จุดสูงสุด แห่งพุทธศาสนา นิพพาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ชุนชิว, 11 กรกฎาคม 2013.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ถามพระเถระผู้ใหญ่ต่างๆดูนะครับ

    ขออนุญาตครับ

    เพราะเราไม่เข้าใจพระศาสนาอย่างแท้จริง เราจึงเข้าใจเช่นนี้
    เราพากันเข้าใจว่า "พระอรหันต์ รู้ทุกสิ่ง เข้าใจทุกสิ่ง"

    แต่พอโลกเกิดภัยพิบัติมากมาย แถมประเทศไทยก็เกิดกับเขาด้วย
    เช่น สึนามิ และ น้ำท่วมใหญ่
    เราจึงได้รู้ว่า พระอรหันต์ ท่านก็ไม่รู้ ท่านก็ช่วยไม่ได้

    ครูบาอาจารย์ พระอรหันต์ พระเถระผู้ใหญ่ ท่านก็ออกมายอมรับอีกด้วย

    ท่านจึงได้รู้ว่า ความรู้ที่เหนือท่านขึ้นไป คือ พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆ

    เพราะความเป็นห่วงคณะสงฆ์ของท่าน ท่านก็เลยเงียบๆเข้าไว้ เพื่อรักษาคณะสงฆ์ให้มั่นคง

    ชาวพุทธต่างก็เคยได้ยิน เคยได้ฟังมา เรื่อง "พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล"

    ครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ บรรยายไปต่างๆนาๆ

    จนลืมว่า พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุุธกาล ก็คือ คนธรรมดาๆ ในสายตาคนทั่วไปนี่ละ
    ท่านไม่ได้แตกต่างอะำไรเลย

    ที่แตกต่างคือ ความใกล้เคียงกับ บุญบารมีของพระพุทธองค์เท่านั้น

    ขอโมทนา ขออนุโมทนา
    ลุงมหา
     
  2. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ลุงมหา กำลังหลงออกจากประเด็นจุดสูงสุดของพุทธศาสนาไปนะครับ ว่าจุดสูงสุดของพุทธศาสนาแท้จริงคืออะไร ซึ่งผมได้ตอบคำถามไปแล้วว่า นิพพาน ซึ่งหลายๆท่านเห็นเป็นเสียงเดียวกัน และพระพุทธเจ้าก็ตรัสเช่นนี้

    ซึ่งที่ผมกล่าวมาล้วนมาจากพระไตรปิฎก และพุทธวจนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น แต่นำมาเรียบเรียงเป็นภาษาพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น
     
  3. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ดีครับเป็นมุมมองอีก.มุม.กรณีศึกษาครับ

    จริงอยาก รบกวนท่าน.ช่วยอธิบาย.ตามที่

    มองที่รู้ที่เห็นครับ.ห้องพุทธภูมิ.สำหรับผม

    ไม่แปลกครับขอบพระคุณล่วงหน้าครับ.
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ในชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชาติสุดท้ายของท่าน
    จะช่วยเหล่าสัตว์ทั้งหลายจากให้พ้นจากทุกข์เป็นการถาวร ให้การตายของสัตว์นั้นเป็นการตายครั้งสุดท้าย
     
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ผมไม่ได้หลงประเด็น แต่เป็นท่านที่ ภูมิรู้ ภูมิธรรมไม่ถึง

    ขออนุญาตครับ

    ผมไม่ได้หลงประเด็น แต่เป็นท่านที่ ภูมิรู้ ภูมิธรรมไม่ถึง

    ท่านอ่านจากธรรมกระดาษ ธรรมสัญญาความจำ
    แต่ผมเป็นธรรมแบบรู้ลงที่จิต

    บุญบารมีของพระอรหันต์นั้น ไม่เพียงพอที่จะรับรู้เรื่องโลกทิพย์อย่างพอเพียง
    ยิ่งเรื่องกรรมด้วยแล้ว ยิ่งยังห่างไกลมาก
    ก็เลยเห็นจะๆว่า พระอรหันต์ ไม่มีบุญบารมีพอที่จะช่วย แก้ไขภัยพิบัติได้


    ที่พอจะบอกเล่าได้ ก็เป็นกลุ่มพระอรหันต์ที่ท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน
    เช่นองค์หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่จาม
    หรือแม้แต่หลวงตาม้าเอง ท่านก็บอกว่า


    "พระโพธิ์สัตว์ที่บารมีสูงๆจะไปหาที่ไหน?"

    นั้นก็แสดงว่า ท่านไม่รู้ว่า พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆเป็นท่านผู้ใด

    เพราะมีแต่ พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆเท่านั้น จึงจะนำจะพาป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติได้

    ธรรมเพื่อความหลุดพ้น ไปสิ้นสุดที่ "พระอรหันต์"
    แต่ธรรมของพุทธภูมิ ไปสิ้นสุดที่ "การอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าในพระชาติสุดท้าย"

    แล้วท่านจะมาบอกว่าความเป็น "อรหันต์" คือ จุดสูงสุดได้อย่างไร?
    ก็เพราะว่า "พุทธภูมิที่ท่านบารมีสูงๆนั้น ท่านย่อมอยู่สูงกว่าพระอรหันต์อยู่แล้ว"


    ไม่อย่างนั้น องค์หลวงปู่มั่นท่านจะบอก ท่านจะสอนเอาไว้ทำไมว่า

    "เมื่อเฮาตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มเกิดขึ้น"

    และท่านยังบอกอีกว่า

    "พระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพท่านด้วย"


    ที่องค์หลวงปู่มั่นท่านบอก ท่านสอนนั้น เป็นพระนะครับ
    เพราะสมัยนั้น โยมจะเข้าไปในวัดของท่านไม่ได้ ได้แต่รอใส่บาตรหน้าวัดเท่านั้น


    ดังนั้น ถ้าท่านผู้ใด เรียนรู้แต่เรื่อง ธรรมเพื่อความหลุดพ้น
    ถ้าท่านผู้ใด ไม่มองไปที่ พุทธภูมิ ธรรมเพื่อการเป็นพระพุทธเจ้า
    ถ้าท่านผู้ใด ไม่มองไปที่ ธรรม ที่พระพุทธองค์ ได้สอนเหล่าเทวดาเอาไว้

    ท่านก็จะไม่มีวันเข้าใจว่า

    พระพุทธศาสนา หลังกึ่งพุทธกาลจะเป็นอย่างไร
    ภัยพิบัติที่เกิดทุกๆกึ่งพุทธกาล ของทุกๆพุทธันดร จะแก้ได้อย่างไร
    เพราะแม้แต่พระพุทธองค์ พระองค์ท่านก็ฝากความหวังเอาไว้ที่เหล่าเทวดา
    และเหล่ามนุษย์ที่มีจิตเป็นเทวดาเท่านั้น

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
  6. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    บุญบารมีสะสมมาเพียงพอหรือไม่

    ขออนุญาตครับ

    แม้ว่าพระโพธิ์สัตว์ทั้งหลาย ในชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชาติสุดท้ายของท่าน

    แต่ชาติที่สามจากชาติสุดท้าย ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
    เพราะในชาตินี้ ท่านจะนำพาสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่
    ผู้ร่วมกระแสบุญ จะได้อานิสงค์ ไปเกิดในเทวโลก นานแสนนาน
    ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เมื่อไร จะสำเร็จในชาตินั้นๆ

    ส่วนชาติที่สอง คือชาติก่อนการตรัสรู้ จะเป็นชาติที่พระโพธิ์สัตว์
    พระองค์ท่านจะ สละชีวิตเพื่อรักษาชีวิตของมนุษย์กลุ่มใหญ่เอาไว้
    เป็นชาติที่มีแต่ความยากลำบาก

    การสำเร็จธรรมนั้น ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่ได้สะสมมา
    ต้องสะสมบุญบารมีมาใกล้เคียงจึงจะสำเร็จในชาติต่อไปได้

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
  7. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เพราะโลกนี้พึ่งไม่ได้ ไม่แน่นอน ทุกข์หนักหนา จึงค้นแสวงหาที่อยู่อันแน่นอน เป็นสุขไม่มีทุกข์ ตลอดกาล..
     
  8. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ผมผู้น้อยขอคำชี้แนะด้วยครับ แล้วท่านเอาอะไรมาประเมินผมว่าภูมิธรรมถึง หรือไม่ถึง ท่านลุงมหามัวแต่มองคนอื่น จนลืมมองตัวเอง ลืมมองเห็นกายในกายรึปล่าวครับ

    ท่านมองแต่เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งนอกกายที่มีความแปรปรวนไปตามเวลา ตามสภาพเป็นธรรมดา แต่ท่านไม่มองตนเองบ้างเลยเหรอครับ ว่ารู้จักตนเองมากน้อยแค่ไหน

    ท่านเคยได้อ่านพุทธวจนไหมครับ ทั้งวิกิพิเดีย อ้างไว้อย่างนี้
    วิมุตติ=นิพพาน
    วิมุตติ - วิกิพีเดีย

    วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น เป็นวัตถุประสงค์มุ่งหมายของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ดังพุทธภาษิตว่า

    พรหมจรรย์นี้มิได้มีลาภสักการะสรรเสริญเป็นอานิสงส์ มิได้มีกามสุขในสวรรค์เป็นอานิสงส์ มิได้มีการเข้าถึงความเป็นอันเดียวกับพรหมในพรหมโลกเป็นอานิสงส์ แต่ว่ามีวิมุตติเป็นอานิสงส์

    จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระโพธิสัตว์ก็คือ นิพพาน เช่นกันครับ เพียงแต่ว่า ช่วยโปรดผู้อื่นก่อนตนเองจะเข้านิพพานคือ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เพื่อนำความรู้ของตนไปสอนผู้อื่นได้จากนั้น ก็เข้านิพพานเหมือนกันทุกๆพระองค์

    เวลาวิเคราะห์ให้วิเคราะห์สิ่งที่เป็นจุดสูงสุด เป็นเป้าหมาย ไม่งั้นจะทำให้มองจุดก่อนจุดสูงสุดมามอง โดยยังเหลือจุดสูงสุดที่สมบูรณ์กว่าซึ่งทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ข้อแรก มีอ้างอิงไหมครับ? ผู้ใดที่ยังไม่ข้ามโคตรภู คือผู้ที่ยังมีที่ไปไม่แน่นอน (อนิยตบุคคล) ไม่ใช่หรือครับ?

    ข้อที่สองนั้น เป็นการช่วยให้พ้นทุกข์ แต่ไม่ใช่โดยการถาวร ครับ
     
  10. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    ขอร่วมสนทนาศึกษาธรรมด้วยคนนะครับ เรามาทบทวนทำความเข้าใจกันก่อนว่า ศาสนาพุทธ คืออะไร ศาสนา แปลว่าคำสั่งสอน พุทธ แปลว่า ผู้รู้ คือรู้ตื่นเบิกบาน รู้อะไร ตื่นยังไง เบิกบานยังไง รู้แจ้งโลกรู้แจ้งธรรมเห็นจริงด้วยญาณปัญญา ตื่นคือการรู้ตัวด้วยสติอันบริบูรณ์ เบิกบานคือความสุขสว่างสไสวไร้กิเกส ในที่นีี้หมายถึงพระพุทธเจ้า ฉะนั้นโดยรวมศาสนาพุทธจึงหมายถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธคือ ผู้ที่นับถือพระพุทธเจ้า นับถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าคืออะไร นิพพาน พระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงประกาศคือการเข้าถึงนิพพาน นิพพาน นี้มีคู่โลก พระองค์ทรงค้นพบแล้วนำมาสั่งสอน จวบจนปัจจุบันนี้กึ่งพุทธกาลพอดี พระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วและได้มอบหมายให้พระธรรมเป็นสรณะแทนพระองค์ พระุพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์ ทุกพระองค์ทรงสั่งสมบารมีมาแตกต่างกัน ความรู้ญาณทรรศนะ ปัญญา บุญบารมี ย่อมแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือ คุณธรรมความหลุดพ้นการเข้าถึงพระนิพพานคือพระอรหันต์หรือผู้ำไกลจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ข้อนี้ยกเว้นพระโพธิสัตว์แม้ท่านจะเป็นผู้ไกลจากกิเลสแต่ท่านยังไม่เข้ายังต้องทำหน้าที่อยู่จนกว่าปณิธานจะสำเร็จหรือบารมีพร้อมบริบูรณ์ สรุปแล้วประเด็นสูงสุดของพระพุทธศาสนาอยู่ที่ความเป็นพระพุทธเจ้าหรือนิพพาน ประเด็นที่ท่านลุงมหาเปิดไว้น่าสนใจ แต่ละยุคพันปีของพระพุทธศาสนาประเด็นค่อยๆเปลี่ยนไป จากยึดพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ยึิดพระธรรมเป็นสรณะ ยึดพระสงฆ์เป็นสรณะ ยึดครูบาอาจารย์เป็นสรณะ ยึดเทพพรหมเป็นสรณะ ต่อไปจะยึดอะไรหนอ
    หากผิดพลาดขออภัย และกราบขอขมาพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ ครูบาอาจารย์ตลอดจนเทพพรหมทั้งหลายที่ลูกได้กล่าวอ้างพระองค์ในการศึกษาครั้งนี้ครับ
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม
     
  11. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    คำตอบของจุดสูงสุดพุทธศาสนาคือ นิพพาน ครับ
    เพราะ พระพุทธเจ้าก็ยังมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ซึ่งพระองค์ก็ไม่อาจฝืนสัจจธรรมได้ แต่พระองค์ตรัสย้ำแล้วย้ำอีกให้กระทำนิพพานให้แจ้ง ซึ่งนิพพานเป็นของเที่ยงแท้แน่นอน

    อีกตอนที่พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน ทำไมพุทธองค์ถึงเข้าฌานตามลำดับ สุดท้ายมาจบที่จตุตฌาน เพื่อตัดภพตัดชาติ คือ จิตไม่เกาะกับสิ่งใดๆ แสดงให้ถึงวาระจิตที่ดำเนินตรงทางนิพพาน
     
  12. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ผู้ปฏิบัติย่อมเห็นจิตตนเอง ก่อนเห็นธรรม

    ขออนุญาตครับ

    ผู้ปฏิบัติย่อมเห็นจิตตนเอง ก่อนเห็นธรรม
    ตัวผมเอง นอกจากเห็นจิตตนเอง แล้ว ยังเห็นจิตผู้อื่นอีกด้วย
    นอกจากนี้ ยังปฏิบัติด้วยตนเองโดยไม่มีครูบาอาจารย์

    ครูบาอาจารย์ผมท่านก็บอกว่า

    "ปฏิบัติเองไม่มีครูบาอาจารย์ ยังมาถึงนี่ได้ ก็ให้ปฏิบัติเองต่อไป ไม่ต้องไปถามใครอีก"

    ถ้าภูมิรู้ ภูมิธรรม ของผู้ปฏิบัติถึง ก็สามารถรู้ธรรมได้ด้วยการ ดูที่จิตของตน
    ธรรมจะผุดขึ้นมาๆ ตามหัวข้อธรรมที่อยากรู้ อยากเห็น

    เมื่อท่านอ้างธรรมกระดาษ ธรรมสัญญาความจำ ธรรมจากวิกิพีเดีย

    ท่านไม่ได้อ้างธรรมที่ท่านรู้เห็นจากการปฏิบัติแต่อย่างไร

    แล้วท่านจะบอกว่าท่านรู้ธรรมได้อย่างไร

    ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ก็ดี ครูบาอาจารย์ยุคหลังๆก็ดี จึงต่างไม่ได้สอนธรรม
    ตั้งแต่ต้นจนจบในคราวเดียว

    เพราะท่านต่างทราบดีว่า ถ้าบอกออกมาหมด ก็จะเกิดผู้อวดรู้ จดจำไปบอกไปเล่า ไปแอบสอนผู้อื่น

    เหมือนอย่างที่มีผู้ที่ไม่ได้นับถือ ศรัทธาศาสนาพุทธด้วยใจจริง
    แอบเข้ามาบวช แอบเข้ามาศึกษา พระธรรม เมื่อรู้เห็นอย่างพอเพียงแล้ว

    ก็ไปกำหนดกฏเกณฑ์ ตั้งศาสนาฮินดู ขึ้นมา โดยการเอาบางส่วนมาจาก
    ศาสนาพราหม บางส่วนมาจากศาสนาพุทธ บางส่วนมาจาก ไสยเวทย์

    แล้วยังอ้างว่า เทพทั้งสามเป็นเทพสูงสุด ของศาสนาของตน

    ทั้งๆที่ องค์เทพทั้งสามนั้น ท่านก็ให้ความเคารพพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    และท่านเหล่านั้น ยังค้ำจุน พระโพธิ์สัตว์ ค้ำจุนพระพุทธศาสนามาตลอด

    เห็นบางท่านในเว็บนี้ ถึงกับอ้างว่า เทพทั้งสาม อยู่นอกศาสนาพุทธไปโน่น

    การที่มีครูบาอาจารย์ที่ท่านบารมีสูงๆ เช่นหลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว
    ท่านบอกเล่าว่า เหล่าเทพชั้นสูงทั้งหลายต่างให้ความเคารพท่าน นั้นถูกต้องแล้ว

    เพราะท่านต่างก็เป็นพระอรหันต์ เพราะท่านต่างก็ปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน
    แถมเส้นทางพุทธภูมิของท่านก็ยาวนานพอ จนท่านรู้ จนท่านเห็นเรื่องราวต่างๆ อย่างชัดแจ้ง

    แต่การที่ชาวพุทธทั่วๆไป จะเอ่ยอ้างเหมือนท่าน ย่อมไม่ได้
    จะมาอ้างว่า เหล่าเทพทั้งหลาย มีภูมิรู้ ภูมิธรรม ต่ำกว่าตน ย่อมไม่ได้
    จะมาอ้างว่า เหล่าเทพทั้งหลาย มีบุญบารมี ต่ำกว่าตน ย่อมไม่ได้
    จะมาอ้างว่า เหล่าเทพทั้งหลาย เป็นผู้อยู่นอกพระศาสนา ย่อมไม่ได้

    แล้วพุทธกิจ๕ ที่พระพุทธองค์ พระองค์ท่านสอนเหล่าเทวดาอยู่ทุกวันๆนั้น
    พระองค์ท่านสอนใครไปบ้าง สอนอะไรเอาไว้บ้าง

    แน่นอนคำสอนเหล่านั้น ย่อมละเอียดกว่า ย่อมมากกว่า คำสอนที่พระองค์ท่านสอนมนุษย์ทั่วๆไป

    ก็เพราะว่า เหล่าเทวดา บางกลุ่มบางพวก เขาสร้างบุญบารมีมาอย่างสูง
    ทำให้พวกท่านเหล่านั้น มีอายุขัยอันยาวนานๆถึง ๖๔ มหากัป

    แล้วทำไมเราไม่ลองคิดดูบ้างว่า ถ้าเรามีอายุขัยยาวนานขนาดนั้น
    เราจะรู้ธรรม เห็นธรรม ได้มากน้อยขนาดไหน

    การที่มีผู้สอนว่า เหล่าเทวดานั้น ทำบุญสร้างกุศลเองไม่ได้
    ต้องอาศัยมนุษย์ทำบุญสร้างกุศลแผ่ไปให้จึงจะได้รับ

    แล้วเหล่าเทวดาที่ไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าพระองค์ต่างๆนั้น
    เขาจะไม่ได้บุญ ได้กุศลหรืออย่างไร
    หรือมีมนุษย์ที่ไหน ไปนิมนต์พระพุทธองค์ ให้แสดงธรรมให้เขาหรือ
    หรือพวกเขานิมนต์อัญเชิญพระพุทธองค์เองไม่ได้หรืออย่างไร

    เรื่องราวในไตรโลก ยากจะมีผู้รู้อย่างแจ่มแจ้งได้
    จึงต้องรู้ จึงต้องเห็น จึงต้องเข้าใจด้วยตนเอง

    ถ้ามัวแต่สร้างจินตนาการไปต่างๆนาๆ
    ถ้ามัวแต่รับฟังครูบาอาจารย์ที่ท่านบอกเล่า
    ขอให้พิจารนาว่า ท่านเหล่านั้นบอกเล่าสอดคล้องกันหรือไม่
    เพราะเรื่องราวความจริงใดๆ ต้องสอดคล้อง ไม่ขัดแย้งกันเอง

    ธรรมนั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่พระพุทธเจ้าในแต่ละยุคในแต่ละสมัย
    เป็นผู้รู้ธรรม เห็นธรรมอย่างแจ่มแจ้ง จึงอบรมสั่งสอนเผยแผ่ธรรมออกไป

    ถ้าท่านจะบอกว่า ธรรม กับ พระพุทธเจ้า อันไหนสูงกว่ากันจะมีประโยชน์อันใด
    ใยไม่เหมือนกับถามว่า ไก่ กับ ไข่ อันไหนเกิดก่อนกัน

    เมื่อธรรมในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ธรรมเพื่อความหลุดพ้น ป้องกันแก้ไขภัยพบัติไม่ได้
    แต่ธรรมของพุทธภูมิ ของพระโพธิ์สัตว์ ป้องกันแก้ไขภัยพิบัติได้

    ถ้าโลกถล่มขึ้นมาจริงๆ แล้วอีกสองพันกว่าปี จะสืบพระศาสนาไปในสภาพไหน
    ดังนั้น การป้องกัน การแก้ไขภัยพิบัติ จึงเป็นจุดสูงสุดที่ต้องทำ ที่จำเป็นเร่งด่วน

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา

     
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อย่าเข้าใจผิด ศึกษาให้เข้าใจ

    ขออนุญาตครับ

    อย่าเข้าใจผิด ศึกษาให้เข้าใจ

    การที่มีชาวพุทธ บางกลุ่ม เข้ามาร่วมป้องกัน แก้ไข ภัยพิบัติ
    อย่าได้มากล่าวหาเราว่า ยึดนั่น ยึดนี่เป็นสรณะ
    เราก็เหมือนเป็นชาวพุทธทั่วๆไปนี่ละครับ

    เรารู้ธรรมเป็นอย่างดี
    เราเข้าใจธรรมเป็นอย่างดี
    เรารู้ เราเข้าใจแม้ในธรรมส่วนที่เกี่ยวกับพุทธภูมิ พระโพธิ์สัตว์
    ยุคกึ่งพุทธกาล ภัยพิบัติ มหาภัยพิบัติ

    อย่าได้กล่าวหาเราว่า เรายึดนั่น ยึดนี่เป็นสรณะ ให้เป็นบาปกับตัวท่านเอง

    ด้วยเวลาที่น้อยมากๆ เราเร่งป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติ จนแทบจะไม่มีเวลาทำอย่างอื่น

    จนทำให้คนบางกลุ่มบางพวกมาโจมตีเรา

    คุณสมบัติอันสูงสุดของชาวพุทธคือ ความอดทน ปราศจากความอดทนเสียแล้ว
    ไม่อาจจะรู้ จะเห็นธรรม ใดๆได้

    ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า

    เรารู้ เราเห็น เราเข้าใจแล้วว่า

    ยุคกึ่งพุทธกาล คือ ยุคอะไร ก็คือยุคของภัยพิบัติด้านต่างๆ
    เรารู้ เราเห็นแล้วว่า พระสงฆ์ท่านไม่อาจรู้ ไม่อาจเห็น ไม่อาจป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติได้
    เราจึงออกมาร่วมป้องกัน ออกมาร่วมแก้ไขภัยพิบัติเอง

    แม้ว่าชาวพุทธส่วนใหญ่จะไม่เชื่อ จะไม่เข้าใจ นั่นเป็นเพราะบุญวาสนาบารมีของเขาเอง

    เมื่อเวลาล่วงเลยไป เมื่อเราทำงานของเราไป กาลเวลาจะเป็นตัวบ่งชี้ ความชัดเจนเรื่องราวต่างๆได้เอง

    เรารู้ เราเข้าใจ ชาวพุทธส่วนใหญ่นั้น กระทั่งธรรมเพื่อความหลุดพ้นก็ยากจะรู้ยากจะเห็น ยากจะเข้าใจได้

    แล้วธรรมที่เกินเลยจากนั้นจะเข้าใจได้อย่างไร

    แม้กระทั่งครูบาอาจารย์ ท่านก็ไม่อยากบอก ไม่อยากเล่าแล้ว

    จนท่านบอกว่า "ให้บอกไปว่า ภัยพิบัติเป็นเรื่องธรรมชาติก็แล้วกัน"

    ขอเรียนทุกๆท่านว่า เรายังยึดไตรสรณะคม อย่างเคร่งครัด

    เพียงแต่เรามุ่งป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติ เพื่อให้พระพุทธศาสนายืนยาวถาวรสืบไป

    เราไม่เหมือนชาวพุทธกลุ่มอื่นๆ ที่ดาหน้าออกมาบอกว่า
    ภัยพิบัติจะเกิดก็เกิดไป เราจะมุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นไป
    โลกจะถล่มก็ถล่มไป ที่จะตายก็ตายไป
    แล้วโลกจะอยู่อบ่างไร แล้วพระศาสนาจะอยู่อย่างไร

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
    ลุงมหา

     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    พยัฆนิล
    นิพพาน คือ อะไร อยู่ที่ไหน จะไปยังไง และทำไมต้อง นิพพาน
    ศาสนาพุทธสอนให้คนติดทุกข์จริงหรือ
    Share
    Share this post on Digg
    Del.icio.us
    Technorati
    Twitter
    | Like __________________
    "สัพเพธรรมา อนัตตาติ" จงเรียนรู้และก้าวข้ามไปอย่างเหมาะสม



    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลุงมหา๑
    ขออนุญาตครับ

    ผมไม่ได้หลงประเด็น แต่เป็นท่านที่ ภูมิรู้ ภูมิธรรมไม่ถึง

    ท่านอ่านจากธรรมกระดาษ ธรรมสัญญาความจำ
    แต่ผมเป็นธรรมแบบรู้ลงที่จิต




    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ view2004
    ผมผู้น้อยขอคำชี้แนะด้วยครับ แล้วท่านเอาอะไรมาประเมินผมว่าภูมิธรรมถึง หรือไม่ถึง ท่านลุงมหามัวแต่มองคนอื่น จนลืมมองตัวเอง ลืมมองเห็นกายในกายรึปล่าวครับ

    ท่านมองแต่เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งนอกกายที่มีความแปรปรวนไปตามเวลา ตามสภาพเป็นธรรมดา แต่ท่านไม่มองตนเองบ้างเลยเหรอครับ ว่ารู้จักตนเองมากน้อยแค่ไหน

    ท่านเคยได้อ่านพุทธวจนไหมครับ ทั้งวิกิพิเดีย อ้างไว้อย่างนี้
    วิมุตติ=นิพพาน
    วิมุตติ - วิกิพีเดีย




    ผมอ่านหัวข้อของ ท่านเจ้าของกระทู้ เข้าใจและได้อธิบายไปแล้ว อธิบายได้ พอประมาณและยังไม่ละเอียดนัก เขาถามแบบ ตามหัวข้อเขา พวกเรา ก็แถไปเรื่อย ตามแบบฉบับของเรา ใครมีความรู้แค่ไหน ก็ย่อม พูดไปแบบนั้น ตามความรู้ ที่ตนรู้มา จะว่าผิดทั้งหมด ก็ไม่ได้ ถูกทั้งหมดก็ไม่ได้ แต่ฝ่ายไหน จะถูกผิดมากน้อยกว่ากันเท่านั้นเองครับ ( ผมอ่านของลุงมหา ๑) ผมก็เข้าใจ ในแบบของลุงมหา ไม่ปฏิเสธ จุดมุ่งหมายจริงๆของพระพุทธจ้า ต้องการให้ทุกคน พ้นทุกข์คือ ไปพระนิพพาน แต่ท่านก็สอนไว้หมดแล้ว เบื้องต้น ท่ามกลาง และปลาย จะโลกุตร หรือ โลกีย์ก็ตาม มันมี ต้น กลาง ปลาย เสมอๆ


    จะรับคำสอนมาจากผู้ใด ก็ถือว่ามีครู อาจารย์ เสมอๆ แม้พระพุทธองค์ ก็ทรงหา อาจารย์ มาก่อน จนท่าน แสวงหา โมกขธรรม จุดสูงสุด เพื่อบรรลุธรรม ด้วยพระองค์เอง ไม่มีครูอาจารย์ ท่านเป็น สยมภู ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง เป็นศาสดาเองของโลก น้อง ๔ เขาก็พูด ของเขาถูกต้อง แล้ว จะเรียนหรือ ปฏิบัติ ถ้าสอนถูก ก็ไม่ผิด ถ้า สอน ผิด ที่ตัวเองได้มา ที่มารคอยพร่ำสอน มันก็ก็ผิด ใหญ่หลวงหลวง ที่น้อง ๔ พูด ถูกต้อง แล้ว คำสอนสูงสุด ของพระพุทธศาสนา นั้นคือ พระนิพพาน สอนเพื่อ ความพ้นทุกข์ นั่นเอง คุยถึงเรื่องนี้ ๓ วัน ๓ คืน มันยังไม่จบง่ายๆเลยครับ ก่อนจะไปถึง ความพ้นทุกข์ มันก็ว่ากันไป ตั้งแต่ เบื้องต้น ไปถึง ท่ามกลาง และด้าน ปลาย ถ้าพวกท่าน ศึกษา กันมาจริงๆ อ่านที่ผม พูดมาก็น่า จะเข้าใจนะครับ ผมนะไม่อยาก พูดเท่านไหร่ มันอดเสือก ไม่ได้เสียด้วย สิครับ เราเอาความรู้ มา แลกเปลี่ยน ความรู้ กันผมว่าดีครับ


    พระอรหันต์ น่ะ ที่ สัมผัสมา ท่านรู้แค่ไหน จะสอนแค่นั้น นะครับ ความรู้ ไม่เท่ากัน พระอรหันตื นะมี ๔ แบบ โปรดเข้าใจด้วย สุกขวิปัสโก เตวิโช อภิญโญ ปฏิสัภิทัพปัตโต แล้ว ๔ แบบนี้ ก็รู้ ต่างๆกันไป แต่ ปฏิสัมภิทัพปัตโต คุม ทั้งสุกขวิปัสโก เตวิชโช อภิญโญ ปัญญา กีฬาพิเศษ มีไม่เหมือนกัน แต่ตรัสกิเลส ได้เหมือนกัน เป็นพระอรหันต์เหมือนกัน พระโพธิสัตว์ น้อยใหญ่ ทั้งพระ ฆราวาส ทั้งหยิง ผู้ชาย และแม้ที่ ท่านเกิด เป็นหมา ผมก็ได้ สัมผัส ของจริงมาแล้ว โดยไม่สงสัยแล้ว ย่อมพอเข้าใจได้ พระอริย ก็หลายระดับ ไปกราบมาในประเทสไทยเกิน ๕๐พระอรค์


    หลังกึ่งพุทธกาล เป็นหน้าที่ ของพระโพธิสัตว์ ลามาช่วยประกาศ พระศาสนา ส่วนใหญ่ เมื่อลาแล้ว จะจบกิจ ในพระพุทธศาสนา ช่วยสั่งสอนเวไนยสัตว์ อนุเคราะ สงเคราะ กันไปตาม อัตภาพ และสืบพระศาสนา ท่านมีหน้าที่แค่ไหน ก็ทำแค่นั้น การสังสอน แต่ละสาย เช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านก็สอนในแบบ แบบของท่าน ที่ท่านได้มา หลวงปู่มั่น ท่านก็สอน ในแบบของท่าน และยังมี สายย่อยๆอีกเยอะแยะ สายหลวงพ่อ สังวาลย์ วัดสามัคคีธรรม จ .สุพรรณบุรี อย่างสาย หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ท่านจะเขียน ตำหรับ ตำรา คำสอน ของพระพุทธเจ้า ครบครัน ตั้งแต่ เบื้อง ต้น ถึงเบื้องปลาย หลักสูตร ต่างๆ ท่านได้ สอนไว้หมด หมวดหมู่ ต่างๆ ในแง่ไหนๆก็สอนหมด สอนแบบ ง่ายๆ เข้าใจง่าย เรียกว่า ในยุค ปัจจุบัน ไม่มีใครทำ เหมือนท่านอีก แล้ว และไม่จำเป็นเป็น ต้องไป อ่านพระไตรปิฎก อีก เพราะท่านได้ เรียนมา และปฏิบัติ หลักสูตร จนครบ ใน ด้าน กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ พระอริยเจ้า ทุกระดับ พระอรหันต์ทุกๆระดับ ได้เขียน สอนไว้ ครบครัน และท่านมาจาก พุทะภูมิ ๑๖ อสงไขยกำลัย อีก แสนมหากัป จะเป็นหลวงปู่ หลวงพ่อ ต่างๆ ที่ท่านลา เมื่อเข้าถึงธรรม จะเป็นธรรม อันเดียวกันหมด ท่านรู้แค่ไหน สอนแค่นั้น และที่รู้ มาก แบบวิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขย อีกแสนมหากัป ก็มีท่าน องค์เดียว กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ในฝ่ายพระโพธิสัตว์ ก็มีหลวงปู่ปาน ในยุคนี้ องค์เดียว ที่ได้ กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ท่านเป็นครูบาอาจารย์ พ่อลูกกันมานับชาติไม่ถ้วน จึงบอกแค่นี้ก่อนครับ แต่ละพระองค์ ทำตามหน้าที่ ของท่าน แต่ละฝ่ายไปตามอำนาจ วาสนาบารมี ที่สั่งสมมาครับ
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในส่วนนี้ต้องระวังนะครับ ธรรมที่ผุดขึ้นมานั้น เป็นสัญญาเก่า หรือ เป็นปัญญาที่เกิดจากการเห็นกิริยาของจิต ในปัจจุบัน

    ถ้าเป็นสัญญาเก่า ที่ผุดขึ้นมา สิ่งนั้นก็คือ ขันธ์

    "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    สูงสุดของการปฏิบัติธรรมคือ บรรลุธรรม
    สูงสุดของการบรรลุธรรมคือ ปล่อยวางในธรรม คือความว่าง
    ที่สุดแห่งความว่างคือ พระนิพพาน
    ที่สุดแห่งพระนิพพาน คือกลับสู่สามัญ กลับ สู่ธรรมชาติ อยู่อย่างนั้นครับ
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ครูบาอาจารย์องค์นึงเคยกล่าวไว้ว่า

    "บรรลุธรรมแล้ว กลายเป็นอะไร? บรรลุธรรมแล้ว ก็กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาหนะสิ ไม่ได้กลายเป็นผู้วิเศษ ยอดมนุษย์ ตัวประหลาดอะไร"
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    หุหุ พี่อธิบายมาตั้งเยอะบางคนอ่านแล้วเกือบแจ้งพระนิพพาน พี่ก็มาโดดลงจากธรรมมาสเอาซะดื้อๆน่าเสียดาย!!!!!!
     
  19. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    แล้วภัยพิบัติใครจะแก้กันละครับ

    ขออนุญาตครับ

    ที่ท่านกล่าวมาทั้งหมดนั้น มีท่านผู้ใดที่ออกมาบอกว่า
    ท่านจะแก้ไขภัยพิบัติบ้างไหม

    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆนั้น

    "ต้องมีฤทธิ์ ถ้าไม่มีฤทธิ์ไม่ใช่"
    "และฤทธิืนั้น ต้องใช้ได้ด้วยนะครับ รู้เห็นไม่กี่คนนั้นไม่ใช่"

    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆนั้น ท่านต้องมีญาติธรรมของท่านทั่วประเทศจำนวนมากนะครับ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"

    ขออนุญาตครับ

    ผมปฏิบัติได้แค่ไหน มีพระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุติ ท่านคอยดูแลให้อยู่แล้ว
    อย่าได้ห่วงผมเลยครับ

    ถ้าว่าตามท่าน ครูบาอาจารย์หลายๆท่านคงไม่ใช่ของจริง
    เพราะ ขนาดละขันธ์ไปแล้ว ยังมีธรรมเทศนา ออกอากาศ แทบจะครบ ๒๔ ชั่วโมง

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     

แชร์หน้านี้

Loading...