บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

สวัสดีครับ...

มาว่ากันเรื่องการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อพลิงกันดีกว่าครับ..!!!

ปกติแล้ว.. ศัตรูคู่อาหาตของเจ้าน้ำมันเชื้อเพลิงเท่าที่ผมเคยเจอมาก็น่าจะมีเพียงเจ้า"เชื้อรา" ( Fungus ) เท่านั้นเองนะครับ.. ที่ทำให้เจ้าน้ำมันเชื้อเพลิงมันหมดสภาพได้เร็วกว่าวัยอันควร...555

แล้วเจ้าเชื้อราในถังน้ำมันเชื้อเพลิงนี้...
มันก็ได้รับแรงสนับสนุนจากเจ้า"อ๊อกซิเจน"ด้วยสิครับ..!!!

โดยเจ้าออีอกซิเจนนี้มันก็มาจาก"น้ำ" ครับ..

ผมขอยกตัวอย่าง... การเกิดเชื้อราในถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงในตัวเครื่องบินที่ผมดูแลอยู่เป็นตัวอย่างนะครับ..!!!!!

เริ่มมาจากบริเวณเหนือผิวน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังเก็บ ( Fuel Tank )
มันก็จะมีอากาศอยู่ด้านบนของน้ำมันเชื้อเพลิง...

พอเครื่องบินขึ้นและลง.. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิก็ทำให้อากาศในถังน้ำมันควบแน่นตัวเอง ( Condensation ) กลายเป็นหยดน้ำเกาะที่ผิวภายในถังน้ำมัน..

ที่นี้.. หยดน้ำเหล่านี้มันก็จะไหลลงไปผสมกับน้ำมัน
โดยน้ำมีค่าความถ่วงจำเพาะ ( Density ) มากกว่าน้ำมัน.. น้ำจึึงไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นล่างของถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง..

และน้ำก็มีส่วนประกอบทางเคมี เป็น H2O ซึ่งมีอ๊อกซิเจนเป็นส่วนประกอบ..

สรุปว่า... ตอนนี้ในถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องบินผม มีทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง.. น้ำ.. และอ๊อกซิเจน..

วันดีคืนดี.. ระบบแสดงข้อมูลเชื้อเพลิงบนเครื่องบินก็เกิดรวนขึ้นมาซะงั้น ( Fuel Indication System Fault ).... ตรวจสอบไปตรวจสอบมาพบว่ามันเกิดเชื้อราขึ้นในถังนะสิครับ..!!!

ปกติ..เจ้าเชื้อรานี้มาแต่ใดไม่ปรากฏที่มา..
สปอร์ ( Spore ) ของมันอาจจะติดเข้ามา...ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง..???

พอเจ้าสปอร์หรือแม้แต่ตัวเชื้อราเอง..
เมื่อมันเข้ามาในถังเก็บน้ำมันได้แล้ว..ก็หวานเลยละครับ..!!!

อาหารของมันก็คือ.. เจ้าตัวน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นแหละ !!!

ของที่เรากินไม่ได้... มันไม่ได้แปลว่าคนอื่นเค้าจะต้องกินไม่ได้แบบเรานะครับ..!!!!

ในกระบวนการเติบโตและย่อยสลายของเจ้าเชื้อรานี้..
มันใช้อ๊อกซิเจนเป็นส่วนประกอบด้วยนะสิครับ..!!!

สุดท้าย... พอมันอิ่มหมีพลีมันส์เรียบร้อยแล้ว
มันก็จะถ่ายของเสียออกมา.. ซึ่งมันจะมีฤทธิ์เป็นกรด ( Acid ) !!!

ไอ้เจ้าของเสียที่มีค่าความเป็นกรดนี้..
ก็จะกัดทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปสัมผัส.. ในถังน้ำมันเครื่องบินผมโครงสร้างมันเป็นอลูมิเนียมแทบทั้งนั้น.. ก็จะโดนกัดกร่อน ที่ทางภาษาช่างเครื่องบินเราเรียกว่า Corrosion กิน !!!

ดังนั้น.. วิธีการป้องกันง่ายๆที่ทุกสายการบินกระทำอยู่ก็คือ..

1. กดปุ่มระบายน้ำออกจากถังน้ำมันบ่อยๆ ( Water drainage )
2. ถ้าไม่ชัวร์.. ก็ตรวจด้วยชุดทดสอบว่าน้ำมันเกิดเชื้อราขึ้นหรือป่าว ??? ( Microb Test Kit )
3. ส่วนเมื่อเกิดเชื้อราขึ้นในถังแล้ว จะต้องทำอะไรต่อไปนั้น..
อันนี้เรื่องยาวเลยละครับ.. ไม่ขอกล่าวถึงนะครับ..

Note : ปกติน้ำมันเชื้อเพลิง จะใสมีสีแตกต่างกันตามแต่ผู้ผลิตจะเติมสีใส่เข้าไป.. แต่จะ "ใส" ครับ...

เมื่อเกิดเป็นเชื้อราขึ้น.. น้ำมันจะเปลี่ยนสภาพเป็นสีน้ำตาลไหม้ถึงสีดำ แบบสีน้ำโค๊กน้ำเป๊บซี่เลยละครับ.. แถมด้วยมีสารแขวนลอยแบบเมือก ลอยผสมอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยครับ..

ไอ้เจ้าเมือกนี่แหละครับ.. ไอ้ตัวแสบ !!!
พอมันไหลไปตามระบบทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน..
มันจะไปทำให้ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง... "ตัน" !!!!

เมื่อไส้กรองตัน.. ก็จะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงถูกจ่ายไปยังเครื่องยนต์เจ็ท !!!!!
ที่เหลือ.. คุณก็คงจะเดาออกนะครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นต่อกับเจ้าเครื่องบินลำนี้ ?????

 

ที่นี้.. ถ้าเราอยากจะเก็บน้ำมันเอาไว้ใช้ทั้งในระหว่างและหลังเกิดภัยพิบัติแล้วนั้น..
เราจะเก็บมันอย่างไรดีละ ???

ผมมานั่งคิดๆแล้ว.. ก็ได้ไอเดียง่ายๆมาลองทำดูครับ..

เชื้อราจะเจริญได้ดีโดยมีอ๊อกซิเจนเป็นส่วนประกอบ..
ถ้าเราตัดอ๊อกซิเจนออกไปละ ???

......................................................

ผมเลยคิดว่า..ถ้าหัวถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเราไม่มีอากาศละ ???

ผมเลยจะใส่ "ก๊าซอาร์กอน" ( Argon ) ลงไปแทนอากาศปกติ..!!!
ซึ่งคุณสมบัติของอาร์กอน คือ เป็นแก๊สที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ เป็นแก๊สเฉื่อยและไม่เป็นพิษ

ผมเลยทดลองทำชุดทดลองเอาไว้ 4 ชุดครับ..
1 ชุดประกอบด้วย

- น้ำมันดีเซล 1 ขวด ขนาด 0.75 ลิตร
- น้ำมันเบนซินแบบไม่โซฮอล 1 ขวด ขนาด 0.75 ลิตร
- น้ำมันเบนซินแบบโซฮอล 1 ขวด ขนาด 0.75 ลิตร
โดยแต่ละชุด.. ผมจะใส่ก๊าซอาร์กอนไว้บนหัวขวดเก็บน้ำมัน..

ดังนั้น.. ผมก็จะมีชุดทดสอบเหมือนกันอยู่ 4 ชุด..
ทุกชุดจะเขียนวันที่บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงและวันครบกำหนดเปิดออกมาทดสอบกำกับเอาไว้ทุกชุด..

ระหว่างที่เก็บอยู่นั้น..
ผมก็จะสังเกตการเปลี่ยแปลงสภาพในเชิงการภาพ..
ทั้งเรื่องสีและความใสของน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละแบบครับ..

และเมื่อครบกำหนด 1 ปี ( 13 เมษายน 2558 )
ผมก็จะเอาน้ำมันชุดแรกออกมาทดลองใส่เครื่องยนต์เล็กเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการจุดระเบิด...

ครับ.. ในสงกรานต์ปี 59... ผมก็จะเอาเจ้าชุดที่สองอกมาทดสอบเช่นกัน
ก็จะทำการทดสอบแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกวันสงกรานต์..!!!

เดี๋ยวก็จะได้รู้ว่า.. วิธีการเก็บโดยใช้อาร์กอนอัดอยู่บนหัวถังมัน work หรือป่าว ???

เพราะก๊าซอาร์กอนเราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป..
ราคาก็ราวๆ 1,000 บาท/ 6Q

ถ้าแนวความคิดนี้ประสพความสำเร็จ.. เราก็จะได้วิธีเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้ใช้ได้นานๆ...
ด้วยวิธีง่ายๆ.. และราคาไม่แพงเลยครับ...!!!!!

 

ผมยังนึกภาพตามไม่ออกว่าจะเอาก๊าซใส่เข้าไปยังไง โดยป้องกันไม่ให้ไหลออกมาตอนปิดฝาครับ

ถ้าเราใส่น้ำมันให้เต็มถังเลยเพื่อไล่อากาศออก แล้วหาวิธีซีลฝาปิดไม่ให้อากาศเข้าจะได้ผลเหมือนกันไม๊ครับ

 

คุณบอยครับ

ใช้ก๊าซไนโตรเจนแทนอาร์กอนก็ได้ครับราคาถูกกว่าครับ

 

สวัสดีครับ.. คุณ tastiny กับคุณ tossapornk

ที่จริงแล้ว.. ที่ผมเอาอาร์กอน (AR) มาใส่ในขวดทดลองนั้น..
มันมีอยู่แล้วใน Shop ไม่ได้ไปหาซื้อนะครับ....อิอิ

ใช่ครับ.. ไนโตรเจนจะมีราคาถูกกว่าอาร์กอนมาก
ถ้าไนโตรเจน 200 บาท/6Q... อาร์กอนก็ 600 บาท/6Q เลยครับ..!!!

..................................................................

ส่วนวิธีเอาอาร์กอนเอาขวดทดลอง..
ก็เล่นแบบบ้านๆเลยครับ.. อาร์กอนอยู่ในขวดเก็บซึ่งมีแรงดันอยู่ภายใน

ก็เปิดให้ก๊าซอาร์กอนมันไหลเข้าไปในขวดทดลอง...
เปิดไล่อากาศสักพักนึง.. แล้วจึงซีลปิดปากขวดทดลองนะครับ..!!!

Note : เปิดก๊าซไล่อากาศสักพัก กะให้มันไล่มวลอากาศเดิมออกให้มากที่สุด

ค่าความถ่วงจำเพาะ ( Density )
- Air = 1
- Nitrogen = 0.00125
- Oxygen = 0.001429
- Argon = 0.00165

............................................................

ถ้าคุณมีเครื่องดูด Vaccuum อากาศอยู่แล้ว..
จะลองเอามาใช้งานดูดเอาอากาศออก ก็น่าจะดีที่สุดในการกำจัดอ๊อกซิเจนนะครับ..


แต่ที่นี้เวลาเราต้องการเอาน้ำมันออกมาใช้งาน..
ตอนนั้น.. ในถังแรงดันภายในมันจะมีค่าติดลบอยู่ ( Negative Pressure )
มันก็ต้องหาก๊าซอะไรใส่เอาไปแทนที่ปริมาตรที่อยู่เหนือผิวน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น..
ผมว่าเอาไนโตรเจนใส่เข้าไปก็ง่ายและก็ถูกตังส์ดีนะครับ..!!!

 

15 เมย. ที่ผ่านมาไปทำบุญ หลวงปู่โทนและพระอาจารย์ลอยติดกิจนิมนต์ เวลามีจำกัดจึงรีบคลานไปหาพระอาจารย์ลอย ท่านก็มีเวลาให้ 5 นาที ท่านว่าต้องบูรณะวัดร้างซึ่งเป็นที่ๆดีมากๆ ชัยภูมิดีมากๆ และต้องเร่งสร้างโบสถ์ เจดีย์ ให้แล้วเสร็จ อีกประการมันเกี่ยวเนื่องกับปล่องพญานาคที่คำชะโนด ปล่องมันมาถึงที่วัดบ่อกรุนี่ด้วยเช่นกัน และยังมีที่...(ผมจำไม่ได้) ท่านพูดเร็วมาก...ถ้ามีสิ่งใดติดขัดให้รีบมาถามใน เมย.-พค. นี้ หลังจากนั้นหลาวงปู่โทนอาจต้องไปขึ้นเป็นเจ้าอาวาสที่อื่น ที่สอนๆไปจงจดบันทึกใส่สมุดเป็นตำราไว้เพื่อลูกหลานภายภาคหน้าได้ศึกษาสมาธิ...พูดเสร็จท่านก็ไป ไม่ทันได้ถามอะไรมาอัพเดตให้อ่านกันเลยครับ มีแต่แบบเกริ่นๆไว้นิดนึงตามเนื้อหาข้างบน ไว้โอกาสหน้า เดี๋ยวไปอีกครับ เพื่อนๆคงได้อ่านกัน....จบครับ..

 

ส่วนภาชนะใส่น้ำมันเชื้อเพลิงนั้น..
เท่าที่ผมคิดอยู่ในตอนนี้.. ก็มีอยู่ 2 แบบ คือ

ใช้ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่แบบเดียวกับที่รถขนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือพวกถังเก็บใต้ดินใช้กันนะครับ.. ก็เก็บได้ที่หลายเป็นพัน-หมื่นลิตรไปเลย..

แบบนี้ก็จะใช้ Vacuum ดูดอากาศออกให้หมด ( ติดเกจวัดแรงดันหัวถังเก็บด้วยนะครับ..) ซึ่งก็คงจะมีปริมาตรอากาศในถังเก็บไม่ได้มากอะไรสักเท่าไร เพราะว่าจะใส่น้ำมันเชื้อเพลิงให้เกือบจะเติมถังเลย โดยจะมีการเผื่อการขยายตัวให้น้ำมันเชื้อเพลิงมันสามารถขยายตัวตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปได้บ้างนะครับ..!!!

พอตอนจะใช้น้ำมันก็ค่อยปล่อยไนโตรเจนเข้าไปไว้บนหัวถังเก็บครับ..

หรืออีกวิธีน่าจะถูกสตางค์มากหน่อยในการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง..
คือใช้ถัง 200 ลิตรนี่แหละครับ.. เอามาใช้เก็บน้ำมันเชื้อเพลิง
หาซื้อได้ไม่ยาก และราคาก็ไม่แพงสักเท่าไรด้วย..

กรณีที่ใช้ถัง 200 ลิตรเก็นี้..
ผมว่าจะ Vacuum ออกาศออก หรืออัดให้พวกก๊าซเฉี่อยไปไล่อากาศเดิมออกก็น่าจะพอไหว.. และเมื่อเปิดถังเพื่อใช้น้ำมันซึ่งมีแค่ 200 ลิตรก็อาจจะไม่้องมาหาก๊าซเฉื่อยอัดไว้บนหัวถังหรอกมั๊งครับ.. เพราะเดี๋ยวก็ใช้มันหมดก่อนที่เชื้อราจะขึ้น

Note : ค่าสัมประสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงปริมาตรเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
( Volumatic coefficient of expansion )

- Gasoline..... = 0.000950 / 'C
- Diesel........ = 0.000824 / 'C
- Bio-Diesel.. = 0.000836 / 'C
- Water........ = 0.000214 / 'C

........................................................................

 

สวัสดีครับ.. คุณ DNA1126

ช่วงนี้วุ่นๆทั้งงานส่วนตัว..งานหลวง..
ช่วงเดือนหน้า.. ผมอยากจะไปฝึกสมาธิกับพระอาจารย์ทั้งสอง

อาทิตย์นี้ไปปากช่อง.. อาทิตย์หน้าก็ไปแม่สอด
หลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์.. ผมมีประชุมที่ Seattle , USA โน้นเลย..

กว่าจะหาเวลาได้ก็คงจะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ 24 หรือไม่ก็ 31 พฤษภาคมโน้นเลยครับ...

.........................................................

สวัสดีครับ.. คุณ คนเฝ้าดู และคุณ cpcom2000

มุมมองส่วนตัวนะครับ..
ผมว่า.. ถ้าภัยจะมาคงจะไม่มาสับขาหลอกเรามั๊งครับ ???

เพราะไม่ว่าอย่างไร.. เราก็แหลกอยู่แล้ว !!!
จะเจ็บมาก.. หรือว่าเจ็บน้อย.. ก็อยู่ที่ความพร้อมในการเตรียมตัวรับสภาพกัน

ทุกวันนี้.. ที่มานั่งหาความรู้เตรียมตัวกันอยู่นั้น
เท่าที่ทราบ.. ส่วนใหญ่เตรียมตัวไว้รับมือกับภัยพิบัติใหญ่กันครับ

มันใหญ่.. ใหญ่ชนิดที่พลิกทุกอย่าง !!!
ไม่มีไฟฟ้า.. ไม่มีประปา.. ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง.. สาธารณูปโภคทุกอย่างพังหมด
ไม่มียารักษาโรค.. ไม่มีอาชีพที่ทำๆกันอยู่ทุกวันนี้..
ผมเองคิดว่า.. มันอาจจะไม่มีแม้กระทั่งอากาศที่สะอาดเอาไว้ให้หายใจด้วยซ้ำนะครับ..???

ภัยพิบัติที่เกิดทุกวันนี้.. และที่กำลังจะเกิดในเร็วๆนี้..
มันก็มีทั้งภัยพิบัติที่มาจากคน.. ภัยพิบัติที่มาจากธรรมชาติ..

สงครามและความขัดแย้ง..
ผมว่า.. ตอนนี้มันโดนเปิดหน้าชกกันเลย
ไม่ต้องมานั่งเป็นอีแอบ.. ซุ่มแอบทำอะไรกันแล้ว

หลังจาก MH370 โดนซิวไป..
จีนก็รู้แต่ก็ยังคงทำอะไรได้ไม่มาก ก็ต้องกลืนเลือดไป

ทางรัสเซียกับทางนาโต้+อเมริกา
ก็เปิดหน้าชกกันแบบจะๆไม่ต้องมาเป็นอีแอบอีกต่อไป
ดีกรีก็คงจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ..!!!
ตอนนี้โอบามา.. ก็มาเยือนประเทศที่มีปัญหากับจีนในเรื่องดินแดนข้อพิพาท

ก็คงเป็นไปตามที่ครูบาอาจารย์หลวงปู่หลวงตาท่านเตือนเอาไว้นะครับ..
มดตัวเล็กๆอย่างผม.. จะไปทำอะไรได้
ก็ได้แต่เฝ้าดูสิ่งต่างๆต่อไป..

และต่อให้ปลายปีนี้มีพายุมรสุมเข้าไทยจนน้ำท่วมใหญ่อีกรอบ
หรือแผ่นดินมันเพิ่มความไม่เสถียรไหวขึ้นทั้งแรง..ทั้งถี่..จนตึกอาคารพังลงมา

ระบบสาธาณรูปโภคพื้นฐานมันก้ยังมีอยู่นี่ครับ.. อาจจะพังไปบ้างแต่ก็ซ่อมได้ !!!
อาชีพการงานของผม.. อาจจะโดนสั่งให้หยุดงานบ้างบางช่วง..
แต่มันก็ยังมีงานมีอาชีพให้ทำกัน.. มีค่าขนมมาให้ทุกเดือนตามปกติ !!!

ผมยังเชื่อว่า... เรายังสามารถลั้นลากันได้แบบเดิม "อีกหลายปี" ครับ
ตราบใดที่เรายังคงมี.. "ในหลวง... องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเรา.." เป็นร่มโพธิร่มไทรให้กับพสกนิกรของพระองค์ !!!

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ...

 

ตามที่คุณบอยกล่าว ตามนั้นเลยครับ
ณ. วันนี้รู้สัญญาณแล้วบางส่วน ส่วนระยะเวลาที่จะเกิด ก็จึงต้องรอสัญญาณนี้ เหตุการณ์บางอย่าง ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางเอาครับ ถ้ามันไม่แปรผัน ก็อีกไม่นานนัก ถ้าจะถามว่าเอาข้อมูลไหนมา ..เอ่อ ...มุขเดิมๆน่ะผมมีเครื่องอุปกรณ์ประจำตัวคือเครื่อง GT2000 รุ่นนี้ตรวจมโนได้ด้วย ตรวจหาได้ทุกอย่างครับยกเว้น หวย ???

.......ท่านบลูเจ็ทขยับขยายภารกิจเสร็จหรือยังหนอ..???........

 

คุณ DNA1126 ก็อย่างที่บอก ก็มีสัญญาณของผมเองเหมือนกัน ผมกำลังทำตัวเป็นมดงานขนไข่ไปภาคเหนืออยู่ครับ ทะยอยๆ ครับ
ผมแค่ทำหน้าที่ไปยังงั้นแหละ จริงๆ ไม่แคร์มากนักว่าตัวเองจะรอดหรือไม่ จะตายเมื่อไร ที่เตรียมการเพราะเป็นห่วงลูกเมียมากกว่า แต่ก็รู้ว่าเราฝืนกรรมไม่ได้ ทำได้แต่บุญ กับกัมมัฏฐานของเรา กรรมของคนอื่นก็เป็นเรื่องของเขา

ผมว่าเครื่องมือคุณใช้ได้ ดูจากเท่าที่คุณทดสอบจิตผมนะครับ

คุยกันเรื่องเตรียมการดังๆ อย่างนี้ ใครจะหัวเราะเยาะผมก็ไม่ว่าอะไร ผมถือสุภาษิตของ บิล เกตส์ ว่า "Only the paranoids survive" แปลเป็นไทย ความหมายพอได้ว่า "แค่คนที่แทบประสาทจะกิน(และเตรียมการไว้ก่อน)เท่านั้นแหละถึงจะเอาตัวรอดได้" ผมเองไม่ถึงขนาดพารานอยด์ แต่ดูจากแนวโน้มภัยธรรมชาติมาบวกเข้ากับสัญญาณแล้วก็น่าต้องทำอะไรบ้าง และได้จังหวะอยากย้ายบ้านไปอยู่ ตจว. พอดีด้วย

 

ไม่อยากให้กระทู้นี้หล่นไปท้ายๆแล้วสูญหายไป
จึงจำเป็นต้องงัดอุปกรณ์ GT2000 เครื่องล่าสุดออกมาควานหาข้อมูล
เชิงลึกเชิงตื้นเอาหมด ยกเว้นสติเพี้ยนๆ พูดจาแปร่งๆ เห็นอยู่หลายราย
ข้อมูลแบบนั้นไม่เอาแน่ เพียงแต่ไม่ได้ไปท้วงติงอะไรเค้าปล่อยตามสไตล์
ช่วงนี้มันร้อน เครื่องจีที อาจจะรวนๆไปบ้าง คนถือเครื่องจีทีก็พักผ่อนไม่เพียงพอ
อย่าเพิ่งส่งข้อความเข้ามาถามนะขอรับ ยังไม่เป็นอะไรกันดอกในเวลานี้
พุ่งเป้าอยู่ในเมืองหลวงโน่นเลย บ้านนอกยังไม่มีอะไร


แต่ก่อนโน้น ตอนสมัครเข้ามาใหม่ๆ ตื่นตระหนกกลัวมากๆ สติหาย สตางค์หด
หลายเดือนผ่านไป หลายปีผ่านมา มันไม่เกิดซักที จิตมันเริ่มไม่กลัวภัยพิบัติ สติครบถ้วน
จิตเริ่มชินกับเรื่องนี้ อาการชิน ก็คล้ายกันกับฌาญ คล้ายยังไงไม่อธิบายนะ
เริ่มมองหาแนวทางเพื่อการอยู่รอด เริ่มเห็นหนทาง เริ่มเดินทาง เดินไปไหน ...ไม่ได้ไปไหน
เริ่มฝึกกายให้พร้อม ฝึกจิตให้แกร่ง ว่องไว เข้าเร็ว ออกเร็ว ใช้งานได้ดี แต่ก่อนใช้เครื่องจีที200
ตอนนี้เป็น GT2000 ...อยู่บ้านนอกคอกนา ไม่ได้เข้าเมืองหลวง ห่วงคนอยู่ในเมืองหลวง...
ซะมากกว่า

 

ผมดีใจนะครับที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย...
แต่ดันมาคิดคล้ายๆกันมาก
ผมก็ลนเช่นกันในช่วง2ปีก่อน. แต่ในบัดนี้ผมพร้อมที่จะเผชิญกับภัยที่จะเกิดแล้วครับ
ชินไปแล้วและไม่คิดจะลุ้นอะไรแล้ว. ช่างมันเถอะ
มันจะเกิด/ไม่เกิดผมไม่สนใจแล้วตอนนี้ ก็ยังดีกว่าเอาเงินไปซื้อประกันครับ

 

มาดูเจ้านี่ กันดีกว่า พี่อินตระเดียของเรา เค้าสร้างมันขึ้นมา จากที่นั่งดูการทดสอบ แล้วตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่าเป็นเรื่องโกหกมั้ง แน่จริง ลองไปทดลองที่ชายทะเลหรือไม่ก็ในที่โล่งๆที่ห่างจากระบบไฟฟ้า ปรากฎว่าดูไปดูมา พี่แกดันมีคลิป ที่ไปทดสอบ ที่ภูเขาหรือที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งไรไฟฟ้าอย่างแน่นอน ก็เลยมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าผลงานของพี่แก ไม่ได้แหกตาเหมือนกับผลงานอื่นๆ หลายท่านที่สนใจเรื่อง พลังงานไร้ขีดจำกัด มาดูคลิปนี้กันแล้ว พิจารณาร่วมกัน ตามลิงค์นี้ครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=yodY1jH5j-I"]Free Energy ??? - Fact or Fake ? Wasif Kahloon showing selfrunning magnet motor - YouTube[/ame]

หากเป็นจริงงานนี้ โลกได้ปฏิบัติพลังงานสะอาดเป็นแน่

 

พอดีมีท่านสมาชิกในกลุ่มไลน์
เอาบทความการดิ้นรนเอาตัวรอดจากภัยสงครามในโคโซโว
เลยขออนุญาตเอามาลงแชร์เป็นข้อมูลครับ..

..................................................

Selco (เป็นชื่อในเวปไซท SHTFPlan ไม่เปิดเผยชื่อจริง)

ชายวันกลางคน กลับมาเลาเรื่องราวชีวิต และการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในโคโซโวปี 1992-1995 ที่ๆ เมื่องที่เคยเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างยุโรปตะวันตกกับยุโรปตะวันออกมาบรรจบกัน บอสเนียก่อนหน้านั้นเป็นเมืองที่สวยงาม มีบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ในทุ่ง เมืองมีสวนสาธารณะ มีสนามเด็กเล่น มีห้าง และสวนสนุกไม่ต่างจากประเทศไทยนัก ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีมาก และสุขสบาย สไตร์ยุโรปตะวันออก เนื่องจากเซอร์เบียเป็นเมืองที่มีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม และการทหาร... ไม่มีวี่แววของความขัดแย้งใดๆเลยจนกระทั่งสงครามระหว่างชาวอัลเบเนียและชาวยูโกสลาฟ เรื่องของการเมืองผมคงข้ามไปนะครับมีให้หาอ่านมากมาย ขออธิบายสั้นๆว่าสองชนชาตินี้อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันมาก่อน แต่รบกันจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองจนสุดท้าย นาโต้และสหรัฐต้องเข้าแทรกแซง
เรื่องราวต่อไปนี้ ถอดจากบทสัมภาสบางตอนของ Selco และสมาชิกเวป SHTFPlan คนอื่นๆ โดยถูกนำมาเรียบเรียงโดยสมาชิกที่ชื่อ Chris Kitze ครับ
กระทู้จาก Selco
โอเค, ผมอยากจะแชร์ในประสบการณ์และสิ่งที่ผมทราบกับพวกคุณ(สมาชิกเวปคนอื่น) ขอให้อดทนกับภาษาอังกฤษของผมหน่อยนะครับ ผมไม่ถนัดภาษาที่นี่
ผมมาจากบอสเนีย และพวกคุณคงทราบดีเรื่องราวของที่นี่ช่วงปี 92-95 เอาเถอะ มันเป็นช่วงเวลาราวๆ 1 ปีของผมในนรกนั้น ผมต้องทนกับความโหดร้าย เอาตัวให้รอดอยู่ในเมืองที่เคยมีประชากรราว 50000-60000 ครอบครัว โดยไม่มีทั้ง ไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำปะปา และการแจกจ่ายอาหาร หรือเครื่องอุปโภคใดๆเลย มันเป็น 1 ปีที่เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ขั้น SHTF ของจริง (Shit hit the fan หมายถึงสถานการณ์ชิบหายสุดขั้ว ลองนึกภาพการเอาขี้ปาใส่พัดลมดูครับ)
เราไม่มีทั้งทหาร หรือตำรวจที่คอยดูแลความปลอดภัยให้เรา เรามีแต่กลุ่มผู้ป้องกันตัวเอง หรือเรียกง่ายๆว่าใครก็ตามที่มีปืน ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเรือนของเขากับครอบครัว
นอกจากบางคนที่เตรียมการมาดีหน่อย พวกเราส่วนใหญ่มีอาหารกินพอเพียงสำหรับสองวันแรกเท่านั้น บางคนก็มีอาวุธปืนสั้นกระบอกนึง ก่อนหน้านั้นน้อยคนนักจะได้รู้จักกับ AK-47
ยังไงก็ตาม หลังจากเกิดเรื่องขึ้นสองเดือน ก็มีพวกแก๊งออกอาละวาด ปล้นฆ่าไปทั่ว โรงพยาบาลไม่ต่างกับโรงฆ่าสัตว์ ตำรวจหายไปจากสารบบ และ 80% ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนีกลับไปดูแลครอบครัวตัวเอง
ผมหน่ะโชคดี ที่ผมมีครอบครัวที่ใหญ่มากตอนนั้น (15คนรวมกันในบ้านหลังใหญ่ ) รวบรวมปืนสั้นได้ 5-6 กระบอก และภายหลังได้ AK-47 อีก 3กระบอก นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรายังรอดมาได้, เป็นส่วนใหญ่นะ
ผมยังจำได้ดีเลย กองทัพอากาศสหรัฐทิ้ง MRE (อาหารสำหรับทหารในสนามรบ) มาให้ทางอากาศทุก 10 วัน (ขอให้พระเจ้าคุ้มครองอเมริกา) เพื่อช่วยเหลือเมืองที่ถูกปิดล้อมของเรา แต่มันก็ไม่เคยพอสำหรับพวกเราทุกคน ยังดีที่บ้านบางหลังมีแปลงผักเล็กๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรเลย
หลังจากเรื่องเกิดได้สามเดือน ก็เริ่มมีข่าวลือว่ามีผู้คนอดตาย หรือไม่ก็หนาวตาย เราเริ่มเลาะประตูบานที่ไม่ใช้ กรอบหน้าต่างในบ้านร้างเพื่อเอามาทำฟืน ผมต้องเอาเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมาเผาทำฟืนและหุงอาหาร มีหลายคนต้องตายเพราะอาการป่วย ที่ส่วนใหญ่มาจากการดื่มน้ำสกปรก (พี่น้องของเราสองคนก็เช่นกัน) เรารองน้ำสะอาดจากฝน หลายครั้งที่ผมจับนกพิราบกิน และครั้งนึงก็เป็นหนู
เงินไม่มีค่าอะไรสำหรับที่นี่....
เราใช้การแลกเปลี่ยนของกัน ตลาดมืดทำงานได้ดีที่นี่ ตัวอย่างเช่น เนื้อกระป๋องหนึ่งคุณแลกกับการได้นอนกับผู้หญิงสักสองสามชั่วโมง (ฟังดูแย่ใช่ไหม แต่มันเกิดขึ้นจริง) ผมยังจำได้ ผู้หญิงพวกนั้นบางคนก็เป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกตัวเอง ไม่ว่าจะเทียนไข ไฟแช็ก ยาปฏิชีวนะ เชื้อเพลิง ถ่านไฟฉาย ปืน กระสุน และแน่นอน อาหาร พวกเราต้องแย่งกันเหมือนเป็นสัตว์เพื่อของเหล่านั้น
ในสถาณการณ์เหล่านี้ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสัตว์ร้าย มันแย่มาก
กำลังพลสำคัญที่สุด ถ้าคุณอยู่ตัวคนเดียวในบ้าน คุณจะถูกปล้น และฆ่าตาย ไม่ว่าจะเตรียมอาวุธมาดีแค่ไหนก็ตาม
เอาเถอะ สงครามมันจบแล้ว และไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ ผมขอขอบคุณอเมริกา (ขอให้พระเจ้าคุ้มครองอเมริกาอีกที) มันไม่สำคัญอีกแล้วว่าฝ่ายไหนชนะ
มันเกือบ 20 ปีแล้ว แต่เชื่อผมเถอะ ผมรู้สึกเหมือนมันพึ่งเกิดเมื่อวาน ผมจำได้ทุกเรื่องราว และผมก็เรียนรู้จากมันมาเยอะ
ผมกับครอบครัวกลายเป็น Prepper แล้วครับ เรามีอาวุธ กระสุนที่ดี และการฝึกฝนที่มากพอ ไม่สำคัญอีกแล้วว่าอะไรจำเกิดขึ้นอีก แผ่นดินไหว สงคราม ซึนามิ เอเลี่ยนบุก ก่อการร้าย ผมเชื่อว่าอะไรสักอย่างต้องเกิดขึ้นอีกแน่นอน
จากประสบการณ์ของผม คุณไม่สามารถเอาตัวรอดได้ตัวคนเดียว กำลังพลสำคัญที่สุด ใกล้ชิดกับครอบครัวคุณไว้ เตรียมพร้อมกับพวกเขา เลือกเพื่อนของคุณให้ดี และเตรียมพร้อมกับพวกเขาเช่นกัน
สุดท้ายนี้ นี่เป็นโพสแรกของผม ภาษาของผมมันไม่ค่อยดีนัก ไม่ดียังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เครดิต >>> http://www.thaiprepper.com/?m=1 คุณบอย
..................................................

ปกติผมเองเป็นคนมองโลกมุมบวก..
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง.. ในด้านมืดในจิตใจของคนที่อดอยากขาดแคลน..
ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองและครอบครัวรอด..!!!

ชีวิตจริงๆ... มันไม่ได้ต่างจากภาพยนต์สักเท่าไร..!!!
บทโหดร้าย.. ก็เกินกว่าที่ใครจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้..???

 

---------------------------------------------------------
ขอคุยเรื่องของน้ำมัน และ น้ำมันเครื่องเพิ่มอีกนิดนะครับ ซึ่งความรู้นี้ทางผู้ผลิตน้ำมันเค้าไม่บอกให้ผู้ใช้ทราบ เรื่องการเก็บรักษาน้ำมันให้ใช้ได้นาน ๆ ทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเครื่องชนิดต่าง ๆ

น้ำมันที่สะอาดนั้น ความสามารถในการหล่อลื่น หรือจุดระเบิดของเครื่องยนต์ให้ได้เต็มสมรรถนะ ซึ่งน้ำมันที่ใช้อยู่ทั้งน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันเครื่อง จะมีการผสมสารต่าง ๆ (Adaptive) ลงใน แต่คุณสมบัติเหล่านั้นอาจเสื่อมลงเมื่อมีออกซิเดชั่นเกิดขึ้น ถ้าเราสามารถนำออกซิเดชันออกไปได้ น้ำมันเครื่องเหล่านั้นก็จะสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่จำกัดอายุการใช้งาน


ออกซิเจน + พื้นผิวของอนุภาค = ออกซิเดชัน (OXIDATION)
** ปฏิกิริยาจะเกิดเป็น 2 เท่า เมื่ออุณหภูมิ เปลี่ยนแปลง ทุก 7 องศาเซลเซียล

การแก้ปัญหา : ปัจจุบันมีไส้กรองน้ำมันที่มีสามารถกรองสิ่งสกปรก น้ำ และเกลือ ออกจากน้ำมันได้ต่ำกว่า 1 ไมครอน ทำให้หมดปัญหาการเกิดออกซิเดชัน หรือเชื้อราที่พูดถึงได้ ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องในรถหรือเครื่องจักร ก็จะใช้งานได้ตลอดไม่ต้องเปลี่ยน เพราะสะอาดกว่า น้ำมันที่ซื้อมาใหม่ (น้ำมันจากโรงงานผลิตน้ำมันจะสะอาดแค่ประมาณ 3-4 ไมครอนเท่านั้น ตามมาตรฐาน ISO/NAS ของอเมริกา)

** ไม่ต้องพูดถึงประโยชน์จากการใช้น้ำมันสะอาดนะครับ ...

 

ถ้ามีเหตุการณ์เช่นโคโซโวที่เมืองไทย พี่ว่า พวกเราคงไม่ต่างกันกับเหตุการณ์นั้น เว้นเสียแต่ว่า อยู่กันในหมู่ที่รักษาศีล มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดที่กทม ขนาดไม่ถึงโคโซโว ยังรุนแรงทำร้ายกันน่ากลัวทีเดียว ได้แต่ภาวนา ขออย่าให้บ้านเมืองเรา ผจญเหตุเช่นนั้นเลยค่ะ

 

ขอบคุณ..คุณเกิดมาลุยมากๆเลยครับที่ช่วยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ยินดีครับ.. แต่ละคนก็มีมุมถนัด เป็น specialist กันตามงานสายอาชีพ..

ทางผมเอง.. ประเมินว่า
พวกน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเก็บๆกันนั้น กว่าจะได้เอาออกมาใช้เป็นเรื่องเป็นราวก็ต้องมีระยะเวลาปีนึงขึ้นไปครับ..

ช่วงปีแรก.. ก็คงหมดไปบางส่วนกับเรื่องการปั่นไฟฟ้า หรือเพื่อสร้างความร้อน
แต่จริงๆแล้วที่วางแผนเอาไว้ ก็จะใช้พลังงานจากวิธีอื่นมาผลิตไฟฟ้าครับ..

อยากจะสงวนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเก็บเอาไว้ใช้
กับเครื่องยนต์เครื่องจักรที่มันบังคับว่าต้องใช้เบนซินหรือดีเซลเอาไปเติมมัร
แต่ก็จะใช้มันตามความจำเป็นจริงๆเท่านั้น..

รถยนต์ก็เช่นกันครับ.. ผมใช้รถ 4WD และก็ประเมินว่า
หลังจากขับรถเผ่นมาจอดที่ฐานแล้ว.. ก็เตรียมทำบำรุงรักษามันเพื่อการจอดยาว
( Preserve for Long term parking )... กะจอดมันราว 1 ปี - ปีครึ่งครับ..

รอให้..หลังจากทุกอย่างนิ่งแล้ว..
และ"ลูกกระสุนปืน"ตามริมถนน ซึ่งผ่านมาปีเศษคาดว่าน่าจะหมดลงแล้วนะครับ ???
ก็ค่อยเอารถยนต์ออกมาใช้งานกันครับ..!!!

ส่วนเรื่องการสั่งน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น..
ทางคุณหมอในกลุ่ม รู้จักกับทางเอเย่นขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีรถขนส่งน้ำมันอยู่เป็นฝูงเลยครับ..

ไว้ได้สัญญาณอพยบจากหลวงปู่หลวงตาเมื่อไร.. ก็สั่งให้รถวิ่งไปส่งเข้าถังเก็บทันทีเลยครับ..

ก็เล่าสู่กันฟังครับ..

 

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์กันสักนิดนะครับ..!!!

วันนี้วันอังคาร ที่ 29 เมษายน..
เป็นวันแรกของงานสถาปนิกสยาม 57
จัดที่ Chalenger Hal 1, 2 และ 3 ... เมืองทองธานี

ระหว่าง 29 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2557

ว่างๆไม่รู้จะไปเดินตากแอร์ หลบอากาศร้อนๆที่ไหนดีละก็
ลองเข้าไปชมงานสถานิกสยาม 57 ดูสิครับ..

ถึงจะเป็นงานที่แสดงเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างและพวกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งหลายๆท่านอาจจะไม่ถนัดนัก..???
ผมก็อยากจะแนะนำให้ท่านที่สนใจเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าขนาดจองภัยพิบีติที่ท่านกะเจอนั้นจะเล็กหรือใหญ่มากแค่ไหนก็ตามเถอะครับ..!!!

ที่นี่จะแสดงวัสดุ และเทคโนโลยีใหม่ๆ
ที่ Update ที่สุดที่สามารถหาซื้อหาได้ในบ้านเราคับ..

ลองไปเดินหาอาหารสมองดูกันคับ..
วันนี้อาจจะยังนึกอะไรไม่ออก..???
แต่พอวันนึง.. เจอเข้ากับบางปัญหาเข้า

ท่านอาจจะเจอวิธีการแก้ไขปัญหาจากงานนี้ก็ได้นะค่บ.???

เช่น.. ปัญหาการแตกร้าวของตัวอาคารและถังเก็บกักน้ำดื่มน้ำใช้..

ในงานสถาปิกสยามนี้.. จะมีหลายบริษัทมาออกร้าน
พร้อมแสดงว่าผลิตภัณฑ์ของเขามันเจ๋ง.. มันดีกว่าคู่แข่งอย่างไร.???

มีรุ่นพี่ในกลุ่มไลน์ท่าหนึ่ง.. เจอปัญหาข้างต้นกับถังเก็บน้ำฝนรั่วซึมเข้ามาในอาคาร..
ผมก็แนะนำผลิตภัณฑ์ซ่อมแซมของบริษ่ทนึงไปให้พี่เค้าไป..
ก็โอเคเลยคับ.. ซื้อของเอามาซ่อมเอง สามารถแก้ปัญหาการรั่วซึมหยุดมันได้เรียบร้อยดีครับ...

ลองไปเดินชมงานดูครับ...
ไปเติมอาหารสมองจานใหม่ๆดูบ้างสิครับ.!!!!

 

ขอออกความเห็นเกี่ยวกับการเก็บน้ำมันครับ เคยเก็บน้ำมันเบนซินใส่ถัง 200 ลิตร ปิดฝาให้สนิท กลางคืนอากาศเย็นน้ำมันเกิดการหดตัว เสียงในถังดังเหมือนบีบกระปฺ๋องเบียร์ทุกคืนรำคาญเหมือนกันแต่ก็เก็บได้เป็นปี แนะนำให้เก็บเป็นเบนซิน 95 เพราะใน Lกฮ (เมทธานอล)มีน้ำปนเสมอ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินหรือแบบใช้ออโต้ลูบ(น้ำมันหล่อลื่น)ผสมเมื่อหยุดใช้ต้องเปิดน้ำมันในคาบูเรเตอร์ทิ้งให้หมด ถ้าเก็บเอาไว้นานเ้ป็นเดือนเช่นเครื่องตัดหญ้าแบบเครื่องยนต์สองจังหวะช่างเขาเรียกน้ำมันจะบูดหรือเน่าเหนียวข้นๆเครื่องยนต์จะสตาร์ทไม่ติดครับ ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้หัวเทียนถ้าหัวเทียนบอด วิธีแก้ไขก็คือเอาหัวเทียนเผาไฟเพื่อไล่ไอน้ำมันออกจากเขี้ยวหัวเทียน หัวเทียนบางยี่ห้อเผาแล้วกระเบื้องละลาย ผมใช้แค่ NGK นี่แหละถูกด้วย แต่วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือเอาลมจากปั๊มลมเป่าที่เขี้ยวหัวเทียนแรงๆก็สามารถทำให้หัวเทียนกลับมาทำงานอีกได้เหมือนกัน การเก็บน้ำมันจะใช้วิธีเติมไนโตรเจนจะไม่ได้ผลที่มีขายก็ 97%ครับแต่อาจเจือปนกว่านั้น ถ้่าจะใช้High purity ก็ยุ่งยากอีกมาก หรือการใช้แก๊สอาร์กอนดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งแต่มันไม่หมดออกซิเจนครับ ผมใช้กับ Vacuum Furnace ถ้าไม่ใช้ อาร์กอน 99.999% ซึ่งหาซื้อยาก และแพง เตาเผาจะเสียหายหมด วิธีหนึ่งที่จะใช้ลดออกซิเจนในที่จำกัดคือใช้สาร Oxysorb ซึ่งมีขายโดยทั่วไป การทำVacuum กับถังน้ำมันต้องพิจารณาดูเพราะน้ำมันมีความดันไอมาเกี่ยวข้อง ถ้าดูดอากาศออกที่เหลือก็เป็นไอน้ำมัน การทำให้ออกซิเจนหมดต้องได้ความดันไม่ต่ำกว่า 10 -4 Torr เพื่อป้องกันการแยกตัวของน้ำมันดีเซลออกจากน้ำมันปาล์มที่เก็บไว้นานๆ แนะนำให้เก็บน้ำมันของปั๊มคอสโมเพราะเป็นดีเซลแท้เพราะเขาไม่กลั่นในไทย และเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์ก็ควรใช้ปั๊มหัวฉีดแบบโบราณที่อยู่ในรถยนต์กระบะบ้านเรารุ่นเก่าๆ เช่นเครื่องยนต์แบบสเวิลแชมเบอร์ หรือเครื่องไดเรคอินเจคชันที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ยุ่งยาก และไม่ใช่เครื่องคอมมอลเรล ใช้ลุยน้ำได้ดี สังเกตจากน้ำท่วมกรุงเทพฯ และถ้าจะใช้กับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันพืชอะไรก็ได้เป็นเชื้อเพลิงมันก็ไม่พัง เช่นโตโยต้าไฮลักซ์ LN , นิสสัน บิ๊กเอ็ม, มิตซู L200 ที่เป็นกระบะโฟล์วีลนั่นแหละดี บางยี่ห้อลุยน้ำแล้วฟลายวีลสองชั้นมักขึ้นสนิมพัง หรือบางยี่ห้อเอาปั๊มคลัทช์ไปไว้ในห้องเครื่องยนต์ เกิดการรั่วซึมทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้ ส่วนตัวชอบรถแทรกเตอร์ 2 เพลารุ่นไหนยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ชาวไร่ชาวสวนใช้กันตามบ้านนอก ถ้าภัยพิบัตินานไปแบตเตอรีไม่มีใช้การสตาร์ทรถอาจเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์เล็กต่อแทนมอเตอร์สตาร์ท ซึ่งมีในรถไถของรัสเซียรุ่นเก่าๆเช่นยี่ห้อ MTเป็นต้น ผมกำลังมองหาอุปกรณ์ที่เป็นแมคานิค ไม่มีเทคโนโลยียุ่งยากแต่ซ่ิอมง่าย การใช้ชีวิตแบบเศรษกิจพอเพียงก็ต้องไปดูประเทศลาวในชนบทหรือในไทยเราก็มี ทุกอย่างแทบจะพึ่งตนเองได้หมด มีน้ำ อาจเป็นน้ำตกซึ่งได้พลังงานไฟฟ้าด้วย ดินดีสภาพพอสมควรไม่ต้องใส่ปุ๋ยลงไปในดินซึ่งวันนั้นจะหาปุ๋ยไม่ได้ อากาศต้องไม่ร้อนจัดในฤดูร้อน ไม่มีควันไฟป่าทำให้หายใจยากลำบาก ซึ่งต้องลงทุนไปมากสำหรับการปรับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสำหรับการดำรงชีวิต ถ้าได้สถานทีี่เหมาะสมจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกมาก เช่นจังหวัดทางภาคตะวันออก บางแห่งกินผลไม้แล้วเอาเมล็ดโยนทิ้งไว้ ไม่ต้องไปดูแลมันเลย 4-5 ปีเดินไปตรงนั้นอีกทีมันมีลูกให้เรากินแล้ว เมืองไทยมีสถานที่แบบนี้มากมาย สถานที่ที่ไม่ไกลทะเลมากนักทำให้ไม่ขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติ ถ้าไปอยู่ตามป่าตามเขาปัจจัย 4 จะหายากขึ้นไปอีกสังเกตดูจากผู้คนในชนบทตามดอยตามภูเขากับชายทะเลเป็นต้น อาหารมีอยู่เต็มทะเล ส่วนตามดอย ตามภูเขาไม่มีสัตว์ป่าให้ล่าแล้วนอกจากสัตว์เล็กๆเช่น นกเป็นต้น เสียงปืนเพียงนัดเดียวก็ทำให้ป่าแตก สัตว์หนีหมดไปทั้งวัน นอกจากเก็บเสียงด้วยไซเรนเซอร์

 

เหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้อดกลับไปย้อนอ่านเรื่องราวที่คุณลุงบันทึกไว้ อีกครั้ง
เพราะมันเริ่มจากภาคเหนือและคงไม่จบในครั้งเดียวในรอบร้อยปี ที่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง