กลุ่มชนคนดูดวง

วิธีชนะกรรม แสดงธรรมโดยท่าน ว.วชรเมธี ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ท่านแสดงไว้แล้วเป็นประโยชน์มาก



[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aQn_kUryWwQ]วิธีชนะกรรม ว.วชริเมธี - YouTube[/ame]

 

ตอบจดหมายพี่พุทธแล้วนะครับ แหม.....เข้าใจทำนะครับ....ถามทีเดียวสองคนอย่างงี้เลยเดี๋ยวเถอะๆๆๆ

 

เรียนคุณ เสขบุคคล

ผมส่งข้อความรบกวนไปทาง PM. แล้วนะครับ

ขอบคุณมากครับ

 

ในเวลาที่ดวงตก หรือกำลังประสบทุกข์ นั่นเป็นผลเพราะว่า อกุศลวิบากกรรม มันกำลังให้ผล และส่วนมาก เมื่อผลของความทุกข์มันให้ผลอยู่นั้น มันยังมีเหตุมีปัจจัยทำให้ความทุกข์นั้นดูเหมือนจะทุกข์เพิ่มขึ้น หรือทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั้นเป็นเพราะว่า บาปกรรมต่างๆที่เราทำไว้ให้ผลแก่กันและกัน ย้ำกัน ช่วยกัน ยำให้เราเจ็บปวดมากมาย หากกุศลคือบุญ ที่เราทำไว้ในอดีตไม่มี หรือมีน้อย เราก็จะพ้นจากทุกข์ในห้วงนั้นไปได้โดยยาก แถมเมื่อพ้นจากทุกข์ตรงนั้นมาก็เหมือนคนหมดแรง แต่หากเรามีกุศลทำไว้ในอดีตหรือปัจจุบัน มีเหตุมีกำลังช่วยเราได้บ้าง ในยามทุกข์ก็เหมือนคนตกเหว ในยามที่ดีขึ้นมาบ้างเพราะบาปที่เราทำไว้ให้ผลหมดแล้วก็เปรียบเหมือนเราพอพาตัวเองขึ้นจากเหวมาได้ ส่วนบุญคือเสบียงที่เราทำไว้หรือมีติดตัวไป ถ้าคนไหนมีบุญมาก เมื่อพ้นจากวิบากกรรมแล้วก็เสวยเสบียงอาหารนั้นและมีกำลังในการก้าวต่อไป........แต่หากเราไม่ได้ทำเสบียงบุญไว้เล่า.........คงหมดแรงล้มลงที่ตรงหุบเหวอันลึกแน่ๆ.........

 

เรียนคุณ เสขบุคคล

ได้รับข้อความแล้วนะครับ ขอบพระคุณมากสำหรับคำชี้แนะครับ

 

pm ไปแล้วนะครับ ขอบคุณครับ

 

PM ไปรบกวนด้วยคนครับ

ขอบคุนครับ

 

ทุกวันนี้การเรียนการศึกษาธรรมะ จากครูบาอาจารย์ในแต่ละสายมีมากมาย จนบางครั้งไม่รู้จะตัดสินใจเชื่อท่านใดดี ดังนั้นหากเรียนรู้แล้วก็ควรตรวจสอบกับพระไตรปิฏกด้วยว่าเป็นจริงอย่างไร หากไม่ตรงกับพระไตรปิฏกแล้วก็ยิ่งควรพิจารณาให้มาก สิ่งใดที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความเลื่อมใสนั้น มีความเสี่ยงสูง ยิ่งเชื่อหรือศรัทธามากไปแล้ว ถ้ามีอะไรที่ตรงข้ามกับความเชื่อของตนๆ เราก็จะปฏิเสธไป ดังนั้นจะให้แน่ชัดต้องยึดพระไตรปิฏกไว้ก่อนนะครับ...

 

เรื่องการทำสมาธิ หรือการเจริญกรรมฐานต้องศึกษาขั้นตอนและวิธีการให้ดีก่อน หากไปนั่งสมาธิโดยที่ไม่มีความรู้ หรือขั้นตอนในการทำกรรมฐานในหมวดนั้นๆแล้ว หากอารมณ์สมาธิเป็นเช่นไรก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเท่าที่ตัวเองทำมานั้นมันถูกหรือผิด ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องศึกษาไปนั่งเอาๆ เหมือนคนเดินทางที่ไม่มีแผนที่ไม่มีจุดหมาย แล้วเดินทางไปๆ ผลจะเดินได้ถูกหรือผิดก็ไม่สามารถแจ้งชัดได้ สมาธิมี ๒ อย่าง คือสัมมาสมาธิกับมิจฉาสมาธิ ทำผิดไปกลายเป็นโรคประสาทเลยก็มี หลงไปยึดนิมิต ยึดคุณวิเศษไปก็มี...

 

สวัสดีค่ะ ได้ทำการ PM ไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
ขอรบกวนด้วยคนนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

 

เป็นไปได้มั้ยว่า บาปกรรมของเราที่ทำไว้นั้นคอยจังหวะให้ผลอยู่ แต่ในขณะที่ดวงกำลังดีและบุญกำลังให้ผล บาปกรรมก็ไม่สามารถที่จะเข้าแทรกได้ เหมือนเวลาที่เราร่างกายแข็งแรงเราก็ไม่ป่วย แต่ในช่วงที่ดวงตก ก็เหมือนช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ บาปกรรมที่คอยจ้องอยู่แล้วก็รุมกันเข้ามา

เพราะมีคนรู้จักที่กำลังดวงดีอยู่ราศีมังกร ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะดีไปหมด ทำธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ ความรัก ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ก็ดี ถึงแม้ว่าเค้าจะชอบข่มคนอื่นว่าตัวเองมีดีกว่าคนอื่น เหนือคนอื่น ชอบเปรียบเทียบและพยายามอยู่เหนือคนอื่นตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องเงิน เรื่องความรวย แต่เค้าก็ยังได้ดิบได้ดี และเค้าก็ยังเชื่อว่าเค้าเป็นคนดวงแข็ง ไม่มีอะไรทำอะไรเค้าได้ และดวงจะยังดีไปอีกหลายปี ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น

เห็นด้วยกับคุณเสขบุคคลที่บอกว่า
ขณะที่ดวงตก อกุศลกรรมเข้าแทรก ก็รุมกันเข้ามาทุกทิศทุกทาง ยิ่งไม่เคยทำบุญไว้ก็เหมือนไม่มีเกราะป้องกัน ก็เข้ากันมาเต็มที่

ขณะที่ดวงดี ก็คงจะเป็นตรงกันข้ามกับดวงตก หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง สิ่งดีๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา ยิ่งเคยทำบุญทำกุศลเอาไว้ด้วย ก็ยิ่งได้เป็นสองเท่า เหมือนหว่านพืชเอาไว้ พอถึงเวลา ฟ้าเปิด พืชเหล่านั้นก็งอกเงยให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต แต่หากไม่เคยทำบุญเอาไว้ ก็ึคงได้แค่ชื่นชมความงามของธรรมมชาติในช่วงเวลาฟ้าหลังฝน

 

ตอนนี้กำลังเรียนเรื่องกรรมอยู่ครับ
จึงเห็นว่ากรรมนั้นมีผลแน่ๆ ให้ผลอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ ส่วนเรื่องของโหราศาสตร์นั้นยังมีโอกาสที่จะมีการผันแปร เปลี่ยนแปลงได้ แต่กรรมหาได้เป็นเช่นนั้นครับ มันให้ผลทุกอย่างโดยเฉพาะอกุศลกรรม มันทั้งทำง่าย มันทั้งไม่อาศัยปัญญา ส่วนกุศลนั้นทำยาก เพราะต้องอาศัยเจตนาที่ดี มีความตั้งใจที่ดีในกาลทั้ง ๓ อีกทั้งต้องอาศัยปัญญาอีก จึงจะเป็นบุญที่มีกำลังมาก ถ้าทำกุศลโดยขาดเหตุดังกล่าวแล้ว ก็เป็นบุญที่ไม่ใ่มีกำลัง และอาจเป็นอโหสิกรรมไปได้ถึงแม้ให้ผลก็มีกำลังอ่อน อาจไปส่งผลให้เกิดเป็นพวกบ้า ใบ้ บอด หนวก หรือเป็นเทวดาชั้นจาตุมฯ (ที่มีอานุภาพน้อย อาจไม่สมบูรณ์ในอัตตภาพอีกด้วย)

ส่วนเรื่องกรรมนั้น ยังแบ่งออกเป็นโดยหน้าที่ โดยผล โดยกาลเวลา และโดยลักษณะต่างๆ ซึ่งมีความลึกซึ้งมากๆ แม้คนที่ทำบาปมามากมายในปัจจุบัน แต่อาจส่งผลให้เขาไปเกิดในสวรรคก็มี คนที่ทำบุญมามากมายก็เช่นกัน ยังมีโอกาสไปเกิดในอบายภูมิก็มี...สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อารมณ์ในขณะที่กำลังจะตายนั้นนั่นเองว่าจะมีกรรมอารมณ์ กรรมนิมิตอารมณ์ หรือคตินิมิตอารมณ์ใดๆมาปรากฎ ดังนั้น การที่ได้เป็นคนที่สะสมกุศลมาในกาลก่อน ๑ การที่ได้เกิดในประเทศที่อันควร ๑ การได้คบกับบัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร ๑ การได้ฟังธรรมจากสัปบุรุษ ๑ และการตั้งตนไว้ชอบด้วย ๑ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยให้เกิดโยนิโสมนสิการในกุศล

 

ท่านที่มีปัญหาเรื่องของอาชีพการงาน การเงิน มีปัญหาเรื่องเงินไม่คล่องตัว ลองสวดคาถาเงินล้าน ตามแนวหลวงพ่อฤๅษีฯ.ท่านดูนะครับ ส่วนตัวผมเองสวดอยู่เป็นประจำ การเงินเวลามีปัญหาจะมีจุดที่ลงตัวได้ ขอให้ตั้งใจสวดด้วยความเคารพในพระรัตนตรัยและสวดด้วยความสงบ น้อมจิตไปในกุศล ไม่ต้องอธิษฐานมาก ให้จิตนิ่ง และสงบให้มากๆ ผลก็จะเกิดเร็ว และถ้ามีศีล ๕ ทรงตัว มีการให้ทานอยู่เสมอๆ ยิ่งทำให้มีลาภมาก ไม่ขาดสายครับ

การบูชาคาถาเงินล้าน - บล๊อก - เสขบุคคล - พื้นที่ส่วนตัว - Powered by UCenter Home

คาถาเงินล้าน
ตั้งนะโม 3 จบ
สัมปะติจฉามิ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ ( คาถาปัดอุปสรรค )
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม ( คาถาเงินแสน )
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม ( คาถาลาภไม่ขาดสาย )
มิเตพาหุหะติ ( คาถาเงินล้าน )
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม ( คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า )
สัมปะติจฉามิ ( คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น )
เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤๅ ฤๅ
( บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด )
พระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ) หลวงพ่อได้คาถาเหล่านี้โดยตรงจากองค์สมเด็จฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เป็นเวลา ๔ ปีจึงจะได้ครบถ้วน ท่านบอกว่าคาถาที่ได้จากกรรมฐานเขาจะไม่บอกใคร เมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค.๒๗ เวลา๒๓.๕๙ น. องค์สมเด็จฯ ได้อนุญาตให้ลูกหลานและพุทธบริษัทใช้ได้เป็นสาธารณะ เพื่อช่วยบรรเทาสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อีกทั้งการก่อสร้างของวัดท่าซุงจะต้องเร่งรัดให้เสร็จทันฉลองวัดในปี ๒๕๓๒ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้คาถาเหล่านี้ช่วย เพื่อพุทธบริษัทและลูกหลานของหลวงพ่อได้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น คาถา “ เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤๅ ฤๅ ” เป็นคาถามหาลาภมีผลยิ่งใหญ่

สัมปะติจฉามิ เป็นของเดิมที่ตอนหลวงพ่ออยู่ท่านสวดแบบนี้ แต่ตอนหลังหลวงพ่อมรณะภาพแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงเป็น สัมปะจิตฉามิ แต่ผมไม่เปลี่ยนครับ เพราะว่าสวดแบบเดิมก็มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ยึดแบบเดิมตามที่หลวงพ่อสอนไว้ครับ

 

จากคำถามที่ถามว่าจะรวยกับเขาได้บ้างหรือไม่?

ก็ขอตอบตามหลักในเรื่องกรรม ที่มีมาในพระพุทธศาสนานะครับ
๑.กุศลกรรมของการให้ทานของแต่ละท่าน ที่ทำมาในอดีต มีมากน้อย ละเอียด ปราณีต และมีกำลังที่แตกต่างกัน ดังนั้นผลที่เกิดกับแต่ละบุคคลก็ต่างกัน ถึงแม้ดาวในดวงจะปรากฏว่ารวย มีฐานะดี หรือเสียก็ตาม แต่บุญกุศลที่ทำไว้มีกำลังและมีโอกาสให้ผล เมื่อนั้นบุคคลนั้นก็จะเกิดทรัพย์ขึ้นมา และเช่นกัน หากบาปอกุศลที่ทำไว้โดยการผิดศีลข้อ ๒ ไว้มันตามมาให้ผล เมื่อนั้นบุคคลนั้นก็จะเสียหายทรัพย์ มีปัญหาเรื่องการดำเนินชีวิตไป...

๒.ในปัจจุบันมีการสร้างกุศลทาน ก็เป็นปัจจัยให้เกิดอานิสงส์ในการมีอยู่มีกิน มีฐานะที่ดีได้ บุญที่ทำอาจจะให้ผลเร็ว หรือช้า ขึ้นอยู่กับวัตถุทานที่เราให้ เจตนาที่ตั้งไว้ และบุคคลผู้ที่เราทำด้วย ดังนั้นในอดีตเราไม่รู้ว่าเราทำบุญมามากน้อยแค่ไหน ให้เราหมั่นทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล เข้าไว้ให้มากๆ ชื่อว่ากุศลย่อมให้ผลเป็นความสุข

๓. ในปัจจุบันมีความเพียร มีความพยายาม มีความอุตสาหะ ขวนขวายที่ดี รู้จักเก็บรักษาทรัพย์ที่ได้มา มีเพื่อนดี แนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่หลงไปในอบายมุข มีธรรมะเป็นเครื่องคุ้มครองกาย ใจ รู้จักประมาณในการบริโภค และการใช้จ่าย

ฯลฯ

 

ขอบพระคุนมากสำหรับข้อแนะนำครับ จะนำไปปฏิบัติตามครับ

-/\-

 

ได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้วนะคะ
ขอขอบคุณมากนะคะ

 

PM แก้ไขไปแล้วครับได้รับหรือยังครับ

 

ได้ให้คำตอบไปแล้วนะครับ

เกิดมามีบุญที่ติดตามมาให้ผลเกิดเป็นมนุษย์ส่วนที่ ๑ ส่วนต่อไปคือเมื่อได้เกิดมาแล้วได้พบพระพุทธศาสนา อีกส่วน ๑ ส่วนที่สำคัญคือปโยคสมบัติ คือความเพียรของเรานั้นเอง....ที่จะมีวิริยะ มีความเพียรพาตัวเองให้เดินทางไปถึงฝั่งที่ตนเิองตั้งใจไว้อย่างไร ธรรมะคือหางเสือ ที่จะคอยควบคุมให้เราไม่หลงทาง ลอยไปตามกระแสแห่งตัณหาห้วงมหรรณพ ดังนั้นจงรักษาสมบัติอันตนได้มาดีแล้วนั้นให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปนะครับทุกๆคน

 

ทำบุญกันสายตรงได้เลยครับ