ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ตามต่อครับผม
กาล = เวลา
กาฬ = ดำ / มืด
ครับผม

 

ได้ความรู้ใหม่อีกแล้วครับ
รอติดตามครับผม

 

อย่างนี้ พญาครุฑ มีเพียงตนเดียว คือเป็นพาหนะของพระนารายณ์เท่านั้น แต่พญานาค ที่มี 5 หรือ 7 เศียร ก็มีได้หลายตน ถูกต้องใช่มั๊ยครับคุณอา

 

.........................................
..แม่นแล่ว...ครุฑ..ที่เป็น..ผ้ว..กากี..นั้น..จริงๆก็คือ..ครุฑ..เฉยๆ..ที่เป็นแค่มีเกรดหน่อย..ไม่ใช่พวกที่บินเล่นๆ..ในป่าหิมพานต์..คอยไล่จับนาค..
ไม่ใช่.."พญาครุฑ".....หรือ..ประธานแห่งครุฑ..ที่รับใช้..พระนารายณ์
...............
..ส่วน..นาค..ที่เป็นหัวหน้า..ในแม่น้ำแต่ละสายใหญ่ๆ..นาคที่เป็นหัวหน้าใน..ทะเลต่างๆนั้น..
..นับเป็น.."พญานาค"..ได้...นอกเหนือจาก..พวกพิเศษ..อย่าง..ห้าเศียร..เจ็ดเศียร..
..ที่มันยิ่งใหญ่อยู่ในตัว..เหนือ..นาคเศียรเดียวอยู่แล้ว..มันก็ได้..ตำแหน่ง..โดยอัตโนมัติ....
..................................
..ถ้าลองไปเทียบกับจีน..ซิ...
...จีนมันก็..มี.."พญามังกร"..อยู่แค่..สามสี่ตัว..
เท่านั้น..ที่ประจำ..ทะเลต่างๆ......และ..มีศักดิ์ศรี..เท่าเทียมกัน.....
.........................................
..เขียนแล้วยังขำตัวเอง...นึกว่ามันมี..สังคมพวกนี้อยู่จริงๆ..(หรือ..จริง..ไม่รู้เหมือนกัน)

 

พญาครุฑ คือพาหนะของพระนารายณ์ น่าจะมีตนเดียว และมีบริวารที่เรียกว่าครุฑ ในป่าหิมพานต์ จับนาคกิน อย่างที่พี่ว่าครับ

 

พญานาค ผมเชื่อโดยงมงาย ว่ามีแน่นอนครับ เพราะเจอกับตัว ทั้งในความฝัน และความอัศจรรย์ เพราะว่า ตอนสร้างล็อกเก็ตให้โรงเรียนวัดนาคนิมิตร ออกให้ผู้ปกครองร่วมบุญ สร้างห้องดนตรี และซื้อเครื่องดนตรี ตอนนั้น ผมฝันเห็นพญานาค สองตัว และฝันพร้อมกันกับพี่ชาย ที่อยู่ในบ้าน และมีเพื่อนมานอน มันก็ไม่รู้ว่าผมกำลังสร้างพระอยู่ มันก็ฝันเห็นอีก แค่นั้นไม่พอครับ ตอนจะเอาไปให้หลวงพ่อปลุกเสก พี่ชายขับรถ ก็เจองูเลื้อยผ่านหน้า ถึงสองครั้ง ต่อมา เลยเล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อเลยเอาพญานาคไม้พยุงแกะที่ท่านปลุกเสกไว้ ให้พี่ชายมาตั้งบูชา ด้วยน้ำ และก็ส้ม 5 ลูก ตั้งซ้อนกันแบบข้างล่าง 4 ลูก บน 1 ลูก แล้วไปทำงานกันทั้งบ้าน พอกลับมาบ้าน วันนั้นผมกลับค่ำ (บ้านเป็นแฟรต ไม่มีหนู) พอถึงบ้าน แฟนพี่ชาย กับพี่ชาย หน้าเหวอ บอกว่า ส้มลูกบนสุด มีรอยทะลวง แตกออกจากบนลงล่าง เหมือนเอานิ้วโป้งเจาะแล้วแหวะออก ซึ่งผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง.........แล้วก็กลับไปรายงานท่าน ท่านบอกว่า เราสองคนเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับพญานาค จบครับ อิอิ ลืมบอกครับ ว่า ในล็อกเก็ต มีรูปหลวงพ่อหิน ด้านหลังเป็นพญานาคเกี้ยวกันสองตน

 

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ

 

....ขอบคุณ..หลานสวนพลู
..ที่ช่วยมาเล่าเรื่องให้........
................................
..เกือบลืมไปผม..นึกขึ้นมาได้..ว่าอาจมีบางคนในครอบครัวผมนี่....
...นี่ชอบศึกษา..เรื่องหมอดู..หรือ..อาจเป็นหมอดูด้วยก็ไม่ทราบได้..
.....เรื่องของ.."พญาครุฑ"..ที่ผมบอกว่า..มีตัวเดียว..นี่ทางฮินดู..กับ..พราหมณ์..สายตรงนะครับ....
..เพราะถ้าสายทางอ้อม..ที่เกี่ยวกับเทพนพเคราะห์..มันจะมีเพิ่มมาอีกตัว..
....คือ..พาหนะ..ของเทพราหู..ซึ่งเป็นครุฑ..เหมือนกัน..ซึ่ง
ถ้านับตามศักดิ์ศรี..ก็อาจเรียกเป็น..พญาครุฑ..ได้เช่นกัน..อย่าแปลกใจ..
............................
..แต่ที่..เกี่ยวข้องทางศาสนาสายตรง..นี่ถือว่า..มี ๑ ตัว..และ..พระราหูทางสายนี้..ไม่ปรากฏว่า..มี..พาหนะ.....
...ขอให้เข้าใจตามนี้..........

 

.......
..หวัดดี..Punthai..หลานสวนพลู..น้องTeera..หลานเขม..พลศิริน้องรัก..
..Orkarรุ่น๑..กำธรน้องรัก..และ..หลานApril..รวมถึง..คนในครอบครัวผม
........................
..เรื่องของ..กาล..ต่อจากตอนที่แล้ว
........................
..................................................................
.....หลายคน..สงสัย..แล้ว..มันชื่อ..”กาล”..ทีมีความหมายเกี่ยวกับเวลา..ยังไง...
..ทำไม..มันไม่ชื่อ..”ไอ้โหด”..”ไอ้ตะกละ”...หรือ..”ไอ้กินไม่เลือก(เหมือนนักการเมืองไทย)”
....ที่มา..มันมีหลายทางแต่ที่ผมว่า..เข้าท่าก็คือ....
...ปัญหา..ที่ไอ้นี่..มันตะกละ..และ..กินลูกเดียว..กินไม่อยู่ใครขวางหน้ากูจะกินหมด...ก็ขนาด
พระราหู..ซ่าส์ๆ..ยังหนีไอ้นี่..เตลิดเปิดเปิง..เห็นท่าไม่รอดแน่..ก็โกยแน่บเข้ามาเฝ้า..พระอิศวร
ขอชีวิต..อย่าให้ลูกน้องตัวแสบของพระองค์กิน..จนพระอิศวรปวดกบาล..ก็เลยบอก..เฮ้ย..มึงก็
กินตัวมึงเอง..แล้วกัน..แก้หิวไปก่อน..อย่างที่ผมเล่าไปตอน..ที่แล้ว..หลังจากกินตัวเองแล้ว..
..มันก็ยังหิว..ไล่กินดะ..จนชักไปกันใหญ่..เพราะหิวไม่หยุด..กินแล้วก็หายไปเลย..เอากลับไม่ได้
...พระอิศวร..ก็เลย..ให้กินอาหารว่างได้อย่างนึง..คือ..มึงกินได้เรื่อยๆ..แล้วของอย่างนี้..ไม่มีใคร
เดือดร้อน..เพราะมันไม่หวนกลับ..นั่นคือ.........
.....................................เวลา....ก็คือ....กาล..........นั่นเอง...
...ดังนั้น..มันถึงได้ชื่อว่า..”กาล”....ผู้กินเวลา...ส่วนออเดิฟ..หรือ..มื้อพิเศษ..ก็พอได้..แล้วแต่
กรณี..อย่างในภาพตอนที่แล้ว..ที่ไล่จับ..สิงห์มากินเล่น..นั่นแหละ...........
..........มีนักปรัชญาฝรั่ง..ที่ศึกษาเกี่ยวกับ..ไอ้นี่..ให้ความเห็นมา..ที่ผมว่าเข้าท่า...เคยได้
อ่านมานาน..แล้ว..แต่..เปรียบเทียบ..กาล..ไว้..กับ..โลกวิทยาศาสตร์..ได้อย่างน่าสนใจ..
..นั่นคือ...”กาล”...เปรียบได้กับ....”หลุมดำ”หรือ BLACKHOLE..ที่อยู่ในอวกาศ....
...เพราะ..หลุมดำ..นั้น..จะกลืนกิน..สสารทุกอย่าง..เข้าไป..แม้.กระทั่งแสง...ซึ่ง..
แสง..นั้น..เราก็รู้ว่า..มันเกี่ยวกับ..เวลา..ถ้าเราเดินทางเร็วกว่า..แสง..นั้น..นั่นคือ..เราย้อนอดีต
ได้...แต่แสง..ที่สาดส่องไปในหลุมดำ..จะหายไป..เพราะใน..หลุมดำนั้น..มันมืดสนิท..
..ไม่มี..แสงดง..แสงดาวอะไรทั้งสิ้น..ก็หมายความในทำนองเดียวกันคือ..เวลาจะถูกกลืนกิน
ในหลุมดำ...แสงโดนกินเรียบวุธ....
.............................
..เอาละ..พอเซิฟๆ..อธิบายมากเดี๋ยว..งงกันไปใหญ๋..มีฝรั่งเขียนเกี่ยวกับมัน..เป็นเล่มเลยนะ
......เรามาดูรูปลักษณ์ลักษณะที่ปรากฏทางศิลป์..ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันดีกว่า
.......ตามปกติ..ทั่วไปแล้ว..สิ่งที่ปรากฏบน..หน้าของกาล..ที่เราเห็นนั้น..มันจะมีอวัยวะ
ส่วนหนึ่ง..หายไป..(..เว้นแต่..กาล..ที่อินโดนิเซีย..บาหลี..บางแห่ง..แต่ไอ้นั่น..ผมไม่แน่ใจนะ..
ว่า..มันเป็น..กาล..รึเปล่า..เพราะผิดหลักการ..ในปากไม่มีอะไร..ความเห็นผมว่า..ไม่น่าใช่)..
...จริงๆแล้ว..มันคงไม่หายหรอกครับ..เพราะมันกินตลอดเวลา..(เมื่อมันกิน..เวลา..มันก็กิน
ตลอดเวลาอยู่แล้ว..แน่นอน)..แล้วในรูปแกะสลักทั้งหลาย..ก็จะเห็นของที่มันกิน..เข้าปากมัน
บังไว้..ดังนั้น..เราจึงไม่เคยเห็น..............ขากรรไกรล่าง.....ของมันเลย....
....ก็คือ..เราไม่เคยเห็น..คาง..ริมฝีปากล่าง..ฟันล่าง..ของมันเลย..แล้ว..ก็เลยเป็นเอกลัษณ์
เฉพาะตัวไปโดยปริยาย....
......สำหรับ..กาล..นั้น..นอกเหนือจาก..เทวสถานของอินดู..และ..พราหมณ์ที่ว่ามาแล้วนั้น
..ก็ยังมี..ปรากฏ..ในศาสนสถานทางพุทธ..แบบมหายาน..ที่นับถือ..ลัทธิ..ไศวนิกาย..ที่นับ
ถือเทพทางฮินดู..ด้วย..อย่างพวกพระปรางค์..หรือ..ปราสาทที่สร้างโดย..พระเจ้าชัยวรมันที่๗
เป็นต้น..ซึ่งมีปรากฏในไทย..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..พวกพระปรางค์..นอกจากแบบที่ผมว่าไปแล้ว
..ก็มี..เพิ่มเติมมาใหม่..และ..ส่งอิทธิพลต่อมา..ภายหลังคือ....
............กาล..ที่ไม่มี..พระอิศวรมาคุม...ส่วนนี้ตามความเข้าใจผม..เข้าใจว่า..จะไม่เกี่ยวกับ..
คติ..หรือ..นิยามอะไร..เพียงแต่ให้เกิด..ความลงตัวทางศิลป์ซะมากกว่า...
...เพราะช่างเขา..คงคิดว่า..ปลายหางนาค..ถ้าเอามันมาชนกันธรรมดา..มันก็ดูไม่สละสลวยอะไร
(บ้านเมืองเหนือ..เลยเอาหางนาคมันไปพาดไข้วกันซะ..กลายเป็น..กาแล..ไปเลย)
....ศิลปชุดนี้..จะ..มีปรากฏ..ส่วนใหญ่ในรูปของ..ปูนปั้น..นั่นคือ...
................กาล..จะไปปรากฎ..ที่ยอดของ..ซุ้มประตู..หรือ..ตำแหน่ง..ส่วนยอดของปั้นลม..
..โดยมันจะกิน..นาค..หรือ..มกร..๒ ตัว..ตัวนึงเลื้อยหนีไปทางซ้าย..ตัวนึงเลื้อยหนี..ไปทางขวา..
ซึ่งลำตัวนาค..จะทอดลาดลงมาตามตำแหน่งปั้นลม..ซ้าย-ขวา....
...แต่พอมา..เป็นหินยาน..นั้น..กาลจะมีปรากฎ..อยู่แบบเดียว..คือ..แบบหลังที่ว่าไป...
..เพราะ..หินยานเรา..ไม่ได้นับถือ..เทพของฮินดูและพราหมณ์....
...และจะมีแต่ปูนปั้นเท่านั้น...ดังตัวอย่างที่เราพบได้..ที่วัดมหาธาตุ..จังหวัดสุโขทัย....
..........................................................................

....และ..กาล..รูปแบบทั้งหมด..ที่ว่ามา..จะเห็นส่วนสำคัญให้สังเกต..ในหลักการ..อย่างนึง
....ที่ผมใช้เอามาพิจารณา........ถ้าเป็น..กาล...ต้องมี..ของไหลเข้าปาก..เสมอ.......

....................

...ภาพจากวัดมหาธาตุ..สุโขทัย..เสียดายภาพเล็กไปหน่อย..ที่..กาล..กินนั้น..เป็น..มกร
นะครับ..ไม่ใช่..นาค..เป็นลวดลายปูนปั้น..ในภาพ..จะเห็น..หน้ากาลเล็กๆ..อยู่ใต้
หน้ากาล..อันบน..เข้าใจว่า..ช่างแถมขึ้นมาเอง..ไม่ให้ดูมันโหว่..ภาพที่หน้าบัน..เป็น
ภาพ..พุทธประวัติ
...(ขอบคุณภาพจาก Guru.sanook.com)

.................ต่อตอนหน้า................

 

***สวัสดีครับ ศิษย์พี่ ท่านกำธร สวนพลู เฉียวฟง ทิดพล และ ทุกๆท่าน
มาตามติด รับความรู้ ตอนต่อไปครับ ชอบมากๆ ครับ***

 

สวัสดีคุณอา และพี่ๆ ทุกๆท่านครับ เตรียมตัวเข้าสู่ปีใหม่ไทย สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้าครับคุณอา และพี่ๆทุกท่าน

กราบขอขมา คุณอา และพี่ๆ ทุกท่าน หากมีการผิดพลั้งด้วยกาย วาจา ใจ ในการคอมเม้นต์กระทู้นี้ไปกระทบจิตใจ ทำให้ขุ่นเคือง กราบขอขมา และขอให้ทุกท่านให้อภัยด้วยนะครับ

ช่วงสงกานต์คงไม่ได้เข้ามา เลยมากราบขอขมารุ่นใหญ่ล่วงหน้าครับ

 

....................
......หวัดดี..น้องรุ่งศิษย์น้อง..และ..หลานสวนพลู..รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม
...................
..เรื่องของ..กาล..ต่อ..
...................
..................................................
..ก่อนจะมาว่าอะไรต่อ..ต้องมาว่า..หรือมารู้ธรรมเนียม..ของช่างยุคโบราณอย่างยุคอยุธยา
ซะก่อน..ช่างที่ผมจะพูดถึงเฉพาะในที่นี่นั้น..หมายรวมถึง..ผู้ออกแบบลวดลายการแกะสลัก
...ซึ่งมีอยู่..สองประเภท..คือ ช่างทั่วไป..และ..ช่างหลวง...ช่างทั่วไปนั้น..ค่อนข้างมีอิสสระ
แต่ก็มีแบบแผน..รอบรู้เรื่องราว..ศิลปในยุคนั้น..และกฏเกณฑ์ต่างๆ..เพราะ..มีครู.และอาจจะ
เก่งกว่าช่างหลวงอีก..โดยทั่วไปช่างที่ชำนาญการแล้ว..ขนาดถึงขั้น..สอนคนได้..เป็นครูแล้ว
..ก็อาจเริ่มมีความคิดนอกกรอบ..และ..สามารถนำไปใช้ได้ตามประสงค์บ้างแต่โดยทั่วไป..ยัง
คงเคารพ..แบบแผนหลักๆ...ดังนั้น..ในงานศิลป์ตามวัดทั่วๆไป..เราจะเห็นอะไรแปลกๆได้..
...แล้วถ้าระดับชั้นครู..ทำงาน..เจ้าของงาน..ก็จะให้ความเคารพเช่นกัน..ทำให้เกิดอิสสระขึ้น..
..........ต่างจาก..ช่างหลวงนั้น..แบบแผน..ระเบียบนั้น..จะต้องเคร่งครัด..เพราะจะต้องผ่านการ
ตรวจวินิจฉัยเห็นชอบขึ้นไปตามลำดับ..โดยเฉพาะ..งานที่กษัตริย์เป็นผู้ดำรินั้น..ผู้ที่โอเค..ไม่
โอเค..ก็จะเป็นกษัตริย์..ดังนั้น..การคิดนอกกรอบ..หรือแหกกรอบนั้น..เป็นไปได้ยาก..ยกเว้น..
เจ้ากรมช่างหลวง..จะเห็นชอบ..ยังพอมีหนทางเพราะ..สามารถพูดคุยกับกษัตริย์ได้โดยตรง..
..ดังนั้นงานแบบนี้..จึงจะแหกกรอบยาก..แล้วไอ้เรื่องฝืนเอาแบบไปทำนั้น..ยิ่งเป็นไปไม่ได้..
เพราะโทษ..ร้ายแรง..อาจติดคุกหัวโต..โดนริบทรัพย์เข้าท้องพระคลังได้....
...............................................
............งานที่วัดหน้าพระเมรุนี้..เป็นงานของกษัตริย์..การคิดนอกรอบ..นอกกฏเกณฑ์ที่ทำมา
คงเป็นไปได้ยาก....ผมกำลังจะเข้า..เรื่องของ..กาล..นี่แหละ...
...อยุธยายุคต้น..พวกช่าง..ก็ยังคุ้นเคย..และ..รับทราบศิลป์ทางขอมเป็นอย่างดี..และ..แน่นอน
เมื่อรู้ด้านนี้..ก็ต้องรู้จักว่า..งานศิลป์..ที่จะวาด..และ..แกะสลัก..”กาล”..นั้นมันต้องมีกฏเกณฑ์
อะไรบ้าง..และ..งานศิลป์ระดับนี้..ก็ต้องชัดเจน..ตั้งใจทำรูปอะไร..คนต้องเห็นและ..รับทราบ
ว่า..เป็นตัวนั้น..ไม่สับสน...
...ผมจะรวบรวมเกณฑ์..ในรูปแบบงานศิลป์..ที่จะสรรสร้างให้คนรู้ว่า..เป็น..กาล..และไม่ผิด..
แบบแผน..เป็นยังไง...
๑. กาล..จะไม่อยู่ใต้..ผู้ใด..เว้นแต่..พระอิศวรเท่านั้น....
๒. กาล..โดยทั่วไป..จะไม่แสดงขากรรไกรล่าง..เห็นแต่ริมฝีปาก..และ..ฟันด้านบน
...และ..จะต้องเป็นลักษณะ..ที่งับ..หรือ..มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด..ผ่านเข้าไปในปาก..เสมอ..
๓. หน้าของ..กาล..นั้นคือ..หน้าสิงห์..จะมีจมูกที่ใหญ่..และมีลักษณะของปากที่ยื่น
ออกไป..คนละแบบ..กับ..ยักษ์ที่จมูกจะเล็กกว่า..และ..ปากไม่ยื่น...
๔. กาล...ไม่ใส่..มงกุฏ..หรือ..ชฎา...มีแต่..สายรัดที่หัว..และ..มีขนบนหัว..ชัดเจน
ที่ยื่นออกไป..จะยาวสั้น..ซึ่งเป็นคนละแบบ..ผมหยิกติดหนังหัว..แบบยักษ์..
.......ส่วนใหญ๋..ขนที่กลางหัวจะยาวที่สุดแหลมขึ้นไป..แล้วไล่ระดับ..ลงมา..
(..ทำให้..บางคนเข้าใจผิด..นึกว่า..กาล..นั้นใส่เป็นแบบ..กระจัง..ซึ่งจริงๆ..ไม่ใช่..
..มันเป็น..ขนหัวของสิงห์..ที่ได้รูปแบบและดัดแปลงมาจากสิงโตตัวผู้..อย่าลืมนะครับ
..อินเดียนั้น..มีสิงห์โต..เป็นสัตว์พื้นเมือง..คือ..นอกเหนือจากทวีปอาฟริกา..ก็มีแต่..อินเดีย
เท่านั้น..ส่วนจีนนะไม่มี..แต่อยากมี..เอาเข้ามาเป็นสัตว์ในเทพนิยายของตัว..จินตนาการรูป
จากคำบอกเล่า..แล้วก็ผสม..หมาให้มันออกมาเป็น..รูปแบบของสิงห์โต..เลยได้หมาปักกิ่ง
มาแทน....).....
๕. ขนาดสัดส่วนของ..กาล..นั้น..จะใหญ่กว่า..เมื่อเทียบกับ..คน..เทวดาทั่วไป..หรือ..
แม้กระทั่ง..สัตว์หิมพานต์..อื่นๆ...และ..เด่น..เห็นได้ชัด..
๖. นอกจากหน้า..แล้ว..กาล..ก็จะมีอวัยวะ..อีกเพียงแค่..แขน..และ..มือ..แต่บางครั้ง
ก็ไม่แสดง..มือ..มีแต่หน้าอย่างเดียว...
๗. ฟันของ..กาล..จะต้องแหลมยาว..และกระจายทั่วริมฝีปาก..พร้อมกับเขี้ยว ๑ คู่..
..แบบฟันของสัตว์กินเนื้อ..ซึ่งก็คือ..ฟันสิงห์โต..นั่นเอง...
...(ฟัน..จะต่างจากยักษ์..เพราะ..ยักษ์นั้น..ฟันทั่วไปเหมือนคน..คือ..แบนๆตัดตรง..ยกเว้น
แค่เขี้ยว..ที่จะแหลมยาว)...
...เท่าที่ผมทราบ..และ..สังเกตมา..ก็จะมีประมาณนี้...

...........................................................................
....ดังนั้น..ด้วยวัดหน้าพระเมรุ..ที่สร้างสมัยอยุธยาตอนต้น..นั้นงานศิลป์.รูปแบบ..แบบแผน
..ของดั้งเดิม..ส่วนใหญ่..จึงยังรักษาไว้....ซึ่ง...ต่างจากสมัยอยุธยา..ตอนปลาย..และต้น..
..รัตนโกสินทร์..ที่เริ่มมีเอกลักษณ์..ของตัวเอง..ดังนั้น..กาล..จึงไม่มีความหมายอื่น..นอกจาก
ส่วนประกอป..หรือ..องค์ประกอบหนึ่ง..ของงานศิลป์เท่านั้น..มีการนำมาใช้..เพื่อความสวยงาม
(...แถม..หน้าตา..กาล..บางครั้งก็เพี้ยน..ไปเป็น..ยักษ์..ก็มี...).
ไม่มีความหมายอื่นใด..แถมมีการ..ดัดแปลงไป..วางประกอบกับ..ลวดลายเครือเถา..ลายกนก
เพื่อความลงตัว..อย่างที่เราเคยเห็น..ว่า..มันกลายเป็น..ลายกระหนกหน้าสิงห์..ตามธรรมมาสน์..โต๊ะ
หมู่บูชา..ที่ขาโต๊ะ..ก็กลายเป็นขาสิงห์ไป..ฐานสิงห์..ที่มีรูปหน้าสิงห์..อยู่ตรงกลาง..แล้วประดับ
รายล้อมด้วย..ลายเครือเถา..ลายกนก..ความจริงที่มา..มันก็มาจาก..กาล..นั่นเอง..ไม่ใช่ราชสีห์
..เพราะ..ราชสีห์..ก็คือ..ราชสีห์..ในความหมายศิลปไทย..สิงห์..นั้น..ก็คือ..กาล..นั่นเอง....
...ดูในเรื่องเกี่ยวกับ..ยันต์..ซิ...
...เรามี..ยันต์ราชสีห์...ยันต์เสือเผ่น...แต่..เราไม่มี..ยันต์สิงห์..ใครที่เข้าใจผิดว่า...
........สิงห์นั้น..ก็คือ..ราชสีห์..ก็ขอให้ทราบด้วยว่า...ท่านเข้าใจผิด..เหมือนอย่าง...
.........เบียร์สิงห์...ที่เอารูป..ราชสีห์..มาใช้นั่นแหละ....พอดี..คนไทยชอบอะไร..ง่ายๆ..สิงห์
มันเรียกง่ายดี..ก็..เลยใช้แทนไปเลย....
.......................................
....กลับมาเข้าเรื่องอีกที....ว่า..ทำไม..ผมตัด..กาล..ออกจากการพิจารณาแต่แรก..ก็เป็นดังที่
กล่าวผ่านๆมาตอนก่อนหน้านี้..ด้วยเกณฑ์แรก..นี่เป็น..งานศิลป์อยุธยาตอนต้น..ที่ยังรักษา..
รูปแบบ..และ..แบบแผนอยู่..เอามาเป็นหลัก...และด้วยที่เป็น..งานของกษัตริย์
...เมื่อกลับไปดูรูป...ที่หน้าบัน..วัดหน้าพระเมรุ..จะมีข้อสังเกตได้ดังนี้....
..............................................
....๑. หน้ามัน..เห้นได้ชัดเจน..ว่าเป็น..ยักษ์..ไม่ใช่..สิงห์..แน่นอน..ยุคนั้น..ไม่มีการทำ..หน้า
กาล..เป็น..หน้ายักษ์....
....ดูฟัน..ดูจมูก..ดูปาก...ไม่ใช่สิงห์..แน่นอน..
....๒. หัวโล้น..(นั่นแหละ..ทำไมผมถึงบอกว่า..เป็น..นนทุก)..กาล..ยังไงก็ต้องมี..ขนยื่นออกมา
ชัดเจน..เพราะหัวมันเป็น..สิงห์..สิงห์ต้องมีขนหัว....
....๓. กาล...ไม่อยู่ใต้ใคร..นอกจาก..พระอิศวรองค์เดียวเท่านั้น..นี่อยู่ใต้..พญาครุฑ..เทียบกับ
มัน..กระจอกมาก..และ..ต้องถูกจับกินด้วยซ้ำ..
....๔. ไอ้ตัวนี้..หุบปาก...ถ้าเป็น..กาล..ปากต้องอ้า..ตลอดเวลา..และมีรูปวัตถุ..หรือ..สัตว์..
คาติดอยู่ในปาก..เพราะ..มันกินตลอดเวลา...
....๕. ไม่มีเรื่องราว..หรือ..แบบแผนใด..ที่..กาล..ไปเกี่ยวข้องกับ..พระนารายณ์
และ..พระนารายณ์..ก็ต้องไม่กล้าไปยุ่งกับมัน..เพราะมันเกิดจาก..พระอิศวร...

...........................
..เอาแค่นี้..ก็..พอแล้ว.. หวังว่า..คงพอตอบข้อ สงสัยได้..ว่าทำไมผมถึง..ฟันธงว่า...
มัน..ไม่ใช่..และ..ไม่เอาเข้ามาพิจารณา..แต่แรก............

..................

....นี่ไงครับ.."ลายกระหนกหน้าสิงห์"...ที่ๆมาจริง...ดัดแปลงมาจาก..หน้ากาล..
นั่นเอง....
(ขอบคุณภาพ..จากคุณ SOPIDA และ PUKPIK.com)

......................ต่อเข้าเรื่องเดิม..ตอนหน้า............

 

นั่งไล่ตามอ่านบทความของคุณอาแล้วได้ความรู้ + เปิดโลกได้ดีมากๆเลยครับ ...

ผมขออนุญาตถามออกนอกเรื่อง พ่อปู่ฤาษี และพระพิราบ ที่เป็นบรมครูในศาสตร์ทุกๆแขนง
ที่คนบันเทิง คนทำงานศิลปะต้องครอบครูครับ ... คนนิยมมาแขวนห้อยบูชากัน พระเกจิองค์ไหนทำออกมาได้เข้มคลัง ทรงพลังที่สุดครับ ?

 

........................................
...พระองค์ไหน..เข้มขลัง..ทรงพลัง..ผมยังไม่ทราบเลย..ผมไม่ใช่นักจับพลัง..ผมเป็นนักวิชาการ(อันนี้ยอมรับเพราะเป็นตำแหน่งเก่า)..คนชอบค้นคว้าประวัติศาสตร์..คนชอบค้นคว้าเรื่องพระเครื่องและศิลป..ไม่ได้เป็นเซียนพระด้วย..แล้วสายนี้..ก็ยิ่งแทบไม่รู้เรื่องเลย...
...รู้แค่องค์เดียว..เนื่องจากเก่าทันสมัยผมยังเล่นพระอยู่คือ...เหรียญครูฤาษีวัดใหม่พิเรนทร์ บางกอกใหญ่..งานไหว้ครูปี ๒๕๑๓ ..อันนี้แรงแน่..คือ..ราคา..และ..ของปลอม..นอกนั้นไม่ทราบครับ....

 

สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับอ้ายมด
มารอรับความรู้ดีดีเช่นเคยครับผม

 

..............
..หวัดดี..โอ้ตตี้..และ..พลศิริน้องรัก..และ..ทุคนในครอบครัวผม
.......................
..ต่อเรื่องของ..วัดหน้าพระเมรุ...
.......................
.........................................................
..เรื่องของเจ้าคุณธงชัย..ที่ผมเอามาเล่า..นี่ก็แสดงให้เห็นว่า..ตัวท่านนั้น..ฉลาด..
..และ..เป็นคนที่ชอบศึกษา..ท่านก็คงค้นคว้าเพิ่มเติมของท่าน..อีกอย่างท่านก็ไม่ขี้เหร่
เท่าไหร่เพราะ..ท่านฝากตัวเป็นศิษย์..เรียนวิชากับ..หลวงพ่อบุดดา..องค์อื่นๆ..ผมไม่เอ่ย..
เพราะ..หลวงพ่อบุดดาท่านเป็นอริยสงฆ์..ผู้ยิ่งใหญ่...ท่านคงได้อะไรมาไม่น้อย...
...หลังจากท่านศึกษา..วิเคราะห์แล้ว..ท่านคงทราบถึงอุปเท่ห์...รวมถึง..อาถรรพณ์
..ความศักดิ์สิทธิ์แห่งรูปลักษณ์และ..ความลับ..ที่ซ่อนอยู่..ถึงได้นำไปใช้.....
....แต่ไม่ว่า..ท่านจะเก่งหรือไม่เก่งนี่..ผมก็ไม่ทราบนะ..แต่..เรื่อง..การที่ท่านใช้..
หลังเป็น..นารายณ์ทรงครุฑเหยียบหลังยักษ์..นี่ถือ..ว่าท่านทำมาก่อนใคร....(๒๕๓๖)
...นั่นคือสิ่งสำคัญ..ที่คนทั่วไป..ไม่สังเกต...ต้องถือว่า..เป็นตันแบบ..นำTREND..ที่
ตอนหลังเจ้าอื่น..ก็..ทำกันมาเยอะ...
...................................................................
...ผมมันแค่คนธรรมดา..ไม่มีฌาน..และ..ตำราคาถา..อะไร..เลยหมดสิทธิ์...ที่จะทราบ
เรื่องราว..อะไรเพิ่มเติม...เพียงแต่มันเป็นปริศนา..มาร่วม ๒๕๐ ปีแล้ว..นับจากที่..
พระเจ้าอลองพญา..ต้องมาเสียที..ที่นี่..เพราะตอนนั้น..เราหมดท่า..แล้ว.....
...มันเหมือนกับโชคชะตา..ของเมืองยังไม่ถึงฆาต..ในตอนนั้น...มันเหมือนกับว่า..
..มีอะไรไปชักนำให้พม่า..มาตั้งปืนใหญ่ที่นี่..แล้ว..ก็เลยเจอกับ..พลังศักดิ์สิทธิ์...
ของวัดนี้....เช่นกัน..เรื่องขุดของ....ถ้าเมื่อ..สี่สิบกว่าปีก่อน..นั้น..ผมอยู่อยุธยา....
..เนื่องจาก..ผมเป็นคนช่างคุยและ..คุยสนุก..คนแก่ชอบ..แถมชอบเอาเรื่องโน้น
เรื่องนี้มาเล่าให้ผมฟังเรื่อย....จนผมได้มีโอกาศเอามาเล่าพอให้พวกเราฟัง...
.......ผมคงได้มีโอกาศ..คุยกันเต็มๆ..กับไอ้พวกขโมยขุดกรุรุ่นโบราณบ้าง.....
ว่า..ที่นี่..รอด..ไอ้พวกเสือหิว..ทั้งหลายมาได้ยังไง....เพราะเท่าที่หาข้อมูล..และ..
เห็นรูปมา..ในสมัยรัชกาลที่ ๖..นั้น..ในเกาะเมืองนี้..ยังแทบร้าง..และ..รกมาก..
...วัดที่ยังเหลืออยู่อย่างเช่น..วัดหน้าพระเมรุนี้..เปลี่ยวมาก....ขนาดว่า..ในตอนกลาง
วัน...นี่ยังมีแอบขุดกันเลย...ทั่วไป...
.............ครับ..ก็คงไม่มีอะไรอีก..แค่นำเสนอ..บางอย่างมาให้รับทราบ..กัน...ส่วน
ใครไม่เคยไปก็ไปซะ..ของสวยๆมีให้ชมเยอะ..อย่างบานประตูวิหารเขียน(ที่..
หลวงพ่อหินเขียวอยู่)..นี่เกาะ..อยู่ในระดับแถวหน้า..ของประเทศเลย...แกะสลับ
ซับซ้อน..สวยงามประณีตมาก....
............คือ..ถ้า..ค่อยๆดู..ไม่รีบร้อน..และชื่นชมความงามให้เต็มที่..และ..ไม่อยาก
กระโดดไปวัดโน้น..วัดนี้..ให้เสียเวลาเล่น..ผมว่า..ที่นี่...ครึ่งวัน..สบายๆ...ถ้า
.......คุณอยากไปดูงานศิลป์..ชั้นยอด....
.......คุณอยากศึกษาประวัติศาสตร์..รูปแบบโบราณสถาน...
.......คุณอยากไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหว้.......
.......คุณเป็นคนชอบถ่ายรูป......
........คุณชอบอะไรที่อยู่ระดับแถวหน้าของประเทศหลายๆอย่าง..และ..ไม่เหมือนใคร..
...............ที่นี่มีพร้อมครับ................
..เพราะ..ที่วัดหน้าพระเมรุนี่..ไม่ธรรมดา.................................
.......................จบตอน...........................
......................สวัสดี......................
...เนื่องในวาระดิถี..ขึ้นปีใหม่ของสยามประเทศ...
..ผมกราบขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย..และ..สิ่งศักดิ์อันเป็นที่นับถือ
..ของแต่ละคน..ที่เป็น..คนในครอบครัวผม..ช่วยปกป้อง..คุ้มภัย..
..ผ่อนหนักเป็นเบา..ในทุกปัญหาที่จะนำมาซึ่ง..ทุกข์...ที่จะเกิดขึ้น
กับ...พวกเราทั้งหลาย..ต่อไปในภายภาคหน้า..ถ้วนทั่ว..กันเทอญ.........

 

ติดตามอ่านตลอดแต่ไม่ได้โพสอะไร เนื่องในวันสงกรานต์ปีพ.ศ. ๒๕๕๗ นี้ขอให้คุณ modpong และทุกๆท่าน ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการเงิน มีครอบครัวที่อบอุ่น เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยครับ

 

สวัสดีปีใหม่ไทย ครับ ขอให้คุณอาสุขภาพแข็งแรง มีความสุข สร้างเสริมประสบการณ์ และ การเรียนรูั ของคนรุ่นต่อไป นานเท่านาน

 

สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับคุณลุง
ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัยในทุกที่ทุกทางที่ไป
เป็นกำลังใจและติดตามผลงานการเขียนของคุณลุงอยู่เสมอครับ

 

มาขอรับพรอันมงคลของคุณอา..และสมาชิกทุกท่านด้วยครับ
สวัสดีปีใหม่ไทยในวันสงการณ์ ผมขอให้คุณอามด และครอบครับตลอดจน เพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขตลอดปี ขอให้มีความโชคดีตลอดไป
ขอขอบพระคุณอามดที่มอบความรู้ดีๆมีสาระ มาให้ในทุกๆวันครับ