เฮ้อ เสียดายความสามารถของตัวเองจริงๆ อุตส่าห์ฝึกจนน่าจะเก่งที่สุดในโลกแล้วนะเนี่ย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย gratrypa, 13 มกราคม 2013.

  1. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    บังเอิญมีท่านนึง ถามมาว่ารับรักษาพวกคุณไสยมนต์ดำด้วยหรือไม่
    ก็ถามอาการกลับไป แต่ตอนนี้นึกถึงเรื่องนึงขึ้นมาได้ ขอโม้หน่อยละกัน นะ

    เมื่อประมาณสิบหกถึงสิบแปดปีที่แล้ว ที่กะลังฝึกฝนและค้นหา "พุทธะซาเปี๊ยน"
    อยู่ที่สวนโมกข์นะ เคยรักษาคนไข้คนนึง ที่เค้าว่าโดนของมาด้วยล่ะ
    อาการคือชอบเดินไปเดินมา กลางคืนไม่หลับไม่นอน ปวดโน่นปวดนี่

    ก็ลองจับพลังออร่าของเค้าดูนะ แล้วก็เจอว่าตรงที่เค้าว่าปวดน่ะ ออร่ามันหายไป
    คล้ายๆ ยุบลงไปล่ะมั้ง นะ ไล่วัดดูรอบๆ แล้วก็เหมือนกะมันดูดพลังเราด้วยล่ะ
    ก็ใช้การทำความสะอาด ตามตำรา ไล่พลังไปรอบๆ ใส่แสงสีเข้าไปตรงนั้น
    และก็อัดพลังมันเข้าไปตรงๆ แหละครับ ตามสไตล์ จนพลังมันเหมือนจะเต็มขึ้นมาได้

    แล้วก็ได้ผลนะ เค้าดีขึ้นจนเป็นปกติได้ ในวันรุ่งขึ้นล่ะมั้งนะ จำไม่ค่อยได้ทั้งหมด
    แต่ตอนรักษานะ มีของเข้าตัวด้วย รู้สึกร้อนรุ่มในตัว ใจสั่นหวั่นไหว เล่นเอาสะดุ้งเลย
    เลยรีบทำโยคะอาสนะ เพื่อเรียกพลังงานขึ้นมาเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ผล
    บังเอิญนึกได้ว่า ตอนนี้อยู่ในวัดสวนโมกข์ ของท่านพุทธทาส แค่นั้นเอง
    ไม่รู้ว่าพลังอะไรแทรกเข้ามาในตัว รู้สึกมั่นใจขึ้นมาทันทีเลย อาการก็หายไปในพริบตา
    ไม่ได้ขอให้ท่านช่วย หรือนึกอะไรเลยนะ แค่นึกได้ว่าอยู่ในสวนโมกข์แค่นั้นเอง

    นี่น่าจะเป็นครั้งเดียวล่ะมั้ง นะ ที่รักษาแล้วเจอของเข้าตัว แบบฉับพลันทันที
    เค้าว่าโดนแขกทำมา คนไข้ผู้หญิงสาวๆ ไม่รู้โดนมาไง แต่ก็หายได้ แปลกดีมะ

    ท่านที่ถามมา ถ้าเราจับได้ว่าพลังออร่า หรือปราณหายไป จากตรงจุดที่เจ็บปวด
    หรือมีอาการใดๆ ก็อาจจะช่วยรักษาได้นะครับ ต้องลองดู

    ตามทฤษเฎาของเราเอง (คล้ายๆ ทฤษฎี แต่มีเลือดบ้า และค่าความเพี๊ยนสูงกว่ามาก)
    ถ้าของหรือคุณไสย มันทำให้เจ็บปวดได้ ก็เพราะมันส่งผลออกมาได้ที่ร่างกาย
    ปราณหรือออร่าในกาย ก็จะต้องมีความผิดปกติด้วย เพราะเค้าอยู่ด้วยกัน
    ถ้าเราสามารถซ่อมปราณได้ ก็จะส่งผลให้ของสิ่งนั้นหมดประสิทธิภาพไปได้

    แน่นอนว่าพลังจิตส่วนตัว ก็คงจะมีส่วนสำคัญในความสำเร็จอยู่มาก
    พลังแห่งสติ ที่เรามีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม และไม่ขาดตอน ก็สำคัญมากเช่นกัน
    อำนาจแห่งสมาธิ ที่ฝึกฝนอยู่มาตลอดหลายปี ก็ช่วยให้การรักษาเป็นไปได้โดยง่าย

    การบังคับและควบคุมลมปราณได้ดังใจ สั่งหรือส่งให้เข้าไปส่วนไหนก็ได้
    และยังมีการใส่สีต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนอำนาจแห่งปราณ
    ให้มีคุึณลักษณะเฉพาะตัว และเพิ่มเติมพลังงานพิเศษเข้าไปในนั้น ก็ช่วยได้มาก
    แล้วยังบังคับให้ปราณ เคลื่อนไหวไปได้ตามหลักเคลื่อนไหวทั้งแปดของไท๊เก๊ก
    การโคจรพลังลมปราณ การกักเก็บและปล่อยออกได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
    และน่าจะยังมีแหล่งพลังงานอย่างอื่นอีก ที่ฝึกฝนและค้นหามาตั้งแยะ
    แต่โม้แค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะ มั้ง นะ

    ทั้งหมดนี้ รวมกันอยู่ในการรักษาโดยอัตโนมัติ ในทุกลมหายใจเข้าออก
    ในทุกขณะจิตที่เราบังคับสั่งการอยู่ได้ โดยตั้งใจกระทำการ ล้วนร่วมมือกันดีมาก
    จนยากที่จะสรุปออกมาได้ว่า เราใช้หลักการอะไรในการรักษา

    ก็อยากให้ท่านที่ถามมา บอกอาการมาให้ละเอียดนะครับ


    หมอมือเปล่า / นักรบแสง
     
  2. saisiam_amn

    saisiam_amn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +12
    เวลารักษาแล้ว จะหายหมดเลยไหมค่ะ ?
    เวลาผ่านไปนานๆ กลับมาเป็นอีกไหม ?
    แล้วโรคบางโรคที่ยังไม่มีทางรักษาอย่างโรคสั่นสันนิบาตละค่ะ รักษาได้ไหม ?
    แล้ววิชาพวกนี้ใช้รักษาโรคประสาท หรือพวกหูแววได้ไหม ?

    รบกวนตอบด้วยค่ะ พอดีไม่เคยได้ยินเรื่องการรักษาแบบนี้เลยสนใจค่ะ
     
  3. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    จะหายหมดหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าเป็นอะไรมากน้อย ซับซ้อนแค่ไหนครับ
    วิชาของเรา เน้นที่การถ่ายทอดลมปราณ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
    เพราะระบบรักษาตัวเองของร่างกาย อาจจะทำงานได้ไม่ดีมากพอ
    ถ้าอาการไม่มากนัก ก็อาจหายขาดได้
    หรือแม้แต่อาการหนักมากๆ ก็อาจหายขาดได้เช่นกัน ไม่แน่นอนนัก

    โรคสั่นสันนิบาต ก็ไม่เคยลองนะครับ แต่น่าจะดีขึ้นได้ จนน่าพอใจ
    อาการของโรค จากระบบประสาทและการเสื่อมของเซลล์ เป็นสาเหตุใหญ่
    การถ่ายลมปราณ มีผลทำให้การทำงานของเซลล์ ดีขึ้นได้แน่นอน

    เซลล์ที่เสียหาย จะถูกขับออกจากระบบ
    และการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน จะกระทำต่อเนื่องกันไป
    นิวรอนและซิสแนปส์ของสมอง น่าจะมีเซลล์สร้างใหม่ มาช่วยเสริมระบบ
    สรุปว่า ตามทฤษเฎาของเราเอง ต้องได้ผลแน่นอน (ทฤษเฎา คล้ายทฤษฎี)
    แต่จะมากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็ไม่สามารถตอบได้ครับ

    ส่วนโรคประสาท หรือหูแว่ว เราก็ไม่เคยได้ทดลอง
    ก็เลยไม่สามารถให้คำตอบที่แน่นอนได้ครับ

    ลองหาข้อมูลจากอากู๋ดูก่อนครับ มีแยะเชียว
    วิชาของเราก็คล้ายๆ กับพวก พลังจักรวาล หรืออื่นๆ อีกมากมาย
    แต่ต่างกันในรายละเอียด ก็หลายอย่างอยู่นะ เวลาไม่พออธิบาย ขออภัยด้วย


    หมอมือเปล่า / วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด

    .
     
  4. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    เขียน พฤหัส 21/11/56 12.45


    "ลองของ ผ่านหนัง ฟังทันไหม"

    ...หนึ่งสอง สี่ห้า พระพาหลง
    เดินตรง พูดดัง ข้างหลังผม
    "ล่องเอ๋ย ล่องลอย คล้อยตามลม"
    ดั่งพรหม พูดพา มาให้ยิน

    ...จะชม หรือบ่น ตนสงสัย
    มือคว้า เขียนไว ใจสุขขี
    หรือใคร ลองข้า ปัญญาดี
    เชิญต่อ กลอนที มีรางวัล

    ...หัวไว ใจคว้า หาโอกาส
    บังอาจ ลองของ ต้องถูกไถ
    ข้าต่อ ให้แล้ว ถ้าแจ๋วใจ
    ช่วยจ่าย ให้ไว ไม่ได้ทวง

    ...เมื่อครู่ ดูหนัง บั้งไฟเอ๋ย
    ช่วงท้าย ใครเอ่ย เคยดูไหม
    นาคา มีกิจ คิดอันใด
    ติดต่อ คานไป ได้โดยตรง

    ...ใครงง ตรงใจ ที่ใช้เขียน
    เล่าเรียน รู้ไว กระไรหนอ
    เชื่อมต่อ ติดได้ ไม่ต้องรอ
    ใครขอ จัดให้ ม่ายลังเล

    ...คานเท่ งัดได้ หรือใช้ดีด
    ยาวปรี๊ด ดีดใจ ให้สุขสันต์
    หรือดีด โลกไป ให้เหนือกาล
    ใครกัน กล่าวไว้ จำได้...ลืม


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  5. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    เขียน จันทร์ 30/12/56 09.15
    รอพระสวดอยู่ งานทำบุญ บ้านหนองตาเย็น ปราณบุรี
    อิ่มแล้ว อารมณ์ดี



    "ปล่อยแสงแห่งบุญ เกื้อหนุนทุกวิญญา"

    ...ช่วงนี้งานชุก รับรุกร่วมบุญ
    ปล่อยแสงการุณย์ เจือจุนหนุนนำ
    อิ่มหนำรำลึก โน้มนึกบุญคุณ
    ปล่อยแสงแห่งบุญ เกื้อหนุนวิญญา

    ...แสงแห่งปราถนา เหล่าวิญญามารุม
    ล้อมมะรุมมะตุ้ม แล้วอุ้มบุญใส่ใจ
    ทุกงานล้วนบังเกิด แสงประเสริฐสุขสันต์
    วิญญานับอนันต์ ข้าแบ่งปันแสงบุญ

    ...ใครหลับใหล ให้จงตื่น
    จิตแช่มชื่น ตื่นวิญญา
    สติฟื้น ชื่นจิตรา
    แล้วรีบมา ข้าแจกบุญ

    ...แสงบุญ หนุนใส่ ให้ไปเกิด
    ลอยตาม ไปเถิด ข้าเปิดแสง
    พลัง แห่งข้า อันกล้าแรง
    ตั้งเสา ลำแสง แรงล้านเทียน

    ...ทุกวิญญา วนเวียน เล่าเรียนรู้
    กิเลสอยู่ คู่ใจ ใกล้ตัณหา
    ปฏิจจะ ตัดไว เวทนา
    อาณาปา นำทาง แม้รางเลือน

    ...เพื่อนร่วมโลก จงหมดโศก แล้วสุขสันต์
    ร่วมแบ่งปัน สันติสุข ทุกแห่งหน
    ด้วยพลัง แห่งตัวข้า แกร่งกล้าซน
    ไทยทุกคน ดลกายใจ ใกล้แสงธรรม



    ขั้นตอนและรายละเอียด การเล่นส่งวิญญาน คิดเอาเอง
    พัฒนาและวิจัยอยู่นาน ปรับปรุงมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว อันนี้รุ่นล่าสุดครับ

    นั่งสบายๆ ท่าไหนก็ได้ สมาธิก็ดี
    หายใจครั้งแรก ปิดอายตนะภายนอกทั้งหมด เตรียมเข้าสู่โลกภายใน
    หายใจครั้งที่สอง ดิ่งลึกเข้าสู่สมาธิ (ฝึกมาหลายปีเชียวนะ กว่าจะทำได้ทันที)
    หายใจครั้งที่สาม จิตเข้าถึงเอกะคัตตะ มีอารมณ์เพียงหนึ่ง

    เริ่มปลุกธาตุไฟก่อน ของเราเดี๋ยวนี้ ใช้นึกภาพโงกุน จากดาวไซย่า
    ตอนเค้าแปลงร่างน่ะ ในภาพจะเป็นแบบพลังงานลุกโชนออกจากตัว นึกง่ายดี
    ให้เห็นภาพในจิต ว่ามีไฟลุกทั่วร่าง พลังงานเปี่ยมล้น พร้อมใช้งาน

    ต่อด้วยการนึกให้แก้วสารพัดนึก (ของเรามี สร้างไว้ได้นานแล้วครับ)
    ให้ค่อยๆ ลอยออกมาจากศรีษะ ลอยสูงไปซักฟุตนึง ใหญ่ประมาณลูกฟุตบอล
    แล้วเปลี่ยนให้เป็นพระอาทิตย์ ให้ปล่อยแสงออกมารอบตัว สว่างไสว ไม่มีประมาณ
    นึกภาพในจิตประกอบด้วยนะว่า รอบตัวคือทุ่งโล่งๆ กลางคืน อันมืดมิด
    ทันใดนั้น พระอาทิตย์ของเรา ก็เปล่งแสงสว่างออกมา เจิดจ้าไปทั่วทั้งทุ่ง
    แสงอันสว่างไสว ดั่งแสงอาทิตย์ และสร้า่งความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ
    เหล่าวิญญาที่อยู่ทั้งใกล้และไกล ต่างมองเห็น และแปลกใจ ว่านี่คืออะไร

    และแล้ว ก็หายใจเข้าจากศรีษะ ผ่านจักระทั้งหก ลงไปถึงจักระที่หนึ่ง
    ปลุกพลังกุณฑาลินีขึ้นมา ย้อนกลับขึ้นมาทางศรีษะ ทะลุหัวออกไปไกลเชียว
    แล้วขยายพลังงาน ที่หลั่งไหลขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่ขาดตอน
    ขยายให้ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น สูงขึ้นไป ไกลจนเลยสนามแม่เหล็กโลกออกไปแยะ
    เป็นเสาลำแสง ที่เห็นได้ชัดเจน แม้จากมิติอื่นๆ ผ่านทะลุขึ้นไปถึงบนสวรรค์เลย

    และแล้ว เหล่าวิญญาที่มีพลังงานอยู่บ้าง ที่มีคิวใกล้จะได้ไปเกิด ก็ลอยตามขึ้นไป
    ใครที่ยังไม่ถึงคิว แต่มีเงื่อนไขบางประการ ที่สามารถส่งเสริมได้ ก็ได้ไปเกิดด้วย
    บางวิญญาที่ยังหลับใหล ไม่ได้สติ ก็จะได้สติขึ้น รับพลังแสงแห่งบุญกุศล
    ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปราถนาแห่งเรา ส่งมอบพลังงานให้กับทุกวิญญา
    บางดวงก็จะได้รับอนุมัติ แบบพิเศษ ลัดคิวไปเกิดใหม่ได้ทันที
    ที่ยังไปไม่ได้จริงๆ ก็จะมีพลังงานมากขึ้น ทุกข์ทรมานน้อยลง

    เนี่ย วิจัยและพัฒนาอยู่นานเลยนะครับ กว่าจะสมบูรณ์พร้อมให้เล่นสนุกได้ขนาดนี้
    ใครสนใจ จะเอาไปลองทำเล่นบ้างก็เชิญตามสบายครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
    ช่วงนี้ เวลาไปงานที่ไหนกับพระ จะหาเวลาว่างทำแบบนี้ทุกที่ ทุกงานเลยครับ
    ถ้าชำนาญแล้ว ใช้เวลาไม่มาก เพียงห้าถึงสิบนาที ก็รู้สึกเป็นสุขใจมากเลยครับ

    ไม่ทราบ ไม่สน และไม่รู้ ว่าถูกต้องหรือไม่ ได้บุญหรือไม่ หรือถูกผิดอย่างไร
    แต่ทำแล้วสุขใจ รับรู้ได้เองจากจิต ว่ามีวิญญาได้ประโยชน์จากการทำแบบนี้
    ไม่รู้เทพองค์ไหนบ้างนะครับ ที่ช่วยนำทาง และสอนสั่งชี้แนะ อยู่นานหลายเดือน
    กว่าจะทำได้ตามขั้นตอนข้างบนนี้ และชำนาญช่ำชองเชี่ยวชาญ ในการโม้ 555


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
  6. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    "พรหมวิหารสี่ มีทั่ว มั่วที่ไหน"

    .
    เขียน 7.16 6/1/57
    ที่วัดเขาดิน ใกล้หัวหิน ถิ่นขาใหญ่หลวง


    พาพระมาฉันเช้าที่นี่ เดินเล่นไปจนถึงเก๋งจีน ห้าเหลี่ยมสี่ชั้น
    ชั้นล่าง มียักษ์ห้าตน ยืนเฝ้าอยู่ทั้งห้าด้าน

    เดินถึงชั้นบนสุด พระอาทิตย์ส่องแสงเข้าตาพอดี
    บังเอิญครั้งที่ล้านอีกแล้ว มั้ง นะ

    เช้านี้เมฆแยะ เป็นก้อนเล็กๆ กระจายไปทั่ว
    (เหมือนเทวดา นั่งเมฆมาคอยดูใครซักคนเลย มากันแยะเชียว)
    บังแสงอาทิตย์ จนเจ็ดโมงกว่า ยังไม่ส่องแสงได้เลย
    หรือเค้ารอ จนเราเดินขึ้นถึงชั้นบนสุดก่อน แล้วค่อยส่องแสงผ่านเมฆ ฮิฮิฮิ

    ก็คิดไว้ว่าจะเขียนเรื่องพรหมวิหารสี่ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเขียนบนนี้
    แค่มาเดินเล่น ชมวิวจากที่สูง กินนมกล่องนึง แล้วสูบบุึหรี่ ก็แค่นั้น
    แต่พอโดนแสงส่องเตือน เข้าตา ก็ปิ๊งทันที เลยยืนเขียนมันบนนั้นแหละครับ
    ได้แค่สองท่อนแรก แล้วตัน เลยลงมากินข้าววัด
    เสร็จแล้วเขียนต่อ ทีนี้ไหลเลย สิบกว่านาทีก็เขียนเสร็จจนหมด มั้ง นะ


    เมื่อวานตอนนั่งรอหลวงพ่อ สวดบวชพระในโบสถ์ วัดหนองตาแต้ม
    เรานั่งกินฝอยทองกรอบอยู่ในรถกระบะของวัด ที่ขับไป
    ตอนกินเสร็จ เหลือแต่เศษ ว่าจะเก็บไปให้หมาที่วัดกินอยู่แล้ว

    บังเอิญเห็นมดบนพื้นถนน ข้างรถที่จอดอยู่ หลายตัวเหมือนกัน
    เลยว่าเอาให้มดกินมั่งดีกว่า เลยโปรยให้มดกิน
    ตอนนั้น ก็ยังไม่ได้คิดถึงพรหมวิหารสี่หรอกนะครับ
    มาคิดได้ตอนกลางคืน ก่อนนอน ชอบทบทวนสิ่่งต่างๆ ในแต่ละวัน

    คิดไปคิดมา ไม่รู้เรื่องมดมันแปลงร่างเป็นพระพรหมได้ไง ยังงงอยู่เลย
    มันโผล่มาในหัวทีละท่อนนะครับ จากความเมตตา ให้เศษขนมมดกิน
    แทนที่จะทิ้งลงถังขยะไปทั้งถุง หลังจากกินก้อนๆ หมดแล้ว

    แล้วอยู่ๆ ความคิดเรื่องพรหมวิหารสี่ ก็โผล่เข้ามาในศรีษะ
    เราก็ค่อยๆ เชื่อมต่อกระแสความคิดเข้ามาทีละหน่อย
    จากเมตตา ก็มาเป็นกรุณา ที่ช่วยทำเศษฝอยทองกรอบให้เล็กลง
    แล้วมุทิตา ก็แว๊บเข้ามาในหัว ว่ายินดีที่มดลากไปได้โดยง่าย
    สุดท้าย อุเบกขา จึงแสดงตัว ว่าต้องปล่อยให้มันเป็นไป ไม่ต้องปวดหัวนัก

    ที่จริง ตอนที่นั่งอยู่บนรถก็คิดได้บ้างนะครับ
    แต่มันไม่ได้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน จนกลายเป็นพรหมวิหารสี่ อันสวยสดงดงาม
    มาเข้าชุดกันได้ทั้งหมด ตอนก่อนจะนอนนี่เอง พอคิดเสร็จสิ้นแล้วนะ
    ดีใจและชื่นใจตัวเองอย่างมากเลยล่ะ เจ๋งจริงวุ้ย บ้าได้ไม่ธรรมดาจริงๆ

    สามารถเอาพรหมวิหารสี่ มาแสดงแบบพิศดารได้อย่างเต็มรูปแบบเช่นนี้
    ถึงจะด้วยความช่วยเหลือและนำทางของเพื่อนๆ ที่ฝั่งโน้นก็เหอะ
    ก็ต้องยอมรับกับตัวเองเลยว่า นี่ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย 555 (ขอปล่อยแมงโม้หน่อยนะครับ)


    "พรหมวิหารสี่ มีทั่ว มั่วที่ไหน"

    ...พรหมวิหาร ทั้งสี่ มีอยู่ทั่ว
    ไม่ได้มั่ว เชื่อไหม ชั้นได้เห็น
    ซึมจากใจ ใส่มด บนซีเมนส์
    เมื่อวานเห็น เต็มตา หน้ารถเรา

    ...เฮานั่งกิน ฝอยทอง ของที่กรอบ
    พระไม่ชอบ เลยเหลือ เผื่อให้ฉัน
    กินเหลือเศษ เส้นร่วง ก็เลิกกัน
    สายตาหัน เห็นมด บนพื้นปูน

    ...แล้วเมตตา หลั่งไหล ไปสู่มด
    ฝอยทองขด เกลียวเส้น กินเป็นไหม
    คิดแล้วโปรย ลงพื้น อย่างชื่นใจ
    แบ่งปันไป ให้กัน ฉันเมตตา

    ...มดเดินใส่ ปากไซร้ ใช้ขนกลับ
    ลากขยับ ฝอยใหญ่ ไม่ค่อยไหว
    กรุณา ซึมออก บอกซำบาย
    แล้วก้มกาย บี้แบ่ง แท่งเล็กลง

    ...มดไม่งง คงลาก ด้วยปากคีบ
    อย่างเร่งรีบ ลากไหว ใจไม่สน
    มุทิตา ปรากฏ ณ.บัดดล
    ชื่นใจล้น มดลาก ไม่ยากกาย

    ...แต่ทันใด ใครคิด สะกิดนึก
    ลุ้นระทึก นี่ถนน รถแล่นไหล
    อันตราย ต่อมด ล้อบดกาย
    อุเบกขา โผล่ไว ในใจเอย


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / สุนทรทู่

    .
     
  7. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    โห..ไวจังแฮะ เดือนนึงแล้วหรือนี่ ที่ไม่ได้โพสท์อะไรเลย

    วันนี้มีคนที่คุณก็ไม่รู้ว่าใคร ส่งข้อความมาถามอีกล่ะ
    แต่เอามาตอบในอาณาเขตของเราเองมั่งดีกว่า นะ


    เห็นโพสต์ท่าน phudit พูดถึงอันตรายจากการฝึกพลังเปิดบารมี ข้าพเจ้าอ่านไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
    ขอถามท่าน bat หน่อยว่าการฝึกพลังเปิดบารมี กับการฝึกสมาธิตามแนวทางพระพุทธเจ้าต่างกันอย่างไร ?

    ปล.จะตอบหน้าบอร์ดก็ได้นะ คือจริงๆ แล้ว ข้าพเจ้าควรโพสต์ถามหน้าบอร์ดหรือเปล่า?
    แต่ไม่กล้าอ่ะ คือข้าพเจ้าคิดว่าคำถามข้าพเจ้ามันอนุบาลเกินไปน่ะ ท่าน bat อย่าเคืองข้าพเจ้านะ


    ที่จริงถามหน้าบอร์ดก็ดีนะครับ กระทู้เรานอนหลับใหลอยู่เฉยๆ ว่างจัด
    เด็กอนุบาล เค้าไม่ถามเรื่องฝึกพลังกันมั้ง เด็กอนุบาลจะไร้สาระกว่านี้แยะครับ

    เรื่องการฝึกพลังเปิดบารมี เราก็ไม่ทราบหรอกครับ ว่าเค้าทำกันอย่างไรบ้าง ไม่เคยฝึก
    เราฝึกอะไรบ้าง จะเล่าให้ฟังซักกะนิดละกัน เอาแบบคร่าวๆ นะครับ

    ช่วงประมาณสิบขวบหรือกว่าเล็กน้อย เริ่มฝึกเล่นไล่จับลมหายใจ กับทำลมให้นิ่งๆ ยาวๆ แบบเด็กๆ
    ซักช่วงสิบหก ก็สำเร็จวิชาตาลอย จากการอ่านหนังสือนิยายซะส่วนใหญ่ อ่านแล้วคิดตามอย่างสมจริง
    ลืมทุกสิ่งรอบตัว ไม่รับรู้โลกภายนอกทั้งหมด ทั้งกายและใจ จรดจ้องอยู่กับเรื่องราวในหัวเพียงอย่างเดียว

    มาย้อนคิดดูนะ น่าจะได้ฌานตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะมั้ง นะ
    ตอนนั้นไปตกสวรรค์ อยู่ในร้านหนังสือเช่าแถวบ้าน
    เช้าแต่งตัวไปโรงเรียน มศ.3 แต่แวะไปอยู่ในร้านหนังสือทั้งวัน
    อ่านจนเย็น กินข้าวในร้านเค้านั่นแหละครับ ไปแอบอ่านอยู่หลังร้าน
    พอเย็นจะกลับบ้าน ก็หอบกลับไปนอนอ่านต่อที่บ้าน
    อ่านกันจนแทบหมดร้าน ไม่เหลืออะไรที่อยากอ่านอีกแล้ว ไม่รู้กี่แผงติดผนัง

    อ่านกันทุกวัน จนไม่ได้ไปเรียนเลยครับ มีคนไปฟ้องครูด้วยล่ะ
    จนโดนตีหน้าเสาธงเลย ขอบอก เท่ห์ระเบิด
    โดนตีเพราะโดดเรียน ไปหมกอยู่ในร้านเช่าหนังสือ
    ทั้งประเทศคงมีเราคนเดียวล่ะมั้ง นะ คนแบบเนี้ยมีคนเดียวในโลก 555

    หลังจากนั้น เวลาอ่านหนังสือ ก็จะเข้าโหมดตาลอยตลอดเลยครับ
    แต่ใจไม่ฟุ้งเฟ้อกระจัดกระจายนะครับ แน่วแน่มั่นคง ตรงและวิ่งฉิ่ว กับเรื่องในหัว ไม่วอกแวกเลย ขอบอก

    ตอนเป็นพลทหารรักษาพระองค์ ก็ได้ซื้อหนังสือฝึกสมาธิ จากแผงหนังสือเก่าข้างถนน 5 บาทเอง
    ฝึกไม่กี่วัน ก็เจอนิมิตรต่างๆ มากมาย แต่ก็ผ่านมาได้ ไม่รู้ยากหรือเปล่า ลืมไปแล้ว
    พอได้สมาธิแน่วแน่มั่งคงดีแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นคิวของ โยคะ ไท๊เก๊ก ลมปราณ เซ็น เต๋า พลังจักรวาล และอื่นๆ อีกมากมาย
    ทยอยกันเข้ามาในความสนใจ ศึกษาแต่ละเรื่องไม่กี่เดือน ก็จะมีเรื่องใหม่เข้ามาให้สนใจ
    สลับสับเปลี่ยนคิวกันมาตลอดเลยครับ แต่ที่เรียนผ่านไปแล้ว ก็ไม่ได้ทิ้งนะครับ ได้ทบทวนอยู่ตลอด
    ก้าวหน้าได้ด้วยความหลากหลายของเคล็ดวิชาล่ะครับ ตัวเรา เอาวิชาโน้นนี้มาผสมปนเปกัน เป็นค็อกเทลพลังจิต
    ยังมีพวกกำลังภายในก็ฝึกแยะครับ เดินลมปราณแบบในหนังได้เลย รู้สึกได้ด้วย ถึงพลังที่วิ่งวนไปมาในร่าง บลาๆๆๆๆ

    เอ...นอกเรื่องไปรึป่าว เค้าถามเรื่องอื่นนี่หน่า กลับเข้าฝั่งดีกว่านะ เผลอทีไรชอบออกทะเลประจำเลย 555

    ตกลงว่าเค้าเปิดบารมีกันยังไง ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยอ่านเจอที่ไหนด้วย ไม่สนใจหรอก ไร้สาระ

    ส่วนสมาธิแบบพระพุทธเจ้า ก็ไม่แน่ใจว่ารู้จริงมากพอจะโม้ได้เต็มปากเต็มคำรึเปล่านะครับ
    แต่เราฝึกตามหนังสือแหละครับ โดยเฉพาะช่วงปี 39-41 ที่ฝึกฝนและค้นหาอยู่ที่สวนโมกข์
    ก็อานาปานสติแหละครับ ที่น่าจะเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าแท้ๆ ที่เราเคยฝึกตามตำราของท่านพุทธทาส
    ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่ ธรรมโฆษณ์ เทปชุดที่มีสิบม้วนอีก ฟังแล้วฟังอีก อ่านแล้วอ่านอีก ทำในใจให้มาก
    ก็คืบหน้าได้แยะแหละครับ ช่วงนั้นทิ้งโลกไว้ข้างหลังแล้ว มุ่งมั่นสุดชีวิต ฝึกกันทั้งวัน สองปีกว่าล่ะมั้ง นะ

    เอ..ยาวจังแฮะ ไม่รู้ท่านจะได้คำตอบรีป่าวน๊า เราชอบออกทะเลซะด้วยสิ 555


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
  8. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    เขียน 14.04 ที่ร้านเนท

    ติดไว้หลายวันแล้ว ขอโทษทีครับ เพิ่งได้จังหวะดีๆ

    เป็นคำถามจาก "คนที่คุณก็ไม่รู้ว่าใคร"
    ถามในที่ลับ แต่เอามาเผยในที่แจ้ง
    ก็ขออภัยด้วยครับ แต่เค้าเคยอนุญาติแล้วนะ ขอบอก

    ไม่แน่ใจนะครับ แต่ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน เพิ่งอ่านของเค้านิดเดียวเอง
    อีกวันสองวัน จะเข้าไปอ่านให้อีก อาจจะมีอะไรเพิ่มเติมให้ครับ

    ไม่แน่ อาจมีนิมิตรจากเต้บองค์ไหน มาบอกให้ทราบ
    ถ้ามี จะมาบอกให้ใหม่นะครับ แต่เบื้องต้น อย่าเพิ่งยุ่งดีกว่าครับ

    ไม่รู้ว่ามั่วหรือโม้เอาเองนะครับ อย่าเชื่อหมดใจล่ะ ขอบอก 555


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด



    ท่อนบน เป็นคำตอบที่ให้ไปวันนั้นนะครับ แต่ขอเพิ่มเติมไว้ว่า

    คงไม่ได้เรื่องหลอกครับ ถ้าเชื่อนิมิตรที่ได้ ตอนกลับวัด ในวันนั้น
    พอขับมอไซค์ออกจากร้านมาหน่อยนิดนึง ก็ได้รับคำตอบมาเลยครับ

    เจอนิมิตร มอไซค์ขับสวนเลนมา แล้วขับรถทับกระจกบังลม ของหมวกกันน็อค
    ที่ใครเค้าทิ้งไว้ข้างถนน กระเด็นไปข้างทางเลยครับ
    ทันทีที่เห็น ระบบแว๊บปิ๊งก็ทำงานออโต้ทันที นั่นแน่!!! นิมิตรมาแย้ว

    แปลได้ความว่า เตะหน้ากากมันให้กระเด็นไปเล้ย ไอ้น้อง 555
    แก้สมการออกมาว่า มันหลอกขายแน่ครับ ไม่น่าเชื่อหรอกจ๊ะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ

    ปล.เป็นความมั่วส่วนบุคคลนะครับ จะทำได้ ต้องผ่านการเลี้ยงแมงโม้มาแยะเชียว ขอบอก หึหึหึ


    แล้วก็มีอีกคำรำพึงรำพันนะครับว่า

    ใครมีปัญหาก็ถามได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ
    ขอเพียงถามด้วยภาษาคนก็พอ ให้อ่านแล้วอยากตอบน่ะครับ

    ที่โม้ว่าติดต่อได้ ก็คล้ายๆ แบบคำตอบข้างบนน่ะครับ
    ปกติจะมาเป็นนิมิตร ต้องแปลอีกที หรือไม่ก็ต้องแก้สมการเอาเอง
    แต่ส่วนใหญ่ จะมาเป็นคำตอบในจิต ให้คิดเอาเอง
    ว่าเค้าตอบมา หรือจิตเราเพ้อเจ้อไปเอง ก็ไม่รู้นะ แล้วแต่โชคด้วยล่ะครับ 555

    ส่วนวิบากของท่าน ไม่รู้ว่าเราคิดเอาเองรึเปล่านะครับ แต่คาดว่า แก้ได้แน่
    ในเวบนี้แหละครับ มีของจริงเยอะแยะ แต่ว่านะ "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" ครับ
    ต้องพิจารณากันให้ดี มีหลายเจ้าครับ ที่รับมือเรื่องพวกนี้ได้ดีมากๆ เจ๋งกว่าเราอีก ขอบอก

    เค้าเป็นพวกมืออาชีพครับ เทพเค้าเลือกสรรไว้แล้ว ให้เป็นเอเย่นต์รับงานแทนได้ 555
    ลองเลือกดูนะครับ หรือถ้ายังไม่แน่ใจอีก ก็คัดไว้ซักสามสี่เจ้า
    แล้วบอกเราอีกที จะช่วยมั่วให้ครับ 555


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2014
  9. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    เขียน 14.38 ที่เก่า เวลาใหม่


    นี่เป็นอีกข้อความจาก "คนที่คุณก็ไม่รู้ว่าใคร" แต่คนละคนกันนะครับ
    เราเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ ถ้าเอามาปรุงใหม่ ใส่แมงโม้ซักนิด คงเข้าท่า
    เลยขอเอามาใส่ไว้ในกระทู้ของเราละกัน เค้าคงไม่ว่าหรอกมั้ง นะ



    แล้วเราก็ตอบว่า


    แล้วเค้าก็ตีลูกกลับมาว่า



    เราก็ตีโต้ข้ามเนทกลับไปฝั่งเค้าด้วยท่า



    ฝั่งโน้นก็ยังไม่ละความพยายามอีก รับแล้วสวนกลับมาว่า



    เราเลยต้องรับมือด้วยท่า



    ก็เนี่ยล่ะครับ เรื่องราวที่อยากจะเล่าให้ฟัง
    ก็หวังว่าต้องมีประโยชน์กะใครบ้างล่ะน่า นะ เนอะ 555


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  10. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .


    วันที่บันทึก (เริ่มบันทึก แต่ต่ออีกหลายวัน)
    พฤหัส ๖ มีค. ๕๗ เวลา ๑๐.๔๑ ที่วัดเขาดิน ใกล้หัวหิน ถิ่นขาใหญ่หลวง

    บันทึกการวิวัฒนาการ ของนักรบแสงแห่งหมู่บ้านในนิทาน
    สถานที่ วัดสามร้อยยอด วันที่๑๕ กพ. ๕๗ เวลาสาย
    (วันที่เกิดเหตุและปัจจัย)




    ไปส่งพระ ประมาณหลังสามโมง แล้วไปจอดรถซะไกลเชียว
    ใกล้ประตูข้าง ข้างศาลาหรือกุฏเก่า อีกข้างเป็นห้องน้ำ หลังมีหลุมขยะ
    ด้านขวาไกลหน่อย มีเจดีย์เก็บโกฏิ มีเป็นร้อยเลยมั้ง นะ

    จอดรถตู้ เปิดประตูข้าง แล้วนั่งแบบนอน
    เราไม่ร้อน นอนใต้ร่ม สายลมไหลริน
    หยิบกล่องนม ผมชอบกิน เสียบหลอดสอดสิ้น
    ยังไม่กิน เอียงไหลริน ลงถิ่นธรณี

    เอ..นั่งนึกย้อนไป ทำไมถึงริน ก่อนกินกันน๊า
    มันแปลกอุรา เพราะข้าไม่เคย เลยไหลใส่ดิน
    ก่อนกินยังตั้ง นอนนั่งรั้งรอ
    เพื่อไรกันน๊อ เรารอหลังริน

    ซักครู่ตูดูด ไหลปรู๊ดลงคอ
    ชื่นใจจริงหนอ สุดหล่อชอบจัง

    สายตามองไป วัวใครกันหว่า
    ยืนจ้องมองหน้า สี่ตาสบกัน
    แล้วหันข้างให้ เดินไปข้างหน้า
    จนพ้นสายตา รถข้าบดบัง

    ยังนั่งดูดนม ชมรอบสายตา
    หันซ้ายย้ายขวา ตาแลแม่ชี
    พิธีคงสิ้น ชีกินบุญแน่น
    สองขาโลดแล่น ไหลลับกลับเรือน

    วัวเยือนอีกหน ใกล้จนต้องจ้อง
    ค่อยเยื้องย่างย่อง เราจ้องหน้ากัน
    อะไรกันหว่า ตัวข้าสงสัย
    หยิบกล่องนมไว้ เดินไปหากัน

    เค้าหันเดินหนี ตามีส่งสาร
    หรือใครซมซาน สงสารข้าที
    วัวหนีข้าตาม คำถามข้ามี
    ว่าไงล่ะพี่ เธอหนีข้าตาม

    เดินรอบขอบหลุม ไม่กลุ้มแต่งง
    วัวล่อให้หลง ยังคงติดตาม
    จนถึงทางปูน ขาหยุดยืนนิ่ง
    นั่งเทนมกลิ้ง กรีดกรายไหลนอง

    เสร็จแล้วมองฟ้า ข้างหน้าประตู
    เดินออกไปดู ประตูเลยตา
    เห็นลานเล็กโล่ง ตาลงตรงหน้า
    ศาลพังลงมา วิญญาซมซาน

    ข้าเทนมกล่อง ใจจ้องจิตนิ่ง
    บุหรี่จุดจริง แล้วทิ้งทันที
    นมกล่องที่เหลือ วางเผื่อไว้ให้ (ต่อที่วัด บ่ายสองเศษ)
    ไม่รู้ว่าใคร แบ่งให้ละกัน

    แล้วเริ่มปล่อยแสง แปลงกายในจิต
    ส่งลูกนิมิตร ไฟติดล่องลอย
    แล้วให้ระเบิด เกิดแสงแกร่งกล้า
    คนไม่แสบตา เพราะว่าไม่มี

    คงเสร็จแล้วมั้ง นะ เลยเดินกลับรถ ว่าจะนอนเล่นซะหน่อย
    แต่ตาก็ยังจ้องที่ศาลาหรอกุฏิเก่าเก๋ากึ๊ก ที่เหล่ไว้แต่แรกแล้วล่ะ

    (นาทีที่ ๒๗.๔๓ ท่านพทธทาส / การดับทุกข์โดยท่านพุทธทาส
    เรื่องปัญหาที่เกิดเพราะคนโง่ ซื่อ หวังดีแต่ทำให้เกิดทุกข์)


    เขียนต่อหน้าทีวี ที่เสียแป๊บนึง เพื่อกระตุ้นเตือนเรา ให้เขียนต่อ อย่าขี้เกียจ ๕๕๕
    วันอาทิตย์ ๙ มีค. ๕๗ เวลาตอนนี้ ๑๙๓๐


    หลังจากโดนวัวพาไปช่วยเพื่อนกลับมาแล้ว ก็มานั่งบนรถ ตาจ้องที่ศาลา หรือกุฏ
    จากภายในจิตที่จ้องมองกุฏเก๊าเก่าทางซ้ายรถ ก็บังเอิญคิดว่า เจ้าของเก่ายังอยู่
    ยังไม่ไปไหน เพราะห่วงลูกน้อง ที่เราเดาเอาเอง ว่ามีอยู่กว่าสองร้อยล่ะมั้ง นะ
    มั่วไป ตาก็หันไปมองเจดีย์บรรจุโกฏ ที่เห็นเรียงรายเยอะแยะทางขวามือ

    แล้วก็มั่วต่อไป โดยเริ่มกระบวนการแบ่งบุญ เพื่อปลุกวิญญานให้ตื่นเต็มตา
    และเพิ่มพลังงานให้กับบางตน ที่อ่อนแอเกินเหตุ กระแสพลังกระจัดกระจาย ไม่อาจรวมร่างได้

    อืม...แฮะ ตั้งชื่อระบบนี้ว่า "ซุปเปอร์โซล่าร์เซลล์" ดีกว่านะ ฟังดูเท่ห์ดีจัง ๕๕๕
    ระบบนี้ครอบคลุมขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ คือ



    ๑.ปลุกสร้างธาตุไฟ แบบชาวไซย่า
    ส่องแสงเจิดจ้า ชื่นตาชุ่มใจ
    ใกล้ไกลได้เห็น ตื่นเต้นโวยไว
    เฮ้ยแสงอะไร ชื่นนนใจเย็นตา

    ๒. วิญญาคึกคัก จิตชักกระตุก
    แสงล้อมร่างปลุก ขาลุกลืมตา
    จิตราเริ่มแกร่ง แสงแทรกวิญญา
    ยินเสียงเพรียกหา แสงมาแล้วเกลอ

    ๓. ลูกแก้วในตัว พ้นหัวขึ้นฟ้า
    ระเบิดออกมา เจิดจ้าดั่งเทียน
    วนเวียนเปิดฟ้า เทพหาให้เรียน
    แสงล้านแรงเทียน ดั่งเซียนเสกมา

    ๔. กุณฑาลินี ทุ่มชีวีฝึก
    เฉียดตายใครนึก เทพฝึกข้าดี
    เสาแสงสาดสี วิถีสู่ฟ้า
    จากเจ็ดจักรา สู่ฟ้าทันที

    ๕. ชีวีที่ตื่น ฟื้นแรงแข็งดี
    ล็อคเข้าวิถี ไปดีเถิดเกลอ
    เจอะเจอกับโชค พรหมโลกปราณี
    ช่วยให้ไปดี ท่านพี่ลัดคิว

    ๖. ชักหิวปนง่วง ใกล้ร่วงแล้วเรา
    ห้าทุ่มครึ่งเข้า เราชักหิวนอน
    เดี๋ยวตอนตีห้า กว่าก็ต้องจร
    พาพระไปร่อน ข้าวร้อนแลกบุญ

    จบ ๒๓.๓๔


    -------------------------------------

    อืม...นั่งไปมา เพิ่งนึกออก เปิดแท๊บแล้วลองหาวิธีดูดีกว่า
    ขี้เกียจพิมพ์ใหม่ ท่อนนี้ตั้งยาว เราขี้เกียจจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น ๕๕๕

    ไปดูในโปรแกรม Colornote ก็เห็นว่ามีให้ก็อปใส่คลิบบอร์ดด้วย ได้เรื่องล่ะ
    ก็อปแล้วเปิด Kingsoft office แปะแล้วก็เซฟใส่แฟลชไดร์ฟ 8 กิ๊ก ที่ซื้อไว้ก่อนมีแท๊บ
    แล้วก็ยังมี sd card อีก 8 กิ๊ก ที่ซื้อไว้ใช้ด้วยกัน ใส่อะไรได้แยะเชียว ขอบอก

    เสร็จแล้วเอามาเปิดในคอม แป่ว...ตัวหนังสือนั่งห่างกันทุกตัวเลย
    อ่านแล้วเหมือนกระทู้ที่เค้าคุยกะพระสยามเทวาธิราชเลย ๕๕๕

    ไม่ได้การ ลองใหม่ คราวนี้ไม่เซฟเป็นด็อกแล้ว ลองเป็น txt บ้างดีกว่า
    ใช้ได้แฮะ เซฟใส่หน้าตอบกระทู้ ก็อ่านเป็นภาษาคนได้แล้ว ๕๕๕ เก่งจังเรา

    ชิ้นส่วนข้อมูลที่บันทึกไว้ด้านบนน่ะนะ อ่านไปมาแล้วก็น่าสงสัยจัง
    เลยไปตามโคนันมาช่วย เค้าสงสัยนะ ว่าวัวกะนมนั่นน่ะนะ น่าแปลกใจสุดๆ เลย
    อาจจะเป็นพระอิศวรก็เป็นได้นะ ถ้าใช่ก็คงไม่แปลกหรอกนะ ว่าไม๊
    ท่านอื่นๆ ยังมาได้ ทำไมท่านจะมาด้วยไม่ได้ ไม่มาสิแปลก ขอบอก ๕๕๕

    พอดีกว่า อายจัง มั่วนิ่มดีไม๊ วันนี้ ห้าห้าห้า เจ๋งป่ะวะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
  11. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    ตั้งกะหัวค่ำนี้ นั่งอ่านคำภีร์มรกต อ่านไปอ่านมา ชักเอะใจ เอ...รู้สึกแปลกๆ

    เลยลองก็อปข้อความที่น่าสนใจ แล้วลองเอามาเปรียบเทียบใน wordPad ดู
    ก็ออกมาเป็นข้อความข้างล่างนี้ นั่งอ่านใจ แล้วพิมพ์ออกมา
    ซักพักก็ไม่รู้ใครคิดว่า พอดีกว่า เอาแค่นี้ก่อน โพสท์เลย

    ก็เลยขอลองนำเสนอ มาให้ท่านทั้งหลาย ใช้เซลล์สมองซักนิดละกัน นะ




    ความสอดคล้องกัน กับคัมภีร์มรกต


    คัมภีร์มรกต แผ่นที่ ๓ หน้า ๒ / ๓๐
    The Key of Wisdom กุญแจแห่งปัญญา


    ๑. ข้า, ท๊อท, ผู้เป็นชาวแอ๊ทแลนด์ทิส,
    ข้าจะมอบปัญญาปราดเปรื่อง ของข้า,
    มอบความรู้ของข้า, มอบพลังอำนาจของข้า.
    ข้าจะมอบให้โดยไม่มีจำกัด แก่พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย.
    มอบให้เพื่อที่ว่าพวกเจ้าอาจบรรลุซึ่งปัญญาแตกฉาน
    ดุจอาทิตย์ส่องแสงสว่างไสวไปทั่วหล้า ปลดปล่อยโลกแห่งความมืดมิด
    ที่เคยปกคลุมพวกเจ้าเอาไว้ ให้ออกไปเสีย.


    // เทียบกันการตั้ง แล้วปล่อยแสงจากเสาลำแสง
    เพื่อปลดปล่อย และส่งวิญญาน ให้ไปเกิดใหม่
    หลังจากเปิดไฟให้ตื่น และมีเรี่ยวแรงก่อน มั้ง


    ๒. จงทำตามใจภายในของเจ้า ขณะที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่
    ทำในสิ่งที่จิตภายในนั้นบัญชาการ.

    // รับอะไรมาจากภายในจิต ก็ปล่อยออกมาโพสท์
    กลั่นกรองเพียงน้อย ในภาษาเท่านั้น


    ๓. เจ้าจะถูกตอกย้ำกับคำพูดที่ไม่มีวันสาบสูญเหล่านั้น,
    ไม่ว่าเจ้าจะฟังมันหรือไม่ ก็ตาม,
    คำพูดฟุ่มเฟือยมากมายเหล่านั้น หาได้มีประโยชน์อันใดไม่.
    ไม่สามารถยกระดับจิตใจภายในของเจ้า ให้อยู่เหนือมนุษย์ทั่วไปได้,

    // แหม..นึกถึงวงกลมจุด กับกลายแก้วกลายพันธุ์ขึ้นมาเลยแฮะ


    ๔. ผู้มีปัญญา ยอมปล่อยให้จิตใจภายในได้เอ่อล่น ท่วมท้นออกมา
    แต่จะนิ่งเงียบ สงบปากสงบคำไว้.
    มนุษย์เอย, จงบันทึกเสียงแห่งปัญญา;
    บันทึกเสียงแห่งแสงสว่างนี้

    // สอดคล้องกับที่เราทำเลย สงสัยทำถูกแล้วมั้ง เนอะ
    คำพูดที่ไหลออกมาจากภายในจิตใจ
    ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นไง ดีหรือร้าย
    แต่ภายนอกก็ต้องนิ่งไว้ ให้เสมอ


    ๕. ธาตุไฟ มีพัฒนาการเชื่อมกันขึ้นมาจากธาตุไฟ และ ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยไฟ.
    (ไฟ คือความรู้ปัญญา ซึ่งมีแต่จะต่อยอดพัฒนาขึ้นไปจนแตกฉาน เป็นปัญญารู้แจ้ง)
    ผู้ใดที่รู้ได้ ถึงไฟ (ปัญญา) ที่อยู่ภายในตัวของเขาเอง จะมีอำนาจ ในการเลื่อนลำดับขั้น
    ไปสู่การมีไฟนิรันดร(ปัญญารู้แจ้ง) และ มันจะมีแต่เพิ่มพูน พัฒนาไปตลอดกาล.

    // ยืนยันได้จากมนตรา บทนี้ว่า
    ...ปลุกสร้างธาตุไฟ แบบชาวไซย่า
    ส่องแสงเจิดจ้า ชื่นตาชุ่มใจ
    ใกล้ไกลได้เห็น ตื่นเต้นโวยไว
    เฮ้ยแสงอะไร ชื่นนนใจเย็นตา
    ที่ยกแบบชาวไซย่า ก็เพราะอยากให้เห็นภาพได้ชัดเจน จาก
    การ์ตูนเรื่อง dargon ball

    ๖. และโลกต้องหยุดยั้งมนุษย์เอาไว้ (ไม่ให้มนุษย์ได้รู้) (สิ่งที่หยุดยั้งมนุษย์เอาไว้ก็คือโลก)
    เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะไม่มีมนุษย์อยู่อีกต่อไป. (ไม่มีมนุษย์อยู่อีกต่อไป เพราะได้รู้แจ้งกันไปหมด)

    // สยองนะท่อนนี้ เคยมีเข้ามาในหัวว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการนิพพาน
    จะเพราะไม่รู้หรือไงก็ช่างเหอะ แต่มีคนแค่สามสี่พันคนเองนะ (เสียงจากภายใน)
    ที่สามารถรับรู้และไปถึงขั้นนี้ได้ (เมื่อสามปีที่แล้ว ตอนระหว่างแปลงร่าง)
    (ในนิทาน เพ้อเจ้อได้เต็มที่ ไม่มียั้ง ๕๕๕)



    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง


    ปล.หรือว่าจะมีชิ้นส่วนของต็อดมาอยู่ด้วยน๊า
    ตกเป็นผู้สงสัยอีกคดีซะแล้วสิเรา ๕๕๕
    .
     
  12. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    แหม..วันนี้โชคดี มีเหยื่อส่งข้อความมาคุยด้วย
    ฉวยโอกาสเอาออกสื่อดีกว่า กระทู้นี้ดองไว้นานแล้ว เดี๋ยวจะเน่า ๕๕๕



    ---------------------------------------------------------

    ไปดูคำตอบในกระทู้ละกัน ขอฉวยโอกาสล่ะครับ
    ยิ่งไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้านอยู่ ๕๕๕


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    ---------------------------------------------------------

    เรื่องโล่งน่ะ เค้ารู้ตั้งกะปีมะโว้แล้วท่าน หึหึหึ
    เรื่องบุญเค้าก็เลิกแบกมานานแล้ว
    ส่วนกุศลที่แปลว่าสละออก ก็ทำเป็นกิจวัตร

    เรียนคือเรียนเรื่อยเปื่อย มีอะไรเข้ามาก็เรียนมันเข้าไป
    ทำความเข้าใจไปกับทุกเรื่องราว ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
    ใครจะบ้า ไปเรียนแต่เรื่องทุกข์ เดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหมด ๕๕๕

    ก็รู้นะ ว่ามารน่ะอำนาจแยะ และกะลังรุ่ง
    ก็เลยตีซี๊ไว้หลายท่านล่ะครับ ชวนมาช่วยงานกันก็บ่อยไป
    ท่านคงไม่ทราบ พรหมที่มีมารเป็นเพื่อน ก็มีนะเออ จะบอกให้ หึหึหึ

    ถามท่านบ้างสิ ง่ายดี เก็บแรงไว้หาสิ่งที่ใครก็ไม่รู้ไม่สน ไม่ดีกว่ารึ
    นักเรียนชั้นดีนะเราน่ะ นอกจากจะหาคำตอบแล้ว ยังหาคำถามด้วย เจ๋งป่ะ ๕๕๕



    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  13. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ไม่ต้องเสียดายความ

    สามารถของตัวเองยังมีอยู่เพราะเสียด้าย
    ถ้าทำเต็มความสามารถแล้วจะไม่เสียดาย
     
  14. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    เขียนผิดเขียนใหม่ได้นะท่านสามสวน ๕๕๕

    แหม...โรคนี้รักษาให้หายขาดยากจริงแฮะ เนอะ

    กล้าๆ หน่อยท่าน นี่ในนิทานนะคร้าบ
    จะเขียนอะไร ก็ไม่ต้องเกรงใจกันหร้อก สิบอกให้ หึหึหึ
    แต่ขอให้รู้เรื่อง และจับใจความได้บ้างเหอะ นะ ครับ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  15. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๙.๓๗

    ดองมานาน เดี๋ยวจะลืมว่าเราเก่งที่สุดในโลก ๕๕๕
    มาโม้ที่นี่บ้างดีกว่า งานเก่าที่ยังค้างคาอยู่ เคลียร์ซะให้หมด
    สงสัยใกล้จะถึงด่านใหม่อีกแล้วล่ะมั้ง นะ บอสก็เคลียร์ไปแล้ว รึเปล่าน๊า

    ย้อนกลับไปวันที่ ๒๘ พย. เอาแค่ตรงนั้นละกันนะ
    ไปฉันท์เพลที่บ้านนาวาชื่อลืม นามสกุลจำไม่ได้
    ไม่รู้นาวาไหนนะ เห็นในป้ายมีแค่นาวา แต่ชื่อลืมไปแล้ว

    ส่งพระเสร็จก็หามุมนั่งเงียบๆ หยิบแท็บมาอ่าน น่าจะเรื่องภูเขาแห่งพุทธธรรมนะ
    มีหมาขาวดำตัวใหญ่ มานั่งอยู่ด้านหลังด้านล่าง เรานั่งบนเทอเรสหน้าบ้าน
    พอกินข้าวเราก็โยนต้มยำขาหมูไปให้มันกินบ้าง แบ่งกัน หรือค่ายามหว่า

    ตาก็มองไปรอบๆ เห็นพระภูมิและเจ้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน
    ก็เลยลองส่องถามดู ก็เดาเอาว่า ที่พระภูมิคงใกล้จะย้ายแล้วมั้ง
    สงสัยอยากได้ตำแหน่งดีๆ มั่วเอานะ เราก็เลยขอให้ คิดว่าได้ไปดีกว่าเดิมนะ
    เสร็จก็ดูที่เจ้าที่ ก็ไม่มีอะไรออกมา เลยเพิ่มฤทธิ์เดชให้เค้าซะหน่อย
    เหมือนกะเพาเวอร์อัพ พลังให้มีมากขึ้นน่ะครับ จะได้ช่วยดูแลบ้านนี้ได้ดีขึ้น
    อ้อ..เกือบลืม สงสัยว่าจะมีกุมารด้วยนะบ้านเนี้ย มันแว๊บๆ

    ซักพัก มีคนจูงเด็กเล็กๆ มาสองคน เด็กชายกะหญิง
    เจ้าเด็กผู้ชายจ้องเราใหญ่เลย ก็เดินผ่านเข้าไปบริเวณงาน ด้านใน
    พักเดียว เด็กชายน่าจะแค่สองสามขวบนะ เล็กมาก
    ก็จูงแม่รึเปล่า เดินกลับออกมา มาจ้องหน้าเราพักนึง แม่ก็เดินจูงกลับไป
    อีกแป๊บนึง เดินกลับมาอีกแล้ว คราวนี้ยิ้มให้ด้วย เราก็ยิ้มตอบ
    ใจก็สงสัย ต้องมีอะไรแน่เลย แบบนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว หึหึหึ

    พระฉันท์ข้าว เรากินด้วย เค้ายกมาให้ตรงที่นั่งเลย ดีจัง
    กินเสร็จตอนพระให้พร เราก็ให้ด้วย ในใจก็นึกว่าบ้านนี้ดอกไม้สวยดี น่าอยู่
    แล้วมันก็แว๊บออกมาว่า อยากอยู่ที่นี่อ่ะ ก็สงสัยว่าดอกไม้แยะ สวย ดูแลอย่างดี
    ก็เดาเอาว่า คงเป็นใครที่ตามเรามาพักนึงแล้ว ซึ่งก็คงมีเยอะแยะไปหมด
    ไม่รู้ใครเป็นใครบ้าง ชวนมาบ้าง ตามมาเองบ้าง โดดขึ้นรถวัดมาเองก็มี

    ครั้งนั้นค่ำแล้วไปรับพระกลับมา ขับๆ อยู่ก็มีเสียงดังปุ้ง ไอ้เราก็นึกว่าใครโดดขึ้นรถ
    แต่หันไปดูรอบๆ ก็เจอว่ามีคนจุดพลุอยู่ไกลๆ แต่ใจก็ยังไม่เลิกสงสัย
    ถอยรถกลับไปตรงที่ได้ยินเสียงอ่ะนะ ก็เห็นว่ามีศาลเก่าๆ ทิ้งอยู่หลายอัน
    ก็เลยโมเมว่า คงมีใครตามเรามาด้วยแน่เลย คงแจ๋วพอตัวแหละ ไม่ต้องขอ
    แถมไม่กลัวไอ้พวกที่ตามมาอยู่ก่อนแล้วอีกต่างหาก ไม่รู้ใคร รู้แต่ว่ามันแจ๋ว ๕๕๕

    กลับมาที่บ้านงานนะ พอรู้สึกว่ามีใครอยากอยู่ที่นี่ ก็เลยขอกะสองศาลนั้น
    ซึ่งก็ยินดี ไม่มีปัญหา เพราะเราเส้นใหญ่ เอ้ย..ไม่ใช่ เอ..หรือว่าใช่วะ ๕๕๕
    ซักพักก็รู้สึกว่ามีไอ้ตัวเล็กๆ มันอยากจะอยู่ด้วยอีกตัวนึง
    เอ..สงสัยมันคงจะสนิทกันกับใครที่ขออยู่ที่นี่ล่ะมั้ง นะ ก็นึก เออ..ตามใจเอ็ง
    ก็รู้สึกอีกว่ามีกระแสยินดี สนุกสนาน เหมือนเด็กเล่นกันสนุก หัวร่อกันลั่นเลย

    สงสัยกุมารที่นี่ คงดีใจได้เพื่อนเล่นใหม่อีกคน ๕๕๕
    เจ้าที่ก็ดีใจ ได้ใครมาช่วยดูแลบ้านอีกแรงนึง ฤทธิ์แยะไม่น้อยซะด้วยสิ
    เอ..ข้างบนพิมพ์ถึงไอ้ตัวที่โดดขึ้นรถ หรือว่าเป็นตัวนี้วะ เหตุปัจจัยเชื่อมโยงกันพอดี ไม่รู้นะ

    หลายวันต่อมา ตอนจะขับรถผ่านบ้านนั้น ก็นึกถึงเจ้าพวกนั้นน่ะ
    พอดีเป๊ะ พ้นโค้งมาก็เจอผู้หญิงกะเด็ก อยู่ข้างทาง บังเอิญเป๊ะกันอีกแล้ว
    ก็เลยเดาเอาว่า วันนั้นคงเป็นผีสาว กะเด็กแน่เลย คงไม่ใช่ญาติกันหรอก
    แต่ตามเรามา แล้วคงสนิทกันทีหลังน่ะเอง เค้าอยู่กันสุขสบายดีแล้ว เดาเอาตามเคย
    ๕๕๕ โมเมได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยนะเรา จริงเท็จแค่ไหนไม่ทราบนะ



    มาต่ออีกเรื่องละกัน วันที่ ๑๐ ธค. มีฉันเพลอีกแล้ว
    ตัดเรื่องมาตอนฉันท์เสร็จแล้วเลยนะ เดินกลับมารอพระที่รถ
    สูบบุหรี่รอหน้ารถ หลังจากกินเสร็จและอุทิศกุศลให้ใครๆ ตามระเบียบ
    อ้อ..แต่วันนี้แปลกไปหน่อย พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นนึง

    คือปกติจะส่งกุศลไปนะ ให้นึกว่าเป็นแสงดวงๆ พุ่งออกจากบริเวณบ้านงาน
    ออกไปเยอะแยะ ขึ้นฟ้ามั่ง ลงดินมั่ง มั่วไปหมด แล้วแต่มันจะไปไหนก็ช่าง
    เรามีหน้าที่เพิ่มพลังงานแล้วส่งออกไปแค่นั้น นั่นคือทำเป็นปกติ แทบทุกงาน

    แต่วันนี้ไม่รู้นึกไง ลองนึกกลับกัน คือเรียกวิญญานมารับเอง ที่นี่ เดี๋ยวนี้
    ก็ไม่เห็นนะ ว่ามีใครมากันได้เยอะแยะ คงไม่หมดครบถ้วนหรอก แต่ก็แยะ
    รับเสร็จก็กลับไปที่เดิม แล้วเราก็ส่งกุศลตามแบบเก่า ซ้ำไปอีกที ตามระเบียบ ๕๕๕

    มาถึงตอนรอที่รถ ยืนๆ อยู่ลมก็พัดใบไม้ใบเล็กๆ เต็มไปหมด
    ลอยข้ามถนนมา เรามองเห็นแล้วก็สงสัย เอ๊..ทำไมมันพัดมาคนละทางกับลมได้วะ
    โหมข้ามถนนมาวูบนึง ตรงมาที่ตัวเรา ซึ่งยืนอยู่หน้ารถตู้ของวัด
    พัดแค่ครั้งเดียว เสร็จแล้ว ลมก็พัดไปในทางลมปกติ จากหน้ารถไปด้านหลัง
    พอเห็นเศษใบไม้ปลิวลมลอยตรงเข้ามาหา จิตมันก็แว๊บบบบ อีกแล้ว

    ว่าสงสัยพวกตัวเล็กตัวน้อยแถวนี้ คงมาทวงส่วนแบ่งด้วย ค่าอำนวยความสะดวก ๕๕๕
    ก็เลยนึกให้ตัวมีแสง ปล่อยออกไปโดยรอบ แบ่งปันกันออกไปให้ถ้วนทั่ว
    เค้าคงต้องการกันแค่นั้นล่ะมั้ง นะ ตรงนั้นใกล้ศาลเจ้าซะด้วยสิ
    ที่เคยพาพระมาฉันท์เพล แล้วเห็นลูกตุ๊กแกบนต้นไม้ ที่เคยเล่าไว้ก่อนนี้

    แหม..ยาวอีกแล้ว ยังไม่หมด แต่ส่งก่อนดีกว่า รำคาญแมว มาแง้วๆ อีกแล้ว ๕๕๕
    หิวแล้ว หิวแล้ว


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  16. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๒๓.๓๘

    เฮ้อ...มัวแต่โอ้เอ้ไปมา กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ซะแล้ว เฮ้อ...

    ตั้งกะทุ่มนึง ที่ยืนเฝ้าดูจันทร์ทะลุ ก็คิดว่าจะโม้ที่กระทู้นี้บ้าง นะ
    แต่กว่าจะได้ลงมือ ก็ได้เวลานอนซะแล้ว หึหึหึ พรหมลิขิต รึป่าวน๊า

    ยืนดูจันทร์ทะลุ หมดเบียร์ช้างไปสองกระป๋อง
    ที่จริงชอบกินเบียร์สิงห์นะ แต่อยู่หลังเขา หาเบียร์สิงห์ไม่ได้อ่ะ
    กินหมดสองป๋อง ก็กลับวัด คิดว่าพอแล้ว เดี๋ยวจะโม้ไรบ้าง
    แต่...แห้วอ่ะ เบียร์หมดฤทธิ์ซะก่อน ต้องขับรถวัดไปซื้ออีกสองป๋อง หึหึหึ

    แรงไม่พอว่ะ ไม่เหมือนเบียร์สิงห์ ไม่โดนใจเล้ย

    ใกล้จะนอนแล้ว ไม่เมา และก็ยังไม่ง่วงนะ
    แต่ได้เวลาต้องนอนแล้ว เพราะว่า
    ...เดี๋ยวตอนตีห้า กว่าก็ต้องจร
    พาพระไปร่อน ข้าวร้อนแลกบุญ ๕๕๕


    เข้าฝั่งดีกว่า ย้อนกลับไปตอนชมจันทร์นะ
    ยืนจิบเบียร์ไป ก็ทำจิตไป ทำไงดีน๊า
    ต้องมายืนตรงนี้ คงมีภารกิจอะไรแน่ แล้วอะไรวะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ไม่รู้โว้ย

    งั้นก็ต้องทำจิตให้นิ่ง ให้ว่าง แบบว่า
    ...ให้สะอาด แลสว่าง อย่างสงบ
    ให้พานพบ ปัญญา อย่างข้าฝัน
    ให้สมา ธิข้า จงตั้งมั่น
    ให้แสงฝัน บรรเจิด จงเกิดมา


    คิดไปมา ก็มาตรงปัจจุบันขณะ ว่าด้วยเรื่องพายุไม้สัก
    ทำจินตกสิณ ถึงภาพมวลเมฆ จากดาวเทียม ที่ได้ดูมา วันก่อน
    แล้วดึงมันมาทางประเทศไทย แม้ว่า มันอาจจะทำให้เพื่อนบ้านเดือดร้อน

    แต่ก็นะ เวียตนามเค้าโดนพายุอยู่เป็นปกติ ที่เค้าต้องบังพายุ ให้ไทยแลนด์
    ก็คงต้องทำใจแหละ ถ้าพายุมันไม่อ่อนแรง ดังที่เค้าว่ากัน
    แต่...พอลงทะเล หลังผ่านฟิลิปปินส์แล้ว ก็เติมพลังต่อ ในทะเล
    เปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย พองาม มาทางไทยแลนด์

    แล้วก็จินตกสิณต่อไป ว่า พายุเค้าก็ต้องมาตามศรบอกทาง ใช่ม๊า เนอะ
    มาทางไทยแลนด์ ที่กะลังต้องการน้ำ อย่างมาก พอประมาณ

    ว้า...ห้าทุ่มห้าสิบเอ็ดแล้ว ต้องจบรายการแค่นี้แหล่ะ ๕๕๕
    ไม่รู้พรุ่งนี้จะได้ต่อป่าวนะ เป็นผู้ใหญ่วัด ก็งี้แหละ ต้องทำหน้าที่ของตน หึหึหึ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  17. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    กระทู้นี้อมตะจริงๆไปเมาอยู่หลายปีกลับมาก็ยังอยู่ เก่งนักถามหน่อยแล้วกันว่าไก่กับไข่อะไรเกิด พร้อมคำอธิบายด้วย เลื่อมใสๆ
     
  18. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๑๒.๓๔

    เก่งไม่นักเท่าไหร่แล้วมั้ง นะ
    พายุไม้สัก ไม่เห็นมาถึงไทยแลนด์เลย
    ผิดหวังเล็กน้อย คงเพราะเหตุปัจจัยไม่เหมาะไม่ควร

    หรืออื่นๆ อีกมากมาย ขี้เกียจวิเคราะห์ เวลาไม่มี
    ออกมาซื้อของทำห้องน้ำให้หลวงพ่อ แวบได้แป๊บเดียว
    พอดีมีไวไฟของหมู่บ้านให้ใช้ เลยแวะโหลดอะไรไปอ่านบ้าง

    ต้องประหยัดสุดขีด ค่าเนทมือถือวันละสิบห้าบาท ก็ไม่อยากจ่ายอ่ะ
    รู้สึกทุเรศตัวเองจังแฮะ เฮ้อ...

    ไก่กะไข่ อะไรจะเกิดก่อน ก็ช่างหัวมันปะไร ใครจะสน หึหึหึ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  19. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    สุดยอดมากเลยครับ ขจก.ผมติดตามอ่านอยู่นะครับ
     
  20. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    มีคำถามการฝึกถึงพรหมวิหาร4ทำให้เป็นพรหมได้หรือปล่าว
     

แชร์หน้านี้

Loading...