ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

โสดค่ะ แต่คงไม่ค่อยสดเท่าไหร่ !

 

อ้าววว!!! ..ดีใจเก้อเลยเรา

 

โสดหรือไม่อันนี่ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ผมต้องแสดงความยินดีกับคุณศารทวิศุวต
"โคตรโชคดีเลยน่ะเนี่ย"

 

[VDO][/VDO]THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2013
September 6-11 October 2013
วันที่โพสท์ _07/10/2013
ผู้แปล: อจิตตะ

กระบวนการในการประเมินชีวิตของคุณใหม่
และอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้สุขภาพคุณดีขึ้น
ในความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข
ซึ่งการปลดปล่อยสิ่งที่ไม่ได้เชื้อเชิญทั้งหลายในจิตวิญญาณ
จะต้องถูกจัดให้เป็นความสำคัญที่สุดในตอนนี้
แต่ในบางครั้งการตัดสินใจก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกดปุ่ม reset
แล้วก็กลับไปตั้งเป้าหมายและอดีตของคุณใหม่ได้...
โดยเฉพาะปัญหาหนักอึ้งที่คุณได้ตั้งคำถามกับตัวเองอยู่นี่
ซึ่งก็มีส่วนช่วยให้คุณเห็นภาพในเหตุนั้นๆนั้นชัดขึ้น
และทำให้คุณได้หยุดดูมันด้วยสติก่อนสตาร์ทต่อไป

จงจำไว้ว่า...บรรทัดสุดท้ายในแต่ละทางเลือกของคุณนั้น...
ใช่ไม๊ ที่มันทำให้คุณรู้สึกดูดีมีสุข
ใช่ไม๊ ที่มันทำให้คุณได้ขยายและเพิ่มขีดความสามารถ
ใช่ไม๊ ที่มันทำให้คุณมีแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้น
และมันได้ทำให้คุณรู้สึกถึงอิสระภาพมากยิ่งขึ้นใช่หรือไม่
ในการใครครวญถึงความสำคัญของความสัมพันธ์,
เป้าหมาย และการตัดสินใจในชีวิตประจำวันของคุณ

มันเหมือนคุณกำลังมาทำต่อในสิ่งที่คุณทำค้างไว้
ความคาดหวังของคุณที่ได้ยึดถือมันไว้จะถูกยกออกไป
ซึ่งถึงคุณกำลังทำเรื่องที่ถูกต้องหรือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้
มันก็ไม่ได้สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงและเป้าหมายข้างหน้า
ที่จะขยายต่อไปในทุกพื้นที่ของชีวิตคุณ



บางครั้งบางเวลาคุณได้พบว่าตัวเองได้แบกความหวัง
และพลังงานของคนอื่นด้วยความทุกข์ในตัวคุณ
และยังไปเห็นว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตคุณที่ต้องจริงจังกับทุกมุมมองของชีวิตซะด้วย
ในกรณีนี้ การมอบความรักให้กับตนเอง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
จงปกป้องรักษาตัวคุณ
และมอบสิทธิในการเปลี่ยนแปลงแนวทางชีวิตคุณด้วยการให้เกียรติ์ต่อผู้อื่น
ซึ่งตัวชี้วัดของสิ่งทั้งหลายทั้งมวลนี้คือ “ความรัก” ที่คุณรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง

ขณะนี้พวกเรากำลังก้าวขึ้นสู่มิติที่สูงกว่าของความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว
และจะต้องปลดปล่อยโครงสร้างระบบเก่า ๆที่กักขังคุณไว้จากตัวคุณที่ควรจะเป็นซะ
คุณมีความสามารถที่จะเป็นนายตัวเองต่อกายเนื้อมากกว่าการฝากชีวิตไว้ที่คนอื่น
ขีดความสามารถของคุณก็ยิ่งใหญ่พอกับผู้ที่ดูเหมือนว่าชีวิตของเขา
มีหน้าที่นำเสนอของขวัญพิเศษให้กับโลกใบนี้ (เขาคงอยากจะสื่อว่าเป็นพระเจ้าแต่ไม่กล้าบอกตรงๆ=ผู้แปล)
คุณทุกคนมีความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตน
และมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะเดินตามวิถีทางอันสง่างามด้วยตัวคุณเอง
เดินตามทิศทางที่หัวใจของคุณเรียกหา
แล้วคุณก็จะพบว่าสิ่งที่คุณได้ทำไปทั้งหมดนั้น
เป็นการเดินตามจังหวะทิศทางที่ตัวตนสูงกว่าของคุณแนะนำนั่นเอง

เส้นทางที่พวกคุณได้เลือกไว้ด้วยตัวคุณเองก่อนที่เท้าของคุณจะเหยียบพื้นโลกใบนี้
ล้วนเป็นความท้าทาย และ เป็นบทเรียนที่คุณเลือกด้วยตัวคุณเอง
ด้วยจุดประสงค์ที่จะขยายขอบเขตของคุณออกไป
และศักยภาพของคุณที่จะได้รับก็จะมาจากพลังแห่ง“ความรัก”
ที่สะท้อนกลับมาจากทุกๆ สถานการณ์ที่กำลังจะมาถึง
การทดลองและการทดสอบทั้งหมดนี้
เป็นประสบการณ์ที่คุณมีอยู่และนำมาใช้เพื่อการนี้
เพื่อเอาชนะจากการหลอกลวงของตัวตนของมนุษย์
ที่มานำเสนอให้แก่ชีวิตคุณหรือกายเนื้อของคุณ
คุณจงจำไว้ว่า จงมีอิสระในการเลือกทางเดิน
เพื่อก้าวสู่เส้นทางของการพัฒนาจิตวิญญาณให้สูงขึ้นไป

โรงเรียนแห่งชีวิตบนโลกใบนี้พร้อมที่จะส่งเสริมสมาชิกให้สู่เส้นทางที่สูงขึ้น
และใกล้สู่ความสำเร็จบนเส้นทางของ “ผู้รู้แจ้ง”
ที่จะมาส่งมอบแรงบันดาลใจให้แก่มนุษยชาติตลอดยุคนี้
คุณจะได้รับรู้มากขึ้น มีปัญญาเพิ่มขึ้น
และจะมีประสบการณ์ในเรื่องความกล้าหาญ
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ

ส่วนคุณสมบัติของ”ความรัก”ที่คุณได้โอบกอดไว้
จะนำทางคุณไปสู่การค้นพบที่มาของคุณ
ด้วยต้นกำเนิดแสงสว่างในตัวคุณเอง
และบทบาทที่คุณยังคงต้องรักษามันไว้ในขณะนี้...
คือ"การส่องแสงสว่างแห่งความรัก และ ความสุข ให้กับโลกใบนี้"...(that's it!=ผู้แปล )


Until next week….
I AM Hilarion

 

หนทางข้างหน้ายังไม่ชัดเจนเลย เหมือนไฟหน้ารถที่ส่องไปเรื่อยๆไม่รู้จะไปถึงไหน

 

ใช่ครับ ผมก็คิดและรู้สึกอย่างนั้น และก็ขอเดาว่าคุณkamton(คำตัน หรือเปล่าครับ เคยมีเพื่อนชื่อนี้) คงมีเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกได้แบบเดียวกันนี้ แต่อาจแตกต่างในรายละเอียด
ส่วนเรื่องความฝัน ก็มีเหมือนกัน(อาย ไม่อยากเล่า)อาจจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเองก็ได้ เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง ฝันถึงคนที่ไม่เคยรู้จัก รู้แต่ว่าผมชอบเขามาก
ตื่นขึ้นมาเป็นเหตุให้ ไปดูดวงไพ่ทาโรห์ ไพ่สิบใบ หนึ่งในนั้นเป็นไพ่ สามถ้วย
แต่ที่ชอบใจจริงๆคือ Knight of Wands กับ The Emperor
และก็ที่ผมคิดไว้ในใจนะ อาจไม่ได้หมายความถึงคู่ครอง แต่อาจหมายถึง ตัวตนที่แท้จริง การมาของงานหรือเรียนรู้สิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา อะไรประมาณนั้นนะครับ
(ดูดวงแบบอื่นไม่ชอบ ไม่แม่น ไพ่ทาโรห์แม่นกว่า ดูเอง ตีความเอง งงเอง )

 

:love:มากล่าวทักทายสวัสดี ทุกๆคนอันเป็นที่รัก ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแล้วอย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ^3^"


แล้วก็.. ราตรีสวัสดิ์ค่ะ sleeping_rb^^

 

ภาษาข้อความของ Hilarion รอบนี้
ไม่แน่ใจว่าเป็นภาษาอังกฤษยุค New age หรือเปล่า...งัดแทบแย่...
ต้องจุดธูปด้วย จึงแปลได้...(ล้อเล่น)...
แต่ขอบอกล่วงหน้าไว้ก่อนเลยว่า หากรอบหน้ามาภาษานี้อีก...
คงต้องคุณชยุตไปว่ากันเอาเองละนะ...

เรื่องการแปลบทความเหล่านี้...ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า
การแปลในเรื่องที่เรารู้ เราเข้าใจ...
ก็จะว่าออกมาได้ดีกว่าเรื่องที่เรายังรู้ไม่มากพอ...หรือไม่รู้เลย
ยิ่งหากโชคดีมีผู้ให้คำปรึกษาและพอหารือกันได้
ก็จะยิ่งเกิดประโยชน์ขึ้นมากกับทุกฝ่าย...
(เรื่องการปรึกษาหารือนี่...ego แต่ละคนเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ
ที่ต้องมีให้น้อยที่สุด จึงจะได้ประโยชน์ร่วมกัน)

เรารู้สึกโชคดีที่คุณชยุตได้เปิดโอกาสและให้คำปรึกษาเรื่องนี้มาแต่ต้น
จึงทำให้พอช่วยแปลได้ในระดับหนึ่งอย่างที่เห็นกันอยู่นี่แหละ...

ยังไงๆ ก็ขอเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจในเรื่องประเภทนี้ มาลองหัดแปลกันดูซิ...
ซึ่งรับรองได้ว่า คุณชยุตไม่ปฏิเสธที่จะให้คำปรึกษาเป็นแน่...
และยังได้ฝึกจัดการกับ ego ฟรี ๆด้วยนะ...
เพราะในต่างประเทศ ค่าฝึกเรื่องนี้...
อาจทำให้กระเป๋าสตางค์ใครบางคน
ทะลุสู่มิติใหม่ไปเลยทีเดียวเขียวนะ...จะบอกให้)

 

บางส่วนของข้อความถึงนาง Blossom Goodchild

วันที่: 6 ตุลาคม 2013

ที่มา:
Blossom Goodchild - October 6, 2013



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ต่างมิติ:

สวัสดีตอนเช้า..ตอนเช้าในมุมมองของพวกคุณ แต่สำหรับพวกเราแล้ว พวกเราอยากจะพูดว่า สวัสดีเฉยๆก็พอ

สิ่งที่พวกคุณจะต้องพยายามทำความเข้าใจก็คือ มันมีกลิ่นไอของความคาดหวังวนเวียนอยู่เสมอ
เพราะว่าภายในแต่ละชั่วขณะที่เกิดใหม่ขึ้นมานั้น จะมีบางสิ่งบางอย่างที่ยอดเยี่ยมถูกสร้างขึ้นมา
ตามความปราถนาและความประสงค์ของพวกคุณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้พวกคุณคงรู้กันแล้ว

และพวกเรายังจะพูดอีกว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
มันจะเป็นอะไรที่ จะทำให้พวกคุณยิ่งกว่าประหลาดใจซะอีก
มันจะเป็นอะไรที่เกินกว่าความคาดหมายของพวกคุณซะอีก
มันจะเป็นอะไรที่ มากกว่าการยกระดับพลังงานให้สูงขึ้นซะอีก
และมันจะเป็นอะไรที่ เกินกว่าที่พวกคุณ
จะสามารถบูรณาการให้เข้ากับมันได้ด้วยซ้ำไป

มันจะเป็นอะไรที่ มากกว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
เพราะว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
จะไปเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง

พวกเรากล่าวถึงมันในรูปแบบการใช้ภาษาของพวกคุณ
เพื่อให้พอมองเห็นว่า “เหตุการณ์” ที่ว่านั้น ควรจะเป็นอย่างไร

แต่พวกเราก็ยังอยากจะบอกอีกว่า
สิ่งที่พวกเรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้
“เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เท่าที่มนุษยชาติเคยประสบพบมา”

....

Blossom: เฮ้..เฮโล่..พวกเราไม่ได้กำลังคุยกันแบบนี้อยู่เหรอ?
ที่พวกคุณบอกว่ามันใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว แล้วดิฉันก็พูดว่า
“คำว่าใกล้ตามกรอบเวลาของพวกคุณหนะ คืออะไร”?


ต่างมิติ:

ถ้างั้นพวกเราก็จะขอแนะนำว่า สิ่งที่พวกเรารู้อยู่นี้ พวกคุณก็รู้อยู่แล้วเช่นเดียวกัน
เพียงแต่พวกคุณจะต้อง “รู้สึก” ถึงความน่าทึ่งของมันให้ได้ทุกๆวัน หรือทุกๆชั่วขณะเท่านั้นเอง
พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่ามันคืออะไร เพราะว่าพวกคุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่ามันคืออะไร
เพราะว่ามันไม่มีคำศัพท์ที่จะใช้อธิบายได้

แต่ว่า..ถ้าพวกคุณยินยอมให้ความคิดนี้ ความคิดที่ว่าเหตุการณ์นี้
“มันกำลังจะมาถึงแล้ว มันใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว” อยู่ในทุกๆความคิดของพวกคุณเองแล้วหละก็
แล้วก็ยินยอมให้ความสุขความเบิกบานมีอยู่ในหัวใจของพวกคุณ
แล้วก็ยินยอมให้รอยยิ้มมีอยู่บนดวงตาของพวกคุณ
และเมื่อนั้น พวกคุณก็จะไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเลยว่า มันจะเกิดขึ้นจริงๆวันไหน, เวลาไหน หรือปีไหน

....

ต่างมิติ:

...แน่นอนว่า ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าในแง่บวกหรือในแง่ลบก็ตามแล้ว
มันก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละคนทั้ง 100% ว่าจะตอบสนองต่อ “การเริ่มต้นใหม่” นี้อย่างไร

พวกเราอยากจะบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ที่พวกคุณถูกบอกกล่าวมาโดยตลอด
หลายครั้งหลายหนแล้วว่า “พวกคุณกำลังเลื่อนระดับขึ้นอยู่” นะ
และที่บอกว่า “การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” นะ
และที่บอกว่า “กำลังมีพลังงานที่มีระดับคลื่นความถี่สูงกว่าหลั่งไหลเข้ามายังโลกอยู่” นะนั้น
ก็แสดงว่า พวกคุณได้ถูกบอกกล่าวไปแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างเมื่อเร็วๆนี้..และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

แต่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทำไปแล้วทั้งหมดนี้
ก็เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมให้กับจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
สำหรับ “เหตุการณ์ในครั้งนี้” ทั้งสิ้นเลย
เพื่อให้ตัวตนของพวกคุณเอง สามารถที่จะรับมือ
กับ “พลังงาน” ที่จะมาถึงในช่วงเวลานั้นได้

พวกเราได้เคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ชาวโลกบางคนจะไม่สามารถรับมือกับมันได้
แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดของพวกเขาแต่ประการใด เพราะว่ามันไม่มีอะไรผิด
เพราะว่ามันเป็นแค่กระบวนการเคลื่อนเข้าไปสู่ “การเริ่มต้นใหม่” เท่านั้นเอง

และพวกเราก็เชื่อว่า มีบางคนที่ได้พูดถึง “ระยะตั้งครรภ์” ไปแล้ว

....

ต่างมิติ:

...ผู้ที่พูดถึง “การเกิดของโลกใหม่” นั้น บางคนก็บอกว่า ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในโลกใหม่เรียบร้อยแล้ว
แต่พวกเราขอเลือกที่จะพูดว่า พวกคุณควรจะได้อยู่ในโลกใหม่ เมื่อ “เหตุการณ์นั้น” เกิดขึ้นแล้ว
เพราะว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น จะกลายไปเป็นเหมือนกระดานวาดเขียนแผ่นใหม่ ที่สะอาดเอี่ยมอ่อง
เพราะว่ารอยขีดเขียนต่างๆได้ถูกลบทิ้งไปหมดแล้ว

มันจะเป็นเวลาที่พวกคุณจะได้แสดง “ความเป็นตัวตนที่แท้จริง” ของตัวเองออกมาได้อย่างสบายๆซะที
มันจะเป็นเวลาที่จะ “ไม่สามารถมี” ความไม่สอดคล้องเกิดขึ้นได้อีกแล้ว
เพราะว่ามันจะมีแต่สิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของพวกคุณเท่านั้น

มันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย แต่ว่าพวกคุณจะได้พบว่าตัวเอง
ได้อาศัยอยู่ในที่ๆมีระดับความสั่นสะเทือนที่สอดคล้องกับระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของตัวเอง
พวกคุณจะได้อยู่ร่วมกับ และอยู่ท่ามกลางผู้ที่มีความเหมือนกัน
เพราะว่านั่นจะทำให้การสื่อสารทางโทรจิตที่จะเกิดขึ้นตามมา มีประสิทธิภาพดีกว่า
ซึ่งก็จะนำพาความแปลกใหม่มาสู่ทุกผู้ทุกนาม เพราะว่าการสื่อสารแบบใจถึงใจแบบนี้
จะเกิดขึ้นตามมา โดยอาศัยการมองผ่านแค่แว๊บเดียว ก็จะเข้าถึงจิตวิญญาณได้แล้ว

จิตวิญญาณที่รักทั้งหลาย ตอนนี้พวกคุณกำลังรู้สึกว่า แม้ว่ามันจะยังมีความหวังอยู่ข้างในก็ตาม
แต่มันก็เหมือนกับว่า ภายนอกนั้น มันช่างมีความหวังอยู่น้อยนิดเหลือเกินด้วย

และไม่นานมานี้เอง ที่พวกเราได้บอกพวกคุณไปว่า ให้เปลี่ยนคำว่า ”ความหวัง” ไปเป็นคำว่า “รู้” เสีย

ดังนั้น ในวันนี้พวกเราก็จะขอให้พวกคุณ “รู้” อีกครั้งหนึ่ง
ว่า..สิ่งที่พวกเรากำลังบอกพวกคุณอยู่นี้
มันจะต้องสำฤทธิ์ผลแน่ๆ เพราะว่ามันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
เพราะว่ามันคือบัญชาจากเบื้องบน

แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆด้วย ที่พวกคุณจะต้องเกาะ “ความรู้”
ที่อยู่ภายในอันนั้น เอาไว้ให้แน่นด้วย

Blossom: แล้วถ้าพวกเราไม่ทำอย่างงั้นหละ..ถ้าพวกเรายอมแพ้ต่อคลื่นความถี่
ของพลังงานด้านลบที่กำลังโหมกระหน่ำพวกเราอยู่นี้หละ?


ต่างมิติ: มันก็จะทำให้พวกคุณช้าลงไปอีกนิดหน่อย
เพราะว่าสิ่งใดที่พวกคุณคิด สิ่งนั้นแหละคือสิ่งที่พวกคุณจะกลายไปเป็น
และนี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะเตือนความทรงจำของพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า

“พวกคุณคือผู้ที่เข้มแข็งที่สุด
ในบรรดาผู้ที่เข้มแข็งทั้งหลาย”

แม้ว่าบางครั้งพวกคุณอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นเลยก็ตาม
แต่ว่า..นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม
พวกคุณแต่ละคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ จึงได้ถูกเลือกมาหละ

(ถูกเลือกให้ลงมาเกิดบนโลก เพื่อช่วยเหลือ
ในกระบวนการยกระดับขึ้นของโลกและมนุษย์โลก - ผู้แปล)

ประโยคสุดท้ายนี้มีความหมายต่อพวกคุณบ้างไหม?

พวกเราขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า
“พวกคุณคือผู้ที่เข้มแข็งที่สุด
ในบรรดาผู้ที่เข้มแข็งทั้งหลาย”
นี่แหละคือเหตุผลที่พวกคุณได้มาอยู่ที่นี่หละ

ส่วนอุบายด้านลบที่ว่านั้น (พูดถึงคลื่นความถี่ของพลังงานด้านลบที่นาง Blossom กล่าวถึง – ผู้แปล)
ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเกมๆนี้เท่านั้นเอง จงเอาชนะมันด้วยสติปัญญา!

เพื่อนๆที่รักทั้งหลาย ไม่มีอะไรเลย ไม่มีสิ่งใดเลย
ที่จะมามีอำนาจเหนือพวกคุณได้
ไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว
ยกเว้นแต่ว่าพวกคุณจะ “เลือก” ที่จะเชื่อแบบนั้นเท่านั้นเอง

มันง่ายอย่างนั้นเลยหละ

ดังนั้น จงนำเอาพลังอำนาจของตัวเองกลับคืนมา
และจงเป็นมัน..จงใช้มันเสีย

Blossom: อย่างที่ดิฉันได้เรียนไปแล้วว่า ฉันเห็นภาพนิมิตรว่า มีกองทัพขนาดใหญ่
จำนวนหลายพันหลายหมื่นคน ซึ่งแถวหน้าของพวกเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเส้นชัย
และฉันก็รู้สึกว่า พวกเขาแค่ต้องการคำสั่งหรือสัญญาณว่า “ไป” เท่านั้นเอง
แล้วพวกเขาก็จะเริ่ม “ก้าวเดิน” ออกไปสู่เส้นชัยเส้นนั้นทันที แล้วพวกเขาก็จะมีชัยชนะ!


ต่างมิติ: จงเตรียมตัวให้พร้อมไว้พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงพร้อมอยู่เสมอ
จงพักผ่อนในขณะที่พวกคุณยังคงสามารถทำได้ เพราะว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
จะทำให้วิถีชีวิตของพวกคุณเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

Website: Blossom Goodchild
.........................................

 

อ่านบทความนี้แล้ว รู้สึกตื่นเต้นและฮึกเหิมดีจริง ๆ

ขอบคุณมากครับ ที่เอามา Post ให้อ่าน

 

ช่วงนี้กำลังยิ้มรอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยความตื่นเต้น รู้สึกว่าใกล้มากแล้วจากประสบการณ์ที่เกิดกับตัวเอง แถมเมื่อคืนได้นอนมากที่สุดในรอบปีเลย

 

มันเป็นความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่ามันใกล้มากๆแล้ว
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวจริงๆ (ทั้งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร)
ขอขอบคุณสำหรับทุกความรู้สึกทุกมิตรภาพที่เรามีให้กันค่ะ

 

แม้ว่าบางครั้งพวกคุณอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นเลยก็ตาม
แต่ว่า..นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม
พวกคุณแต่ละคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ จึงได้ถูกเลือกมาหละ

คนที่กำลังอ่านข้อความนี้ถูกเลือกมา ช่วยขยายความทีครับ ขอบคุณครับ

 

มันจะมีมนุษย์โลกกลุ่มหนึ่ง
ที่ลงมาเกิดบนโลกใบนี้
ด้วยพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณพิเศษ
คือการมาช่วยยกระดับพลังงานของโลกขึ้น
ในช่วงเวลาสำคัญแห่งการเลื่อนระดับขึ้นแบบนี้

คือในยุคที่เรากำลังอยู่นี้แหละครับ
ซึ่งคนกลุ่มนี้ เขาเรียกรวมๆว่า Light worker
แต่ถ้าแยกย่อยออกไปอีกก็จะมีพวก star seed
Crystal, Indigo หรืออะไรทำนองนั้นอีก

รวมๆแล้ว ตามข้อมูลของครายออน
ก็จะราวๆ 5% ของประชากรโลกทั้งหมด

ซึ่งคนพวกนี้ เดิมทีก็คือมาจากมิติที่สูงกว่า
หรือมาจากกลุ่มดาวอื่นๆ เช่น กลุ่มดาวลูกไก่
กลุ่มดาวซิริอุส กลุ่มดาวอาร์คทูเรียน เป็นต้น

และเพราะว่า มันเป็นภาระกิจพิเศษ
ที่มีความยิ่งใหญ่ระดับจักรวาล
และเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของจักรวาล
ที่ไม่มีเหตุการณ์ครั้งไหนเคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน

คือ มันเป็นการเลื่อนระดับขึ้น ของโลก
และของมนุษย์โลกเองด้วย ที่จะไปทั้งกายเนื้อแบบนี้
(แต่จะเปลี่ยนกายเนื้อไปเป็นกายคริสตัลไลน์)
โดยที่ไม่ต้องตายก่อน แล้วค่อยไปได้ เหมือนแต่ก่อน
เพราะว่ามันเป็นการทดลองร่วมกัน
ระหว่างกลุ่มคนที่อาสาลงมาเกิด กับเบื้องบน
ดังนั้น จึงมีสิ่งมีชีวิตจากกลุ่มดาวเหล่านี้
อาสากันมาช่วยโลกมากมาย จนเกินจำนวนที่ต้องการ

ดังนั้น สหพันธ์แห่งกาแล็กซี่เลยต้องคัดเลือกเอา
เฉพาะผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด
ซึ่งก็คือผู้ที่มีความแข็งแกร่งที่สุด
อย่างที่เขาว่านี่แหละครับ ให้ลงมาเกิด

และคนเหล่านี้ ก็จะมีรหัสแห่งการตื่นรู้
และรหัสเกี่ยวกับภาระกิจของตัวเอง
บรรทึกเอาไว้ใน DNA ของตัวเองอยู่แล้ว

ดังนั้น คนพวกนี้จึงมีตัวตนที่สูงส่งกว่า
หรือจิตวิญญาณของพวกเขาเอง
หรือเทพผู้นำทางของพวกเขาเอง
คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ และ
คอยดลจิตดลใจ คอยสร้างสถานการณ์
ให้ได้เจอกับบททดสอบที่ตัวเขาเองได้เลือกไว้
เพื่อเป็นกลไกในการตื่นรู้ของพวกเขาเอง
เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาได้เลือกเอาไว้แล้ว

และรวมถึง ก็จะถูกดลใจ หรือชักนำมา
ให้ได้เจอกับข้อมูลต่างๆ ที่จะทำให้ตื่นรู้ขึ้นมาได้ด้วย
เช่น ข้อมูลจากต่างมิติเหล่านี้เป็นต้น

จะมีคนเพียงไม่กี่คนหรอกครับ
ที่จะอ่านข้อความพวกนี้แล้ว จะรู้สึกชอบ
และรู้สึกลึกๆอยู่ภายใน ว่ามันเหมือนมีอะไรอยู่ในข้อความพวกนี้
หรือไม่ก็ รู้สึกว่า มันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเองอยู่
แม้ว่าในช่วงแรกๆอาจจะรู้สึกว่า
มันไม่น่าเชื่อ เพราะเหมือนนิยายเกินไป ก็ตาม

แต่ก็ไม่วายที่จะถูกดึงดูดให้ติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆ
จนได้คำตอบอะไรบางอย่าง ที่โหยหามานานแล้วเข้าจนได้..

ในข้อความจากต่างมิติทุกๆข้อความ
ถ้าเป็นของจริง ท่านบอกว่า มันมีพลังงานแฝงอยู่ด้วย
ซึ่งมันจะเข้ากันได้กับคนบางคนเท่านั้น
ดังนั้น นี่แหละคือที่มาของ "แรงดึงดูด" ให้อยากมาอ่านหละครับ

และที่สำคัญ ข้อความจากต่างมิติพวกนี้
มันก็เป็นประเภทเนื้อหาทางด้านจิตวิญญาณซะด้วย
ดังนั้น ใครก็ตาม ที่ไม่มีความสนใจด้านจิตวิญญาณเลย
ก็จะไม่มีวันคลิกเข้ามาอ่านข้อความแบบนี้
หรือแม้กระทั่งเวปไซต์ประเภทนี้ด้วยซ้ำไป

สรุปว่า ข้อความมันก็คัดเลือกคนอ่านของมันเอง
พอๆกับที่คนอ่านคัดเลือกข้อความที่จะอ่านนั่นแหละครับ

ปล.อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลนี้ด้วยนะครับ
ผมก็สรุปสั้นๆ แบบรวบยอด
อามาจากสิ่งที่ได้อ่านมาเหมือนกันครับ

......................................

 

ขอบคุณครับ ตอบไวมากๆ

 

จงพักผ่อนในขณะที่พวกคุณยังคงสามารถทำได้ เพราะว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
จะทำให้วิถีชีวิตของพวกคุณเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

จะตีความตรงนี้ว่าดีหรือร้าย ดูน่ากลัวจัง

 

ไม่น่าล่ะ ... บางข้อความ อ่านแล้วรู้สึก อบอุ่นหัวใจ บางข้อความอ่านแล้วรู้สึกเหมือน รู้ ว่านี้คือคำตอบ(แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน ยิ่งเรื่องของ ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข นับว่าเป็นโจทย์ยากข้อหนึ่งเลย catt19) แปลกจริงๆนั้นล่ะค่ะ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาพบเจอข้อความต่างมิติเหล่านี้ แล้วที่เเปลกไปกว่านี้มันก็มีเหตุการณ์ ที่ชักนำให้มาสนใจเรื่องเหล่านี้(โดยเฉพาะเรื่องความฝันน่ะค่ะ ปกติคิดว่าน่าจะมีเซ้นส์เกี่ยวกับความฝันอยู่แล้วด้วย)

ขอบคุณทุกๆคนจากหัวใจอีกครั้งนะค่ะ ความรู้สึกมันเกิน บรรยาย บอกได้คำเดียวว่า จากใจ ถึงใจ จริงๆค่ะ

..ราตรีสวัสดิ์ค่ะB_with_U

 

ขอเพิ่มเติมความเห็นจากข้อความของนาง Blossom Goodchild
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2013 และข้อความที่คุณชยุตว่าข้างบนนี้...

ในข้อความของนาง Blossom Goodchild
ที่ว่าให้เปลี่ยนคำว่า "หวัง" เป็น "รู้" นี่ ดูมีความหมายมากทีเดียว...
เพราะระยะนี้ข้อความส่วนใหญ่ รู้สึกได้ว่าคล้อยตามกัน
คือบอกแต่ให้ตั้งตารอสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงที่มันยิ่งใหญ่อลังการมากทำนองนั้น...

แต่เมื่อมีข้อความของคำว่า เปลี่ยน "หวัง" ให้เป็น "รู้"...
ซึ่งน่าจะเป็นการเตือนผู้รับข้อมูลว่า...
มันไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่ว่าอลังการนี่นะ...
เพราะแต่ละคนต่างก็มีเงื่อนไข คุณสมบัติที่ต่างกัน...
ไม่ใช่ให้ทุกคนตั้งตาหวังและสุดท้ายก็ผิดหวังว่า
ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย หรือ แค่นี้นี่นะ ที่ว่าอลังการ...อะไรทำนองนี้...
นี่ก็สืบเนื่องมาจากความต่างของ highter self ของแต่ละคน...
ทุกคนมี highter self ด้วยกันทั้งนั้น
เพราะคุณเป็นผู้สร้าง highter self นี้ขึ้นมาเอง
และ highter self ที่เขาว่า ก็คือความดี ความรักหรือบุญ ทานที่คุณได้สะสมไว้นั่นเอง
ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมไม่เท่ากันอย่างแน่นอน...
ส่วนhighter self จะออกสตารท์ได้
ก็ต่อเมื่อกระบวนการขจัดเครื่องกีดขวางทางของการส่งผลนั้นสิ้นสุดลง
ไม่ว่าจะเป็นการสิ้นสุดแบบชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม ...
และการเปิดทางให้ highter self นี้
ไม่ว่าจะเปิดนิดนึงหรือเปิดกว้างสุดขอบทาง
ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยของแต่ละคน
ซึ่ง highter self ก็ส่งผลได้ทั้งนั้น...
และนี่คือเงื่อนไขบางส่วน(อธิบายอย่างย่อ)ของแต่ละคน
ในเรื่องความไม่เท่าเทียมกันของผลที่ส่งจาก highter self

แต่ที่ทุกสำนักให้ความสนใจคือ จุดตายของการเปิดทางให้ highter self
นั่นก็คือด่านท้าย ๆ ซึ่งบางคนต้องต่อสู้หรือต้องเจอกับด่านโหด ๆ
ว่าถึงความเป็นความตายกันเลยก็มี ทั้งกายและจิต
ซึ่งก็มีบ้างที่ไม่ผ่านด่านโหดๆนี้ในชีวิตนี้ ก็ต้องไปผ่านในชีวิตหน้าต่อไป...
และนี่เป็นที่มาของข้อความที่หลายสำนักออกมาเตือนกัน
ในเรื่องความ "แข็งแรง"และ "เข้มแข็ง" ...

จริง ๆ เรื่องเหล่านี้มิใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ...
เป็นเรื่องที่หลายศาสดาได้กล่าวไว้แล้วทั้งนั้น
แปลกไปก็แต่การใช้ภาษา.แนวการสื่อ และคนละยุคสมัยเท่านั้น...
แต่เป้าหมายล้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งสิ้น...
เพราะต่อให้พูด ให้ฟัง ให้รู้ในเรื่องอย่างนี้กันอีกกี่อสงไขย..
จุดหมายปลายทางก็คือ "กลับบ้าน" กันทั้งนั้น...
ซึ่งทุกศาสนาในโลกนี้ ก็บอกกันมาหลายพันปีแล้ว...
ส่วนใครที่ยังอยากเที่ยวอยู่ หรือยังไม่อยากกลับก็เลือกได้เช่นกัน
แต่ "ผู้รู้"... ส่วนใหญ่ต่างก็รู้ด้วยตนแล้วทั้งนั้น...
"ว่าเวลาใดที่เขาต้องกลับบ้านแล้ว"...

อจิตตะ...
CA...8 Oct 2013

 

ตามความเข้าใจของผม ในประเด็นที่เกี่ยวกับ
การเปลี่ยนคำว่า "หวัง" เป็น "รู้" นี่
ผมมีความเข้าใจที่แตกต่างไปเล็กน้อยนะครับ

เพราะว่าผมสังเกตเห็นข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย
ที่ผมแปลมาตลอดนี่ พวกเขาจะใช้คำว่า Allow,และ Let
อยู่ตลอดเวลาเลย ซึ่งแปลว่าจงยินยอมให้ หรือ จงปล่อยให้...

ซึ่งตามเนื้อหาที่เขาต้องการสื่อ เท่าที่ผมสัมผัสได้และเข้าใจก็คือ
ถ้าเขาใช้คำพวกนี้กับ "ตัวเราเอง" เช่น จงยินยอมให้ตัวเอง...
มันก็จะออกมาในแนวๆของเรื่องๆนั้นๆหนะ มันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว
หรือเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า
ตัวเราเองต้องยินยอม ต้องอนุญาตให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองเท่านั้นเอง

เช่น เรื่องที่ข้อความที่นาง Blossom โพสต์ไว้นี้ก็เช่นกัน
ที่บอกว่าให้เปลี่ยนคำว่าหวัง เป็น รู้ แทน
ผมก็เข้าใจในทำนองนี้เหมือนกันว่า เรื่องนี้หนะ
คือหมายถึงเรื่องเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ตามที่เขากล่าวอ้างมานี้หนะ ในระดับจิตวิญญาณแล้ว
พวกเราทุกๆคน ก็รู้ดีถึงรายละเอียดทุกอย่างของมัน
เหมือนๆกับที่พวกเขารู้นั่นแหละ (บางส่วนของข้อความนี้
ผมไม่ได้แปลหนะนะครับ แต่ถ้าอ่านฉบับเต็ม จะรู้ว่าเขาพูดแบบนี้)

ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ ยินยอมให้ตัวเองรู้
หรือยินยอมให้ตัวเองจดจำมันให้ได้เท่านั้นเอง

ดังนั้น อย่าไปตั้งความหวังกับมัน เพราะว่าคำว่าหวังหนะ
คือเรื่องของอนาคต คือสิ่งที่เราไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นหรือเปล่า
ซึ่งจะต่างกับคำว่ารู้ เพราะว่ารู้ว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ๆ อันนั้นต่างกันมาก
รู้ คือเรื่องของปัจจุบันขณะ และ ปัจจุบันขณะ
ก็คือจุดที่พวกเราจะมีพลังอำนาจมากที่สุดเสมอมาด้วย

และประกอบกับ ตามกฎแห่งการเนรมิตรแล้ว
ถ้าเราเนรมิตรออกมาจากความรู้ คือเชื่อมั่น 100%
กับเนรมิตรออกมาจากความหวัง คือไม่เชื่อมั่นเท่าไหร่
ผลที่ได้ก็จะต้องแตกต่างกันแน่นอน

ตามความรู้สึกของผม บางทีข้อความจากต่างมิติ
ก็เป็นอะไรที่ออกมาในแนวๆ concept ซะมากกว่า
คือ มันมีกฎแห่งการสร้างสรรค์อยู่ว่า

ความคิด + อารมณ์ความรู้สึก = สิ่งที่จะถูกสร้างสรรค์ออกมา

ดังนั้น เพราะว่าความเป็นไปของโลกเรา
จะมีก็แต่มนุษย์โลกเราเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดได้
ดังนั้น หลายครั้ง พวกเขาจึงให้ concept เรามา
เพื่อสร้างสรรค์เหตุการณ์นั้น เหตุการณ์นี้ขึ้นมา
ให้ปรากฎออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราให้ได้
ซึ่งก็ต้องอาศัย "ความคิด" ของพวกเราก่อนเป็นอันดับแรก

ดังนั้น พวกเขาก็จะมาหยอด หรือ หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความคิด
เกี่ยวกับ concept ของเรื่องนั้นๆเอาไว้ให้เราก่อน
ซึ่งรวมถึงเรื่องการเลื่อนระดับขึ้นนี้ด้วย
เพื่อให้เราเริ่ม "มีความคิดเกี่ยวกับมัน" ก่อน

หรือไม่ก็มา "เตือนความทรงจำ" ให้เรา "รู้"
หรือให้เรา "เริ่มคิดถึง" สิ่งที่เรา "ลืม" อะไรแบบนั้นหนะครับ

แล้วจากนั้น พวกเขาก็จะช่วยนำพาพวกเรา
หรือช่วยพวกเราประคองแนวคิดนั้นไปจนตลอดรอดฝั่ง
อะไรแบบนั้นหนะครับ

ส่วนเรื่องการ "ยินยอมให้ตัวเองจดจำให้ได้" นี่
เป็นคำที่ผม และอาจจะมีอีกหลายคนที่เหมือนผม ปวดใจมาก
เพราะว่ามันจะทำยังไง ถึงจะทำให้ "จดจำ" สิ่งที่ในตอนนี้
เรารู้สึกว่า เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับมันเลย ได้

คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่า คำตอบมันก็น่าจะอยู่ที่การปฏิบัติอีกนั่นแหละ
คือยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเราเองขึ้น
จนอย่างน้อยคลื่นสมองอยู่ในระดับแอลฟ่าขึ้นไป
เพื่อที่จะได้เริ่มรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากตัวตนที่สูงกว่าของเราได้ชัดขึ้น
และเมื่อการดาวน์โหลดมันเป็นไปถึงระดับหนึ่งแล้ว
เราก็คงจะรู้เอง เห็นเอง จากตัวตนที่สูงส่งกว่าของเราเอง
หรือจากจิตวิญญาณของเราเอง อะไรแบบนั้นกระมังครับ



..................................................

 

พอพูดถึง "การมาเตือนให้จำได้" นี่ ผมก็เลยนึกแว๊บขึ้นมาทันที
ถึงอะไรบางอย่างที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว

มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับถูก "เตือนความทรงจำ" ครั้งแรก
โดยผู้อันเป็นที่รักของเราคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

คือเมื่อปี 2007 ผมได้อ่านหนังสือชุดหนึ่ง ที่คุณ mead แนะนำให้
ผ่านทางเวปพลังจิตนี่แหละครับ คือ หนังสือชุดนั้นก็คือ "โนวา อนาลัย"

มันเป็นหนังสือแนวนิวเอชชุดแรกของเมืองไทยที่ผมอ่าน
แล้วก็มีประสบการณ์ประทับใจมากหลายๆอย่าง

ตอนนั้นผมซื้อมาทีเดียวครบทั้ง 10 เล่มเลยครับ
แล้วก็เริ่มอ่านเล่มแรกก่อน ชื่อ "ธรรมชาติของชาติภพ"



พอเริ่มอ่านหน้าแรกๆ ผมก็สะดุดตรงคำพูดหนึ่งทันที
สะดุดแบบว่า มันซาบซึ้งเข้าไปถึงหัวใจเลยทีเดียว
แบบว่า..มันทำให้น้ำตาร่วงได้เลยทีเดียว..ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

เพราะว่า..มันเหมือนกับว่า ได้เจอผู้อันเป็นที่รักของเราแล้ว
ที่กลับมาเพื่อเตือนความทรงจำอะไรบางอย่าง ที่เราลืมไปแล้ว
ให้กับเราอย่างนั้นแหละครับ

คือท่านอาจารย์โนวา อนาลัย ท่านกล่าวว่า

...................................................

"เธอทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ผู้ใฝ่หาประสบการณ์ ในมิติของจิตวิญญาณ
แต่เธอคือจิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์ ในมิติของมนุษย์"

"ฉันเขียนหนังสือชุดนี้เพราะจิตวิญญาณของเธอ
ได้สัญญากับจิตวิญญาณของฉันไว้ว่า เมื่อเธอเลือกมาถือกำเนิด
เป็นร่างกายเนื้อหนัง และจดจ่อกับภาวะทางกายภาพ
จนกระทั่งจิตวิญญาณของเธอ ลืมเลือนพลังอำนาจของต้นกำเนิดไป
ฉันจะกลับมาช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้เธอ
เพื่อนำพลังอำนาจของเธอกลับคืนมา

ณ วินาที่นี้ที่เธอถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ
ฉันได้ทำตามสัญญาของฉัน และ เธอได้ทำตามสัญญาของเธอแล้ว"

โนวา อนาลัย
.................................................

ผมจำไม่ได้ว่าพอผมอ่านถึงข้อความตรงนี้แล้ว
ผมร้องไห้หรือเปล่านะครับ แต่ผมอึ้งไปนานเลยทีเดียว
แล้วก็หยุดอยู่ตรงนั้นเลย เอาหนังสือมาแนบกับอก
หัวใจสั่นสะท้านมาก..มันบรรยายไม่ถูกครับ
มันสัมผัสได้ถึงความรักอันไร้เงื่อนไขจากท่าน
ผู้ใช้ชื่อว่า โนวา อนาลัยนี้อย่างท่วมท้นไปหมด

และประกอบกับ มันก็มีความรู้สึกโหยหา อาลัยอาวรณ์
และคิดถึงที่ไหนซักแห่งอย่างมากมายท่วมท้นไปหมดด้วย
ที่ๆน่าจะเป็นที่ๆอบอุ่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และเอื้ออาธรต่อกัน
ที่ๆอาจจะเรียกว่า "บ้าน" ที่แท้จริงได้ อะไรแบบนั้นหนะครับ

พูดแล้วก็ขนลุก ตอนนี้ก็ยังรู้สึกถึงความรักจากท่าน
อบอวน วนเวียนไปรอบๆกายและจิตอยู่เลยครับ

.................................................

About Nova Analai

"ฉันคือ โนวา อนาลัย - ครูบาอาจารย์ ผู้ปราศจากร่างกายตัวตน
แต่เต็มไปด้วยบุคลิกภาพ ฉันมาสู่มิติของโลกมนุษย์
เพื่อทำให้เธอทั้งหลายเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้
และตระหนักได้ว่า เธอทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์
ผู้ใฝ่หาประสบการณ์ในมิติของจิตวิญญาณ
แต่เธอคือจิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์ในมิติของมนุษย์"

ปล.
ดาวน์โหลดหนังสือได้ที่
Book1
Book2
Book3
Book4
Book5


หากท่านได้ประโยชน์และเห็นคุณค่าของหนังสือชุดนี้
สั่งสือ E-book เพิ่มเติมได้ที่
Nova Analai's Books and Publications Spotlight

.......................................................