พระโพธิสัตว์เป็นพระอริยเจ้าได้ไหม ?

นิพพานชาตินี้กันเถอะ

เพราะสาวกแท้ๆ ส่วนใหญ่ได้นิพพานไปหมดแล้ว เหลือแต่เด็กฝาก จิตพวกนี้จะรู้สึกว่าตนเองใหญ่มากประมาณว่า มึงรู้ป่าวกูลูกใคร เจ้าของเขาส่งมาเรียนธรรมก็ดันมาอวดใหญ่อวดโต ธรรมแท้มีแต่จะเสริมกัน คนที่เขาได้จริงๆ เขาไม่โอ้อวด คุยข่มกันและกันหรอกครับ นอกจากเขาเห็นว่าถ้าไม่บอกหรือยอมรับจะมีโทษต่อคนมากจึงบอกออกมา ขนาดบอกออกมา เป็นพระก็ยังต้องอาบัติเลย
เนื้อแท้ของพุทธศาสนาคือ การปลดปล่อยความเป็นทาสในจิต เป็นทาสของเจ้านายทั้งหลาย เป็นทาสของกิเลสตัณหา เป็นทาสของใจตนเอง หลุดจากความเกี่ยวพันไปสู่ความเป็นอิสระ แต่คนทั้งหลายสมัยนี้ส่วนใหญ่ ยินดีในความเป็นทาส ดีใจที่ได้รับใช้เจ้านายใหญ่โต ส่วนบางพวกก็ยินดีที่จะทำให้คนพวกนี้ตกอยู่ในอาณัติของตน แล้วจะพ้นกันไปได้อย่างไรกัน

 

จะลูกหลานเหลนใครก็ช่างไมสำคัญ สำคัญที่ว่า ผิดหรือถูก แยกแยะได้ด้วยตนเอง มันมีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าสายไหน ผมเคยได้ สัมผัส มาทุกๆสาย แหละ มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ว่า สายหลวงปู่มั่น สายหลวงพ่อ สดวัดปากน้ำ สายพ่อ สังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม สายหลวงพ่อ อุตตะมะ วัดวังวิเวการาม สังขะ สายหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ขนาดรู้วารจิต ที่เราคิอยู ก็เห็นหลงตัวเอง พังเยอะแยะไป ผมเจอทั้งพระฆราวาส ทุกๆสาย เห็น คุยโตโอ้อวด เบ่งกันไปกันมา สายกูดีกว่า มึงไม่ดีเท่าสายกู เบ่งทัพสายนั้นสายนี้ ผมพยายามบอกว่า มาตลอดนะ เมื่อเข้าถึงธรรมแล้ว จะเหมือนกันหมด


จะอวดกันก็เพราะ พวก ไอ้ลูศิษย์นี่แหละ ที่ยังไม่ได้ อะไรกันนี่แหละ ชอบอวด ดูถูกกันไปมา ข่มกัน ผมจึงเข้ามาพูดบ่อยๆ ผมเองก็ยังมีอยู่ครบ แต่พยายามข่มใจให้เป็นกลาง แต่ก็อดไม่ได้ เพราะยังเป็นปุถุชนอยู่ อยากจะให้พวกท่าน เป็นกลางแล้ว ช่วยกัน จรรย์โรงพระศาสนา ช่วยกันประคบประหงม ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ทุกคน มีผิด เหมือนกัน แต่ทุกคนก็มีปัญญาเหมือนกัน เอามันออกมาใช้ประโยชนน์ ให้ถูกมากที่สุดที่จะทำได้ จนมันมีแต่ถูกๆอย่างเดียว ครับผิดแล้วแข้ไขครับ ไม่ใช่ตะแบงตลอดไปครับ ผิดถูกประการใด ต้องขอโทษด้วยครับ ทุกๆท่าน


แม้ ให้สาวกแท้ๆ ไปนิพพานหมดแล้วก้เถอะครับ ผลที่สุด มันก็อยู่ใน ศาสนาของพระสมณะโคดมเจ้า เป็นลูกพระตถาคต เหมือนกันหมดแหละครับ จะเป็นอื่นไปไม่ได้ครับ เพราะนี่ ยังอยู่ใน ศาสนาของพระองคื ท่าน ถึงแล้วคือธรรมอันเดียวกัน ลูกศิษย์ ค้านคำสอนครูบาอาจารย์แยอะแยะ ในสมัยพระพุทธเจ้า พระเทวกทัต พา ลูกพระพุทธเจ้า ไปเป็นบริวารเยอแยะ ที่ยังไม่ได้คุณธรรม ไปอ่านประวัติหลวงปู่หลุยดูได้ ท่านไปเชื่อพระเทวทัต จึงไปเป็นบริวารของพระเทวทัต จึงโดนเตะโด่งมากลางพุทธก่ลนี่ไง

 

ขออภัยครับท่าน

เอาแค่เนื้อวัสดุ..ขนาด..วัถุประสงค์

และงบประมาน..จะดีไหมครับ ?

แค่นี้ก็น่าจะเป็นที่เพียงพอต่อการให้

สาธุชนทั้งหลายได้พิจารณาแล้วกระมังครับ

พูดมาก..จะยุ่งยาก..ไปข่มใครต่อใครเขา

จะกลายเป็นไปยกตนข่มท่านเข้า..เรื่อง

ง่ายจะกลายเป็นยาก..และอาจลุกลาม

พาลล่าช้า..หรือไม่สำเร็จเอา..แล้วจะไปโทษ

ใครล่ะ " ไม่มีใครทำเราได้นอกจากตัวเราทำตัวเราเอง "

ที่อ่านมายังดีหรือปล่าวที่ยังเหลือ" พระพุทธองค์ไว้ตีเสมออีกพระองค์ "?.


หมายเหตุ ไม่ต้องไปอยาก..ให้ใครเขาเข้าใจอะไร? ขนาดนั้น!

สุดแล้วแต่จะพิจารณาครับ.

 

ประเด็น คือลุงมหาโหนกระแสภัยพิบัติ เพื่อสร้างพระใหญ่ โดยมหาโพธิสัตว์ใหญ่ 1ใน10 ลำดับอนาคตวงศ์

เท่าที่เคยอ่านจำได้คร่าวๆว่า ลุงมหาสื่อตามกระทู้ต่างๆว่า อ.ทิพากร คือ ลำดับที่10 หรือไงนี่ล่ะ
และลักษณะขององค์พระใหญ่ ที่กำลังสร้างก็บ่งบอกอยู่แล้ว

แต่ยังมีหนังสืออีกเล่มหนึ่งเท่าที่เสริชดู ที่ชื่อว่า "เปิดบุญ เผยกรรม หนึ่งเดียวในโลก"
โดยมีสารบัญ เกี่ยวกับ "เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการบำเพ็ญโพธิสัตว์
ผู้ปรารถนาพุทธภูมิของช้างปาลิไลยกะ" โดยนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่เคยอ่าน

ซึ่งจะเห็นได้ว่า ลำดับที่10 นั้น (อดีตช้างปาลิไลยกะ)
ครูบาอาจารย์บางท่าน สื่อมาว่าเป็น หลวงปู่อ่ำ วัดโสมนัสฯ ได้ละสังขารไปแล้วเมื่อ 19 มกราคม 2535
ครูบาอาจารย์บางท่าน ก็ว่าเป็น...

ลุงมหาจึงอ้างอิง คำหลวงปู่มั่น ซึ่งไม่รู้เท็จจริงอย่างไร ทำนองว่า
"เมื่อเฮาตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มเกิดขึ้น"
(ซึ่งแท้จริงแล้วประโยคลักษณะนี้
เป็นคำของหลวงปู่ขาว ที่เล่าสู่กันสนทนากันกับหลวงพ่อทูล ในลักษณะได้ยินได้ฟังจากหลวงปู่มั่น )
บุญวิถีแห่งข้าพเจ้า: 207: หลวงปู่ขาวเล่าเรื่องช้างเผือกให้ฟัง


และลุงมหา ก็สื่อมาว่าตามกระทู้ต่างๆ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับคำพยากรณ์มาแล้ว
"ต้องมีฤทธิ์ ถ้าไม่มีฤทธิ์ไม่ใช่"

ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านก็ยังเคลือบแคลง ว่าเป็นฤทธิ์ในลักษณะใด ในกลางวันแสกๆ
ตามที่ลุงมหาบอกกล่าวในลักษณะจิตวิทยา ตามกระทู้ต่างๆ

ส่วนเรื่องการทำบุญสร้างพระนั้น ไม่มีใครคัดค้านหรอก เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ ความแน่ชัดคืออะไร

เรื่องช้างเผือกหนุ่ม นั้นเป็นที่เล่าสืบต่อกันมานาน

อีกทั้งลุงมหาเคยบอกว่า (จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน)
ยุคนี้ พระโพธิสัตว์ที่รับพยากรณ์แล้ว ได้ลงมาจุติ มีเพียงองค์เดียว คือ อ.ของลุงมหา

เรื่องสร้างความดีเราสาธุนะ ถวายเป็นพุทธบูชา ก็ขอให้เข้าใจ
แต่ลักษณะข่มสายนั้นสายนี้ เพื่อวนลูปเข้ามา เราไม่อยากจะวิจารย์นะ เพราะเชื่อว่าผู้รู้จักพิจารณาคงดูออก

ก็แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ทำไมไม่มีใครสอบถามในลักษณะนี้ แล้วลุงมหาจะตอบกลับมาเช่นไร

 

เรื่องการเกิดภัยพิบัตินั้น มีความเห็นว่า เกิดก็ดี ไม่เกิดก็ดี

เกิดก็ดี อย่างไร? ก็ในคำทำนายต่างๆบอกไว้ว่า จะกวาดล้างคนไม่ดี คนดีมีศีลธรรมจะมีชีวิตรอด
ท่านว่าดีมั้ย ก็ต้องตอบว่าก็ดีสิคนไม่ดีจะได้ลดปริมาณลงได้
บ้านเมืองจะได้เจริญๆขึ้น มีปกติสุข ไม่ต้องวาดระแวงภัยคุกคามจากผู้ร้ายข้ามแดน และในแดน

ส่วน ไม่เกิดดีอย่างไร? ดี ที่จะไม่ต้องพบกับความสูญเสีย
เพราะหากเกิดภัยพิบัติ คนๆนั้น เมื่อมีชีวิตรอด ก็อาจจะตกที่นั่งลำบาก
ต้องประสบกับภาวะขาดแคลนหลายๆอย่าง ก็เป็นไปได้
แต่หากไม่เกิด คนดีคนชั่ว สัดส่วนยังคงเดิม ตามคำทำนายต่างๆ ที่เชื่อกันไปตามศรัทธา

ดังนั้น สำทับไม่เกิดดีอย่างไร คนๆนั้นก็ต้องตอบว่า
ดี จะที่จะได้ไม่ต้องประสบทุกข์ อวิชชาดับสิ้น ไม่ต้องวนเวียน เวียนวนในอยู่วัฏฏะ

 

อ้างอิงข้อความเดิมลุงมหา๑

ท่านอาจารย์ท่านยังได้บอกเล่าเรื่องพุทธทำนายอีกว่า

"พระสงฆ์ดูแลพระพุทธศาสนา 2500 ปี"

"เทวดา ดูแลอีก 1000 ปี"

"ผู้มีฤทธิ์ ดูแลอีก 1500 ปี"

"ก็จะครบ 5000 ปี พอดี"​

..... ผมเคยได้ยินแต่ท่านพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านกล่าวเอาไว้ว่า

ในพันปีแรก มากไปด้วยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ

ในพันปีที่สอง มากไปด้วยพระอรหันต์ฉฬภิญโญ

ในพันปีที่สาม มากไปด้วยพระอรหันต์เตวิชโช

ในพันปีที่สี่ มากไปด้วยพระอรหันต์สุกขวิปัสสโก

ในพันปีที่ห้า มากไปด้วยพระอนาคามี

..... แต่มีพระอรหันต์องค์หนึ่งคอยดูแลพระศาสนาจนครบห้าพันปีอยู่องค์หนึ่ง คือ พระอุตตระมหาเถระ ที่พระมหาโมคคัลลีบุตรมหาเถระส่งมาประกาศพระศาสนาครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชฉลองพระศาสนา ผมคิดว่านะครับลุงมหาพระพุทธเจ้าท่านไม่ฝากพระศาสนากับเทวดาหรือท่านผู้มีฤทธิ์หรือแม้แต่พระโพธิสัตว์หรอกครับ เพราะยังเป็นปุถุชน ยังไม่เข้าถึงธรรม พระพุทธศาสนาจะเจริญได้ก็ต้องมีพระอรหันต์และพระอริยเจ้าเป็นหลักคอยชี้แนะและผมคิดตามประสาคนโง่ๆนะครับ ตอนนี้ในประเทศไทยมีพระอรหันต์เกิน ๒๐ องค์ พระเสกขะบุคคลอีกหลายพันองค์
..... จริงหรือเท็จผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวครับ

 

ใครจะแข่งอะไรแข่งไปเถิด
อย่าเตลิดไปแข่งบุญวาสนา
คุณความดีบารมีธรรมสั่งสมมา
น้อมบูชาพระสัพพัญญูผู้ตรัสธรรม
อันความรู้มีอยู่ที่โลกกับธรรม
รู้ใบไม้ในกำก็รู้ป่าเป็นไฉน
รู้แจ้งโลกก็แจ้งธรรมบำเพ็ญไป
ท่านแจงไว้ดีแล้วในแนวทาง
ทำความดีละชั่วไว้ใจใสผ่อง
คือครรลองคลองธรรมพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสอนมา
พระองค์นี้พระองค์หน้าตลอดไป
อันเภทภัยพิบัติทั้งหลายเกิดแต่เหตุ
เป็นอาเพศต่างๆนานามาให้เห็น
พระองค์ท่านแสดงไว้แล้วอย่างชัดเจน
ทุกท่านเห็นตามท่านไหมหรือใครเห็นเกิน
ท่านลุงมหาสร้างเหตุลดเภทภัย
สร้างพระใหญ่บุญใหญ่กุศลยิ่ง
เราทั้งหลายน้อมโมทนาด้วยใจจริง
บุญใหญ่ยิ่งทอนเหตุลดเพทภัย
อีกภัยหนึ่งซึ่งร้ายกว่าภัยนี้
เผาลนที่ใจเราใครเล่าเห็น
สนทนาธรรมได้ความรู้หลากประเด็น
ใครดูเป็นเห็นเพลิงทุกข์จะสุขนิรันดร์

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม

 

ธรรม การสร้างกุศลผลบุญ

ขออนุญาตครับ

องค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ท่านได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่า อานิสงค์ของการฟังธรรมมี ๕ อย่างคือ

๑.จะได้ยินจะได้ฟังในธรรมที่ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้ฟัง
๒.เมื่อได้ยินได้ฟังธรรมที่เคยได้ยินได้ฟังแล้ว จะเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
๓.
๔.
๕. อันนี้สำคัญที่สุด เมื่อได้ยิน ได้ฟังแล้ว จิตจะสงบผ่องใส

ดังนั้นท่านสมาชิกชาวเว็บทั้งหลายสมควรได้พิจารณาตนเองว่า
ข้อคิดข้อเขียนของท่าน พอจะมีประโยชน์กันบ้างไหม
ผู้อ่านที่สละเวลาเข้ามาอ่าน พอจะได้อานิสงค์อะไรบ้างไหม

ส่วนท่านที่เที่ยวไปกำหนดกฏเกณฑ์ อยากให้ผู้คนทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้นั้น
ท่านต้องถามตนเองก่อนว่า

ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของตน เท่าเขาไหม
ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของตน สูงกว่าเขาไหม

การสร้างกุศลผลบุญ ของตน เท่าเขาไหม
การสร้างกุศลผลบุญ ของตน สูงกว่าเขาไหม

เพราะถ้าภูมิรู้ภูมิธรรม ของท่าน สูงกว่าเขา ท่านย่อมเข้าใจในธรรมนั้นๆมากกว่าเขา

เพราะถ้าการสร้างกุศลผลบุญของท่านมากกว่าเขา กระแสแห่งบุญบารมีของท่านมันก็จะแผ่ออกมาเอง ให้ผู้คนรับรู้ได้

ท่านสมาชิกที่เข้ามาอ่าน เข้ามาพิจารณา เขาจะรู้ เขาจะเข้าใจได้เอง
ท่านสมาชิกที่เข้ามาอ่าน เข้ามาพิจารณา เขาจะรับรู้ถึงกระแสแห่งบุญบารมีได้เอง

เข้ามาในเว็บทางพระพุทธศาสนาแล้ว

ใครจะเสาะหา ทางแห่งการสร้างกุศลผลบุญ
ใครจะเสาะหา ทางแห่งอกุศลผลบาป

มันก็ขึ้นกับจริต นิสสัย สันดาน ของแต่ละท่านเอง

เพราะผู้ที่รู้ธรรมจริงๆ สามารถพิจารณาธรรม ด้วยตนเองได้นั้น เขาจะเข้าใจได้เองว่า

ธรรมทั้งหมดทั้งสิ้นจะเป็นอันเดียวกัน
เหตุและผลต่างๆจะเชื่อมโยงไปมาหากันได้ไม่มีที่สิ้นสุด
กระแสแห่งธรรมจะใหลลื่นไปไม่มีการสดุด

ท่านที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูงพอ ก็จะเข้าใจได้ง่าย
ท่านที่ภูมิรู้ภูมิธรรมยังไม่พอ ก็จะเข้าใจได้เพียงบางส่วน ตามภูมิรู้ ตามภูมิธรรมของตน
เมื่อมีอันใดไม่เข้าใจ สมควรติดตามเสาะค้น พิจารณา เพื่อให้ตนเองได้เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น

เพราะภูมิรู้ภูมิธรรม นั้น เกิดจากการฝึกฝนอบรมตนเอง
เมื่อช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงเผื่อแผ่ธรรมนั้นไปยังผู้อื่นได้

กุศลผลบุญก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อสร้างกุศลผลบุญได้อย่างพอเพียงแล้ว
จึงจะสามารถเผื่อแผ่การสร้างกุศลผลบุญไปยังผู้อื่นได้

ท่านสมาชิกที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน เข้ามาพิจารณา เขาจะเข้าใจเอง

ทั้งการฝึกฝนอบรมตนเอง ทั้งการสร้างกุศลผลบุญนั้น ท่านทั้งหลายต้องเสาะหา ขวนขวายทำด้วยตัวท่านเอง

ผู้มีบุญบารมี ผู้มีปัญญา ย่อมสามารถเสาะหา วิธีที่ดีที่สุดให้ตนเองได้
ทั้งการแสวงหา ธรรม ทั้งการแสวงหา การสร้างกุศลผลบุญ

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับ ชาวพุทธผู้มีสัมมาทิฐิทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ประมาณปี 39,40 อาจารย์ของผมเองแหละ

ที่พาเข้าวัดพระธรรมกาย..ตอนนั้เราก็ไม่ค่อย

จะรู้อะไร..เท่าที่เข้าไปกระเเสอิธิฤทธ์ปาฎิหาร

แรงมาก..เรานี้โห..ช่วงนั้นมีโครงการสร้างธรรมกาย

เจดีย์..ยิ่งโหมกระแสกันใหญ่ ลักษณะคล้ายการขาย

แบบเชิงรุก..ถ้าใครมาช้าไม่ทันเขาสร้างพระกันหมดก่อน

ก็ให้มันสร้างส้วมให้คนเขาขี้..อยู่รอบนอกนู่น..พวกนี้

ปัญญากับบุญมันมีแค่นั้น..แน่เราเงียบเพราะท่านเป็น

อาจารย์เรา ช่วงนั้นเศรษฐกิจล่วงพอดี เอาคอยดูถ้า

สร้างธรรมกายเจดีย์นี้นี้สำเร็จเศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่

เราก็ชัก..งง !เอ้าไหนอาจารย์ก็ว่ามาถึงขนาดนี้

..เอ้าเราจองไป1องค์จ่ายไป1000บาทที่เหลือจนป่านนี้

อาจารย์ช่วยจ่ายแทนทีน๊ะ..เราเงียบ

ที่เห็นท่านผู้ที่เป็นผู้นำแก้วิกฤตเศรษกิจใครล่ะ

ถ้าไม่ใช่พระแก่ๆที่จบ ป.๓ น่าจะเปรียญธรรม ๒

ไปที่ไหนก็เอาความชุ่มเย็นไปให้..และช่วย

ฟื้นชาติบ้านเมือง..ขนาดอยู่วัดสาธุชนยังหลั่ง

ไหลไม่ขาด..ไปถวายท่านถึงวัดมีบางคนมาถาม

เราว่าหลวงตาท่านมีคาถาเรียกเงินหรือปล่าว

เราเลยตอบไปว่าท่านมีแต่ธรรมและความเมตตา

ท่านทำเพื่อสงเคราะห์จริงๆ..คนเขาเห็นท่านให้จริง

เขาก็เข้าไปหาและถวายท่าน..แต่อีกอย่างเราอยากจะบอก

ว่า " ท่านผู้มีความสงบนั่นแหละเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่ง " กลัวบอกไป

จะไม่เข้าใจ.

 

และอีกช่วงต่อเนื่องใกล้เคียงกัน กระแสอัศจรรย์

ตะวันแก้วกำลังดัง "ชิตังเม..ๆ" ช่วงโดนสื่อรุกและ

เหมือนโดนตรวจสอบ.. ดูเหมือนกำลังเป็นช่วงที่จะระดม

คนเพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นว่าที่นั่นมีคนศรัทธามาก

ในวันมาฆบูชาวันนั้น..อาจารย์โทรมานัดเราให้ไปที่

วัดพระธรรมกาย..เราก็รับนัดหลังเสร็จงานเราก็ขับรถ

ไปทางถ.สุขาภิบาล3 รถติดมากใกล้เวลาประมาณ

6โมงเย็นที่นัดหมายแล้ว..และคิดว่าทุกวัดน่าจะเวียนเทียน

ประมาณ6โมงเย็น เลยเลี้ยวรถเข้าไปในวัดหนึ่งแถวนั้น

แล้วโทรหาอาจารย์หลังท่านรับสายท่านถาม..ประโยคเเรก

" มึงอยู่ไหน "..เราบอกไป..อาจารย์ครับผมขอโทษจริงๆ

วันนี้รถมันติดมากผมเลยจะแวะเวียนเทียนที่วัดนี้ครับ

สักครู่เงียบไปนิดนึง..แล้วท่านก็ตอบกลับมาว่า

" มึงทำได้สวยน๊ะ " เราเงียบพร้อมกับอึ้งงง!ไปนิดนึง

และเราก็ตอบท่านกลับตามสามัญสำนึกที่เรามีขณะนั้น

ว่า " ผมก็เห็นพระพุทธเจ้าท่านก็นั่งในโบสถ์นี้เหมือนกันนี่ครับ "

หลังท่านฟังท่านก็ตอบกลับมาว่า เปล่า กูเห็นฝนตกที่นี่

กูก็อยากให้มึงมารับที่นี่ ตกลงวันนั้นเราจะได้บุญหรือบาปว๊ะเนี่ย.

 

ได้ไปรู้เรื่องของใครคนหนึ่ง

เรื่องเกิดที่วัด บวรนิเวศ มีพระรูปหนึ่งท่าน

ญัตติมาจากมหานิกาย และเข้ามาสอนวิชา

อภิธรรม แต่พระองค์นี้ที่ท่านคุยมาท่านปราถนา

พุทธภูมิ..ตอนหลังเรามาวิเคราะห์มันไม่ใช่เรื่องแปลก

(ตอนแรกเรายังไม่ค่อยเข้าใจ) แต่ที่น่าแปลกตามที่เห็นมา

ท่านนี้มีความคิดแบบพวกชอบทำตัวเหนือ..คุยระหว่าง

เรื่องของเถระวาส กับ วชิระญาณ ฟังเหมือนพยายาม

จะแทรกซึมเอา วชิรญาณเข้ามาเกี่ยวกับพวกโพธิสัตว์

อะไรปานนี้ ต่อจากนั้นชายคนนั้นเขาไม่เห็นด้วยเลย

เอาเรื่องไปกรายเรียบ ท่านเจ้าคุณระแบบ เลยโดนสอบสวนไป

มีคนถามเขาว่าทำไมต้องไปทำถึงขนาดนั้น เขาว่า

ให้เก่งแค่ไหนก็เถอะ " กินบนเรือนจะขี้ลดบนหลังคาใช้ได้หรือ "

จะลุ่มลึกขนาดไหนเชียว แค่สามัญสำนึกยังไม่ค่อยจะรู้เลย "

นี่ถ้าไปเจออาจารย์ของเราน๊ะ คงต้องโดนคำว่า

" น่าถูกตบและยึด..ใบประกาศคืนอีกด้วย ".

 

งานครูอาจารย์องค์หนึ่งท่านได้เมตตา

สร้างโรงพยาบาลให้.. (ตึกสูง)

ประมาณไม่ถึงสองเดือน ลีฟท์ ก็เกิดปัญหา

อย่างต่อเนื่อง ให้มาดำเนินการเเก้ไขแล้ว

ก็ยังเป็นอยู่(ประกันผลงาน1ปี) สุดทนเลย

เรียกทางผู้ผลิตและติดตั้งมาประชุม ลิฟท์

ตัวหนึ่งประมาณ 3ล้านกว่าบาท

เลยตั้งปัญหาความน่าจะเป็นให้ทางผู้ผลิตทราบ

1. ถ้ามีคนไข้ตายในลิฟท์เมื่อเกิดลิฟท์ขัดข้อง

2. ถ้ามีคนไข้ฉุกเฉินและต้องการแพทย์เฉพาะทาง

แล้วคนไข้เสียชีวิตเพราแพทย์ติดอยู่ในลิฟท์ขณะ

ที่ลิฟท์ขัดข้อง ทั้งสองกรณีทางบ.ผู้ผลิตโดนฟ้องอานเเน่

มีเสียงสุดทนจากช่างซ่อมออกมาว่า ก็ตัวลิฟท์สั่ง

เป็นของเกาหลีมานี่ เฮ้ยยี่ห้อของเยอรมัน..แล้วไง

เป็นของเกาหลีหว่า(ดูซิขนาดงานบุญเงินเขาทูลหัวมามันยังกล้า)

เอ้าลองสำรวจร่วมกับนักวิชาการ ก็มีการนำเสนอมาว่า

ต้องกั้นห้องและติดแอร์ให้กับระบบอีเล็คโทรนนิคส่วนบนสุด

งบประมาณ สามแสนกว่าบาททีแรกเราก็เห็นด้วย..แล้ว

แต่เพราะเราไม่ใช่ช่างเลยนำเสนอให้กับกรรมการ

มีเสียงกลับมาว่า

" ถ้าติดแอร์ไปแล้วไม่หาย..ใครล่ะจะเป็นคนที่รับผิดชอบ

เงินที่เขาทูลหัวมาไม่ใช่น้อยๆน๊ะจะมาทำเป็นเล่น "

ก็เลยต้องเงียบไปแล้วให้ทางผู้ผลิตรับผิดชอบจนกว่า

จะใช้การได้ดี ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้องกรมคุ้มครองผู้บิโภคแน่

เราก็ว่าอย่างนั้นเหตุเกิด..ก็ต้องแก้ที่เหตุ..จะมาวิเคราะห์

ด้นๆเดาๆ ลมๆ แล้งๆ ของแค่นี้ ตอบง่ายๆ 1+1 ก็ =2

ถ้าคิดแบบตรรกะ 1+1 ไม่ =2 ก็ไม่เป็นไรแต่ถ้ามันไม่สมเหตุสมผลจะยุ่งนา.

 

แหมท่านอภิมาร ยกหัวข้อใหญ่มาให้อ่านกันเสียยกใหญ่ กินเนื้อที่เขาไปตั้ง ๔ ห้อง ฮ่าๆๆฮ้าๆๆๆๆๆๆใครรับผิดชอบเนี่ย เอ่าไม่ว่ากัน ใครมีความรู้แค่ไหน มาตอบกันสิ่งที่เป็นมงคล โดยธรรม ขอให้ เดินทางถูก ไร้ซึ่ง ความผิด ทำความดีให้สุดขั้ว หนีชั่ว ให้สุดขีด ขอให้ทุกท่าน มีความเจริญ ทั้งทางโลก และทางธรรมครับสวัสดี

 

ขอบพระคุณครับ

เรื่องที่เล่าให้ฟังทั้งหมดคือเรื่องจริง

และได้ผ่านมาแล้ว..ซึ่งต้องบอกตามตรง

ว่าหนีไม่พ้นแน่ๆที่จะต้องรับผลของการกระทำ

ของแต่ละคน..สุดแล้วแต่ใครที่จะมองในมุมไหน

..ทำถูกก็อนุโมทนาไป..บางทีผิดก็เป็นครูใช่ไหมครับ

มรรคมี..ทางมีถ้าไม่เลือกเดิน..ก็ต้องรับและเรียนรู้กันไป

อนุโมทนาครับ.

 

ผมก็บ่นไปงั้นๆแหล่ะครับ แต่ผมชอบธรรมที่อาจารย์บุญทรงแสดงนะครับ เพราะมีความเป็นธรรมอยู่ตลอด ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าเป็นพวกเทวทัตแหง๋มๆเลย

 

หมายถึงผมสงสัยตัวของผมเองนะครับ ไม่ได้สงสัยอาจารย์บุญทรง เขียนกำกวมเดี๋ยวลูกศิษย์อาจารย์จะมาเล่นงานกระผมเอา

 

ครูบาอาจารย์ สายบุญบารมี สายใยบารมี

ขออนุญาตครับ

ผมเคยพิจารณาธรรมในหัวข้อ

"ทำไมคนจึงเชื่อ ครูบาอาจารย์ของตนอย่างหัวปักหัวปำ"

การพิจารณาของผมก็ไปสุดตรงที่ว่า

"เพราะเขาเหล่านั้นล้วนมีกรรมผูกพันกันมา จนสลัดไม่ออก และจะเป็นเช่นนั้นไปอีกนานแสนนาน"

ผู้มีปัญญาเท่านั้น จึงจะมองได้ออกว่า ครูบาอาจารย์ของตนนั้น

มีบุญบารมีแค่ไหน
ส่วนไหนที่ท่านสอนผิด
ส่วนไหนที่ท่านสอนได้ถูกต้อง

ผู้ที่มีบุญบารมีมากกว่านี้มีอีกไหม
ผู้ที่มีบุญบารมีมากกว่านี้ท่านจะทำอะไร

ธรรมของครูบาอาจารย์นั้น ถ้าท่านได้ฟังแล้ว ถ้าท่านไม่สามารถเกิดปัญญาพิจารณาธรรมนั้นๆ

ให้กระจ่างชัดขึ้นมาได้
ให้เกิดปัญญากว้าง ลึก ไกล ขึ้นมาได้

เพราะต่อให้รู้มากแค่ไหน เก่งมากแค่ไหน แต่ไม่มีปัญญาหาพระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงที่สุดเจอ

ผู้ที่เข้ามาอ่านเขาก็จะรู้ได้เอง

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

ก็นั่นน่ะสิ ลุงมหา

 

เท่าที่ประสพเห็นมา

บางคนก็ยกย่องครูบาอาจารย์ของตนเกินจริงไปก็มี

แต่บางทีครูบาอาจารย์ท่านก็อาจไม่รู้เรื่องที่ลูกศิษย์มาทำ

และอาจส่งผลคำว่า " นายตายเพราะบริวาร " (ก็ครูบาอาจารย์

ของฉันน่ะ).

 

โลกนี้มิอยู่ด้วย.....มณี เดียวนา

ทรายและสิ่งอื่น.....มี ส่วนสร้าง

ปวงธาตุต่ำกลาง.....ดี ดุลยภาพ

ภาคจักรพาลมิร้าง.....เพราะ น้ำแรงไฉนฯ



ภพนี้มิใช่หล้า.....หงส์ทอง เดียวเอย

กาก็เจ้าของ.....ครอง ชีพด้วย

เมาสมมุติ.....จองหอง หินชาติ

น้ำมิตรแล้งโลกม้วย.....หมดสิ้น สุขศานต์ฯ​

โลก.......อังคาร กัลยาณพงษ์.