ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สุดยอดครับพี่ เรื่องผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผมเคยถามหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ศิษย์เอกของท่าน ตอนไปกราบท่านเมื่อสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ผมถามว่า "หลวงพ่อครับ ทำไมพระรุ่นหลัง ๆ ถึงได้ผสมผงพรายกุมารของท่าน เยอะนัก ตอนสมัยหลวงปู่ทิม ท่านยังอยู่ สร้างไว้เยอะหรือว่าไงครับ" ท่านก็ยิ้ม ๆ บอกว่า "สมัยหลวงปุ่ทิม ยังอยู่ ผงพรายกุมารที่หลวงพ่อเห็นมีแค่เท่าหลอดใส่เข็ม" แล้วท่านก็ชูนิ้วก้อย ให้ดูครับ "สมัยนี้ทำไมมีผงพรายเยอะ ก็ให้ใช้ปัญญาพิจารณาเอา" ส่วนผมอมตะอย่างอื่น ที่พี่บอกไว้ ผมคิดว่า คงต้องใช้ปัญญาพิจารณาเอา อย่างที่หลวงพ่อสาครท่านบอกไว้ล่ะครับ

 

ผงก็ยังไม่มี แต่วัดที่เคยอยู่เป็นวัดศิลปะของจีน โบสถ์ก็ลายจีนครับ
ไม่มีช่อฟ้าใบระกา และที่สำคัญไม่มีพระแผงครับอ้าย
หนาวแล้วนะครับ รักษาสุขภาพด้วยเด้ออ้าย

 

......
...ธรรมดาครับ..เนื่องจากเรา..เป็นคนอายุใกล้เคียงกับพี่..เมื่อเรากลับไปอ่านย้อนตั้งแต่ต้น..ก็จะเจอ..เรื่องบรรยากาศเก่าๆ..ของกรุงเทพเมืองฟ้าอมร..
..ซึ่งตัวเอง..อยู่ในเหตุการณ์..ของบางอย่างอาจลืมเลือนไป..แต่พอ..เจอเรื่องไหน..ที่มันคุ้นเคย..มันก็ทำให้เราย้อนนึกถึงอดีตตัวเอง..ที่เคยสัมผัส..เคยเห็น...ความสุขหรือ..ความรู้สึกดีๆ..ความสนุก..มันก็ย้อนมาสร้างความสุขให้...แต่มันต่างกับ..คนรุ่นใหม่ที่อ่านแล้วสัมผัส..ไม่ได้..ก็คงแค่แปลกใจ..เพียงแต่พี่อยากให้พวกเขาทราบว่า..
......กรุงเทพเมืองฟ้าอมร..เป็นยังไง..เวลาที่..ญาติผู้ใหญ่..เขาคิดย้อนกลับไป..และ..บอกว่า..สมัยก่อนนะ..มันน่าอยู่เป็นยังไง..ก็แค่นั้น....

 

..ฮะ..ฮะ..
..นึกแล้ว..กำธรน้องพี่..ต้องสะใจ..กับผงพรายกุมาร..แน่..อุตส่าห์พยายามย้ำบอกใคร..ด้วยความหวังดีมาตลอด..แต่อย่างว่า..ไอ้พวกที่ไปอ่านเรื่อง..อานุภาพ..และ..ที่มา..มันโดนกล่อมจนเคลิบเคลิ้ม..ถอนตัวไม่ขึ้น...จากสารพัดบทความ..ตั้งในเว็ป..ในเน็ต..ในสนาม...มันประดังเข้าไปในจืตใจ..
...คนเราเมื่อกิเลสมา..สติปัญญาการไตร่ตรอง..ก็ลด....
.....จนบางคน..มีความคิดว่า..แม้มันจะมีโอกาศเป็นไปได้แค่ ๑ เปอร์เซนต์..กูก็ยอม...แต่เวลาเรื่องอื่น..ที่มันไม่ทำให้เกิดกิเลศขนาดนี้..แค่..๔๐ เปอร์เซนต์..กูก็ไม่เอาแล้ว....
...คนฉลาดที่เก่งเรื่อง..สร้างภาพ..และ..จิตวิทยา..มันก็จับจุดคนทั่วไปได้....
.......ก็บังเอิญหรือไง..ไม่ทราบเหมือนการเปิดประเด็น...จากกำธรน้องรักนี่..พอมาวนเรื่อง..ผงจากคนที่ตาย...มันก็เลย..จะเกิด..มินิซีรีส์..
...เรื่องสั้นๆ...ของพี่เรื่องใหม่..บอกว่า..มินิ..นะไม่ยาวมากเท่าไหร่..
..แต่อาจจะยาวขึ้น..แล้วแต่..อารมณ์..คนอยู่ในโลกนาน..เรื่องมันเยอะ...
.......อันนี้..เขียนให้เอง..ไม่ใช่ตอบปัญหา..รับรองว่า..เขียนจนจบแน่..
...................................................

..ผม..กับ..เรื่องที่อธิบายไม่ได้ในมูลเหตุ..

....ก็จะเขียนต่อ..จากวัดเก๋งจีน..ครับ...

 

สวสัดีครับ พี่ๆ ทุกท่าน...

มารอภาคต่อพระวัดเก๋งจีนครับ...

อาจจะเห็นผมแวบไป แวบมานะครับพี่...

เพราะโรงงานที่ผมอยู่มันบ้านนอกนิดนึง เนตใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้างครับ ...

 

ถ้าลองอาแย้มมาอย่างนี้ ผมปูเสื่อรอเลยครับ

 

ครับพี่สมัยก่อน ไม่มีถนนวิภาวดี เข้ากรุงเทพก็ใช้พหลโยธิน ยังจำความร่มรื่นของสองข้างทางได้ เมื่อไม่นานนี้มีธุระต้องไปสะพานใหม่ แทบชัก55555

มาปูเสื่อรอพี่อีกคนครับ

 

รอเก็บเกี่ยวความรู้ครับพี่ ขอบคุณมาก ๆ ครับ

 

ชอบถนนนี้ครับ สมัยก่อนรถวิ่งถนนนี้แทบจะไปถูกแดดเลย เพราะมีต้นก้ามปูใหญ่สองข้างทาง เป็นเหมือนอุโมงเลยครับ ร่มรื่นมากๆๆๆ

 

........
...หวัดดี..พลศิริน้องรัก..น้องเขม..คนบ้านสะแก..ข้าวปุ้น..น้องpardy..และ..กำธรน้องรัก
................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว.....
............................
.......................................................................
......ตอนนี้เรา..มาว่าถึง...ความเก่า..และ..เนื้อ....
....จากที่ผมกล่าวมาหลายตอนแล้ว....เอาเฉพาะที่เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่บอก..เมื่อปี ๑๖-๑๗...
..ก็คือ..คำบอกนี้กล่าวมาเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้ว....และการพบตอนนั้น..ก็อย่างน้อยน่าจะ..ร่วม หนึ่ง
ร้อยปี...และ..ที่ผมวิเคราะห์..ก็น่าจะเป็นไปได้ว่า..อาจจะสร้างมาพร้อมกับ..โบสถ์...ซึ่งผมวิเคราะห์
ไว้อย่างต่ำก็..สมัยรัชกาลที่สาม..ก็ควรจะอยู่ในช่วงประมาณ ๑๓๐-๑๔๐ ปี..แต่ถ้าที่..ผมว่ามีการ
ปฏิสังขรณ์..รูปทรงบางส่วนของโบสถ์เดิม..และ..บูรณะมาเป็นทรงเก๋งจีน..ในรัชกาลที่๓..
...มีการเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่..และ..ถ้าพระชุดนี้..ติดอยู่ในผนังตั้งแต่เดิม...ก็อาจไปถึง..สมัยอยุธยา
ได้.........
.....ซึ่งตีเสียว่า...อายุพระตอนที่พบ..ไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปีแล้วกัน...........
.............ที่ผมประเมินออกมาแนวนี้..เพราะ..สนิมแดง..ที่ขึ้นที่ผิวนั้น...เป็นจำนวนไม่น้อย..ที่หนา..
และ..ชัดเจน..คือ..ถ้าเปรียบกับ..งบน้ำอ้อย..หลวงพ่อเนียมแล้ว...หนากว่า..และ..ชัดกว่า...
....พระหลวงพ่อเนียม..พิมพ์งบน้ำอ้อย..ถ้าเทียบกัน..เมื่อปี ๒๕๑๗ นั้น...สนิมแดงมีขึ้น..แต่แบบว่า
เพิ่งขึ้นมาไม่เท่าไหร่..คือจากสีเทาดำของผิวตะกั่วปกติเปลี่ยนเป็นออกแดง..ไม่เข้มจนเห็นได้ชัด
...พระหลวงพ่อเนียม..งบน้ำอ้อยนี้..น่าจะสร้างอยู่ในสมัย..ต้นรัชกาลที่ ๕....แสดงให้เห็นในการ
สังเกต..จากสนิมแดง...จะเห็นว่า..การเกิดสนิมแดงนั้น..เก่ากว่ามาก....น่าจะก่อน..ไม่น้อยกว่า..
๔๐-๕๐ ปีขึ้นไป...เพราะ..ไม่ต้องเข้าแว่น..บางองค์..สนิมแดงอมม่วง..เห็นได้ชัด..สีแดงอมน้ำตาล
....แดงอมดำเข้ม...แต่..แดงอมส้ม..หรือ..สีส้มไม่มีนะครับ...ที่ผมบอกอย่างงี้ได้..ก็เพราะ..เห็นเป็น
จำนวนมากนั่นเอง......
........แต่ที่แปลกอีกอย่างคือ.............จำนวนไม่น้อยเช่นกัน....ที่ไม่มีสนิมแดง...(บางองค์..อย่างของ
ผมเองนั้น..ทาชาดด้านนอก..แล้วชาดกระเทาะออกบางส่วน..ด้านในก็ขึ้นสนิมแดงอมม่วง..)...
....ผมสันนิษฐานว่า..น่าจะขึ้นอยู่กับ..ตำแหน่งที่ตั้งของพระ..แต่ละองค์ด้วย...ผนังที่รับแดดมาก
กว่า..สนิมอาจจะขึ้นมากกว่า....อาจเกี่ยวเนื่องมาจากตำแหน่งพระ..และ..อุณหภูมิ..ที่รับอยู่แตกต่าง
กัน.....
.......เรื่องพุทธคุณนี่ค่อนข้างแน่นอน..เพราะผู้นำไปใช้...มีประสพการณ์..กันเยอะ..ตั้งแต่แพร่เข้าสู่
สนามพระ......
............แต่ไอ้ที่ผม..ไม่เข้าใจคือ...หลังจากที่พบไป..ประมาณกว่ายี่สิบปีมั้ง..ประวัติเดิม..ที่ไม่มีราย
ละเอียดอะไร..กลับโผล่รายละเอียด..แปลกขึ้นมาอย่างจงใจ........
.....ที่ผมพูดอย่างงี้...เพราะผมสัมผัส..พระนี้มาตั้งแต่เริ่มให้ทำบุญ..ตามที่เล่าไป..เรียกว่า..เป็นพวก
แรกๆ..ที่ไปวัดป่าประดู่เลย...สอบถามประวัติความเป็นมา..ก็..ได้จาก..เจ้าอาวาสที่เก็บรักษา..
กับ..พระที่นั่งอยู่ด้วย..รวมถึง..ประวัติครั้งแรกๆ..ก็ไม่มีอะไร.....เป็นวัดร้างธรรมดา..ร้างมานาน
จนไม่มีใครรู้ว่า...ใครเคยมาครอง...สร้างวัดเมื่อไหร่..ชาวบ้านใกล้ๆ..ก็ไม่รู้...ด้วยซ้ำ
.......พอมายุค..พระหลวงปู่ทิม..เฟื่อง...กลับมีการโยงไป...เรื่องหลวงปู่สังข์เฒ่า..อะไรนี่ที่เป็นปู่
หลวงปู่ทิม...ถ้าหลวงปู่ทิมเป็นผู้เล่า..ก็น่าจะลงประวัติเพิ่มเติมของวัดเก๋งจีน..ไปตั้งแต่ปีที่หลวงปู่
ยังไม่เสียแล้ว...นี่ท่านเสียไปเป็นชาติแล้ว..กลับมามีประวัติเพิ่มเติมอะไรออกมา...
.....อย่าว่า..ผมอคติกับ..พวกหนังสือพระ..หรือพวกสื่อ..และไอ้พวกปั้นข่าวเลย...เพราะใครๆก็รู้ว่า
...ขยับอะไร..ก็ต้องมีผลประโยชน์มาเอี่ยว....แล้วช่วงแรกๆที่..สื่อพระออกมาใหม่ๆ..วงการยังไม่
เหลวแหลกเท่านี้...ข้อมูลที่เกี่ยวกับพระ..นั่นแหละค่อนข้างเชื่อถือได้...
............ดังนั้น...ตัวผมเองที่ได้สัมผัส..พระวัดเก๋งจีนมาตั้งแต่ต้น...จึงไม่เชื่อ..ประวัติที่มาแต่งกันที
หลัง...อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผม...นะครับ..ใครที่เชื่อแบบนั้น..ท่านก็เชื่อไป..ไม่ต้องมาแย้ง
ในกระทู้ผม....ให้มันหงุดหงิดรำคาญใจ...ต่างคนต่างเชื่อแล้วกัน...ผมไม่ได้บังคับให้เชื่อ....
.......................................สวัสดี.............................

 

ขอบคุณมาก เข้าใจแล้วครับว่าพระวัดเก๋งจีนอยู่ในสมัยไหน รออ่านเรื่องต่อไปครับ...

 

...พอมาเรื่องนี้..ก็มีต่อยอดกันอีก..ถามกันไม่จบ...ผมตอบให้แทน..กำธรน้องผม..ไม่งั้นมาต่อความยาวสาวควงามยืดกัน..น่าเบื่อ......
.....ไอ้ที่กำธร..เขาเขียนไว้..และคุณเอามานะอ้างอิง..เขาก็บอกอยู่แล้ว..ว่ามันมีน้อย..แค่ไหน..หลวงพ่อสาครท่านเป็นลูกศิษย์..ท่านก็คงได้แบ่งมา..ส่วนที่เหลือ..จากที่หลวงปู่ทิม..สร้างไปแล้ว....
...ผมอยากให้คนอ่าน..กระทู้ห้องนี้ใช้เหตุใช้ผล..ซึ่งผมย้ำอยู่เสมอ....
.....ก็ที่กำธรบอกไว้ว่า..ตอนที่ท่านเห็นนะ..แค่นื้วก้อย..หลวงปู่ทิม..ทำไปแล้ว..จากนิ้วก้อย..มันเหลือ..ซักครึ่ง..นิ้วก้อยมั้ย..พอมาถึงท่าน..ท่านทำมั่ง..แล้วคุณก็ไปฟังไอ้พวกชอบใส่ไข่..แล้วยังเขียนมา..ว่าเยอะ..นี่แสดงว่า..คุณไม่ได้ใช้เหตุใช้ผล..และ..หลักความเป็นจริง..ในการพิจารณาเลย...
........มันจะเป็นไปได้..ยังไง..ผมไม่ต้องรู้เรื่องมาก่อน..
....ผมก็ยังตอบได้เลย..ว่า..มันเป็นไปไม่ได้..เรื่องมีนะ..คงมี..
.....แต่มันมีแค่..นิดเดียว...ผมว่า..ขอแค่ให้พอมี..ก็ดีตายแล้ว..
.......ผมขอใช้สิทธิ..ที่เป็นเจ้าของกระทู้..จบเรื่องนี้...
...กำธรนะ..เขาตอบเรื่องนี้ไป..มากกว่า..สิบครั้ง..เขาเบื่อจะแย่แล้ว..
...ถ้าคุณPuni..สงสัยอีก..ก็PM..ไปที่กำธร..เขาโดยตรง...
.......เขาก็เกรงใจผม..และ..รู้ว่าผมเป็นคนยังไง..คุณยังไม่คุ้น...
..........ตกลงว่า..จบครับ..ไม่ต้องมาถามเรื่องนี้อีก..

 

สวัสดีครับ ผมตามมาให้กำลังใจครับ เดี๋ยวนี้คนใช้หลักการและเหตุผลน้อยลง เชื่อนิยาย เชื่อเรื่องที่แต่งขึ้นมาก และการปลุกเสก ก็ดูว่าจะเว่ิอร์กว่าเกจิยุคเก่าเยอะเชียว เช่น เอาพระเครื่องมาตัดสายรุ้งบ้าง รวยทันตาเห็นบ้าง แรงส์เท่าสมเด็จวัดระฆังบ้าง อลังการงานสร้างกันไปใหญ่ แต่คนก็เชื่อกัน ยังไงก็มาตามอ่านให้กำลังใจพี่modpong ต่อไปครับ ผมขอยืนหยัดข้างเหตุผลด้วยคน

 

มาติดตาม
จากข้อเขียนของพี่ modpong เป็นอาวุธที่ดีที่สุด ที่จะศึกษาพระเครื่อง คือความสมเหตุสมผล เพราะคนที่เข้ามาวงการนี้ มักมีความเชื่อนำทำให้ถูกชักจูงง่าย ยิ่งเครื่องรางของขลังที่ทำทีละชิ้น ยิ่งต้องใช้เหตุผลในการพิจรณา ทั้งธรรมชาติที่ทิ้งร่องรอยไว้ อายุ ที่มาที่ไป

อาวุธที่พี่สอนและย้ำมาตลอด คือเหตุผล เป็นอาวุธที่คมกริบที่สุด นับถือครับ

 

.....
...ขอบคุณครับ..คุณสวนพลู..ที่มาให้กำลังใจผม..เจตนาหลัก..ในกระทู้ของ
ผม..คือ..สอนให้คน..มีเหตุ..มีผล..และวิเคราะห์ความเป็นไปได้..
..ซึ่งแนวทาง..ก็ใกล้เคียงกับ..กระทู้ของคุณสวนพลู..ที่ผมเข้าไปอ่านอยู่เป็นระยะๆ..และ..ก็นับถือ..ในปณิธานความตั้งใจ..ของคุณเช่นกัน..
..ซึ่งกำธรน้องรักผม..ก็เขียนให้ความรู้..และยืนหยัด..พยายามสารพัด..
....ที่จะทำให้คน..หายโง่งม....ซึ่งผมก็นับถือ..ในความตั้งใจของเขา..
.......เช่นเดียวกับ..คุณสวนพลู..เช่นกัน.......
..เพราะเราก็เห็นว่า..ส่วนใหญ่..ในเว็ปนี้..เขาไม่ได้ส่งเสริมแนวทางนี้..
..คนเล่นพระ..ส่วนใหญ่..ทั้งรุ่นเด็ก..และ..รุ่นเก่า..บางท่าน..ก็
ยังใช้..แนวความ(ที่ไม่ค่อย)คิด..แบบเดิมๆ..หูเบา..และไม่พัฒนา..
..เพราะถ้ายึดติดในรูปแบบเดิม..มันก็เหมือนพวกเสพยา..มีแต่สมองเสื่อม..
ใครอยากจูงไปทางไหน..ก็ตามแห่กันไป....
.....ขอบคุณครับ..ขอบคุณจากใจจริง...
....

 

......
...ขอบคุณน้องมาก..ที่เข้าใจ...

 

ขอบคุณคุณลุง... ที่ให้ความรู้มาตลอดครับ

ขอถามนอกเรื่อง ... พิธีมหาจักรพรรดิ์ ปี 2515 จ.พิษณุโลก
สมเด็จพระแก้วมณีโชติ(พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ - วิกิพีเดีย) ได้เข้าพิธีด้วยมั้ยครับ ...
หาข้อมูลใน google บางข้อมูลก็เข้าพิธี บางข้อมูลก็ไม่ได้บอกไว้ ... ไม่แน่ใจครับ
http://wat-sakaeo-pathum-thong.tara...ครั้งที่+2+แห่งกรุงรัตนโกสินทร์+พ.ศ.2515.html
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ppamulet&month=02-2009&group=34

รบกวนคุณลุงด้วยครับ

 

รอติดตามเรื่องใหม่ครับ จะเป็นเรื่องอะไรกันน๊า?

 

สวัสดีครับคุณอา.. มาติดตามอ่านบทความดีๆตอนต่อไปครับ

 

ผมตามอ่านมาเรื่อยๆครับพี่(ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าเนตบ่อยนักน่ะครับ) ได้ความรู้จากกระทู้นี้เยอะมาก ขอขอบคุณพี่ modpong มากครับ และขอเป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยๆครับ