อยากบูชายาจินดามณี ของวัดกลางบางแก้วแท้ๆ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย hiddenbhume, 14 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    จะเอาไปรักษาพี่สาวครับ ไม่ทราบที่วัดหรือทีไ่หนมีให้บูชาบ้างครับพี่รบวกนด้วยครับพี่ๆทุกท่าน
     
  2. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    น้องภูมิพี่สาวเป็นอะไรเหรอ ขอให้หายเร็วๆนะครับ
     
  3. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    มะเร็งเต้านมครับพี่ ระยะสี่แล้ว แกดื้อ ไม่ยอมไปหาหมอ และก็คิดว่ายาหม้อช่วยได้
    เรื่องยาจินดามณีผมหวังใจว่าความดีและบุญที่พี่สาวผมทำมา คงจะรักษาไม่ให้เจ็บปวดมากกว่านี้ครับพี่
    หรืออย่างมาก อาจต่อชีวิตไปได้อีกสักหน่อยครับพี่
    แต่ยาแท้ๆหายากมากครับเลยสอบถามพี่น้องในนี้ครับพี่
     
  4. chakritk

    chakritk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +120
    ที่วัดตุ๊กตามีครับขวดละ99บาท ประมาณ20เม็ด วัดอยู่ตรงข้ามวัดกลางบางแก้ว ต้นตำรับยาจินดามณีมาจากวัดตุ๊กตาครับ ถ้าไปบูชายาที่วัดแนะนำไปให้หลวงพ่อเพี้ยน(เจ้าอาวาส)ท่านเมตตาเสกอีกครั้งครับและบอกท่านว่าจะนำไปใช้เพื่ออะไรด้วยครับ เบอร์โทรที่วัด 034-232517
     
  5. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ว่านั้นพีดูในเฟสที่เขาแชร์กันมีรักษาได้ฉายรังสีอะระยะที่สี่นี่แหละ ที่ไหนน้า ม.เรศวร เขต นครนายกปะ น้องภูมิลองหาเบอร์โทรนะ แล้วอีกทีนะ ยาต้านมะเร็งตับ ของแพทย์แผนไทย เป็นแคปซูล ดูในโทรทัศน์ ลองหาเบอร์โทรแล้วโทรสอบถามดูนะ
     
  6. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ขอบคุณมากๆครับพี่

     
  7. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ขอบคุณมากๆครับ

     
  8. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    ลองติดต่อไปที่วัดโพธิ์ผักไห่ อยุธยา ดูนะครับเห็นพระอาจารย์พิจารย์ท่านสร้างอยู่โดยใช้สูตรเดียวกันกับวัดกลางบางแก้ว

    - โทร 035 - 391248 , 080 - 4229353 ติดต่อได้ทุกวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2014
  9. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ขอบคุรมากๆครับพี่
     
  10. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    อีก ๑ ทางเลือกครับ

    ......................................................

    กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เผย ยาเบญจอำมฤตย์ ได้รับความนิยมหลังทำประชาสัมพันธ์ ทำผู้ป่วยมะเร็งแห่มาขอรับเพิ่มขึ้นวันละ 30 เท่า มั่นใจมีเพียงพอในการแจกจ่าย

    นายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ แจกยาสมุนไพรโบราณ สูตรเบญจอำมฤตย์ เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ให้ใช้รักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งสูตรยาดังกล่าว ประกอบด้วย สูตรยาในคัมภีร์แพทยศาสตร์สงเคราะห์ 9 ตัว ได้แก่ มหาหิงค์ ยาดำบริสุทธิ์ รงทอง มะกรูด ขิงแห้ง ดีปลี พริกไทย รากทนดี และดีเกลือ ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยมาขอรับยาเบญจอำมฤตย์ มากกว่าเดิมประมาณ 30 เท่า คือ จากเดิมจะมีผู้ป่วยมาตรวจและรับยาประมาณวันละ 2-3 ราย แต่ภายหลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลออกไป ก็มีผู้ป่วยไปตรวจและขอรับยาสูตรดังกล่าวประมาณวันละ 60-70 ราย

    นอกจากนี้ ยังมีการโทรศัพท์เข้ามาขอรับยาอีกวันละประมาณ 100 ราย แต่โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยยศเส ไม่สามารถจ่ายยาให้ได้ เนื่องจากผู้ป่วยที่จะได้รับยาต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แผนไทยที่โรงพยาบาลก่อน จึงจะรับยาได้ และต้องมีการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันร่วมด้วย

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้มาขอรับยามากขึ้น แต่โรงพยาบาลก็ยังมีการสำรองยาเก็บไว้ในปริมาณที่มากพอสมควร เพื่อให้ครอบคลุมกับผู้ป่วยทุกคนที่อยู่ในโครงการของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ และในเรื่องของวัตถุดิบก็ยังคงมีเพียงพอ แต่จะติดขัดอยู่บ้าง ที่การผลิตอาจจะไม่ทัน แต่ก็จะพยายามให้ทำการผลิตให้เต็มที่ เนื่องจากผู้ป่วยบางรายเวลามีน้อย รอไม่ได้

    "อยากทำความเข้าใจ และขอย้ำว่า การให้ญาติไปขอรับยา โดยไม่นำผู้ป่วยไปด้วยนั้น โรงพยาบาลจะไม่สามารถให้ยาได้ เนื่องจากยาดังกล่าวยังต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ และเพื่อป้องกันการนำยาไปแจกจ่ายให้กับผู้อื่นต่อและใช้อย่างไม่เหมาะสม"

    ทั้งนี้ สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการผลิตนั้น ถือว่ายังอยู่ในปริมาณที่สามารถแจกจ่ายฟรีให้กับผู้ป่วยได้เหมือนเดิม เพราะต้นทุนไม่สูงมากนัก เฉลี่ยราคาโดยรวมอยู่ที่ประมาณเม็ดละ 10 บาท ส่วนแหล่งผลิตก็จะอยู่ในประเทศไทย โดยขณะนี้ผลิตอยู่ที่โรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี.

    ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ
     
  11. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    อันนี้แหล่ะครับ 1 อีกที่ที่ฉายรังสีไม่รู้จดเบอร์ใว้ไหน ของ ม.นเรศวรหรือ ม.ศรีนคริน...นี่แหล่ะ วิลัยเขต แถวๆ ปทุมหรือนครนายกจำไม่ได้
     
  12. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    อีก1ทางเลือก

    [​IMG]


    ได้อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์เลยนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้ทราบด้วยค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะได้ประโยชน์จริงๆค่ะ

    มหาวิทยาลัยไถต้า ประเทศไต้หวัน นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ผู้เชี่ยว ชาญด้านกระเพาะอาหารและลำไส้ได้บอกด้วยความปราถนาดีว่าให้กินผลไม้ ในช่วงที่เวลาท้องยังว่างนั่นก็คือก่อนอาหารนั่นเองและหลังอาหารให้ดื่ม เครื่องดื่มที่ร้อน เท่านี้ คนที่เป็นมะเร็งก็จะไม่ตายแล้วไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ซึ่งวิธีการรักษาได้ถูกค้นพบแล้ว

    ศาสตราจารย์ นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยไถต้าพูดต่อว่าการนำวิธีดังกล่าวมา ใช้นั้น สัมฤทธิ์ผลถึง 80% ซึ่งคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมีโอกาสจะหาย ไม่ว่าท่านจะเชื่อ หรือไม่ก็ตาม ผมเชื่อว่าวิธีการรักษาได้ถูกค้นพบแล้ว

    สำหรับผู้ที่บำบัดและรักษาด้วยวิธีที่ใช้อยู่โดยทั่วไปซึ่งสุดท้ายผู้ป่วย ต้องเสียชีวิตไปและข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง หลังบำบัดมีคนไข้ไม่กี่คนที่สามารถอยู่รอดได้เกิน 5 ปี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่รอดได้ 2-3 ปีเท่านั้น จึงถูกมองว่าการรักษาที่ใช้โดยทั่วไปแล้วดูแล้วไม่น่าจะได้ผล ปกติ ผู้ป่วยไม่รับการรักษาใดใดทั้งสิ้น ผู้ป่วยก็สามารถอยู่รอดได้ถึง 2-3 ปีอยู่แล้ว การรักษาที่ใช้โดยทั่วไปนั้น คนไข้จะถูกบำบัดด้วยเคมีหรือระบบฉายแสง ซึ่งทำให้เซลที่ดีของคนไข้ พลอยได้รับพิษเข้าไปด้วย มีผลทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนแอลง เซลจะไม่มีแรงต่อต้านอีด้วย จึงทำให้เชื้อแพร่กระจายเร็วขี้น และมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก


    รับประทานผลไม้สด

    เมื่อพูดรับประทานผลไม้สดก็จะนึกถึง ผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ เคี้ยวแล้วรีบกลืนลงท้อง ความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น ถ้าต้องการกินที่ได้ผล ต้องพิถีพิถันในเวลารับประทานผลไม้ดังกล่าว อะไรคือการกินแบบถูกวิธี ? อย่ากินผลไม้หลังอาหาร ควรกินช่วงเวลาที่ท้องว่างเปล่าเท่านั้น เช่นนี้แล้ว ผลไม้ถึงจะได้บรรลุผลในการฆ่าเชื้อ และสามารถให้พลังงานแก่ร่างกาย รวมถึงลดความอ้วนได้อีกด้วยและมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาใน ด้านอื่นๆอีก ผลไม้จึงจัดได้อาหารที่มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิต

    ลองนึกภาพดู เรากินขนมปัง 2 แผ่น หลังจากนั้น กินผลไม้ 1 ชิ้น ตามหลักแล้ว ผลไม้จะผ่านผนังกระเพาะอาหารก่อนเข้าสู่ลำไส้ แต่กลับถูกกีดกันจากอาหารอื่นที่รับประทานก่อนหน้าที่จะรับประทานผลไม้ เมื่อผลไม้ที่กินเข้าไปได้ถูกผสมกับอาหารและน้ำย่อยที่เป็นกรดในกระเพาะ อาหารสรรพคุณผลไม้ก็ถูกเปลี่ยนไปด้วย

    การรับประทานผลไม้ก่อนอาหาร

    หลังอาหารแล้วรับประทานผลไม้ คุณคงเคยได้ยินคนบ่นว่า ทุกครั้งที่กินแตงโมก็จะสะอึก ถ้ากินทุเรียน ท้องจะจุก หากกินกล้วยหอม จะระบายอ่อนๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มาจากผลไม้และอาหารที่ที่เริ่มย่อยสลายผสมผสานจนเกิดแก๊สขี้น แต่ทว่า ถ้ารับประทานผลไม้ก่อนรับประทานอาหารก็จะไม่เกิดเหตุดังกล่าว ผมขาว ผมร่วงศรีษะล้าน เคร่งเตรียด นอนหลับน้อยจนขอบตาดำ เมื่อทานผลไม้ในขณะท้องว่าง ลักษณะดังกล่าวเบื้องต้น ก็จะจางหายไป

    ดร. เฮ่อโป๋ ได้บอกผลวิจัยไว้ว่า เมื่อผลไม้เข้าสู่ร่างกายจะมีผลเป็นด่าง ดั่งเช่น ผลส้ม หรือมะนาวที่มีรสเปรี้ยวก็ตาม แต่ก็ล้วนเป็นอาหารที่มีความเป็นด่างนั่นเอง ประเด็นสำคัญ คือการรับประทานผลไม้ในเวลาที่ว่างเปล่า เพื่อให้ผลไม้ได้ช่วยเสริมความสวยงาม และอายุจะได้ยืนยาวนาน สุขภาพที่แข็งแรง มีพลามัยที่ดี มีความสุขและหุ่นดีอีกด้วย เมื่อคุณคิดจะดื่มน้ำผลไม้ ก็อย่าดื่มน้ำผลไม้กระป๋อง อย่านำผลไม้หรือน้ำผลไม้ไปอุ่นให้ร้อน เพราะจะเหลือเพียงรสชาติ คุณประโยชน์ที่ดีของผลไม้จะถูกทำลายสิ้น การรับประทานผลไม้ทั้งลูกย่อมดีกว่าดื่มน้ำผลไม้ แต่ถ้าต้องดื่มน้ำผลไม้ ต้องดื่มเป็นคำคำไปเพื่อให้น้ำลายได้คลุกเคล้ากันให้ทั่ว ก่อนดื่มลงไป คุณสามารถรับประทานผลไม้ 3 วัน ติดต่อกัน เพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาด ผิวพรรณจะนวลผ่อง ผู้พบเห็นจะตื่นตาตื่นใจ

    กีวี่

    ผลเล็กแต่มากด้วยสรรพคุณ ประกอบด้วยสาร โปรตัสเซี่ยม แมกเนเซี่ยม วิตามินE และไฟเบอร์ มีวิตามินC เป็น 2 เท่าของผลส้ม

    แอปเปิล

    มีวิตามีC ต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้วิตามินCตื่นตัว ช่วยลดการเกิดมะเร็งในลำใส้โรคหัวใจและโรคลมชักจึงมีคำพังเพยที่ว่า “รับประทานแอบเปิลวันละผล แพทย์จะจน เพราะทุกคน สุขภาพดี”

    สตรอเบอรี่

    เสมือนหนึ่งเป็นผู้คุ้มกันปกป้องร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี จึงได้รับฉายาว่า ราชาแห่งผลไม้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องมิให้เกิดมะเร็ง การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดและสารอนุมูลอิสระ

    ส้ม

    รับประทานวันละ 2-4 ผล สามารถต่อต้านไข้หวัด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหรือสลายนิ่วในไตลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำใส้

    แตงโม

    ประกอบด้วยน้ำถึง 95% :ซึ่งแก้กระหายได้ดี มีกลูตาไธโอนเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีตัวสำคัญของไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน Cและโปแทสเซี่ยม

    ฝรั่งและมะละกอ

    มีวิตามิน C มากที่สุด ฝรั่งมีไฟเบอร์มากซึ่งแก้ท้องผูกได้ดี มะละกอ จะมีคาระตินส่งผลดีต่อดวงตา

    เชื่อหรือไม่ ดื่มน้ำเย็นหลังอาหารก็จะเกิดมะเร็งได้ง่าย ดังนั้นหลังอาหารแล้วควรดื่มน้ำร้อน เพราะน้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่กินเข้าไปแข็งตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อการย่อย ไขที่แข็งตัว ทำปฎิกิริยากับกรดในกระเพาะ ทำให้ไขเป็นเกล็ดเล็ก ซึ่งง่ายต่อการดูดซึมในลำใส้ และจะฝังในผนังของลำใส้ ก่อตัวเป็นไขมัน ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง

    สุภาพสตรีต้องรู้ว่า การเป็นโรคหัวใจกำเริบมิได้เริ่มต้นมาจากอาการปวด ของไตด้านซ้ายมือ แต่กลับต้องระวังเมื่อเพดานปากล่าง มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง และการปวดหน้าอกอยู่เนืองๆ อาการที่ตามมาก็คือพะอืดพะอม เหงื่อออกมาก และ60%ของคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจ มักกำเริบในช่วงเวลาที่หลับสนิท จนไม่ตื่นอีกเลย การเกิดอาการปวดเพดานล่าง
    ของช่องปากจนตื่นขึ้น ต้องเอาใจใส่ และต้องยกระดับการเฝ้าระวังให้มากขึ้น หากเรามีความรู้ยิ่งมากเท่าไหร่ อัตราการมีชีวิตอยู่รอดก็มากขึ้นตาม
     
  13. bandidsqn401

    bandidsqn401 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +566
    มารู้จักแพทย์วิถีธรรมกันเถอะ - YouTube
    http://morkeaw.net/

    สวนป่านาบุญ จ.มุกดาหาร
    ที่มาของแพทย์วิถีธรรม:-


    ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น เรื่อย ๆ และในความเจ็บป่วยแต่ละครั้งจะต้องเสียทั้งเวลา เงินทอง และสุขภาพจิตในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายในการรักษาในโรคที่่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เช่น ความดัน เบาหวาน ไขมัน หัวใจ มีค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นภาระต่อตนเอง ครอบครัว รวมทั้งภาครัฐต่าง ๆ
    การดูแลสุขภาพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักการแพทย์วิถีธรรมนั้น จะช่วยควบคุมป้องกันโรค บำบัดบรรเทาโรค และฟื้นฟูสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อร้ง
    "หมอเขียว" ใจเพชร กล้าจน เป็นผู้บูรณาการองค์ความรู้หลักแพทย์วิถีธรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีสาเหตุมาจากสถานการณ์ปัญหาสุขภาพของประเทศไทย ๓ ประการ ได้แก่
    ๑.ปริมาณผู้ป่วย ชนิดของความเจ็บป่วย และความรุนแรงของการเจ็บป่วยโดยรวมเพิ่มมากขึ้น
    ๒.ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น
    ๓.ยิ่งนับวันประชาชนก็ยิ่งมีศักยภาพที่น้อยลงในการดูแลแก้ไขปัญหาสุขภาพด้วยตนเอง (พึ่งตนเองไม่ได้หรือพึ่งตนเองได้น้อย)
    หลักแพทย์วิถีธรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการดูแลสุขภาพแบบพึ่งตนที่นำเอาจุดดีของวิทยาศาสตร์สุขภาพ แผนปัจจุบัน แผนไทย แผนทางเลือก และแผนพื้นบ้าน รวมถึงหลัก ๘ อ. เพื่อสุขภาพที่ดีของสถานบันบุญนิยม มาบริหารจัดการ องค์ความรู้ ประยุกต์ ผสมผสาน บูรณาการด้วยพุทธธรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เหมาะสมและสามารถแก้ไขหรือลดปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุ ณ สภาพสังคม สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน นำไปสู่การปฏิบัติที่ ประหยัด ปลอดภัย เรียบง่าย และได้ผลเร็ว แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พึ่งตนเองได้ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นเป็นหลัก และมีความยั่งยืน


    ลองดูครับ เห็นว่าหมอเขียวเคยรักษาคนหายเยอะแล้วด้วยแพทย์วิถีพุทธ ซึ่งก่อหน้าเคยรักษาคนด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน แผนจีน ฝร้่ง ฝังเข็ม ยาแผนโบราณมาหมดจนค้นพบวิถีพุทธว่าเป็นการรักษาที่ได้ผล เผื่อปาฏิหารย์มีจริงครับ
     
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,009
    ค่าพลัง:
    +146,278
    อีกทางเลือกน่ะครับ ผมเห็นว่าป่วย ผมมียาวาสนาจินดามณี ในรูปพระเครื่อง พระปิดตา ของหลวงพ่ออั้บวัดท้องไทร ท่านบอกไว้ว่า มีอะไรให้หักกิน มีประสบการณ์มาแล้วจากผู้ถูกคุณไสย ตั้งแต่หลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่

    ถ้าคิดว่าจะลอง เอาไปใช้จริงๆ ผมยินดีแจกฟรีเป็นทาน

    PM มาน่ะครับ
     
  15. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    ลองดูอันนี้นะครับ พอดีเพื่อนผมไลน์มาให้และบอกให้แชร์ต่อๆไป ผมดูว่าน่าจะพอมีประโยชน์กับพี่สาวของคุณได้บ้างนะครับ

    ปล.ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. paper_white

    paper_white เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    2,021
    ค่าพลัง:
    +4,804
    เป็นกำลังใจให้ครับ ผมมีแต่เป็นพระอะครับ เคยหาเช่าเม็ดยาเหมือนกัน แต่ได้มา (แพงด้วย) ก็ยังคิดว่าไม่แท้อะครับ รู้สึกว่าร้านกำนันมีนะครับ (แต่เลี่ยมทองแล้ว) ไม่รู้ราคาเป็นยังไง (มีหลายเม็ดด้วยครับ)
     
  17. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    น่าจะที่เดียวกันกับของ ท่าน คนปั้นพระน้องภูมิลองโทรดูนะ[​IMG]
     
  18. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ขอบคุณทุกท่านครับ อบอุ่นจริงๆครับ
    คือจริงๆแล้ว พี่ผมนอกจากโรคจะกินที่ร่างกายแล้ว ยังกินไปที่จิดตใจ น้องชายผมมีแฟนเป็นหมออยู่ที่ ม.ขอนแก่น ก็แนะนำให้ทำคีโม ตั้งแต่ระยะหนึ่ง โอกาสหายสูง
    แต่ด้วยคิดว่าค่าใช้จ่ายแพงและไม่อยากรักษาเพราะกลัวว่าจะไม่หาย เลยไปแผทยืแผนทางเลือก ซึ่งผ่านมาสองปี ทำให้เป้นระยะที่สี่และแตกแล้ว ซึ่งผมจนด้วยความคิดจริงๆ
    แกก็ยังคิดว่าถ้ารักาาแบบปัจจุบัน อาจทำให้ตายไวขึ้น ตอนนี้ทางบ้านพี่สาวผม เขาถอดใจและนับถอยหลังแล้ว
    คุณพ่อผมเคลียดและก็เอาเรื่องนี้มาคุยกับผม ผมก็นึกได้ว่า มียาจินดามณีอยู่ คือรู้ว่าแม้จะมีปาฏิหารอยู่แต่ก็ไม่น่าจะได้มาโดยง่าย อาศัยว่าพี่สาวผมท่านเป้นคนธรรมะธรรมโม ชอบทำบุญที่วัด ฟังธรรม และถวายสังฆทานเป้นประจำทุกเดือน
    ก็หวังว่าอานิสงที่ได้ทำไว้ จะช่วยให้ทุเลา ไม่เจ็บปวดไปมากกว่าที่เป้น หรือไม่ก็หวังให้ไปโดยสงบครับ
    โรคที่กินจิตในนี่น่ากลัวมากกว่าโรคทางกายอีกครับพี่ๆทุกท่าน
     
  19. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    อีก ๑ ทางเลือก จากบันทึกของพระธรรมมาจารย์เหลียนเซิน หลู่เซิงเยี่ยน

    ......................................

    ศากยมุนีตถาคตทรงตรัสแบบนี้

    พ่อค้าคนหนึ่งชื่อ 'กู้ฉวน' ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
    พยายามหาหมอเพื่อรักษาหลายแห่งก็ดูไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้น แถมโรคมะเร็งยังกำเริบหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่หมอจีนหมอฝรั่งต่างก็จนปัญญากันหมด ขนาดต้องจ่ายเงินซื้อตำรายาลึกลับมารักษาเป็นจำนวนมากก็ยังไม่ช่วยให้ดีขึ้น
    เมื่อกู้ฉวนป่วยมากเข้าจนใจไม่ดี เขาจึงไปขอพรจากเทพเจ้าในร่างของม้าทรงที่ศาลเจ้า
    "ถ้าโรคมะเร็งหาย ผมสาบานว่าจะสร้างศาลเจ้าและเป็นคนดูแลศาลเจ้าตลอดชีวิต"
    เทพที่มาสถิตอยู่ในร่างของคนทรงเจ้าก็ตอบว่า
    "หายสิ ทำไมจะไม่หาย"
    ได้ยินแบบนี้กู้ฉวนจึงถามต่อว่า
    "แล้วมีเทพเจ้าองค์ไหนรักษามะเร็งได้บ้างครับ"
    "พระพุทธเจ้าศากยมุนี"
    "แล้วผมจะไปหาพระพุทธเจ้าศากยมุนีได้ที่ไหน ไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหนครับ"
    "ที่วัด"
    ตลอดชีวิตที่ผ่านมากู้ฉวนนั้นไม่เคยเข้าวัดเลย
    พอกู้ฉวนไปถึงวัดก็ถามพระธรรมาจารย์ว่า พระพุทธเจ้าศากยมุนี อยู่ที่ไหน พระธรรมาจารย์ก็บอกเขาว่า พระพุทธเจ้าศากยมุนีอยู่ที่ 'ต้าสงเป่าเตี้ยน' (อุโบสถรัตนบัลลังก์มหาบุรุษ)
    พอกู้ฉวนไปถึงตรงกลางองค์พระประธานที่นั่งอยู่ซึ่งเป็นรูปปฏิมา
    สีทองซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าศากยมุนี เขาก็ยกมือไหว้และตั้งปณิธาน แต่เขาก็รู้สึกว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีไม่ได้รักษาโรคให้เขา กู้ฉวนจึงร้อนใจ แล้วกลับไปถามพระธรรมาจารย์ว่า
    "พระพุทธเจ้าศากยมุนีรักษาโรคได้ไหมครับ"
    "ถ้าจิตศรัทธาก็รักษาได้"
    กู้ฉวนก็ถามอีกว่า
    "ผมจะไปพบพระพุทธเจ้าศากยมุนีได้อย่างไร"
    พระธรรมาจารย์ก็ตอบเป็นโศลกว่า
    พระอยู่หลิงซานอย่าไปหาที่ไกล
    หลิงซานก็อยู่ที่ขั้วหัวใจของท่าน (หลิงซาน แปลว่าทิพยคีรี) "ขั้วหัวใจหรือครับ" กู้ฉวนยังคงไม่เข้าใจ เมื่อพระธรรมาจารย์รูปนี้ถูกถามจนเริ่มทนไม่ไหว ก็บอกกู้ฉวนว่า "ถ้าอย่างนั้นท่านไปหาท่านอาจารย์เหลียนเซินเถอะ" "ทำไมต้องไปหาท่านอาจารย์เหลียนเซินล่ะ" "เพราะว่าท่านอาจารย์เหลียนเซินดื่มกาแฟกับพระพุทธเจ้า ศากยมุนีบ่อยๆ น่ะสิ"
    การที่พระธรรมาจารย์บอกแบบนี้กับกู้ฉวนนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะพระธรรมาจารย์เคยอ่านหนังสือของอาตมา ซึ่งอาตมาเคยเขียนไว้ว่าอาตมาได้ดื่มกาแฟกับพระพุทธเจ้าศากยมุนีที่ร้านกาแฟ น่าชมเชยพระธรรมาจารย์เป็นอย่างมากที่เขายังจำได้ และพอได้ยินแบบนี้ นายกู้ฉวนก็ดีใจมาก "ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไปดื่มกาแฟกับพระพุทธเจ้าศากยมุนีบ้าง" พระธรรมาจารย์จึงไล่กู้ฉวนให้มาหาอาตมาทันที "รีบไป รีบไปเถอะ ไปขอให้ท่านอาจารย์เหลียนเซินแนะนำให้" แล้วกู้ฉวนก็มาหาอาตมาจริงๆ
    อาตมาจึงเล่าให้กู้ฉวนฟังว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีเดิมทีเป็นราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะและพระมายาเทวี ชื่อเดิมคือเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ ณ สวนลุมพินี ตอนอายุยังเยาว์วัย เห็นสภาพต่างๆ ของสังคมมนุษย์ ความทุกข์ของชาวนาที่ลำบาก เห็นสัตว์ต่อสู้และกลืนกินซึ่งกันและกัน ด้วยสาเหตุนี้จึงรู้สึกเบื่อหน่ายการต่อสู้ของสังคมมนุษย์...
    ตอนออกไปเที่ยวชมเมือง ณ ประตูเมือง 4 ทิศ เห็นการเกิด การแก่ตัว การป่วยไข้ และการตาย ฉะนั้นพระพุทธเจ้าศากยมุนีจึงปลีกตัวออกจากโลกสังคม และออกบวช บำเพ็ญทุกขกิริยา 6 ปี ต่อมารู้ว่าการทำทุกขเวทนาไม่หลุดพ้น จึงเปลี่ยนความคิด ลงไปอาบน้ำในแม่น้ำและรับการถวายข้าวมธุปายาศจากสาวชาวบ้าน
    สุดท้ายนั่งสมาธิตรึกตรองอยู่ใต้ต้นโพธิ์เพ่งพิจารณา 'อริยสัจสี่' และ 'ปฏิจสมุปบาท 12 เหตุปัจจัย' ก็บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระโลกนาถ เป็นคุรุแห่งมนุษย์และเทวดา
    หลังจากนั้นเป็นเวลา 40 กว่าปี จึงออกท่องเที่ยวไปทั่ว เพื่อ สั่งสอนและโปรดกู้สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    ในพ.ศ. 487 ได้ปรินิพพานใต้ต้นสาละคู่ เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย กู้ฉวนฟังแล้วก็บอกอาตมาว่า
    "ผมไปถามเทพที่ศาลเจ้ามา ท่านบอกว่าถ้าจะรักษาโรคมะเร็งให้หายได้ ให้ไปหาพระพุทธเจ้าศากยมุนี ตอนนี้พอผมได้รู้ถึงชีวประวัติของพระพุทธเจ้าศากยมุนีแล้ว ผมคิดว่าโรคนี้คงรักษาไม่หายแน่ๆ เพราะขนาดพระพุทธเจ้าศากยมุนียังหลีกหนีความตายไม่ได้เลย"
    อาตมาบอกกู้ฉวนว่า มันก็ไม่แน่เสมอไป "หรือว่าท่านอาจารย์มีตำรับยาสูตรลับหรือครับ"
    "ก็ไม่ใช่สูตรลับของอาตมา แต่การต่อสู้กับโรคมะเร็งต้องอาศัยกำลังใจ มีผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายคนที่มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหลายปีเพราะมีกำลังใจที่ดี อาตมาคิดว่าท่านควรนับถือพระพุทธเจ้าศากยมุนี เรียนรู้พุทธธรรม ก็จะพบทางหลุดพ้น"
    "นี่คือวิธีรักษาโรคของพระพุทธเจ้าศากยมุนีหรือครับ"
    "ถูกต้องแล้ว"
    กู้ฉวนแปลกใจมาก "ขอโทษนะครับ ในเมื่อพระพุทธเจ้าศากยมุนีปรินิพพานไป 2,500 กว่าปีแล้ว แบบนี้จะมาดื่มกาแฟกับท่านอาจารย์ได้อย่างไรครับ"
    "แล้วท่านเชื่อหรือไม่ล่ะ"
    "เชื่อครับ"
    "เอาล่ะ ในเมื่อท่านเชื่อ อาตมาก็จะอธิบายให้ฟัง ว่าที่จริงแล้วหลักการนั้นง่ายมาก เพราะถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีจะปรินิพพานไปแล้ว แต่แสงทิพย์ยังคงแผ่เต็มทั่วไป เหมือนเช่นองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม ซึ่งถ้ามีการภาวนาขอร้องพันแห่ง ก็จะไปปรากฏตัวพันแห่ง แต่พระพุทธเจ้าศากยมุนีนั้นมีฐานะสูงกว่าองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม จึงยิ่งสามารถทำได้มากกว่าพันแห่ง เรียกว่าขอมาพันแห่งก็ไปได้พันแห่ง ขอหมื่นแห่งก็ไปได้หมื่นแห่ง และตัวอาตมาเองก็บำเพ็ญจนได้แสงทิพย์ อาตมาจึงอาศัยแสงทิพย์ของตนไปขอพบแสงทิพย์ของพระพุทธเจ้าศากยมุนี เพื่อขออนุญาตดื่มกาแฟด้วยกัน การทำแบบนี้เรียกว่าใช้จิตทิพย์พบจิตทิพย์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามาก" อาตมาอธิบายต่อว่า "และไม่เพียงเท่านี้หรอกนะ เพราะเมื่อหลังจากที่ทุกคนเสียชีวิตไปแล้ว แม้กายเนื้อจะหมดไป แต่กายทิพย์ (หรือวิญญาณ) ยังคงอยู่ เมื่ออีกคนตายไป วิญญาณทิพย์ทั้งสองก็สามารถพบหน้ากันได้ ที่จริงการเกิดการตายนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับการเกิดของโลกมนุษย์นั้นเรียกว่า 'หยังเจียน' ส่วนโลกของความตายคือ 'ยินเจียน' สองโลกนี้เป็นขั้วบวกขั้วลบกัน"
    "อย่างตัวอาตมาเองนั้นสามารถบำเพ็ญตนจนถอดวิญญาณออกจากร่างได้ ขอเพียงจิตนิ่ง นั่งขัดสมาธิ ใช้ลมปราณ นทิ ปินทุ แสงสว่างก็จะนำวิญญาณของตัวเองออกไปจากกายเนื้อ สามารถเข้าไปในธรรมภูมิ เพื่อขอพบพระพุทธเจ้าศากยมุนีได้"
    กู้ฉวนฟังแล้วเหมือนจะไม่เข้าใจ จึงถามอาตมาต่อว่า "ในเมื่อท่านอาจารย์สามารถไปพบพระพุทธเจ้าศากยมุนีได้ ขอโปรดช่วยถามท่านว่ามีวิธีรักษาโรคมะเร็งอย่างไรบ้างได้ไหมครับ"
    "โอ้! การที่อาตมาจะไปขอพบพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็ต้องมีเหตุปัจจัย เป็นไปตามธรรมชาตินะ"
    "ขอท่านจงเมตตาช่วยผมด้วยเถอะครับ"
    "ได้"
    อาตมาพยักหน้า "แต่ตัวท่านก็ต้องฟังอาตมา ต้องสักการะบูชาพระพุทธเจ้าศากยมุนี ท่องสวดพระสูตรชุดหนึ่ง และท่องนะโมมูลฐานคุรุศากยมุนีพุทธเจ้า แบบตั้งใจอย่างสม่ำเสมอ ได้ไหม"
    "ได้ครับ"
    ในการสักการะบูชาพระรูปของพระพุทธเจ้าศากยมุนีนั้น กู้ฉวนได้ทำอย่างตั้งใจและมีจิตศรัทธาเต็มที่ อาตมาจึงสอนให้เขาท่อง พระสูตร 'เกาอ๋องกวนซื่ออิมเจินจิง' และท่องพระนามของพระพุทธเจ้าศากยมุนี กู้ฉวนเชื่อว่าอักษรจีน 10 คำที่เป็นคำสวดในพระสูตรนั้นสามารถสยบความทุกข์ของการเกิดการตาย ช่วยชำระการทำร้ายของพิษภัยได้ทั้งปวง และเป็นเพราะกู้ฉวนนั้นเป็นโรคร้าย เขาจึงสักการะบูชาพระพุทธเจ้าศากยมุนีด้วยจิตที่ศรัทธาเป็นพิเศษ การสวดพระสูตรและท่องคาถาจึงดูใส่ใจกว่าคนทั่วไป นั่นคือ...
    การสวดพระสูตรต้องสวดให้ครบถ้วน สวดจนครบถ้วนพร้อมจิตเป็นหนึ่งเดียว คลื่นลมในทะเลทุกข์นั้นจะสงบเงียบ เรือเล็กลอยไปสงบมั่นคงในเมืองพุทธ
    ••••••••••••••••••••
    แล้วค่ำคืนหนึ่ง อาตมาก็ฝันเรื่องแปลกๆ อาตมารู้สึกว่าตัวเองเดินทางอยู่คนเดียวบนเส้นทางเล็กๆ และกำลังเดินไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ แล้วมีกลุ่มคนทั้งชาย หญิง คนแก่และเด็กเล็กๆ ประมาณร้อยคนวิ่งมาหาอาตมา คล้ายกับเหมือนกำลังหนีภัยอะไรบางอย่างมา อาตมาจึงถามว่า "มีเรื่องอะไรหรือ"
    "มีพวกโจรบุกเข้ามาที่หมู่บ้าน พวกเราจึงต้องหนีครับ"
    "ใครคือหัวหน้าโจร"
    "กู้ฉวน"
    เมื่ออาตมาตื่นจากฝัน ก็รู้ทันทีว่าสาเหตุเวรกรรมในชาติก่อนนั้น ได้ทำให้กู้ฉวนต้องเป็นโรคมะเร็ง และกู้ฉวนคงฆ่าคนมากเกินไป ลมปราณแห่งการโกรธแค้นจึงรวมตัวมาเป็นเหตุของการเป็นโรคมะเร็งในชาตินี้ กรรมาวรณะของกู้ฉวนหนักหนาสาหัส เมื่ออาตมาเห็นแล้วก็รู้ดีว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะช่วยเขา อาตมาจึงรู้สึกปวดร้าวในใจ โศกเศร้า และตอนที่กำลังรู้สึกเศร้าใจอยู่นั้น ก็มีเสียงมาจากนภากาศว่า "เหลียนเซินท่านเป็นทุกข์อะไรหรือ"
    อาตมาตอบว่า "เพราะเรื่องของกู้ฉวน"
    พออาตมาเงยหน้ามองที่ฟ้าก็ปรากฏร่างขององค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม ในพระหัตถ์ถือคนโทและกิ่งหลิว แล้วองค์พระโพธิสัตว์ กวนซื่ออิมก็เทคนโทออกมา "เหลียนเซิน ท่านดูนี่สิ"
    ในคนโทมีแสงสีขาว แสงนั้นวิเศษอลังการ มีผลบุญกุศลครบสมบูรณ์ มีมัญชุเสมอภาค และยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตแบบอจินไตย จะใหญ่จะเล็กก็ตามลมที่พัดมา ในแสงสีขาวนั้น มีผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ เด็กหนุ่ม และเครือญาติของพวกเขามากมาย อาตมาเห็นแล้วก็แปลกใจมาก องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมก็ตรัสว่า "พวกนี้เป็นดวงวิญญาณที่ถูกฆ่าโดยกู้ฉวน เราได้รับดวงวิญญาณพวกนี้มาหมดแล้ว พวกเขาจะได้ไปจุติในดอกบัวของอมิตาพุทธ ซึ่งเป็นภพภูมิเดียวกัน" ได้ยินแบบนี้อาตมาก็รู้สึกดีใจมาก "พวกที่ถูกกู้ฉวนฆ่าตาย ล้วนถูกท่านโปรดไปหมดแล้วหรือ"
    "ถูกต้อง" องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมตรัสอีกว่า "ตอนที่เราอยู่ในวัดต้าเหลยอินซื่อ (วัดมหาฟ้าคำราม) พระพุทธเจ้าศากยมุนีได้สั่งไว้ว่าถ้าพบท่านให้ถ่ายทอดคาถาบทหนึ่งให้ เพื่อให้ท่านถ่ายทอดให้กู้ฉวน คาถานี้จะช่วยชำระเวรกรรมของกู้ฉวนให้สะอาด มีกายใจที่สงบสุข แล้วโรคมะเร็งก็จะหายไป"
    "คาถาอะไรหรือ"
    องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมจึงตรัสคาถาดังนี้ ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ เมื่ออาตมาท่องจำคาถานี้ได้ จึงพนมมือน้อมส่งองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม แล้วพระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมก็ทรงเหยียบเมฆมงคล ลอยหายขึ้นบนท้องฟ้า
    ••••••••••••••••••••
    อาตมานำคาถาบทนี้มาถ่ายทอดให้แก่กู้ฉวน กู้ฉวนก็ท่องคาถาบทนี้ทั้งวันคืน แบบวิริยะอุตสาหะยิ่งนัก พอ 2 เดือนต่อมากู้ฉวนไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็พบว่ามะเร็งในกระเพาะได้หายไปอย่างน่ามหัศจรรย์ ตรวจเชื้อโรคมะเร็งก็พบว่าเป็นศูนย์ กู้ฉวนจึงกลับมาเป็นคนปกติดีอีกครั้ง กู้ฉวนหัวเราะเสียงดังด้วยความดีอกดีใจ อาตมาก็แสดงความยินดีด้วย ดั่งโศลกบทหนึ่งที่ว่า คาถาศักดิ์สิทธิ์บทเดียวไม่ฟุ้งซ่าน ทุกเสียงไหลออกจากจิตแห่งตัวตน ก็ชำระให้สะอาดบริสุทธิ์จากจุดนี้ เนื้องอกมะเร็งไร้รากจึงหายไป ต่อมาอาตมาได้อ่านพระไตรปิฎก ก็ไปอ่านพบว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีทรงตรัสวิธีรักษาโรคริดสีดวงสูตร เหมือนกับคาถาที่องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมได้ตรัสอาตมามาไม่มีผิด อาตมารู้สึกแปลกใจและคิดว่าโรคต่างๆ ในสมัยโบราณที่เรียกว่า 'ริดสีดวง' นั้น อาจไม่ได้หมายถึง 'ริดสีดวงทวารหนัก' แต่เพียงอย่างเดียว อาจหมายถึง 'ริดสีดวงมะเร็ง' อีกด้วย
    พระสูตรดังกล่าวที่อาตมาได้คัดมาให้อ่านดังต่อไปนี้ ตามที่ข้าพระพุทธเจ้าศากยมุนีสดับมาว่ากาลครั้งหนึ่ง ภควันทรงประทับ ณ สวนไผ่เวฬุวันในเมืองราชคฤห์ พร้อมด้วยมหาพระภิกขุ 500 รูป กาลนั้น มีพระภิกขุหลายรูปเป็นโรคริดสีดวง ร่างกายซูบผอม ติดบ่วงความทุกข์ของการเจ็บไข้ กลุ้มใจกังวลทั้งวันคืน กาลนั้นแล พระอนันทะผู้อาวุโส เห็นเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงไปหาที่ประทับของพระโลกนาถ กราบเท้าวันทนาการแล้วยืนอยู่ข้างๆ ทูลพระพุทธเจ้าศากยมุนีว่าข้าแต่พระโลกนาถ บัดนี้ในเมืองราชคฤห์ มีพระภิกขุหลายรูปเป็นโรคริดสีดวง ร่างกายซูบผอม ติดบ่วงความทุกข์ของการเจ็บไข้ กลุ้มใจกังวลทั้งวันคืน ข้าแต่พระโลกนาถ อันโรคภัยนี้จะรักษาอย่างไรครับ ในกาลนั้น พระพุทธเจ้าศากยมุนีทรงตรัสแก่พระอนันทะว่า ท่านจงฟังวิธีรักษาโรคริดสีดวงสูตรนี้ อ่านท่องจดจำใส่ใจอย่าให้ลืม และเผยแพร่ต่อคนอื่นๆ อย่างกว้างขวาง โรคริดสีดวงเหล่านี้จะได้หายไป เช่นว่า ริดสีดวงลม ริดสีดวงร้อน ริดสีดวงเย็น ริดสีดวงสามรวมหนึ่ง ริดสีดวงในเลือด ริดสีดวงในท้อง ริดสีดวงในจมูก ริดสีดวงฟัน (เหงือก) ริดสีดวงลิ้น ริดสีดวงตา ริดสีดวงหู ริดสีดวงบนหัว ริดสีดวงมือและเท้า ริดสีดวงสันหลัง ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงข้อต่อทั่วร่างกาย โรคริดสีดวงเหล่านี้ ล้วนเหือดแห้งหลุดไปและสูญหาย จนสุขภาพกลับมาดีแน่นอน สิ่งเหล่านี้ล้วนควรท่องจดจำคาถาศักดิ์สิทธิ์ว่า ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ อนันทะ ทิศเหนือจากนี่มีภูเขาน้ำแข็งใหญ่ ในนั้นมีต้นมหาพาละ ชื่อว่าอยุทธะ มีดอกไม้ 3 ชนิด หนึ่งคือ ดอกไม้ผลิใหม่ สองคือ ดอกไม้บานสมบูรณ์ สามคือดอกไม้แห้งแล้ว ดังเช่นดอกไม้เหล่านั้น แห้งแล้วจะหลุดลงมา เหล่าภิกขุของอาตมาที่เป็นโรคริดสีดวงก็เช่นกัน จะไม่มีเลือดไหลออกมาอีก และไม่มีน้ำหนองไหลออกมา หลุดพ้นจากโรคภัย คืนสู่สุขภาพดี แผลจะแห้งไป และถ้าท่องสวดพระสูตรนี้บ่อยๆ เป็นประจำ จะได้บรรลุการระลึกชาติ มีญาณที่จะรู้ถึงเรื่องต่างๆ ใน 7 ชาติของอดีต มนตราธรรมสำเร็จ โซหะ และทรงกล่าวอีกคาถาว่า ตันจือทา จานหมี่จานหมี่ เส่อจานหมี่ เส่อม่อนี เส่อจานนี โซหะ และเมื่อพระพุทธเจ้าศากยมุนีตรัสพระสูตรจบ กาลนั้นพระอนันทะผู้อาวุโส และปวงพุทธบริษัททั้งหลายล้วนปิติยินดี น้อม รับด้วยความเลื่อมใสและปฏิบัติตาม
    ••••••••••••••••••••
    โดยส่วนตัวอาตมารู้สึกว่า ความทุกข์ทั้งปวงของโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น 'ความทุกข์จากป่วยไข้' นั้นเป็นสิ่งที่สาหัสที่สุด ในพระสูตรยังกล่าวไว้ว่า 4 มหาภูตแห่งดิน น้ำ ลม ไฟ มีโรครวม 404 โรค โรคทุกชนิดล้วนเจ็บทุกข์เหลือทน โดยเฉพาะ 'โรคมะเร็ง' ซึ่งปัจจุบันยังเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่พระพุทธเจ้าศากยมุนีสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ โดยคาถาบทดังกล่าวมีดังนี้ ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ คาถาชุดนี้เป็นคาถาที่มีคนรู้จักน้อย ไม่ค่อยพบเห็นง่ายนัก เพราะจะบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกฉบับภาษาจีน (อยู่ใน 'จงหัวต้าจั่นจิง' ชุดที่ 1 หมวดที่ 5 หน้า 16,868) คาถานี้ช่วยคนมาแล้วมากมาย เช่น ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ 'เหอฉ่าย' เหอฉ่ายได้มาคุกเข่าที่หน้าบ้านของอาตมา พออาตมาจะพยุงเขาลุกขึ้นมา เขาก็ไม่ยอมลุกท่าเดียว ถ้าจะลุกอาตมาต้องรับปากว่าจะช่วย เขาจึงยอมลุกขึ้น สุดท้ายเมื่ออาตมาพยักหน้า เขาจึงลุกขึ้นมา อาตมาก็ถามเขาว่า "ท่านมีเรื่องอะไรหรือ"
    "ผมเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายครับ"
    "โรคมะเร็งอะไรล่ะ"
    "โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ใต้รักแร้" เหอฉ่ายดึงแขนเสื้อออกมาให้ดู อาตมาเห็นแล้วตกใจ เพราะผิวหนังเป็นแผลจุดๆ และเชื้อโรคมะเร็งกำเริบมาก จนกระจายไปถึงกระดูกและที่อื่นๆ ของร่างกายแล้ว อาตมาสั่นหัว รู้ว่าเขาไม่มีทางรอดแล้ว "คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง"
    เหอฉ่ายตอบว่า "ภายในครึ่งปี"
    อาตมาบอกเหอฉ่ายว่า อาตมาจะพยายามช่วยเธอ แต่พลังมีจำกัด เธอต้องภาวนาต่อพระพุทธเจ้าศากยมุนีเองนะ อาตมาจึงถ่ายทอดคาถารักษาโรคมะเร็งของพระพุทธเจ้าศากยมุนี ให้เขาเหมือนที่เคยให้กู้ฉวน และสอนเขาอีกว่า หลังจากท่องคาถาแล้วให้เพิ่มคำภาวนาว่า "ผมชื่อเหอฉ่าย ขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์ ตอนนี้ผมมีโรคมะเร็งเป็นทุกข์ ขอให้พระพุทธเจ้าศากยมุนี ทรงอธิษฐานคุ้มครอง ขอจงเมตตากรุณาคุ้มครอง ขอให้โรคมะเร็งหายไป ต่ออายุให้ยาวนานเถิด"
    นะโมมูลฐานคุรุ ศากยมุนีพุทธเจ้า นะโมพระพุทธเจ้าศากยมุนีทั้งสิบทิศ นะโมพระธรรมทั้งสิบทิศ นะโมพระสงฆ์ทั้งสิบทิศ"
    เหอฉ่ายกลับไปที่บ้าน ทำตามที่อาตมาสอน วันหนึ่งเมื่อปฏิบัติไปได้ประมาณ 21 วัน เหอฉ่ายก็สะลึมสะลือคล้ายว่าตัวเองนั้นกึ่งหลับกึ่งตื่น และเห็นพระพุทธเจ้าศากยมุนีมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า พร้อมกับตรัสว่า "เหอฉ่าย โรคของท่านนั้นช่วยไม่ได้แล้ว ไปกับเราเถิด"
    "ไม่ครับ ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป" "ทางโลกมนุษย์เป็นทุกข์ และเป็นเหมือนบ้านถูกไฟไหม้ ตามเราไปดีกว่า"
    "ไม่ครับ ผมยังมีกิจที่ต้องทำต่อ ผมขอมีชีวิตอยู่เถอะครับ"
    "กิจของท่านต้องใช้เวลาเท่าใดล่ะ"
    "5 ปีครับ"
    พระพุทธเจ้าศากยมุนีตรัสว่า "ได้ 5 ปี ก็ 5 ปี แต่ท่านยังต้องท่องคาถาต่อไปนะ"
    พูดแล้วก็แปลกดี พอเขาฝันแบบนี้แล้ว โรคมะเร็งก็คล้ายว่าจะลดลง ร่างกายและจิตใจก็แข็งแรงเหมือนคนทั่วไป แต่ว่าโรคมะเร็งนั้นไม่ได้หายขาด เพียงแต่ทรงตัวอยู่อย่างนั้น และแล้วเหอฉ่ายก็มีชีวิตต่ออีก 5 ปี จริงๆ พอครบ 5 ปี เชื้อมะเร็งก็ยังคงแผ่ไปทั่วร่างกายของเหอฉ่าย โรคมะเร็งของเหอฉ่ายไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ทำได้เพียงระงับไว้ เมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการตามที่เคยได้ให้ไว้กับพระพุทธเจ้าศากยมุนี เหอฉ่ายก็จากไป เกี่ยวกับเรื่องของเหอฉ่าย อาตมาคิดว่าไม่ได้เป็นเพราะคาถาไม่ได้ผล แต่อายุขัยของเขานั้นหมดแล้วต่างหาก พระพุทธเจ้าศากยมุนีหรือมหาเซียนองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้ และถ้าช่วยได้โลกนี้ก็คงไม่มี คนตายแล้ว ส่วนคาถารักษาโรคมะเร็งที่เล่ามานั้น ก็สามารถช่วยต่ออายุได้ ก็นับเป็นเรื่องที่อาตมาเองก็คิดไม่ถึง แต่ในทางกลับกันอาตมาคิดว่า การท่องคาถานี้สามารถไปจุติยังพุทธเกษตร มิฉะนั้นพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็คงจะไม่มาปรากฏตัว เพื่อมารับเหอฉ่ายไปจุติหรอก…
    ......................................

    สำนักบำเพ็ญ
    เจินฝอจง เต๋อจี้ถงซิวฮุ่ย(ประเทศไทย)
    58/67 ซอยลาดพร้าว 35 แยก 2-5
    แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพๆ
    โทร.081-870-6579 081-330-5008 089-245-6314
     
  20. สุเขฐ

    สุเขฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2013
    โพสต์:
    2,189
    ค่าพลัง:
    +12,013
    ขอเป็นกำลังใจ ให้พี่สาว ท่าน hiddenbhume หายไวฯนะครับ

    จำได้ว่าเซริท Google แล้วมีรูปนึงเขาใส่ไว้ในขวดโหลเยอะมากครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...