังไม่ทันได้ฉลองตามความฝันของเขา

    เตือนการ์ด และแกนนำ กปปส. เพราะศูนย์รวมสัตว์เถื่อน ได้ระดมชายชุดดำฝ่ายชั่วหน่วยอรินทราช อยู่ในซอยอารีย์ กรมสรรพากร จำนวนมาก, มีกำลัง 1 กองร้อย พร้อมรถตู้ชายชุดดำพักในวัดย่านปทุมธานี 2 วันมาแล้ว และมีการวางกำลังในวัดชานเมืองกรุงเทพเต็มไปหมด..ขอให้ระวังตัวด้วย และขอให้การ์ด กปปส.ตรวจเข้มการเข้า-ออก อย่างเข้มงวดสูงสุด

    ให้ระวังฮอนด้าแจสสีขาว ฝากระโปรงสีดำ จะมากราดยิงไล่การ์ดบนสะพานพระราม 8 , ให้ระวังรถแมงเม่าที่จะเข้าทางแยกจักรพรรดิ , ให้ป็อบคอร์นทุกคณะ จัดกำลังไว้สอยแมงเม่าแล้วใส่ถุงดำพาไปเที่ยวทะเล , ในช่วงกลางคืนทุกคืน ให้ระวังชายชุดดำฝ่ายชั่วยิงถล่มที่ราชดำเนิน และผ่านฟ้า และแจ้งวัฒนะให้เพิ่มการระวังวิถีโค้ง และตึกสูงเวลาเคลื่อนจากที่ตั้ง

    สายลับแจ้งมาว่า ให้การ์ด กปปส. และแกนนำ ให้ระวังระบบไฮเทคพิกัด การชี้เป้าหมายการยิง M79 และการยิงกราด ให้ทำลาย SIM โทรศัพท์ ที่เป็นเบอร์จดทะเบียนทิ้งให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็น SIM ชนิดใช้แล้วทิ้งแทน อย่าจดทะเบียนเด็ดขาด เพราะมีเครื่องดักจับพิกัด จากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ สายลับภายในศูนย์รวมสัตว์เถื่อน แจ้งมาว่า มีชื่อ ภาพถ่าย เบอร์โทรมือถือ และ คลื่นติดต่อทางวิทยุ ของการ์ดไว้ การเปลี่ยน SIM บ่อยๆ แล้วแยกกระจาย SIM ให้คนอื่นใช้ไปทั่วประเทศ จะทำให้ศูนย์เถื่อนหัวหมุน

    พี่น้องประชาชนที่เคารพรัก.. ทหารก็คือประชาชนที่เป็น "เพื่อนแท้ที่ดีที่สุด" ที่จริงใจ และไม่เคยทอดทิ้งราษฎรของกษัตริย์มากว่า 800 ปีแล้ว ศึกล้างแผ่นดินในครั้งนี้ เดิมพันด้วยอนาคตของประเทศ..อนาคตของลูกหลานเรา และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยส่วนใหญ่เทิดทูน มีเพียงคนไทยส่วนน้อยในระบอบคอมมิวนิสต์แดงเผาไทยเท่านั้น จะต้องการล้มล้างศูนย์รวมใจของคนไทย เพียงเพื่อต้องการอำนาจกดขี่ประชาชนยากจน เปลี่ยนเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แต่เรียกหลอกคนเสื้อแดงว่า “ประชาธิปไตยแบบเท่าเทียม”

    ระบอบนี้เป็นมะเร็งร้ายต่อมนุษย์ และประเทศ..เป็นเหมือนผีห่าจากอเวจีหลุดออกมา เมื่อมีการปะทะ หรือลอบทำร้าย..คงหลีกเลี่ยงความสูญเสียไม่ได้ แต่ขอให้แปลงอารมณ์ความโกรธแค้น เป็นพลังต่อสู้ร่วมกันอย่างมีสติ อย่าใช้อารมณ์เป็นอันขาด เพราะจะกลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายผีห่าจากอเวจีโจมตีเอาได้ การรบที่มุ่งเอาชัยชนะ กำลังรบต้องมีวินัย ทั้งการ์ดและมวลชนต้องเชื่อฟังผู้นำอย่างเคร่งครัด และให้หมั่นสังเกตสายลับที่ปลอมตัวมา และส่งผิดปกติต่างๆ

    ชายดูไบ และบริษัทคอมมิวนิสต์เผาไทย กำลังเล่นเกมส์ฆ่าคนไทย เพื่อนร่วมชาติเดียวกัน เพื่อหวังผลบีบให้มวลชนท้อถอย ยอดผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เหตุที่หน้ามหาวิทยาลัยรามฯ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 จนถึงขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บ 782 คน เสียชีวิต 24 คน รวมเป็น 806 คน และมีผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 4 คน ชีวิตพวกเขาจะต้องไม่สูญเปล่า ผู้ที่จะต่อสู้ต้องมีความทุ่มเท มุ่งมั่นเอาชัยชนะเหนือระบอบชั่วร้ายนี้ให้ได้

    ประเทศไทยตอนนี้ไม่มีนายกฯ ที่มีอำนาจแท้จริง ประธาน ส.ว.และคณะ สามารถเร่งทูลเกล้าฯ นายกฯ ใหม่ตามช่องทางที่ปรึกษาหารือกัน อย่าได้หวั่นไหวกลัวคำขู่ กลัวการนองเลือด หรือกลัวสงครามกลางเมือง เพราะสุดท้ายคนที่ขู่จะวิ่งหนีหางจุกตูดก่อนใคร และจะไม่มีนองเลือด จะมีก็แต่นองน้ำลาย และนองเยี่ยวแตกเต็มกางเกง

    ทหารเตรียมกำลังดูแล ปกป้องรัฐบาลใหม่ให้อยู่แล้ว ดาบอยู้ในมือท่าน ส.ว.แล้ว ฟันไปเลยอย่าได้ลังเล ทหารจะเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็กให้พวกท่าน และประชาชนเอง !! ด้วยเกียรติของนักรบทุกคน ขอยืนยันจะทำหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนต่อไป

    อาชีพทหาร มีเอกลักษณ์พิเศษกว่าอาชีพอื่น ตรงที่ทหารเป็นกลุ่มชนที่ถืออาวุธ มีเครื่องแบบ มียศ มีระบบอาวุโส รักหมู่รักคณะ และ มีวินัยที่เคร่งครัด แต่ที่เด่นชัด และเป็นที่เข้าใจกันดีว่า อาชีพอื่น อาจจะขายความคิด ขายวิชาการ ขายบริการ หรือ ขายความบันเทิง แต่ ทหารอาชีพนั้น “ขายชีวิต” ตนเอง

    ทหารอาชีพ ต่างจาก ทหารรับจ้าง ตรงที่ทหารอาชีพนั้น มีจรรยาบรรณถึงขั้นสามารถพลีชีพได้เมื่อชาติต้องการ ส่วนทหารรับจ้าง กับ คนที่มีอาชีพเป็นทหาร เขาอาจเชี่ยวชาญทั้งบู้และบุ๋น เป็นนักยุทธศาสตร์ชั้นยอด แต่หากเขาผู้นั้นไร้ซึ่งจรรยาบรรณ ก็ไม่นับว่าเป็นทหารอาชีพ

    อาชีพที่ไม่มีเวลาพักผ่อน คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่ต้องเสียสละ คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่ต้องไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่ต้องคอยดูแลประชาชน คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่รับราชการได้เงินเดือนน้อย คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่ต้องปกป้องแผ่นดิน คือ อาชีพทหาร
    อาชีพที่ต้องคอยให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อยามเกิดภัยต่างๆ คือ อาชีพทหาร.....

    มิตรสหาย..นี่อาจเป็นบาดแผลที่พวกเราเจ็บปวดอยู่คนเดียว..แต่ได้โปรดอย่าโดดเดี่ยวประชาชน , มิตรสหาย..นี่อาจเป็นบาดแผลที่เราเจ็บปวดโดยลำพัง..แต่ได้โปรดอย่าหันหลังให้ประชาชน..ขอชัยชนะจงเป็นของประเทศไทย..อันเป็นที่รักของเราทุกคน

    การกวาดล้างครั้งใหญ่ ต่อศัตรูของชาติ คือ กองกำลังติดอาวุธที่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์..และที่หาญกล้ามาจับอาวุธต่อสู้กับกองทัพไทยในปี 2553 มาก่อน..โดยมีนายทุนบริษัทการเมืองที่ไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ มันพวกนี้ไม่เป็นพสกนิกรขององค์มหาราชอีกต่อไปแล้ว ต้องขจัดให้สิ้น..ข้าวโพดบรรทุกเต็มลำรถพร้อมเสริฟ จะเสริฟเมื่อไร เสริฟที่ไหน เสริฟให้ใคร ขอให้ทหารทุกชั้นยศ เตรียมพร้อมตื่นตัว ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยอย่างเคร่งครัด

    ขออัญเชิญ พระบรมราโชวาทในหลวง ที่พระราชทานแก่คณะนายทหาร ซึ่งได้รับพระราชทานเลื่อนยศนายพล ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคาร ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2514 ความว่า "...การที่ได้ขอให้ท่านทั้งหลาย พยายามปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดก็เพื่อเกียรติของตน เพื่อเกียรติของกองทัพ เพื่อเกียรติของบ้านเมือง และเพื่อสร้างหลักฐานที่แข็งแรง เพื่อให้เราทั้งหลายได้สามารถอยู่เป็นปึกแผ่นและมีความปลอดภัยทั้งในด้านกองทัพโดยตรง และทั้งในด้านกิจการต่างๆ ที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า.... "

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2014
  11. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    17 พ.ค.57 เปิดโปง..ศูนย์ผสมพันธ์ุคางคกมั่วเพศ..และคอมมิวนิสต์แดงเผยตัว

    กรณีจับอาวุธปืน 2 กระบอก คือ HK 33 กับ เซกาเซ่ HK ที่เบาะหลังคนขับ ในรถยนต์มาสด้า 3 สีขาว ณ บริเวณลานจอดจันทรารีสอร์ท ที่แฉ ไปตอนที่แล้วที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.237392086450826.1073742006.187529244770444&type=1

    รีสอร์ตนี้เดิมชื่อ "ศูนย์สัมมนากิตติธเนศวร" ถ้าไปวังตะไคร้ ใช้ ถ.รังสิต-นครนายก ก่อนเข้าตัวเมือง 2 ก.ม. ศูนย์สัมมนาฯ นี้เกิดขึ้นสมัย "เสี่ยแหมะ" เป็น ส.ส.บริษัทชาติไทย ก่อนปี 2540 คนบริหารศูนย์ฯ คือ "ซ้อน้อย" เมียเสี่ยแหมะ พอมาสมัยบริษัทไทยไม่รักไทย ศูนย์สัมมนาฯเปลี่ยนเป็น "จันทรารีสอร์ท" รับจัดประชุม / สัมมนา

    เสี่ยแหมะ เป็นอดีต ส.ส.บริษัทเผาไทย จ.นครนายก เป็นผู้ช่วย รมต.คลองหลอด เป็นคู่หูของ นาย ป.รมช.มหาดไทย ทั้งสองไปหาชายดูไบ บ่อยๆ

    ต่อมานาย ส. อดีตส.ส.นครนายก และอดีตกรรมการบริหารบริษัทเผาไทย แถว่าเป็นของแขกที่จะมาเข้าพักที่รีสอร์ท ที่พยายามจะนำอาวุธเข้ามาในห้องพัก แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังส่งสัญญาณให้เข้าจับกุม ชาย 2 คนจึงรีบนำอาวุธปืนโยนเข้าใส่ภายในรถมาสด้า 3 สีขาวฯ ทันที “ ซึ่งเป็นรถของรีสอร์ท” เพราะจอดอยู่ใกล้บริเวณนั้น จากนั้นผู้ต้องสงสัยก็ขับรถหนีนั้น..อ้าว..เข้าตัวอีกยอมรับว่าเป็นรถของตัวเองซะแล้ว !!..แก้ตัวแบบนี้ง่ายไปไหม..ให้กลับไปคิดมุกที่มันยากกว่านี้หน่อย

    เมื่อมันยังแถ ก็จะแฉ ต่อไปตามนโยบายของเพจนี้ เพราะรีสอร์ทนี้เป็นเซพเฮาส์ ศูนย์ผสมพันธ์คางคก และใส้เตือน มันพาผู้หญิง และผู้ชายเกย์แปลงเพศบ้างไม่แปลงบ้าง หมุนเวียนมากันที่นี่ประจำ และใช้เป็นที่ประชุมวางแผนก่อการร้ายสากล ก่อวินาศกรรม ในเมืองหลวง และใช้พักอาวุธในพื้นที่ จ.นครนายก มาอย่างต่อเนื่อง

    ก่อนการจับกุมได้มีรถกระบะ ทะเบียน “เชียงราย” ทำการขนอาวุธดังกล่าว ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในแวดวงทหารกัมพูชา ลาว และเวียดนาม มาไว้ที่รีสอร์ท เพื่อนำอาวุธปืนดังกล่าวมาใช้ลอบทำร้ายเด็ก ผู้หญิง และคนแก่ มวลชน กปปส. โดยคนที่นำมาส่ง ได้ถืออาวุธปืนออกจากรถเพื่อไปเก็บ แต่บังเอิญว่าเป็นช่วงจังหวะเวลาที่ตำรวจ สภ.นครนายก ได้รับแจ้งเหตุจากดาราว่ามีตุ้มหูหาย จึงเข้ามาตรวจสอบและพบเห็น จึงเข้าทำการจับกุม

    ซึ่งระหว่างการตรวจสอบอาวุธโดยชายชุดเขียว กอ.รมน.และชายชุดดำน้ำดี สภ.นครนายก มีการโทรมาต่อรองเจรจาต่อรอง ล็อบบี้ ตลอดเวลา จากทั้งชายชุดดำใหญ่ และ นักการเมือง เช่น มือปืน 10 ล้านกระบอกถั่วดำ , รมต.ช่วยคลองหลอด (ที่มีอดีต พขร.ใช้จรวดอาร์พีจี ยิงวัดพระแก้วปี 53 , คลังน้ำมัน และวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงที่จะส่งเขามาใน กทม.) ขอให้ปล่อยการตรวจค้นรถ พร้อมอาวุธ แต่ชายชุดเขียวยืนยันว่าไม่ยอม

    ต่อมาแก๊งค์อั้งยี่แดง ลงทุนส่งนักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการชายชุดดำระดับสูง เดินทางไปขอเจรจา เพื่อไม่ให้ตำรวจบันทึกจับกุมอาวุธดังกล่าว แต่ชายชุดเขียว รอง ผอ. กอ.รมน. จ.นครนายก และชายชุดดำ สภ.นครนายก ไม่ยินยอม โดยรีบรายงาน ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง แล้วไปถึงบิ๊กสีเขียวอย่างรวดเร็ว

    มีการประลองกำลังกันเล็กๆ โดยแก๊งค์อั้งยี่แดง มีการเอารถมาจอดล้อมรถของกลาง เพื่อสกัดไม่ให้ชายชุดดำยกรถของกลางไปไว้ที่ สภ.นครนายก แต่ชุดจับกุมไม่สนใจ รีบ ว.ขอรถยก เพื่อมาทำการเคลื่อนย้านรถของกลาง มาเก็บรักษาไว้ จนกระทั่งเช้าอีกวัน จึงมีการเคลื่อนย้ายอาวุธออกจากรถ เพื่อทำการเก็บรักษา ( ดูภาพการจับกุมบางส่วนที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=XudMnr1dOF0]เย้ยกฎหมาย!!! จับอาวุธสงคราม ณ.รีสอร์ท ส.ส.เพื่อไทยนครนายก - YouTube[/ame] )

    ช่วงชุลมุนกันปิดล้อมกัน แก๊งค์อั้งยี่แดงที่ขนปืนกล ก็ได้ขับรถหลบหนี ออกมาทางถนนรังสิต - นครนายก ถูก ว.สกัดจับ จนมาถึงด่านสกัดชายชุดดำที่ อ.องครักษ์ สามารถสกัดจับจนได้ แต่กลับมีระดับบิ๊กชายชุดดำคนเดิม กลับสารเลวสั่งปล่อยรถกระบะเข้าสู่ กทม.อีก เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป ได้มีการส่งต่อข้อความทางไลน์กลุ่มภายในของเจ้าหน้าที่ว่า "คดีนี้มีคำสั่ง ว. 5 ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการจับกุม ใครตามข่าวเจาะลึกระวังตัวด้วยนะครับ"

    กอ.รมน.จังหวัด รายงานบิ๊กสีเขียวอีกด้วยว่า ยังจับได้อีกเป็นพะเรอเกวียนที่บ้านของ รองนายกเทศมนตรี และ ส.ว. เมื่อบิ๊กสีเขียว ทราบ จึงมีการแสดงความชื่นชม ทางชายชุดดำน้ำดี สภ.เมืองนครนายก ที่ทำตามกฏหมาย พร้อมสั่งให้ กอ.รมน.เกาะติดไม่ปล่อย และขยายผลไปเอาอาวุธที่เหลือออกมาให้หมด

    แต่ ศอ.รส. สั่งให้ปิดข่าวกริบ พร้อมให้สื่อในเครือข่ายแดง ออกข่าวเฉพาะปืน 2 กระบอกนี้เท่านั้น และให้รีบจับอาวุธปืน และยัดยาเสพติด ให้แพะที่ภาคใต้ แล้วให้แถว่าเกี่ยวข้องกับแกนนำ กปปส. ถ่ายรูปแชะๆๆ แล้วปล่อยตัวไปได้ทันที เพื่อดิสเครดิต กปปส.กลบข่าวจับปืนที่นครนายกให้ประชาชนสับสน..คล้ายๆ ที่เป็ดเหลิมจัดฉากจับอาวุธที่สวนลุมฯ และจัดฉากเก็บอาวุธได้หลัง กปปส.ย้ายไปครั้งก่อน

    นี่เป็นคำตอบของหลายคนที่ชอบถามซ้ำๆ ป่วนว่ารู้แล้วทำไมไม่ทำอะไร จากเหตุการณ์กรณีนี้จะเห็นความยากลำบากในการทำงาน ของชายชุดเขียว และชายชุดดำฝ่ายดี เพราะเมื่อจับกุมแล้ว จะถูกทางนักการเมืองของคอมมิวนิสต์แดงเผาไทย และชายชุดดำฝ่ายชั่ว มาเบี่ยงเบนคดีบ้าง ให้ปิดข่าวบ้าง สั่งให้ลูกน้องฝ่ายเลวปล่อยตัวบ้าง และบางคนก็รับจ้างมายิง M79 และปืนกลเสียเอง ใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ปัญหาเรื่องอาวุธมันก็ไม่จบสักที

    สถานการณ์ตอนนี้คือชายชุดเขียว และชายชุดดำ ฝ่ายดี พยายามปกป้องประชาชน และพิทักษ์สถาบันเบื้องสูง แต่แก็งค์คอมมิวนิสต์แดงเผาไทย และชายชุดดำฝ่ายชั่ว และรัฐบาลเทียม ต้องการก่อการร้าย ลอบสังหารผู้บริสุทธิ์ และล้มเจ้า ล้มราชวงศ์..ไปดูหน้าคนพวกนี้ได้คนที่นั่งในศูนย์รวมสัตว์ และที่ถนนอักษะ (ไม่รวมสายลับที่แฝงตัวไป )

    ตอนนี้แถวถนนอักษะ กรุงเทพฯ ทางเข้าที่ชุมนุมของขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดง มีปรากฏการณ์ประหลาดมาก คือ การนำยุทธภัณฑ์ “เสื้อเกราะ” กรีนคำว่า “ Police” ไปแขวนขายกันอย่างเอิกเกริก ตัวละ 4,500 บาท โดยมีรถตราโล่ จอดบังอยู่ใกล้ๆ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ 3,750 คน ที่มาเป็นการ์ดให้กับแก๊งค์ล้มเจ้าแดง นปช...นี่เป็นการยักยอกนำของหลวงจากภาษีไปขายหรือไม่? เสื้อเกราะมีไว้ให้เจ้าหน้าที่ป้องกันตัวจากผู้ร้าย ไม่ใช่เอามาขายให้ผู้ร้าย ป้องกันตัวจากเจ้าหน้าที่ !!

    ทางแก้ปัญหานี้มีทางเดียว คือต้องเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์เผาไทย จะได้เห็นการเปลี่ยนเอาชายชุดดำน้ำดี เข้ามาแทนฝ่ายชั่ว คดีความยิงอาวุธสงคราม M79 ใส่ศาล , ปปช. , ตามบ้านเรือน และใส่เด็ก ผู้หญิง คนชรา จะจับตัวการได้เพราะไม่ใช่ใครที่ไหน มันอยู่ในศูนย์รวมสัตว์นั่นแหละ และจะได้รับการเปิดเผย ชนิดน้ำลดตอผุด ออกมาอีกจำนวนมาก

    สำนักข่าวป๊อบคอร์น รายงานมาว่าขั้นตอนการเปลี่ยนนายกฯ ใหม่คืบหน้าไปมากแล้ว บอกให้ทุยแดงที่ได้ค่าจ้างโพสป่วน เดือนละ 28,000 บาท มาส่องไปรายงานนายว่าคืบหน้าไปกว่า 80 % แล้วว่ะ.. ดิ้นๆๆๆ..ส่วนนาย “ นี่วัดทำโลง ขึ้นโรงขึ้นศาล “ ก็สั่งให้ลูกน้องเตรียมลังกระดาษเก็บของที่ทำงานไปไว้บ้านรอได้เลย จะได้ไม่ฉุกละหุกมาก..

    เอ..ถ้าของอยู่บางส่วนอยู่ในทำเนียบ ก็เข้าไปเอาไม่ได้ เพราะกำนันคุมอยู่ งั้นคงต้องรอไปขอคืนกับนายกฯ คนใหม่แล้วล่ะ..เอาน่ะ ไม่กี่วันเอง..ฮา

    สายรายงานมาว่าพบ ตั้งอาชีวะ ที่พาเมียไปสวีทที่กระบี่ มือเติบควักเงินสดๆ 2 หมื่นจ่ายให้คนขับเรือ และบอกว่าจะอยู่อีกหลายวัน..ชาวบ้านอยากเจอก็ช่วยกันค้นหา

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2014
  12. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696

    [​IMG]

    หลังกลางดึกที่ผ่านมากองทัพบกได้ออกประกาศฉบับที่ 1/2557 ใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ต่อมาได้มีการออกประกาศฉบับที่ 2/2557 เรื่องการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ขึ้นมาลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก

    ประกาศฉบับดังกล่าวอ้างอำนาจตามมาตรา 2 และมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้ดำเนินการดังนี้ คือ หนึ่ง ให้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) โดยมี ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.)

    สอง ให้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 28 เม.ย. 2557 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 20 พ.ค. 2557 เวลา 03.00น. และให้กำลังของหน่วยต่างๆ ตามโครงสร้างการจัดของ ศอ.รส. (เว้น กำลังของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ) เคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตามปกติของแต่ละหน่วย

    นอกจากนี้ตามคำสั่งข้อ 2.2 ของประกาศฉบับที่ 2/2557 ยังระบุด้วยว่า ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งตำรวจและทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ส่งมอบกำลังในอัตราให้ขึ้นควบคุมทางยุทธการแก่ กอ.รส. ทั้งหมดอีกด้วย



    [​IMG]

    ประกาศกองทัพบก
    ฉบับที่ 2/2557
    เรื่อง การจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(กอ.รส.)


    ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกในทุกท้องที่ของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ไปแล้วนั้น

    เพื่อให้มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พุทธศักราช 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ดำเนินการดังนี้

    1.จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(กอ.รส.) ดังนี้
    1.1 ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ผอ.รส.)
    1.2 ให้ กอ.รส. มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้
    1.2.1 ป้องกัน ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ ในทุกท้องที่ของประเทศ
    1.2.2 มีอำนาจบังคับใช้กฏหมายทุกมาตราในพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พุทธศักราช 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว
    1.2.3 มีอำนาจในการเชิญบุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ หรือมาให้ถ้อยคำ หรือส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐานใด เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบได้

    2. ให้หน่วยเกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
    2.1 ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2557 ยุติการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 0300 และให้กำลังของหน่วยต่างๆ ตามโครงสร้าง การจัดของ ศอ.รส. (เว้น กำลังของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ) เคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจของแต่ละหน่วย
    2.2 ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ส่งมอบกำลังในอัตราให้ขึ้นควบคุมทางยุทธการกับ กอ.รส. เมื่อได้รับคำสั่ง เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชน ทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว

    ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2014
  13. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ผบ.ทบ.ประกาศใช้กฎอัยการศึก

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=YytgMB0dpXE]ผบ.ทบ.ประกาศใช้กฎอัยการศึก - YouTube[/ame]

    20 พ.ค.57 ทหารประกาศกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ขอให้อยู่ในความสงบ

    เมื่อเวลาเวลา 03.30 น.วันที่ 20 พ.ค.2557 กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือได้เข้าควบคุมพื้นที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่อง รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โดยมีคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เตรียมประกาศกฎอัยการศึก ขอให้สถานีทีวีต่างๆ เชื่อมสัญญาณการออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

    เวลา 04.00 น. เผยแพร่คำสั่งประกาศกฎอัยการศึก 2 ฉบับ และ ผบ.ทบ.อ่านแถลงการณ์ ประกาศกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร มีผล 20 พ.ค.57 เป็นต้นไปทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนก ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เข้ายึดหน้าบ้านนักการเมืองคนสำคัญ เช่น เป็ดเหลิม ฯลฯ และส่งกำลังควบคุมห้างลาดพร้าว และสื่อมวลชนทั้งหมด สถานที่ยุทธศาสตร์ เช่น ศูนย์รวมสัตว์ ฯลฯ เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว

    ทหารปิดทางเข้าออกถนนอักษะ และจับตรวจบัตร ประชาชนด้วย มีปะทะตำรวจเล็กน้อย..ขอให้ทหารทุกชั้นยศ ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยอย่างเคร่งครัด

    ทหารจัดขนมหวานให้ตามที่แฟนๆ เพจเรียกร้อง !! ขอให้ข้าราชการ และประชาชน ฟังคำสั่งของทหารอย่าเคร่งครัด..จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ

    ตึกชิน 3 ไฟไหม้เมื่อวาน ทหารส่งดับเพลิงปลอมตัว เข้าไปเจออาวุธเพียบ เลยตามมาด้วยการประกาศกฏอัยการศึก เริ่มดำเนินการแล้วครับบุกบ้านเฉลิมค้นอาวุธ และกองกำลัง , จัดชุดบุกบ้านรัฐมนตรีแกนนำที่สงสัยว่าจะมีอาวุธ และกองกำลังทั่วประเทศ , ส่งกำลังเข้าควบคุมบ้านธาริต รอนำตัวมาควบคุมตัวและสอบ “สวน” , จารุพงศ์ เกรงถูกทหาร “สวน” เผ่นออกชายเเดนเข้าลาวแล้ว


    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2014
  14. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    คำสั่งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ฉบับที่ 2/2557
    เรื่อง ให้กลุ่มมวลชนชุมนุมในพื้นที่ที่กำหนด

    ตามที่กองทัพบก ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 03.00 น. เป็นต้นไปแล้วนั้น

    เพื่อเป็นการป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างกลุ่มมวลชน ที่มีความเห็นแตกต่างกัน รวมทั้งเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกฝ่าย ยุติการเคลื่อนย้ายมวลชนไปยังสถานที่ต่างๆ โดยให้ชุมนุมอย่างสงบในพื้นที่เดิม ดังนี้

    1.กลุ่ม กปปส. และมวลชนที่สนับสนุน ให้ทำการชุมนุม ณ ถนนราชดำเนิน และศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
    2.กลุ่ม นปช. และมวลชนที่สนับสนุน ให้ทำการชุมนุม ณ ถนนอุทยาน

    สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย

    -----------------------------------------------
    คำสั่งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
    ฉบับที่ 3/2557

    เรื่อง ห้ามการเสนอข่าว แจกจ่าย จำหน่ายสิ่งพิมพ์ ที่ส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

    ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 03.00 น. ไปแล้วนั้น

    เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และสถานการณ์ความขัดแย้งขยายตัว จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ ในการนำความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2557 ดังนั้น จึงห้ามการเสนอข่าว แจกจ่าย จำหน่ายสิ่งพิมพ์ ที่ส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ดังนี้

    1.ห้ามนำเสนอข่าวสาร ทั้งในรูปแบบของเอกสาร ภาพ สื่อสิ่งพิมพ์ การออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิล สถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุชุมชน ตลอดจนการเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ที่มีเจตนาบิดเบือน ปลุกระดมให้สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย แตกแยก หรือมีข้อความอันอาจทำให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว การเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่

    2.ห้ามแจกจ่าย จำหน่ายสิ่งพิมพ์ ที่มีการนำเสนอข้อมูล/ข่าวสาร อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยตามข้อ 1

    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

    สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย

    ---------------------------------------
    ประกาศ กอ. รส. ที่ 4/2557
    เรียนเชิญบุคคลสำคัญทั้งฟากราชการ เอกชน วิชาชีพ และภาคประชาสังคม ประชุม ในเวลา 14:00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม 2557

    ภาคกลาง เข้ารายงานตัว ที่ สโมสรกองทัพบก
    ภาคอีสาน เข้ารายงานตัว ที่ ค่ายสุรนารี นครราชสีมา
    ภาคเหนือ รายงานตัวที่ ค่ายสมเด็จพระนเรศวร พิษณุโลก
    ภาคใต้ รายงานตัว ที่ ค่ายวชิราวุธ นครศรีธรรมราช

    วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย

    ----------------------------------------
    คำสั่งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่ 5/2557
    เรื่องแต่งตั้งคณะที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย

    ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00น. ไปแล้วนั้น เพื่อให้การดำเนินงานของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดให้แต่งตั้งบุคคลเป็นที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนี้
    1.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    2.ผูั้บัญชาการทหารเรือ
    3.ผู้บัญชาการทหารอากาศ
    4.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
    ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2014
  15. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    20 พ.ค.57 เผย..เป็ดถูกล้อม ริดสีดวงนั่งแคะเล็บ ไฟเขียว ส.ว.ลุยตั้งนายกโลด

    วันนี้วันที่ 20 พ.ค.57 ถือเป็นฤกษ์งามยามดีทางทหาร ครอบรอบ 100 ปีที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก จึงฉลองกันหน่อย เสือที่หมอบสุ่มดูเหยื่อมานาน เดินย่างก้าวออกจากป่า ตามตำราพิชัยสงคราม การก้าวมาในครั้งนี้พร้อมกับดาบลงอาคมอันแรงกล้า พร้อมที่จะฟาดฟันเหยื่อ มนต์ดำทั้งหลายที่เคยทำไว้ทั้งไทยแดง พม่า เขมร คราวนี้จะต้องมีอันต้องสูญสิ้นม้วยมรณา

    ทันทีที่เสือย่างก้าวออกจากป่าเข้าสู่เมือง สิ่งแรกที่เสือคาบมาจากป่า คือ ดาบลงอาคมอันศักดิ์สิทธิ์ ฟันยุบ ศอ.รส.ของเป็ดเหลิม ริดสีดวง ย้อย หายไปในพริบตา พร้อมกับเสกมนต์บังตาสถานีโทรทัศน์หายไป พร้อมตั้ง กอ.รส.ทำหน้าที่แทน สิ่งที่ทำต่อไปคือเสกมนต์สะกดหน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดเสือ และในที่สุดกำลังของขบวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์เผาไทย จะอ่อนลงและสิ้นฤทธิ์ไปในที่สุด

    ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นมาได้มีกำลังทหารบก จากจังหวัดปราจีนบุรี เข้าพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ตั้งจุดตรวจทางขึ้นขาเข้ากรุงเทพมอเตอร์เวย์ ต่างระดับธัญบุรี ถนนรังสิต นครนายก ต่างระดับลำลูกกา ถนนพหลโยธิน ลำลูกกา และที่สถานีภาคพื้นดินไทยคม ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี , มีกำลังทหาร จากกองพลที่ 9 กาญจนบุรี จำนวนสองกองร้อย จาก ร.19 พัน 1 เข้าคุมพื้นที่สถานีไทยคม โดยมีการปิดการจราจรถนนรัตนาธิเบศร์ขาออก ตั้งจุดตรวจตั้งแต่ปากทางถึงสถานีไทยคม จำนวน 4 จุด

    สถานีวิทยุคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ตำบลคูคต และตำบลลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 3 สถานี ได้มีกำลังทหารเข้าไปสั่งปิดสถานีวิทยุห้ามออกอากาศ และให้หยุดจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ

    กองกำลังทหารจากจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมอาวุธปืนเต็มกำลัง เข้าคุมพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังทหารจำนวนมากหลายจุด จุดละหนึ่งกองร้อย โดยมีการตั้งบังเกอร์ ตั้งเต็นท์ และมีรถทหาร รถอัมวี่ จอดอยู่ข้างทางในการตั้งจุดตรวจรถแถวเรียงหนึ่งที่จะเข้ากรุงเทพ เพื่อป้องกันกันเหตุในการเข้ากรุงเทพฯ

    ทหารราบที่ 4 แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ฉก.ร.4 พร้อมอาวุธครบมือ เข้าประจำการควบคุมพื้นที่เป้าหมายสำคัญ เช่น สถานีวิทยุชุมชน และที่คาดว่าจะเป็นแหล่งซ่องสุมของแก็งค์ติดอาวุธเคลื่อนไหว เสนอข่าวโจมตีในอำเภอแม่สอด พุ่งเป้าๆไปที่สถานีวิทยุคนเสื้อแดง ที่มักโจมตีสถาบันเบื้องสูงขบวนการล้มเจ้า และสร้างความแตกแยก ปลุกระดมมวลชน ที่รุนแรง

    ทหารตรึงกำลังแยกบางบอน 5 บางบอน ล้อมบ้านพัก เฉลิม หลายชั้นไม่ให้เข้า ให้ตำรวจที่เฝ้าอยู่ 100 กองร้อยออกไปให้หมด เหลือไว้ให้ดูน่ารักเพียง 5 คนที่หน้าบ้าน ขังเป็ดเหลิมอยู่ในบ้านไว้แบบนั้นไม่ให้เข้าและออก ปล่อยให้แห้งตายไปเอง

    ทหารและรถยนต์อาวุธร้ายแรง ควบคุมด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ศูนย์รวมสัตว์ พร้อมหันปอกกระปอกปืนกลเล็งตรงไปยังภายใน ตำรวจควบคุมฝูงชนหลายพันคน ถูกคำสั่งเฉียบขาดจาก กอ.รส.ของทหาร ให้ถอนกำลังกลับ มีการทยอยขนสัมภาระออกจาก บชน.และศูนย์รวมสัตว์กลับที่ตั้งตามต่างจังหวัด ตำรวจหลายคนดีใจบอกว่าหน้าที่ของตำรวจจบลงแล้ว และทหารได้ช่วยชีวิตของตำรวจทุกคนไว้แล้ว ต่อไปให้สำนึกในการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อแก็งค์คอมมิวนิสต์แดงเผาไทย ที่ต้องการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์

    ส่วน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม มีสีหน้าเคร่งเครียดจัด หลังทราบการประกาศกฎอัยการศึก และกำลังตัดสินใจกลับประเทศไทยก่อนกำหนด..ตำแหน่งปลัดขิกเตรียมรอไว้ให้ไปตำรงตำแหน่งแล้ว

    ทหารใช้กองกำลังฮัมวี่ สีเขียวไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนประมาน 10 คัน รถบัสของทหารอีกประมาน 5 คัน มุ่งหน้า ถ. อักษะ ทหารเข้าตรึงกำลังรอบพื้นที่รอบถนนอักษะ ตรึงลวดหนาม รอบๆ กั้นเหมือนคอกควาย ให้มวลชนเสื้อแดงเดินทางออกมาได้ แต่ห้ามเข้าไปภายใน ปล่อยทิ้งให้แกนนำแห้งตายอยู่ภายใน..เพื่อความเท่าเทียมจะปล่อยให้มวลชน กปปส.เดินเข้าไปทุกเวทีได้ และจะได้รับการอารักขาอย่างดี..ฮา

    คางคกตู่ ประธานแก๊งล้มเจ้าแดง นปช. ที่ ถ.อักษะ เดินคอตก พุงใกล้แตก เพราะว่าอมเงินเข้าไปเยอะ..มวลชนทุยแดง ระส่ำหนักโดนปลุกมาปกป้องแกนนำกลางดึก ทยอยเผ่นหนีออกมาแล้ว เหลือไม่ถึง 100 คน..ถ้าเอ็งจะยกระดับการชุมนุมแค่คน 100 คน..เสธ ว่าเอ็งยกขยะไปทิ้งในถังก่อนดีไหม?..พวกขี้คุย เอาจริงก็ขี้เยี่ยวแตกเรี่ยราด เหม็นถนนว่ะ..

    มวลชนทุยแดง ทะลักกลับออกมาเรื่อยๆ เพราะ “กลัว” มีบางกลุ่มเดินมาประมาณ 20 คน ออกมาขอให้ทหารไปส่งที่โคราช เพราะถูกคางคกกักตัวขังไว้ และรถทัวร์ที่พามาหายไปแล้วจ๋อย !! บอกว่าได้เงินค่าจ้างมาวันละ 500 บาท แต่เงินยังได้ไม่หมด ถูกแกนนำอมไป , ส่วนทุยแดงพม่ารามัญรับจ้างนับ “ร้าง” ตัว หายไปเพื่อกลับไปคัดปลาทูแถวมหาชัย แล้วไม่กลับมาอีกแล้ว..มิงกะละบา..ฮา

    เวลา 14.00 น. กอ.รส.เชิญหน่วยราชการทุกแห่งไปรายงานตัวที่สโมสรกองทัพบก และชี้แจงเรื่องกฎอัยการศึก ท่ามกลางทหารตรึงกำลังขั้นสูงสุดด้วยปืนกลยิงเร็วชนิดอูซี่ จำนวน 4 กองร้อย โดยมีอับดุล มาด้วยและยินดีรับคำสั่งทหารทุกประการ ตำรวจที่ช่วยขบวนการล้มเจ้า เตือนล่วงหน้าแล้วให้รีบพลิกตัว..ฝ่ายไหนจะเป็นนายกฯ และรัฐบาลใหม่ ดูไม่ออกหรือไง ? เขาจะกวาดล้างขบวนการล้มเจ้าอั้งยี่แดง อย่างสิ้นซากแน่ๆ..

    ผบ.ทบ.แจ้งว่าขณะนี้จัดชุด “ไล่ล่า” ผู้ใช้อาวุธสงครามแล้ว ถ้ามีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ ให้ใช้อาวุธร้ายแรงตอบโต้อย่างเด็ดขาดทันที ไม่ต้องเอาไว้ , กฎอัยการศึกเพื่อสร้างเสถียรภาพและความปลอดภัยของประเทศ..” รัฐบาลไม่เกี่ยว” ถอยไปเพราะไม่มีรัฐบาลแล้ว..สถานีโทรทัศน์ยุยงปลุกปั่น ถูกปิดทุกสถานี นี่ปิดไปเยอะแล้ว ใครขัดขืนให้กำลังพลเข้าไปทุบทำลายทันที่ โดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ตามกฎอัยการศึก

    ผบ.ทบ.กร้าวในที่ประชุม เรื่องขัดแย้งนี่ต้องจบ ถ้ายังไม่จบผมจะไม่เกษียณ..ฮา..ผบ.ทบ.ถามคำถามมุกเด็ด " อธิบดี DSI มามั้ย?? มาหรือเปล่า?? ธาริตอยู่มั้ย?? พอได้แล้ว หยุดได้แล้ว เละไปหมดแล้ว หรือถ้าจะฟ้องผมฟ้องสิมาๆ..(ทุกคนหันไปดู พบริดสีดวงนักแคะเล็บ และถักโครเชรอยู่..ฮา )

    เมื่อวานนี้มันยังกร่าง กระดิกนิ้วเรียกรัฐวิสาหกิจ ให้มาคุกเข่าต่อหน้ามัน โดยอาศัยบารมีศูนย์รวมสัตว์เถื่อนของเป็ดเหลิม วันนี้กลับต้องเดินแทบกราบไปรายงานตัวเสียเอง..เตือนมาหลายครั้ง ไม่ฟัง..ความซวยมาเยือนแบบไม่คิดไม่ฝันจะมาเร็วข้ามวันแบบนี้..ริดสีดวง จะโดนคดีอีกเป็นพันคดีรออยู่..เอ็งโดนยัดคุกไปให้นักโทษรับน้องอัดถั่วดำแบบ เจ๋ง ดอกจิก แน่..ป่านนี้ยังหัดเดินอยู่เลย..มันแสบบบ..ฮา

    ทูตพาณิชย์ญี่ปุ่น ชี้กฎอัยการศึกดีต่อไทย เพราะการเมืองจะชัดเจน ไม่กระทบการค้า , พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เห็นด้วยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศกฎอัยการศึก เชื่อว่าการตัดสินใจนี้จะเป็นแนวทางที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น , ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการระดับสูงทั้งหมด เข้ารายงานตัวกองทัพภาค แต่ละแห่งตามคำสั่ง กอ.รส.ของทหาร แล้ว

    ส่วนท่าน สว.น้ำดี และคณะ ที่ไม่ได้บินไปรับเงินค่าจ้างจากคนแดนไกล ที่ตอนนี้อยู่ฮ่องกง ตอนนี้ไฟเขียวสว่างโร่แล้ว เสนอชื่อนายกเฉพาะกิจ เพื่อตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลได้เลยครับ ประเทศไทยตอนนี้ไม่มีนายกฯ ที่มีอำนาจแท้จริง เร่งทูลเกล้าฯ นายกฯ ใหม่ ที่ตรงข้ามกับขบวนการล้มเจ้าเผาไทยได้เลย ตามช่องทางที่หารือกัน ทหารได้กล้าหาญ ทำหน้าที่เป็นตัวอย่างให้ท่านด้านความมั่นคง จัดเตรียมกำลังดูแล ปกป้องรัฐบาลไหม่ให้อยู่แล้ว ดาบอยู้ในมือท่าน ส.ว.แล้ว ฟันฉั่วไปเลย..อย่าได้ลังเล !!

    ถ้าเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 เดือน ชาวนาเขารอไม่ไหวหรอก และเงินคงคลังจะหมดประเทศ ข้าราชการกว่า 7 ล้านคนจะไม่ได้เงินเดือน การค้า ธุรกิจจะหยุดชะงักไปหมด ประเทศรอไม่ได้ ตั้งนายกฯ เฉพาะกิจไปก่อน อีกไม่เกิน 7 วันก็ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลได้ ไม่เกิน 2 เดือนก็จ่ายเงินให้ชาวนาได้แล้ว..อย่าปล่อยให้เขาอดตาย พวกเขากำลังลำบากมาก

    กกต.ก็หยุดเถอะ พอได้แล้วเลือกตั้งไปก็ไม่สำเร็จ ไอ้จะออกระเบียบให้สมัคร ส.ส. ทางอินเตอร์เน็ตน่ะ ต้องออกระเบียบให้ประชาชนใช้สิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ต อีเมล์ เฟสบุ๊ก ไลน์ ด้วย..แต่ที่สำคัญ น้องๆ ชายชุดเขียวเขาฝากมา เขายังไม่อยากเลือกตั้งว่ะ..เลยเอามาบอกต่อให้ เดี๋ยวจะเสียของ สิ้นเปลืองเงินหลวงอีก 3,800 ล้านบาทเปล่าๆ..เชื่อเถอะไม่ Work

    อ.หงอก ที่มากด Like เป็นสมาชิกเพจนี้ ยินดีต้อนรับ แต่ห้ามโพสหมิ่นเจ้าเด็จขาด เพจนี้รักพระเจ้าอยู่หัว จะโดนบล็อกตีดออกไปทันที และ ตับๆๆๆๆๆ...

    หลวงปู่ฯ วันนี้อารมณ์ดี เลยทำแกงส้มเลี้ยงทหาร ทหารเตรียมตัวตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงป่านนี้หลายคนยังไม่ได้นอน ง่วง และบางคนยังไม่ได้กินข้าว ฝากมวลชน กปปส.ที่อยู่ใกล้ ทางครัวของทุกเวที มีน้ำใจต่อน้องทหารที่มาทำหน้าที่รักษาความเรียบร้อยตามกฎอัยการศึก ตามจุดต่างๆ ด้วยครับ

    จากกฏอัยการศึก วันนี้กลายเป็น “กฎอัยการสุข” สำหรับคนไทยที่รักพระเจ้าอยู่หัว ส่วนพวกแก็งค์ล้มเจ้า ล้มราชวงศ์แดงเผาไทย ถ้ามันยังไม่ออก ให้นายกฯ คนใหม่ ที่มีอำนาจเต็มเขามาถีบพวกมันตกลงนรกไป

    ใช้อำนาจกฎอัยการศึกจากทหาร เช็คบิล จำคุก และยึดทรัพย์ พวกมันให้หมด เอาไปจ่ายเป็นค่าจำนำข้าวชาวนา..นาทีทองแล้ว สว.ลุย !!

    ติดตามข่าวของ อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ของทหาร ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/pages/กอรส/750185021669247 แต่ขอเตือนเสื้อแดง หากไปโพสป่วนจะเจอการบังคับใช้ประกาศฉบับที่ 3 ข้อ 1 ติดตามตัวไปถึงบ้านทันที..สำนักข่าวป้อบคอร์น/
    รายงาน

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    21 พ.ค.57 เผย..เบื้องลึกประกาศกฎอัยการ “สุข” เมื่อพยัคฆ์ลบเหลี่ยมโจรแดง

    เมื่อรู้ว่าประเทศไทยคงต้องมี “ นายกฯ เฉพาะกิจ” และ “ รัฐบาลเฉพาะกาล” ที่จะมากวาดล้างคอมมิวนิสต์แดงเผาไทย ภายใต้ชื่อที่หลอกทุยแดงว่า “ ประชาธิปไตยแบบเท่าเทียม” ตรงตำราพิชัยยุทธ์ที่ว่า “ เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผย จึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม “ และจะนำไปสู่ความพ่ายแพ้จนหมดสิ้น เมื่อชายดูไบ สั่งให้เครือคอมมิวนิสต์แดงเผาไทย ออกอาการเป๋หวั่นไหวอย่างชัดเจน ตรงตามการข่าวที่บอกไว้ล่วงหน้าทุกประการ

    ความลับย่อมไม่มีในโลก เมื่อมีสายลับ ภายในศูนย์รวมสัตว์ เดิมที่ถูกยุบไปมีสายลับแฝงตัวไปร่วมทำงานมากกว่า 60 % ที่เป็นเจ้าหน้าที่ DSI ชายชุดดำ และ กอ.รมน. การข่าวความเคลื่อนไหวของศูนย์รวมสัตว์ทุกแหล่งข่าว ทุกวินาที จะถูกส่งให้หน่วยข่าวกรองของชายชุดเขียว และกำนัน แล้วแต่ว่าจะเป็นสายลับสายใด

    ทันทีที่ศูนย์รวมสัตว์ คิดการใหญ่ปฏิวัติตัวเอง กลิ่นทะแม่งนี้ก็ถูกจับตาแบบไม่กระพริบตาจากชายชุดเขียวมาตลอด บิ๊กชายชุดเขียว จึงใช้กลศึกแถลงการณ์ 7 ข้อ เป็นการส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ ว่าห้ามก่อเหตุรุนแรง ไม่เช่นนั้นกองทัพ จะออกมาระงับเหตุเต็มรูปแบบ

    คำขู่ปราม ของบิ๊กชายชุดเขียว ที่ส่งออกมา กปปส. ไม่ร้อนเนื้อร้อนใจ แต่กลศึกนี้มันแสบนักเหมือนเป่าลมแย้ลงในรูปานนั้น ฝั่งรัฐบาลเทียม และ แก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. หวั่นไหวมาก กินปูนร้อนท้องอย่างเห็นได้ชัดเจน ใช้วิธีการโง่ๆ ปล่อยข่าวลือพุ่งเป้าดิสเครดิตกองทัพ โดยตรง โดยออกมาปูดข่าวก่อนว่ากองทัพเตรียมประกาศ “กฎอัยการศึก” เข้าควบคุมการชุมนุม พร้อมทั้งคางคกตู่ปล่อยข่าวลือบิ๊กสีเขียว จะมาเป็นนายกฯ เอง..ตกหลุมพรางแล้วคางคก

    แถมอาวุธที่จับได้จาก “ตุ้มหูกู้ชาติ” ของดาราปากฮ้อย ที่บังเอิญไปปฏิบัติธรรม และพักกับแม่ที่จันทรารีสอร์ท นครนายก ในรถยนต์มาสด้าสีขาว คันที่จับอาวุธดังกล่าว เสี่ยแหมะ อดีต ส.ส.เผาไทย นครนายก ดันไปเผลออ้างว่าเป็นของรีสอร์ท แล้วตอนกลางคืนร้อนรน ส่งลูกชายวิ่งขึ้นโรงพักไปขอชายชุดดำให้ล้มคดี แต่ไม่มีใครกล้าทำเพราะชายชุดเขียว กอ.รมน.จ้องตาเขม็ง พร้อมเสียงคำรามฮึ่มๆ

    พอไปตรวจทะเบียนรถคันนั้น..ดันกลายเป็นรถของ ศรเกลียด กลุ่ม กวป.ที่เที่ยวใช้ M79 ยิง ปปช. , ศาล , ศูนย์รวมสัตว์พวกเดียวกันเอง และเคยถูกซ้อนแผนจับได้พร้อมอาวุธอีก 3 กระบุงที่หน้า ปปช...พิรุธจึงมากแบบผิดปกติมาก ที่เสี่ยแหมะอำพรางเจ้าของรถที่แท้จริง แถมเจอกระดาษเขียนโค๊ตลับอยู่กับอาวุธ ถอดรหัสแล้วเป็นเบอร์ในตึกชิน 3 ที่เคยมาบอกมาหลายครั้งว่าเป็นคลังอาวุธ

    เคยมีมวลชน กปปส.ไปล้อมตึกนี้ ยังถูกยิง M79 และปืนใส่ทุกครั้ง จากกองกำลังบนตึก ต่อมาเกิดมีไฟไหม้ที่ตึกชิน 3 มีใครไม่รู้ปลอมเป็นพนักงานดับเพลิง พังเข้าไปห้องหนึ่งอ้างว่าจะดับไฟ พบคลังอาวุธจำนวนมากและตุ๊กตาหมียัดใส้ระเบิด พร้อมรายชื่อ ป้ายสถานที่ป้ายคล้องคอ ..แต่เรื่องนี้ถูกปิดข่าวรีบออกมาแถ กลบเกลื่อนว่าเป็นหม้อแปลงระเบิด

    ศูนย์รวมสัตว์ ชักกระบี่อีก คือ ส่งหน่วยข่าวทั้งหมดจากสันติบาล-คลองหลอด ไปแอบติดตามความเคลื่อนไหวของ กองทัพ ตลอดเวลา และจับตาสถานการณ์การชุมนุม หากมีแนวโน้มหรือรู้ก่อนว่ากองทัพ จะประกาศกฎอัยการศึก รัฐบาลเทียมและศูนย์รวมสัตว์ จะหวังชิงประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตัดหน้าก่อน..

    เพื่อบีบให้กองทัพ ทุกเหล่าทัพเข้ามาอยู่ในโครงสร้างของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีฝ่ายvyh’pujcf’ยังคงมีอำนาจในการสั่งการอยู่ บิ๊กศอ.รส. มั่นใจว่าสถานการณ์ของรัฐบาลเทียม-แก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. ก็จะไม่เพลี่ยงพล้ำ เพราะปัจจัยที่ทำให้แพ้ กปปส. เหลือแค่ด่านกองทัพเท่านั้น แต่ปรากฏว่าหน่วยข่าวเหล่านั้นกลับแปรพักตร์แทบหมดสิ้น นำความลับไปบอกชายชุดเขียวจนสิ้นใส้พุง..

    ชักกระบี่ซ้ำ เมื่อบิ๊กศูนย์รวมสัตว์ รายหนึ่งเผลอหลุดปากว่า “เรารู้ว่าในขั้นตอนต่างๆ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาจจะติดขัดพอสมควร คงทำได้ยากเพราะขั้นตอนแทบจะไม่อำนวยให้เลย แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาสถานะของรัฐบาลเทียม จึงให้ทีมกฎหมายศึกษาขั้นตอนว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อเตรียมการไว้ก่อน”..ความลับจึงแตกดังโบ๊ะ

    ชักกระบี่ต่อมา ท่าทีของศูนย์รวมสัตว์ ร้อนใจกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ถึงขั้นต้องส่งทีมโฆษก มาแถลงดักทางไว้ว่ายังมี “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ให้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ “กฎอัยการศึก” เป็นแผนแก้เกมของศูนย์รวมสัตว์ที่เตรียมการไว้ ไม่ให้กองทัพ ยึดอำนาจการควบคุมสั่งการข้าราชการไว้ในมือ

    กระบี่วืดสุดท้าย เมื่อย้อยออกคำสั่งระดมชายชุดดำฝ่ายชั่วจำนวนมาก มาอยู่ในวัดตามชานเมือง ส่วนริดสีดวงก็รีบจัดจนเฟอะฟะ “ทำหลักฐานปลอม” ไปหลอกเปาบุ้นจิ้น ว่าทนายแผ่นดินสั่งฟ้อง กปปส.จำนวน 30 คนข้อหากบถแล้ว จึงเสนอเปาบุ้นจิ้นออกหมายจับ..แต่ความมาแตกตรงที่ไปจับ อ.สมบัติ เพราะเอกสาร 5 หมื่นหน้าทนายแผ่นดินต้องอ่านอีก 3-4 เดือน จึงยังไม่ได้สั่งฟ้อง..กลายเป็นว่าริดสีดวง มั่วซั่วทำหลักฐานปลอม

    และเมื่อไปจับสาธิต ที่คอนโด ชายชุดดำฝ่ายชั่ว ดันใช้หมายศาลเก่าปี 56 ไปปลอมขีดฆ่า และเขียนทับลงไปใหม่เอง ไปแสดงเพื่อจับกุม จนโดนมวลชน กปปส.กดดันจนเผ่นแน่บ

    เมื่อสรุปสถานการณ์ได้คำตอบชัดเจนถึงแผนชั่วของขบวนการล้มเจ้าเผาไทยแล้ว บิ๊กชายชุดเขียวจึงทำเหมือนพยัคฆหมอบ ซุ่มจัดเตรียมและคำสั่งประกาศต่างๆ ไว้ แสร้งประชุมหน่วยขึ้นตรง กับกองทัพภาค อ้างเพื่อประเมินสถานการณ์ความรุนแรง แล้วแกล้งให้โฆษกกองทัพ และ กอ.รมน.ออกมาให้ข่าวว่า “ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้แน่ชัด ต้องรอดูไปก่อนสัก 1-2 สัปดาห์ “..ทำให้ฝ่ายขบวนการล้มเจ้าเผาไทย และ นปช.กระหยิ่มยิ้มย่อง ชะล่าใจมาก

    ใส้เตือนเต้น ถึงกับกล้าทำผิดกฎหมายอย่างเอิกเกริก คือรับเงิน 5 ล้านบาท (ซึ่งทำไม่ได้เพราะใส้เดือนเต้นเป็น รก.รมต.ห้ามรับทรัพย์โดยปรากฏหลักฐานเกิน 3,000 บาท..ถ้าใครเอาไปร้อง ปปช.เรื่องนี้ใส้เดือนเต้นโดนอีกคดีที่รุนแรงถึงคุกแน่ๆ ) ประกาศเป็นรางวัลนำจับกำนัน แต่ใส้เดือนเต้นอมเงินนี้ไป 1 ล้านบาท เหลือจริง 4 ล้านบาท

    ในกรุงเทพฯ นั้น กลางคืนราว 22.00 น.ของคืนประกาศกฎอัยการศึก สายลับรายงานพบชายชุดดำหลายกองร้อยพร้อมอาวุธครบมือ เคลื่อนไหวผิดปกติ มีการตั้งแถวจะบุกสลายมวลชน กปปส. ประชิดแนวการ์ด ทุกด่านเตรียมตั้งรับการปะทะ สถานการณ์ตึงเครียดจนทีมการ์ดแทบไม่พูดไม่จากัน

    และราว 24.00 น.ก่อนการประกาศกฎอัยการศึก พยัคฆ์คาบดาบที่หมอบซุ่มมานาน ได้จังหวะเหมาะฤกษ์แห่งพิชัยสงครามชัยชนะ บิ๊กสีเขียวจึงดัดหลังพวกตัวแสบ โดยสั่งการทันทีไปยังกองทัพภาค ให้ทหารตั้งด่านปิดล้อมห้ามทุยแดง เดินทางจากเส้นทางสายเหนือ สายอีสานเข้าชุมนุม ในกรุงเทพฯ ให้ตรวจค้นตลอดสองเส้นทางอย่างเคร่งครัด

    ภายในกรุงเทพฯ ราว 00.30 น. มีการประกาศกฎอัยการศึก ทหารพร้อมอาวุธ พรึบเต็มไปหมดทุกจุดอย่างรวดเร็วปานพยัคฆ์ตะปบเหยื่อ ควบคุมล้อมหน้า สตช. , ศูนย์รวมสัตว์ , บ้านเป็ดเหลิม และบิ๊กชายชุดดำ และทุกจุดที่กำลังชายชุดดำรวมตัวกันอยู่

    ทหารส่งกำลังกว่า 4,000 นายพร้อมอาวูธรุ่นใหม่ ออกมาปกป้องมวลชน พร้อมการตั้งบังเกอร์ , จัดชุดปฎิบัติการพิเศษกว่า 1,000 นาย พร้อมอาวุธใช้รูปแบบ เตรียมตอบโต้กองกำลังไม่ทราบฝ่าย , เคลื่อนกำลังอาวุธหนักและกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงใกล้เคียงจากปราจีน และกาญจนบุรีมาเสริมทัพกว่า 50,000 นาย ควบคุมในพื้นที่ กทม. , เตรียม ฮ.ติดอาวุธหนักกว่า 20 ลำ เพื่อตอบโต้กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่อาจเข้าปฎิบัติการ , ส่งทหารจากภาค 4 ไปเสริมภาค 2 เพื่อตอบโต้การก่อกวนของ นปช. และฐานที่มั่นอีสาน

    มีผู้ใหญ่หลายคนทั้ง ศุภชัย, สุรินทร์, สุรเกียรติ และอีกหลายคน ทำงานด้านสากลต่างประเทศเพื่อทำลายการโกหกของคนแดนไกล

    เวลา 00.30 น. มีเสียงตะโกนจากมวลชน กปปส.ว่า “ทหารออกมาช่วยพวกเราแล้ว” หลายคนกระโดดดีใจ ผู้ชายบางคนน้ำตาไหลออกมา เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีพ่อแม่ ครอบครัวรออยู่ที่บ้าน พวกเขามาต่อสู้เรียกร้องตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญ แต่ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย และชายชุดดำฝ่ายชั่ว จะทำรุนแรงเขาถึงตายและเจ็บอีก ทั้งๆ ที่ศาลคุ้มครองแล้ว ไม่คิดว่าผู้ชุมนุมเขาก็คนไทย ที่มีชีวิตมีจิตเหมือนกัน ชีวิตใครใครรัก ถ้าเขาตายหัวอกครอบครัวเขาจะเป็นเช่นไร และชายชุดดำที่ถูกสั่งให้มาปะทะจะต้องตายอีกเท่าไร

    แน่นอนว่าคืนนั้น ถ้ามีการปะทะระหว่างการ์ด และมวลชน กปปส. กับชายชุดดำปราบจลาจล และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กรุงเทพคงแหลกเป็นจุล แต่ละฝ่ายต้องล้มตายจำนวนมากอาจรวมแล้วเป็นหลักพันคน การประกาศกฎอัยศึกของบิ๊กชายชุดเขียวในครั้งนี้ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว น่ายกย่อง และหยุดการปะทะสูญเสียเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกันเพียงข้ามคืนเท่านั้น ในขณะที่หลายคนกำลังนอนหลับสบาย..พิสูจน์คำโบราณที่ว่า “เลี้ยงทหารพันวัน เอาไว้ใช้วันเดียว “..และวันนั้นได้มาถึงแล้ว

    เมื่อเช้า ทหารตั้งด่านตรวจบริเวณ ถนนอักษะ ทำการตรวจค้นอาวุธและบัตรประชาชนผู้มาชุมนุม มีปฏิกิริยาตอบโต้จากชายชุดดำในเครื่องแบบเล็กน้อย ผลสุดท้ายทหารพูดดีๆ ว่า “หรือจะลอง” ชายชุดดำเลยเงิบหงายเผ่นป่าราบไป มวลชนทุยแดงทยอยกลับต่อเนื่อง เหลือน้อยมาก ข้างในเต็มไปด้วยข่าวลือ..บางคนว่าจะรอขวัญควายยกพวกมาสมทบอีก..การ์ด นปช. จับกลุ่มคุยกันขวัญเสียอย่างหนัก..

    ตอนนี้ นปช.อักษะไปกวาดต้อนคนจรจัดที่ต่างๆ มาไว้ภายในจำนวนมาก จนที่อื่นที่เคยมีหายไปหมดเลย ใครมีญาติอยู่ภายในที่ชุมนุมอักษะ ให้โทรบอกเผ่นออกมากลับบ้านด่วน ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ได้เลย ชีวิตสำคัญกว่า สถานการณ์แบบนี้แหละเหมาะที่สุดที่ “แดงฆ่าแดง” เพื่อสร้างสถานการณ์

    ช่วงค่ำทหารพร้อมอาวุธตรึงกำลังอยู่บริเวณทางเข้าสถานีวิทยุเรดการ์ดเรดิโอ ซ.เปียนนท์ ลำลูกกา ปทุมฯ มีมวลชนเสื้อแดงล้อมสถานีอยู่..ถ้าขวางการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตามกฎอัยการศึก “ทุบ” ลูกเดียว..จนตอนนี้ออกประกาศ กอ.รส.ของทหารมาแล้วจำนวน 12 ฉบับ

    ช่วงนี้รัฐบาลเทียมถังแตก การเบิกจ่ายงบฉุกเฉินคงจะล่าช้าไปบ้าง ใครอยู่แถวถนนอักษะ , ใกล้บริเวณ เดอะมอลล์บางแค , และชานเมือง มีการตั้งจุดตรวจหลายจุด เนื่องจากทหารชุดนี้มาจากต่างจังหวัด ไม่ได้เตรียมตัวมา มีเงินน้อย น้องทหารบางคนยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย หากเจอน้องๆ ทหารตาดำๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจจึงขอความเมตตา ช่วยแบ่งปันอาหาร น้ำ เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ หรือของจำเป็น รวมตัวกันหรือแวะนำไปมอบให้กับทหารจุดนั้นด้วย..ข้าวแดงแกงร้อนจากประชาชน เหมือนสายใยความผูกพันต่อกัน ขอบคุณในน้ำใจไมตรี แทนน้องทหารลูกหลานคนไทยทุกคนมา ณ โอกาสนี้ด้วย

    เสธ ฝันไปว่ามีคำสั่งจากมนุษย์ต่างดาวทางโทรจิต ถึงนักรบลึกลับ ให้กวาดล้างแกนนำแมงเม่าแดงทุกระดับ กว่า 750 ตัวขั้นเด็ดขาด ไม่จับตัวขึ้นศาลเพราะเสียเวลา…ในฝันยังเห็น เลิศ ไม้เก่า แกนนำแดงฮาร์ดคอร์พิษณุโลก ในนามนักรบพระองค์ดำ ที่ใกล้ชิดคนแดนไกล และเคยก่อเหตุปะทะกับนักศึกษารามฯ หลังทราบว่าประกาศกฎอัยการศึก ถึงกับสติแตกวิ่งแก้ผ้าออกจากบ้านกลางดึก แล้วก็ถูกนักรบผีดำรวบตัวหายวับไปทันที..ฝันน่ากลัวจัง อุบาทไม่นุ่งผ้า !!

    ในฝันยังเห็นเงาตะคุ่มๆ ของบรรดา รมต.ตาขาว ไปรวมตัวแบบจิตตก กันที่อุดร บ้านนายพล ป.RGD-5 บางนา และเพิ่งหามไป รพ.ที่ภูเก็ต เตรียมหนีข้ามไปลาว อืมม เครื่องบินส่วนตัวใครหนอ จอดรอที่อำเภอกุมภวาวี ให้น้องๆ นักรบลึกลับไปลูบๆ คลำๆ ดู น่าสนใจสีสวยดีนะ ไอ้น้องพวกนี้ก็มือบอนไปเจาะถังน้ำมัน เจาะลมยาง แถมลืมวางฝักข้าวโพดไว้ในเครื่องยนต์ซะอีก..ฮา

    น้องๆ ทหารแนวชายแดน หากได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือเข้มงวดการเข้าออกชายแดน ให้เข้มงวดตรวจตราการสแกนใบหน้า และเส้นทางธรรมชาติ และบล็อกช่องผ่านทางทุกด่านชายแดน โดยเฉพาะทางด้านอีสาน หากพบเป็นบุคคลที่มีคำสั่งให้จับกุมทันที และชวนเขามาพูดคุยกินกาแฟในค่ายก่อน อย่าให้ออกไปเด็ดขาด หากใครต่อสู้ทหาร และเจ้าหน้าที่ให้พิพากษาด้วยศาลเตี้ยไปพลางๆ ก่อน

    สำนักข่าวป็อบคอร์นรายงานมาว่า ส่วนประเทศเพื่อบ้านโดยรอบกองทัพไทย ได้ประสานทางลับทั้งพม่า ลาว เขมร ขอความร่วมมือไม่ให้ศัตรูของประเทศไทย ไปใช้ดินแดนประเทศเหล่านั้นในการเคลื่อนไหวเป็นปฏิปักษ์กับประเทศไทย ถ้าพบตัวขอให้ใส่ “ถุงปุ๋ย” ส่งกลับมาให้ไทยด้วย

    อืมม บล็อกหมดเบย ยังเหลือโควตาอีก 749 ผู้โชคดีเท่านั้น ถ้าใครเป็นญาติแกนนำแดง แนะนำว่า “โกยเถอะโยม”..ฮา

    ติดตามข่าวของ อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ของทหาร ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/pages/กอรส/750185021669247

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2014
  17. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    ไชโยโห่ฮิ้ว ในที่สุดก็เสร็จซะที 555

    ...ครุฑโวยตามลม สมใจจริงโว้ย
    ขับหัวขโมย ให้โกยไกลตา
    ข้านี้แสนเบื่อ เหลือเชื่อสายตา
    อึดอัดวิญญา แมวบ้ากินเมือง
    เดี๋ยวรอเล่นเรื่อง สร้างเมืองยุคใหม่
    เฉิดโฉมไฉไล ขาใหญ่จงออกมา


    เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน


    เล็บครุฑ นารายณ์ทรง / น็อต ตรามนุษย์

    .
     
  18. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    22 พ.ค.57 เผย..เบื้องลึก ควันหลง ความเด็ดขาด พยัคฆ์สยบ ของชายผู้ไม่ยิ้ม

    พอทหารออกมาประกาศกฎอัยการศึก ไม่รู้ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย ทุยแดง นักวิชากำกวม และสื่อแดงมันเป็นอะไร ดิ้นกันจนปลักโคลนแทบพัง จนโคลนกระเด็นขึ้นมาถูกคนดีที่เดินผ่าน ผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ก็ออกมาว่าประชาชนพึงพอใจถึง 76 % แล้วทุยแดง เป็นสัดส่วนน้อยของสังคมแค่ 24 % จะโวยวายทำไม คนดีเขาไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ทำมาหากินก็ตามปรกติ แต่ปลอดภัยจากแมงเม่าแดงขึ้นก็แค่นั้น ที่อัยการบวชไม่เห็นจะโวยวาย ที่อัยการศึก ทำว่าโวยวาย..ฮา

    เมื่อวันที่ 20 พ.ค.57 กอ.รส.ของทหาร เรียกประชุม หัวหน้าส่วนราชการ ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี สหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรภาคธุรกิจ ที่สโมสรทหารบก ทุกคนมีบรรยากาศชื่นมื่น หมอณรงค์ นั่งรถมากับ ถวิล ยิ้มระรื่น

    หลังจาก บิ๊กสีเขียว ร่ายยาวเกริ่นจนจบ ได้เดินปรี่ตรงไปหาปลัดกระทรวงคลองหลอด บอกว่า "ท่านปลัดมหาดไทย ก็เหมือนกัน ไม่ต้องไปเรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อส. มาสู้กับทหารนะ เพราะไม่มีวันชนะ ไม่มีทางรบชนะทหาร อย่าทำ" ผมมี ท.ทหารอดทน เยอะ..ฮา

    ส่วนริดสีดวงที่แอบไปนั่งซุกที่แถวหลังสุด โดน บิ๊กสีเขียว เรียกให้ขานชื่อ " อธิบดี DSI มามั้ย?? มาหรือเปล่า?? ธาริตอยู่มั้ย?? “ ริดสีดวง ค่อยๆ โผล่หน้ามาน้อยๆ และชูมือน้อยๆ อูมๆ ขึ้นเหนือหัว บอกว่า “มาครับ”..ฮา

    บิ๊กสีเขียว ทำเสียงเข้มๆ ด้วยน้ำเสียงดุดันว่า " ให้ไปถอนคดีความต่างๆ ที่ตั้งข้อหา คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ไหม เพราะสร้างปัญหา ทำให้เกิดความแตกแยก และไม่ได้ประโยชน์ หยุดได้แล้ว เละหมดแล้ว" เสียงเฮดังจน ห้องประชุมแทบพัง เพดานสะเทือนแทบหล่นลงมา ตามมาด้วยเสียปรบมือ และเสียงหัวเราะ ด้วยความสะใจ

    ริดสีดวงพยักหน้าหงึกๆ ตาลอย และนิ่งเฉย ด้วยอาการช็อค..สักพักก็ค่อยๆ เดินตูดงอนออกไปจากห้องประชุม ขึ้นรถกลับไปดูดนมนอน..ฮา

    บิ๊กสีเขียว ยังมีของแถม ฝากไปถึงแกนนำขบวนการล้มเจ้าเผาไทย และแก็งค์อั้งยี่แดง ว่า "แกนนำคนไหน อยากลองดีก็มา อยากรู้เหมือนกัน ผมไม่ได้ท้าทายนะ บิ๊กสีเขียวย้ำ "ผมเอาจริงนะ" ..."อย่ารบกับทหาร ไม่มีวันชนะ" เขาพูดคำนี้บ่อยครั้งมากๆ..อืมม..โกยทั้งศาลาเถอะท่านเจ้าคุณ..ฮา

    เมื่อวันที่ 21 พ.ค.57 หลังจาก กอ.รส.ของทหาร ออกคำสั่ง เชิญมานั่งคุยพร้อมๆกันได้เป็นครั้งแรก ที่สโมสรกองทัพบก ตัวแทนจาก 7 แห่งๆ ละ 5 คน คือ
    - 2 องค์กร (วุฒิสภา / กกต.)
    - 2 พรรคการเมืองหลัก (พท. / ปชต.)
    - 2 กลุ่มมวลชน (กปปส./ นปช.)
    - ครม.เทียมเห็บโลน

    สำนักข่าวป็อบคอร์น รายงานบรรยากาศว่า พอเริ่มการประชุม แต่ละคนที่มาถึงและนั่งรอประชุม ถ่ายภาพตัวเอง กับ คู่กรณี ไปลงอินสตราแกรม กับเฟสบุ๊ก โพสกันอุตลุด โชว์พาวกันหน่อย

    บิ๊กสีเขียว ชายผู้ไม่ยิ้ม เดินเข้ามาพร้อม ผบ.เหล่าทัพ มานั่งหัวโต๊ะ ทุกคนเงียบงันจังงันชั่วครู่ จากนั้นก็เปิดฉากพูดแบบรัวปืนกลอูซี่ แทบจะไม่ให้ใครต่อใครตั้งหลัก ออกตัว ตัดไม้ข่มนาม ตั้งแต่ช็อตแรก " ไหน ไหน ใครว่าผมผิด ที่ประกาศใช้ พรบ.กฎอัยการศึก ใครว่าผมผิด บอกมา แต่บอกก่อนเลยนะ ถ้าคิดว่าผมผิด เดี๋ยวยังมีผิดอีกเยอะ" ..เสียงรัวอูซี่หยุดลง คางคกตู่ นกแสก และก่อแก้ว เริ่มเหงื่อกาฬแตกหยดแหมะๆ ฝ่ามือชุ่มเหงื่อไปหมด

    หลังจากนั้นบิ๊กสีเขียวก็ร่ายยาว ถึงสาเหตุที่ต้องโดดลงมาเพื่อแก้ปัญหา ตามสคริปต์เดิม ที่ต้องการเห็นความสงบ ไม่อยากให้ฆ่ากันตาย "ตอนนี้ พวกผมต้องไล่จับอาวุธสงครามกันทุกวัน วันนี้ก็มีอีก คอยดูซิ มันเยอะมาก" ...เออ..ก่อนหน้านี้ทำไมตำรวจ และ DSI ของริดสีดวง จับใครไม่ได้สักตัว..ที่จับได้ก็มีครั้งเดียวที่ทหารกดดัน ที่หน้า ป.ป.ช.วังเดิมพระบรมฯ นนทบุรี จนจับ M79 , ระเบิด RGD-5 และอาวุธอีกเพียบราว 3 กระบุง

    สังเกตว่าพอพูดถึงตรงนี้ บิ๊กสีเขียว หันหน้ามามองทางแก็งค์ล้มเจ้าแดง นปช. คางคกตู่ และ นกแสก ก่อแก้ว และ ครม.เทียมเห็บโลน ทุกคนต่างไร้เอ็นเอาดื้อๆ บ้างคอตก มองพื้น พิจารณาว่าลายกระเบื้องมีกี่จุดกันหนอ จะมีรอยแยกให้มุดลงไปแบบแผ่นดินไหวไหม บางคนไม่กล้าสบตา ก็เริ่มตาลอย มองเพดาน จิ้งจก ตุ๊กแก พวกเดียวกันจะมีมาไต่ไหมนอ ค้างคาว นกแร้ง ก็ไม่ยักมี ตาเริ่มพร่า พาลจะหน้ามืด

    บิ๊กสีเขียว ได้ที่รัวคำพูดเข้มๆ ปานยิงขู่ออกจากปืนรถถังต่อว่า "ที่นั่ง ๆ กันอยู่เนี่ย บอกซิว่าใครไม่อยากให้ชาติสงบ ในเมื่อทุกฝ่ายอยากให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ก็ต้องมาช่วยกันหาทางออก ผมอยากฝากให้ไปช่วยกันคิด หาทางออกว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนโดยเร็วได้อย่างไร" ทุกคนตอนนี้เริ่มควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อ คากคกตู่ กับ นกแสก เริ่มสังเกตุว่ามือของตัวเองมีมากเกินไป มันเกะกะไปหมด จะวางบนโต๊ะ หรือ ล้างกระเป๋ากางเกง มันก็เอาไม่อยู่

    บิ๊กสีเขียว กระแทกซ้ำด้วยปืนติดรถเกราะว่า "ผมหวังว่า คงจะเสร็จเรียบร้อย จบก่อนพวกผมเกษียณนะ เพราะถ้าไม่จบ ผมไม่เกษียณนะ"..อู้ยๆ..ถึงตอนนี้ รตม.รักษาการ เริ่มมีอาการสีหน้าเหมือนปวดอึ หลายคนอึเริ่มซึมเย้มไหลใส่กางเกงใน..หลังจากนั้น ก็มีรายการเปิดฟลอร์ให้แต่ละฝ่ายแสดงความเห็นกัน

    - ครม.เทียมเห็บโลน / ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย ยังคงยืนยันมุ่งมันที่ใช้กาวตราช้างติดกับเก้าอี้ต่อไป ไม่ลาออก และขอให้ กกต. เดินหน้าเลือกตั้งโดยเร็ว โดยแถเหตุผลเดิมๆ คือ กลัวโดนฟ้องขัด ม.157 และ ให้ ประชาชนที่ไปซื้อเสียง บังคับมาเลือกตั้ง ตัดสินว่า การโกงจำนำข้าว 7 แสนล้าน, การสั่งให้ของแพง แก๊สแพง, น้ำมันแพง, แพงทั้งแผ่นดิน ผิดหรือไม่ ?..เออ..เอากะมันซิ

    - กกต. แสดงท่าทีว่า ถึงอย่างไรก็เลือกตั้งไม่ทัน 3 ส.ค.57 แล้ว และหากสถานการณ์ยังไม่สงบก็ไม่อยากจัดการเลือกตั้ง กลัวโมฆะแล้วถูกฟ้อง เสียเงินสูญเปล่าไปอีก 3,800 ล้านบาท

    - มาร์ค หล่อใหญ่ ข้อเสนอเดิมๆ ที่เคยเดินสายไปพบหลายฝ่าย โดยบอกว่า นักการเมืองควรถอยออกมาสักระยะ

    - กปปส. ของกำนัน ยังคงยืนกราน ต้องปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง และต้องไม่มีรัฐบาลเทียมเห็บโลน และ ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย ที่เป็นนอมินี ของคนแดนไกล

    - แก๊งล้มเจ้าแดง นปช. คางคกตู่ ก็เริ่มเช็ดเหงื่อจนหมาด บิดผ้าออกได้เหงื่อไป 2 ปี๊บ ก็ออกอาการใส่เกียร์ถอยแบบจอมยุทธไร้กระบวนท่า ไม่พูดถึงเรื่องการยกระดับการชุมนุมมวลชนพม่า รามัญวันละ 500 คนของตนอีก แต่กลับพาไปทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนโน่นเลย คือเสนอให้ลงประชามติว่าจะปฏิรูปก่อนหรือเลือกตั้งหรือไม่ไปโน่นเลย

    บิ๊กสีเขียว ยิงคำถามจุดพลุเหมือนปืน ปตอ.ขึ้นมาว่า หากจะมีการตั้งนายกฯ เฉพาะกิจ เฉพาะกาล ขึ้นมาโดยวุฒิสภา จะติดเงื่อนไขกฏหมายอะไรหรือไม่ ทุกคนเงียบไม่มีคำตอบ เพราะทาง ส.ว. ก็ยังคงสงวนท่าที โดยบอกว่าขอมารับฟังก่อน..แต่กลับชำเลืองไปที่เทียมเห็บโลน ที่ยังไม่ยอมลาออก ทางข้างหน้าจึงไม่เนียนนิดหน่อย

    ข้อสรุปหารือวันแรก คือ แต่ละฝ่ายก็ยังคงยืนอยู่ตรงจุดเดิมของตน จนในช่วงท้ายของการหารือ บิ๊กสีเขียว ก็ทำตาวาววาบ กราดสายตามองไปที่ทุกคนประหนึ่งส่ายปากกระบอกปืนไป แล้วพูดว่า ขอให้ทุกฝ่ายไปนั่งคิดว่า จะหาทางออกอย่างไร และจะมาขอคำตอบ พรุ่งนี่บ่าย 2 โมงครึ่ง

    และฟันธงเอาดื้อๆ แบบไร้ดนตรีไทยปี่ขลุ่ยว่า...พรุ่งนี้มันควรจะจบนะ ทั้ง กปปส., นปช.เขาจะได้ยุติการชุมนุม ปล่อยมวลชนกลับบ้านไปทำมาหากินเสียที ถ้าไม่จบ “ผมอาจจะจัดการเอง” ทหารออกมาแล้วต้องจบ ไม่จบผมไม่เกษียณ..ฮา

    งานนี้บิ๊กสีเขียว ใช้สายตาพยัคฆ และเสียงคำรามเสือคาบดาบ สะกดวิญญาณ ตลอดการประชุม คางคกตู่ นกแสก ก่อแก้ว และสหาย ครม.เทียมเห็บโลน / ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย จนกลายเป็นแมลงใต้ดินสายพันธ์ใหม่ ที่ไม่เคยพบมาก่อน คือ “ แมงหงอย “...ฮา

    เสธ จินตนาไปว่าวันที่ 22 พ.ค.57 ช่วงบ่ายก่อนการหารือ ควรพา คางคกตู่ นกแสก ก่อแก้ว และสหาย ครม.เทียมเห็บโลน / ขบวนการล้มเจ้าเผาไทย ไปที่สนามยิงปืนก่อน แล้วให้ทหารจับไปมัดที่เป้าลองปืน ผูกตาทุกคน แล้วให้น้องทหารเอาปะทัดมาจุดเล่น ปังๆๆๆๆ ทดสอบสติของขบวนการล้มเสียหน่อย จากนั้นค่อยแก้เชือกออก แล้วคุมตัวไปที่ห้องประชุม ให้ทหารถือปืนกลอูซี่ เอ็ม M16 มายืนล้อมไว้

    ที่แถวด้านหลังของขบวนการล้มเจ้า ให้ทหารทำทีเป็นใส่แม็กกาซีนปืน ถอดแม็กกาซีนออก แล้วสั่นไกเชะๆๆๆ ดังพร้อมกัน..จากนั้นก็ค่อยเริ่มเจรจา..เสธ ว่า..สัก 1 นาทีก็ได้ข้อสรุปที่ประชุมแล้วนะ..ฮา

    และให้ทุกคนเซ็นต์รับรองรายงานการประชุมที่พิมพ์เตรียมไว้ ส่วน ครม.เทียมเห็บโลน ที่เหลือและหนีไปอยู่ตามแนวชายแดน ให้ทหารเอาใบลาออกไปบริการให้เซ็นต์ถึงที่ ถ้าใครขัดขืนก็อุ้มขึ้นเครื่องบิน เอาไปขึ้นเครื่องเล่นไวกิ้งที่สวนสนุกดรีมเวิลล์ ให้กินอิ่มๆ แล้วขึ้นปล่อยให้แกว่งไว้แบบนั้นสัก 6 ชั่วโมง เดี๋ยวก็ยอมเซ็นต์ลาออกไปเอง แล้วค่อยเปิดแถลงข่าวร่วมกัน โดยทุกคนห้ามพูด ให้เป็นหน้าที่บิ๊กสีเขียว เป็นตัวแทนตอบคำถามนักข่าวเอง จะได้ไม่เสียเวลา เพราะประเทศจะได้เดินหน้า ให้ ส.ว.เสนอตั้งนายกฯ ที่มีอำนาจเต็ม ไปตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล จ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา ลดราคาแก๊สหุงต้ม ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ฯลฯ

    แล้วเริ่มให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิรูปเลย ประชาชนจะได้กลับบ้านไปทำมาหากินตามปกติ อีกสัก 1-2 ปีพอปฏิรูป , จับคนโกงยัดเข้าคุก , ไล่ล่าพวกก่อความรุนแรง พอแก้กฎหมาย กฎเกณฑ์ ปฏิรูปเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการเลือกตั้งใหม่ ให้ทหาร 4 แสนคน คุมเลือกตั้ง ถ้าจับได้ว่าใครโกงเลือกตั้ง ก็เอาตัวไปยิงเป้าถีบตกเขาไว้ก่อน อีกสัก 2 ปีแล้วค่อยเอากระดูกมาสอบสวนทีหลัง ว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธ ถ้ายอมรับก็คืนกระดูกให้ญาติไป ถ้าปฏิเสธ ก็เอาพานท้ายปืนทุบกระดูกให้ป่น..แล้วเอาไปทำปุ๋ยใส่ต้นไม้

    ประเทศไทยจะได้เป็นไปตามกลอนที่มีผู้แต่งไว้ คือ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา , คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา , ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ

    -----------------------------
    นอกจากกฎอัยการศึก ตอนนี้มีประกาศ แพร่หลายที่สำคัญ 2 อย่างที่มีผลกับชีวิตประชาชนอย่างรุนแรงมาก อาจเสี่ยงยกระดับไปสู่ความรุนแรงได้ คือ

    ประกาศกฎภริยาศึก
    1. ให้สามีกลับถึงบ้านก่อน 18.00 น. งดงานล่วงเวลา ไปกินข้าวกับลูกค้า ฯลฯ ทุกกรณี
    2. เข้าบ้านแล้ว ห้ามออกจากบ้านก่อน 6:00 น. ยกเว้นมีคำสั่งจาก ผบ.ทบ.
    3. กวาดบ้าน ถูบ้าน ขัดห้องน้ำ ทิ้งขยะ เก็บกวาดลานบ้านให้สะอาดเปนระเบียบเรียบร้อย
    4. ถ้าหิว ให้กินกับข้าวเท่าที่มี ห้ามสั่งเพิ่ม
    5. อาบน้ำล้างตัวให้สะอาด แล้วมานวดให้ภริยาหายปวดเมื่อย หรือจนกว่าจะหลับ
    6. ห้ามโต้ตอบหรือเถียงหรือเรียกร้องสิทธิ-ความยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น ให้ยึดถือว่าคำพูดของภริยาเป็นคำสั่งเด็ดขาด

    ประกาศมาให้สามีทราบโดยทั่วกัน หากขัดขืนมีโทษสูงสุด ห้ามออกนอกบ้านตลอดชีวิต
    ประกาศ โดย ผู้บังคับบัญชาที่บ้าน (ผบ.ทบ )

    -----------------------------

    และมีประกาศ กฎสามีออกศึกฉบับที่ 1 ออกมาสวนทันที
    1. เมื่อสามีไปออกศึกห้ามถามว่าไปไหน จะกลับเมื่อไหร่ เพราะเป็นความลับสูงสุด
    2. ห้ามโทรศัพท์หาเด็ดขาด เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล
    3. ให้ภรรยาปฏิบัติหน้าที่แทนสามีตามประกาศกฎภริยาศึก ข้อ 3, ข้อ 4 โดยเคร่งครัด
    4. ATM ที่ยึดไปให้ส่งคืนสามี เพื่อไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน
    5. หากสามีกลับดึกให้นึกเสมอว่า สามีกำลังปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ

    ประกาศให้ภรรยาทราบโดยทั่วกัน หากฝ่าฝืนจะกักขังจำคุกหัวใจตลอดชีวิต
    ประกาศ โดย ผู้ไต้บังคับบัญชาที่บ้าน (ผต.ทบ )

    -----------------------------

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤษภาคม 2014
  19. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    23 พ.ค.57 เผย..คำพูดที่สำคัญก่อนการยึดอำนาจ จากคอมมิวนิสต์เผาไทย

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านนี้มีความจงรักภักดีมาก และหลายครั้งท่านทนไม่ไหวที่เสื้อขบวนการล้มเจ้าเสื้อแดง จาบจ้วงให้ร้ายสถาบันเบื้องสูง หลายคนที่ติดตามเพจนี้มานาน จะรู้สึกถึงความรู้สึกตามคำพูดของท่านได้อย่างดี ว่ามีอะไรที่คล้ายๆ กันมาก

    มีบทสัมภาษณ์ทางสื่อแห่งหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม จะสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจ ให้ไปดูด้วยตา ฟังด้วยหูท่านเองให้จบก่อน ที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=GoralvuoXPE]พลเอกประยุทธ พูดถึงขบวนการล้มเจ้า - YouTube[/ame] แล้วค่อยมาอ่านเนื้อหาต่อ

    คลิปวิดีโอนี้อาจตรงหัวใจคนไทยทุกคนที่จงรักภักดี ว่าถึงเวลาแล้วที่ทหารจะต้องปกป้องสถาบันเบื้องสูง จากคอมมิวนิสต์แดง เพื่อรักษารากเหง้าอารยธรรมของชนเผ่าไทย ที่มีคู่ประเทศเรามา 800 ปีแล้ว..เพื่อให้ส่งต่อความภูมิใจอารยธรรมนี้ให้ลูกหลานสืบต่อไป ช่วงนี้ท่านพูดเมื่อเดือนมีนาคม 2557 ที่รัฐบาลเก่ายังมีอำนาจเต็ม จึงอาจมีบางส่วนที่กล่าวถึงผู้ชุมนุม ที่จำเป็นต้องมีลับ ลวง พราง บ้าง เพื่อไม่ให้รัฐบาลในช่วงนั้น หวาดระแวง

    ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประกาศยึดอำนาจ ว่า ผู้เข้าร่วมประชุมชุดเดิมเมื่อวาน ที่เดินทางไปรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ที่ทางกองทัพได้จัดกำลังทหารเข้ามาดูแลภายในตัวอาคารสโมสรกองทัพบก ที่ใช้เป็นสถานที่หารือจำนวนมาก โดยแต่ละคนพกอาวุธประจำกาย

    ขณะเดียวกันบรรดาเสนาธิการทหาร ก็ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่วันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ( เรื่องหารือเดิมที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.238703626319672.1073742012.187529244770444&type=1 ) แม้จะมีเจ้าหน้าที่ทหารประชำการในอาคารแต่ก็ไม่มีการพกพาอาวุธ และแต่ละเหล่าทัพก็มีเพียงผู้นำ หรือตัวแทนเหล่าทัพบางคนเท่านั้น นอกจากนี้ก่อนการหารือยังได้มีการขอเก็บเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดของผู้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากการหารือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ได้มีภาพภายในห้องประชุมออกไปเผยแพร่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากให้มีภาพในลักษณะดังกล่าวหยุดออกไปอีก และได้กีดกันผู้ติดตามให้ไปรอผู้ร่วมประชุมอีกชั้นหนึ่ง

    เมื่อการประชุมเริ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เสนอแนวทางตามที่ได้ให้การบ้านไปก่อนหน้านี้ โดยแต่ละฝ่ายก็ยังคงนำเสนอแนวทางในมุมของตัวเองซึ่งเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศแล้ว เมื่อแต่ละฝ่ายไม่มีจุดร่วมที่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอพักการประชุมและเชิญแกนนำฝ่าย นปช. และ กปปส. ไปหารือร่วมกันอีกห้องหนึ่ง ประมาณ 45 นาที เมื่อกลับมาที่วงหารือแล้ว ก็ยังได้เชิญเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไปพูดคุยกันส่วนตัวประมาณ 1 นาที ก่อนที่จะกลับมาที่วงหารือ

    จากนั้น พล.อ.ประยุทธได้สอบถาม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรมในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ว่าตกลงรัฐบาลยืนยันไม่ลาออกทั้งรายบุคคลและทั้งคณะใช่หรือไม่ ซึ่งนายชัยเกษม ระบุว่า "นาทีนี้ไม่ลาออก" พล.อ.ประยุทธ์ จึงบอกว่า “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง” จากนั้นก็ได้เชิญ ตัวแทน ส.ว. และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกจากที่ประชุม โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้ แต่ขอให้ยังอยู่ในพื้นที่สโมสรทหารบก เพื่อรอเคลียร์บุคคลไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ก่อน ส่วนตัวแทนจากฝ่ายอื่นๆ ก็ได้ถูกควบคุมตัวไปยังสถานที่หนึ่ง

    เวลา16.30 น.พล.อ.ประยุทธ ได้เดินทางออกจากสโมสรทัพบกโดยรถประจำตำแหน่งพร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพทั้งหมดรวมทั้ง ผบ.ตร.เดินทางไปที่ราบ 1 รอ. จากนั้นกองร้อยปราบจลาจลได้บุกเข้าชาร์จตัวผู้เข้าประชุม เอาขึ้นรถตู้ไปที่ราบ 1รอ.

    ตามมาด้วยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557
    เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ

    ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น

    เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป

    ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียว

    สำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง

    ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

    ----------------------------------
    และตามด้วยประกาศที่สำคัญหลายฉบับ เช่น
    ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2557
    เรื่อง แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ในคณะรักษาความสงบแแห่งชาติ เพื่อให้การบริหารประเทศ และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่ง ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้

    1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    2. พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    3. พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    4. พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    5. พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    6. พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
    หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    ----------------------------------

    คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 2 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม วันที่ 23 พ.ค.57 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์
    1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
    2.สมชาย วงศ์สวัสดิ์
    3.วราเทพ รัตนากร
    4.นพดล ปัทมะ
    5.โภคิน พลกุล
    6.พิชัย นริพทะพันธ์
    7.ภูมิธรรม เวชยชัย
    8.สาโรช หงส์ชูเวช
    9.สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
    10.พล.ท.มนัส เปาริก
    11.พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
    12.พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก
    13.นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช
    14.พันศักดิ์ วินยรัตน์
    15.สุรนันท์ เวชชาชีวะ
    16.วรพงษ์ ตันติเวชยานนท์
    17.ยงยุทธ ติยะไพรัช
    18.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
    19.พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา
    20.เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์
    21.เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
    22.ธงทอง จันทรางศุข
    23.พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง

    ให้บุคคลที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ มารายงานตัว ณ กองบัญชาการรักษาการทหารบกแห่งชาติ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
    1. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
    2. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
    3. นายจาตุรนต์ ฉายแสง
    4. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี
    5. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
    6. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
    7. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง
    8. นางเบญจา หลุยเจริญ
    9. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์
    10. นางปวีณา หงสกุล
    11. พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต
    12. นายพ้อง ชีวานันท์
    13. นายยรรยง พวงราช
    14. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์
    15. นายสนธยา คุณปลื้ม
    16. นายประดิษฐ สินธวณรงค์
    17. นายสรวงศ์ เทียนทอง
    18. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

    ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะขอเล่าในครั้งต่อๆ ไป

    ---------------------------------

    ถึงบทกลอนที่ว่า ” ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฟ้าคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “ มันเป็นจริงแล้ว

    มิตรสหาย..นี่อาจเป็นบาดแผลที่พวกเราเจ็บปวดอยู่คนเดียว..แต่ได้โปรดอย่าโดดเดี่ยวประชาชน , มิตรสหาย..นี่อาจเป็นบาดแผลที่เราเจ็บปวดโดยลำพัง..แต่ได้โปรดอย่าหันหลังให้ประชาชน..ขอชัยชนะจงเป็นของประเทศไทย..อันเป็นที่รักของเราทุกคน

    ขออัญเชิญ พระบรมราโชวาทในหลวง ที่พระราชทานแก่คณะนายทหาร ซึ่งได้รับพระราชทานเลื่อนยศนายพล ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคาร ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2514 ความว่า "...การที่ได้ขอให้ท่านทั้งหลาย พยายามปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดก็เพื่อเกียรติของตน เพื่อเกียรติของกองทัพ เพื่อเกียรติของบ้านเมือง และเพื่อสร้างหลักฐานที่แข็งแรง เพื่อให้เราทั้งหลายได้สามารถอยู่เป็นปึกแผ่นและมีความปลอดภัยทั้งในด้านกองทัพโดยตรง และทั้งในด้านกิจการต่างๆ ที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า....

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)
     
  20. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ทหารควบคุมตัวแรมบ้า หัวหน้ากองกำลังการ์ดติดอาวุธ อพปช.ล้มเจ้าได้แล้ว
    - นี่วัดทำงง เดินตรงหาทหาร และ รมต.แดงล้มเจ้าหลายคน มารายงานตัวกับทหารแล้ว
    - ออกประกาศเรียกบุคคลเพิ่มอีก 141 ราย มารายงานตัว มีแกนนำและพิธีกร กปปส.นิดหน่อย เพื่อให้ดูเนียน ป้องกันถูกต่างประเทศและเสื้อแดงกระแนะกระแหน แต่จะให้การดูแลอย่างดี ขอให้เชื่อใจทหาร
    - ส่วนเรื่องเปิดสารคดีเบื้องสูง ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะยังอยู่หัวเลี้ยวหัวต่อ ต่างประเทศ และเสื้อแดง จะหาเรื่องโจมตีพระองค์ได้
    - ยืนยัน 100% ไม่มีทหารเชียงใหม่ โคราช หรือที่ใดแม้แต่คนเดียว ที่คิดกระด้างกระเดื่อง และไม่ฟังคำสั่ง เพราะทหารถือว่าในกฎอัยการศึก ใครแบบนั้นจะกลายเป็นกบถ และโทษหนักมาก จึงเป็นไปไม่ได้เลย ระบบของทหารไม่มีวันจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ไม่เหมือนตำรวจแน่นอน กำลังพล 4 แสน เป๊ะ คุมอยู่หมัด
    - ออกคำสั่งห้ามตำรวจพกอาวุธสงครามเด็ดขาดทุกกรณีแล้ว ถ้าใครจะพกต้องทำเรืุ่องขออนุญาตบิ๊กสีเขียวคนเดียว
    - เรื่องตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แต่พวกขี้โม้ แดง เชิญยิ้ม ไปวันๆ ไม่มีใครกล้าจริงสักราย
    - เรื่องต่างประเทศ อย่าไปใส่อารมณ์ นี่คือประเทศไทย มีทรัพย์ในดิน สินในน้ำ และพลังงานใช้ไปชั่วชาติ ไม่มีประเทศยุโรปไหนโง่ขนาดกล้าทำจริง เขาแค่ทำตามพิธีการปกติ เขากลัวเราจะค้าขาย หรือให้สัมปทานพลังงานกับจีน จนขี้ขึ้นหัว เพราะใกล้หน้าหนาวบ้านเขาแล้ว เขาต้องใช้พลังงานมาก ขืนเรายกเลิกการขายให้ เขาเดือดร้อนหนัก..สรุปไม่มีประเทศใดกล้าขัดแย้งรัฐบาลใหม่ เพราะผลประโยชน์ประเทศเขาสำคัญกว่า
    - ส่วนเรื่องจัดการระบอบชั่วเดิม คำว่า "ถ้าผมทำจะไม่ซ้ำรอยบิ๊กบัง" น่าจะตอบข้อสงสัยได้หลายคน
    - คดีความโกงชาติต่างๆ เดินหน้าไปตามปกติ เพราะยึดอำนาจครั้งนี้ ไม่ได้ล้มรัฐธรรมนูญปี 50 แค่ "ระงับใช้" บางมาตรา"ชั่วคราว" เท่านั้น ไม่เคยใช้เทคนิคนี้มาก่อนเลย พวกหวังล้มกระดาน เจอเสือเล่ห์เหลี่ยมฉลาดมากกว่า จึงแห้วว ปาย
    << สำนักข่าวป็อบคอร์น/รายงาน

    @เสธ น้ำเงิน
    ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai

    (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/photos_albums)


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤษภาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...