วิธีที่จะคิด ปลง ปล่อยวาง ให้อภัย มีหลักแนวคิดอย่างไรครับ???

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tonkaroo, 24 มีนาคม 2014.

  1. tonkaroo

    tonkaroo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +20
    คือที่บ้านมีพ่อแม่ พี่สาวและผม
    พี่สาวผมไม่คุยไม่ถูกกับผมมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว พ่อแม่ก็ทราบ แต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว พี่ผมเอาแต่ใจตัวเองมากและสิ่งที่ติดอยู่ในหัวของเขาก็คือ พ่อแม่รักผมมากกว่าตัวเขา ซึ่งมันไม่เป็นความจริงแน่นอน แต่มันก็ไม่สามารถลบออกไปจากหัวของพี่ผมได้ และปัญหาอื่นๆอีกเพียบก็ตามมา ผมก็คิดว่าปัญหาเหล่านี้ก็คงจะเกิดกับอีกหลายครอบครัวที่พี่สาวไม่ถูกกับน้องชาย และผมเองก็พยายามทำดีและจะเป็นมิตรกับเขา แต่มันก็เหนื่อย และผมคิดว่าผมคงต้องยอมแพ้ดีกว่า
    พี่ผม 40 ตัวผม 37
    ประเด็นก็คือ ผมอยากจะปล่อยวาง หรือให้อภัย ปลงอะไรประมาณเนี้ยน่ะครับ
    แต่กระบวนความคิดมันยังทำไม่ได้ครับ
    บางทีพี่สาวผมชอบพูดกระทบ หรือไปว่าผมให้พ่อแม่ฟัง ในใจผมก็จะรู้สึกโกรธ โมโห ขึ้นมาทันที แต่ไม่เคยถึงขั้นมีปากเสียงน่ะครับ
    คือผมอยากจะมีความรู้สึกว่าใจเย็น หรือไม่เป็นไร ให้อภัยได้
    แต่มันทำไม่ได้อ่ะครับ ผมก็เลยอยากจะสอบถามเพื่อนๆพี่ๆ ว่า เราควรจะมีหลักความคิด หรือวิธีคิดอย่างไรดี คือผมก็ไม่โต้เถียงอยู่แล้ว แต่ในใจมันยังร้อนลุ่มอยู่ครับ ทุกวันนี้ก็หันมาสวดมนต์ เช้าและก่อนนอน แต่พอเจอพี่สาวผม อาการน่าเบื่อน่ารำคาญ บางทีไม่อยากอยู่บ้าน อะไรประมาณเนี้ยครับ
    แนะนำผมด้วยน่ะครับ ผมจะได้หลุดพ้นส่ะที
    ขอบคุณครับ
     
  2. Malaiteva

    Malaiteva เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +192
    .สิ่งภายนอกหมุนไป หมุนมาเป็นธรรมดาของโลก
    .ในใจเรามีกิเลสเองนะ
    .ความโกรธเกิดขึ้น ตั้งสติรู้ อดทนไว้
    .รู้เก่งเข้าเดี๋ยวมันน้อยลงเองนะ
    .กิเลสในใจเราน้อยลง ไม่ว่าโลกจะหมุน หรือกระทบอะไร
    ใจท่านไม่หมุนละกัน....
     
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    พยาบาท เป็นหนึ่งใน นีวรณบรรพ ในมหาสติปัฏฐานสูตร
    อย่าผมเนียะ ก็ภาวนาพยายามในนิวรณ์ระงับ
    แต่มันไม่้ระงับ ก็คิดไปคิดมา
    บางทีกลไกของเราที่โดนสภาพแวดล้อมบ่มเพาะมา
    บางที่เราเชื่อแบบลึกๆว่า ความไม่ยอมให้อภัย จะทำให้เราปลอดภัย
    บางที บางครั้งเราอาจจะเชื่ออยู่ลึกๆว่า การเป็นคนให้อภัยอะไรง่ายๆ
    จะโดนคนที่เราไม่ชอบ หรือที่เราคิดว่าไม่ดีกะเรา ทำร้ายได้ง่ายขึ้น
    ประมาณงว่าคนอภัยง่ายๆ มักจะประมาทอะไรงี้

    แต่เวลาเราภาวนา หมายถึงว่าแบบนั่งสมาธินะครับ
    ความเชื่อพวกนี้อาจจะหลบใน มันแบบพยาบาทหลบใน

    คุณต้องพิจรณาให้เห็นก่อนว่าต่อให้จำเป็นต้องเชื่อว่าพยาบาท หรือไม่ให้อภัยดี
    แต่มันก็ทุกข์ ทุกข์เพราะเราแอบเชื่ออย่างนี้อยู่ลึกๆ
    ไม่ต้องคิดลึก พยาบาทมันลึกอยู่แล้ว
    มองมันว่ามันทุกข์ จนมันช่ำใจ เอาแค่ตอนนั่งสมาธิก็พอ

    ใช้กับ กามฉันทะ สงสัย ง่วงขี้เกียจ ฟุ้งก็ได้
    มันมีกลไกเหมือนกัน

    คืออยู่ดีๆจะมากดให้เรา หายพยาบาทอภัย บางที่ก็ทำได้แค่กดๆ
    พอมันระเบิดมาอีกทีก็ไม่ทันรู้ตัวแล้ว

    แต่ถ้าเรามองว่าต่อให้นิวรณืทุกข้อดี
    เพราะเราชอบนิวรณ์ มันก็ทุกข์อยู่ดี
    ดีแค่ไหนก็ทุกข์ ทุกข์เพราะกำหนัดไปว่ามันดี
    แค่นี้พอ นิวรณ์มันลึกเองอยู่แล้วไม่ต้องคิดไรลึก

    มันจะเบาบางไปเอง
    ภาวนา เห็นทุกข์ ในความยินดีในนิวรณ์ทั้งห้าบ่อยๆ

    ไม่ต้องไปเอาสมาธิกด มันจะโยโย่
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    จำชื่อนิวรณ์ให้ได้ครบห้าข้อ
    ทุกข์พิจารณาเห็นทุกข์แล้วจะได้บุญ
    ขอให้จำชื่อมันได้
    มี พยาบาท มีกามฉันทะ มีถีนะมิทถะ มีอุทัจจะอุกุจจะ มีวิจิกิจฉา
    ลองเซิร์ช หาคำแปลไทย
    แต่จำชื่อ ภาษาบาลีและภาษาไทยมันให้ขึ้นใจ
    และไม่ว่ามันดีแค่ไหน มันทุกข์
    จำเป็นต้องจำชื่อจำชื่อได้ เป็นการทำธรรมะวิจายะ ทำมากๆเกิดวิริยะ
    เกิดปีติ ได้บุญมาก
     
  5. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ขลังมากด้วย อุทิศกุศลให้ผี ผีดีใจมาก
     
  6. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    คือยังโมโห ยังไม่ให้อภัย ยังพยาบาท ยังทำได้หมด
    แค่เห็นว่ามันทุกข์ จริงๆนะ แค่นี้ก็ได้บุญแล้ว
    และถ้าเห็นด้วย ต่อไปอีกว่าก็ทุกข์เพราะมีตัญหา ในความโกรธ พยาบาท
    รอจนทุกข์หมดไปเพราะ ไม่มีอาหารให้มันกิน
    บุญยิ่งเยอะใหญ่ อุทิศกุศลเลย
    ชีวิตดีขึ้น
     
  7. tonkaroo

    tonkaroo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +20
    wow ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ เป็นประโยชน์อย่างมาก
    ผมจะค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจครับ
     
  8. rawjue

    rawjue Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +79
    ปล่อยวาง=(เมื่อรู้ว่าตัวเองเกิดความรำคาญ ก็ พอแล้ว ไม่รำคาญแล้ว เพราะไม่เกิดประโยชน์ มีแต่โทษ)

    เป็นกลาง=(ไม่เข้าข้างตนเอง และไม่เข้าข้างพี่สาว ให้นึกถึง ใจเขาก่อนใจเราเสมอ ว่า... "พี่สาวนี้หนอเหตุเพราะน้อยใจรึเปล่าก็แล้วแต่ พี่สาวนั้นเกิดความทุกข์แล้ว ช่างน่าสงสาร เราจะไม่เพิ่มพูน ความทุกข์ ให้กับเธออีก ยอมเธอพอประมาณด้วยความแยบยล และแยบคาย ที่สุด")

    วางเฉย=(เมื่อเรื่องราวเกิดไปแล้วก็ดี หรือยังไม่เกิดก็ดี หรือไกล้จะเกิดแล้วก็ดี ให้เลิกคิดถึงมันเสียได้ เอาเวลาไปคิดถึงอย่างอื่น มีค่ากว่ามานั่ง ระบายโทสะ(ความโกรธ,ไม่พอใจ)ใส่กันดีไหม?)

    ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่กรุณาอ่านความคิดเห็นของข้าพเจ้าผู้น้อย แล้วทำความเข้าใจ เป็นส่วนมาก ด้วยเถิด
     
  9. tonkaroo

    tonkaroo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบคุณมากครับ เข้าใจง่ายดีครับ คุณ rawjue
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ความปล่อยวางจะเกิดได้เมื่อมีปัญญา หาไม่แล้วจะกลายเป็นการกดข่มความขุ่นใจไว้จนอัดอั้นเฉพาะตน...

    ปัญญาที่ถูกแท้จะเกิดได้ เพราะได้สดับพระธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น บัดนี้ท่านจขกท พึงปล่อยศรัทธาเงี่ยโสตสดับเถิด..

    พระผู้มีพระภาคทรงสอนไว้เป็นเอนกว่า"สิ่งทั้งปวงย่อมไหลมาแต่เหตุเสมอ"..

    หมายความว่า สิ่งที่ไม่น่าพอใจ ไม่น่ายินดีที่ท่านจขกท ต้องพบเจอในเวลานี้ หาได้เกิดเองโดยปราศจากเหตุไม่...การที่ท่านต้องได้ยินถ้อยคำพูดกระทบหรือส่อเสียดยุยงให้เสียหายก็เพราะตนเองเคยใช้มิจฉาวาจาทำนองนี้มาแล้ว ในอดีต จะชาตินี้หรือชาติใด ท่านลืมไปแล้วแต่ผลกรรมนั้นไม่ลืมท่านเลย..กรรมนั้นได้จัดสรรให้ได้เกิดมาร่วมวงศ์พงศ์เผ่ากับพี่สาวที่มีอุปนิสสัยสันดานคล้ายตนในอดีต สมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า..."สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์"...

    ดังนั้น ท่านพึงทราบว่า บัดนี้สิ่งที่ท่านได้พบเจอนั้นย่อมเป็นเเค่เศษกรรมที่เหลือหลังจากไปใช้กรรมในนรกอบายภูมิมาแล้ว ทั้งเมื่อผลนี้ได้เกิดหรือใช้แล้วย่อมหมดหรือลดไป ..สงสารก็แต่พี่สาวผู้เขลาบอดเพราะไม่เคยสดับพระธรรมที่จะต้องไปรับผลอันแสบเผ็ดเช่นเดียวกับท่านในอัตภาพข้างหน้าหลายร้อยพันชาติ..

    เมื่อท่านทราบว่านี่เป็นเพราะตนเคยทำเหตุเสียหายมาจึงต้องรับผล ย่อมลดความโกรธเคืองหรือกล่าวโทษพี่สาวลงได้ไม่มากก็น้อย เพราะหากท่านไม่เคยทำเหตุมา ต่อให้อยู่ท่ามกลางแม่ค้าปากเสียกลางตลาด ท่านย่อมจะไม่มีโอกาสได้ยินถ้อยคำเสียดแทงใจเลย..ดังนั้น การที่ท่านจะเพ่งโทษโพนทะนาพี่สาวย่อมไม่ควร..

    อนึ่ง พระพุทธเจ้ายังทรงตรัสสอนอีกว่า "สิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง เกิดแล้วย่อมดับไป"...นี้เป็นความจริงที่ไม่มีใครค้านได้ ที่จริง ท่านไม่ได้ยินเสียงพี่สาวตลอดวันหรือเวลาเลย..เสียงที่กล่าวออกมาแ้ล้วย่อมดับไปทันที เพียงแต่ท่านจขกท นำเสียงนั้นจากสัญญาทรงจำมาคิดถึงบ่อยๆ...จึงเจ็บจิตขุ่นใจเสมอ หากท่านฝึกทำหูของตนให้รั่วราวกับหูกระทะ แม้เสียงผ่านมาก็ไม่รับเสีย ปล่อยให้เสียงผ่านไป ราวลมพัด หรือไม่เอาใจไปเป็น"เป้า"รับ... คิดว่าพี่สาวพูดกับใครที่ใหนก็ไม่รู้ ไม่ได้พูดกับเราสักหน่อย ดังนี้แล้วไม่เอาสาระใดๆจากถ้อยคำเหล่านั้น ..พึงทราบว่า สิ่งใดที่ใครส่งมาให้แล้วเราไม่รับสิ่งนั้นย่อมเป็นของผู้ที่ให้นั่นแหละ..เป็นอันว่าพี่สาวพูดให้ตนเองฟัง ตกลงเธอด่าว่าใครเล่าถ้าไม่ใช่ตนเอง!! ...เท่านี้เป็นอันท่านก็วางใจให้เป็นราวคนดูการเล่นละครของพี่สาว เมื่อท่านไม่เดือดปุดๆอีกต่อไป เธออาจเบื่อหรือหายบ้าที่จะตอแยกับท่านเพราะไม่สนุก อาจยุติพฤติกรรมที่ไม่ดีได้ ..

    อีกอย่างหนึ่ง ไม่มีใครไม่ตายเลยในโลก ดังนั้น ไม่ช้าก็เร็ว ความตายไม่ของพี่สาวก็ของท่านจขกท. ย่อมพรากท่านสองคนออกจากกัน ความเดือดร้อนใจเพราะถ้อยคำหรือพฤติกรรมแย่ๆของใครๆย่อมยุติไปด้วยอาการนั้น นี้ก็เป็นความไม่เที่ยงอีกเช่นกัน..

    หวังว่าท่านจขกท คงพอได้สาระประโยชน์ไปไม่มากก็น้อย ขอความสงบสันติพึงบังเกิดแก่ท่านตลอดไปครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2014
  11. tonkaroo

    tonkaroo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบคุณมากครับ คุณ ddman อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ
    ผมจะนำไปลองปฎิบัติดูครับ
    ผมชอบประโยคที่ว่า "หากท่านฝึกทำหูของตนให้รั่ว ราวกับหูกระทะ แม้เสียงผ่านมาก็ไม่รับเสีย ปล่อยให้เสียงผ่านไป ราวลมพัด"
     
  12. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    จขกท ลองแผ่เมตตาให้เขาหรือยัง?
     

แชร์หน้านี้

Loading...