เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

มีดวงคนแต่งงานอยู่คู่หนึ่ง เลยได้ดูได้รู้อะไรดีๆ
ในตำราท่านว่า เมื่อศรีถึงปัตนิ จะได้คู่

พอมาเห็นดวงหนึ่ง ศรีถึงปัตนิ ถึงตนุลัคน์ ถึงตนุเศษ
ไอ้เราก็คิดเลยว่าแต่งแน่ ทายไม่ดูตามาตาเรือ
งานแต่งไม่เกิด!

พอมาถึงดวงคู่นี้ ได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์
ท่านก็ว่า ศรีถึงปัตนินั้น จะได้คู่ตามตำรานั้นก็ใช่
แต่ไม่ได้หมายว่าจะมีงานแต่ง
ถ้าเป็นดวงสาว เค้าก็ว่าจะได้ผัว ถ้าเป็นดวงชาย ก็ว่าจะได้เมีย
ไม่เกี่ยวกับงานแต่ง.........

คนที่ได้ผัวได้เมียแล้วไม่เปิดเผยมันก็มี
ก็ถ้าไม่ดูไม่รู้ไม่ทาย ก็ไม่เก่ง เข้ารกเข้าพงบ้างก็ตามประสาคนหัดเรียนหัดเล่น
จะได้จดจำไว้

ทีนี่มาดูดวงคู่นี้กัน ดูว่าศรีถึงปัตนิกันหรือเปล่า



ดวงแรกของว่าที่เจ้าบ่าว
เกิดวันพฤหัสบดี อายุย่างปัจจุบันที่ 43 ขวบปี
ดาว๕ เป็นศรีจร
๕ เดิมอยู่ในเรือน๓ ก็ศรีถึงปัตนิ หนึ่ง
5จร อยู่ในเรือน๔ แล้ว 4จรในราศีตุลย์
ก็ถึงลัคน์และตนุลัคน์โดยตรง อีกหนึ่ง
๔ เดิมลอยกุมลัคน์และตนุลัคน์ อีกหนึ่ง
๑ ตนุเศษเดิม อยู่ในเรือน๔ ที่5ศรีจร ลอยอยู่ อีกหนึ่ง
ปีนี้ไม่แคล้ว.......



มาดูดวงว่าที่เจ้าสาว
เกิดวันอังคาร อายุย่างปัจจุบันที่ 34 ขวบปี
ดาว๔ เป็นศรีจร
๔ เดิมอยู่ในเรือน๖ ก็ศรีถึงลัคน์ หนึ่ง
๖ ตนุลัคน์ เดิมอยู่เรือน๔ ก็ถึงตนุลัคน์ อีกหนึ่ง
๔ เดิมลอยกุมกับ๑ ก็ต่อสายถึง๓ ปัตนิที่ลอยในราศีสิงห์ อีกหนึ่ง
4 ศรีจร ผ่านราศีเมษ เจ้าเรือนปัตนิ เล็งลัคน์
ผ่านพฤษก ทับ๑ โดนปัตนิ
ผ่านเมถุน ทับ๖ ตนุลัคน์
ผ่านกรกฎ ทับ๒ เจ้าเรือนกัมมะ (อาจจะคิดแต่งกันตอนนี้ก็ได้)
ผ่านสิงห์ ทับปัตนิเต็มๆ (แต่งก็แต่งว๊ะ...)
ตอนนี้มาลอยทับลัคน์ในราศีตุลย์
และจะลอยไปพิจิก ธนู มังกร.... โดน๓ เจ้าเรือนปัตนิตลอด
ปีนี้ไม่รอด......

ใครที่ยังไม่มีคู่ แล้วอยากรู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ ก็ลองดูตามนี้ดูนะครับ อาจจะป็นน้ำผึ้งพอหวานราดรดหัวใจเหี่ยวๆได้บ้าง

 

ผมก็ขอรบกวน พี่หนุ่มทิพย์
ขอเดินตาม (พี่ ศนิวาร) ด้วยคนครับ(ขอบรรจุ แบบ พี่ศนิวาร)
ขอบคุณครับ

 

รบกวนพี่หนุ่มทิพย์ บรรจุเกศา. ด้วยครับ

 

ขอเฉลยต่ออีกนิดครับ

หน้าตา จัดว่าธรรมดาครับ ออกดูภูมิฐานกว่าอายุด้วยซ้ำ(หน้าแก่) อาศัยว่ามั่นใจในตัวเอง และทำงานติดต่อกับคนหมู่มาก เช่น คุยกับลูกความ เจรจาต่อรองกับฝ่ายต่างๆ จึงต้องระวังการใช้คำพูด,ถ้อยคำเป็นพิเศษ ทำให้คนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยให้ความเชื่อถือพอสมควรครับ ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องมีผู้หญิงเข้ามาบ้าง แต่ผมค่อนข้างระวังตัวเพราะตอนนี้รับราชการแล้ว ถ้ามีเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาจะได้ไม่คุ้มเสียครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ลุยแหลกไปแล้วครับ

ญาติ ไม่ค่อยใกล้ชิดกันมากเพราะอยู่คนละจังหวัดครับ ที่สนิทจริงๆก็มีแต่คนอายุมากกว่า เพียบพร้อมกว่าทั้งนั้นครับ

ผู้มีอิทธิพล คิดว่าเป็นตำรวจมั๊งครับ ตอนเป็นทนายความก็ต้องพาพวกนี้ไปเลี้ยงบ่อยๆหมดเงินไปหลายอยู่ครับ

ขาใหญ่ประจำท้องถิ่น น่าจะเป็นกำนัน,นายกอบต.รึเปล่าครับ ที่ดินที่ผมสนใจเขาก็ดูๆอยู่เหมือนกันครับ

ขอบพระคุณมากครับอาจารย์

 

เรื่องเล่า : เล่าเรื่องคำทำนายที่แม่นยำของปรมาจารย์โหราศาสตร์ไทย

ตอน : เมืองไทยเรานี้แปลก ดวงเมืองเราบอกว่า จะมีพระสังฆราชขี้คุก

โดยส่วนตัวของผมเอง ถ้าคนไม่รู้จักตัวตนของผมจริงๆ อาจจะนึกว่าผมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกหมอดู แต่คนใกล้ชิดจะรู้ว่าผมพอได้อยู่บ้าง ผมมีความ

มั่นใจในศาสตร์ของหมอดู แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนดู สมัยผมเป็นเด็กได้ร่ำเรียนบ้างเล็กน้อย เริ่มต้นด้วยการให้รู้ว่าอะไรเป็นปาก อะไรเป็นใจ อะไร

เป็นที่นั่ง อย่างที่หนุ่มทิพย์เคยเขียนไปแล้ว และต่อด้วยวิธีทำเลข ๗ ตัว เป็นรูปเรือน ผมก็เอาแค่นั้นเพราะมากกว่านั้นผมพูดไม่เป็น อีกอย่างหนึ่งคือ

ปู่บอกว่าแค่นี้พอแล้ว และไม่ต้องไปอวดตัวดูให้ใคร เพราะดูถูกก็ดีไปถ้าดูผิดหมอจะเป็นหมา สำหรับวิธีทำเลข ๗ ตัวเป็นรูปเรือนผมคิดว่าแม่นยำใน

ระดับหนึ่ง แม้จะดูเป็นพื้นฐานเบื้องต้น ผมเคยตรวจให้หลายคู่ ถ้าสองคนรวมกันแล้วรูปเรือนครบบริบูรณ์ คู่นั้นตั้งตัวได้ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าไม่ครบเช่น

เป็นเพิงหมาแหงน คู่นั้นก็กระท่อนกระแท่น ถ้าพื้นเรือนหรือหลังคาไม่มี คู่นั้นตั้งตัวไม่ได้ โดยเฉพาะหลังคาถ้าไม่มีคือสองคนรวมกันแล้วก็ยังไม่มี แต่

ถ้ามีลูกแล้วเอาของลูกมาตรวจดู ถ้าของลูกเติมเต็มได้ก็ถือว่าครบก็จะดีได้ แต่อย่าลืมว่าวันข้างหน้าลูกก็ต้องแยกครอบครัว และเราก็เลือกอะไรเองไม่

ได้ทั้งหมด แต่เลือกที่จะปฏิบัติตัวได้ ที่ร้ายๆ ก็จะลดลงหรือหมดไป วันเดือนปีเกิดของผมกับแม่บ้านใครจะเอาไปตรวจก็ได้ผมไม่หวง ผมเกิดวันศุกร์

เดือนสิบปีฉลู ทำเลข ๗ ตัวเป็นรูปเรือนก็จะได้แบบเพิงหมาแหงนคือมีพื้นครึ่งเดียว ของแม่บ้านเกิดวันศุกร์เดือนเจ็ดปีมะโรง ทำเลข ๗ ตัวเป็นรูป

เรือนเสาเรือนขาดไปสองต้น แต่มารวมกับของผมแล้วครบบริบูรณ์ แต่อย่าลืมว่าครอบครัวผมจนอยู่นานชนิดที่ลูกกลัว ผมเลิกฆ่าสัตว์แม้แต่ปลาก็จะ

ซื้อแต่ที่เขาทำขายแบบที่เขาทำแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 ชีวิตดีขึ้นไม่มีหนี้สิน มีเงินซื้อบ้านเก่าบนที่เช่าและให้เขาเช่าอยู่จนทุกวันนี้ เลิกกินเนื้อ พ.

ศ. 2537 เริ่มทำให้มีบ้านราคาเงินล้านอยู่ เลิกกินหมู พ.ศ. 2543 ทำให้มีเงินปลูกหอพักให้คนเช่าเลี้ยงตัวได้ในวันนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ใส่บาตร

ทุกวันและใส่เงินเป็นประจำวันละ 2 ซอง หาหนทางทำบุญเสมอๆเมื่อมีโอกาส ทำให้เก็บเงินได้เร็วขึ้นจนสร้างหอพักฯเพิ่มได้อีก 1 ชุด ส่วนแม่บ้าน

ผมเลิกกินเนื้อมานานมากก่อนผม เล่าให้อ่านกันก็เพื่อจะบอกว่า ถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่หมอดูเขาบอก ก็ต้องกลับมาดูการปฎิบัติตัวของเราว่า เราละ,

เราเลิก การเบียดเบียฬบ้างหรือยัง เหตุผลที่ผมเลิกกินเนื้อก็เพราะมีพระดูให้ผมว่า...โยมเป็นคนดี...โยมใจบุญ...ถ้าโยมลองบริจาคเงินซื้อวัวซื้อ

ควายเพื่อไถ่ชีวิต...ชีวิตโยมจะดีขึ้น และในเวลาใกล้กันนั้น ผมได้ไปรายงานตัวที่ กพ.ทร. พบปะเพื่อนก็ชวนไปเลี้ยงกัน เมื่อพวกเขาสั่งอาหารเสร็จ

พวกเขาถามผมว่า นายไม่กินอะไรบ้าง...ผมตอบว่า...หนังคางคก...ไม่กล้ากิน/ทำไมเหรอ พวกเขาตอบว่า พวกเราไม่กินเนื้อ ผมถามต่อแบบไม่

ต้องการคำตอบ...นับถือเจ้าแม่กวนอิมหรือ...พวกเขาตอบพร้อมๆกันว่า..เปล่า...แต่ผู้ใหญ่ท่านบอกว่า(คงหมายถึงบรรดานายพลที่เป็นผู้บังคับบัญชา)

ถ้าเลิกกินเนื้อ...การเงินที่เคยขัดสนจะหายไป และการเงินในครอบครัวจะดีขึ้น ผมไม่ได้สนใจจะจำนัก วันแรกที่ผมเดินทางไปวัดๆ หนึ่งเพื่อบริจาค

เงินไถ่ชีวิตวัวควาย เย็นวันนั้นผมถูกทั้งหวยใต้ดินและล็อตเตอรี่ อีก 2 วันถัดมา ผมได้รับการขึ้นเงินเดือน 9 % เกือบสี่พันบาทในสมัยนั้น ผมเห็นว่า

มันเป็นเรื่องแปลก ก็เลยถือโอกาสเลิกกินเนื้อเสียเลย ให้เหตุผลแม่บ้านว่า ถ้าเราบริจาคเงินถ่ายชีวิตเขาแล้วยังไปกินพวกเขาอีก ก็เหมือนเราเป็นคน

ประเภทมือถือสากปากถือศีล ผลที่ตามมาก็อย่างที่กล่าวแล้วคือเงินที่เคยเก็บไม่ค่อยอยู่ก็เปลี่ยนเป็นเก็บอยู่เก็บง่ายและมีให้เก็บ ตั้งตัวได้จนคิดว่า

ชีวิตในบั้นปลายไม่ว่าเขยหรือสะไภ้ไม่ต้องห่วงว่าลูกสาวหรือลูกชายจะเอาเงินทองต้องมาส่งให้กับพ่อกับแม่ เล่าให้อ่านเพื่อเอาไปประกอบกับคำ

ทำนายทายทักของหมอดู แค่เราลดการเบียดเบียฬสัตว์ลงบ้าง จิตใจก็ผ่องใสมากแล้ว...ขอซ้ำเรื่องหมอดูกับผมอีกครั้งคือ.....

1. ตอนรับราชการอยู่สัตหีบ กี่หมอๆ ก็บอกว่าผมไม่มีดวงเดินทางไปต่างประเทศ แต่ตอนหลังตรงกันข้าม อาจจะเป็นเพราะเราย้ายสถานที่ฯลฯ

2. คนใกล้ชิดชื่อจ่าคมสันต์ เจริญนาน มีบ้านอยู่จันทบุรี ชวนผมบอกว่าไปหาหลวงพ่อสมชายฯ วัดเขาสุกิมไหม? และเล่าให้ฟังว่า มีคนจีนคนหนึ่งทำ

ธุระกิจเจ้งทุกอย่างไปหาท่าน เรื่องนี้ประมาณ พ.ศ. 2518 ท่านบอกกับเฒ่าแก่คนนั้นว่า ลื้อขายทิ้งให้หมด เอาเงินใช้หนี้เขา แล้วไปหากินทาง

เหนือจะป็นเชียงใหม่หรือเชียงรายก็ได้ คนจีนคนนั้นก็บอกว่าขายหมดก็ไม่พอใช้หนี้ ท่านก็บอกว่าทำไปเถอะ คนจีนคนนั้นก็เชื่อ หายไปไม่กี่ปีก็กลับ

มาใช้หนี้เขาหมด และทางขึ้นวัดที่เห็นในปัจจุบัน ก็ได้เริ่มต้นจากคนจีนคนนั้น ทำให้ผมคิดว่าบางทีมันก็อยู่ที่สถานที่ด้วย เหมือนที่ปู่เคยเตือนว่า

เวลาตกฟากห่างกันแค่ไก่โก่งคอขัน คนหนึ่งสำเร็จเป็นอรหันต์ อีกคนไปตกโลกันต์นรกฯ และผมก็ไม่มีวาสนาไปไหว้ท่าน....

3. หมอดูพม่า ดูให้ผมล่วงหน้าได้ 3 ปี ถูกต้องโดยไม่รู้เวลาตกฟากของผมและวันเดือนปีเกิดของแม่บ้านผม มันอยู่ที่ว่าใครเป็นคนดู

4. อาจารย์เทืองฯ ลูกศิษย์สังฆราชวัดสระเกศ ทำงานเป็นคนขับรถอยู่สถานทูตฝรั่ง แค่ผมเดินผ่านก็ทักว่า วันนี้จะถูกล็อตเตอรี่...ไปซื้อเหอะคู่เดียว

พอ...ผมก็ถูก อีกครั้งหนึ่งแกนั่งใส่บาตรอยู่ ผมเดินผ่านแกไปพร้อมกับทักทายตามปกติ พอคล้อยหลังนิดเดียว แกตะโกนไล่หลังว่า...จ่าเตรียมตัว

นะ...จะได้ไปต่างประเทศ...และก็เป็นจริง...และอาจารย์เทืองนี่แหละที่ทำให้ผมนึกเรื่องได้แล้วเอามาเขียน...ตามชื่อของตอนนี้............

......ต่อไปเมืองไทย จะมีสังฆราชขี้คุก......นี่เป็นเรื่องเล่ากันมานานมาก เวลาที่มีการพูดถึงโหราจารย์ที่ทำนายได้แม่นยำ แต่ท่านจะพูดอย่างนั้นจริง

หรือ อาจจะเป็นคนที่ได้ยินต่อๆ มาจำได้อย่างนั้น ท่านที่กล่าวนี้ท่านดังมากโดยเฉพาะ นายพลตาเดียว"โมเช่ดายัน"ที่ท่านดูไว้ว่า เขาจะกลับไปดัง

มากที่อิสราเอล ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาเป็นผู้สื่อข่าวสงครามในเวียตนาม(หาอ่านได้จากอิสราเอลบุกอียิป ปี 2510 ถ้าผมจำไม่ผิด) หรือจะเอาแบบเป็น

ทางการก็คือ สมเด็จพระสัฆราช ( อยู่ ญาโณทยมหาเถร)วัดสระเกศ ปรมาจารณ์โหราศาสตรไทย ได้ปรารภไว้กับอาจารย์ธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดี

กรมศิลปากรว่า "เมืองไทยเรานี้แปลก ดวงเมืองเราบอกว่า จะมีสังฆราชขี้คุก" ใครกันสังฆราชขี้คุก....???!!!

***สมเด็จพระพุฒาจารย์ พระพิมลธรรม (อาจ อาสภามหาเถระ 2446-2532)

..... มหาเถรประวัติ......

- สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาสภมหาเถร ป.ธ. 8 )

- อัครมหาบันฑิต

- อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวรังสฤษฎ์ สภานายกมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ในพระบรมชูปถัมภ์

- ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสัฆราชสกลมหาสังฆปรินายกฯลฯ(เมื่อปี พ.ศ.2531 )

ท่านเป็นคนแรกที่นำเอาการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่ คือ ยุบหนอพองหนอ จากพม่ามาเผยแพร่ ซึ่งถึงแม้ท่านไม่ได้เป็นพระ

สังฆราชโดยตรง แต่ช่วงหนึ่งท่านได้รักษาการหรือทำการแทน ก็นับว่าเป็นการทำนายที่แม่นยำ ผมเคยเขียนถึงท่านไปครั้งหนึ่งแล้ว ในฐานะตอนที่

ท่านเป็นพระพิมลธรรม และถูกเปลื้องจีจรส่งเข้าคุก ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์

รู้อดีตจะเอาไปทำอะไรได้ รู้อนาคตจะทำอะไร พระโหราธิบดี บิดาของศรีปราชญ์ ท่านคำนวนไว้แล้วว่า เจ้าศรี เข้าวังเร็วก็ตายเร็ว จึงถ่วงเอาไว้จน

อายุ 15 เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็เลยขอกับพระนารายณ์เอาไว้ว่า หากเจ้าศรีทำผิดที่ไม่ใช่โทษผิดต่อราชบัลลังก์ ก็ขออย่าได้ประหารชีวิต ขอให้เป็น

เนรเทศ.....ถ้าไม่ขอไว้อย่างนั้น และเปลี่ยนเป็นแค่จองจำ ศรีปราชญ์อาจจะไม่ตายก็ได้ เพราะยังไม่ไปถึงที่ตายคือ นครศรีธรรมราช ขอขอบคุณ

มากครับ....สวัสดีครับ

 

กริชผมมีแค่30เล่มครับ เท่าที่โอนจอง
แต่คุณ5000 ไม่ได้ตัดรายชื่อออก คุณถึงโอนมาให้ผม
และที่ผมไม่สำรองไว้ เพราะกลัวเพื่อนสมาชิกยกเลิกภายหลัง คุณเองก็เคยยกเลิกจองหุ่นพยนต์ไปเหมือนกัน

ในกริชที่ได้รับ มีบางเล่มชำรุด ผมต้องส่งกลับไปให้ทางวัดฯซ่อมให้ก่อน
ซึ่งน่าจะกินเวลาล่าช้าไปอีก สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิต

แต่ถ้ามีคนสละสิทธ์ ก็จะให้สวมสิทธิ์แทนครับ

คุณไปอบรมมาหลายเดือน เลยพลาดไปหลายอย่าง

ที่ยังเหลือยังมีอยู่ ก็ควายธนู(เล็ก-ใหญ่(จ่าฝูง)) กับหุ่นพยนต์(เล็ก, ใหญ่(ปู่แดง,ย่าขาว))

ไว้ดึกๆ จะหาภาพมาให้ดู
แต่ถ้ายืนยันจะเอากริช ก็จะลองสอบถามทางวัดฯดูว่าพอเหลือไหม

สมาชิกท่านอื่น ที่ไม่ได้โอนมาเลย อย่าโอนให้ผมแบบนี้อีกนะครับ
ผมลำบากใจ กลัวจะหาของให้ไม่ได้

ถ้าคุณพอมีเวลาว่าง ลองอ่านมาตั้งแต่หน้า 359 มานะครับ

อ้อ...คุณให้ผมเก็บลูกอมไว้ 5 ลูก....
5 ลูกนี้ 1,500 บาท ยังจะรับอยู่ไหมครับ
แล้วสนใจความธนูไหม ยังพอเหลือ.....

 

เรียน พี่หนุ่มทิพย์

พี่ทายแม่นยำจนน่าตกใจครับ ขอสารภาพว่าเมื่อก่อนผมเคยใช้เครื่องรางสายเสน่ห์ครับ เป็นเครื่องรางที่ต้องเซ่นด้วยเหล้าขาว แต่ไม่ใช่เครื่องรางสายพรายนะครับ อันนั้นน่ากลัวเกินไปเรียกว่าเครื่องรางสีเทาๆดีกว่า

ผมใช้ตอนไปเที่ยวกลางคืน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ มีเด็กเที่ยว ผู้หญิงกลางคืนมาติดพันหลายคนทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นเจ้าบุญทุ่มเลยครับ ออฟชั่นธรรมดามาก
แต่แปลกอยู่นึงคือเครื่องรางพวกนี้ใช้จีบผู้หญิงดีๆไม่ค่อยติด

ผมหันหลังให้กับเครื่องรางพวกนี้นานแล้วครับ ผมฝากเตือนไปยังเพื่อนๆทุกท่านด้วยครับ ว่าสิ่งพวกนี้เล่นแล้วมัวเมาลุ่มหลง หาความเจริญในชีวิตยากครับ เลิกได้ก็เลิกเถอะครับ

พี่รู้ได้ยังไงครับเนี่ย เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครมาก่อนเลยครับ วิชาโหราศาสตร์ทายได้แม่นยำขนาดนี้เลยรึครับ เยี่ยมมากๆครับ

ปล. ขอถามอีกนิดครับว่า อุบัติเหตุทางคู่ชีวิตคืออะไรครับ


ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับพี่

 

แจ้งโอนค่ากริช 3600.34. ครับ. เวลา 11:46. 15/11/56
Net สัญาณไม่ดี จะ up load slip อีกครั้งครับ

 

ผมมีแต่ครูตำรา ไม่มีครูที่ปรึกษาเหมือนคุณหนุ่มทิพย์

ถ้าให้เดาผมว่าคงดูจากดาวเกตุ ๙ เพราะพระเกตุ ๙ ทางโหรหมายถึงลึกลับ
เครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

ถ้า กริชหมดแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับพี่หนุ่มทิพย์
ลูกอม 5 ลูก(1500บาท) ยินดีรับไว้ครับ
ส่วนเงินที่เหลือ ช่วยค่าเดินทาง หรือ งานบุญ หรือแล้วแต่พี่ครับ. ขอบคุณครับ

 

พี่ศนิวารอิจฉาผม....
อย่างแรกเลย ต้องมั่นใจว่าหล่อ
สองต้องปากดี
สามต้องมีดาว๕ เป็นมนตรีกุมลัคน์อย่างผม
สองอย่างหลังอาจจะเป็นไปได้ แต่อย่างแรกยากหน่อย.....

เจ้าชะตาถามว่ารู้ได้อย่างไร....ตอบ
ผมเดาเอา.....บางครั้งเดาเอาง่ายกว่า เร็วกว่า แต่หยาบ ไม่สามารถอธิบายได้

พี่ศนิวารช่างสังเกต
ดาวเกตุ (อย่าไปมองฟ้านะ/และขอไม่อธิบายตอนนี้) ในที่นี้เป็นตัวแทนของ สิ่งอาถรรพ์ ของโบราณ ประมาณนี้
ไปลอยในเรือนพฤหัส ที่หมายถึงสิ่งที่ต้องบูชา เมื่อของอาถรรพ์+ของบูชา = เครื่องราง
เครื่องรางนี้ เป็นคุณพระฯหรืออย่างไร
ก็ดูที่ดาว๕ ไปตกมรณะ แถมยังเป็นประ(เสื่อม,ไม่มั่นคง,ไม่สมบูรณ์) คงไม่ใช่คุณพระฯ
ดาว๕ ยังเป็นเจ้าเรือนปัตนิ(ต่างเพศ)ของตนุเศษ = ถ้าเป็นคนก็เกี่ยวข้องกับหญิง และเป็นหญิงเสื่อม(ประ)

ดาวเกตุ อยู่ในเรือนปุตตะ(บุตร, บริวาร, รื่นเริงรมณ์) ถ้าเป็นสถานที่ ก็จะหมายถึงสถานเริงรมณ์
ดาวเกตุ อยู่ในเรือนกัมมะของตนุลัคน์และตนุเศษ = มีการเอามาใช้ด้วยความตั้งใจ ตนุเศษเป็นใจ ตนุลัคน์เป็นตัวเจ้าชะตา
ดาวราหู(อย่าไปมองฟ้านะ/และขอไม่อธิบายตอนนี้) เล็งดาวเกตุ = ใช้ด้วย/เพื่อ ความลุ่มหลง

๔+๖ ในภพสหัชชะ(การเดินทางระยะสั้น,เที่ยว,สังคม)ของตนุลัคน์ เป็นคู่โลกีย์ต่อสายตรงผ่านอาทิตย์ไปกุมกับราหูเล็งกันกับดาวเกตุ

เครื่องราง+ไม่ใช่ของสูงอย่างคุณพระฯ+หญิง(ประ)+สถานเริงรมณ์+ลุ่มหลง+โลกียะ = คำตอบที่ทำนาย

เยอะครับ..... เดาเอาง่ายกว่า

เรื่องอุบัติเหตุทางคู่ครองนั้น ลืมไปแล้ว ต้องเทียบปฏิทิน ว่างแล้วจะดูให้ แต่อาจจะไม่ละเอียดแบบนี้

ผมว่าคุณให้ความสนใจเรื่องกิจการงาน ตามที่ครูศนิวารแนะนำดีกว่าเรื่องพรรค์นี้ครับ ไม่จรรโลง

ส่วนเรื่องของฯที่คุณเคยใช้ ทำอะไรคนดีๆหญิงดีๆไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ
แต่คนที่นับถือพระฯ เอาไปใช้ซิแปลก

ว่าแล้วสาวๆในกระทู้ผม ก็ไม่ต้องกลัวพวกเสน่ห์ยาแฝดนะครับ เพราะเราเป็นคนดีกันทั้งนั้น (ระวังแค่ผมคนเดียวพอ...คนมันหล่อ)

.................
ดวงนี้ทายสนุกเหมือนกัน
เจ้าชะตาก็ให้ความร่วมมือดี ขอบคุณครับ

 

เงินที่เหลือ ผมเอาไปลงน้ำมัน ๙ ทัพ หรือน้ำมันงา+สีผึ้ง ที่พี่นิ่มกำลังทำ
ถ้าไม่ขัดข้องนะครับ

 

ยินดีครับ. ตามที่พี่หนุ่มทิพย์เห็นสมควรครับ. ขอบคุณครับ

 

555+

ดูแค่พระเกตุ ๙ อยู่ปุตตะ ซึ่งผมหมายเอาว่าปุตตะคือ เด็ก ๆ ในสังกัดเท่านั้น
ไม่ได้ไล่ดูว่าเจ้าเรือนไปเป็นประ ฯลฯ ตามที่คุณหุ่มทิพย์แถลงมา ซึ่งเป็นการ
ดูแบบละเอียดหลายชั้น สมแล้วที่มีครูที่ปรึกษาดี ได้เคล็ดวิชามาพลิกแพลงใช้
ประกอบในการทายซะจนเหมือนแอบติดกล้องวงจรปิดติดตามสอดส่อง
พฤติกรรมเจ้าของดวง เล่นซะเจ้าตัวสะดุ้ง

ดวงบางดวงอ่านง่ายทายง่าย แต่บางดวงปวดหัวอ่านไม่ออกเหมือนถูกปิดถูกกั๊ก
ทั้ง ๆ ที่ดาวไม่พิสดารอะไร แต่ทายไปก็ฟ้ากับเหวกลับตาลปัตรไปหมด
บางวันก็อ่านดวงได้ง่ายลื่นไหล แต่บางวันตื้อไปหมดก็มีคิดไม่ออก

วันไหนโพสต์ดวงแล้วไม่มีสัญญาณตอบรับจากผมแสดงว่าอยู่ในช่วง ตื้อ ตัน
คิดไม่ออก ก็ต้องขออภัยในความล่าช้าด้วยก็แล้วกัน

 

แห่ะๆ ไม่รอดกันทั้งคู่
(คำนี้เจ้าสาวพูดกะเจ้าบ่าวจริงๆนะคะ "แต่งก็แต่งว๊ะ...")
วันนี้ไปตามหาสถานที่สำหรับวันที่ 5 มค อยู่ค่ะ มาตามอ่านช้าไปหน่อย
ขอบคุณคุณหนุ่มทิพย์มากนะคะ ที่เลือกวันดีให้ค่ะ
ว่าที่เจ้าสาวค่ะ

 

โมทนาบุญครับ

 

กริชที่ว่าจะมาบรรจุเองนั้น ผมขอให้คุณหนุ่มทิพย์กรุณาบรรจุเกศาครูบาอาจารย์ให้ดีกว่าครับ

 

คุณทิพย์เมื่อวานนี้เวลา 18.50 น. ผมโอนเงิน 2,000.- บาทเป็นค่ากริชแล้วนะครับ

 

ผมได้พิมพ์นี้มาแล้ว เลยได้เข้าไปปรึกษากับพี่ธวัชชัย
สรุปว่าเราจะกดพิมพ์กันใหม่ แต่เนื่องจากเราสองคนจะเป็นคนจัดสร้าง ก็ต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงิน

สอง มวลสารตอนนี้รอแค่หินพระธาตุ จะทำให้องค์พระฯมีน้ำหนัก และหากทำเนื้อดีๆ จะออกสีชมพูสวย มวลสารอย่างอื่นก็มีผงหลวงปู่ฯ ผงวิเศษฯของพี่นิ่มทั้งหมด แลสายเขาอ้อของพี่ธวัชชัย

เน้นเมตตาโชคลาภนำหน้า

เนื่องจากบล็อคนี้ เป็นบล็อคที่ต้องพิมพ์ด้วยมือเท่านั้น จึงจะจัดสร้างได้ไม่มากนัก และไม่เน้นการทำกำไร จึงจะต้องตั้งราคาเท่ากับที่กดพิมพ์ได้ ซึ่งคงกดได้ไม่มากนักถ้าไม่มีคนช่วย

ถ้าทำแค่ 100 องค์ ตั้งราคาไว้ที่ 1,000 บาท
ถ้าทำ 300 องค์ ตั้งราคาไว้ที่ 500 บาท
ถ้าทำ 900-1,000 องค์ ตั้งราคาไว้ที่ 300 บาท

ถ้าปล่อยให้พี่ธวัชชัยทำเองคนเดียว จะได้ 100 องค์
ถ้าผมช่วยด้วย คงไม่เกิน 300 องค์
ถ้าเกณฑ์น้องๆมาช่วย ซัก 7 วัน คงได้ถึง 1,000 องค์ เพราะมีแค่บล็อคเดียว ต้องผลัดกันกดพิมพ์

และเนื่องจากผู้จัดสร้างไม่ประสงค์เข้าไปยุ่งเกี่ยวการจัดสรรเงิน เพื่อความบริสุทธิ์ขององค์พระฯ เหมือนที่พี่นิ่มทำพระฯ จึงจะขอเชิญเจ้าภาพซักสองท่าน ช่วยเป็นเจ้าภาพกิตติมศักดิ์

ผมจะขอเชิญพี่ศนิวาร กับคุณBEE15 ช่วยรับพิจารณาด้วย

สิ่งที่ประสงค์คือ วานท่านเจ้าภาพ ช่วยดูวัด ดูโรงเรียน ที่ยากจน ขัดสนอย่างหนัก และเร่งด่วนที่ต้องใช้ปัจจัยโดยประมาณสถานที่ละ 30,000 บาท

โดยปัจจัยส่วนนี้ ผมจะช่วยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ต่อเพื่อนสมาชิก ระดมทุน โดยมีผมเป็นนายหน้าให้ เมื่อได้ทุนส่วนกลางแล้ว ผมจะโอนเข้าบัญชีท่านเจ้าภาพ (โอนให้ผมมาเยอะแล้ว ให้ผมโอนคืนให้บ้าง) หลังจากนั้นเชิญท่านเจ้าภาพจัดสรรตามสะดวก โดยอาจจะนัดเพื่อนสมาชิกไปร่วมกิจกรรมนั้นๆด้วยกัน

กุศลครั้งนี้จะถวายครูอาจารย์ท่านเจ้าของมวลสารและองค์ท่านผู้เสก
กำหนดการณ์จะแล้วเสร็จต้นเดือนมกราคม

ขอโปรดจงรับ(ด้วยเถิดครับ)

หนุ่มทิพย์

ปล.หากท่านเจ้าภาพทั้งสองท่าน เห็นควรจัดสรรสถานที่เดียวกัน ก็รวมทุนเป็นที่เดียวได้โดยประมาณถึง 60,000 บาท ครับ และหากระดมทุนได้มากกว่านั้น ก็จะจัดสรรเป็นกองกลาง ก็แล้วแต่สะดวก ผมจะไม่ยุ่งกับเงินส่วนนี้เลย

 

บริษัทฯย้ายสำนักงานใหม่ ไล่ๆกับที่ผมปรับตำแหน่งใหม่
สถานที่ใหม่ก็สวยงามขึ้นมาก แต่ที่จอดรถเหมือนเดิม ต้องแย่งกัน
ผมไม่กังวลเรื่องที่จอดรถ ถ้ารถตากแดด ผมก็ไม่ร้อน
แต่มีคนร้อนใจแทนผม ว่าตำแหน่งขนาดนี้แล้ว ควรได้ที่จอดรถประจำ

ผมเป็นคนมีเกียรติ มีมากพอจะให้เกียรติคนอื่น
ถ้าคนอื่นมีเหมือนผม ก็คงจะให้เกียรติผมเองแหละ ผมไม่ต้องไปร้องขอ

ถ้าผมมีเงินเยอะๆ ผมก็สามารถจุนเจือช่วยเหลือคนอื่นได้
ถ้าผมมีวิชาความรู้ ผมก็ใช้ความรู้ที่มีช่วยเหลือคนอื่นได้
เมื่อมีคนมาขอในสิ่งที่เรามี เราจะให้ไม่ให้ก็เรื่องของเรา ไม่ผิดแต่อย่างใด
อย่างมาก คนที่มาขอ เค้าก็กลับมือเปล่าก็เท่านั้น.....

คนที่ขยันทำมาหากิน ฉลาดในสิ่งที่ทำ อยากเปิดรีสอร์ท
มาขอฤกษ์เปิดกิจการ
ถ้าเป็นคนขยัน แล้วปล่อยให้เค้าไปเปิดกิจการหน้าฝน ลมพายุเข้า
ก็อาจจะสิ้นเปลื่องลูกจ้างมานั่งตบยุ่ง แต่เมื่อเข้าฤดูท่องเที่ยว กิจการมันก็ไปได้ดี
แต่ให้ไปเปิดกิจการช่วยฤดูท่องเที่ยวดีกว่าไหม

คนรักกันชอบกัน อุปถัมภ์อุ้มชูกัน ถึงหนีตามกันมา มันก็อยู่กันได้
แต่จะอยู่กินกันแล้วเจริญไม่แยกร้างกันได้กี่คู่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
กับคนที่รู้ว่าไม่นานก็เลิกกันแน่ๆ ยังจะให้ฤกษ์กันอยู่ไหม หรือจะบอกไปตรงๆว่า "เดี๋ยวก็ทิ้งกัน..."
จะปล่อยให้แต่งกันไปทำไมให้สิ้นเปลื่อง หรือทำเป็นเฉยๆดี ปล่อยดีปล่อยชั่วตามบุญตามกรรม

สมเด็จฯ ท่านเชี่ยวชาญการโหราศาสตร์ เห็นดวงก็รู้ว่าอย่างไร ก็เลิกร้างกัน แล้วทำไมยังให้ฤกษ์แต่ง?
พระเก่งๆที่เค้าให้ฤกษ์ เพราะเรียนรู้มาอย่างนั้น เป็นภูมิรู้ที่ใช้อุ้มชูช่วยเหลือกันได้
ต่อให้รู้ว่าอนาคตต้องเลิกลาอย่าร้าง แต่อย่างน้อยก็ให้มีสิ่งดีเกิดขึ้นในช่วงชีิวิตหนึ่งที่ได้ครองคู่กัน

ฤกษ์ก็คือจังหวะของโอกาส เมื่อเริ่มต้นได้ดี มันก็มีทุนรอนจะต่อยอดออกไปได้ดี
เริ่มกิจการค้าในช่วงที่ทำกำไร มันก็ยังดีกว่าเริ่มแล้วทรงๆทรุดๆ กว่าจะฟื้นจนร่ำรวยก็ใช้เวลาอยู่

คนมีวิชาความรู้พอจะช่วยเค้าได้ แต่ไม่ช่วย ก็ไม่มีใครมาต่อว่าต่อขานซึ่งหน้าดอก แต่ลับหลังเราไม่รู้
แต่ที่รู้คือตัวเรา...

ผมเป็นคนไม่ชอบงานประเพณี ผมชอบความเรียบง่าย เพราะผมเป็นคนง่ายๆ
ตราบใดที่ผมยังวางใจตัวเองได้อยู่ ผมก็ไม่ต้องดูฤกษ์ใดๆ แต่ที่ต้องหาฤกษ์ให้ เพราะผมมีครูอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชา และการใช้วิชาที่ได้รับช่วยเหลือผู้มาร้องขอ อย่างน้อยก็ให้เกียรติครูผู้สอน

เจ้าสาวต้องไม่ลืมว่า ฤกษ์ คือจังหวะโอกาสที่จะตั้งต้นชีวิตคู่ แต่ฤกษ์กำเนิดคือชะตาชีวิตที่ต้องเผชิญ และกรรมปัจจุบันที่ทำ จะเป็นตัวส่งผลในการดำเนินชีวิต
หากวันใดผิดพลาดในการครองคู่หรือมีปัญหากันในภายหลัง จะไปโทษฤกษ์ไม่ได้นะครับ ดังที่ผมเคยยกตัวอย่าง ร.๗ (ควรย้อนกลับไปอ่านทุกเรื่องที่ผมเขียนเกี่ยวกับการให้ฤกษ์นี้ให้แตก)

เจ้าสาวยอมแต่ง เพราะความรัก ไม่ใช่เพราะเหตุผล
ดังนั้น ต้องอยู่กันด้วยความรัก และใช้ความรักในการตัดสิน อย่าใช้เหตุผล เพราะเหตุผลมีไว้เอาชนะกัน

หากต้องมีเหตุให้ผิดใจ ลองถามเจ้าบ่าวดูว่ายังรักฉันไหม และไม่ลืมถามตัวเองว่ายังรักเค้าไหม
ถ้ายังรักกันอยู่ ก็ไม่ใช่ปัญหา

ขอให้รักกันนานเท่านานครับ

.............................

วันที่ 5 ม.ค. 57 ฤกษ์บน เทวี
วันที่ 12 ม.ค. 57 ฤกษ์บน ภูมิปาโล แนะนำ เป็นฤกษ์ของความมั่นคง
วันที่ 26 ม.ค. 57 ฤกษ์บน ราชา
วันที่ 30 มีนาคม 57 ฤกษ์บน ราชา

คนแต่งงาน กับคนทำความดีใช้ฤกษ์ไม่เหมือนกันนะครับ
งานแต่ง เป็นงานทางโลกียะ
ส่วนการทำความดี พระท่านว่า ทำยามไหน ก็เป็นมงคลฤกษ์ที่ดีของยามนั้น.......