อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

พระพุทธมหาปฐวีธาตุ หลวงปูุ่คำพันธ์

 

สวัสดีวันวาเลนไทน์ครับพี่ปู,พี่โญ,พี่ตี๋

ดอกกุหลาบที่บ้านออกดอกบานพอดีในวันแห่งความรักเลยอ่ะครับ..















​

 

น้อมกราบระลึกถึงหลวงปู่โต๊ะครับ...

อยากไปกราบหลวงปู่ในวันนั้นจังครับพี่ปู..















​

 

สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ) วัดบวรนิเวศ กทม.

 

หลวงปู่คำพอง ติสโส
วัดป่าพัฒนาธรรม อุดรธานี








​

 

ขอบคุณครับ...

 

อ.โญ ถ่ายรูปได้สวยงามมากครับ

 

เหรียญลายฉลุหลวงตามหาบัว เนื้ออัลปาก้า

ที่ระลึกอายุครบ ๙๗ ปี เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓




​

 

ขอบคุณครับพี่ตี๋ <a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/onion05.gif" border="0" alt="onion05.gif" /></a>

 

คำสอนนี้หลวงพ่อตั้งใจที่จะอธิบายเปรียบเปรย ว่าหากท่านต้องการนำเอาหญ้าแฝก ไปมุงหลังคาหุ่มป่านั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ ผู้ที่ทำเช่นนั้นคงจะฉิบหายหมดตัว เช่นกันว่าเงินทองนั้นมีค่า หากจะใช้จ่ายอย่างไม่ระวังก็จะเสียหายเอาได้

ที่มา: อมตธรรมหลวงพ่อวัดดอนยายหอม

 

ลูกประคำ ๑๐๘

ประวัติความเป็นมา

ในปีพุทธศักราช ๒๒๕ คณะสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียได้ประชุมตกลงกันจัดส่งพระอรหันต์เถระเดินทางออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในดินแดนต่างๆ ในการนี้ได้มอบหมายให้พระอรหันต์ ๒ รูป คือ พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนา และนำพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเมืองนครปฐมในปัจจุบันเป็นจุดศูนย์กลาง

เมื่อได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแล้ว พระอรหันต์เถระทั้ง ๒ รูป จึงได้ออกเดินทางจากเมืองปาฏลีบุตรในประเทศอินเดียโดยนำพระบรมสารีริกธาตุมาด้วยครั้นเมื่อเดินทางผ่านเมืองสะเทิมในประเทศมอญ พระอรหันต์เถระทั้ง ๒ รูปได้พบกับพระฤษี ๓ องค์ ซึ่งพำนักบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ที่บริเวรภูเขาสุทัศน์คีรีใกล้เมืองสะเทิม คือ
พระฤษีคุปตะ พระฤษีจุลละ และพระฤษีเทวิละ



พระฤษีทั้ง ๓ องค์นี้ เมื่อได้เห็นพระจริยาวัตรและปฏิปทาอันงดงามของพระโสณเถระและพระอุตตรเถระก็บังเกิดศรัทธาและความเลื่อมใสชักชวนกันไปกราบไหว้นมัสการ และซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองว่า “ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด ใครคือพระศาสดาของท่าน” พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ตอบว่า “พระสมณโคดมศากยบุตรอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของพวกเรา พระองค์คือพระศาสดาของพวกเราทั้งหลาย”

พระฤษีสามองค์ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ขอร้องให้พระอรหันต์เถระทั้งสองรูป เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาให้ฟัง พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ได้อธิบายให้พระฤษีทั้ง ๓ องค์ฟังโดยละเอียด พระฤษีทั้ง ๓ องค์เมื่อได้ทราบว่าพระรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในโลกนี้แล้วก็รู้สึกปิติยินดี แต่มีความเสียดายที่ไม่ได้พบเข่เฝ้าพระพุทธองค์ เพราะทรงเข้าปรินิพพานไปนานแล้วถึง ๒๒๕ปี

จึงซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองต่อไปว่าพระรัตนตรัยทั้งสามมีคุณเท่าใด พระอรหันต์เถระทั้งสองก็อธิบายให้ฟังว่า
คุณของพระพุทธเจ้ามีจำนวน ๕๖ ดังบทสวดพระพุทธคุณ (อิติปิโสภควา)
คุณพระธรรมเจ้ามีจำนวน ๓๘ ดังบทสวดพระธรรมคุณ (สวากขาโต)
และคุณพระสังฆเจ้ามีจำนวน ๑๔ ดังบทสวดพระสังฆคุณ (สุปฏิปันโน)

เมื่อรวมกันแล้ว คุณพระศรีรัตนตรัยมีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๘พระฤษีทั้ง ๓ องค์ได้ซักถามต่อไปว่า ในกัปของเรานี้จะยังมีพระพุทธองค์ใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่ พระอรหันต์ทั้งสองได้อธิบายให้ฟังว่า ในขณะนี้เราอยู่ในภัทรกัป ซึ่งจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๕ พระองค์ พระสมณโคดมนี้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ในภัทรกัป ดังนั้นในกัปนี้จึงยังเหลือพระพุทธเจ้าที่จะมาบังเกิดขึ้นอีกหนึ่งพระองค์ คือพระศรีอริยเมตไตรย

พระฤษีทั้ง ๓ ขอทราบนามของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ในภัทรกัปนี้ พระอรหันต์เถระทั้งสองจึงแจ้งให้ทราบดั่งพันธคาถาปัฐยาวัตรฉันท์ต่อไปนี้

นะกาโร กะกุสันโธ จะ
โมกาโร โกนาคะมะโน
พุทกาโร กัสสะโป พุทโธ
ธากาโร สักยะปุงคะโว
ยะกาโร สิริอะริยะเมตเตยโย
ปัญจะพุทธา นะมามิหัง

เมื่อทั้งสองฝ่ายได้สนทนากันจนเป็นที่พอใจแล้ว พระอรหันต์ทั้งสองก็อำลาพระฤษีทั้งสามออกเดินทางมายังสุวรรณภูมิตามจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไปฝ่ายพระฤษีทั้งสามได้ปรึกษาหารือกันว่า เราควรจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้น้อมระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยอยู่เสมอ ในที่สุดก็ได้ตกลงกันสร้างลูกประคำขึ้นมาเพื่อใช้ในหารสวดมนต์ภาวนา โดยกำหนดให้ลูกประคำมีจำนวน ๑๐๘ เม็ด เท่ากับคุณพระศรีรัตนตรัยซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๐๘ ดังได้ทราบกันอยู่แล้ว และที่ยอดของสายประคำได้ใส่ลูกประคำไว้อีกสามเม็ดเพื่อแทนพระศรีรัตนตรัยเจ้าทั้งสามคือพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆเจ้า

สำหรับบทสวดภาวนาเกี่ยวกับลูกประคำนั้น พระฤษีทั้งสามได้กำหนดเอาพระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ในภัทรกัปนี้คือ “ นะ โม พุท ธา ยะ” มาประยุกต์รวมกันเข้ากับพระคาถา “โอม” คือ “มะ อะ อุ” ซึ่งเป็นพระคาถาของท้าวมหาพรหม ที่บรรดาพระฤษีทั้งหลายนำมาใช้กันอยู่เป็นประจำนั้น มาสวดภาวนาเวลาชักลูกประคำ โดยอนุโลม ปฏิโลม ดังต่อไปนี้คือ “นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ลูกประคำ ๑๐๘ ก็ได้แพร่หลายเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

หมายเหตุ สำหรับลูกประคำ ๙เม็ดนั้น ได้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยใช้เป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระพุทธคุณอันได้แก่ "อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ"



จากหนังสือ ๘๔ ปี หลวงพ่ออุตตมะ

 

ว่าด้วยเรื่องจำวัด

พระนอนไม่หลับ เลยไปหาหมอ หมอเป็นหมอใหม่ เพิ่งจบจากเมืองนอกมาหมาดๆ
หมอ : เป็นอะไรครับ
พระ : จำวัดไม่ได้จ๊ะโยมหมอ
หมอ : (ทำหน้างง) แล้วจะกลับวัดยังไง
พระ : (ทำหน้างงด้วย) มามอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ต้องกลับมอเตอร์ไซค์นะโยม
หมอ : (ทำหน้าง๊งงง) แล้วมอเตอร์ไซค์รับจ้างจำวัดได้เหรอ
พระ : (ทำหน้าง๊งงงด้วย) มอเตอร์ไซค์รับจ้างจำวัดไม่ได้หรอกโยม มีแต่พระที่จำวัดได้
หมอ : (ทำหน้างงง๊งงง) อ้าวไหนบอกว่าจำวัดไม่ได้ไง
พระ : *%#¥€$+~????

ไปก็อปเขามาน๊าา

 

หลวงพ่ออุตตมะและหลวงปู่บุญมี โชติปาโล

สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ช้าง พี่รุ่ง คุณบอย นอร์ น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว น้องนิก คุณตั้น คุณกันตปัญโญ คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ

 

***สวัสดีครับ ทุกท่าน รวย รวย รวย***

 

สวัสดียามเช้าคุณปู คุณรุ่ง คุณโญ และทุกๆท่าน
ขอให้สุขกาย สุขใจกันนะครับ
ขอรับพรจากคุณรุ่งครับ

 

ขอบคุณคุณปูมากๆครับ ที่ได้นำภาพพระอริยะเจ้าทั้ง ๒ รูปมาให้ชม ชอบจริงๆครับ และหาชมได้ยากมากๆสำหรับผม เพราะผมเคารพและศรัทธาทั้งลป.บุญมี และลป.อุตตมะ สำหรับลป.อุตตมะไม่เคยไปกราบนมัสการท่านเลย ส่วนลป.บุญมีผมได้ไปกราบท่านบ่อยครั้งเมื่อตอนได้ไปปฏิบัติงานอยู่ที่ จ.อุบล

 

พระจาก กทม.
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 (วาสนะเถระ)

 

.... ฝากไว้ในอัลบั้ม ....​

เหรียญตะกรุดนารายณ์แปลงรูป อาจารย์นอง วัดทรายขาว ปี๒๕๓๗







พระอาจารย์นอง ธมมภูโต หรือ ท่านพระครูธรรมกิจโกศล อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มรณภาพไปเมื่อ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๒
ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป
วิชานารายณ์แปลงรูป เป็นวิชาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่าน อ.นอง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการทำตะกรุด แต่วิชาดังกล่าวก็ได้มีการนำมาใช้ในวัตถุมงคลชนิดอื่นอีกด้วย โดยเฉพาะการสร้างเหรียญในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งก็คือ เหรียญนารายณ์แปลงรูป

 

;aa44 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับพี่ตี๋ คุณเอ๊ะ พี่ปูและทุก ๆ ท่าน...

​

 

ตอนจบอ่านไม่ออกอ่ะพี่ปู