ถ้าเกิดเราทำเลวทรามไว้นี่เเก้กรรมได้หรือเปล่าครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย noum77, 11 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    มีคนเก่งกว่าปราชญ์ระดับท่านพระพุทธโฆษาจารย์ ถึงกับกล้าหาญไปแก้ไขคำวินิจฉัยสรุปของท่าน..ช่างกล้าหาญทำไปได้..
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    พระพุทธองค์"แก้(กรรม)บาปเก่า"ที่พระองคุลิมาลย์เคยทำไว้เสร็จสิ้นไปแล้ว....หรือทรงตรัสสอนเพื่อให้พระองคุลิมาลย์"ทำกรรมใหม่"ครับ ..?...ก็เมื่อท่านพระองคุลีมาลย์เจริญกรรมดีใหม่ จนถึงกับได้บรรลุอรหัตผลนั้น ผลของกรรมใหม่ที่ดีย่ิอมตัดรอนผลของบาปที่จะมีในภพต่อไปได้อย่างไม่มีเหลือ เพราะท่านพระองคุลีมาลย์ไม่ปฏิสนธิหรือเกิดที่ใหนๆอีก ...ไม่มีขันธ์๕ที่จะรองรับผลบุญบาปอะไรในภพถัดไป...แต่ในระหว่างที่ท่านพระองคุลีมาลย์ยังดำรงชีวิตอยู่ก็ยังได้รับวิบากเลวหลายอย่างมีการถูกขว้างปา ศีรษะแตกแตกบ้าง บาตรแตกกลับมาบ้างฯลฯ ทำไมผลบาปยังตามมาส่งอยู่เล่าครับ?..หรือท่านลุงฯไม่ทราบ เพราะไม่เคยศึกษามาเลย..?


    หากพระพุทธเจ้าทรงสามารถแก้กรรมใครๆได้แท้จริงแล้ว (ตามที่ท่านลุงฯเข้าใจ) เหตุไรจึงไม่ทรงอาจแก้พระเทวทัตผู้ที่บวชใกล้ชิดให้ทำกรรมดีจนบรรลุได้บ้างเล่า? ..หรือบุคคลหลายหลากในสมัยนั้นที่แม้มาเฝ้าเพื่อถามปัญหา แต่พระพุทธองค์ก็ทรงนิ่งเสีย ไม่กล่าวอะไรๆสักคำหนึ่ง ท่านลุงฯ เห็นว่าเพราะเหตุผลใดหรือ?..

    ด้วยความเคารพ ท่านอย่าได้
    ลากจูงตนไปสู่ความเห็นที่เบี่ยงเบนเลย แม้ท่านจะมีศรัทธาแต่ไม่ประกอบด้วยปัญญาแล้ว ความศรัทธานั้นก็ไม่เป็นอุปการะแก่ท่าน..

    อีกอย่างหนึ่ง ท่านลุงฯดูหัวข้อคำถามของจขกท สิครับว่าเขาถามอะไร หรือท่านไม่เข้าใจความหมายของคำถาม?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2014
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป เป็นคนละส่วนกัน
    มนุษย์ย่อมเป็นไปตามกรรม มนุษย์มีกรรมเป็นทายาทสืบเชื้อสายเผ่าพันธ์
    มนุษย์ทั้งหลายไม่สามารถหลีกหนีบาปบุญที่ตนกระทำไว้ได้
    บาปบุญย่อมให้ผลวิบากกรรมตามวาระของมันไม่เป็นอื่น

    พระพุทธองค์จึงสอนให้ หยุดทำบาป ให้ทำแต่ความดี
    อุปมาดั่งน้ำดีและน้ำเสีย เมื่อใดที่น้ำดีเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น้ำเสียมีอยู่เท่าเดิม น้ำดีที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ก็จะไม่เห็นว่ามีน้ำเสีย เพราะน้ำดีมีมากจนมองไม่เห็นน้ำเสีย นั่นเอง

    ความดีหรือบุญกุศล จะคอยหนุนให้เราประสบแต่สิ่งดีงาม แต่เมื่อใดที่บาปกรรมให้ผล ย่อมทำให้เราประสบกับทุกข์ ซึ่งไม่สามารถหลีกหนีได้ แต่หากเรามีความดีหรือทำความดีไว้มากมาย ความดีที่สร้างไว้ก็จะช่วยเหลือไม่ให้ลำบากหรือทุกข์ยากอะไรมากนักหรือยาวนานนัก จะผ่านเรื่องไม่ดีไปได้ในที่สุด

    นี่แหละจึงเป็นสิ่งสำคัญว่า เมื่อเราทำความดี ทำไมบางครั้งยังไม่ได้ดี เพราะว่าในเวลานั้นผลกรรมที่เป็นบาปกรรมกำลังให้ผลอยู่นั่นเองครับ

    สุดท้ายเมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็ไม่ควรประมาทในการทำความดีนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2014
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    กาลามสูตร

    ขออนุญาตครับ

    ขอยกข้อความเดิมมาให้ดูอีกที


    แล้วลองอ่านนี่ดูว่า พระพุทธเจ้า ห้ามผลของกรรม ได้ไหม?

    ต่อให้พระเถระใดๆจะเก่งกาจสักปานใด
    ก็ไม่อาจจะสู้พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปได้
    ก็พระบรมศาสดาได้ทรงสอน "กาลามสูตร" ไว้ไม่ใช่หรือ?

    การอบรมสั่งสอนธรรมนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายมาเกี่ยวข้อง
    การที่จะทำให้การอบรมสั่งสอนธรรมให้ครบถ้วนตลอดเวลาจึงเป็นไปได้ยาก

    ความรู้เกิดจากการพิจารณา ตามเงื่อนไข และ สิ่งแวดล้อมที่มีอยู่

    ต่อให้ครูบาอาจารย์พระเถระผู้ใหญ่มาพิจารณาเอง ท่านย่อมทราบ ท่านย่อมเข้าใจได้

    ส่วนท่านที่ปฏิบัติไม่ถึง จะเข้าใจได้อย่างไร?

    ท่านที่ภูมิรู้ ภูมิธรรมถึง จึงย่อมจะเข้าใจได้

    ส่วนท่านที่ภูมิรู้ ภูมิธรรมไม่ถึง ย่อมต้อง แสดงออกถึงภูมิรู้ ภูมิธรรม ที่ไม่ถึง อยู่อย่างเดิม

    ธรรม เป็นเรื่องของผู้มีปัญญาที่ต้องใช้ปัญญาในการพิจารณา
    ธรรม ไม่ใช่เรื่องของผู้อ่านหนังสือออกแต่เพียงอย่างเดียว
    เพราะผู้ที่อ่านหนังสือออกแต่เพียงอย่างเดียว ไหนเลยจะเข้าใจธรรมได้

    ขอโมทนา

    ลุงมหา

     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ยกมาอีกทีครับ เผื่อจะได้คำตอบ..

     
  6. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240

    ขอบพระคุณมากครับที่ยังนึกถึงผม

    จริงๆผมเข้ามาก็เพราะมาได้เห็นความเมตตา,กรุณา,อุเบกขา ของท่านต่อเพื่อนสมาชิก นี่แหละครับ แอบคิดว่าถ้าเป็นกระผมเอง จะทำได้อย่างท่านบ้างหรือเปล่าหนอ ?
    อ้อ ลืมไป ความมุฑิตาอีกอย่างหนึ่ง
    ยากที่จะหาใครเหมือนท่าน
    ถ้าจำไม่ผิดท่านเคยเอากระทู้Pantip มาลง เรื่องการใช้เงิน800บาทในหนึ่งเดือน
    จึงอนุมานว่าท่านคงจะติดตามเนื้อหาในเวบ pantip ด้วย ทั้งเรื่องศาสนา ,เรื่องทั่วๆไป และเรื่องที่ท่านสนใจ
    เป็นที่แน่แท้ว่าสังคมแห่งนั้นย่อมความความคิดเห็นที่หลากหลาย และบางครั้ง ก็รุนแรง โต้เถียงกันด้วยอารมณ์ บางครั้งก็มีการอวดภูมิ ยกตนข่มท่าน มีการกล่าววาจาเพ้อเจ้อ คพูดจากันคะนองปาก โดยไม่คำนึงถึงความจริง หรือ ความรู้สึกผู้อื่น ทั้งผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีแต่ความอิโก้ คือนึกมั่นว่าตัวกูของกู ความคิดกู ใครจะมาลบล้างไม่ได้ มีการกล่าว เสียดสี จาบจ้วงกัน อย่างไม่เกรงกลัวบาป
    บางกระทู้ก็ด่า ธนาคารสาดเสีย เทเสียเรื่องการหลอกขายประกัน ,การยัดเยียดให้ใช้เงิน บัตรเครดิต ,การยัดเยียด บริการเสริมทางมือถือให้เสียเงิน ฯลฯ

    ถ้าใครได้อ่านpantip หลายๆกระทู้ จิตไม่นิ่งก็คงจะกระเพื่อมไปตามกระแสของกิเลส ที่มักจะยั่วยุให้เกิดโทสะ
    บางครั้งก็มีความเห็นผิดๆเกี่ยวกับเรื่องศาสนา ถ้าไม่มีอุเบกขาแล้วก็คงจะร้อนรนทนไม่ไหว ต้องโพสโต้แย้งอย่างแน่นอน

    แต่ในหลายๆกระทู้ก็มีความดี มีประโยชน์ วิทยาทานแก่เพื่อนสมาชิก เช่น การเกษตร,การตกแต่งบ้าน,DIY , การฝึกสติปัฐฐาน,การออมเงิน, การใช้ชีวิตที่ดีในทางโลก และทางธรรม ในpantipแม้จะมีข้อเสียมาก แต่ข้อดีก็มีมาก

    สรุปได้ว่า ท่าน ddman นั้นมีความ อุเบกขา และมีเมตตา อย่างสูง จึงสามารถอ่านเนื้อหาในpantip ได้



    โดยเฉพาะข้อ อุเบกขา กระผมจะพยายามนำไปเป็นตัวอย่างบ้างครับ
    กระผมจึงเ้ข้ามาดูเวบพลังจิตเป็นระยะ มาขอเก็บตัวอย่างการวางจิตของท่านไปใช้นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2014
  7. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    หาคำตอบไม่เจอ หรือเพราะ พิจารณาไม่เป็น?

    ขออนุญาตครับ

    เนื่องจากมีบางท่าน พิจารณาจากที่ผมเขียนไปแล้ว อาจจะไม่เข้าใจ

    จึงขอตอบตามที่ได้ถาม ก็ย่อมได้ ทั้งๆที่ผมไม่นิยมการตอบแบบนี้
    เพราะไม่ได้ช่วยให้ ท่านผู้อ่าน พิจารณาให้เกิดปัญญา แต่อย่างใด


    ตอบ พระองคุลีมาร ที่ท่านได้ทำกรรมเอาไว้เฉพาะในชาติสุดท้ายนี้
    คือการฆ่าคนตายไป ๙๙๙ คน

    ถ้าพระพุทธองค์ไม่ทรงช่วยเอาไว้ ท่านยังคงต้อง ทำมาตุฆาต เพิ่มมาอีก

    ท่านผู้อ่านท่านคิดบ้างไหมว่า ฆ่าคนตายไป ๙๙๙ คน

    แต่ได้รับกรรมแค่โดนข้างปาแค่นี้ ท่านได้รับใช้กรรม ครบถ้วนไหม?

    แล้วกรรมส่วนอื่นๆ พากันหายไปไหนหมด ท่านไม่ต้องรอให้ คนทั้ง ๙๙๙ คนที่ท่านได้ฆ่า กลับมาฆ่าท่าน อีก ๙๙๙ ชาติหรือ

    อย่างนี้ จะเรียกว่า พระพุทธองค์ แก้กรรม ตัดกรรม ให้องคุลีมาร ได้หรือไม่


    ตอบ
    ท่านพระเทวทัต ท่านได้ทำ "อนันตริยกรรม" ไปแล้ว
    แม้พระพุทธองค์ ก็ทรงแก้กรรมนั้นให้ไม่ได้

    แต่ด้วยพระเมตตา พระองค์ท่านได้ทรงรับการถวายคอเป็นพุทธบูชาจากพระเทวทัติ
    กุศลผลบุญอันนั้น จะทำให้พระเทวทัติ ได้ไปเกิดเป็น พระปัจเจกะพุทธเจ้า หลังจากที่เสวยผลกรรมในนรกครบแล้ว

    การที่พระพุทธองค์ไม่ทรงตอบปัญหาบางปัญหา
    ก็เพราะพระองค์เห็นว่าไม่สมควรตอบ
    เพราะตอบไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดพระองค์จึงทรงนิ่งเสีย



    ตอบ เรามีปัญญาหรือไม่ ตัวเราย่อมทราบได้ดี
    ส่วนตัวท่านมีปัญญาหรือไม่ ท่านที่เข้ามาอ่านจะพากันพิจารณาได้เอง

    ส่วนท่าน จขกท แค่เห็นชือท่าน ผมก็รู้แล้วว่า ท่านเป็นผู้มีปัญญา
    แค่เห็นการสำรวมระวังของท่าน ผมก็รู้แล้วว่า ท่านเป็นสัมมาทิจฐิ

    แต่ที่ผมต้องค่อยๆเขียน ค่อยๆอธิบาย ก็เพราะว่า
    กรรมอันซับซ้อนนั้น แม้พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสว่า

    "เกินวิสัยของพระอรหันต์ แต่เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า"

    จึงจะพิจารณาได้อย่างถูกต้อง อย่างละเอียด อย่างชัดเจน

    ก็เพราะเราพากันเชื่อว่า
    กรรม นั้น แก้ไขไม่ได้
    กรรม นั้น ต้องไปเป็นตามกรรมที่ได้ทำเอาไว้แล้ว
    แม้พระสงฆ์เกือบทั้งหมด ก็ เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
    แถมยังยืนยัน แถมยังสั่งสอน จวบจนปัจจุบัน

    ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เกิด มหาภัยพิบัติ เกิดขึ้น ถึง ๒ เรื่อง

    ๑ การเกิด สึนามิ ที่ภาคใต้

    ๒ การเกิด น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี ๒๕๕๔

    ทั้งสองเหตุการณ์ พระสงฆ์ผู้เก่งกาจทั้งหลาย ต่างก็เชื่อว่า

    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    กรรมที่ได้ทำเอาไว้ล้วนแก้ไขไม่ได้

    ด้วยเหตุนี้ พระสงฆ์ผู้เก่งกาจทั้งหลาย จึงวางเฉยเสีย

    ปล่อยให้ประเทศย่อยยับเสียหายมากมายมหาศาล

    แม้เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว พระสงฆ์ผู้เก่งกาจทั้งหลาย ก็ยังพากันยึดมั่นว่า

    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    กรรมที่ได้ทำเอาไว้ล้วนแก้ไขไม่ได้

    ก็เลยไม่รู้ว่า ภัยพิบัติ รายการต่อไป จะเป็นอะไร

    แต่ที่เห็นคาตาในปัจจุบันคือ

    ชาวนาถูกโกงค่าข้าวไป ๑๓๐,๐๐๐ ล้านบาท

    ก็ไม่รู้ว่า พระสงฆ์ท่านจะพากันค้น พากันคว้า พากันพิจารณาว่า

    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แน่หรือ?
    กรรมที่ได้ทำเอาไว้ล้วนแก้ไขไม่ได้ แน่หรือ?
    ถ้ากรรมชั่วให้ผลได้?
    แล้วกรรมดีให้ผลได้ เหมือนกันไหม?
    แล้วกรรมดี จะไปทำให้กรรมชั่ว ลดลงได้เหมือน เรื่องเงินไหม?

    กรรมชั่วจะเหมือนการเป็นหนี้จากการไปยึมเงินคนอื่นไหม?
    กรรมดีจะเป็นเหมือนการ ทำมาหากิน หาเงินมาสะสมเอาไว้ไหม?
    เมื่อหาเงินได้แล้ว เอาเงินไปใช้หนี้ พร้อมดอกเบี้ยได้

    แล้วการสร้างกุศลผลบุญ แล้วหมั่นอุทิศกุศลผลบุญ ให้จนเจ้ากรรมนายเวรพอใจ
    จะลดกรรมได้ไหม จะแก้กรรมได้ไหม

    และจะทำเช่นนี้ไปทุกภพ ทุกชาติ จนกว่าเจ้ากรรมนายเวรจะพอใจ
    จะลดกรรมได้ไหม? จะแก้กรรมได้ไหม?

    ถ้าแก้กรรมกันไม่ได้ ก็พากันเตรียมตัว พบกับภัยพิบัติที่จะทะยอยกันมาต่อๆไปและต่อๆไป

    ตัวผมนั้นไม่ได้ลากจูงตนเอง แต่กำลังผลักดันชาวพุทธ ให้เข้าใจเรื่องของ กรรม อย่างแท้จริง

    ถ้าผมทำไม่ได้ ตัวใครตัวมันกันละทีนี้

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2014
  8. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    หมั่นสร้างกรรมปัจจัยที่ให้ผลได้ไวและเป็นสิ่งที่ดี
    เพื่อให้เราได้มีความสุขกับผลของกรรมดีนั้นๆจนลืมความทุกข์จากผลกรรมเก่าๆที่ทำให้เป็นทุกข์ไป

    คำว่าแก้กรรม ไม่ได้ลบกรรมทิ้ง แต่แก้ในที่นี้หมายถึง
    ยอมรับและเข้าใจธรรมชาติ ผลกรรมมาก็ไม่ฝืน
    มองโลกอย่างเข้าใจ แม้กรรมมาก็ไม่ทุกข์ใจ
     
  9. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    ท่านเปาฯควรละเว้นการสรรเสริญกระผมให้มาก เพราะจะเป็นทางมาแห่งริษยาจิตในบุคคลอื่นอันเป็นโทษแก่ท่านเหล่านั้นเสีย..นะครับ

    และผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติมาดีเยี่ยงท่านเปาฯย่อมไม่คิดเอาอย่างใครๆนอกจาก มีพระพุทธองค์และพระอริยสาวกทุกองค์เท่านั้นเป็นตัวอย่าง....แม้ด้วยบุญกุศลในเจตนาเช่นนั้นย่อมปกปักรักษาท่านเปาฯให้อยู่ในความเกษมสวัสดี เว้นได้จากทิฏฐิที่ผิดจากพระธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว ..

    ขออนุโมทนาครับท่านเปาฯ..
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ท่านลุงฯอย่าเพิ่งปไกลถึงสุนามิเลย.. เรามาว่าต่อเรื่อง"การแก้กรรม" ที่เป็นประเด็นนะฮะ..

    ตกลงท่านลุงฯ ทราบชัดว่า พระพุทธเจ้าทรงสามารถช่วยแก้กรรมของใครๆได้ ว่างั้น..ใช่ใหมครับ?


    ก็เรื่องต่างๆที่ท่านลุงฯยกมาเป็นตัวอย่าง คือเรื่องพระองคุลีมาลย์หรือเเม้เรื่องนางยักษิณีที่ไปก็อปของท่านYukaiมา...ก็ไม่มีแสดงไว้เลยว่า พระพุทธเจ้าทรงช่วย"แก้กรรมเก่า"ที่ท่านเหล่านั้นทำไว้ในอดีตได้..เอางี้ครับ ท่านลุงฯยกตัวอย่างชัดๆมาสักหนึ่งตัวอย่างก็พอ ที่แสดงว่าพระพุทธเจ้าของเรา ทรงสามารถ"แก้กรรมเก่า"ที่ใครเคยทำไว้ในอดีตได้...จะได้รองรับทฤษฎีแก้กรรมที่ท่านลุงฯพยายามเผยแพร่ในที่ธารณะนี้ด้วย...ไม่งั้นวาจาของท่านลุงฯที่กล่าวหาข้าพเจ้าจะกลายเป็น"มิจฉาวาจา"ได้ง่ายๆทีเดียว อย่าลืมว่า เจตนาใดล่วงไปแล้ว ย่อมเป็นกรรม ท่านลุงฯคงทราบแล้วนะครับ

    อย่างไรท่านลุงฯต้องกรุณาตนเองด้วยไม่งั้นท่านลุงฯจะกรุณาคนอื่นไม่เป็นได้เลย..

    ด้วยความเคารพครับ

     
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขออนุญาตครับ

    ท่านเองก็สำรวมระวังให้มากด้วย

    ผิดพลาดไป เกิดชาติหน้า พูดไม่ได้

    แถมยัง แก้กรรม ไม่เป็นอีกต่างหาก

    หรือ กรรมให้ผลเร็ว ชาตินี้ก็ไม่แน่นะ

    ตัวใครตัวมันละทีนี้

    ลุงมหา

    สัญญาได้ไหมว่าจะไม่หลบลี้หนีหน้า

     
  12. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ท่านลุง ฯตอบคำถามด้วยนะครับ อย่าถึงกับสั่งสมพยาบาทวิตกเลย ไม่ดีจริงๆครับ..
    ด้วยความเคารพ
     
  13. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    รู้จักแยกแยะ
    :cool::cool::cool:
     
  14. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    เราทำเลวทรามไว้แก้ได้หรือเปล่าครับ

    การทำกรรมเนื่องจากเราไม่รู้ มีความหลงผิดขณะที่กำลังทำ มีผลตอบสนองให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ ในขณะเดียวกันนั้น ถ้าเรามองมาที่ใจเราเราก็จะรู้ว่า ใจของเรานั้นก็กำลังเป็นทุกข์จากการทำด้วย เพราะความหลงเราไม่ได้มีความสงบแห่งใจ และไม่เคยใส่ใจตัวของเรา แต่ไปตามใจกิเลตัณหา จึงเกิดความพอใจขึ้น และติดใจยินดี กระทำซ้าบ่อยๆ จนเป็นนิสัย

    เมื่อใจเราเกิดความสำนึกรู้สึกผิดชอบชั่วดี ในการกระทำแล้วกลับย้อนมามองตนเอง เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี ที่ทำให้ทั้งผู้อื่นและตนเองทุกข์ใจ จึงอยากจะเลิกกระทำ และตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่าจะไม่ทำแบบเดิมอีก ไม่ว่าจะมีอะไรจะมายั่วยุให้เรากระทำเราก็จะไม่กระทำอีกเด็ดขาด อาทิเช่น เราชอบหรอกลวงผู้อื่นไว้มาก และยินดีกระทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็จะทำอย่างนี้เรื่อย ๆ เราก็จะมีความทุกข์ใจไปเรือยๆ เพราะผลนั้นไม่ต้องรอเลยค่ะ สิ่งที่ได้รับแน่นอนขณะนั้นแล้ว คือความทุกข์จากใจเรานั่นเอง จนกว่าตัวเราเองจะรู้ว่าผิดแล้วเลิกกระทำโดยเด็ดขาด นี่เรียกว่า เป็นการแก้กรรมในเรื่องนั้นค่ะ คือ การแก้การกระทำด้วย กาย วาจา และ ใจ

    และถามว่ากรรมที่เราเคยก่อไว้ ผลนั้นจะสนองมาหรือไม่ ทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้รับสิ่งนั้น กรรมจะส่งผลเสมอไม่ว่าบุคคลนั้นจะทำดีหรือทำชั่วก็ตาม แต่ระยะเวลาของการให้ผลกรรมนั้นจะขึ้นอยู่กับแรงส่งของกรรม จึงเปรียบเสมือน กระแสพลังงานแห่งแรงกรรมดั่งกระแสแรงลม กรรมดี กรรมชั่ว นั้นเป็นกระแสพลังงานอย่างหนึ่ง กระแสใดที่มีความแรงโดยการสะสมไว้มากก็จะให้ผลทันที กระแสพลังงานใดที่อ่อนแรงทำไว้น้อยก็จะให้ผลช้ากว่าเพราะมีแรงดึงดูดน้อยกว่า

    แต่เราไม่ต้องไปคำนึงถึง หรือ วิตกกัวงวล หรือ หวั่นใจใด ๆ กับสิ่งที่ได้เคยทำผิดไว้นะคะ เพราะว่า ความดีที่เราทำไว้มาก ๆ นั่น อาจช่วยบั่นทอนการรับทุกข์จากกรรมไว้ เช่น การอบรมภาวนาให้รู้เกิดปัญญารู้สิ่งที่เป็นผล เนื่องมาจากเหตุ ก็สามารถช่วยให้ใจบรรเทาทุกข์ได้ เพราะเรารู้เหตุที่มาและที่ไป และหมั่นสร้างความดีขึ้นไปให้ยิ่งมาก จะทำให้เรามีเกราะกำแพงในการรับแรงเสียดแทงจากทุกข์ที่เรากระทำได้ค่ะ
     
  15. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขออธิบายขยายความครับ

    ขออนุญาตครับ

    กรรมนั้นจะให้ผล มาก หรือ น้อย ช้า หรือ เร็ว

    ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ อีกหลายอย่างเช่น

    ๑ ความรุนแรง ความเหี้ยมโหดของกรรมที่ได้กระทำ

    รุนแรงมาก เหี้ยมโหดมาก ก็ให้ผลมาก

    รุนแรงน้อย เหี้ยมโหดน้อย ก็ให้ผลน้อย

    ๒ ขึ้นกับภพชาติ ความยากลำบาก ของเจ้ากรรมนายเวร

    ถ้าเจ้ากรรมนายเวร อยู่ดีมีสุข มีภพชาติที่ดี เช่น
    อยู่สุขสบาย ในเทวโลก อยู่ในพรหมโลก ก็ยังจะไม่มาทวง หนี้เวร หนี้กรรม
    แต่ถ้าลำบาก ลำบน อยู่ในภพภูมิที่ไม่สุขสบาย เช่น ภพเบื้องล่างจำพวก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรฉาน หรือ วิญญานแร่ร่อน
    หรือแม้แต่ภพมนุษย์ที่ชีวิตมีแต่ความยาก ความลำบาก

    ก็จะรำลึกนึกถึง ผู้ที่เคยสร้างเวร สร้างกรรมกับตนเอาไว้
    แล้วก็ติดตามทวงหนี้เวร หนี้กรรม ด้วยวิธีการต่างๆนาๆ

    ๓ สำหรับท่านที่ได้ไปสร้างเวรสร้างกรรม กับ ผู้มีคุณงามความดี สูงกว่าตน มากกว่าตน
    หรือท่านที่ได้ไปสร้างเวร สร้างกรรม กับผู้ที่มี ภูมิรู้ ภูมิธรรม สูงส่งกว่าตน

    แม้ว่าไม่มีใครมาทวงหนี้เวร แต่กฏแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของมันเอง

    รุนแรงอย่างยิ่ง รวดเร็วอย่างยิ่ง ตามความเสียหายที่เกิดว่ามากน้อยแค่ไหน

    ส่วนการตัดกรรม การแก้กรรม ก็มีตั้งแต่

    ๑ การขออโหสิกรรม
    ๒ การสร้างกุศลผลบุญ อุทิศให้ตามที่เจ้ากรรมนายเวร ร้องขอ ให้ครบถ้วน
    ๓ การตัดกรรม ก็สามารถตัดได้เพียงบางส่วน ตัดได้เพียงบางเรื่อง เท่านั้น
    เพราะมีวิธีการยุ่งยากซับซ้อน ต้องหาฤกษ์ หายาม หาวัน หาเวลา หาสถานที่
    หาครูบาอาจารย์ทำพิธีได้ยากมากๆอีกต่างหาก
    ๔ แม้ว่าเราได้อุทิศ กุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรไปแล้ว
    แต่ถ้า กุศลผลบุญ ขาดตอน เจ้ากรรม นายเวร เขากลับมาลำบากอีก
    เขาก็ยังสามารถมาทวงหนี้เวร มาทวงหนี้กรรมได้อีก

    เช่น มนุษย์ปัจจุบันมีอายุขัยแค่ ๘๐-๑๐๐ ปี แต่ภพอื่นๆ ยาวนานกว่านี้มาก
    เมื่ออุทิศกุศลผลบุญยังไม่พอ มนุษย์หมดอายุขัยไปแล้ว
    เมื่อเจ้ากรรมนายเวรเขากลับมาลำบากอีก เขาก็จะตามมาทวงหนี้เวร หนี้กรรมได้อีก

    วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักสิ้น

    ดังนั้น เราจึงไม่เพียงแต่ต้องเร่งสร้างกุศลผลบุญเท่านั้นยังไม่พอ
    เรายังต้องเร่งศึกษาเรียนรู้เรื่อง "กรรมและผลของกรรม" ให้ละเอียดที่สุด
    เพื่อเราจะได้สำรวมระวัง รู้จักละเว้นการสร้างกรรมใหม่ๆ
    รู้จัก ขอขมากรรม รู้จักสร้างกุศลผลบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ให้มากอย่างพอเพียง
    รู้จักศึกษาเรียนรู้ว่า ยุคไหน สมัยไหน จะสร้างกุศลผลบุญ ให้สูงที่สุด ให้มากที่สุดได้อย่างไร

    เรื่องเวร เรื่องกรรมนั้น ละเอียดยิ่งนัก
    นึกอย่างไร คิดอย่างไร ก็ไม่จบไม่สิ้น

    แม้คำสอนของพระพุทธองค์ส่วนใหญ่ก็สอนในเรื่อง การสร้างกุศลผลบุญ การสร้างคุณงามความดี เป็นหลัก

    เพราะเมื่อมนุษย์รู้จัก สร้างคุณงามความดี หนี้เวร หนี้กรรม ใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ยากเอง

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  16. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    .. ขออนุโมทนาท่านกลายแก้วที่แสดงความเห็นที่ชัดตรงตามทิฏฐิที่พระผู้มีพระภาคแสดงไว้ดีแล้วนะครับ..




    ท่านลุงฯครับ ยิ่งพยายามอธิบายผมยิ่งไม่เห็นความสวัสดีของท่านลุงฯ เลย ..

    ขออณุญาต สักเล็กน้อย นะครับท่านลุงฯ


    ..กรรมจะให้ผลหนักหรือเบา ไม่ใช่เพียงแค่โหดมากหรือน้อย..แต่มีปัจจัยหลากหลายเช่น..

    - เจตนาอ่อนหรือกล้า..
    - ลงมือเองหรือใช้ผู้อื่น(จะด้วยบังคับหรือใช้ตามหน้าที่ก็ตาม)
    - ทำกรรมกับใคร เช่นทำกับสัตว์เดรัจฉานหรือผู้มีคุณ โจร คนมีศีล ทุศีล เป็นุถุชน หรือเป็นพระอริยะ..ฯลฯ
    -ใช้ความพยายามในการทำมากหรือน้อย
    -ทำสำเร็จหรือไม่..


    ส่วนเรื่องการตามล่าล้างแค้นของเจ้ากรรมฯ นั้น ท่านลุงฯน่าจะอาศัยหลักความเชื่อเรื่องกรรมที่เป็น๑ในองค์ ประกอบของสัมมาทิฏฐิตามมรรคมีองค์๘มาวินิจฉัยมากกว่านะฮะ เพราะท่านลุงฯจะไม่ต้องลำบากบัญญัติ เรื่องราวการตามจองล้างตามผลาญแบบไม่เลิกราของเจ้ากรรมฯ ขึ้นมาเอง..

    พระธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้นบริบูรณ์ที่สุดแล้ว ที่ท่านลุงฯมานั่งคิดเองเช่นนี้ นอกจากทำตนให้ลำบากแล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นให้ผู้ไม่รู้ รับแนวคิดที่ไม่ถูกต้องตกไปแล้วจากพระพุทธศาสนา เป็นอันสำเร็จบาปกรรมไปโดยไม่ควร...

    ช่วยกันปกป้องคนที่จะต้องตกเป็นเหยื่อเสียเงินหรือเสียอื่นๆ เพราะเชื่อลัทธิแก้กรรม ตัดกรรมกันดีกว่าครับ



    หากท่านลุงฯไม่พอใจหรือโกรธข้าพเจ้าด้วยเรื่องใด ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมด้วย
    ขอท่านลุงฯอย่าได้อาศัยข้าพเจ้าเป็นเหตุทำบาปกรรมเพิ่มเติมเลย บาปแม้เพียงเล็กน้อยย่อมนำทุกษ์โทษมาให้..


    ด้วยความเคารพครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2014
  17. ยี่แปะกง

    ยี่แปะกง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +272
    ลุงมหาครับ

    ในยุคสมัยนี้ เราควรจะ สร้างบุญกุศลอย่างไร แล้วควรจะอฐิษฐาน อย่างไร ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด

    หากเรามี กรรม กับเรื่อง ของคู่ครอง ที่ไม่สุขสมดังใจ เราควรจะสร้างกรรมอย่างไร อย่างไรครับ

    แล้วควรจะทำกรรมอย่างไร ถึงจะ ได้คู่ครองดังที่ใจหวังไว้ โดยที่ ถูกควร โดยไม่สร้างกรรมเพิ่มขึ้นมาใหม่

    ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2014
  18. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    มันก็พูดยากนะครับ ยกตัวอย่างเช่น เราทะเลาะกับคนใหญ่คนโต เเล้วมันให้ลูกน้องมายิงเรา เเต่พลาดไปโดนคนที่เรารักตาย เราเเจ้งความ ตำรวจจับได้เเต่ไอ้คนยิงเเต่คนสั่งการ นอนสบาย นี่หละเมืองไทย
     
  19. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    ขอถามหน่อยครับ ยกตัวอย่าง ถ้าผู้นำประเทศเลวๆ โกงเงินผม ฆ่าคนที่ผมรักตาย เเต่ผมเป็นคนหาเข้ากินค่ำ ทำบุญได้ที่ละเล็กๆน้อยๆ เพราะเงินน้อย อย่างนี้ไอ้เลวนั้นมันก็ได้บาปเพียงเเผลถลอกอย่างเดียวซิครับ โลกนี้ช่างยุติธรรมจริงๆเลย นี่ทุกวันนี้ผมนั่งดูเคส หนึ่งอยู่ว่าเมื่อไหร่เวรกรรมจะตามทันครอบครัวมัน ทั้งฆ่าคน ทั้งโกงกิน ทั้งเลว ล่าสุดก็เอาระเบิดไปปา ยิงเด็กที่หัวเด็ก 8 ขวบ อีก ผมจะดูว่าเวรกรรมมีจริงหรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กุมภาพันธ์ 2014
  20. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    บ้างครั้งผมก็ไม่เข้าใจระบบ ทำไมไม่ให้เห็นผลชาตินี้ไปเลยหละครับ คนมันจะได้ไม่ทำเวรทำกรรมกัน บางคนเลวมาทั้งชีวิต เเต่เสวยสุขจนวันตายบนเตียงที่อบอุ่น คนก็พูดกันว่าไปใช้เวรกรรมในนรก ผมฟังเเล้วมันไม่ค่อยเข้าท่าเลยเเบบนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...